Thursday, 19 June 2025
POLITICS NEWS

กรรมการสภาองค์กรผู้บริโภค ซัด!! การตัดสิทธิการเมืองขัด รธน. ชี้!! เพราะ รธน.เล็กกว่าพระราชบัญญัติ ประเทศจึงเละแบบนี้

(21 ก.ย. 66) นายกมล กมลตระกูล กรรมการนโยบายสภาองค์กรของผู้บริโภค โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า การตัดสิทธิทางการเมืองขัดกับรัฐธรรมนูญ!

ถ้าเป็นที่อเมริกา ซึ่งมีระบบกฎหมายที่เข้มแข็ง เป็นธรรมและยึดหลักนิติธรรม คณะศาลฎีกาจะเป็นผู้ตัดสินว่ากฎหมายหรือคำตัดสินของศาลในคดีใดคดีหนึ่งขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่

กรณีการตัดสิทธิทางการเมืองของของคุณช่อ (พรรณิการ์) คุณธนาธร คุณปิยบุตร และนักการเมืองอื่นอีกหลายคนที่ผ่านมานั้นขัดกับหลักการพื้นฐานเรื่องการรับรองสิทธิ เสรีภาพ และ สิทธิส่วนบุคคลที่รัฐธรรมนูญค้ำประกันไว้ ดังนั้น จึงต้องเป็นโมฆะ (เมื่อบ้านเมืองมีหลักนิติธรรม และระบอบประชาธิปไตยสมบูรณ์)

อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญไทยเขียนไว้เป็นเรื่องตลกสำหรับชาวโลกและนักกฎหมายทั่วโลก คือ รับรอง หรือกำหนดเรื่องต่าง ๆ แต่ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ

กลายเป็นว่า รัฐธรรมนูญเล็กกว่า หรือมีอำนาจน้อยกว่า พ.ร.บ. คำถามที่เกิดขึ้น คือ แล้วจะมีรัฐธรรมนูญไว้เพื่ออะไร? ทุกเรื่องถึงเละตุ้มเป๊ะในทุกวันนี้ มีศรีธนญชัย และนักร้องเต็มไปหมด

‘เศรษฐา’ ยันไม่มีความคิดปลด ‘ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ’ ย้ำชัด ให้ความเคารพซึ่งกันและกัน

เมื่อวานนี้ (20 ก.ย. 66) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณีมีข่าวจะปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ว่า เป็นเรื่องที่น่าตลกมาก ตนไม่เคยมีความคิดและคราวนี้ไม่แน่ใจว่ามีข่าวมาได้อย่างไร ตนเคยได้เจอผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย 3 ครั้ง ตั้งแต่ตนเข้ามาทำงานการเมือง ก่อนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าฯ ได้เข้าไปที่พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือถึงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ได้ให้ข้อเสนอแนะ ตนก็น้อมรับมาปฏิบัติ และได้เจอกันที่กระทรวงการคลังในวันที่มอบนโยบาย คือทุกคนไปพูดว่านายกรัฐมนตรีไม่มีสิทธิที่จะไปไล่ผู้ว่าฯ ธปท.

“บางคนไปพูดว่านายกรัฐมนตรี ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปไล่ ผมนี่ความคิดยังไม่มีเลยครับ อย่าว่าแต่สิทธิ์เลยครับ ความคิดยังไม่มีเลย ผมว่าเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับผมและผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ เราไม่เคยมีเรื่องอะไรมาก่อน ผมให้ความเคารพ ให้เกียรติ ต่างคนต่างเคารพซึ่งกันและกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำ

‘นายกฯ เศรษฐา’ หารือประธาน FIFA สานต่อความร่วมมือด้านกีฬา พร้อมย้ำ!! ‘ไทย-อาเซียน’ ดีพอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2034

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 66  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อนุญาตให้นายจีอันนี อินฟันติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เข้าเยี่ยมคารวะ ในห้วงการประชุม UNGA78 เพื่อหารือแนวทางขยายความร่วมมือด้านกีฬาระหว่างไทยและอาเซียนกับ FIFA โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงสาระสำคัญจากการหารือ ดังนี้

ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไทย-อาเซียน-ฟีฟ่าในอนาคต โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพ และมีพัฒนาการด้านฟุตบอลต่อเนื่อง พร้อมขอบคุณ FIFA สำหรับความร่วมมือในการสนับสนุนให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้กีฬาฟุตบอลขั้นพื้นฐาน (Grassroots)

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้ FIFA ขยายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพด้านฟุตบอล พร้อมย้ำว่าอาเซียนมีความพร้อมและจะมุ่งพัฒนาศักยภาพต่อไปเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกร่วมกันของอาเซียน ปี 2577 (ค.ศ. 2034)

ประธาน FIFA เห็นพ้องที่จะสานต่อความร่วมมือระหว่าง ‘ไทย-อาเซียน-ฟีฟ่า’ เพื่อขยายโอกาสและทำให้ฟุตบอลเป็นกีฬาสำหรับทุกคน พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสามัญของ FIFA สมัยที่ 74 (74th FIFA Congress) ช่วงเดือนพฤษภาคมปีหน้า ซึ่งจะจัดขึ้นภายใต้การเป็นเจ้าภาพของไทย ในฐานะประเทศแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 211 ประเทศทั่วโลก

‘ปิยบุตร’ จวก ‘ก้าวไกล’ เมินเฉย ‘ช่อ’ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ลั่น!! ถ้าพรรคไม่แถลง เดี๋ยวไลฟ์อรรถาธิบายหมดเปลือกเอง

(21 ก.ย. 66) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กกรณีที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ และโฆษกคณะก้าวหน้าถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดไป ว่า

ผมทราบข่าวกรณีคุณช่อ พรรณิการ์ วานิช ตั้งแต่บ่ายสามแล้ว แต่จงใจยังไม่แสดงความเห็นใด ๆ เพราะ อยากรอดูว่าพรรคก้าวไกลจะมีการสื่อสารแบบเป็นทางการออกมาบ้างหรือไม่ แต่จนถึงตอนนี้ ไม่มีเลย พบเห็นแค่มี ส.ส.บางคนแสดงความไม่เห็นด้วยอยู่บ้าง แต่ไม่มีการแถลงหรือวิจารณ์ใด ๆ ออกจากพรรคก้าวไกลแม้แต่น้อย

อย่าใช้เหตุผลนะครับว่า คุณช่อไม่ใช่สมาชิกพรรคก้าวไกล นั่นคนละเรื่องเลย พรรคการเมืองสามารถแสดงความเห็นได้อยู่แล้ว ยังไม่นับว่าคุณช่อเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้พรรคก้าวไกลด้วย ในขณะที่ ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล และผู้สนับสนุนพรรคอื่น ยังแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวาง แต่พรรคก้าวไกลกลับ ‘เงียบกริบ’

เงียบจนผมรู้สึกว่า ‘ไร้น้ำใจ’ กับพรรณิการ์ วานิช จนเกินไป

ในเมื่อพรรคก้าวไกลไม่พูดอะไรเลย ก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมแถลงวิจารณ์คดีนี้เอง วันสองวันนี้ ผมจะไลฟ์ อรรถาธิบายทั้งหมดครับ

ระหว่างนี้ อ่านข้อเขียนที่ผมเคยวิจารณ์สมัยที่คุณปารีณา ไกรคุปต์ ถูกศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต ไปพลางก่อนได้ครับ

จากนั้น นายปิยบุตร ได้เขียนข้อความเพิ่มเติมในช่องแสดงความคิดเห็น ว่า สำหรับท่านที่เห็นว่า ต้องให้เวลา คนของพรรคเสียหน่อย แต่ทำไมเรื่องอื่น พรรคตอบโต้ได้เร็วล่ะครับ

ยังไม่ต้องถึงขนาดวิจารณ์แบบวิชาการลงละเอียดก็ได้ ขอแค่แสดงจุดยืนก็ยังดี 

มีแต่ สส. บางคนแสดงความเห็นกันเอง แล้วก็สะเปะสปะ ไม่มีทิศทางด้วย

พรรคก้าวไกลได้โอกาส ‘ฮันนีมูน’ จากผู้สนับสนุน พร้อมจะแก้ต่างและเข้าใจไปเสียทั้งหมดได้ แต่ต่อไปช่วงเวลา ‘ฮันนีมูน’ จะค่อย ๆ หมดลง

พรรคก็ควรคิดจริงจังเรื่องเหล่านี้ได้แล้ว

สำหรับผม ถ้าพรรคไม่พร้อม ไม่มีคนโต้ศาลได้ อย่างน้อยแสดงจุดยืนบ้างก็ยังดี

ในเมื่อพรรคก้าวไกลมีจุดยืนเรื่องทำรัฐธรรมนูญใหม่ เรื่องโต้แย้งความผิดปกติของรัฐธรรมนูญ 60 แต่พอเกิดเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก กลับเงียบกริบ

'ชาดา' ยินดีช่วย 'ศุภมาส' แก้ปัญหา 'รับน้องโหด-เด็กช่างตีกัน' ลั่น!! พร้อมลุย เปลี่ยนทัศนคติ วัยรุ่นอยากหล่อในทางที่ผิด

(20 ก.ย.66) ที่รัฐสภา นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เตรียมประสานขอให้ช่วยแก้ปัญหารับน้องโหดในมหาวิทยาลัย และปัญหานักเรียนอาชีวะตีกัน ว่า...

ต้องรอทาง รมว.อุดมศึกษาฯ ประสานมา ตนยินดีที่จะไปช่วยเต็มที่ เรื่องไปหาวัยรุ่นตนชอบอยู่แล้ว เพราะคุยภาษาเดียวกัน สมัยยุค 14 ตุลา 16 ตนก็เป็นเด็กขึ้นมาเรียนกรุงเทพฯ ก็เคยตีกับเขาเหมือนกัน เราก็รู้ก็เข้าใจเด็ก บางทีเด็กอยากหล่อ แต่หล่อในทางที่ผิด ก็ต้องไปพูดคุยทำความเข้าใจว่ามันมีวิธีการหล่อๆ ที่ดีๆ อีกมากมาย 

"เราก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน ไม่ใช่ว่าตอนที่เราเป็นวัยรุ่นเราทำ พออายุมากไม่ใช่มาห้ามเขา เหมือนไปห้ามตัวเองตอนเป็นวัยรุ่น" นายชาดา กล่าว

‘ดีอีเอส’ เตือน หยุดปล่อยข่าวปลอม ‘นายกฯ’ ไฟเขียวตั้ง ‘กาสิโน-เปิดเว็บพนัน’ หวังดึงภาษีเข้ารัฐบาล 30% เพื่อสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้เข้าประเทศ

(20 ก.ย. 66) นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะโฆษกกระทรวงดีอี กล่าวถึงการส่งต่อข้อมูลในประเด็น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมแผนอนุมัติบ่อนคาสิโนเว็บพนันถูกกฎหมาย เสียภาษีให้รัฐบาล 30% เพื่อสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้เข้าประเทศนั้น ว่าดีอีโดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไปยังกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นข้อมูลเท็จ ปัจจุบันรัฐบาลยังไม่ได้มีการเตรียมแผนอนุมัติ หรือการดำเนินนโยบายเปิดบ่อนกาสิโน หรือเว็บพนันถูกกฎหมาย เสียภาษี 30% ตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด

นายเวทางค์กล่าวต่อว่า หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter และช่องทางโทรศัพท์ โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง

ชินวัตรว้าวุ่น!! พ่อลุ้นพักโทษไม่เกิน ก.พ.67 ฟากลูกสาวทุ่มหมดหน้าตักจัดซอฟต์พาวเวอร์

22 ก.ย.นี้ จะครบรอบ 30 วัน ที่ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษเด็ดขาดชาย ถูกคุมขังอยู่ที่ห้องสูท ชั้น 14  รพ.ตำรวจ และมีแนวโน้มสูงยิ่งว่าจะได้รับการพิจารณาอนุมัติให้นอนรักษาตัวต่อที่เดิม เหตุเพราะเมื่อวันสองวันก่อน อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวและคุณหมอใหญ่ของ รพ.ตำรวจ ออกมาบอกตรงกันว่า...ทักษิณเพิ่งฟื้นฟูจากการผ่าตัด

ส่วนจะเป็นการผ่าตัดเล็ก ผ่าตัดใหญ่ หรือ ผ่าตัดสิว ผ่าตัดเล็บคุด ก็เกินที่จะคาดเดา เพราะไม่มีการแถลง...

วันที่ 24 ก.ย.นี้ กลุ่ม คปท.หรือ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนเพื่อการปฏิรูป ของ 'ทนายนกเขา' จะสวมรองเท้าผ้าใบพร้อมปากกาแห่กันไปลงนามเยี่ยมไข้ทักษิณกันให้อึกทึกครึกโครม...โทษฐานที่ดูเหมือนว่าหน่วยงานของรัฐจะเลือกปฏิบัติกันแบบเห็นๆ ไม่นำพาความรู้สึกประชาชน...

มีบรรดาแฟนนานุแฟนถามไถ่ 'เล็ก เลียบด่วน' ว่าเอาเข้าจริง...ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้รับพระมหากรุณาพระราชทานอภัยลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี  จะได้ออกจากคุกไม่ว่าเป็นการพักโทษหรืออภัยโทษเมื่อไหร่กันแน่...

ก็ต้องอธิบาย ข้อกฎหมาย-ระเบียบ อันเป็นกฏกติกามารยาทว่า...

#กรณีพักโทษ...ซึ่งมีสองกรณีคือ กรณีปกติ กับ กรณีพิเศษ ทักษิณก็คงใช้กรณีพิเศษ คือ อายุมากกว่า 70 ปี อย่างไรก็ตามตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ระบุว่า จะต้องติดคุกมาไม่น้อยกว่า 6 เดือนขึ้นไปหรือ 1 ใน 3 แล้ว…แต่อย่างไหนมากกว่ากัน กรณีทักษิณติดคุกมาตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. ครบ 1 ใน 3 คือเดือน ธ.ค.แต่ไม่ถึง 6 เดือน…โดยกรณีทักษิณจะครบ 6 เดือน วันที่ 22 ก.พ.2567

#กรณีพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไปในวาระต่างๆ กำหนดว่าต้องติดคุกมาแล้ว 1 ใน3  กรณีทักษิณหากมีพระราชทานอภัยโทษทั่วไปในวันที่ 5 ธ.ค. ทักษิณก็ไม่เข้าข่ายติดคุกมาแล้ว 1 ใน 3 อยู่ดี...ไม่ได้สิทธิ์!!

สรุปว่า ถ้าเดินตามสองกรณีนี้เป๊ะ...อย่างเก่งเดือนก.พ.ทักษิณ จึงจะออกจากคุก ได้รับอิสรภาพจริงๆ

แต่ก็นั่นแหละ...เชื่อกันว่า ยังมีกฎข้อระเบียบให้คนอย่างทักษิณรอดออกมาได้เร็วกว่า ก.พ.2567 อย่างแน่นอน...โดยเฉพาะการคุมตัวให้อยู่ที่บ้าน

กฎกติกาพวกนี้...กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ควรจะได้แจกแจงเรื่องพวกนี้ให้สังคมกระจ่างแจ้ง

'เล็ก เลียบด่วน' แว่วมาว่าวันจันทร์ที่ 25 ก.ย.กรรมาธิการสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชนและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่มี สว.สมชาย แสวงการ เป็นประธานจะเชิญกรมกองต่างๆ รวมทั้งรพ.ตำรวจแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบไปชี้แจงซักถาม...

ก็เลยขอชูจั๊กกะแร้เชียร์ มา ณ โอกาสนี้

จบจากเรื่องคุณพ่อ ก็ต้องไปที่เรื่องคุณลูกสาว...อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ... 'เล็ก เลียบด่วน' ไม่กล้าฟันธงว่าเธอจะรับบทหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนต่อไปหรือไม่?

แต่ฟันธงได้อย่างเดียว ว่าเธอจะทุ่มหมดหน้าตักกับภารกิจในฐานะรองประธานคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งจะมีการประชุมใหญ่ครั้งแรกวันที่ 3 ต.ค. และในวันดังกล่าว เธอก็น่าจะผงาดนั่งเก้าอี้ประธานบอร์ดบริหาร...ที่จะตั้งขึ้นมา

นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ของพรรคเพื่อไทย คือ หัวใจของ 'อุ๊งอิ๊ง' โดยพรรคเพื่อไทยเตรียมทำกฎหมายรองรับองค์กรซอฟต์พาวเวอร์นี้ ใหญ่และมั่นคงกว่าองค์การมหาชน แต่ไม่ใช่หน่วยงานหรือกรมกองของกระทรวง...

ใหญ่ไม่ใหญ่แค่ไหนไม่มีใครรู้...รู้แต่ว่า...จะเป็นหน่วยงาน ที่จะสร้างหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงที่เป็นกระดานหกส่งให้ 'อุ๊งอิ๊ง' เป็นนายกรัฐมนตรีได้เลยทีเดียว

แต่ทั้งนี้มีข้อแม้ว่าเลือกตั้งรอบหน้า จะต้องไม่แพ้พรรคก้าวไกล...ที่วันสองวันนี้พวกเขากำลังยกเครื่องใหญ่...ปิดฉากยุคลิเก ยุคนายกฯ แห่...เข้าสู่โหมดชิงบ้านชิงเมืองกันจริงๆ...

อุ๊งอิ๊ง...สู้ๆ !!
สวัสดี !!

‘โบว์ ณัฏฐา’ ถามบางพรรค “คุณกำลังสร้างสังคมแบบไหนขึ้นมา?” ในวันที่บทลงโทษกฎหมายหมิ่น แทบป้องผู้ถูกละเมิดไม่ได้เลย

(20 ก.ย. 66) น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ ‘โบว์’ พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าว และนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Bow Nuttaa Mahattana’ ระบุว่า…

“กฎหมายดูหมิ่น-หมิ่นประมาท สำคัญนะคะ

โทษที่กำหนดไว้ ต่ำมากแล้ว และส่วนใหญ่รอลงอาญา แทบไม่สามารถปกป้องผู้ถูกละเมิดได้เลย ใช้กฎหมายจัดการ และอย่าพยายามทำลายกฎหมาย เพื่อให้คนในสังคมไม่ต้องไปเลือกศาลเตี้ย คือหาวิธีจัดการกันเอง

ส่วนตัวยืนยันอย่างหนักแน่นมาตลอด ว่าเราต้องเห็นความสำคัญของกฎหมายที่ใช้ปกป้องผู้ถูกละเมิด และเราต้องช่วยกันสร้างวัฒนธรรม ไม่ยอมรับการละเมิด ไม่เอาคำว่า “เสรีภาพในการพูด” มาให้ท้ายการคุกคาม

การหมิ่นประมาท ฆ่าคนได้ค่ะ

สิทธิในการละเมิดผู้อื่น ไม่มี

หวังว่า พรรคการเมืองที่เคยเสนอให้นำกฎหมายหมิ่นประมาทออกจากประมวลกฎหมายอาญา ลดโทษให้เหลือแค่ปรับ น่าจะได้ทบทวนและมองเห็นอย่างชัดเจนในวันนี้… ว่าคุณกำลังสร้างสังคมแบบไหนขึ้นมา”

‘ศาลฎีกา’ ฟัน!! ‘ช่อ’ โพสต์หมิ่นสถาบันฯ ผิดจริยธรรมร้ายแรง สั่งถอนสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้ง-ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง

(20 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกา สนามหลวง นัดฟังคำพิพากษา คดี คมจ. 1/2565 ที่ ป.ป.ช. เป็นผู้ร้อง ยื่นขอให้วินิจฉัย กรณีกล่าวหา น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม โพสต์ข้อความพาดพิงสถาบันฯ

ศาลมีคำพิพากษาว่า น.ส.พรรณิการ์ ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงตามกฎหมาย ให้ถอนสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้งตลอดไป ไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนคำขออื่นให้ยก

ทั้งนี้สืบเนื่องเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ น.ส.พรรณิการ์ กรณีโพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊กที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจเชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควร อันเป็นพฤติการณ์หรือการกระทำที่ส่อไปในทางขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และ น.ส.พรรณิการ์ เป็น สส. ได้รับโปรดเกล้าฯ และได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนก็ได้ระบุว่า จะปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

ต่อมาวันที่ 28 ก.พ. 2565 ที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ชี้มูล น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ผิดจริยธรรมร้ายแรง ตามมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ที่บังคับใช้กับ สส. กรณีโพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊กที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไปใน

‘ฮิวแมนไรท์ฯ’ โดดป้อง ‘ปีใหม่’ ชี้ เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ หลังถูกศาลเตี้ยคุกคาม จี้!! ‘ก้าวไกล’ อย่าเพิกเฉยต่อการล่าแม่มด

(20 ก.ย. 66) จากกรณี ‘ปีใหม่ ศิริกุล’ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘ปีใหม่ ปีใหม่’ ทำจดหมายเปิดผนึกถึง คุณชัยธวัช ตุลาธน รักษาการเลขาธิการพรรคก้าวไกล, นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขอความเป็นธรรม และ ขอความคุ้มครองจากการถูกนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่ปรึกษารองประธานสภาคนที่1 ถูกคุกคามไล่ล่าแม่มด

นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาประจำประเทศไทยของฮิวแมนไรท์วอตช์ โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ @sunaibkk ระบุว่า…

‘สิทธิมนุษยชน’ ไม่มีสี ไม่มีฝ่าย #ก้าวไกล @MFPThailand ไม่ควรเพิกเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ #ปีใหม่ ซึ่งละเมิดหลักการเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพที่พรรคยึดถือ การใช้ศาลเตี้ยล่าแม่มดคุกคามกันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และผิดกฎหมาย ถ้าใครได้รับความเสียหายจากสิ่งที่ปีใหม่เขียนก็ควรแจ้งความดำเนินคดีตามสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่ใช่ทำแบบนี้ (อ่านรายละเอียดโพสต์ของปีใหม่ขอความเป็นธรรมและความคุ้มครอง >> https://facebook.com/100009093048764/posts/pfbid05yRpUCjxo25WC6WdSQ7C3PMKKgvowJW9t31i8jzA3CfTxGw89ysuMd4Suya9Dabnl/?mibextid=I6gGtw <<)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top