Saturday, 14 June 2025
Hard News Team

‘แสน นากา’ ยังไม่บอกแม่ ‘เสก โลโซ’ ติดคุก ฝากพี่น้องในเรือนจำช่วยดูแลเสก ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้

(21 พ.ค. 68) แสน นากา พี่ชายเสก โลโซ โพสต์คลิปคุณแม่กินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมเผยว่ายังไม่บอกข่าวน้องชายถูกตัดสินจำคุก เพราะกลัวแม่ช็อก โดยน้องสาวจึงยึดโทรศัพท์คุณแม่ไว้ชั่วคราว ขณะที่เจ้าตัวกำลังถ่าย MV ที่ปราณบุรี

แสน นากา เล่าว่าแม่ติดโทรศัพท์ ชอบดูเฟซบุ๊กเป็นประจำ จึงกลัวจะเห็นข่าวก่อนมีลูกๆ อยู่ด้วย ยืนยันจะรีบกลับไปในวันเสาร์และค่อยๆ พูด เพื่อไม่ให้แม่ตกใจเกินไป พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามา

ด้านเรือนจำพิเศษมีนบุรี ระบุว่า วันแรกของเสก โลโซ สุขภาพโดยรวมปกติดี แม้มีโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าตัวยังสามารถพูดคุยและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ได้ตามขั้นตอนอย่างราบรื่น

ทั้งนี้ แสนโพสต์อีกครั้ง ฝากถึงทุกคนในเรือนจำให้ช่วยดูแลเสก พร้อมระบุว่าแม้ใจลึกๆ จะเศร้า แต่ต้องยอมรับความจริงด้วยสติและความเข้มแข็ง เพื่อผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้

สัมผัสเทคโนโลยีแห่งอนาคต!!

 🤖 ร่วมเปิดโลกหุ่นยนต์ และ AI แบบสนุก เข้าใจง่าย ในงาน “หุ่นยนต์ไม่กัด!” 
พบกับเวิร์กช็อปและการบรรยายสุดพิเศษ โดยทีมกูรูจาก FIBO มจธ. 
ที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับเทคโนโลยีแห่งอนาคต พร้อมกิจกรรมมากมาย 
เข้าร่วมฟรีตลอดงาน!.

🚩 กิจกรรมไฮไลต์:
14.30 น. บรรยาย/Show “AI Service Robot หุ่นยนต์บริการอัจฉริยะ"
15.30 น. เสวนา “หุ่นยนต์และ AI เราคุมมัน หรือมันคุมเรา?” และ Talk "เรียนหุ่นยนต์ อนาคตไปไหน?"
17.00 น. เสวนา “จากเกิดจนโต AI ทำอะไรกับลูกคุณบ้าง?”

🚩 กิจกรรมพิเศษ:
13.00 น. โชว์และสาธิตเทคโนโลยี Mixed Reality | HoloLens
15.00 และ 16.30 น. เวิร์กช็อป: ไก่ชน Mobile Robot (รับจำนวนจำกัด!)

⭐️ พบกันวันจันทร์ที่ 2 มิ.ย. 2568 @ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน
▶️ สแกน QR Code เพื่อลงทะเบียนล่วงหน้า

ปากีสถานใช้เทคโนโลยีจีน พลิกเกมรบทางอากาศ Rafale 250 ล้าน ร่วงกลางฟ้า พ่าย J-10CE เละเทะ

(21 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘ลึกชัดกับผิงผิง’ โพสต์ข้อความระบุว่า …

หนังสือพิมพ์ International News ของปากีสถานรายงานล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ.2025ว่า กองทัพอากาศปากีสถานใช้ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศรุ่น PL-15E ในการรบทางอากาศเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 7 พฤษภาคม โดยมีระยะยิงสูงสุดถึง 98 ไมล์ทะเลหรือประมาณ 181 กิโลเมตร และในระยะยิงนี้ ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ PL-15E ได้ยิงเครื่องบินรบดาโซท์ ราฟาล (Dassault Rafale) เครื่องบินรบชั้นสุดยอดของฝรั่งเศสตก

ซึ่งหมายความว่า เครื่องบินรบ J-10CE(歼J-10CE) และขีปนาวุธอากาศสู่อากาศรุ่น PL-15E ที่ผลิตโดยจีน ได้ผนึกกำลังสร้างสถิติการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยกลางที่มีระยะยิงไกลที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์จนถึงปัจจุบัน

การสู้รบทางอากาศระหว่างปากีสถานกับอินเดียในวันที่ 7 พฤษภาคม นับเป็นเทคโนโลยีทางทหารที่ทันสมัยของจีนที่สามารถพิชิตเทคโนโลยีทางทหารที่ทันสมัยของตะวันตก

ปากีสถานใช้เครื่องบินรบ J-10CE ของจีนเป็นหลัก อินเดียใช้เครื่องบินรบระดับสุดยอดของยุโรป อาทิ เครื่องบินรบดาโซท์ ราฟาลของฝรั่งเศส

สิ่งที่น่าทึ่งคือ นี่เป็นการประลองระหว่างเครื่องบินรบอันดับที่ 6 ของจีนกับเครื่องบินรบระดับสุดยอดของยุโรป ผลคือ 0 ต่อ 6 เครื่องบินรบของจีนไม่มีความสูญเสีย ส่วนเครื่องบินรบของยุโรปถูกยิงตก 6 ลำ ในแวดวงทหารอากาศจีนเรียกขาน J-10c ว่า 'เสี่ยวลิ่ว' (小六) แปลว่าน้องชายคนที่ 6 ความหมายคือจัดอยู่อันดับ 6 ของครอบครัวเครื่องบินรบทันสมัยของจีน

J-10c ติดตั้ง 'Active phased array radar' เรดาร์ทันสมัยที่สุดของโลก และติดตั้งขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ PL-15E ฉบับส่งออก ระยะยิงไกลสุด 200 กิโลเมตร ไกลกว่าระยะยิงไกลของขีปนาวุธอากาศสู่อากาศของเครื่องบินรบดาโซท์ ราฟาลหลายสิบกิโลเมตร

J-10CE (ฉบับส่งออก) ขายราคาลำละ 40-50 ล้านเหรียญสหรัฐ

เครื่องบินรบดาโซท์ ราฟาลที่อินเดียซื้อจากฝรั่งเศสนั้น ราคาลำละประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ทางการปากีสถานแถลงข่าวว่า ปากีสถานใช้เครื่องบินรบ J-10CE ยิงเครื่องบินรบระดับสุดยอดของยุโรปที่อินเดียนำเข้าตก 6 ลำด้วยกัน คือ เครื่องบินรบดาโซท์ ราฟาล (Rafale)ของฝรั่งเศส 3 ลำ เครื่องบินขับไล่ Su-30MKI ของรัสเซีย 1 ลำ เครื่องบินรบ MiG-29 ของรัสเซีย 1 ลำ และโดรน Heron ของอิสราเอล 1 ลำ

ปัจจัยสำคัญที่เครื่องบินรบ J-10CE สามารถเผด็จศึกได้ก็คือ จีนสร้างระบบการสู้รบทางอากาศที่ล้ำสมัย และกำลังพิชิตรูปแบบการต่อสู้ทางอากาศของตะวันตก

เมื่อเรดาร์ขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศของปากีสถานตรวจพบเครื่องบินรบของอินเดียก็ล็อกเป้าหมายไว้ แต่ไม่ได้ยิงขีปนาวุธ เพียงแชร์ข้อมูลให้กับเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศรุ่น ZDK-03 เมื่อ J-10CE ได้รับการแจ้งเตือนจาก ZDK-03 (ว่าได้พบเครื่องบินรบของอินเดียลำที่มีปฏิกิริยาจะยิงขีปนาวุธใส่ปากีสถาน) ก็จะยิงขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ PL-15E ที่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ 2 เครื่อง โดยจะเปิดเครื่องยนต์หนึ่งเครื่องก่อน เพื่อบินขึ้นจุดสูงของท้องฟ้า แล้วปิดเรดาร์บินอย่างเงียบๆ โดยมีดาวเทียมนำร่องเป่ยโต่วช่วยนำทาง เรดาร์ของฝ่ายอินเดียจะไม่สามารถตรวจจับได้ เมื่อ PL-15E บินใกล้ถึงเป้าหมายประมาณ 20 กิโลเมตร ก็จะเปิดเครื่องยนต์เครื่องที่สอง เพิ่มความเร็ววิ่งสู่เป้าหมายด้วยความเร็วที่เป็น 4 เท่าของความเร็วเสียง

นักขับเครื่องบินรบของอินเดียยังไม่ทันได้เห็นอะไรเลย และรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นปกติ ก็ถูกยิงตก เพราะเมื่อเรดาร์พบขีปนาวุธ PL-15E ก็มีเวลาเหลือน้อยมากทีเดียว และมีทางเลือกเพียงหนึ่งเดียวคือ กระโดดร่มทันทีเพื่อเอาชีวิตรอด

นี่เป็นการสู้รบทางอากาศที่สายตาของเราไม่อาจจับจ้องได้หรือระยะไกล ที่ต่างจากหนังฮอลลีวู้ด ที่เครื่องบินรบต้องสู้รบกันอย่างดุเดือดในระยะประชิด น่าดู แต่ล้าสมัยแล้ว

อาวุธยุโรปกรณ์ทันสมัยของปากีสถานดังเหล่าล้วนผลิตโดยจีน ปากีสถานนำเข้าจากจีน และเรียนรู้ประสบการณ์จากการซ้อมรบร่วมกับจีน

แล้วการสู้รบทางอากาศดังกล่าวถือเป็นชัยชนะของอาวุธเอเชียต่ออาวุธของยุโรปและตะวันตกครั้งแรกหลังสงครามฝิ่นเป็นต้นมา

หลังการสู้รบทางอากาศครั้งนี้ ราคาหุ้นของบริษัทผู้ผลิต J-10CE ที่เมืองเฉิงตูพุ่งสูงขึ้นกว่า 60% ภายใน 1 สัปดาห์

‘อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย’ ฟาด IMF–ธนาคารโลก ละเมิดพันธกิจ! หนุนเงินสงครามยูเครนแทนฟื้นฟูเศรษฐกิจ

(21 พ.ค. 68) ดมีทรี เมดเวเดฟ รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวอย่างเผ็ดร้อนบนเวที St. Petersburg International Legal Forum โดยย้ำว่าขณะนี้ 'สันติภาพ' ต่างหากคือสิ่งที่จำเป็น ไม่ใช่ 'การหยุดยิงชั่วคราว' กับยูเครน พร้อมตอกย้ำว่ารัสเซียพร้อมเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไข แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของ 'ความเป็นจริงในสนามรบ' และข้อเสนอที่ฝ่ายรัสเซียได้กำหนดไว้

นอกจากกล่าวถึงยูเครน เมดเวเดฟยังออกโรงจวกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลกว่า 'กำลังละเมิดพันธกิจหลัก' ด้วยการอัดฉีดงบประมาณสนับสนุนรัฐบาลยูเครนที่นำไปใช้ในการทำสงคราม มากกว่าฟื้นฟูเศรษฐกิจตามภารกิจดั้งเดิมขององค์กรเหล่านี้ “สิ่งที่พวกเขากำลังทำ ไม่ใช่การช่วยเหลือประเทศที่กำลังฟื้นฟู แต่คือการหล่อเลี้ยงสงคราม” เขากล่าว

เมดเวเดฟยังกล่าวเตือนถึงภัยคุกคามที่อาจขยายวง หากยังมีทหารจากชาติพันธมิตรหรือ 'Coalition of the willing' เข้ามาป้วนเปี้ยนในยูเครน โดยระบุว่าสถานการณ์เช่นนี้จะยิ่งทำให้ความขัดแย้งกลายเป็น 'ภัยคุกคามที่ไม่มีวันจบสิ้น' พร้อมกันนี้ เขายังวิจารณ์ผู้นำยุโรปหลายคนอย่างตรงไปตรงมา อาทิ โบริส จอห์นสัน, เอ็มมานูเอล มาครง และเซอร์คีร์ สตาร์เมอร์ ว่าใช้วิกฤตยูเครนเป็นเครื่องมือทางการเมืองภายในประเทศตัวเอง มากกว่าจะจริงใจในการสร้างสันติภาพ

“นี่คือโอกาสสุดท้ายของยูเครน ที่จะรักษาอนาคตของตัวเองไว้ได้” เมดเวเดฟกล่าวปิดท้าย พร้อมทิ้งข้อเตือนใจถึงฝ่ายที่ยังเลือกใช้กำลังและแรงกดดัน แทนการหาทางออกด้วยสติและการเจรจา

ความหมาย ’วันทยหัตถ์’ ของปธน.ซูบียันโต ต่อในหลวง สะท้อนมิตรภาพและเกียรติยศของผู้เคยผ่านการเป็นทหาร

เพจเฟซบุ๊ก ‘ทหารหลังกองพัน‘ ได้โพสต์ข้อความถึงภาพการทำวันทยหัตถ์ ระหว่างในหลวง และประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ว่า อีกหนึ่งภาพแห่งความประทับใจ ที่หลาย ๆ คนคงได้เห็น ในโอกาสที่นายปราโบโว  ซูบียันโต (Mr. Prabowo Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

และได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต 

ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีภาพการทำวันทยหัตถ์ ในการพบปะระหว่าง ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย กับ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนประธานาธิบดีอินโดนีเซียจะเดินทางกลับ จึงได้ทำวันทยหัตถ์กับในหลวง ซึ่งในหลวงก็ได้ทรงทำวันทยหัตถ์ตอบรับ 

การทำวันทยหัตถ์ (salute) ระหว่างกัน จะเป็นการแสดง มารยาททางทหารและการทูต โดยขึ้นอยู่กับบริบท ดังนี้

ลักษณะของการทำวันทยหัตถ์ระหว่างผู้นำ
• ไม่ใช่การวันทยหัตถ์แบบทหารทั่วไป (เช่น ทหารทำต่อผู้บังคับบัญชา) แต่เป็นการแสดง 'เกียรติสูงสุด' ตามมารยาทระหว่างประเทศ

• กรณีถ้าประธานาธิบดีอินโดนีเซียเคยเป็นทหาร (เช่น ปราโบโว ซูบียันโต) ก็อาจ แสดงความเคารพในรูปแบบทหาร 

• ส่วนในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงเป็นจอมทัพไทย ทรง รับวันทยหัตถ์ ด้วยการพยักหน้า หรือวันทยหัตถ์ตอบในกรณีสมควร

อย่างไรก็ดี ธรรมเนียมของผู้นำทหารระหว่างประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของมารยาททางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพ ซึ่งมีแบบแผนที่ชัดเจน เพื่อแสดง ความเคารพ เกียรติยศ และมิตรภาพระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อผู้นำทหาร หรือผู้นำประเทศที่มีพื้นฐานจากกองทัพ พบกันอย่างเป็นทางการ

‘โอ๋-ฐิติภัสร์‘ ลุยตรวจ บ.ลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ พบเป็นลักษณะโรงงานศูนย์เหรียญ เร่งส่งกลับประเทศต้นทาง

(21 พ.ค.68) นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โพสต์เฟซบุ๊กว่า …ประเทศไทยคุ้มมั้ย???

ทีมสุดซอย ร่วมกับ กรมศุลกากร และมูลนิธิบูรณะนิเวศ ร่วมเปิดตู้สินค้านำเข้าจากอเมริกาที่ท่าเรือแหลมฉบัง สำแดงเป็นเศษอลูมิเนียม แต่เครือข่ายมูลนิธิบูรณะนิเวศที่ต่างประเทศ แจ้งว่ามีการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์

กรมศุลกากรสกัดกั้น และเปิดตู้สินค้าจำนวน 6 ตู้ พบเป็นเศษอลูมิเนียมปนเปื้อนแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ประมาณ 118 ตัน จัดเป็นของเสียอันตรายห้ามนำเข้าเป็นอันขาด 

กรมโรงงานอุตสาหกรรมแจ้งให้ผลักดันกลับประเทศต้นทางภายใน 30 วัน 

กรมศุลกากรดำเนินคดีบริษัท เอ็ม เอช ซี กรุ๊ป ฟรีโซน จำกัด ในฐานะผู้นำเข้าข้อหาลักลอบนำเข้าของเสียวัตถุอันตราย

ทีมสุดซอย ร่วมกับ กรมศุลกากรตรวจสอบบริษัท เอ็ม เอช ซี กรุ๊ป ฟรีโซน จำกัด ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตปลอดอากร (Free Zone) อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

ภายในพื้นที่มีโกดังจำนวน 4 หลัง และกำลังก่อสร้างอีก 2 โกดัง แต่ละโกดังแบ่งพื้นที่สำหรับทำคลังสินค้าและโรงงาน

สอบถามผู้ดูแลแจ้งว่า เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลอดอากรจึงให้บริการเป็นพื้นที่ลักษณะคลังพักสินค้าจากจีน เพื่อรอส่งต่อไปอเมริกา

บางครั้งก็พักสินค้าให้กับมณฑลหนึ่งของจีน เพื่อรอส่งต่อไปยังอีกมณฑลหนึ่งของจีน เพราะถ้าทำแบบนี้ภาษีจะถูกกว่า

บางโกดังขออนุญาตจัดตั้งเป็นโรงงานผลิตอลูมิเนียมระบายความร้อนทีวี บางโรงงานฉีดพลาสติกขึ้นรูปบานพับ บางโรงงานบดย่อยและรีดแผ่นยางส่งออก แต่เครื่องจักร วัสดุ อลูมิเนียม เม็ดพลาสติก ยางนำเข้าจากจีน ทำเสร็จแล้วรอส่งประเทศจีนหรืออเมริกา หรือส่งให้โรงงานอื่นที่อยู่ในเขตปลอดอากรเช่นกัน ลักษณะการประกอบกิจการศูนย์เหรียญ!!! อาจจะเพราะด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประเทศไทยมียอดการส่งออกสูง

กระทรวงอุตสาหกรรม รมว. เอกนัฏ สั่งให้จัดการอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ เพราะถือเป็นโรคร้ายกัดกินระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมภายในประเทศ

ทีมสุดซอยร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ตรวจสอบโรงงานภายในพื้นที่ทั้งหมด 4 โรงงาน มีใบอนุญาตโรงงาน 3 ใบ 3 โกดัง ออกเมื่อช่วงต้นปี 2567 พบมีการขยายเครื่องจักรเกินโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวน 2 โรงงานและพบมีการตั้งและประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก 2 โรงงาน  เจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดและดำเนินคดีตาม พรบ.โรงงาน

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่บูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและกรมศุลกากรที่ตรวจสอบโรงงานในพื้นที่ปลอดอากร (Free Zone) ร่วมกัน หลังจากนี้จะมีความร่วมมือในการตรวจสอบในพื้นที่อื่น ๆ และจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดนำเสนอไปยังผู้บริหารกระทรวง ที่อาจจะต้องทบทวนมาตรการ การกำกับดูแล รวมถึงการอนุญาตให้ตั้งโรงงานในพื้นที่ปลอดอากรด้วยค่ะ

#โอ๋สุดซอย #ทีมสุดซอย #ปฏิรูปอุตสาหกรรม

มอสโกเหน็บแรง!! คว่ำบาตร 16 รอบที่ผ่านมา ‘ยุโรปเจ็บเอง’ แฉเศรษฐกิจ EU เติบโตต่ำ…แค่ 0.9% หลังตัดพลังงานรัสเซีย

(21 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Ethan Hunts’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า …

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย นางมาเรีย ซัคคาโรว่า แถลงสื่อ รัสเซียไม่คาดหวังความสมเหตุผลจากยูเครนอยู่แล้ว เพียงหวังว่า พวกเขา(แก๊งเซเลนสกี้) จะเห็นแก่ความอยู่รอดของคนในประเทศยูเครน

เมื่อถูกถามถึงผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร ครั้งที่ 17 ของอียู ที่กำลังถูกพิจารณา เธอแถลงตอบว่าการคว่ำบาตรรัสเซียของอียูนั้น กระทบภาคประชาสังคม และเศรษฐกิจความเป็นอยู่ของคนในยุโรปมากกว่าที่จะกระทบรัสเซีย (โดยดูจาก 16 ครั้งที่ผ่านมา)

“จากการคว่ำบาตรพลังงานจากรัสเซีย ทำให้อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยของยุโรป มีเพียง 0.9%” เธอแถลงว่ารัสเซีย พร้อมร่วมโต๊ะเจรจา เพื่อหาสันติภาพแก่ ยูเครน-รัสเซีย แต่ต้องขจัดต้นเหตุของความขัดแย้งเสียก่อน และรัสเซียจะไม่ยอมเจรจาภายใต้คำขู่ใด ๆ

อนึ่งมีข่าวจากวอชิงตันโพสต์ในช่วงเดียวกัน ทรัมป์มีแผนขับไล่ผู้อพยพยูเครนที่เข้ามาสหรัฐ จำนวนราว 2 แสนรายออกนอกประเทศ โดยจะใช้เงินจาก กองทุนเงินกู้ที่ให้ยูเครนราว 250 ล้านเหรียญโดยรวมกับเงินล่อใจ จำนวน 1,000 เหรียญให้แก่คนยูเครนที่สมัครใจออกนอกสหรัฐด้วยตัวเอง

ทั้งนี้ ทรัมป์เสนอทางเลือกหากไม่อยากกลับไปรับใช้ชาติ ด้วยการเสนอส่งผู้อพยพไปประเทศที่สาม อาทิ เฮติ, อัฟกานิสถาน, ลิเบีย, ซีเรีย, ซูดานและเยเมน (ทุกประเทศที่กล่าวมาล้วนเสี่ยงลูกหลงสงครามกลางเมืองเกือบทั้งสิ้น)

‘คาซัคสถาน’ จัดคอนเสิร์ตกาล่าวัฒนธรรมครั้งแรกในไทย เชื่อมมิตรภาพผ่านศิลปะ ดนตรี และการเต้นรำพื้นบ้าน

เมื่อวันที่ (17 พ.ค.68) คอนเสิร์ตกาล่า 'Kazakhstan: Rhythm of the Steppe' จัดขึ้นอย่างอลังการ ณ หอประชุม Puey Ungphakorn Centenary Hall มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูตคาซัคสถานประจำประเทศไทยและคณะนักเต้นพื้นบ้าน 'Katyusha' ถือเป็นครั้งแรกที่วัฒนธรรมคาซัคสถานได้เผยแพร่ในรูปแบบคอนเสิร์ตอย่างเต็มรูปแบบในประเทศไทย

ภายในงานดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คน รวมถึงคณะทูต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป โดยมีการแสดงศิลปะพื้นเมืองจากนักเต้นเยาวชนกว่า 200 คน ถ่ายทอดผ่านเครื่องแต่งกายอันวิจิตรงดงาม ดนตรีสดด้วยเครื่องดอมบรา และท่วงท่าการเต้นที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งทุ่งหญ้าคาซัคสถานอย่างลึกซึ้ง

นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังได้ร่วมแสดงระบำพื้นเมืองไทย สร้างภาพสะท้อนแห่งมิตรภาพและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศอย่างงดงาม เอกอัครราชทูตอาร์มัน อีเซตอฟ ได้กล่าวว่าค่ำคืนนี้เป็นการสานสายสัมพันธ์ระหว่างประชาชนด้วยภาษาศิลปะอันไร้พรมแดน

จุดเด่นของคอนเสิร์ตยังรวมถึงการแสดงชุด 'อัคกู', 'อารูลา' และ 'คารา จอร์กา' จากคณะ 'Katyusha' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดวัฒนธรรมคาซัคสถานในไทยมายาวนานกว่า 15 ปี ปัจจุบันมีเยาวชนไทยกว่า 500 คนร่วมเรียนรู้การเต้นพื้นเมือง โดยเฉพาะชุดและเครื่องประดับที่ตัดเย็บอย่างประณีตตามขนบชาติพันธุ์วิทยา เป็นอีกหนึ่งสะพานวัฒนธรรมที่งดงามยิ่งระหว่างสองชาติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top