Monday, 24 June 2024
EducationNewsAgencyforAll

ปฏิทินการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2564 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

รับสมัคร

สอบคัดเลือก (ถ้ามี) 24 - 28 เม.ย. 64

-ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 24 - 27 เม.ย. 64

-เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 24 - 28 เม.ย. 64

จับฉลาก (ถ้ามี) 24 - 28 เม.ย. 64

 

สอบ / คัดเลือก

สอบคัดเลือก (ถ้ามี) 1 พ.ค. 64

-ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 29 เม.ย. 64

-เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 1 พ.ค. 64

 

จับฉลาก

จับฉลาก (ถ้ามี) 6 พ.ค. 64

 

ประกาศผล

สอบคัดเลือก (ถ้ามี) 5 พ.ค. 64

-ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 30 เม.ย. 64

-เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 5 พ.ค. 64

จับฉลาก (ถ้ามี) 6 พ.ค. 64

 

รายงานตัว

สอบคัดเลือก (ถ้ามี) 5 พ.ค. 64

-ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 30 เม.ย. 64

-เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 5 พ.ค. 64

จับฉลาก (ถ้ามี) 6 พ.ค. 64

 

มอบตัว

สอบคัดเลือก (ถ้ามี) 8 พ.ค. 64

-ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 8 พ.ค. 64

-เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 8 พ.ค. 64

จับฉลาก (ถ้ามี) 8 พ.ค. 64

 

รายละเอียดเพิ่มเติม: http://plan.bopp-obec.info/Home/

ทุนการศึกษา ปีการศึกษา 2564 – 2565 สำหรับนักเรียนไทยที่ประสงค์จะเรียนต่อในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก ที่ประเทศอินเดีย

สภาวัฒนธรรมแห่งอินเดียเปิดให้ทุนการศึกษาสำหรับปีการศึกษา 2564 - 2565 สำหรับนักเรียนไทยที่ประสงค์จะเรียนต่อในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก ในสาขาวิชาต่าง ๆ ที่เป็นประเทศอินเดีย ยกเว้น สาขาแพทยศาสตร์ หลักสูตรเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยแพทย์ (อาทิ พยาบาล กายภาพบำบัด ฯลฯ) และแฟชั่น

คุณสมบัติผู้สมัคร

ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ: ผู้สมัครต้องมีทักษะภาษาอังกฤษในระดับที่ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถเข้าใจบทเรียนต่าง ๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ

อายุ: ต้องมีอายุระหว่าง 18 - 30 ปี ณ วันที่มหาวิทยาลัย/ สถาบันของอินเดียตอบรับเข้าศึกษา

ท่านที่สนใจควรเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย / สถาบัน และทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรที่เปิดสอนอย่างละเอียด รวมทั้งคุณสมบัติของผู้สมัคร และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย / สถาบัน ก่อนทำการสมัคร

นอกจากนี้ ผู้สมัครต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่หลักสูตรกำหนดและให้ดำเนินการขึ้นเอกสารที่เกี่ยวข้องตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด (นอกเหนือจากเอกสารที่ระบุในใบสมัครขอรับทุน)

ท่านที่สนใจสามารถทำการยื่นใบสมัครออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ทุน “A2A” (Admissions to Alumni) ที่ http://a2ascholarships.iccr.gov.in/

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำแนะนำในการสมัคร โครงการทุนต่างๆ ข้อมูลโดยย่อของเมืองต่าง ๆ ของอินเดีย รายชื่อและข้อมูลของมหาวิทยาลัย ระเบียบและเงื่อนไขค่าใช้จ่าย คำถามที่พบบ่อยสามารถดูได้จากเว็บไซต์ ผู้สมัครควรอ่านและปฏิบัติตามกรอบเวลาของขั้นตอนการรับสมัครตามเอกสารแนบ

ปิดรับสมัครทางเว็บไซต์ในวันที่ 30 เมษายน 2564 


ที่มา: https://www.facebook.com/156843177716078/posts/3863472347053124/

ปฏิทินการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2564 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เปิดสอน ม.ต้น และ ม.ปลาย

รับสมัคร

นักเรียนที่จบ ม.3 เดิม ตามที่โรงเรียนเดิมกำหนด

สอบคัดเลือก (นักเรียนที่จบ ม.3 จากโรงเรียนอื่น และโรงเรียนเดิม) 24 - 28 เม.ย. 64

- ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 24 - 27 เม.ย. 64

- เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 24 - 28 เม.ย. 64

สอบ / คัดเลือก

นักเรียนที่จบ ม.3 เดิม

สอบคัดเลือก (นักเรียนที่จบ ม.3 จากโรงเรียนอื่น และโรงเรียนเดิม) 2 พ.ค. 64

- ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 29 เม.ย. 64

- เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 2 พ.ค. 64

ประกาศผล

นักเรียนที่จบ ม.3 เดิม ตามที่โรงเรียนเดิมกำหนด

สอบคัดเลือก (นักเรียนที่จบ ม.3 จากโรงเรียนอื่น และโรงเรียนเดิม) 6 พ.ค. 64

-ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 30 เม.ย. 64

-เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 6 พ.ค. 64

รายงานตัว

นักเรียนที่จบ ม.3 เดิม ตามที่โรงเรียนเดิมกำหนด

สอบคัดเลือก (นักเรียนที่จบ ม.3 จากโรงเรียนอื่น และโรงเรียนเดิม) 6 พ.ค. 64

- ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 30 เม.ย. 64

- เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 6 พ.ค. 64

มอบตัว

นักเรียนที่จบ ม.3 เดิม 9 พ.ค. 64

สอบคัดเลือก (นักเรียนที่จบ ม.3 จากโรงเรียนอื่น และโรงเรียนเดิม) 9 พ.ค. 64

- ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 9 พ.ค. 64

- เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 9 พ.ค. 64

รายละเอียดเพิ่มเติม: http://plan.bopp-obec.info/Home/

บทสัมภาษณ์ 'เพียงฝัน นาคสุขไพบูลย์' นักเรียนทุนออทิสติกไทยคนแรก ปริญญาเอกแพทย์ UK

STUDY TALK: เปิดบทสัมภาษณ์ 'เพียงฝัน นาคสุขไพบูลย์' นักเรียนทุนออทิสติกคนไทยคนแรก ปริญญาเอกแพทย์ในอังกฤษ มุ่งมั่นผลักดันสังคมเท่าเทียมเพื่อผู้พิการ ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย

แนะนำตัวให้แฟน ๆ THE STUDY TIMES รู้จักอย่างเป็นทางการสักนิดค่ะ?  

เพียงฝัน นาคสุขไพบูลย์ค่ะ ตอนนี้อายุ 31 ปี กำลังศึกษาระดับปริญญาเอก คณะแพทยศาสตร์ ทำวิจัยเกี่ยวกับมะเร็งลำไส้ ชื่อหัวข้อวิจัยว่า Marie Curie Early Stage Researcher โดยได้รับทุนเต็มจำนวนจากสหภาพยุโรป หลักสูตร SPARK MSCA-COFUND ของมหาวิทยาลัยควีนส์ เบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ สหราชอาณาจักร ตอนนี้ใช้ชีวิตที่สหราชอาณาจักรเป็นหลักค่ะ

คุณเพียงฝันมีคนติดตามทั้งใน ทวิตเตอร์และ Clubhouse จำนวนมาก แปลว่าสนใจข่าวสารและเทคโนโลยีใช่ไหมคะ

ใช่ค่ะ มีความสนใจเกี่ยวกับข่าวสารทุกประเภท ซึ่งมีเรื่องที่สนใจพิเศษคือ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการ และการเข้าถึงบริการสาธารณะ ในฐานะที่ฉันมีความพิการเช่นกัน โดยมีอาการแอสเปอร์เกอร์ (Asperger’s Disorder) ซึ่งเป็นความบกพร่องทางพัฒนาการ จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับออทิสติก

ฉันเห็นว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะต้องมีการถกหรือหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาอย่างกว้างขวางบ่อยครั้งและไปสู่สาธารณะ เพราะว่าเราต้องการให้ทั้งโลกให้พื้นที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่านี้

มองว่าเครื่องมือสื่อสารในยุคนี้อย่าง Twitter และ Clubhouse มีพลังมากไหม อย่างไร?

มีพลังอย่างมากค่ะ เพราะว่าเป็นช่องทางให้ผู้คนได้พูดคุย แลกเปลี่ยนทัศนะเรื่องต่างๆ ในเวลาแค่เสี้ยววินาที ถ้าผู้คนเชื่อในสิ่งที่คุณพูดหรืออุดมการณ์ของคุณ พวกเขาก็จะติดตามคุณและฟังคุณ ฉันคิดว่ามันเยี่ยมมาก อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นดาบสองคม เพราะเราอยู่ในโลกที่ข้อมูลผิดพลาดไปหมด ข่าวปลอมก็เยอะมากด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่ทุกๆ คนจะต้องตรวจสอบข้อมูลทุกสิ่งที่เห็นและได้ยินในโซเชียลมีเดีย และต้องใช้การคิดวิเคราะห์มากกว่าการใช้ความรู้สึกในการรับข่าวสาร

ได้ทุนเรียนมาตลอด ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่า ได้ทุนมาตั้งแต่เรียนชั้นไหน ทุนอะไรบ้าง?

1.) United World Colleges (UWC) scholarship to study at UWC Red Cross Nordic, Norway

2.) Shelby UWC Davis Scholarship, Clark University, MA, United States

3.) SPaRK MSCA COFUND, Queen’s University Belfast, Northern Ireland, United Kingdom.

เห็นว่าผ่านกิจกรรระดับโลกมาเยอะมาก เคยร่วมกิจกรรมอะไรมาบ้างคะ?

1.) ตัวแทนประเทศไทย Telenor Youth Forum and Nobel Peace Prize ปี 2015

2.) ตัวแทนประเทศไทย World Culture forum in Bali Indonesia ปี 2015

3.) กล่าวสุนทรพจน์ TEDxThammasatU talk หัวข้อ “We are differently-abled” ปี 2015.

4.) นักศึกษาฝึกงานที่สถาบันวิจัย The National Museum of Natural History in Washington DC and University of Massachusetts Medical School

5.) ผู้แทนบัณฑิต The University of Birmingham (2017-2018) and สมาชิกสภานักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย  

6.) ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง The 2020’s Falling Walls Groningen, Netherlands

ชอบเรียนหนังสือตั้งแต่เด็กเลยไหมคะ?

ฉันเติบโตมากับการที่หน้าบ้านของเราเป็นร้านหนังสือ ฉันชอบยืมหนังสือนิตยสารอย่าง National Geographic ฉบับภาษาไทย , a Day, Seventeen, คู่ผู้สร้างคู่สม มาอ่าน รวมถึงหนังสือพิมพ์ด้วย ฉันชอบใช้เวลากับอย่างสันโดษไปกับหนังสือ การรักการอ่านเปิดโลกของเราในหลายมิติ หนังสือที่ฉันเลือกอ่านไม่เฉพาะให้ประโยชน์กับเราในทางวิชาการเท่านั้น แต่ทำให้ฉันมองเห็นโลกในมุมมองที่แตกต่างออกไป การอ่านเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีทักษะในการเข้าสังคมได้ด้วย เพราะช่วยให้ฉันสามารถที่จะมีชุดความคิดในการสนทนากับผู้อื่นอย่างชาญฉลาด ทำให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดี รวมไปถึงคนรักของฉันที่กำลังจะแต่งงานกันในเดือนเมษายนนี้เช่นกัน

คิดว่าการศึกษามีความสำคัญกับเราอย่างไร?

พูดเรื่องการศึกษาบ้าง การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ช่วยขับเคลื่อนสังคมและทำให้คุณภาพชีวิตของผู้คนดีขึ้น ซึ่งเราได้รับสิ่งดีๆ ในชีวิตจากการศึกษา หากฉันไม่ได้รับโอกาสการศึกษาในวันนั้น ฉันก็คงไม่มีวันนี้ การศึกษาสำหรับฉัน ไม่ใช่แค่การศึกษาในระบบ แต่รวมถึงการศึกษาจากประสบการณ์การทำงาน การฝึกงาน หรือการศึกษานอกระบบด้วย การศึกษาเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชนที่ทุกคน ทุกเชื้อชาติ ทุกเพศ ทุกวัยสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

การมีภาวะออทิสติก ทำให้การเรียนและความฝันในการชิงทุนยากขึ้นไหมคะ มีวิธีคิดอย่างไร?

คำถามนี้พิกลอยู่นะคะ อาจจะเป็นเพราะขึ้นอยู่กับนโยบายและการให้ทุนในแต่ละประเทศด้วย ถ้าเป็นประเทศไทยฉันก็ไม่รู้ เพราะฉันใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมาตั้งแต่ยังเด็ก อย่างที่สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา จะมีกฎหมายที่ปกป้องไม่ให้ผู้พิการถูกแบ่งแยกออกไป หลักสูตรและนโยบายต่างๆ จึงมีความเท่าเทียมมาก ยกตัวอย่าง https://www.rnib.org.uk/young-people-starting-work/two-tick-symbol ทั้งที่พักอาศัย หรือสวัสดิการอะไรก็ตามที่ควรจะได้ ก็จะสมเหตุสมผลอย่างมาก การใช้ชีวิตเลยไม่ได้ยุ่งยากมากนัก

แต่สำหรับการเรียน แน่นอนว่าฉันใช้ความพยายามมากกว่าคนปกติที่ไม่พิการถึง 5,000 เท่า เพื่อจะแสดงความโดดเด่นในการได้รับทุนการศึกษาแต่ละครั้ง ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงมีเพดานบางอย่างสำหรับผู้หญิง และยิ่งเป็นผู้หญิงที่พิการอย่างฉันก็ยิ่งมีเพดานที่สูงขึ้นไปอีก มีหลายครั้งที่ฉันต้องร้องไห้ที่ได้รับจดหมายปฏิเสธจากหลายมหาวิทยาลัยหรือสถานที่ทำงาน แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการท้าทายฉันให้ทลายเพดานนั้นและทำให้สำเร็จให้ได้ อย่าละทิ้งความพยายามที่จะทำอะไร เพราะอะไร? เพราะฉันได้ทลายเพดานนั้นมาแล้ว ฉันหวังว่าจะเป็นการปูเส้นทางให้คนอื่น กล้าที่จะเดินตามหลังฉันมาเช่นกัน

คุณเพียงฝันเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน ทั้งผู้พิการและผู้มีสภาพร่างกายปกติ อยากให้คุณเพียงฝันให้กำลังใจ สำหรับคนที่กำลังท้อแท้หน่อยค่ะ?

ชีวิตยากค่ะ ไม่มีทางที่จะปฏิเสธมันได้เลย ถ้าฉันปฏิเสธก็แปลว่าฉันกำลังโกหกทุกท่านอยู่ มันจะมีช่วงที่ยากสำหรับทุกคน ทุกที่แตกต่างกันออกไป หายใจเข้าลึกๆ กอดครอบครัวและเพื่อนของคุณ หรือมองหาความช่วยเหลือจากคนที่เชี่ยวชาญกว่า มันไม่ได้น่าอายเลย และจำไว้ว่าอย่ายอมแพ้ วันนี้อาจจะไม่ใช่วันของคุณ มีหลายครั้งที่ไม่ใช่วันของฉันเหมือนกัน แต่วันหนึ่งมันจะมีวันของคุณค่ะ

สำหรับผู้พิการ อย่าให้ความพิการและภาพจำของคนอื่นมาตัดสินคุณ คุณสมควรได้รับสิ่งที่พิเศษเสมอ

มีคติพจน์ประจำใจไหมคะ?

“Today you are You, that is truer than true. There is no one alive who is Youer than You!” — Dr. Seuss

“วันนี้คุณก็คือคุณ นั่นคือความจริงยิ่งกว่าความจริง และไม่มีใครในโลกที่จะเป็นตัวคุณได้ไปมากกว่าคุณ”

คิมแตฮี (Kim Tae Hee) นางเอกที่ผ่านการแสดงมาแล้วมากมาย แถมยังอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน นอกจากความสวยและฝีมือการแสดงแล้ว สมองของเธอก็ไม่ธรรมดา เรียกได้ว่ามีพรสวรรค์ครบทุกด้านจริง ๆ

ใครจะรู้ว่าเจ้าของฉายา ‘นางฟ้าเกาหลี’ คิมแตฮี มี IQ สูงถึง 140 ตอนที่เรียนระดับชั้นมัธยมฯ สอบได้ 100 คะแนนเต็มทุกวิชา และสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้วยคะแนนท็อป 1 ใน 1.5 เปอร์เซ็นต์แรกของผู้เข้าสอบทั้งหมด (คะแนนสอบของเธออยู่ในช่วง 385 - 390 คะแนน จาก 400 คะแนนเต็ม) ซึ่งเธอได้เลือกเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโซล ด้านการออกแบบแฟชั่น

นอกจากนี้ตอนเรียน คิมแตฮียังเป็นทั้งดาวมหาวิทยาลัย และประธานของชมรมสกีของมหาลัย


ที่มา: https://mthai.com/campus/61962.html

คติประจำใจจาก "Bruce Lee" (นักแสดงภาพยนตร์บู๊ ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการป้องกันตัว)

“Life itself is your teacher, and you are in a state of constant learning.” 

“ชีวิตก็เป็นเหมือนครูในตัวของมันเอง และหน้าที่ของคุณคือเรียนรู้อยู่เสมอ”


- Bruce Lee (นักแสดงภาพยนตร์บู๊ ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการป้องกันตัว)

ถ้าพบว่าลูกมีวิธีคิดแบบ Fixed Mindset แม่จะมีวิธีพูดแบบไหน เพื่อสร้าง Mindset ใหม่ให้กับลูก

วิธีพูดเพื่อสร้าง Growth Mindset ลูก ทักษะชีวิตจำเป็นสำหรับความสุข และความสำเร็จในชีวิตลูก ทักษะนี้สามารถสร้างได้ด้วยคำพูดของคนในครอบครัว

ถ้าพบว่าลูกมีวิธีคิดแบบ Fixed Mindset แม่จะมีวิธีพูดแบบไหน เพื่อสร้าง Mindset ใหม่ให้กับลูก

คำพูดสร้าง Growth Mindset เช่น ถ้าลูกพูดว่า หนูไม่ถนัดด้านนี้ พ่อแม่จะบอกว่า หนูลองฝึกให้มากขึ้น หรือ ถ้าลูกพูดว่า หนูยอมแพ้ พ่อแม่จะบอกว่า หนูลองทำด้วยวิธีอื่นดูไหม

ผู้เขียนมีเคล็ดลับ ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สร้าง Growth mindset ให้ลูก ด้วย 3 วิธี ง่าย ๆ

1.) ใช้ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันพูดคุยกับลูกๆ อย่าเอาแต่ส่งข้อความกันแค่ในไลน์กลุ่มครอบครัว

2.) หาจังหวะดี ๆ พูดให้กำลังใจ พูดให้โอกาส พูดให้เกิดความหวัง พูดให้ลูกเชื่อมั่นในตัวเอง

ผู้เขียนมักจะพูดกับลูกติดปากเสมอๆ ว่า "ไม่เป็นไรลูกเอาใหม่" "ไม่มีอะไร ที่เหนือมือเรา" เชื่อแม่ "ลูกทำได้"

3.) พูดชื่นชมความพยายามของลูก แม้นครั้งนั้นอาจจะยังไม่ถึงที่สุดก็ตาม เมื่อชมแล้ว ก็อย่าลืมให้ Feedback ด้วยว่าลูกควรต้องแก้ไขเพิ่มเติมตรงไหน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

เพียงเท่านี้ บรรยากาศภายในบ้านก็เต็มไปด้วยพลังบวกแล้วค่ะ


เขียนโดย อ.นิธิมา กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากร โปรเฟสชั่นนอล เทรนเนอร์

#Talktonitima

ปฏิทินการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2564 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เปิดเฉพาะ ม.ปลาย (ยกเว้นโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา)

รับสมัคร

สอบคัดเลือก 24 - 28 เม.ย. 64

- ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 24 - 27 เม.ย. 64

- เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 24 - 28 เม.ย. 64

สอบ / คัดเลือก

สอบคัดเลือก 2 พ.ค. 64

- ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 29 เม.ย. 64

- เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 2 พ.ค. 64

ประกาศผล

สอบคัดเลือก 6 พ.ค. 64

- ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 30 เม.ย. 64

- เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 6 พ.ค. 64

รายงานตัว

สอบคัดเลือก 6 พ.ค. 64

- ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 30 เม.ย. 64

- เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 6 พ.ค. 64

มอบตัว

สอบคัดเลือก 9 พ.ค. 64

- ความสามารถพิเศษ (ถ้ามี) 9 พ.ค. 64

- เงื่อนไขพิเศษ (ถ้ามี) 9 พ.ค. 64

รายละเอียดเพิ่มเติม: http://plan.bopp-obec.info/Home/

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผนึกต่างชาติ เปิดตัว 42 Bangkok สถาบันโปรแกรมเมอร์แห่งแรกของไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิทัล ฉีกทุกกฎการเรียนรู้แบบไร้ข้อจำกัด ใน 3 แนวคิดหลัก “ไม่มีอาจารย์ ไม่มีปริญญา ไม่มีค่าเทอม”

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ย้ำบทบาท “ผู้นำความเปลี่ยนแปลง” พร้อมผนึกต่างชาติ เปิดตัว “42 บางกอก” (42 Bangkok) สถาบันโปรแกรมเมอร์แห่งแรกของไทย และแห่งที่ 3 ของเอเชีย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิทัล การันตีด้วยมาตรฐานการสอนระดับโลก ที่พร้อมฉีกทุกกฎการเรียนรู้แบบไร้ข้อจำกัด ใน 3 แนวคิดหลัก “ไม่มีอาจารย์ ไม่มีปริญญา ไม่มีค่าเทอม” รุดสร้างจุดเปลี่ยนระบบการศึกษาไทยยุคใหม่ ขานรับนโยบายโค้ดดิ้งของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หนุนศักยภาพคนไทย พร้อมรับโลกการทำงานยุคดิจิทัล

ทั้งนี้ “42 บางกอก” เน้นการเรียนรู้จริงปฏิบัติเป็น และแก้ปัญหาร่วมกันเป็นกลุ่ม ผ่านการฝึกคิดแก้โจทย์จริงจากภาคธุรกิจชั้นนำด้านคอมพิวเตอร์-เทคโนโลยี แบบเป็นขั้นตอน-ไต่ระดับจากง่ายไปยากใน 21 ระดับ โดยปัจจุบัน 42 บางกอก อยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้เรียนเข้าศึกษาต่อในเทอมแรก และจะเริ่มเรียนในเดือน กรกฎาคม 2564

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ เร่งผลักดันนโยบาย “ส่งเสริมการเรียนภาษาคอมพิวเตอร์” (Coding) ภายใต้ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0) เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วยนวัตกรรม (Digital Disruption) ที่มุ่งปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพของคนไทยในทุกช่วงวัย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี

อีกทั้งสามารถปรับตัวเข้าสู่โลกการทำงานยุคดิจิทัลได้เต็มศักยภาพ สู่การมีทักษะสำคัญอย่างน้อย 6 ด้าน ได้แก่ ทักษะการอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์อย่างสร้างสรรค์ มีเหตุมีผล คิดเชิงคณิตศาสตร์ และการแก้ไขปัญหาอย่างมีหลักการ

โดย สจล. ถือเป็นต้นสถาบันการศึกษาแห่งอนาคตของไทย ที่มีหัวคิดทันสมัยและปรับตัวได้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง ภายใต้ความร่วมมือของ “เอกอล 42” (Ecole42) สถาบันปั้นโปรแกรมเมอร์ระดับโลก เพื่อพัฒนาคนคุณภาพด้านโปรแกรม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิทัล อันสอดรับกับนโยบายดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม

“ไม่มีอาจารย์ ไม่มีปริญญา ไม่มีค่าเทอม”

ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า สจล. เล็งเห็นถึงความสำคัญและโอกาสของการมี “ซุปเปอร์โปรแกรมเมอร์” เนื่องจากอาชีพดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในเทรนด์อาชีพที่เป็นที่ต้องการจากทุกองค์กรทั่วโลก อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงโลกดิจิทัล

ดังนั้น การจัดตั้ง “42 บางกอก” (42 Bangkok) สถาบันปั้นโปรแกรมเมอร์ระดับหัวกะทิ แห่งแรกอาเซียน และที่ 3 ของเอเชีย ถือเป็นสนามปั้นสุดยอดโปรแกรมเมอร์ ระดับซิลิคอนวัลเลย์ (Silicon Valley) ภายใต้มาตรฐานการสอนเดียวกับสถาบันต้นกำเนิดจากกรุงปารีส ฝรั่งเศส ที่ฉีกทุกกฎการเรียนรู้แบบไร้ข้อจำกัด “ไม่มีอาจารย์ ไม่มีปริญญา ไม่มีค่าเทอม” นับเป็นจุดเปลี่ยนแรกของการศึกษาไทย ที่เปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เปิดโลกการทำงานระดับสากล ภายใต้เครือข่ายเอกอล 42 ทั่วโลก

อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่า “แท้จริงแล้วการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดเฉพาะรูปแบบการสอนเดิมเท่านั้น แต่สามารถก้าวสู่โลกการทำงานสายดิจิทัลได้อย่างมืออาชีพ” ตอกย้ำการเป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลง (Change Maker) ของ สจล. โดยแท้จริง

สอนในรูปแบบ Project Based Learning ที่เน้นการเรียนรู้จริงปฏิบัติเป็น และแก้ปัญหาร่วมกันเป็นกลุ่ม

ผศ. ดร.ชัยยันต์ เจตนาเสน ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายต่างประเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และ Executive Director of 42 Bangkok กล่าวเพิ่มเติมว่า “42 บางกอก” มีการเรียนการสอนในรูปแบบ Project Based Learning ที่เน้นการเรียนรู้จริงปฏิบัติเป็น และแก้ปัญหาร่วมกันเป็นกลุ่ม ผ่านการฝึกคิดแก้โจทย์จริงจากภาคธุรกิจชั้นนำด้านคอมพิวเตอร์-เทคโนโลยี แบบเป็นขั้นตอน ซึ่งจะไต่ระดับจากง่ายไปยากใน 21 ระดับ โดยการเรียนในระยะแรก ผู้เรียนจะต้องเรียนการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น และเมื่อเลื่อนขั้นแล้ว ผู้เรียนจะสามารถเลือกทำโปรเจกตามความสนใจ ซึ่งในบางระดับต้องไปฝึกงานเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อสั่งสมประสบการณ์ในสนามจริง

ทั้งนี้ เมื่อทำโปรเจกสำเร็จในแต่ละระดับ จะมีคะแนนสะสมเพื่อขอเลื่อนขั้นในระดับต่อไปได้ จนกระทั่งจบการศึกษาภายในระยะเวลา 2-4 ปี เพื่อสร้างประสบการณ์ทำงานจริง โดยจะปูพื้นฐานด้วยภาษา C และ C++ พร้อมเพิ่มพูนทักษะด้วย Python Javascript เพื่อสร้างเว็บไซต์ หรือกระทั่งทำงานออกแบบเว็บไซต์ (Design) ให้มีฟังก์ชันที่รองรับการงานรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อ 1.00 p.m. 3/26/2021)

“เพราะการเรียนที่ 42 บางกอก เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง ไม่มีอาจารย์สอน ไม่กำหนดเวลาเรียน ดังนั้น กระบวนการคัดเลือกผู้เรียนจึงมีการทดสอบแบบเข้มข้นใน 3 ด่านสำคัญ คือ ทดสอบออนไลน์ (Online Test) เพื่อวัดว่ามีตรรกะด้านการเขียนโปรแกรม ยืนยันสิทธิ์ (Check In) และ ด่านสุดท้าย ทำค่ายโปรเจก เวิร์คชอป (Piscine) การทำงานร่วมกันเป็นทีมแบบ 24/ 7 เป็นเวลา 4 สัปดาห์ ซึ่งเทียบเท่าการเรียนหลักสูตรปริญญาตรี 2 ปี ในคณะสายคอมพิวเตอร์ สำหรับในรอบนี้จะคัดเลือกในแต่ละกลุ่มเพียง 150 คน เพื่อเป็นนักศึกษาตัวจริงที่จะได้เรียนใน 42 บางกอก”

“สำหรับคุณสมบัติของผู้เรียนค่อนข้างเปิดกว้าง โดยเป็นบุคคลทั่วไป ไม่จำกัดเพศ มีอายุอย่างน้อย 18 ปี ไม่ต้องมีวุฒิการศึกษาหรือเคยเรียนเขียนโปรแกรมมาก่อน ขณะเดียวกัน คนที่กำลังศึกษาด้านอื่นหรือทำงานอยู่ก็สามารถเรียนควบคู่ไปได้ และเมื่อเข้ามาเรียนได้ก็สามารถกำหนดรูปแบบการเรียนด้วยตนเองได้ ทั้งนี้ ปัจจุบัน 42 บางกอก อยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้เรียนเข้าศึกษาต่อในเทอมแรก ซึ่งมีผู้สมัครจากทั่วโลกเป็นจำนวนมากกว่า 1,600 คน ครอบคลุม 81 ประเทศ โดยจะเริ่มเรียนในเดือน กรกฎาคม 2564” ผศ. ดร.ชัยยันต์ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียด หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.42bangkok.com หรือติดต่อ สำนักงานกิจการต่างประเทศ สจล. โทรศัพท์ 02-329-8140 เว็บไซต์ www.kmitl.ac.th หรือ https://www.facebook.com/42Bangkok/


ที่มา: https://techsauce.co/news/kmitl-open-42-bangkok-thailand-first-programmer-institute?fbclid=IwAR3H2pXKs4SYk3M8XLiSVHjIlSiOPXu5HL0Y1WLuiBQz0OpsWrBAwCdWMuo


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top