Monday, 24 June 2024
EducationNewsAgencyforAll

‘มหิดล’ พัฒนาระบบการเรียนการสอน สู่ระบบออนไลน์มาตรฐานสากล เร่งพัฒนาการศึกษาไร้พรมแดน พร้อมนำระบบการเรียนการสอนแบบ hybrid เพิ่มทางเลือกการเรียนให้กับนักศึกษา เดินหน้าสู่ 1 ใน 100 มหาวิทยาลัยอันดับโลก

รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรเนติ สุขสมบูรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากวิกฤติ COVID-19 มหาวิทยาลัยมหิดลได้ปรับการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 เป็นระบบออนไลน์ 100% จนภาคการศึกษานี้ได้มาปรับสู่รูปแบบผสมผสาน หรือ hybrid ที่เปิดให้นักศึกษาได้เลือกเรียนทั้งในชั้นเรียน และระบบออนไลน์

ซึ่งจากการประเมินการเรียนการสอนวิชา มมศท 100 การศึกษาทั่วไปเพื่อการศึกษามนุษย์ ซึ่งเปิดให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยมหิดลได้เรียนแบบผสมผสาน จากทั้งหมดจำนวนกว่า 3,000 ราย มีนักศึกษาสนใจเข้าเรียนในชั้นเรียนจำนวนประมาณ 900 ราย โดยใช้การเช็คชื่อผ่านแอปพลิเคชัน We Mahidol เพื่อการตรวจสอบพื้นที่ปลอดภัย ลดเสี่ยง COVID-19

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมหิดลยังได้จัดให้มีสถานที่ พร้อมอุปกรณ์สำหรับนักศึกษาที่เลือกเรียนออนไลน์ในทุกวิทยาเขต โดยที่พื้นที่ศาลายา นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลสามารถเรียนออนไลน์ได้จากที่บ้าน หอพักนักศึกษา หอสมุดและคลังความรู้ฯ ห้องบรรยาย 1 - 2 คณะวิทยาศาสตร์ อาคารสิริวิทยา และที่ห้อง Mini Theater (MU Cyber Club) ซึ่งให้บริการโดย กองเทคโนโลยีสารสนเทศ (MUIT) ณ บริเวณ ชั้น 2 อาคารศูนย์การเรียนรู้มหาวิทยาลัยมหิดล (MLC)

และกำลังจะมีการปรับพื้นที่บริเวณชั้นลอยของอาคาร MLC เพื่อเป็นสถานที่รองรับการเรียนออนไลน์ หรือการศึกษาด้วยตัวเอง ตามโครงการ Mahidol Digital Convergence University (Mahidol DCU) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

มหาวิทยาลัยมีนโยบายในการผลักดันตัวเองสู่ 1 ใน 100 มหาวิทยาลัยอันดับโลก เพราะฉะนั้น การจัดการเรียนการสอนออนไลน์ของมหาวิทยาลัยมหิดล จึงเป็นไปตามแนวทางของมาตรฐานในระดับโลก โดยมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาระบบการเรียนการสอนกับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก ในลักษณะของการ “Train the Trainer” อาทิ มหาวิทยาลัยแมคควอรี่ (Macquarie University) ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนทั้งด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีคณาจารย์ที่ผ่านการอบรมแล้วจำนวน 3 รุ่น และจะมีการจัดอบรมอีกในปีนี้อีก 3 รุ่น

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมหิดล ยังได้ร่วมสัมมนาเครือข่าย AUN Technology Enhance Personalize Learning (AUN-TEPL) กับอีก 2 มหาวิทยาลัย ได้แก่ Singapore Management University (SMU) ประเทศสิงคโปร์ และ University of Malaya (UM) ประเทศมาเลเซีย อีกด้วย รวมทั้งจะมีการยกระดับคุณภาพทางการศึกษาออนไลน์ เข้าสู่ระบบการรับรองมาตรฐานสากล เพื่อเป็นต้นแบบทางการศึกษาออนไลน์ในระดับอุดมศึกษาของประเทศไทยต่อไป

และเพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการพัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน มหาวิทยาลัยมหิดล ยังได้จัดให้มี campaign เพื่อการจัดกิจกรรมเพื่อการส่งเสริมการเรียนการสอนออนไลน์ในโครงการต่างๆ อาทิ โครงการรางวัลการสอนออนไลน์ โครงการส่งเสริมการวิจัยการเรียนการสอนออนไลน์ โครงการบันทึกวีดิทัศน์ การบรรยายในรูปแบบ Video on demand หัวข้อ Digital Teaching Tools สำหรับอาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล และโครงการอบรมการจัดการเรียนการสอนและพัฒนาบทเรียนออนไลน์แบบ MOOC & SPOC สำหรับคณาจารย์และบุคลากรมหาวิทยาลัยมหิดล อีกด้วย

ต่อไปมหาวิทยาลัยมหิดลจะเปิดรายวิชาพื้นฐานให้ทุกคนได้เรียนออนไลน์ เพื่อเป็น Credit Unit Bank ที่สามารถใช้เทียบโอนได้ต่อไปในอนาคต ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้การเข้าถึงทางการศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดลมีเพิ่มมากขึ้น


ที่มา: https://www.thansettakij.com/content/strategy/473654

ปฏิทินการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนที่มีลักษณะพิเศษ

รับสมัคร

โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับเด็กพิการ 24 – 30 เม.ย. 64

โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส 24 – 28 เม.ย. 64

สอบ / คัดเลือก

โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส 30 เม.ย. – 4 พ.ค. 64

ประกาศผล

โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับเด็กพิการ 8 พ.ค. 64

โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส 8 พ.ค. 64

รายงานตัว

โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับเด็กพิการ ภายใน 15 พ.ค. 64

โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส ภายใน 15 พ.ค. 64

มอบตัว

โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับเด็กพิการ ภายใน 15 พ.ค. 64

โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส ภายใน 15 พ.ค. 64

รายละเอียดเพิ่มเติม: http://plan.bopp-obec.info/Home/

 

นายกรัฐมนตรี ห่วงใยนักศึกษาไทยที่จะไปเรียนในต่างประเทศ โดยสั่ง 2 กระทรวงหลัก "สาธารณสุข - การต่างประเทศ" ประสานฉีดวัคซีนให้ เพื่อป้องกันโควิด-19 ในประเทศต่าง ๆ

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จัทร์โอชา มีความห่วงใยนักศึกษาไทยที่เรียนอยู่ในต่างประเทศ แต่ยังไม่สามารถกลับไปเรียนต่อได้ เช่น นักศึกษาไทยในประเทศจีน ที่คาดว่าจะมีประมาณ 1,000 คน จึงได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข ทำงานร่วมกันเพื่อดูแลในเรื่องการจัดการฉีดวัคซีนแก่นักศึกษาทุกคน 

ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าได้จัดเตรียมวัคซีนและสถานที่ที่ สถาบันบำราศนราดูร เพื่อดำเนินการฉีดวัคซีนไว้แล้ว เหลือเพียงการรวบรวมและจัดระบบข้อมูล และกระบวนการอำนวยความสะดวกแก่นักศึกษา ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการอยู่ ขอให้นักศึกษาสบายใจ และรัฐบาลจะแจ้งให้ทราบถึงวันที่ให้เริ่มไปรับการฉีดวัคซีน ที่จะมีให้เร็ว ๆ นี้ 


ที่มา: https://www.nationtv.tv/main/content/378819622

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ (มฉก.) ลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ พัฒนาหลักสูตรเกี่ยวกับธุรกิจจีน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ และนักศึกษา นำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในการค้าการลงทุนกับจีน

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถาบันความร่วมมืออุตสาหกรรมไทย-จีน ภายใต้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เห็นถึงความสำคัญและมุ่งมั่นในการพัฒนาโอกาสและช่องทางการตลาดกับประเทศจีน จึงได้ร่วมมือกันพัฒนาหลักสูตรของสถาบันฯ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถให้กับสมาชิก ผู้ประกอบการ อาจารย์และนักศึกษา ในด้านการขายและกระจายสินค้าในตลาดจีน สภาพแวดล้อม วัฒนธรรม ช่องทางการตลาด กฎหมาย การแบ่งปันความรู้จากผู้มีประสบการณ์จริง รวมถึงความรู้ด้านภาษาจีน

รองศาสตราจารย์ ดร.อุไรพรรณ เจนวาณิชยานนท์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะส่งเสริมความเข้มแข็งในเชิงวิชาการซึ่งเป็นทฤษฎี และความลงตัวในเชิงปฏิบัติที่ต้องอาศัยผู้ประกอบการจริง จะทำให้ผลสัมฤทธิ์เกิดแก่เศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งในมิติของการเพิ่มขีดความสามารถและการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ การลงนามในวันนี้ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่จะทำให้เกิดสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมไทย ซึ่งจะเชื่อมโยงไปสู่ประเทศจีนต่อไปในอนาคต

นายวีรชัย มั่นสินธร ประธานสถาบันความร่วมมืออุตสาหกรรมไทย-จีน ส.อ.ท. กล่าวเสริมว่า สถาบันความร่วมมืออุตสาหกรรมไทย-จีน ส.อ.ท. และ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ จะร่วมกันพัฒนาหลักสูตรออนไลน์ Cross Border E-commerce China: CONNECT และเป็นที่ปรึกษาในส่วนการเปิดหลักสูตรภาษาจีนธุรกิจที่เกี่ยวกับ E-commerce และหลักสูตรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เพื่อช่วยเหลือสมาชิกผู้ประกอบการในการเปิดตลาดในประเทศจีนให้มีความรู้ทางด้านวิชาการและสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติใช้ได้จริง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสมาชิก ผู้ประกอบการ บุคลากร อาจารย์ นักศึกษา เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการค้าการลงทุนกับประเทศจีนต่อไป

เรื่องราวสุดน่ารัก เมื่อครูจัดทำ ‘เกียรติบัตรทำดี’ มอบให้แก่นักเรียนชั้น ป.2 แม้ว่าจะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่น การแบ่งปัน การจับปูนา รักครอบครัว กระทั่งเป็นดีเจน้อยให้โรงเรียน

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวสุดน่ารักที่ถูกแชร์กันไปมากมายในโลกออนไลน์ สำหรับอาจารย์ท่านหนึ่งของโรงเรียน บ้านค้อปัญญานุสรณ์ ที่ได้ทำการมอบเกียรติบัตรทำดีให้แก่นักเรียนชั้นป.2 จำนวน 20 คน

โดยทางคุณครูโพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ‘มอบเกียรติบัตรทำดีให้กับนักเรียน ชีวิตคนๆ หนึ่ง ไม่ได้ดีทั้ง 100% แต่จงเลือกเอาสิ่งที่ดีเขามีอยู่ เป็นประโยชน์ต่อโลกบ้างยังน่าดู‘ พร้อมทั้งโพสต์ภาพนักเรียนและเกียรติบัตรต่าง ๆ มากมาย

บอกเลยว่าแต่ละเรื่องที่ทางโรงเรียนมอบให้เด็ก ๆ นั้นสุดปัง แถมยังสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็ก ๆ อีกด้วย เช่น ขุดปูนาเก่ง แบ่งปันผลไม้ให้เพื่อน ๆ และครู ให้เพื่อนยืมดินสอ รักครอบครัว รวมไปถึงเป็นดีเจน้อยให้แก่โรงเรียน

งานนี้ชาวเน็ตต่างพากันออกมาชื่นชมทั้งคุณครูและนักเรียน ว่าเป็นความคิดที่ดีมาก ทำให้นักเรียนภาคภูมิใจ และเห็นคุณค่าของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่เรียกรอยยิ้มได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก ราชวัตร ป้องนางไชย
ที่มา: https://www.brighttv.co.th/social-news/school-cute
 

กสศ. ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมงานประชุมเสวนาหัวข้อ “การจัดการศึกษาและคุ้มครองเด็กเร่ร่อนอย่างเป็นองค์รวมและบูรณาการ

กสศ. ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมงานประชุมเสวนาหัวข้อ “การจัดการศึกษาและคุ้มครองเด็กเร่ร่อนอย่างเป็นองค์รวมและบูรณาการ” โดย นพ.เบอร์เบิร์ต ควีลอน คาร์พิโอ) ผู้อำนวยการบริหาร Childhope Philippines Foundation

ร่วมวงเสวนาพร้อมกันในวันพุธที่ 7 เมษายน 2564 เวลา 13.00 - 15.00 น.

โดยสามารถลงทะเบียนจาก QR Code ในภาพเพื่อรับชมผ่านระบบ zoom หรือรับชม Facebook live @EEFthailand และ @EEF Inter-Forums


ที่มา: https://www.facebook.com/EEFthailand/photos/a.150078585026159/4313601662007143/?type=3

รับสมัครตัวแทนประเทศไทยในโครงการ Thailand Pavilion Ambassador ในงาน World Expo 2020 ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เยาวชนไทย รวมถึงคนไทยที่มีความรู้ความสามารถและกล้าแสดงออก ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน World Expo 2020 Dubai ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อคว้าประสบการณ์ระดับโลก พร้อมเป็นตัวแทนแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยในฐานะ Thailand Pavilion Ambassador

งาน World Expo ถือเป็น 1 ใน 3 ของงานยิ่งใหญ่ระดับโลก ที่ประเทศต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลก ร่วมนำเสนอเอกลักษณ์และความภาคภูมิใจของชาติ ซึ่งในครั้งนี้ World Expo 2020 Dubai จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก “Connecting Minds, Creating the Future—เชื่อมความคิด สร้างอนาคต”

โดยประเทศไทยจัดแสดงนิทรรศการในหัวข้อ “Mobility for the Future—การขับเคลื่อนสู่อนาคต” แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของไทยในการพัฒนาเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีดิจิทัลในภูมิภาค ภายใต้พื้นฐานทางวัฒนธรรมและการต้อนรับอย่างอบอุ่นของคนไทย ที่ผู้เข้าชมทุกคนจะได้สัมผัสตลอดการเข้าชมอาคารแสดงประเทศไทยในครั้งนี้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครได้เลยที่ https://www.expo2020dubaithailand.com/th/news/thailand-pavilion-ambassador/?fbclid=IwAR2TxPZTkXgsCihDEi98vYqk0-i8sSnIE6ElV7jug4bDfgXDdgwbP62iXVw

ระยะเวลาเปิดรับสมัคร: วันนี้ - 20 พฤษภาคม 2564

เป็นอาสาสมัครในโครงการ Thailand Pavilion Ambassadors แล้วได้อะไร? ตามมาดูกัน!

"ได้" ประสบการณ์สุดล้ำค่า

งาน World Expo เป็นงานมหกรรมระดับโลกที่ทุกๆ 5 ปี โดยแต่ละปีจะมีการหมุนเวียนประเทศเจ้าภาพผู้จัดงาน ในปีนี้ World Expo 2020 Dubai ถือเป็นหนึ่งใน World Expo ครั้งประวัติศาสตร์ที่จัดขึ้นครั้งแรกใน MENA (กลุ่มประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ) แน่นอนว่าอาสาสมัครที่ได้รับคัดเลือกไปทำงานกับอาคารแสดงประเทศไทยในครั้งนี้ จะได้รับทั้งประสบการณ์การทำงานบนเวทีระดับโลก ประสบการณ์ชีวิตในการทำงานต่างประเทศ และได้สร้างมิตรภาพกับเพื่อนต่างชาติจากกว่า 194 ประเทศ!!

"ได้" บินฟรี! พร้อมวีซ่า!

อาสาสมัครที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับทั้งวีซ่า และตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ฟรี เพื่อเดินทางไปปฏิบัติงาน ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่จัดงาน

"ได้" ที่พักฟรี

อาสาสมัครจะได้รับที่พักฟรีตลอดการทำงาน เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปปฏิบัติงานที่อาคารแสดงประเทศไทย

"ได้" ค่าตอบแทน!

อาสาสมัครอาคารแสดงประเทศไทยจะได้รับค่าต่อแทนรายเดือนที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และการการใช้ชีวิตในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตลอดระยะเวลาการทำงาน แถมถ้าใช้เงินดีๆ ยังได้มีเงินเก็บหลังจบงานอีกด้วย!

สุดท้าย ถ้าอยาก "ได้" ให้ครบทุกข้อ ต้องรีบสมัครเข้ามาเลย ตามลิ้งก์นี้

https://www.expo2020dubaithailand.com/en/news/thailand-pavilion-ambassador/?fbclid=IwAR2qEUsPVKRs9ItDc4VDULo_KiGf3KX8jYMr1GQYn2slzvf1cKZBuLGp8kA


ขอบคุณที่มา:

https://www.expo2020dubaithailand.com/th/news/thailand-pavilion-ambassador/?fbclid=IwAR2TxPZTkXgsCihDEi98vYqk0-i8sSnIE6ElV7jug4bDfgXDdgwbP62iXVw

https://www.facebook.com/1819156718355063/posts/2899648833639174/?d=n

นักศึกษาปริญญาเอก ชาวไทย ร่วมกับทีมนักดาราศาสตร์ MIT ค้นพบกาแล็กซีใหม่ โดยรวบรวมข้อมูลจากกล้องดูดาว จากหลายสถานีมาวิเคราะห์

กลุ่มนักดาราศาสตร์ MIT ค้นพบกาแล็กซีใหม่ โดยรายงานนี้เพิ่งได้รับการเปิดเผย!!

โดยหนึ่งในทีมนักดาราศาสตร์ MIT และเป็นผู้ค้นพบกาแล็กซีใหม่นี้ คือคนไทย ซึ่งเป็นนักศึกษาปริญญาเอก นายทวีวัฒน์ สมบูรณ์ปัญญากุล หนึ่งในนักวิจัย ซึ่งอุทิศเวลาทำงานวิจัยปริญญาเอกมาทำการวิจัยที่ชื่อว่า การสำรวจ CHiPS กับสถาบันวิจัย McDonal’s เขาเริ่มจากการที่รวบรวมข้อมูลของกลุ่มดวงดาวในรอบทศวรรษมาวิเคราะห์ และใช้ข้อมูลจากสถานีวิเคราะห์ดาราศาสตร์ที่ฮาวายและนิวเม็กซิโก รวมถึงที่สถานีแมกเกลเลน ที่ชิลี

หลังจาก 6 ปีผ่านไป ของโครงการสำรวจ CHiPS ในวันนี้ The Astrophysical Journal ได้เผยแพร่การสำรวจของนายทวีวัฒน์ สมบูรณ์ปัญญากุล ว่าในที่สุดก็พบกลุ่มกาแล็กซีใหม่ ชื่อว่า CHIPS1911+4455 โดยกลุ่มนักวิจัยเชื่อว่ากลุ่มกาแล็กซีกลุ่มนี้ เปิดจากการชนกระแทกกันของกลุ่มกาแล็กซีหลายคลัสเตอร์

“การค้นพบครั้งนี้เป็นปรากฏการณ์ที่ใหม่และมีเอกลักษณ์มากที่สุดในการค้นพบกลุ่มกาแล็กซีเท่าที่เราเคยเจอ” นายทวีวัฒน์ สมบูรณ์ปัญญากุล นักวิจัยผู้ค้นพบกลุ่มกาแล็กซีใหม่ กล่าว

อ่านข่าวเต็มได้ที่: https://news.mit.edu/2021/mit-astronomers-discover-new-galaxy-clusters-hiding-plain-sight-0326?fbclid=IwAR12o1USCBGMARR4bAskHnwkhy1gWDyqYQ1thMfE8qBD9M8z7gY2Npa8jHs


ที่มา: https://www.facebook.com/161553413908645/posts/4086193508111263/

'THE PILLARS' สถาบันการศึกษาที่มุ่งสานฝันให้กับนักเรียน ที่ต้องการจะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ ให้บริการปรึกษาและวางแผนการเรียน รวบรวมครูผู้เชี่ยวชาญและมากด้วยประสบการณ์ ในสาขาวิชาต่าง ๆ

สำหรับน้อง ๆ คนไหน ที่กำลังมองหาสถาบันการศึกษาเพื่อต่อยอดเข้าเรียนภาคอินเตอร์ ขอแนะนำ THE PILLARS สถาบันการศึกษาที่มุ่งสานฝันให้กับนักเรียนที่ต้องการจะเข้าศึกษาต่อ ในมหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ ให้บริการปรึกษาและวางแผนทางการเรียนทั้งหมด และยังได้รวบรวมครูผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและมากด้วยประสบการณ์ ในสาขาวิชาต่าง ๆ เพื่อให้การเรียนการสอนประสบความสำเร็จสูงสุด ภายในเวลาอันรวดเร็ว!!

ขอบอกว่านอกจากเรื่องการเรียนที่เข้มข้นแล้ว ที่นี่เขาอยู่กันแบบครอบครัว บรรยากาศแสนอบอุ๊นอบอุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนพี่ดูแลน้อง เพื่อนดูแลเพื่อน ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย!!

The Pillars Keystone to Your Success

- ช่วยวางแผนการเรียนให้ตรงกับรอบสอบ

- พัฒนาความรู้ในวิชาต่าง ๆ

- พร้อมข้อสอบที่แม่นยำ

- การันตีคะแนนผ่านชัวร์

The Pillars มุ่งเน้นเรื่องการทำให้ความฝันของนักเรียนประสบความสำเร็จเป็นหลัก ซึ่งจะให้ความสำคัญในเรื่อง

- ช่วยวางแผนการสอบและการเตรียมตัวสอบเป็นรายบุคคล

- พัฒนานักเรียนในด้านภาษาอังกฤษ รวมถึงวิชาที่ใช้ในการสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อหลักสูตรนานาชาติ อาทิ SAT (Math & Verbal), SAT subject test, IELTS, CU-AAT, CU-TEP, CU-ATS, GED และ IGCSE

- ข้อสอบที่แม่นยำก่อนสอบ ซึ่งไม่สามารถหาได้จากที่อื่นมากกว่า 2,000 ข้อ

- การคาดคะเนว่าข้อสอบ SAT subject test วิชาไหนง่ายวิชาไหนยาก ในแต่ละรอบ

- ครูที่มีประสอบการณ์สูง และเป็น expertise โดยเฉพาะ

The Pillars ได้รวบรวมครูเฉพาะทางที่มากด้วยประสบการณ์สอนในแต่ละวิชา พร้อมด้วยทีมงานที่มีความรู้และเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาและวางแผน

คอร์สเรียน ของ The Pillars

1.) SAT Test แบ่งเป็น ALL IN ONE, Real Practice, SAT Math Newborn, SAT Math Enhanced

2.) SAT II Subject Test แบ่งเป็น Physics 1-3, Chemistry 1-3, Math II 1-3, Biology 1-2

3.) IELTS

4.) BioMedical Admissions Test

The Pillars มี 3 แพลตฟอร์มในการเรียน ได้แก่ แบบกลุ่มใหญ่ ไม่เกิน 10 คน กลุ่มย่อยไม่เกิน 5 คน และเรียนตัวต่อตัว

The Pillars มีความเชื่อว่าบรรยากาศการเรียนการสอนที่อบอุ่น เปรียบเสมือนพี่ดูแลน้อง เพื่อนดูแลเพื่อน จะทำให้นักเรียนกล้าที่จะเข้าหาครู และกล้าที่จะถามในส่วนที่ไม่เข้าใจ ส่งผลให้มีความสุขในการเรียน The Pillars จึงเปรียบเสมือนบ้านและครอบครัวที่ทำให้ทุกคนประสบความสำเร็จ

นอกจากการเรียนการสอนที่เข้มข้น The Pillars ยังได้มีการจัดกิจกรรมให้แก่นักเรียนทุกปี อาทิ กิจกรรม New Year Party ไปเที่ยว Dream world และกินเลี้ยง บอกแล้วว่าที่นี่เค้าอยู่กันแบบครอบครัวอบอุ่นจริง ๆ


The Pillars รวบรวมเอาข้อมูลทางสถิติมาใช้วางแผนการสอบในแต่ละรอบ ทำให้นักเรียนรู้ว่าต้องสอบวิชาไหนในและช่วงเวลาใด ถึงจะเหมาะสมที่สุด เพื่อให้ได้คะแนนตามที่คาดหวังไว้

บรรยากาศกิจกรรมสอบใหญ่ของ The Pillars Mock Test SAT & SAT SUBJECT TEST เพื่อให้นักเรียนเตรียมตัวก่อนสอบจริง


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

เว็บไซต์: https://www.thepillars-edu.com/

IG: https://www.instagram.com/thepillarsedu/?hl=en

LINE: https://page.line.me/thepillarsedu?openQrModal=true

กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ผนึก 6 หน่วยงาน ร่วมทำ MOU พัฒนาคนพิการด้านการศึกษา และการมีงานทำ ขยายโอกาสตามมาตรฐานหลักสูตร ยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงาน

น.ส.สราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) โครงการ “พัฒนาคนพิการด้านการศึกษาและการมีงานทำ” เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาวิชาชีพของคนพิการในจังหวัด ตามหลักสูตรมาตรฐานการศึกษาและอาชีพ รวมถึงมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ

เพื่อยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานให้เทียบเท่ากับบุคคลทั่วไป รวมถึงส่งเสริมระบบการพัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ ภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานด้านการศึกษา อาชีพ และสังคม เพื่อให้คนพิการสามารถประกอบอาชีพช่วยเหลือตนเอง อยู่ร่วมกับครอบครัว เป็นที่ยอมรับในสังคมอย่างมีคุณค่า

โดยกำหนดเปิด 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาวิชาช่างยนต์ โดยในปีการศึกษา 2564 นำร่องเปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ณ ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน จังหวัดเชียงใหม่ ต่อไป

พิธีเอ็มโอยูดังกล่าว เป็นความร่วมมือของหน่วยงานด้านการศึกษา อาชีพ และสังคม 6 หน่วยงาน ได้แก่ ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน จ.เชียงใหม่, วิทยาลัยเทคนิคสันกำแพง จ.เชียงใหม่, สำนักงานจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่, สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 19 เชียงใหม่, โรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ และโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จ.เชียงใหม่

น.ส.สราญภัทร กล่าวว่า ในส่วนของศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน จังหวัดเชียงใหม่ มีหน้าที่ยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนพิการและครอบครัวมีอาชีพ รายได้ และปรับตัวในสังคมอย่างเป็นสุขและเท่าเทียม โดยการพัฒนาหลักสูตรที่ตอบสนองสมรรถนะของคนพิการเป็นรายบุคคลเพื่อให้มีความรู้สามารถเพิ่มมากขึ้น (Up Skill) และยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานให้เทียบเท่ากับบุคคลทั่วไป เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนพิการสามารถประกอบอาชีพช่วยเหลือตนเอง อยู่ร่วมกับครอบครัว เป็นที่ยอมรับในสังคมอย่างมีคุณค่า


ที่มา: https://mgronline.com/politics/detail/9640000030938


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top