Wednesday, 4 June 2025
NEWS

‘เจือ ราชสีห์’ รับรางวัลแห่งความดี “เงือกทองคำ” ในฐานะผู้เจริญรอยตาม ‘พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์’

เมื่อวันที่ (25 พ.ค. 68) สงขลา นายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เข้าร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลครบรอบ 6 ปีแห่งการอสัญกรรมของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ณ อาคาร 100 ปี ชั้น 2 วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งจัดโดยสมาคมชาวสงขลา ร่วมกับสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์

ในวันเดียวกัน ได้มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี พ.ศ. 2567 ของสมาคมชาวสงขลา  พร้อมทั้งจัดพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติคนดีศรีแผ่นดิน “เงือกทองคำ”เพื่อยกย่องผู้ทำคุณประโยชน์แก่ส่วนรวม และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม

ในโอกาสนี้ นายเจือ ราชสีห์ ได้รับรางวัล “เงือกทองคำ” ในประเภท “ข้าราชการการเมืองที่ทำคุณประโยชน์ให้กับจังหวัดสงขลา” โดยรางวัลเชิดชูเกียรติคนดีศรีแผ่นดิน “เงือกทองคำ” นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากคุณงามความดีของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งถือเป็นแบบอย่างของการใช้ชีวิตด้วยความรับผิดชอบและกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด
นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวสงขลา ที่จะเจริญรอยตามความดีของท่าน ตามคำกล่าวของท่านที่ว่า "เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน"

สำหรับรางวัลเชิดชูเกียรติคนดีศรีแผ่นดิน "เงือกทองคำ" เป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณงามความดีเสียสละเพื่อส่วนรวม และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม เป็นต้นแบบการทำความดีให้กับคนสงขลา โดยพิจารณาจากคนจังหวัดสงขลาที่คุณงามความดี เสียสละเพื่อส่วนรวมและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม เป็นต้นแบบการทำความดีให้กับคนสงขลา โดยแบ่งรางวัลออกเป็น 7 ประเภทคือ ข้าราชการที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสงขลา บุคคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสงขลา บุคคลต้นแบบ บุคคลสำคัญ (ถวายแด่พระคุณเจ้า)ข้าราชการการเมืองที่ทำคุณประโยชน์ให้กับจังหวัดสงขลาสื่อมวลชนที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสงขลานักธุรกิจที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสงขลา

‘อาร์ต พศุตม์’ ปะทะ ‘หมออั้ม อิราวัต’ ทำโซเชียลลุกเป็นไฟ! หลังโดนแซะพระเอกเนรคุณ แต่ล่าสุดฝ่ายหลังโพสต์ขอโทษ

(27 พ.ค. 68) เกิดกระแสดราม่าร้อนแรงในวงการบันเทิง เมื่อหมออั้ม อิราวัต โพสต์พาดพิงถึง “พระเอกกล้ามโต” รายหนึ่งที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในวงการ ทั้งเรื่องงานและการเงิน แต่เมื่อถึงเวลาที่ผู้ใหญ่เดือดร้อนกลับไม่ช่วย แถมยังกล่าวร้ายลับหลัง โดยไม่ได้ระบุชื่อ แต่บอกเพียงว่าเป็น “นิทานลอยๆ”

งานนี้ อาร์ต พศุตม์ ไม่ทน! ออกโรงตอบโต้ในคอมเมนต์ทันที พร้อมแท็กชื่อหมออั้มโดยตรง ท้าชนแบบตรงไปตรงมา พร้อมแจกแจง 6 ประเด็นโต้กลับ ยันไม่เคยพึ่งใครเข้าวงการ ไม่เคยยืมเงินใคร และรายได้ทั้งหมดหามาเองล้วนๆ พร้อมสวนแรง “ถ้าแน่ก็มาออกรายการโหนกระแสกันไปเลย”

ด้านหมออั้มตอบกลับว่าไม่ได้เจาะจงถึงอาร์ตแต่แรก แค่โพสต์เรื่องเวรกรรมทั่วไป แต่เห็นอาร์ตร้อนตัวก่อน จึงตอบกลับบ้าง ซึ่งล่าสุดหมออั้มโดนถล่มหนักจากแฟนคลับฝั่งตรงข้าม จึงเลือกจบดราม่า โพสต์ขอโทษอาร์ตชัดเจน พร้อมย้ำว่ายังคงสนับสนุนครอบครัวอาร์ตเหมือนเดิม

ทว่าอาร์ตกลับไม่จบง่ายๆ ตอกกลับแรงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมถล่มยับ “ไม่ต้องมาสนับสนุนครอบครัวกู” และแฉว่าหมออั้มเป็นฝ่ายได้ผลประโยชน์จากเรื่องประกัน ไม่ใช่บุญคุณใดๆ 

งานนี้เรียกได้ว่าดราม่าระอุไม่มีใครยอมใคร ฝ่ายหนึ่งเลือกจบ แต่อีกฝ่ายยังเดินหน้าฟาดต่อ ทำเอาชาวโซเชียลจับตาตอนต่อไปว่าเรื่องนี้จะไปจบที่ศาล โหนกระแส หรือโพสต์เฟซบุ๊กโต้กันเดือดอีกระลอก!

2 นักศึกษาฟีโบ้ มจธ. โชว์นวัตกรรมสร้างอาชีพ “ปิ้ง ปิ้ง หุ่นยนต์ปิ้งหมู” ช่วยแม่ค้าไม่ต้องเปลืองแรง

“ปิ้ง ปิ้ง หุ่นยนต์ปิ้งหมู” เป็นผลงานการออกแบบและพัฒนาโดย นายวริทธิ์ธร คงหนู หรือ เด่น และ นายชวภณ วชิรานิรมิตหรือ ไออุ่น นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ที่ได้แรงบันดาลใจจากร้านขายหมูปิ้ง 

“พวกเราเดินผ่านร้านหมูปิ้งแถวมหาวิทยาลัยทุกวัน ก็เห็นแม่ค้าต้องยืนปิ้ง ยืนพลิกหมูอยู่ตลอดเวลา บางวันมีออเดอร์เยอะก็ต้องคอยพลิกไม้หลายรอบกว่าจะสุก ลูกค้าต้องยืนรอ เลยคิดว่า ถ้ามีหุ่นยนต์มาช่วยปิ้งแทนได้ ก็น่าจะช่วยให้แม่ค้าไม่ต้องเสียแรงมาก แถมยังมีเวลาทำอย่างอื่น เช่น รับลูกค้า เตรียมของ หรือพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น” วริทธิ์ธร หรือ เด่น กล่าวถึงแรงบันดาลใจ

วริทธิ์ธร กล่าวว่า เริ่มต้นก็มาดูขั้นตอนการปิ้งหมูเป็นอย่างไร ถ้าเราทำเป็นระบบออโตเมชันเราต้องทำอะไรบ้าง ปกติการปิ้งทำกันอย่างไร มีการหยิบ จับ เคลื่อนย้าย หรือการพลิกหมู การตรวจดูว่าหมูสุกหรือยัง แล้วเราก็มาแบ่งส่วนที่จะพัฒนาว่า จะพัฒนาอะไรก่อน ซึ่งตัวหุ่นยนต์ Demo 1 เราเริ่มจากการพัฒนาในส่วนของการพลิกหมูให้ได้บนเตา แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ตัวระบบควบคุม การออกแบบตัวจับและโครงสร้างของเตา ตลอดจนการคำนึงถึงข้อจำกัดต่างๆ

กลไกการทำงานของหุ่นยนต์ 'ปิ้ง ปิ้ง' คือการนำแขนกลที่สามารถทำงานร่วมกับคน (Co-operation Robot) มาพัฒนาให้ช่วยพลิกหมูปิ้ง โดยหุ่นยนต์จะค่อย ๆ พลิกหมูทีละไม้ ส่วนคนจะเป็นผู้ตรวจดูว่าหมูไม้ไหนสุกแล้วจึงหยิบออก ส่วนไม้ที่ยังไม่สุก หุ่นจะทำหน้าที่พลิกต่อไปโดย Demo 1 หุ่นยนต์สามารถพลิกหมูได้ครั้งละ 8 ไม้ และพลิกได้แค่ด้านเดียว เพราะเตายังมีขนาดเล็ก ขณะเดียวกัน หมูแต่ละไม้มีขนาดและวิธีเสียบที่ต่างกัน จึงสุกไม่พร้อมกันทั้งหมด ทีมจึงออกแบบให้หุ่นพลิกหมูอย่างเป็นจังหวะไม้ต่อไม้ และเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างคนกับหุ่นยนต์ เพื่อแบ่งเบาภาระและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

สำหรับแนวทางการพัฒนาในอนาคต ชวภณ หรือ ไออุ่น กล่าวว่า หากพัฒนาต่อ Demo 2 ก็อยากจะพัฒนาให้หุ่นรู้ว่าจะต้องพลิกหมูไม้ไหน และสามารถดูความสุกของหมูได้ รู้ว่าหมูไม้ไหนสุก ไม้ไหนยังไม่สุก โดยตอนนี้กำลังศึกษาว่าจะให้หุ่นดูความสุกของหมูได้อย่างไร เพราะการทําหมูปิ้ง จุดที่สุกก่อนจะอยู่ด้านล่างด้านที่โดนความร้อน ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นได้จากด้านบน รวมถึงเพิ่มระบบที่ให้หุ่นยนต์นำหมูที่สุกแล้วออกไปวางบนถาด และหยิบหมูสดไม้ใหม่ออกมาปิ้งบนเตาได้ รวมทั้งจะเพิ่มความเร็วในการพลิกหมู และระบบควบคุมความร้อนของเตาให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

วริทธิ์ธร กล่าวเสริมว่า“การได้ลงมือพัฒนา ปิ้ง ปิ้ง เป็นเหมือนโจทย์ที่ทำให้เราได้ทดลองทำโครงการหรือโปรเจกต์ร่วมกับอาจารย์ และทำให้เราได้ต่อยอดความรู้จากสิ่งที่เรียนมา ได้ทดลองกับอุปกรณ์หลายอย่าง ได้เรียนรู้ว่าเราจะต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ได้ประสบการณ์การทำงาน ได้คิด วิเคราะห์ และเพิ่มทักษะมากขึ้น”

“ปิ้ง ปิ้ง หุ่นยนต์ปิ้งหมู” คือหนึ่งในผลงานของนักศึกษาฟีโบ้ที่จัดแสดงในงานครบรอบ 30 ปีของสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) ภายใต้ธีม 'Robotics ไทยแทร่' ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา โดย ผศ. ดร.สุภชัย วงศ์บุณย์ยง ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม อธิบายว่า ธีมไทยแทร่ต้องการสร้างบรรยากาศสนุกสนานแบบงานวัด เพื่อให้นักศึกษาได้ออกแบบหุ่นยนต์ที่สะท้อนวัฒนธรรมไทยอย่างมีชีวิตชีวา และอาหารปิ้งย่างซึ่งเป็นของคุ้นเคยบนถนนเมืองไทยจนกลายเป็นโจทย์หลักให้ทีมพัฒนาหุ่นยนต์ชุดนี้ โดยใช้พื้นฐานความรู้ด้านหุ่นยนต์และอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการของฟีโบ้นำไปพัฒนาต่อยอด จนเกิดเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่เพียงแต่โชว์ไอเดียสนุก ๆ ในงานนิทรรศการ แต่ยังเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ที่มีพลังให้นักศึกษาได้ฝึกตั้งแต่การออกแบบฟังก์ชัน เลือกเทคโนโลยี ประเมินต้นทุน ไปจนถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจากการใช้งานจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่เกินกว่าการเรียนในห้องหรือการทำโปรเจกต์บนกระดาษ 

ผศ. ดร.สุภชัย เน้นว่า “เทคโนโลยีไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่ต้องตอบโจทย์การใช้งานจริง และคุ้มค่าในการลงทุน แม้หุ่นยนต์ปิ้งหมูเวอร์ชันต้นแบบจะยังไม่พร้อมสำหรับร้านค้าทั่วไป แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกของการประยุกต์ใช้หุ่นยนต์และ AI ในธุรกิจอาหาร โดยอาจต่อยอดได้ทั้งในร้านอาหารระดับพรีเมียม หรือใช้สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ในกิจกรรมการตลาด ซึ่งต่อเนื่องจากผลงานด้านเทคโนโลยีอาหารของฟีโบ้ที่ผ่านมา เช่น หุ่นยนต์ลวกก๋วยเตี๋ยว หุ่นยนต์ตักไอศกรีม และหุ่นยนต์ชงน้ำ ที่เคยสร้างการเปลี่ยนแปลงจากระบบแรงงานคนสู่ระบบอัตโนมัติในชีวิตประจำวัน”

นอกจาก ปิ้ง ปิ้ง ยังมีผลงานของนักศึกษาทุกชั้นปีทั้ง ป.ตรี โท เอก ที่นำมาจัดแสดงมากมาย และได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเข้ามาติดต่อเพื่อนำไปต่อยอดหรือร่วมกับนักศึกษาในการพัฒนาต่อไป อาทิ กรอบรูป ราชรถ หุ่นยนต์สายมู (เตลู) ลงยันต์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำบทบาทของฟีโบ้ ที่ไม่เพียงเป็นสถาบันผลิตวิศวกรหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ แต่ยังเป็นแหล่งบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และการลงมือทำจริง นักศึกษาไม่ได้เรียนแค่ทฤษฎีหรือวิธีสร้างหุ่นยนต์ แต่เรียนรู้จากโจทย์จริงของสังคม ผ่านการฝึกคิด ฝึกแก้ปัญหา และพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งาน พร้อมติดอาวุธทั้ง Upskill, Reskill และ Newskill ที่จำเป็นต่อโลกยุคใหม่

ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

(27 พ.ค. 68) พลเรือโท อาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 นำกำลังพลจิตอาสาจากทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1, กองพันซ่อมบำรุง กรมสนับสนุนกองพลนาวิกโยธิน, กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 21 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 2, หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง, เทศบาลตำบลบางเสร่, เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว ตลอดจนคณะครูและนักเรียนโรงเรียนเกล็ดแก้ว ร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ณ โรงเรียนเกล็ดแก้ว ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี รวมถึงกิจกรรมเก็บขยะบริเวณชายหาดหน้าโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ

กิจกรรมประกอบด้วย การปรับปรุงภูมิทัศน์ ตัดหญ้า ลอกรางระบายน้ำ ทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนเกล็ดแก้ว และเก็บขยะบริเวณชายหาด เพื่อเสริมสร้างจิตสาธารณะ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชน สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพเรือกับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือ

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และบำเพ็ญประโยชน์ถวายเป็นพระราชกุศล

สมนึก เชื้อสนุก  รายงาน

แรงดึงดูดของบ้าน...มากกว่ากรีนการ์ดอเมริกัน คนไทยในสหรัฐฯ เลือกกลับ ถ้าเทียบกับชาติอื่นในเอเชีย

(26 พ.ค. 68) ดร.อธิป อัศวานันท์ ผู้อำนวยการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ลงคลิปวิดีโอทางช่อง YouTube ของตนเอง โดยแชร์สาระน่ารู้ในเรื่อง..อะไรทําให้คนไทยแตกต่างจากคนเอเชียชาติอื่น เวลาที่พวกเราไปเรียนที่อเมริกา? 

ความแตกต่างที่น่าสนใจระหว่างนักศึกษาไทยและนักศึกษาเอเชียชาติอื่นในสหรัฐอเมริกาคือเป้าหมายหลังสำเร็จการศึกษา โดยนักศึกษาไทยส่วนใหญ่มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเดินทางกลับมาทำงานและใช้ชีวิตในประเทศไทย สวนทางกับนักศึกษาจากชาติเอเชียอื่นจำนวนมากที่มองหาโอกาสในการตั้งถิ่นฐานถาวรในสหรัฐฯ อ้างอิงข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์ตรงที่ศึกษาในสหรัฐฯ ช่วงปี 1990 ถึง 2004 ยืนยันเรื่องดังกล่าว และยังคงเป็นแนวโน้มที่ชัดเจนจนถึงปัจจุบัน

สถิติล่าสุดในปี 2022 ชี้ว่า จากจำนวนนักศึกษาไทยประมาณ 5,000 คนในสหรัฐฯ มีเพียงราว 15% เท่านั้นที่เลือกทำงานต่อหลังเรียนจบ ซึ่งแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับชาติอื่น ในช่วงทศวรรษ 1990 นักศึกษาจีนเกือบ 90% เลือกที่จะไม่กลับประเทศ ขณะที่นักศึกษาอินเดีย โดยเฉพาะในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีอัตราการอยู่ต่อสูงถึง 87% และผู้ที่จบปริญญาเอก STEM ระหว่างปี 2000-2015 (ข้อมูลปี 2017) เช่นเดียวกับนักศึกษาจากเกาหลีใต้และไต้หวันจำนวนไม่น้อยที่มุ่งหวังจะอยู่อาศัยในอเมริกาอย่างถาวร

ปัจจัยหลักที่ดึงดูดให้นักศึกษาไทยกลับบ้านเกิดคือความผูกพันกับครอบครัว ความคุ้นเคยกับสังคมและวัฒนธรรมไทย รวมถึงความรักในประเทศชาติ ทำให้ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมีโครงการพิเศษเพื่อดึงดูดคนกลับเหมือนที่รัฐบาลจีนริเริ่มโครงการ “เต่าทะเล” (Sea Turtles) ตั้งแต่ปี 2010 เพื่อเชิญชวนคนเก่งกลับไปพัฒนาประเทศ เสน่ห์ของประเทศไทย ทั้งวัฒนธรรม อาหาร และความสัมพันธ์ในครอบครัว ถือเป็นแรงจูงใจสำคัญ

แม้จำนวนนักศึกษาไทยในสหรัฐฯ จะลดลงจากประมาณ 11,600 คนในปี 2000 เหลือราว 5,000 คนในปี 2022 แต่แนวโน้มการกลับประเทศยังคงสูงอยู่เสมอ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยจำนวนมากมองว่าการไปศึกษาต่อต่างประเทศคือการเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์เพื่อนำกลับมาพัฒนาบ้านเกิด มากกว่าจะเป็นบันไดสู่การย้ายถิ่นฐาน ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจที่คนไทยเลือก “กลับบ้าน” ในขณะที่คนชาติอื่นอาจเลือก “จากบ้าน” ไปหาโอกาสที่ดีกว่าในต่างแดน

นายกฯ เผยดีล F1 คืบหน้ามาก ลุ้นผลไทยได้จัดแข่ง?.. ภายใน 2-3 เดือน

(26 พ.ค. 68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยว่า การเจรจากับผู้บริหาร Formula One Group (F1) เกี่ยวกับการจัดแข่งรถ F1 รูปแบบ City Circuit ในประเทศไทย มีความคืบหน้าในทิศทางที่ดี คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า

การหารือเกิดขึ้นระหว่างการเยือนราชรัฐโมนาโก เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนายกฯ ได้พบประธาน F1 และเข้าเฝ้าเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 พร้อมทั้งย้ำว่าการเดินทางครั้งนี้เน้นเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ใช่การท่องเที่ยว โดยก่อนหน้านี้ยังได้หารือเรื่องการค้าและ FTA ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

นายกฯ ระบุว่า การดึง F1 มาไทยถือเป็นโอกาสที่ดี โดยไทยมีศักยภาพจัดแข่งในรูปแบบถนนในเมือง (City Circuit) ซึ่งได้รับความสนใจจากทางผู้บริหาร F1 และหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก็จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับประเทศในเวทีโลก

‘วิชัย ทองแตง’ หารือ ม.เกษตรฯ ยกระดับการศึกษา ร่วมพัฒนาองค์ความรู้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานยุค 4.0

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ บริษัท ดับบลิวทีเอช โฮลดิงส์ จำกัด ประชุมหารือขับเคลื่อนความร่วมมือทางวิชาการ-ธุรกิจเพื่ออนาคต สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

(26 พ.ค. 68) นายวิชัย ทองแตง พร้อมทีมงาน ประชุมหารือขับเคลื่อนความร่วมมือทางวิชาการ-ธุรกิจเพื่ออนาคต กับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วาระสืบเนื่องจากการลงนามความร่วมมือทางวิชาการ-ธุรกิจเพื่ออนาคต ระหว่างกันไปเมื่อ 11 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา โดยการลงนามร่วมกัน ระหว่าง ดร. ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กับนายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวทีเอช โฮลดิงส์ จำกัด

โดยวาระการหารือสำคัญได้แก่ ความร่วมมือการดำเนินการโครงการ One TVet การพัฒนาทักษะแรงงานไทยแบบบูรณาการ เพื่อตอบสนองแรงงานไทยในยุค 4.0 และแผนการดำเนินการร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อร่วมกันพัฒนาทักษะแรงงานไทยแบบบูรณาการ มุ่งเน้นการ Upskill/Reskill เพื่อตอบสนองตลาดแรงงานอุตสาหกรรมไทย ในยุค 4.0 การพบปะหารือ กับรองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาวิทยาศาสตร์สุขภาพฯ ผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ เพื่อทำความรู้จักและสานต่อความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต ณ ห้องประชุม 8 ชั้น 2 อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน 

สำหรับผู้เข้าร่วมการหารือในครั้งนี้ ได้แก่ รศ.ดร.สุชาย  ธนวเสถียร ผู้อำนวยการ One TVET Project บริษัท เอ็ดดู ทรานฟอร์เมอร์ กรุ๊ป จำกัด คุณทัศณี คนการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท GHC MED จำกัด ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หรือผู้แทน ได้แก่ ผศ. ดร.กฤษณ์ วันอินทร์ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและพันธกิจเพื่อสังคม รศ. ดร.สมหวัง ขันตยานุวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาวิทยาศาสตร์สุขภาพและเขตพื้นที่สุพรรณบุรี รศ. ดร. อนันต์ ผลเพิ่ม รองอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ รศ. พลเอก นายแพทย์ชุมพล เปี่ยมสมบูรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ รศ. พลตรีหญิง ดร.สายสมร เฉลยกิตติ รักษาการคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ผศ. ดร.อภิรักษ์ จันทร์สร้าง ผู้อำนวยการสำนักบริการคอมพิวเตอร์ ผศ. ดร. นรุณ วรามิตร คณบดีวิทยาลัยบูรณาการศาสตร์ รศ. ดร. จุรีย์รัตน์ ลีสมิทธิ์

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งการประชุมหารือในครั้งนี้ จะนำไปสู่การร่วมกันทำงานในมิติต่างๆ อย่างสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยสืบไป                              

คณะรัฐศาสตร์ มธ. ตั้งกรรมการสอบด่วน! ปมแชตลับ ‘อาจารย์-ศิษย์เก่า’ คุกคาม ‘นศ.หญิง’

(26 พ.ค. 68) คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง หลังเกิดกรณีกลุ่มแชตลับที่มีอาจารย์ ศิษย์เก่า และนักศึกษาชาย ส่งต่อภาพนักศึกษาหญิง พร้อมข้อความหยาบคายและมีลักษณะคุกคามทางเพศ สร้างความกังวลต่อความปลอดภัยและศักดิ์ศรีของนักศึกษาในคณะอย่างกว้างขวาง

ทางคณะเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุจากผู้เสียหาย 2 รายเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนทั้งสองจะยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 พฤษภาคม และมีการตั้งกรรมการสอบฯ ขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม โดยประกอบด้วยผู้หญิง 2 คน ผู้ชาย 1 คน และผู้เชี่ยวชาญภายนอกที่เน้นด้านสังคมสงเคราะห์

เบื้องต้น คณะยืนยันจะดำเนินการอย่างโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ความสำคัญสูงสุดกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้เสียหาย พร้อมเปิดช่องทางติดต่อสำหรับผู้ที่สงสัยว่าตนอาจเกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบเพิ่มเติม

ทั้งนี้ คณะฯ ยอมรับว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลต่อความไว้วางใจในการเป็น “พื้นที่ปลอดภัย” และให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อป้องกันปัญหาระยะยาว ยืนยันจุดยืนสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเคร่งครัด

‘รถถัง‘ ไม่ธรรมดา แชทคุย ’มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก‘ หลังเฟซบุ๊กมีปัญหาก่อนได้รับการแก้ไขตามคำขอ

(26 พ.ค. 68) รถถัง จิตรเมืองนนท์ สุดยอดนักมวยไทยชื่อดังระดับโลก อดีตเจ้าของแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ส่งข้อความไปหา มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอเฟซบุ๊ก เป็นการส่วนตัว หลังบัญชีของเขามีปัญหา

โดย มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ตอบแชทรถถังเป็นอย่างดี พร้อมส่งทีมงานให้การช่วยเหลือในปัญหาดังกล่าว โดยระบุว่า "ทีมงานน่าจะช่วยรีเซ็ตบัญชีของคุณได้ แจ้งผมได้เลยหากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม"

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน รถถัง จิตรเมืองนนท์ เคยส่งข้อความไปหา มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก แล้วทีหนึ่ง โดยเวลานั้นเจ้าตัวมีปัญหาเกี่ยวกับแชทเฟซบุ๊กที่ไม่สามารถเปิดรูปได้ ซึ่งทางผู้ก่อตั้ง และซีอีโอเฟซบุ๊ก ก็ตอบกลับ และช่วยแก้ปัญหาให้

สำหรับ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอเฟซบุ๊ก ถือเป็นหนึ่งในผู้มีชื่อเสียงระดับโลกที่ชื่นชอบในศิลปะการต่อสู้ และป้องกันตัวเป็นอย่างมาก มีฝีมือพอตัว ถึงขั้นเคยคว้าเหรียญทองยิวยิตสูรายการหนึ่งมาแล้ว แถมยังรู้จักเป็นการส่วนตัวกับ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธาน และซีอีโอ วัน แชมเปียนชิพ อีกด้วย

อว. ปลดล็อกนักเรียนทุน ปรับนโยบายทุนเรียนต่อ เปิดทางต่อยอดงานวิจัย สร้างเป็นธุรกิจจากต่างแดน

(26 พ.ค. 68) นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยนโยบายใหม่ เปิดทางให้นักเรียนทุนไม่ต้องจำกัดแค่กลับมาใช้ทุนในหน่วยงานรัฐ แต่สามารถนำผลงานวิจัยไปต่อยอดเป็นธุรกิจ สนับสนุนสตาร์ตอัปไทย ผ่านกลไกของกระทรวง อว. เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงในประเทศ

รัฐมนตรี อว. กล่าวระหว่างพบปะนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาอยู่ที่ Imperial College London สหราชอาณาจักร ว่า ได้เริ่มปลดล็อกข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนทุนสามารถใช้ความรู้ไปสู่ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในสาขาสำคัญ เช่น IC Design สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทาง Imperial ในการสนับสนุนการต่อยอดสู่การก่อตั้งสตาร์ตอัป

ทั้งนี้ นักศึกษาไทยให้ความสนใจอย่างมาก พร้อมร่วมซักถามแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยรัฐมนตรี อว. ย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการฟังเสียงคนรุ่นใหม่ เพื่อนำไปปรับใช้นโยบายให้ตอบโจทย์ตรงจุด ทั้งในด้านการศึกษา การพัฒนากำลังคน และความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระดับโลก

นอกจากนี้ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี ยังให้กำลังใจนักศึกษาทุกคนในการตั้งใจเรียน พร้อมเปิดรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ เพื่อเสริมการสนับสนุนในอนาคต โดยหวังให้คนรุ่นใหม่เป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศ ผ่านการผสมผสานองค์ความรู้กับโอกาสทางธุรกิจที่เป็นรูปธรรม

MK ออกโรงแจงกรณีงานวิ่งทิพย์ ยันหนุนแค่บางส่วน ‘จ่อฟ้องผู้จัด’ ทำแบรนด์เสียหาย

(25 พ.ค. 68) ร้านสุกี้เอ็มเค (MK Restaurant) ร้านชื่อดังที่อยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าให้การสนับสนุนงบประมาณบางส่วนแก่กิจกรรม “Run for Destination 2025” จริง ด้วยเจตนาส่งเสริมสุขภาพของประชาชน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการจัดงาน รวมถึงการยกเลิกกิจกรรมในวันจริงที่ทำให้ผู้สมัครกว่า 70 คนได้รับความเสียหาย

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อผู้จัดงานไม่ปรากฏตัว และไม่มีการแจกของตามที่สัญญาไว้ในโปสเตอร์โปรโมท ทั้งเสื้อ นาฬิกา รองเท้า และกระเป๋า ทั้งที่ผู้เข้าร่วมจ่ายค่าสมัครเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในโปสเตอร์มีโลโก้ MK ปรากฏเป็นผู้สนับสนุน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์

ทางเอ็มเคเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมดำเนินคดีกับผู้จัดงาน เนื่องจากบริษัทได้รับความเสียหายทั้งในด้านชื่อเสียงและการเงิน ด้านชาวเน็ตแสดงความเห็นใจ พร้อมมองว่า MK เองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของ “งานวิ่งทิพย์” ครั้งนี้เช่นกัน

FKII ผนึกเครือข่ายต้านโกง เปิดแพลตฟอร์ม ‘คอรัปชั่น ฟ้องดู’ ชวนประชาชนแจ้งทุจริตทั่วไทย แบบเรียลไทม์ ผ่าน AI อัจฉริยะ

(25 พ.ค. 68) นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ. (FKII Thailand) เปิดเผยวันนี้ว่าสถาบันเอฟเคไอไอ. ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน เปิดตัวแพลตฟอร์ม “คอรัปชั่น ฟ้องดู” อย่างเป็นทางการ วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ณ TVA Hall กรุงเทพฯ หวังใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เป็นแนวรบใหม่ในการปราบปรามการทุจริตที่สร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี

ภายในงานจะมีการบรรยายพิเศษจากผู้ทรงคุณวุฒิหลายภาคส่วน เช่น ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, ดร.มานะ นิมิตรมงคล และอดีตผู้ว่าการ สตง. โดยมีหัวข้ออภิปรายเกี่ยวกับวิกฤตคอร์รัปชั่นและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงการสาธิตใช้งานระบบแจ้งเบาะแส “คอรัปชั่น ฟ้องดู”

นอกจากนี้ ยังมีการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านทุจริตจากเครือข่ายภาคประชาชน เช่น สมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น สมาคมธุรกิจไม้ สภาวิสาหกิจ SME และองค์กรธรรมาภิบาล เพื่อสร้างพลังร่วมผลักดันให้เกิดการตรวจสอบอย่างเป็นรูปธรรมทั่วประเทศ

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ. ระบุว่า ปัญหาคอร์รัปชั่นเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการเติบโตของประเทศ จำเป็นต้องใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมงาน และลงทะเบียนผ่าน LineOA: FKII Thailand เพื่อสร้างสังคมโปร่งใสอย่างยั่งยืน

‘หมอสุรันต์’ เผยภาพประทับใจ ‘จัตุรัส ร.9’ กลางบอสตัน ตั้งแท่นหินแกรนิตจารึกประวัติ กษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักของชาวโลก

(25 พ.ค. 68) ทพ.สุรันต์ จันทร์พิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แบ่งปันเรื่องราวสุดแสนประทับใจ หลังเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา โดยโพสต์ผ่านเฟสบุ๊กว่า…

จัตุรัสภูมิพลอดุลยเดช ตั้งอยู่ในเมืองเคมบริดจ์ จัตุรัสแห่งนี้ตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่9 อันเป็นที่รักที่เทิดทูนของปวงชนชาวไทย

พระองค์เสด็จพระราชสมภพที่โรงพยาบาล เมาท์ ออเบิร์น(Mount Auburn Hospital) เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในโลกที่พระราชสมภพบนแผ่นดินอเมริกา นายกเทศมนตรีเมืองเคมบริดจ์ จึงขอพระราชทานนามว่า “จัตุรัสภูมิพลอดุลยเดช” เพื่อเป็นเกียรติแก่เมืองเคมบริดจ์

เหตุที่ทรงเสด็จพระราชสมภพที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเนื่องมาจากสมเด็จพระบรมราชชนกได้ทรงศึกษาวิชาการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

โดยเช่าอพาร์ทเม้นท์ใกล้ๆมหาวิทยาลัย เป็นที่พำนักอยู่กับสมเด็จพระบรมราชชนนี (หม่อมสังวาลย์มหิดล ณ อยุธยาในขณะนั้น) ซึ่งต่อมาเจ้าชายพระองค์นี้ทรงเติบใหญ่เป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งแห่งราขวงศ์จักรี

บนแท่นหินแกรนิตกลางจัตุรัส มีอักษรโลหะบันทึกบอกเรื่องราวการเสด็จพระราชสมภพของพระองค์ Hampton Hotel Boston,Massachusetts, United States Of America 22May 2025 10°C(Feel like6°C),Rainy 07.05A.M. “เพราะโลกมันกว้าง เราจึงอยากแบ่งปัน”

‘ชวน-นิพนธ์’ นำคณะเยือนจีน สานสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย ดันลงทุนในอุตสาหกรรมเด่นของภาคใต้…สู่ตลาดโลก

(25 พ.ค. 68) นายชวน หลีกภัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะผู้แทนไทยเดินทางเยือนมณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 24–28 พฤษภาคม 2568 จัดกิจกรรมโรดโชว์สานสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีนต่อเนื่อง พร้อมผู้แทนราชการ นักธุรกิจ และนักวิชาการ หวังขยายความร่วมมือด้านการค้า เทคโนโลยี และการลงทุน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเด่นของภาคใต้ไทย

ไฮไลต์ของภารกิจคือการจัดงาน “Southern Thailand Night” เปิดเวทีส่งเสริมการลงทุนภาคใต้ ชูจุดแข็งของ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในฐานะสะพานเศรษฐกิจสู่ภูมิภาคอาเซียน หวังดึงดูดนักลงทุนจีนสู่โครงการ Rubber City และนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล

นอกจากนี้ คณะยังมีกำหนดเยี่ยมชมกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีล้ำสมัยของจีน เช่น อุตสาหกรรมโดรน ยางสมัยใหม่ เมืองจัดการพลังงาน และศูนย์เกษตรอัจฉริยะ เพื่อศึกษาต้นแบบพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ของไทยในอนาคต โดยหวังให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม สร้างอาชีพและยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

ผบ.ตร.เป็นประธานพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพข้าราชการตำรวจกองบินตำรวจ ที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ยืนยันดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่

(25 พ.ค.68) เวลา 17.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย” นักบิน (สบ 1) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ และ “ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย” รอง สว.(อก.) กลุ่มงานช่างอากาศยาน กองบินตำรวจ ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รุ่น BELL 212 ตกบริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. , พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. , พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ศิริพงษ์ ติมุลา ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร , พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผู้บังคับการกองบินตำรวจ , ข้าราชการตำรวจ และครอบครัว ร่วมพิธีฯ ณ วัดนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร สำหรับ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ นักบิน (สบ 2) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ บำเพ็ญกุศลที่ศาลาวัชโรทัย วัดทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้มอบเงินกองทุนสวัสดิการสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมได้สั่งการกำชับให้ดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์กับครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้นสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับมีดังนี้

- พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ นักบิน (สบ 2) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ ได้รับเงินช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์ จำนวน 1,434,560 บาท ได้รับความชอบพิเศษ เลื่อนเงินเดือนไม่เกิน 4 ขั้น และเลื่อนยศสูงขึ้นเป็น พล.ต.ต. 

- ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย นักบิน (สบ 1) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ ได้รับเงินช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์ จำนวน 1,424,870 บาท ได้รับความชอบพิเศษ เลื่อนเงินเดือนไม่เกิน 4 ขั้น และเลื่อนยศสูงขึ้นเป็น พ.ต.อ.

- ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย รอง สว.(อก.) กลุ่มงานช่างอากาศยาน กองบินตำรวจ ได้รับเงินช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์ จำนวน 1,970,400 บาท ได้รับความชอบพิเศษ เลื่อนเงินเดือนไม่เกิน 4 ขั้น และเลื่อนยศสูงขึ้นเป็น พ.ต.ท.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top