(2 ส.ค. 66) ‘หลวงพ่อสงวน’ นักบุญผู้สร้างคน เลี้ยงดูเด็กด้อยโอกาสมานานถึง 25 ปี ถึงแม้วันนี้จะอาพาธเดินไม่ได้ แต่ไม่คิดที่จะเลิกทำ
25 ปี แห่งความเมตตาของ ‘หลวงพ่อสงวน’ หรือ พระครูวิบูลประชากิจ เจ้าอาวาสวัดบ้านอ้อ อายุ 76 พรรษา พระนักบุญแห่งเมืองเก่าอยุธยา รับเด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ชายขอบมาเลี้ยงดู ส่งเสียจนจบปริญญา ถึงวันนี้แม้ท่านจะอาพาธเดินไม่ได้ แต่ยังไม่ลดละความพยายามที่จะดูแลเด็กเหล่านี้ต่อไป ด้วยเชื่อว่า ‘การสร้างคน คือ การสร้างชาติ’
“อยากจะสร้างคน... คนนี้สำคัญนะ ตามหลักพระพุทธเจ้า ถ้าคนมีคุณภาพทุกอย่างดีหมด เมื่อเราสร้างคนแล้ว คนก็จะไปสร้างบ้าน พอเขาสร้างบ้านเขาได้ เขาก็ไปจะสร้างประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง”
การเลี้ยงดูเด็กด้อยโอกาสของ ‘หลวงพ่อสงวน’ ได้เริ่มขึ้นภายหลังที่ ‘หลวงพ่อสงวน’ ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดบ้านอ้อ ทดแทนพระครูประดิษฐ์ศีลาคุณ หรือ ‘หลวงพ่อเติม’ ที่มรณภาพไปเมื่อปี 2541
โดยตลอดระยะเวลา 56 พรรษา แห่งการถือเพศบรรพชิตของ ‘หลวงพ่อสงวน’ นั้นท่านได้สนใจใผ่เรียนรู้ ทั้งปริยัติและปฏิบัติจนแตกฉาน นำเอาหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาเผยแพร่เกื้อกูลสังคมมาอย่างต่อเนื่องและที่สำคัญคือส่งเสริมการศึกษาให้เด็กด้อยโอกาส
“เด็กพวกนี้หลวงพ่อฯ ไปรับมาจากอุ้มฝาง จังหวัดตาก เป็นชนเผ่าม้ง พ่อแม่เด็กเขาทำไร่ หาเช้ากินค่ำ บางคนก็อยู่กับย่า กับยาย จะไปโรงเรียนทีก็ลำบาก เพราะเดินทางไกล เงินทองก็ไม่มี หลวงพ่อก็ไปรับมา เด็กสุดตอนนี้ก็ 3 ขวบได้มั้ง...อยู่ที่นี่ก็มีอาหารให้ 3 มื้อ มีที่นอนให้ มีค่าขนมให้ไปโรงเรียนทุกคน ใครรักเรียนหน่อยก็จะส่งให้เขาจนจบปริญาตรี ไปเป็นครู เป็นวิศวะก็มี”
เด็กๆ ที่มาอยู่ที่วัดนี้ จะได้รับการศึกษากันทุกคน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงประถมศึกษา ที่โรงเรียนวัดบ้านอ้อ (บ้านอ้อวิทยาคาร) แล้วไปต่อในระดับที่สูงขึ้น ตามความสนใจทั้งในด้านวิชาชีพและปริญญาตรี โดย ‘หลวงพ่อสงวน’ จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจนจบการศึกษา
“ตอนนี้เด็กที่หลวงพ่อดูแล มี 135 คนตั้งแต่อนุบาลถึงปริญญา ไปเรียนราชภัฎฯ เวลาไปเรียนหลวงพ่อต้องมีค่าขนมให้ทุกคน เด็กโตที่ไปเช่าพักข้างนอกหลวงพ่อก็มีค่าเช่าหอให้ มีค่าขนมให้ใช้จ่ายกันทุกคน"
ส่วนมาของเงินที่ใช้จ่ายในการดูแลสงเคราะห์เด็กนั้นล้วนมาจากผู้ใจบุญที่ศรัทธาในตัว ‘หลวงพ่อสงวน’
"เงินที่เอามาใช้กับเด็กๆ หลวงพ่อฯ ก็เอามาจากที่โยมมาทำบุญบ้าง ไปเทศน์มาบ้าง นิมนต์งานบุญบ้าง ไม่เคยของงบหลวง เราทำของเราเอง ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน หรือมาทำให้หม่นหม่อง”
นอกจากการเลี้ยงดูเด็กจำนวนนับร้อยชีวิตต่อเนื่องยาวนานแล้ว ‘หลวงพ่อสงวน’ ยังมีเมตตาช่วยเหลือสนับสนุนพัฒนาโรงเรียนวัดบ้านอ้อ (บ้านอ้อวิทยาคาร) โรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่วัด ให้เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพในระดับชุมชน ตลอดไปจนถึง การหาเงินทุนงบประมาณมาสนับสนุนก่อสร้างอาคารเรียน ส่งเสริมกิจกรรมต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง โดย นางสาวมณฑา มงคลแพร ผู้อำนวยการของโรงเรียน เล่าให้ฟังว่า
“โรงเรียนเราได้รับการอุปการะจากหลวงพ่อฯ ในหลายด้าน ไม่ว่าจะขาดเหลืออะไร ท่านจะคอยใส่ใจมาถามตลอด อย่างเรื่องห้องดนตรีไทย หลวงพ่อฯ ท่านก็ช่วยหาอุปกรณ์ที่ขาดแคลนมาให้ ทำให้ที่นี่เด็กจะเด่นเรื่องดนตรีไทยมาก เพราะอุปกรณ์เราพร้อม ครูดนตรีไทยเราก็เป็นคนที่มีความรู้ ที่ผ่านมา ครูเขาเคยพาเด็กนักเรียนไปแข่งขันดนตรีไทย ประเภทฆ้องวงเล็กได้รางวัลระดับชาติ ดนตรีวงปี่พาทย์จากพระเทพฯ ซึ่งทักษะดนตรีเหล่านี้ เด็กจะสามารถไปต่อยอดหารายได้ช่วยที่บ้านได้ เพราะเวลาชุมชนมีงานศพ งานบวช เขาก็จะไปเล่นได้ค่าจ้างเป็นกำลังใจนำไปส่งให้ผู้ปกครอง”
ปัจจุบันสุขภาพของ ‘หลวงพ่อสงวน’ เริ่มเสื่อมถอย ด้วยหลายโรคที่รุมเร้า ล่าสุด ป่วยอาพาธด้วยเส้นเลือดในสมองตีบ ส่งผลให้ท่านจำเป็นต้องลดกิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำในแต่ละวันลงไป
“หลอดเลือดสมองตายไปข้างนึง เป็นเมื่อพฤษภาฯ ที่ผ่านมา ตอนนี้เดินไม่ได้ ซีกซ้ายไม่รู้สึกเลย จะไปไหนก็ลำบากหน่อย กิจนิมนต์ก็รับไม่ไหว จะออกไปแค่ข้างหน้ากุฏิก็หน้ามืดแล้ว เวียนหัวไปหมด...แต่ก็คิดอยู่ในใจว่า หลวงพ่อฯ จะต้องทำให้เด็กมีกินให้ได้ โชคดีที่หลวงพ่อฯ พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง แต่นี่ก็ลดลงไปมากแล้วเหมือนกัน เวลาไม่มีก็ต้องหามาหมุนเอา (ถ้าไม่ไหวหลวงพ่อฯ คิดว่าจะหยุดไหมครับ?) ไอ้หยุด ไม่หยุดหรอก เพราะถ้าหยุดเด็กจะลำบาก...แต่ก็อาจจะต้องลดค่าขนมเด็กลง ส่วนอาหารต้องมีให้เขาครบ 3 มื้อ ไม่หยุด ไม่ท้อหรอกโยม”
สำหรับเด็กที่นี่ อย่างโชคชัย เหล่าภักดี เด็กชายวัย 16 ปี เด็กชาวเขาเผ่าม้งที่มาอาศัยกับหลวงพ่อฯตั้งแต่ยังเล็ก เขารับรู้ดีว่า ถ้าไม่มี ‘หลวงพ่อสงวน’ ชีวิตเขาและเด็กๆ ที่นี่คงจะไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ
“ครอบครัวผมยากจนมาก ถ้าไม่มีหลวงพ่อฯ คงไม่ได้เรียน ไม่รู้ชีวิตจะเป็นอย่างไร ผมเลยคิดว่าอยากขอบคุณหลวงพ่อฯ ที่เมตตากับผมกับน้องๆอีกหลายคนมาก ผมอยากให้หลวงพ่อฯ หายป่วยไวๆ ส่วนผมก็จะตั้งใจเรียน จบมาก็จะส่งเงินมาช่วยหลวงพ่อฯครับ”
หากต้องการร่วมบริจาคทำบุญกับ ‘หลวงพ่อสงวน’ สามารถโอนเงินไปได้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาผักไห่ ชื่อบัญชี พระครูวิบูลประชากิจ เลขบัญชี 1021115452 หรือติดต่อได้ที่ 081-913-8383