Monday, 24 June 2024
EducationNewsAgencyforAll

โรงเรียนใน จ.กาฬสินธุ์ ประกาศรับสมัครครูอัตราจ้าง สอนภาษาอังกฤษและคอมพิวเตอร์ ให้ค่าตอบแทน เงินเดือน 5,000 บาท ชาวเน็ตเผยเหตุผลครูอัตราจ้างไม่ได้กำหนดเรตเงินเดือนจากกระทรวง ใช้เงินบำรุงของโรงเรียนจ้างกันเอง

ในโลกออนไลน์มีการแชร์ประกาศของโรงเรียนน้อยดอนข่าประชาสามัคคี อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่แจ้งการเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นลูกจ้างชั่วคราว โดยมีอัตราค่าตอบแทนเงินเดือน 5,000 บาท ทำชาวเน็ตแห่วิจารณ์มองสมัครงานพาร์ทไทม์ยังได้เงินเดือนเยอะกว่านี้

ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดของประกาศโรงเรียนน้อยดอนข่าประชาสามัคคี เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นลูกจ้างชั่วคราว นั้น ทางโรงเรียนได้เปิดรับสมัคร 2 ตำแหน่ง ได้แก่ 1.) ครูอัตราจ้าง กลุ่มวิชาคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 อัตรา และ 2.) ครูอัตราจ้าง กลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 1 อัตราโดยมีอัตราค่าตอบแทน เงินเดือน 5,000 บาท

หากผู้ประสงค์จะสมัครขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ โรงเรียนน้อยดอนข่าประชาสามัคคี อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันที่ 1 - 7 เมษายน 2564 เวลา 09.00 - 16.00 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)

หลังจากประกาศดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปนั้น เกิดเสียงวิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างมาก ทั้งมองว่า ไม่คุ้มค่ากับการเรียนจบมา เพราะถึงแม้หักเสาร์อาทิตย์หารแล้ว จะได้รายได้วันละ 250 ขณะที่ การทำงานพาร์ทไทม์ไม่ใช้วุฒิยังได้อย่างต่ำก็ 450 บาท

นอกจากนี้ ชาวเน็ตรายหนึ่งได้เข้ามาอธิบายเพิ่มเติมถึงอัตราเงินเดือนดังกล่าว โดยระบุว่า "พวก รร.ไกลๆจะมีแบบนี้ ต่ำสุดที่เคยทราบ 3,000 บาท ครูอัตราจ้างไม่ได้กำหนดเรตเงินเดือนจากกระทรวง ให้ใช้เงินบำรุงของโรงเรียนจ้างกันเอง เงินเดือนครูอัตราจ้างบางที่ เป็นงบส่วนตัวที่ผอ.หรือครู ในรร.ลงขันกันมาจ้างครูให้ครบวิชา ครบชั้น หวังให้คนบ้านใกล้มาสมัคร"

ขณะที่อีกรายแสดงความเห็นไปในแนวทางเดียวกันว่า "เรื่องจริงโรงเรียนต่างจังหวัดของสพฐ. ครูอัตราจ้างของโรงเรียนประมาณ 4,000 ขึ้นไป แต่ทำงานหนักมาก"

อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลของโรงเรียนน้อยดอนข่าประชาสามัคคี ปีการศึกษา 2563 มีนักเรียน 65 คน จึงอาจเป็นส่วนที่ทำให้เงินอุดหนุนในการจ้างครูอัตราจ้างมีน้อย


ที่มา: http://https://www.tnnthailand.com/news/socialtalk/75907/?fbclid=IwAR3kj9dVSDdjMrOPn6bV2dhesJp2U2IFfgnhHhsjDKPJs9_NPDVD530hIT8

มาทำความรู้จัก ระดับภาษาจีนระบบใหม่ ที่เพิ่งประกาศออกมา บังคับใช้โดยกระทรวงศึกษาธิการจีน ที่เรียกว่า "ระบบ 3 ขั้น 9 ระดับ" เป็นอย่างไร ไปดูกัน

ระดับภาษาจีนระบบใหม่ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการจีน

แบ่งเป็น 3 ขั้น

1.) ภาษาจีนขั้นต้น

2.) ภาษาจีนขั้นกลาง

3.) ภาษาจีนขั้นสูง

แต่ละขั้นแบ่งเป็น 3 ระดับ

1.) ภาษาจีนขั้นต้น แบ่งเป็น ภาษาจีนระดับ 1 - 3

2.) ภาษาจีนขั้นกลาง แบ่งเป็น ภาษาจีนระดับ 4 - 6

3.) ภาษาจีนขั้นสูง แบ่งเป็น ภาษาจีนระดับ 7 - 9

ระบบนี้เรียกว่า "3 ขั้น 9 ระดับ"

ขั้นต้น - ระดับที่ 1 คำศัพท์ 500 คำ ไวยากรณ์ 48 รูป

ขั้นต้น - ระดับที่ 2 คำศัพท์ 1272 คำ (+772) ไวยากรณ์ 129 รูป (+81)

ขั้นต้น - ระดับที่ 3 คำศัพท์ 2245 คำ (+973) ไวยากรณ์ 210 รูป (+81)

ขั้นกลาง - ระดับที่ 4 คำศัพท์ 3245 คำ (+1000) ไวยากรณ์ 286 รูป (+76)

ขั้นกลาง - ระดับที่ 5 คำศัพท์ 4316 คำ (+1071) ไวยากรณ์ 357 รูป (+71)

ขั้นกลาง - ระดับที่ 6 คำศัพท์ 5456 คำ (+1140) ไวยากรณ์ 424 รูป (+67)

ขั้นสูง - ระดับที่ 7 – 9 ในขั้นสูงนี้จะไม่แบ่งคำศัพท์ รูปแบบไวยากรณ์ ออกเป็นแต่ละระดับ แต่จะเน้นที่ความสามารถในการใช้ภาษา โดยภาษาจีนขั้นสูงจะมีวงคำศัพท์และไวยากรณ์ ดังนี้

คำศัพท์ 11092 คำ (+5636)

ไวยากรณ์ 572 รูป (+148)

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

https://www.facebook.com/485179341678716/posts/1540254432837863/?sfnsn=mo

คติประจำใจจาก "Helen Keller" (นักเขียน และนักมนุษยธรรมชาวอเมริกัน ผู้พิการทั้งตาบอดและหูหนวกตั้งแต่อายุ 19 เดือน)

“A well-educated mind will always have more questions than answers.” 
.
“จิตใจที่มีการศึกษาดี มักจะมีคำถามมากกว่าคำตอบเสมอ”


- Helen Keller (นักเขียน และนักมนุษยธรรมชาวอเมริกัน ผู้พิการทั้งตาบอดและหูหนวกตั้งแต่อายุ 19 เดือน)

วิธีรับมือกับเรื่องไม่คาดคิด บริหารอารมณ์ให้นิ่งก่อนเผชิญปัญหา แชร์วิธีง่าย ๆ ที่ใช้ได้ผลจริง ทำให้เราสามารถก้าวข้ามปัญหา และสามารถพาชีวิตเติบโตแบบก้าวกระโดด

ทำไมหลายคนแก้ปัญหาชีวิตตัวเองไม่ได้ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องง่ายๆ ก็คงจะเหมือนผงเข้าตานั่นแหละค่ะ ที่ต้องให้คนอื่นเขี่ยออก

ถ้าคุณเคยสังเกต คุณก็จะรู้ว่าปัญหา มาจาก "การขาดสติในการตอบโต้ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" นั่นเอง

วันนี้ผู้เขียน ขอแชร์วิธีง่าย ๆ ที่ใช้ได้ผลจริง

ผู้เขียนค้นพบคีย์สำคัญ ที่ทำให้เราสามารถก้าวข้ามปัญหา และสามารถพาชีวิตเติบโตแบบก้าวกระโดด

เห็นด้วยไหมคะว่า เมื่ออารมณ์ของเราไม่คงที่ เราจะแก้ปัญหาไม่ได้

มี 2 วิธีปรับอารมณ์ ให้เป็นปกติก่อนแก้ปัญหา

1.) จงทำในเรื่องที่สวนทางกับความรู้สึกในตอนนั้น

2.) ตอบโต้ให้ช้าลง แล้วทุกอย่างจะเบาลง

เช่น เจอสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด คุณตกงาน คุณถูกเลิกจ้าง สภาวะตอนนั้น ใจคุณสั่น ไม่ปกติ คุณโกรธ บ่น ด่า อาฆาต แค้น ของขึ้น เลือดขึ้นหน้า

เกิดคำถามมากมายตามมา เพราะอะไร ทำไมต้องเป็นคุณ เต็มหัว ความกลัวความกังวล ว้าวุ่น ความเครียด ความรู้สึกไม่มั่นคง โทษสิ่งรอบตัว ตีโพยตีพาย

ความคิดคุณตอนนั้น ถ้าเดาไม่ผิด คุณอยากเดินไปหาเจ้านาย ขอคุยตรง ๆ ทะเลาะเพื่อหาเหตุผล เอาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง

คุณลองทำในสิ่งตรงข้ามดูสิ

- สูดลมหายใจลึก ๆ เรียกสติ ยอมรับความจริง มองอย่างเข้าใจ

- คิดใหม่ในมุมที่แตกต่าง "ถึงเวลาที่คุณจะได้หาประสบการณ์ใหม่แล้วสินะ ดีเลยได้ทำในสิ่งที่ท้าทาย ไม่แน่อาจดีกว่าเดิม ถ้าผ่านไปได้คุณจะเติบโตขึ้นอีกหนึ่งขั้น นั่นถือว่าเป็นสิ่งที่ดี

- จากนั้นก็เริ่มต้นจากสิ่งที่คุณมี ไม่ใช่มองแต่สิ่งที่คุณขาด

แค่นี้คุณก็ไปต่อได้แล้ว

วิธีก้าวข้ามเหตุการณ์ที่คุณไม่คาดคิด

ได้แก่ เหตุการณ์ที่คุณไม่อยากให้เกิด แต่มันดันเกิด กับเหตุการณ์ที่คุณอยากให้เกิด แต่มันก็ไม่เกิด

จริง ๆ แล้ว เรื่องต่าง ๆ มันก็เกิดขึ้นตามปกติของมัน ที่กลายเป็นปัญหา ก็เพราะใจของคุณรับไม่ได้ มันจึงกลายเป็น "ปัญหา"

ถ้าคุณต้องการปลดล็อคปัญหา ก็แค่ ปรับใจของคุณให้ "ยอมรับความจริง" ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น คุณพอใจหรือไม่พอใจก็ตาม ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว "จงยอมรับมันซะ" ขอย้ำว่า จงละทิ้งความพอใจและไม่พอใจลง แค่นั้นก็หมด "ปัญหา"

หลายคนอาจพูดว่า มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก แต่มันก็ไม่ยากเกินไปไม่ใช่หรอคะ

ข้อคิดสำหรับวันดี ๆ "ทุกอย่างจบลงที่ใจ❤️" "ยอมรับมันซะ" จากนั้น ตั้งสติ ปรับใจให้ปกติ ตั้งเป้าหมาย แก้ไขไปทีละเรื่อง อดทนเข้าไว้

ขอให้ทุกท่านเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต

ขอเป็นกำลังใจ


เขียนโดย อ.นิธิมา กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากร โปรเฟสชั่นนอล เทรนเนอร์

#Talktonitima

คติประจำใจจาก "Albert Einstein" (นักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก)

“It’s not that I’m so smart, it’s just that I stay with problems longer.”
.
“ฉันไม่ได้ฉลาด เพียงแต่ขบคิดถึงปัญหาต่างๆ ยาวนานขึ้นเท่านั้น”


- Albert Einstein (นักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก)

นางเอกสาวหน้าหวาน ‘แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์’ ที่นอกจากจะแสดงละครเข้าถึงทุกบทบาท โด่งดังเป็นนางเอกแถวหน้าของวงการบันเทิงไทย แถมยังร้อง เล่น เต้น เก่ง! ใครจะรู้ว่าเรื่องเรียนของเธอก็ไม่ธรรมดา เรียกได้ว่าสวยเก่งครบเครื่อง!!

แต้ว ณฐพร เลือกเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะว่าเห็นคุณแม่ที่เป็นสถาปนิกมาตั้งแต่เด็ก และนอกจากนั้นเธอยังเป็นคนที่ชอบแต่งบ้าน อ่านหนังสือแต่งบ้านมาตั้งแต่เด็ก เลยมุ่งมั่นว่าถ้าจะเรียนก็ขอเลือกที่จะเรียนทางด้านนี้ดีกว่า

ตอนสอบแต้วเลือกคณะสถาปัตยกรรมเป็นอันดับหนึ่ง แต่ก็มีนิเทศศาสตร์ บริหารธุรกิจ เลือกไว้เหมือนกัน แต่ด้วยความตั้งใจ เธอก็เข้าศึกษาที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้สำเร็จ

นอกจากนั้นในสมัยที่เธอเป็นนิสิตที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอยังได้รับเกียรติสูงสุดให้เป็นผู้อัญเชิญตราพระเกี้ยวของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 66 แต่ถึงแม้จะเป็นสาวกิจกรรม แต่เรื่องการเรียนของเธอนั้นไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ เพราะเธอสามารถเรียนจบมาด้วยเกียรตินิยมอันดับสองเลยทีเดียว

ที่สำคัญบ้านหลังใหม่ของสาวแต้ว ก็ได้ใช้ความถนัดออกแบบด้วยตัวเอง ดีไซน์แต่ละมุมของบ้านออกมาซะสวยงามเลย


ที่มา: https://www.sanook.com/campus/1399835/

ข่าวดีสำหรับคนที่อยากเรียน สาย Computer Engineering ในมหาวิทยาลัยท็อประดับโลก “Carnegie Mellon University” มหาวิทยาลัย อันดับ 1 ด้าน Computer Engineering

พบกันที่งาน Open House CMKL Thailand 
เปิดรับสมัคร นักศึกษาปริญญาตรี
Bachelor of Engineering in AI & Computer Engineering (AiCE), CMKL Thailand 
เปิดโอกาสให้ นักเรียนภาคไทยและอินเตอร์ ระดับชั้น ม.4 - ม.6, Year 11 - 13 UK, GRADE 10 - 12 US  และผู้ปกครอง ที่สนใจมองหามหาวิทยาลัยที่เน้นด้านนวัตกรรม และงานวิจัย AI, Data Science, Cybersecurity มหาวิทยาลัยที่มีอุปกรณ์การเรียนรู้และงานวิจัยที่ล้ำสมัยรองรับการศึกษาของโลกยุคใหม่
แล้วพบกันในงาน Open House 
อาทิตย์ที่ 25 เม.ย. 64
เวลา 10.00 - 12.00 น.
ที่ The Newton Sixth Form (สยามสแควร์ ซอย 6)
ลงทะเบียนเข้าร่วม Open House ด่วน ที่นั่งจำนวนจำกัด!
https://share.hsforms.com/1Y09JoivMR3a4gG-8SoC53g3ietv
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website: aice.cmkl.ac.th
Tel: 065-429-2454
Line: @thenewtonsixthform


ที่มา: https://www.facebook.com/1837277359682399/posts/3823122377764544/?sfnsn=mo

วันจักรี ตรงกับวันที่ 6 เมษายนของทุกปี เนื่องมาจากเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ทรงเสด็จปราบดาภิเษกขี้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และเป็นวันครบรอบการก่อตั้งราชวงศ์จักรี 

ความสำคัญของวันจักรี

วันจักรี (Chakri Memorial Day) คือ วันที่ระลึกถึงมหาจักรีบรมราชวงศ์ เป็นวันที่ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจักรีบรมนาถ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี 

อีกทั้งยังเริ่มก่อสร้างพระนครแห่งใหม่ในนาม กรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร์ ที่นับว่าเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ถัดจากกรุงธนบุรี ซึ่งเมื่อครั้งที่กรุงธนบุรีเป็นราชธานีนั้น มีอาณาบริเวณรวมทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เป็นเมืองหลวงที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง 

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเปลี่ยนนามใหม่ จาก กรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร์ เป็น กรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ ซึ่งช่วงเวลาตั้งแต่ก่อตั้งกรุงเทพมหานครฯ เมื่อปี พ.ศ. 2325 มักเรียกกันว่า สมัยรัตนโกสินทร์ เช่นเดียวกันกับที่เคยเรียกยุคสมัยที่ผ่านมาในสยาม 

นอกจากนั้น ในวันที่ 6 เมษายน ซึ่งเป็นวันจักรีของทุกปี รัฐบาลยังได้ประกาศเป็นวันหยุดราชการ แต่หากในปีใดที่วันจักรีตรงกับวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ก็ให้หยุดชดเชยได้ในวันทำการวันต่อไป


ขอบคุณที่มา: http://event.sanook.com/day/chakriday/

โรงเรียนช่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ประกาศรับสมัคร นรช. ประจำปีการศึกษา 2564 เพิ่มเติมอีกจำนวน 2 หลักสูตร

1️.) หลักสูตรช่างเฉพาะทาง (ปฏิบัติการระบบไฟฟ้า) - ปบ.

รับสมัคร วุฒิ ปวส. (ไฟฟ้า/ไฟฟ้ากำลัง) จำนวน 67 คน

2️.) หลักสูตรช่างเฉพาะทาง (ก่อสร้างและปฏิบัติการระบบไฟฟ้า) - กป.

รับสมัคร วุฒิ ปวส.(ไฟฟ้า/ไฟฟ้ากำลัง) จำนวน 105 คน

ศึกษารายละเอียดได้ที่ peaevs.thaijobjob.com

โทรศัพท์ 02-009-6058, 02-590-5592, 02-590-5596-9


ที่มา: https://www.facebook.com/PEAEVS/posts/4232200336832166

กศน. ให้โอกาส คนทุกกลุ่ม ทุกฐานะ! เผยมุมมองผู้ปกครอง ที่ส่งลูกเรียนมาเลเซีย ควบคู่การศึกษาไทยระบบ กศน. ชั้นประถมศึกษา แนะ กศน. เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Pornpichit Samaktham เผยมุมมอง กศน. เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม จากใจผู้ปกครอง ที่ส่งลูกเรียนในมาเลเซีย ควบคู่การศึกษาไทยระบบ กศน. ชั้นประถมศึกษา โดยมีข้อความว่า…

"เมื่อลูกเรียนกศน."

เขียนจากประสบการณ์ตรง เพื่อให้ความรู้กับเด็กคนอื่นๆที่ด้อยโอกาส และหาโอกาส

กศน.มี 3 ระดับ

ประถม มัธยมต้น และ มัธยมปลาย

การเรียนการสอน ระดับละ 2 ปี หรือ 4 เทอม

ลูกสาวผมคือกลุ่มที่หาโอกาส ไม่ใช่กลุ่มด้อยโอกาส

เมื่อจบ ป.5 จากโรงเรียนสาธิต จากฝั่งธน สังกัด การอุดมศึกษา

ผมอยากให้ได้ภาษาอังกฤษ และภาษาจีนตอนเด็กๆจะได้ไม่ลืม เลยให้ไปเรียนที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลย์เซีย

และไม่คิดว่าจะกลับมาเรียนระบบไทยอีกแล้ว แต่ฉุกคิดว่าถ้าไม่เอาระบบไทยไว้ วันข้างหน้าทางเลือกไปอินเตอร์อย่างเดียวกลับเข้าระบบไทยไม่ได้แล้ว

ศึกษาทางเลือกระบบไทยไว้ เเละเลือก กศน.ตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เหมาะที่สุด คือตั้งอยู่ที่ด่านนอกอ.สะเดา ใกล้รัฐปีนัง ที่สุด และเงื่อนไขลงตัวที่สุด ที่สำคัญที่สุด #วันสอบ ต้องไปเข้าสนามสอบเท่านั้น

ลูกสาว เรียนจบ ป.5 จากกรุงเทพ ทำให้โอนได้ ใช้เวลาเรียนแค่ปีเดียว หรือ2เทอม

เงื่อนไขการรับเด็กเข้ากศน. อย่างน้อยต้องอายุ 16 ปี

ลูกสาวผมอายุแค่ 10 ขวบ จะต้องลาออกจากระบบปกติก่อน ที่เขตการศึกษากรุงเทพมหานคร

และต้องมีใบส่งตัว ไปยังกศน.ปลายทาง

ส่วนเด็กที่อายุถึง16 ปี ไม่ยุ่งยากสมัครได้เลย

กศน.สะเดา จังหวัดสงขลา มีเด็กจากทุกศูนย์ตำบล ประมาณ 1,200 คน ประกอบด้วยเด็กตัดยาง เด็กขายของ เด็กมุสลิมที่ไม่ได้เรียนระบบไทย เด็กติดยา หมอนวดจากฝั่งมาเลย์(ไม่ได้ดูถูกอาชีพ)และอื่นๆ

ส่วนใหญ่เรียนม.ต้นและ ม.ปลาย ส่วนระดับประถม มีแค่ 4 - 5 คน เอง

ตอนนี้ลูกผมเปลี่ยนใจกลับเรียนระบบไทยโชคดีที่ได้เรียน กศน.เลยมีวุฒิป.6 ไว้สมัครสอบม.1ได้

ครูที่รับสมัครงงๆกับวุฒิกศน.เหมือนกัน 555

การศึกษาให้โอกาสทุกคน

แนะนำว่า กศน.เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมมาก


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=3112313205459308&id=100000419775371


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top