Thursday, 19 June 2025
POLITICS NEWS

'ดร.สุวินัย' เชื่อ!! หาก 'ชัยธวัช' นั่งหัวหน้า ก็เพื่อรอการกลับมาของ 'ธนาธร' เตรียมคืนชีพ 'อนาคตใหม่' ดันแก้ ม.112 เพื่อ 'ปฏิรูปสถาบัน' เต็มสูบ

(19 ก.ย.66) ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Suvinai Pornavalai' ถึงกรณีหากพรรคก้าวไกลเลือก 'ชัยธวัช ตุลาธน’ นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่า...

อันที่จริงนี่คือ การตระเตรียมคืนชีพ 'พรรคอนาคตใหม่' แบบเต็มตัวด้วยการยืนกรานผลักดันการแก้ ม.112 เพื่อ 'ปฏิรูปสถาบัน' โดยถือเป็นยุทธศาสตร์ของพรรคที่สำคัญที่สุด

การผลักดัน ชัยธวัช เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต่อจากพิธา จึงสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ก้าวไกลที่ยอมสละโอกาสเป็นรัฐบาลและพิธาเป็นนายกฯ เพราะไม่ยอมถอยการแก้ ม.112 ออกจากนโยบายหลักของพรรค

อนึ่ง ชัยธวัช คือผู้ร่วมก่อตั้งนิตยสารฟ้าเดียวกัน ร่วมกับธนาธร ชัยธวัชเป็นมือขวาของธนาธร และเป็นร่างทรงของธนาธรด้วย

ทุก move ของก้าวไกลที่ผ่านมา ล้วนอิงกับยุทธศาสตร์ล้มเจ้าของพรรคอนาคตใหม่ทั้งสิ้น

ถ้าก้าวไกลจะเอาความนิยม ควรต้องเลือกโรมเป็นหัวหน้าพรรค แต่นี่กลับเลือกชัยธวัช ที่ไร้เสน่ห์ดึงดูดสาวกสาว ๆ มันชัดเจนว่า ขัดตาทัพเพื่อรอธนาธรกลับมานำพรรคเท่านั้น

‘พิมพ์พิชชา สส.พิษณุโลก’ โพสต์แจง!! ยังสังกัดเพื่อไทย ยัน!! ไม่คิดย้ายซบก้าวไกล และไม่ได้ร่วมก๊วนดูงานสิงคโปร์

(19 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูล นายปดิพัทธิ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นำคณะพา สส.ไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ และมีข่าวใช้งบประมาณเกินจริง คาดว่า 1.3 ล้านบาทโดยปรากฏชื่อ น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ เป็น สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ร่วมคณะไปด้วยนั้น ทำให้ น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ สส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า 

“ข้อมูลข่าวบิดเบือน ไม่เป็นความจริง ข้าพเจ้ายังสังกัดพรรคเพื่อไทย และทำงานให้กับพี่น้องชาว เขต 4 เป็นปกติและไม่มีแผนการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้จึงแจ้งเพื่อทราบโดยทั่วกันค่ะ ขอบคุณค่ะ”

‘อุ๊งอิ๊ง’ อุบตอบปมนั่งหัวหน้าพรรค ย้ำ!! พร้อมทำงานเต็มที่ ชม ‘เศรษฐา’ ฟิตมาก อ้อน ปชช.ร่วมให้กำลังใจให้นายกฯ

(19 ก.ย. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่พรรคเพื่อไทยย่างเข้าสู่ปีที่ 16 ว่า วันนี้เป็นวันร่วมทำบุญพรรคเพื่อไทย แต่วันเกิดพรรคคือช่วง ก.ค. แต่ช่วงนั้นค่อนข้างยุ่ง และช่วงนี้สามารถจะจัดทำบุญได้ จึงรวบรวมคนในพรรคให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้มาทำบุญร่วมกัน

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยเดินหน้ามาถึงวันนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนคิดว่าวันนี้เราผ่านอะไรกันมามาก ตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ก่อตั้งพรรคมา โดนยุบไปแล้ว 2 รอบ และสามารถกลับมาได้ ตนคิดว่าทุกคนมีความเข้มแข็ง ทุกคนประสบความสำเร็จในแต่ละแง่มุมที่แตกต่างกัน และส่วนตัวของพรรคที่ทุกวันนี้เราสามารถมีพรรคอยู่ และคิดนโยบายทำประโยชน์เพื่อประชาชนได้ ตนถือว่าเป็นความสำเร็จขั้นหนึ่ง ส่วนกรณีที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ตนตื่นเต้นมาก ที่อยากจะเริ่มทำงาน เพราะโครงการนี้เราคิดเป็นนโยบาย ก่อนที่จะออกแคมเปญในการเลือกตั้ง ซึ่งทำการบ้านเรื่องนี้มาเป็นปี ถ้าได้ทำเมื่อไหร่เราจะทำอย่างเต็มที่ ทั้งทีมงานและที่ปรึกษามีการเตรียมกันมามากพอสมควร เมื่อมีการฟอร์มทีมเป็นที่เรียบร้อยจะเริ่มทำงานทันที หากเริ่มคิกออฟแมตช์แรกเมื่อไหร่ก็พร้อมที่จะทำงานทันที

เมื่อถามว่าจะเข้าไปทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงมีโอกาสได้เข้าไปทำงาน แต่ตนคิดว่าต้องดูที่สะดวกทั้งในส่วนของทีมงาน ซึ่งอาจจะต้องมีหลายวงประชุม และทำหลายหน้าที่ ดังนั้นสามารถทำงานได้หมด ในทุกสถานที่ที่สะดวกกับทีมงาน เพื่อให้ได้มีผลงานออกมาเร็วที่สุด

เมื่อถามถึงกรณีที่จะเข้าไปดูที่ทางตำแหน่งอื่นด้วยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวติดตลกว่า “สื่อมวลชนชอบมอบตำแหน่งให้ตนทุกครั้ง ที่ได้มีการให้สัมภาษณ์ ซึ่งขอขอบคุณ แต่ยังคงไม่มองถึงตำแหน่งอื่น และหากได้มีโอกาสเข้าไป คงรู้สึกตื่นเต้น เพราะเคยเข้าไปทำเนียบตอนเด็ก สมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ คิดว่าหากได้เข้าไปอีก จะต้องดูว่ายังคงเหมือนเดิม เหมือนภาพจำหรือไม่ เพราะตนไม่ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลนานมากแล้ว”

เมื่อถามถึงกรณีที่มีรายชื่อติดโผที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่มีความพร้อมหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่หากถามว่าพร้อมหรือไม่ ส่วนตัวทำเพื่อพรรคอย่างทุ่มเทเต็มที่ ในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และวันนี้เป็นวันเกิดพรรคครบ 16 ปี ดังนั้นความรักความผูกพันจึงพร้อมทำเพื่อพรรคอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่ก็ตาม การจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่เป็น ตนเต็มที่กับพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่าเหมือนผู้ใหญ่ในพรรคต้องการดันคนรุ่นใหม่ เข้ามาทำงานในพรรค น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนพร้อมทำเพื่อพรรคอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเสียงเชียร์สนับสนุนเป็นกำลังใจให้ตน แต่ในช่วงไทม์มิ่งต่างๆ ที่ตนเข้ามาหากเกิดผลดีกับพรรคมากที่สุด รวมถึงกับสส. และทุกคน ดังนั้น ความหมายของตนคือถ้ามีคนที่ดีกว่า และจะนำพรรคได้ดีกว่าตนก็ยอม แต่ถ้าเป็นตนหากคิดว่าดีที่สุดก็ยอมเช่นกัน ซึ่งตนเป็นคนมองที่เป้าหมาย เมื่อมีคนพูดว่าตนควรเป็นหัวหน้าพรรค ตนเต็มที่แม้ว่ามีหรือไม่มีตำแหน่งหรือไม่ก็ตาม ฉะนั้น จะไม่มีการน้อยใจ หากไม่ได้เป็นหรือได้เป็นหัวหน้าพรรค เพราะจุดยืนของเราคือทำเพื่อพรรค

เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จริงๆ ทุกคนก็คงได้วางแพลนชีวิตตัวเองไว้แล้วว่าจะทำอย่างไร ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไรทั้งในสภาฯ หรือนอกสภาฯ ก็รู้จักกันอยู่แล้ว ตนก็ขอให้กำลังใจด้วย

น.ส.แพทองธาร กล่าวถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลังในการทำงานว่า ได้มีโอกาสคุยกับนายกฯ และนายกฯ สู้มาก ซึ่งตนได้แซวนายเศรษฐาว่าเหนื่อยหรือไม่ นายกฯ ตอบว่าไม่เหนื่อย และมีงานเยอะมาก พร้อมบอกให้ฟังว่ามีอะไรบ้าง นอกจากนี้ ตนยังแซวอีกว่าฝากดูทีมงานด้วย เดี๋ยวสลบกันไปหมดแล้ว และตนยอมรับว่านายกฯ สู้ และฟิตมาก ขยันมากจริงๆ จึงอยากขอฝากพี่น้องประชาชนให้กำลังใจนายกฯ ด้วย เนื่องจากอยากทำงานให้เต็มที่ เพื่อจะให้ประเทศไทยไปถึงจุดที่ดีขึ้น

‘เศรษฐา’ โพสต์ ‘ภารกิจต่างประเทศครั้งแรกรัฐบาลใหม่’ พร้อมแสดงบทบาทใหม่ไทยที่จะเปลี่ยนไปให้โลกได้เห็น

(19 ก.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมด้วยภริยา พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน และคณะ ประกอบด้วย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ออกเดินทางด้วยสายการบินไทย เดินทางถึงสนามบินจอห์นเอฟเคเนดี นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA 78) ระหว่างวันที่ 19 - 23 ก.ย.นี้ 

นอกจากนี้ นายเศรษฐา โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย เมื่อ 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา ระบุว่า “#UNGA78 จะเป็นภารกิจต่างประเทศอย่างเป็นทางการแรกของรัฐบาลใหม่ เพื่อแสดงบทบาทใหม่ของไทยที่จะเปลี่ยนไปให้กับเวทีโลกเห็น ผมตั้งใจจะขับเคลื่อนการดำเนินการต่างๆ เพื่อบรรลุ #SDGs ความสำคัญในการยึดมั่นระบบพหุภาคี และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายและความต้องการของประชาคมโลกในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การระดมทุนเพื่อการพัฒนา และสิ่งแวดล้อมสีเขียว และด้านอื่นๆ อย่างครอบคลุม เดินหน้าเต็มที่เพื่อประสานความร่วมมือกับทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน และกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำจากนานาประเทศ เพื่อเสริมสร้างสันติภาพและความมั่งคั่ง รวมทั้งความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนสำหรับทุกคนครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภารกิจแรกจะเริ่มเวลา 11.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา) โดยเอกอัครราชทูตไทยประจำนครนิวยอร์ก จะเข้าบรีพงานให้กับนายกรัฐมนตรี และคณะ หลังจากนั้น นายกฯ มีกำหนดการเข้าร่วมประชุมระดับผู้นำว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Summit) และกล่าวถ้อยแถลงในลำดับที่ 10 ในช่วง Leaders‘Dialogue6 Mobilizing Finace and investments and the means of implementation for SDGs achievement โดยจะกล่าวถ้อยแถลง 3 นาที 

'รองประธาน สทท.' เทียบทริปดูงานสิงค์โปร์ 'หมออ๋อง' กับคณะ สว. พบ!! ราคาต่างกันลิบ และไม่มีการนั่งเครื่องบินชั้นธุรกิจ

(19 ก.ย. 66) นายสุรวัช อัครวรมาศ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Surawat Akaraworamat’ ข้อความว่า…

ระเบียบดูงานที่ต้องทำความเข้าใจ เมื่อ 18 กย.ปีที่ผ่านมา ผมได้พาคณะของกรรมาธิการท่องเที่ยวของวุฒิสภา ไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ (ดูจริง) นำโดย ปธ.กมธ งบประมาณต่อคณะท่านละ สามหมื่นบาท รวมภาษี VAT ไม่ผิดครับ 30,000 บาท 2 คืน ดูงานไปวันอาทิตย์กลับคืนอังคาร ประมาณ 12 ท่าน #ท่าน สว.ไม่ได้นั่งชั้นธุรกิจ ขอให้ข้อมูลเพิ่มจากข่าวที่ต้องใช้เงินหนึ่งล้านสามแสนกว่า กับจำนวนคนที่ใกล้เคียงกัน ภาษี…กู ระเบียบในการนั่งเครื่องต้องใช้ การบินไทย เว้นแต่ สามารถพิสูจน์ได้ว่าสายการบินอื่นมีราคาถูกว่าการบินไทย 25% เท่ากับใช้ได้ครับ

‘เศรษฐา’ เผย ‘ลุงตู่’ เคยเตือนเรื่องการนอนที่สภาฯ ระวังคนมองว่า ‘สร้างภาพ’

เมื่อวันที่ 18 ก.ย.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ได้ให้สัมภาษณ์ในงาน Thairath Forum 2023 | Future Perfect โดยให้ความเห็นเมื่อถูกถามเกี่ยวกับกรณีจะไปนอนทำเนียบรัฐบาลจริงหรือไม่? ว่า...

เป็นความจริง เพราะบ้านที่นายกฯ อยู่มีพื้นที่ 197 ตารางวา ซึ่งจะเล็กมากทันที หากต้องมีตำรวจเข้าออกเพื่อดูแล จึงคิดว่าเพื่อนบ้านจะเดือดร้อนแน่ ๆ อีกทั้งต้องเดินทางเยอะด้วย ดังนั้นตนจึงไม่อยากเป็นภาระกับตำรวจกับหน่วยรักษาความปลอดภัยด้วย แต่คงต้องเป็นภาระให้กับฝ่ายเลขาฯ 

"หากตื่นมาแล้ว ถ้ากิน Breakfast (อาหารเช้า) ตอน 06.30 น. ก็ต้องมีคนมาสั่งงานได้แล้ว 06.30 น. แล้วก็ไปอาบน้ำต่อ ขอเป็นภาระกับเลขา 4-5 คน และถ้าหากมีภารกิจตอนค่ำ ก็สามารถสั่งงานใคร ก่อนนอนได้อีกหนหนึ่ง"

นายกฯ กล่าวอีกว่า ตนยืนยันว่าจะพยายามเต็มที่ เพราะเทหมดหน้าตัก ต้องทำงานกันหนักจริงๆ แต่ก็เข้าใจว่าแต่ละคนมีขีดที่รับงานได้ต่างกันไป คนไหนรับได้ก็รับ คนไหนรับไม่ได้ก็เวียนกันมาทำงานกัน เพราะเข้าใจว่าบางคนบ้านอยู่ฝั่งธนฯ บ้านอยู่สุขุมวิท เดินทางต่างกันไป ไม่มีปัญหา บอกกันได้ ว่าไหวไม่ไหว แต่พยายามเต็มที่

เมื่อถามว่าไปนอนจริงจังหรือไม่? นายกฯ กล่าวว่า "ก็คง 3-4 วันต่ออาทิตย์"

นายกฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “ผมได้บอกท่านนายกฯ ประยุทธ์ไปในวันที่พบท่าน ท่านก็บอกว่า ระวังนะคนหาว่าสร้างภาพ ผมก็พยักหน้า รับทราบ ก็เข้าใจครับ ก็เข้าใจในความหวังดี ในการเตือน มันโดนแน่นอน”

'พี่ดี้' โพสต์แรง "จะกวนตีนประเทศก็ได้" "แต่อย่าใช้เงินทองของชาวบ้านแบบนี้"

(19 ก.ย. 66) ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Nitipong Honark’ ระบุว่า…

ท่านประธานที่เคารพ…

(หรือหมายถึงรองประธานที่ทำหน้าที่ประธานก็ได้)
ด้วยความเคารพนะครับ…

(วลี ‘ด้วยความเคารพนะครับ’..คือโปรดเตรียมรับความเคารพหนัก ๆ )
ไม่มีอะไรที่เข้าใจได้เลยว่า ทำไมจะต้องไปดูงานอะไรแบบนี้…ที่สิงคโปร์…
คือน้องจะกวนตีนประเทศก็ได้…แต่อย่าใช้เงินทองของชาวบ้านแบบนี้…
ไม่ชอบนักการเมืองรุ่นเก่าที่ทำแบบนี้…ไม่ชอบข้าราชการสติเก่าที่ทำแบบนี้….

พี่ก็ไม่ชอบว่ะ….
ไม่อยากให้ราคาน้องเลย…แต่น้องเสือกมามีตำแหน่งบ้าบอนี่…
เอาเหอะ…พูดไปก็เท่านั้น….ด้วยความเคารพ…

‘สส.ปทุม ก้าวไกล’ ค้านโครงการรถไฟความเร็วสูงผ่าอยุธยา อ้าง!! จะถูกถอด ‘มรดกโลก’ เจอชาวเน็ตแห่ถล่มยับ!!

(18 ก.ย. 66) เฟซบุ๊ก ‘เชตวัน เตือประโคน - Chetawan Thuaprakhon’ ของนายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี เขต 6 พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า "ประชาชนคนไทยต่างลุ้นกันกรณี “ศรีเทพ” จะได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก แต่ “อยุธยา” ที่เป็นอยู่แล้ว กำลังจะถูก “ถอด” เพราะรถไฟความเร็วสูงผ่ากลางเมือง #ก้าวไกล #มรดกโลก #อโยธยา"

ปรากฏว่าทัวร์ลงมายัง สส.คนดังกล่าว โดยมีความคิดเห็น เช่น

- คนอยุธยาอยากได้ความเจริญมากกว่าค่ะ
- ถ่วงความเจริญครับ
- ความรู้สั้น ความมั่นสูง
- คนอยุธยามีสิทธิ์ไหมคะ
- ก่อนแสดงความเห็นควรหาความจริงและควรมีความรู้
- อยุธยาได้เป็นมรดกโลก และมีการคมนาคมที่ทันสมัยควบคู่กันไป คนไทยและชาวต่างชาติก็จะยิ่งมาเที่ยวอยุธยามากขึ้นค่ะ

- ว่างงานและมาถ่วงความเจริญหรือครับ
- อย่างนี้เกียวโตโดนถอดไปนานแล้วปะครับ

สำหรับประเด็นดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการรถไฟแห่งประเทศไทยกำลังดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา โดยหนึ่งในนั้นคือสถานีอยุธยา แต่กรมศิลปากรออกมาคัดค้านเพราะเกรงว่าจะกระทบต่อโบราณสถาน และมรดกโลก และขอให้การรถไฟฯ ทำการศึกษาผลกระทบต่อมรดกโลกทางวัฒนธรรม หรือ Heritage Impact Assessment (HIA) ทำให้โครงการในสัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กิโลเมตร หยุดชะงัก การรถไฟฯ ได้จ้างที่ปรึกษามาทำการศึกษาผลกระทบ เพื่อหารูปแบบ และป้องกันผลกระทบในทุกด้านกับการก่อสร้าง ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการ

อีกด้านหนึ่ง นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.อยุธยา เขต 1 พรรคก้าวไกล ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการดังกล่าว อ้างว่าที่ตั้งสถานีผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรมต่อแหล่งมรดกโลกเมืองเก่าอโยธยา พร้อมเตรียมยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ขอเสนอญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรมต่อแหล่งมรดกโลกเมืองเก่าอโยธยาจากโครงการรถไฟความเร็วสูง สถานีอยุธยา ขณะเดียวกัน นายทวีวงศ์ยังมีการขอพบ นายสุจิตต์ วงษ์เทศ นักเขียนเรื่องราวประวัติศาสตร์ในเครือมติชน เพื่อหารืออีกทางหนึ่งด้วย

ขณะเดียวกัน ได้มีการก่อตั้งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘SAVE อโยธยา’ นำโดย นายภาณุพงศ์ ชลสวัสดิ์ นักศึกษาคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อรณรงค์ปกป้องเมืองอโยธยา และได้จัดเสวนาหัวข้อ ‘รื้อ-ทำลายความทรงจำมรดกวัฒนธรรมอโยธยา’ โดยมีนายธรรดร กุลเกลี้ยง นักศึกษาปริญญาโท คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มราษฎร โดยวิจารณ์โครงการสถานีรถไฟอยุธยา อ้างถึงโรงภาพยนตร์สกาลา และศาลเจ้าแม่ทับทิม รวมทั้งยังโยงแง่มุมของทุนนิยมกับการอนุรักษ์ และ น.ส.ภัสราวดีเห็นว่าสร้างอ้อมออกไปใช้งบประมาณ 18,000 ล้านบาท ยังน้อยกว่างบประมาณของกองทัพที่มีกว่า 200,000 ล้านบาทอีกด้วย

'พงศ์พล' สวน!! 'รองอ๋อง' อย่าอ้างระเบียบทำให้จองตั๋วโลว์คอสไม่ได้ ชี้!! ‘การบินไทย’ ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจแล้ว ระเบียบดังกล่าวไม่เข้าข่าย

(18 ก.ย.66) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษก พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณี 'หมออ๋อง' บินหรูทัวร์สิงคโปร์ ว่า...

อย่าอ้างการบินไทย..ท่านรองจองตั๋วโลว์คอสได้ ทำไมไม่ทำ? ✈️

จากประเด็นรองประธานสภา และคณะสส. เตรียมใช้เงินรัฐ ดูงานหรู ณ ประเทศสิงคโปร์.. จัดตั๋วเครื่องบินราคา 51,250บาท, ค่าโรงแรมคืนละ 1.25หมื่น และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการดูงานครั้งนี้ ที่แพงหูฉี่เกินมาตรฐาน มูลค่าล้านกว่าบาท

รองประธานฯดังกล่าว ให้เหตุผลกับสังคม ใจจริงต้องการเดินทางด้วยตั๋วสายการบินLow Cost ราคาถูก แต่จองไม่ได้ เพราะติดระเบียบ ต้องเดินทางด้วยสายการบินแห่งชาติ เท่านั้น

เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง

หลังศึกษาระเบียบวาระสภา และปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐวิสาหกิจมาดีแล้ว

⬛ วันนี้ ‘การบินไทย’ ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจแล้ว หลังเข้าการฟื้นฟูกิจการ เมื่อไม่ใช่รัฐวิสาหกิจแล้ว ดังนั้นข้อผูกพันตามระเบียบของรัฐแล้วก็จะหยุดไปไม่เกิดขึ้น จึงหลุดสถานะ 'สายการบินแห่งชาติ' โดยนิตินัย 

ระเบียบดังกล่าวนี้ จึงไม่สามารถบังคับให้บุคลากรซื้อเฉพาะตั๋วการบินไทยได้..

⬛ คอนเฟิร์มว่า คณะรองประธานฯ สามารถจองเที่ยวบิน low cost ราคาถูก เดินทางได้อย่างแน่นอน ..คำถามคือทำไม่ไม่ทำ?

ส่วนคนมองว่า ‘การบินไทย’ ยังคงเป็นสายการบินแห่งชาติ นั้นเป็นเพียง Perception ภาพจำของคนไทย ในเชิงพฤตินัยเท่านั้นเอง

‘อี้’ จี้สำนึก ‘หมออ๋อง’ ผลาญภาษีพาพวกบินหรู   สงสัย!! หรือจะเป็นเทคนิค ‘ก้าวไกล’ ขับพ้นพรรค  

(18 ก.ย. 66) ดร​.แทนคุณ​ จิตต์​อิสระ​ รักษา​การ​ประธาน​คณะกรรมการ​ส่งเสริม​สิทธิ​มนุษยชน​และ​ความ​เสมอภาค​ระหว่าง​เพศ​พรรค​ประชา​ธ​ิ​ปัตย์ ​กล่าว​ถึง​กรณี​นาย​ปดิพัทธ์​ สันติ​ภาดา​ รอง​ประ​ธา​นสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้เดินทางไปดูงานที่สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมี สส.พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยและคณะรวม 12 คนติดตามไปด้วย ในช่วงระหว่างวันที่ 21-25 ก.ย.66 โดยศึกษาดูงานด้านระบบสารสนเทศการประชุมของรัฐสภาแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์, การบริหารจัดการแรงงานของคนไทยในสาธารณรัฐสิงคโปร์ และการจัดการทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดย นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้อนุมัติการเดินทางเมื่อวันที่ 12 ก.ย.66 และเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติงบประมาณเป็นเงินจำนวน 1,379,250 บาท

แบ่งเป็น...ค่าใช้จ่ายในการเดินทางการและระบุงบประมาณอื่นที่เบิกจ่ายสำหรับ สส. 1 คน ๆ อยู่ที่คนละ 114,650 บาท แบ่งเป็น ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับ 51,250 บาท, ค่าเบี้ยเลี้ยง 4 วัน ๆ ละ 3,100 บาท รวม 12,400 บาท, ค่าที่พัก (พักเดี่ยว) 4 คืน ๆ ละ 12,500 บาท รวม 50,000 บาท และค่าจัดทำหนังสือเดินทาง 1,000 บาท ส่วนของนายปดิพัทธ์ มียอดค่า​ใช้​จ่ายรวม 494,650 บาท โดยได้สิทธิ์ค่าตั๋วเครื่องบิน, ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าที่พัก เท่ากับ สส.คนอื่น แต่มียอดเพิ่มเติมในส่วนของค่ารับรอง 200,000 บาท ค่ายานพหนะ 150,000 บาท และค่าของที่ระลึก 30,000 บาท อยู่ในรายการของนายปดิพัทธ์

สังคมตั้งคำถามว่าสภาจำเป็นไหมที่จะต้องไปดูงานในช่วงเวลานี้ เป็น​ภารกิจที่คุ้มค่​าภาษี​ประชาชน​หรือไม่ โดย​ถือว่าเป็​นการผลาญงบประมาณแผ่นดินในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่จะสิ้นปีงบประมาณ​ (30 กันยายน​) โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็น​การ​ตั้งเรื่องอนุมัติอย่างเร่งรีบไม่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการแผนและงบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร​อยากตั้งคำถามว่า ‘คนจนมีสิทธิ์​ไหมครับ’ กับการที่ผู้แทนพาพรรคพวกตัวเอง บินหรูอยู่​สบาย ด้วยภาษีจากน้ำตาประชาชน​ ที่ทำงานหนักหาเงินด้วยความทุกข์ยาก​แสนสาหัส โดยตนจะคอยติดตามผลลัพธ์​ของการไปดูงานเช่นเดียวกับ​การใช้งบประมาณ​ของรัฐบาล​ด้วย

นอกจากนี้​พี่น้อง​ประชาชน​ตั้งข้อสังเกตไว้หรืออาจจะเพราะ​ต้องเตรียมลาออกเพื่อย้ายไปพรรคอื่นที่ ‘เตี๊ยม’ กันไว้ระหว่าง  2 พรรคคือ ให้ก้าวไกลใช้เทคนิคขับหมออ๋องไปอยู่พรรคเล็กพรรคหนึ่ง เพื่อสามารถดำรงตำแหน่ง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรได้และก้าวไกล​สามารถได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านได้ เป็น​จริงหรือไม่ อาจเข้าข่ายฮั้วกันหรือไม่ต้องติดตามต่อ เชื่อว่างานนี่จบไม่สวยแน่นอน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top