Sunday, 5 May 2024
BTS

ย้อนดูความร้อนแรงของ BTS ตลอดทั้งปี 2020

ยิ่งใหญ่ได้อีก สำหรับบอยแบนด์แห่งยุค BTS เรียกว่าปี 2020 เป็นปีของพวกเขาก็ว่าได้ ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน นิตยสารทรงอิทธิพลอย่าง TIME ก็ได้ออกมามอบรางวัล Entertainer of the year ให้กับ BTS ซึ่งไม่มีข้อกังขาใดๆ กับความเจ๋งของพวกเขา วันนี้เราเลยอยากจะมาย้อนดูความแรงของ 7 หนุ่มตลอดทั้งปี 2020 ไปดูกันว่า พวกเขาสร้างความยิ่งใหญ่อะไรไว้บ้าง 

เริ่มตั้งแต่ต้นปี มีการจัดงานประกาศรางวัล “34th Golden Disc Awards” ซึ่งจัดขึ้นที่โกซอก สกายโดม โดยงานนี้จัดขึ้นเพื่อฉลองให้กับความสำเร็จของศิลปินเกาหลีใต้ที่ทำยอดขายและผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่ง BTS ก็สามารถคว้ารางวัลแดซัง (รางวัลใหญ่) ได้ถึง 2 รางวัล และรางวัลบนซัง (รางวัลยอดจำหน่ายเพลงผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) อีกหลายรางวัล

.

เดือนเมษายน พวกเขาก็ปล่อย Studio Album ล่าสุด MAP OF THE SOUL : 7 โดยบีทีเอสได้เล่าว่า เลข 7 หมายถึง เมมเบอร์ 7 คน และเป็นห้วงเวลา 7 ปีตั้งแต่เดบิวต์ผลงานกันมา ซึ่งเนื้อหาของอัลบั้มนี้ ได้สะท้อนเรื่องของเมมเบอร์หรือตัววงออกมาเป็นอย่างมาก 

.

กระทั่งเข้าสู่ช่วงเดือนพฤษภาคม ในการจัดงาน Kids’ Choice Awards ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการจัดงานมอบรางวัลผ่านหน้าจอออนไลน์ โดย BTS ก็สามารถคว้ารางวัลสำคัญ Favorite Music Group มาครอง

เข้าสู่เดือนมิถุนายน มีการเปิดเผยข้อมูลสถิติและยอดขายของทาง Nielsen Music ซึ่งเป็นระบบที่จัดเก็บข้อมูลของอุตสาหกรรมดนตรีอเมริกา พบว่า  Map of the Soul: 7 อัลบั้มเต็มลำดับที่ 4 ของ BTS สามารถจำหน่ายไปได้มากถึง 1.417 ล้านยูนิตในช่วงครึ่งปีแรก ที่สำคัญ ยังแซงหน้าอัลบั้มยอดขายดีตลอดกาลอย่าง Abbey Road ผลงานมาสเตอร์พีซของ Beatles ที่เคยถูกจำหน่ายในจำนวน 1.094 ล้านยูนิตไปเรียบร้อย

.

ตุลาคมที่ผ่านมา BTS ก็สามารถคว้ารับรางวัล Top Social Artist (ศิลปินยอดนิยมบนโลกโซเชี่ยล) เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ในเวทีการแจกรางวัล Billboard Music Awards 2020 

และในเดือนพฤศจิกายน BTS ก็ยังคงเก็บเกี่ยวความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง คว้าอีก 2 รางวัล บนเวที American Music Awards 2020 ซึ่งรายการนี้จัดขึ้นเพื่อยกย่องศิลปินและอัลบั้มยอดนิยมของปี 2020 โดยบอยแบนด์จากเกาหลีใต้สามารถคว้ารางวัล Favorite Duo or Group – Pop/Rock (เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน) และรางวัล Favorite Social Artist (เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน)

.

และในงานงานประกาศผลรางวัล “2020 MTV Europe Music Awards” ครั้งที่ 27 BTS ก็ยังสามารถกวาดรางวัลมาครองได้มากถึง 4 รางวัลด้วยกัน ได้แก่ Best Song, Best Group, Biggest Fans และ Best Virtual Live

เข้าสู่ธันวาคม ในงานประกาศรางวัล 2020 Mnet Asian Music Awards หรือ 2020 MAMA ซึ่งศิลปิน BTS ก็กวาดรางวัลไปได้อีกมากมาย โดยแบ่งเป็นรางวัลเเดซัง (รางวัลใหญ่) 4 สาขา ประกอบไปด้วย รางวัล Artist of the Year, Song of the Year, Album Of The Year และ Worldwide Icon of the Year พร้อมด้วยรางวัลอื่น ๆ อีก ได้แก่ รางวัล Best Male GroupBest Dance Performance – Male GroupBest Collaboration, Best Music Video และรางวัล Worldwide Fans’ Choice Top 10 

.

และไม่กี่วันมานี้ Rolling Stone นิตยสารเเละเว็บไซต์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ก็ได้เผย 50 เพลงจากทั่วโลกที่ดีที่สุดในปี 2020 โดย BTS ติดอยู่ในอันดับที่ 7 จากเพลง Dynamite ซิงเกิลภาษาอังกฤษเพลงแรกของพวกเขา ซึ่งถูกปล่อยออกมาเมื่อเดือนสิงหาคม แถมยังสามารถสร้างประวัติศาสตร์ เป็นศิลปินจากเกาหลีใต้วงแรกที่สามารถขึ้นอันดับ 1 บน Billboard Hot 100 ได้สำเร็จอีกด้วย

ปิดท้ายล่าสุด (แต่คงไม่ใช่ท้ายสุด) BTS ได้รับรางวัล Entertainer of the year หรือรางวัลศิลปินแห่งปี จากนิตยสาร TIME ไปครอง เป็นการจัดอันดับโดยนิตยสาร TIME ที่จะมอบรางวัลประจำปีให้กับบุคคลในแต่ละสาขาอาชีพ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของนิตยสารผู้ทรงอิทธิพลฉบับนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 เป็นต้นมา

ตามไปชมคลิปการโชว์เพลง Dynamite ซิงเกิ้ลเพลงภาษาอังกฤษของพวกเขา ที่โชว์ให้กับนิตยสาร TIME ได้ในลิ้งค์นี้กันเลย

https://time.com/entertainer-of-the-year-2020-bts/?utm_campaign=person-of-the-year&utm_source=line_app&utm_medium=social

 

สมาคมอุตสาหกรรมดนตรีญี่ปุ่น (RIAJ) รับรองเพลง ‘Dynamite’ ของศิลปิน BTS ขึ้นระดับ Platinum ในประเภทสตรีมมิ่ง หลังจากที่เพลงมียอดสตรีมมากกว่า 100 ล้านครั้ง ด้าน TWICE ไม่น้อยหน้า ก้าวสู่ระดับ Gold และ Silver หลายเพลง

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Recording Industry Association of Japan (RIAJ) ได้ใช้ระบบการรับรองใหม่สำหรับการสตรีมเพลงออนไลน์ นอกเหนือจากระบบการรับรองที่มีอยู่แล้วจากการจัดส่งอัลบั้มจริงและการขายแบบดิจิทัล ตามระบบใหม่เพลงจะได้รับการรับรองระดับ Silver เมื่อมียอดสตรีมถึง 30 ล้านสตรีม ระดับ Gold ที่ 50 ล้านสตรีม และระดับ Platinum ที่ 100 ล้านสตรีม

ในการรับรองชุดล่าสุด (พฤศจิกายน 2020) RIAJ ได้รับรองเพลง “Dynamite” ของ BTS อย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับการรับรองระดับ Platinum ในประเภทสตรีมมิง หลังจากที่เพลงมียอดสตรีมมากกว่า 100 ล้านครั้งในเวลาเพียงสามเดือน แม้ว่า BTS จะเคยได้รับการรับรองระดับ Platinum จาก RIAJ จากยอดขายแผ่น แต่ความสำเร็จครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เพลงของพวกเขาได้รับการรับรองระดับ Platinum จากการสตรีมเพลง

โดย “Dynamite” ถือเป็นเพลงแรกของศิลปินกลุ่มต่างชาติในประวัติศาสตร์ RIAJ ที่เคยได้รับการรับรองระดับ Platinum จากการสตรีมเพลง

นอกจากนี้ BTS ยังได้รับการรับรองระดับ Gold 2 รายการ จากเพลง“ DNA” และ“ Stay Gold” ซึ่งแต่ละรายการมียอดสตรีมทะลุ 50 ล้านครั้ง รวมถึงการรับรองระดับ Silver จากเพลง “Your Eyes Tell” ซึ่งเป็นเพลงภาษาญี่ปุ่นที่จองกุกร่วมแต่ง

ขณะที่ TWICE ก็ได้รับการรับรองหลายรายการในประเภทสตรีม จากกลุ่มเพลงฮิตอย่าง “What is Love?” และเพลง“ YES or YES” ได้รับการรับรองระดับ Gold และเพลงญี่ปุ่น “Candy Pop” ได้รับการรับรองระดับ Silver ทำยอดถึง 30 ล้านสตรีม

ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของ BTS และ TWICE ด้วยจ้า


ที่มา: https://www.soompi.com/article/1445689wpp/bts-becomes-1st-foreign-group-ever-to-receive-riaj-platinum-certification-for-streaming-in-japan-twice-goes-gold-and-silver-with-multiple-songs

 

'BTS' เตรียมพบ 'ไบเดน' ในฐานะทูตเยาวชน หารือประเด็นไม่ทิ้ง 'คนเอเชีย' ไว้ข้างหลัง

วงไอดอลเกาหลีใต้ชื่อดังก้องโลกอย่าง BTS จะเข้าร่วมการหารือกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว เพื่อหารือประเด็นตอบรับกับความเกลียดชัง ต่อชาวเอเชียในสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นตลอดระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้

ทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี้ (26 พ.ค.) ว่า วง BTS จะหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ บนประเด็น “การไม่ทิ้งคนเอเชียเอาไว้ข้างหลัง และการสร้างภาพแทน (คนเอเชีย)” ในสหรัฐฯ และหยิบประเด็นอาชญากรรมความเกลียดชัง และการเลือกปฏิบัติต่อชาวเอเชีย ขึ้นมาพูดคุยกันเพื่อหาทางออก

การเข้าหารือของวงไอดอลเกาหลีใต้ที่เป็นที่นิยมในสหรัฐฯ เป็นอย่างมากนั้น จะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้าช่วงวันอังคาร โดยการหารือดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ไบเดนเดินทางเยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ก่อน ในฐานะที่เกาหลีใต้เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของตนในภูมิภาคเอเชียตะวันออก

ไบเดนออกมาประกาศอย่างจริงจังว่า ตนจะมอบคำสัญญาในการจัดการตอบรับ กับปัญหาอาชญากรรมความเกลียดชัง ที่เกิดขึ้นต่อชาวเอเชียในสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้น
 

BTS ตบเท้าเข้าทำเนียบขาว พบ ‘ไบเดน’ จี้!! สหรัฐฯ สกัดกระแสเหยียดเชื้อชาติ

BTS บอยแบนด์ดังจากเกาหลีใต้ ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก ได้มีโอกาสเข้าพบ โจ ไบเดน ผู้นำแห่งสหรัฐอเมริกา ถึงทำเนียบขาวในวันนี้ โดยพวกเขาได้ชูประเด็นต่อต้านกระแสการเหยียดชาวเอเชีย และการก่อคดีอาชญากรรมที่พุ่งเป้าหมายที่กลุ่มชาวเอเชียในสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ซึ่งพวกเขาหวังว่าการได้มาปรากฏตัวถึงทำเนียบขาวในวันนี้ จะทำให้ประเด็นดังกล่าวเป็นที่ตระหนัก และรัฐบาลสหรัฐฯ ควรให้ความสำคัญอย่างจริงจังมากขึ้น 

พัค จี-มิน หนึ่งในสมาชิกวง BTS ได้ให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขารู้สึกหดหู่ใจกับคดีอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังต่อชาวเอเชียในสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในระยะนี้ และเพื่อต้องการหยุดการกระทำดังกล่าว หรือ สนับสนุนผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลปัญหาเหล่านี้ พวกเราจึงขอใช้โอกาสนี้ เป็นกระบอกเสียงให้สังคมทั่วไปได้รับรู้อีกครั้ง

ชูกา หรือ มิน ยุน-กิ อีกหนึ่งในสมาชิกวง ยังได้กล่าวอีกว่า ไม่ผิดที่คนเราจะมีความแตกต่างกัน แต่ความเสมอภาคในสังคมต้องเริ่มจาการที่เราเปิดใจรับความแตกต่างของกันและกันได้ 

สำหรับการต่อต้าน และมุ่งทำร้ายชาวเอเชียในประเทศตะวันตก เริ่มต้นจากการกล่าวโทษว่าจีนเป็นต้นกำเนิดของเชื้อ Covid-19 ที่ปลุกกระแสความเกลียดชังโดยอดีตผู้นำสหรัฐฯ อย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลายเป็นปัญหาเรื้อรังมาจนถึงวันนี้ และทำให้คดีอาชญากรรมซึ่งมีเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเป็นชาวเอเชียพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในสหรัฐฯ เฉพาะปี 2021 ที่ผ่านมา โดยข้อมูลจาก Center for the Study of Hate and Extremism พบว่ามีคดีอาชญากรรมต่อชาวเอเชียในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นถึง 339% 

ในขณะที่ BTS วง K-Pop จากเกาหลีใต้ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นหนึ่งในศิลปินกลุ่มที่มักสอดแทรกประเด็นทางสังคมในเนื้อเพลง และการจัดแคมเปญร่วมกับกลุ่มแฟนคลับอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วงเปิดตัวในปี 2013 อีกทั้งในเดือนมิถุนายน 2020 แฟนคลับของวง ก็เคยได้จัดร่วมจัดแคมเปญระดมเงินบริจาคได้ถึง 1 ล้านดอลลาร์ ผ่านแฮชแท็ก #MatchAMillion เพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม Black Lives Matter 

'ศาลปกครองกลาง' สั่งจ่ายหนี้ บีทีเอส 1.2 หมื่นล้าน เบื้องต้น​ กทม.เตรียมยื่นอุทธรณ์

‘ศาลปกครองกลาง’​ มีคำสั่งพิพากษาให้ ‘กทม-เคที’ จ่ายหนี้ค่าเดินรถสายสีเขียว​ส่วนต่อขยาย โดยให้ชำระเงินภายใน 180 วัน​นับตั้งแต่คดีถึงที่สุด เบื้องต้น​ กทม.เตรียมยื่นอุทธรณ์

(7 ก.ย. 65) รายงานข่าวจากศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ เคที กรณีผิดสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว) เพื่อขอให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาดังกล่าว

โดยศาลปกครองกลาง​ มีคำสั่งพิพากษาให้กรุงเทพมหานครและกรุงเทพฯ ธนาคมร่วมกันจ่ายเงินในส่วนต่อขยายที่ 1​ ช่วงสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่-บางหว้า และช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง ซึ่งค้างชำระหนี้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม​ 2562​ - ​พฤษภาคม​ 2564 รวมดอกเบี้ย​  2,348 ล้านบาท

‘กรุงเทพธนาคม’ วอน BTS หยุดทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถผ่านสื่อ ชี้!! กระบวนการยังอยู่ในขั้นตอนศาลพิจารณา

‘กรุงเทพธนาคม’ แจงปมหนี้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ขอ BTS หยุดทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถผ่านสื่อ ชี้กระบวนการอยู่ในขั้นตอนศาลพิจารณา พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เร่งแก้ปัญหาหาข้อสรุปโดยเร็ว

(14 ธ.ค. 65) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประแสง มงคลศิริ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เปิดเผยถึงกรณีคดีค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) ว่า กรณีผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ได้ประกาศทวงหนี้ตามสัญญาค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ผ่านสื่อต่างๆ หลายครั้งและหลายรูปแบบ

ข้อเท็จจริง คือ ผู้รับจ้างเดินรถได้ใช้สิทธิฟ้อง กทม.และบริษัท ต่อศาลปกครองมาตั้งแต่ปี 2564 เมื่อผู้บริหารชุดปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่ ได้รีบยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายระยะเวลาส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้คดีในหลายประเด็นอย่างเต็มที่ แต่ศาลยืนยันว่าสิ้นสุดระยะเวลาส่งเอกสารหลักฐานแล้ว จึงปฏิเสธไม่รับเอกสารหลักฐานเข้าสู่สำนวนเพิ่มเติม ทั้งนี้ศาลชั้นต้นก็กรุณามีคำแนะนำให้คู่ความ 2 ฝ่ายเจรจาไกล่เกลี่ยกัน แต่ผู้รับจ้างเดินรถยืนยันต่อศาลว่าจะไม่เจรจาไกล่เกลี่ย ซึ่งก็เป็นสิทธิโดยชอบ

ต่อมาศาลได้นัดฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 7 ก.ย 2565 โดยมีคำตัดสินให้บริษัทแพ้คดีในศาลชั้นต้น บริษัทจึงต้องรีบยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนด 30 วันพร้อมกับส่งเอกสารหลักฐานใหม่ในวันที่ 5 ต.ค.2565 และชำระค่าธรรมเนียมตามระเบียบอุทธรณ์คดี คดีพิพาทนี้จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์ในศาลสูงสุด

การที่บริษัทอุทธรณ์ต่อสู้คดีไปสู่ชั้นศาลสูงสุดนั้น ถือว่าได้ใช้สิทธิโดยชอบเสมอกัน มีผลให้ทั้ง 2 ฝ่ายต้องรอฟังคำสั่งของศาลสูงสุดที่จะให้ความยุติธรรม บริษัทจึงไม่เคยคิดจะนำเนื้อหาคดีไปจัดทำสื่อเผยแพร่สร้างกระแสต่อสังคมหวังกดดันผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย บริษัทไม่เคยนำประเด็นคดีไปจัดอีเวนต์บรรยายฟ้องศาลท้าวมหาพรหมตามความเชื่อส่วนบุคคลให้เป็นกระแสข่าว ทั้งนี้เพราะบริษัทมีความเชื่อมั่นกระบวนการศาลที่ผู้รับจ้างเดินรถเป็นผู้เลือกดำเนินการมาตั้งแต่ต้น

BTS ยันทำถูกต้องตามกฎหมาย ปม สัญญาเดินรถสายสีเขียวส่วนต่อขยาย

บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหาต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กับพวกรวม 13 คน รวมถึง บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BTS นายคีรี กาญจนพาสน์ และนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ในฐานะกรรมการของ BTSC เกี่ยวกับการทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555 โดยมีการกล่าวหาในประเด็นหลักว่าการทำสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ (กฎหมายร่วมทุน)

บริษัทชี้แจงดังนี้
(ก) กรณีนี้ยังคงเป็นเพียงขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาจากคณะกรรมการป.ป.ช. เท่านั้น และ BTSC ยังไม่ได้ถูกฟ้องร้องเป็นคดีแต่อย่างใด BTSC มีสิทธิคัดค้านและแก้ข้อกล่าวหาตามกระบวนการของกฎหมาย โดย BTSC ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

กรุงเทพฯ ขึ้นแท่น เทียบชั้น โตเกียว เบอร์ลิน สื่อแคนาดาระบุ แม้แต่อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย ก็ต้องมาเรียนรู้

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สื่อจากประเทศแคนาดา ได้โพสต์เกี่ยวกับระบบขนส่งมวลชนทางรางของกรุงเทพมหานคร โดยโพสต์ว่าเมืองนี้ มีระบบขนส่งทางรางที่หลากหลาย กรุงเทพฯกำลังสร้างเมืองให้มีเครือข่ายรถไฟฟ้า ทางรางเป็นศูนย์กลาง ผู้คนสามารถเดินทางไปที่สนามบินได้ด้วยรถไฟฟ้า หากนำระยะทางจากรถไฟฟ้าทั้งหมดมารวมกัน ก็จะได้ระยะทางความยาวมากกว่า 300 กิโลเมตร มีมากกว่า 200 สถานี

หลังจากที่สื่อของแคนาดา ได้โพสต์ข่าวนี้ลงไปก็ได้มี คอมเมนต์ ตอบกลับมา มากมายหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น 

เป็นเรื่องที่ดี ที่ได้เห็นกรุงเทพมหานครมีการพัฒนาขึ้น ทั้งการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและสวนสาธารณะ ทำให้เมืองที่วุ่นวายแห่งนี้น่าอยู่และดูสนุกสนานมากขึ้น ช่างเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับมหานครที่ มีความคับคั่ง

เป็นตัวอย่างที่ดี สำหรับเมืองอื่นๆของโลก แต่ควรเป็นระบบการชำระเงินแบบบัญชีเดียว

รถไฟฟ้า BTS เป็น หนึ่งในบริการที่ดีที่สุด ที่เคยได้ใช้บริการมา มีความสุขที่ได้เห็นการขยายตัว

ได้ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดง มันสะอาดและสะดวกสบาย

มันเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นระบบขนส่งสาธารณะขยายตัว พร้อมบริการที่ยอดเยี่ยม

รู้จัก ‘ชิ้น โบ แดง’ หมูกระทะในห้างหรู ชูเอกลักษณ์ไทย ฝ่าดงหมูเกาหลีบูม

นั่งกินหมูกระทะในห้างหรู...

'เชิดชูหมูกระทะไทยให้ก้องกังวาลไปทั่วหล้า’ แนวคิดเจ๋งๆ ของ 'ชิ้น โบ แดง' (Chin Bo Dang) ร้านหมูกระทะมาสเตอร์พีซ น้องใหม่ลำดับที่ 12 ในเครือ Iberry Group ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 6 ใน The EmQuartier (BTS พร้อมพงษ์) มีจุดเด่นตรงกระทะที่ดีไซน์พิเศษทำจากทองแดง 100% มีช่องกระจายความร้อนเท่ากันทุกรู ทำให้เนื้อสุกได้อย่างง่ายดาย และก็ยังมีช่องใส่น้ำซุปขนาดใหญ่พอดีช้อน นอกจากนี้ที่ร้านก็ยังใช้ถ่านกากมะพร้าวหอมๆ ทำให้อาหารน่ากินขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเลย

ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้ายังไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควันติดเสื้อผ้า เพราะทางร้านมีเตาดูดควันอย่างดีที่ทำมาเป็นพิเศษ พร้อมให้คุณอร่อยกับวัตถุดิบคุณภาพ และน้ำจิ้มซิกเนเจอร์ของทางร้าน อย่าง แซ่บโบราณ ที่โดดเด่นด้วยรสเผ็ดพอเหมาะของพริกเหลือง ลาวนวล มีรสเค็มนัวของปลาร้า และหอมเต้าหู้ยี้ ที่คุ้นเคย เสิร์ฟมาในบรรยากาศหรูหราที่ตกแต่งด้วยสีแดงเลือดหมูและสีน้ำตาลเข้ม

อีกจุดเด่นหนึ่งของ 'ชิ้น โบ แดง' ที่แตกต่างจากร้าน 'หมูกระทะ' อื่น ก็คือเมนูข้างเคียง (Side Dish) ที่จัดเต็ม เพื่อให้เข้ากับหมูกระทะ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้า บางคนที่แค่พักเที่ยง อาจจะมีเวลาไม่มาก ไม่อยากเปิดเตา แต่ก็มารับประทานเมนูอื่น ๆ ก็ได้ ไม่ใช่แค่หมูกระทะ

โดยแนวคิดน่าสนใจ เพราะ Iberry ต้องการสร้างวัฒนธรรมการรับประทานอาหารหรือปิ้งย่างแบบไทยแท้ 100% บอกว่า แม้ตลาดปิ้งย่างของไทยจะเติบโตสูง และมีผู้เล่นจำนวนมาก แต่ต้องยอมรับว่าแทบทั้งหมดมักมีเครื่องเคียงเป็นกิมจิ หรืออาหารญี่ปุ่น-เกาหลีหลายๆ ชนิดมาเป็นเมนูในร้าน 

ฉะนั้น หากทำเหมือนกัน ก็จะยิ่งไม่ตอบโจทย์เอกลักษณ์ความเป็นไทย หรือมนต์เสน่ห์ดั้งเดิมของหมูกระทะ ซึ่งคอนเซปต์ของร้านต้องการยกระดับความเป็นหมูกระทะในสไตล์ไทยๆ อยู่แล้ว จึงได้เกิดแนวคิดที่อยากทำให้ทุกอย่างเข้ากัน ด้วยการพัฒนา Side Dish ที่เป็นเมนูไทยขึ้นหลายรายการเพื่อให้สามารถรับประทานร่วมกับหมูกระทะได้

สำหรับอาหารหลัก Main Course เอาใจทั้งสายเนื้อและหมูด้วย หมูหมักนุ่ม คุโรบุตะสไลด์ หมูสามชั้น สุดนุ่ม ตับหมู ไม่มีกลิ่นสาบ คอหมู เนื้อเด้ง เนื้อโคขุนหมักนุ่มลิ้น เสือร้องไห้ออสเตรเลีย และลิ้นวัวโคขุน ฉ่ำลิ้น

ชุดทะเลรวมมิตร เต็มไปด้วยปลาอินทรี เนื้อสด ปลาเก๋าหยก กินอร่อย เอ็นหอยจอบ เคี้ยวหนึบสู้ฟัน หมึกกล้วย ตัวใหญ่ และหมึกสาย แถมด้วย สามชั้นขย้ำน้ำปลา ชิ้นหนากำลังดี ได้รสเค็มกลมกล่อม กลิ่นหอมยั่วน้ำลาย

ปิดท้ายก่อนกลับด้วย ของหวานล้างปาก บิงซูแตงโม รสหวาน ภายในสอดไส้ฟรุ๊ตตี้สลัดชื่นใจ และ ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน โฮมเมดรสหวานฉ่ำ

ส่วนสนนราคาชุดเซ็ตเมนูแบบอิ่มจุก เริ่มต้นที่ 590-790 บาท ขณะที่จานเดี่ยวแยกเพิ่ม และ Side Dish ราคาเริ่มตั้งแต่ 120-390 บาท และผักเริ่มต้นที่ราคา 35 บาท  

'ชิ้น โบ แดง’ เปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม สามารถเดินทางไปอร่อยได้ตามสะดวก ว่าแล้วก็โทรไปจองโต๊ะก่อนเลย กดไปที่เบอร์ 02-003-6340 รับรองได้ว่าจะได้ลิ้มรสหมูกระทะที่อร่อยและไม่เหมือนใคร

‘V’ สมาชิกวง BTS บอยแบนด์ชื่อดังแดนกิมจิ ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ ‘Cartier’

(19 ก.ค. 66) แบรนด์ ‘คาร์เทียร์’ (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับหรูสัญชาติฝรั่งเศส ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่า ‘วี’ หรือ ‘คิม แทฮยอง’ สมาชิกวง BTS ได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ล่าสุดของแบรนด์ โดยวีได้เปิดตัวในแคมเปญ ‘Panthère de Cartier’

ลุคนี้ ‘วี BTS’ สวมแหวน และ สร้อยคอ ‘ปองแตร์ เดอ คาร์เทียร์’ (Panthère de Cartier) นอกจากความหรูหราที่ปรากฏผ่านเครื่องประดับแล้ว ด้วยใบหน้าและสายตาของวียังได้สะท้อนเสน่ห์ที่ดึงดูดใจ เต็มไปด้วยพลังและอำนาจ ที่เป็นภาพลักษณ์ของ ‘เสือแพนเตอร์’ ไอคอนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างแท้จริง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top