Thursday, 16 May 2024
ยูเครน

ดักคอไว้ก่อน! ‘ไบเดน’ ปราม ‘จีน’ ห้ามหนุน ‘รัสเซียรบยูเครน' ด้านผู้นำจีน ‘ไม่รับปาก’ พร้อมซ้ำ ‘สหรัฐฯ’ ต้นตอวิกฤต!

วันนี้ (19 มี.ค. 65) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน หารือกันผ่านวิดีโอนาน 110 นาที ซึ่งเป็นการสนทนากันครั้งแรก ตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ไบเดนใช้โอกาสนี้ แจ้งให้ผู้นำจีน ทราบถึงผลกระทบที่จะตามมาหากเลือกจะช่วยรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือทางการทหาร หรือทางเศรษฐกิจ ถือเป็นการปราม ดักคอ เพราะก่อนหน้านี้ Financial Times และ New York Times รายงานว่า รัสเซียได้ร้องขอความช่วยเหลือในด้านการทหารและทางเศรษฐกิจจากจีน สร้างความไม่พอใจให้สหรัฐฯ อย่างมาก แม้ว่ารัสเซียกับจีนจะปฏิเสธ

'ปูติน'​ เอาคืน!! เหล่า​ 'ประเทศไม่เป็นมิตร'​ ต้องซื้อก๊าซรัสเซียด้วยเงินสกุลรูเบิลเท่านั้น

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ระบุในวันพุธ (23 มี.ค.) ว่ารัสเซียจะรับชำระเฉพาะสกุลเงินรูเบิลเท่านั้น สำหรับการส่งมอบก๊าซธรรมชาติไปยังบรรดาชาติทั้งหลายที่ถูกขึ้นบัญชี "ประเทศไม่เป็นมิตร" ซึ่งในนั้นรวมถึงสมาชิกทั้งหมดของอียู หลังจากมอสโกถูกมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ต่อกรณีรุกรานยูเครน

ทันทีหลังคำแถลงของปูติน สกุลเงินรูเบิล ซึ่งดำดิ่งอย่างหนักมาตั้งแต่ความขัดแย้งยูเครนเริ่มต้นขึ้น ได้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติก็ดีดตัวสูงขึ้นเช่นกัน

"ผมตัดสินใจบังคับใช้มาตรการชุดหนึ่ง ให้บรรดาประเทศไม่เป็นมิตรโอนชำระเงินค่าอุปทานก๊าซธรรมชาติของเราเป็นเงินสกุลรูเบิลรัสเซีย" ปูตินกล่าวระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่ารัสเซียจะยังคงขายก๊าซธรรมชาติในปริมาณตามสัญญาที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงแค่สกุลเงินที่ใช้ในการชำระเงินเท่านั้น

ปูติน ยังสั่งการให้ธนาคารกลางของรัสเซีย ให้รีบดำเนินการในการเปลี่ยนแปลงการชำระเงินให้เป็นสกุลเงินรูเบิลให้เร็วที่สุด และให้เวลา 1 สัปดาห์ในการดำเนินการนำระบบชำระเงินแบบใหม่มาใช้ โดยเขาบอกว่ามันจะต้อง "โปร่งใส" และจะเกี่ยวข้องกับการซื้อด้วยเงินสกุลรูเบิล ในตลาดภายในของรัสเซีย

นอกจากนี้ ปูติน แย้มด้วยว่าการส่งออกอื่นๆ ของรัสเซียอาจอยู่ภายใต้มาตรการดังกล่าวเช่นกัน

ต่อมาในวันเดียวกัน รอสคอสมอส หน่วยงานอวกาศของรัสเซีย แถลงว่าจะยืนกรานให้พันธมิตรระหว่างประเทศของพวกเขาชำระเงินด้วยสกุลเงินรูเบิลด้วยเช่นกัน

"มันชัดเจนว่าการส่งมอบสินค้าของเราไปยังสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ แล้วรับชำระหนี้เป็นดอลลาร์ ยูโร หรือสกุลเงินอื่นๆ ไม่มีความสมเหตุสมผลสำหรับเราอีกต่อไป" ปูติน กล่าว

ยูเครนรุดประณามความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซียในทันที โดยเรียกมันว่าเป็น "สงครามเศรษฐกิจของรัสเซีย" กับอียู และความพยายามทำให้รูเบิลแข็งค่าขึ้นของรัสเซีย

"แต่ตะวันตกอาจเล่นงานรัสเซียด้วยการแบนนำเข้าน้ำมัน ที่อาจทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียดำดิ่ง" อันดรีย์ เยอร์มัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนกล่าว "ตอนนี้คือการต่อสู้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และตะวันตกต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชนะ"

โรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งประเทศของเขานำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 55% ก่อนเกิดความขัดแย้ง ระบุว่าความประสงค์ของปูติน ถือว่าละเมิดสัญญาและเบอร์ลินจะปรึกษาหารือกับพันธมิตรยุโรป ว่าจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเรื่องดังกล่าวอย่างไร

บรรดาประเทศตะวันตกพยายามถาโถมแรงกดดัน กำหนดมาตรการคว่ำบาตรฉีกเศรษฐกิจของรัสเซีย นับตั้งแต่มอสโกเคลื่อนทหารรุกรานยูเครน พวกเขาอายัดเงินสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียในต่าง
แดน ราว 300,000 ดอลลาร์ ความเคลื่อนไหวที่ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ให้คำจำกัดความในวันพุธ (23 มี.ค.) ว่าเป็นการขโมย

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่สหรัฐฯ แบนนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย แต่อียู ซึ่งต้องพึ่งพิงอุปทานก๊าซจากรัสเซียราวๆ 40% ในปี 2021 ยังคงรับมอบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากมอสโก

กระนั้นก็ตามอียูกำหนดเป้าหมายไว้ว่าจะลดนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียราว 2 ใน 3 ในช่วงสิ้นปี และกำลังมองถึงความเป็นไปได้ในการแบนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

"เวลานี้ รัสเซียกำลังพยายามกดดันตะวันตกด้วยมาตรการคว่ำบาตรตอบโต้ และลดการพึ่งพิงเงินตราต่างประเทศ" ไอเพค ออซคาร์เดสกายา นักวิเคราะห์อาวุโสจากสถาบัน Swissquote กล่าวกับเอเอฟพี

แทนกันไม่ได้! ‘กาตาร์’ เตือน ‘ยุโรป’ เตรียมเจ็บหนัก ชี้ การชดเชยก๊าซธรรมชาติรัสเซียเป็นสิ่ง ‘เป็นไปไม่ได้'

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องกาตาร์ ยกระดับกำลังผลิตก๊าซธรรมชาติ เพื่อชดเชยอุปทานที่ขาดหายไปของรัสเซีย จากมาตรการคว่ำบาตรที่จะกำหนดเล่นงานภาคพลังงานมอสโก อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนความพยายามนี้จะไม่ได้รับการตอบสนอง โดยโดฮาเน้นย้ำจุดยืนไม่เลือกข้างและชี้ว่าการชดเชยก๊าซธรรมชาติรัสเซียในตลาดยุโรปนั้น "คือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้"

เซเลนสกี ส่งเสียงเรียกร้องดังกล่าว ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ทางไกลต่อที่ประชุมหนึ่ง ซึ่งมีบรรดาผู้นำโลกหลายสิบคนเข้าร่วม ณ เวทีสัมมนาประจำปี โดฮาฟอรัม ในกาตาร์

จามาล เอลชายาล ผู้สื่อข่าวของอัลจาซีราห์รายงานว่า การกล่าวปราศรัยของเซเลนสกีไม่ได้ถูกแจ้งล่วงหน้าว่าเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการประชุม ซึ่งเป็นไปได้ว่า นั่นก็เพราะผู้จัดงานต้องการให้ฝ่ายรัสเซียเข้าร่วมด้วย

"ประธานาธิบดีเซเลนสกี ใช้โอกาสนี้ปราศรัยกับพวกผู้นำโลกหลายสิบคนที่เข้าร่วมในเวทีสัมมนา เพื่อกดดันพวกเขามากขึ้นให้ใช้มาตรการหนักหน่วงขึ้น เพื่อหยุดการรุกรานยูเครนของรัสเซีย" ผู้สื่อข่าวอัลจาซีราห์ระบุ

ผู้นำยูเครนร้องขอประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุม ใช้มาตรการต่างๆ โดดเดี่ยวมอสโกมากขึ้น คว่ำบาตรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย และเรียกร้องบรรดาประเทศที่ร่ำรวยก๊าซธรรมชาติอย่างกาตาร์ เข้าแทรกแซง เพิ่มกำลังผลิตก๊าซธรรมชาติ เพื่อเติมเต็มอุปทานที่ขาดหายไปของรัสเซีย

เอลชายาล มองว่า "แม้กระทั่งหากกาตาร์ต้องการทำเช่นนี้ เนื่องจากมันจะให้ผลตอบแทนที่งดงาม แต่มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเติมเต็ม 30% ในความต้องการทางพลังงานของยุโรป ที่ปัจจุบันจัดหาให้โดยรัสเซีย"

สหรัฐฯ เตือนชาวมะกัน 'เลี่ยงเดินทาง - ออกห่างจากรัสเซีย' หลังพบสัญญาณ ทางการรัสเซียจ้องจับกุมตัว

ไม่นานมานี้ ทางรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เตือนว่า รัฐบาลรัสเซียอาจควบคุมตัวพลเมืองอเมริกันที่อาศัยอยู่ในรัสเซียได้ พร้อมเตือนชาวอเมริกันอย่าเดินทางไปรัสเซียในช่วงนี้

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนการเดินทางไปรัสเซียของพลเมืองชาวอเมริกัน โดยชี้ว่า ผลจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหลังรัสเซียส่งทหารไปยังยูเครน ทำให้ทางการรัสเซียเริ่มพุ่งเป้าไปยังพลเมืองชาวอเมริกันมากขึ้น

ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จึงย้ำอีกครั้งว่า ขอให้ชาวอเมริกันอย่าพึ่งเดินทางไปยังรัสเซีย ส่วนชาวอเมริกันที่พำนักอยู่ในรัสเซียตอนนี้ ขอให้รีบเดินทางออกนอกประเทศในทันที

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกล่าวหา ‘รัสเซีย’ ต้นเหตุวิกฤติอาหารโลก​ หลังเริ่มสงครามกับยูเครน

นิวยอร์ก (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส) - รัสเซียถูกกล่าวหาในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์อาหารโลกและทำให้ผู้คนทั่วโลกเสี่ยงต่อภาวะอดอยากจากการเปิดฉากทำสงครามในยูเครน ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็นตะกร้าขนมปังของยุโรป (Breadbasket of Europe)

เวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวในระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในยูเครนว่า ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นผู้ริเริ่มสงครามในยูเครนและทำให้เกิดวิกฤตการณ์อาหารโลก รัสเซียและประธานาธิบดีปูตินต้องเป็นผู้รับผิดชอบจากการนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของอาหารโลก

'ยูเครน' โวย!! รัสเซียผิดคำพูดเดินหน้าถล่มรอบกรุงเคียฟ บีบีซีอ้าง!! 'ปูติน'​ ขู่ไม่หยุดโจมตีมาริอูโปลจนกว่ายอมจำนน

กองกำลังรัสเซียทิ้งบอมบ์ถล่มพื้นที่ต่างๆ รอบกรุงเคียฟ และเมืองอื่นอีกแห่ง ไม่กี่ชั่วโมงหลังสัญญาลดระดับปฏิบัติการลงในพื้นที่แถบนี้ เพื่อส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างสองฝ่าย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ยูเครนในวันพุธ (30 มี.ค.) ขณะเดียวกัน สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน บอกว่าการยิงถล่มเมืองมาริอูโปลที่ถูกปิดล้อมนั้นจะยุติลงก็ต่อเมื่อทหารของยูเครนยอมวางอาวุธ

การยิงถล่มและโจมตีอย่างหนักหน่วงของรัสเซียในหลายพื้นที่ของยูเครน กัดเซาะมุมมองในแง่บวกเกี่ยวกับความคืบหน้าใดๆ ในการเจรจาสันติภาพที่มีเป้าหมายหยุดสงครามที่สร้างความเจ็บปวดทรมาน

ในคำแถลงเมื่อวันอังคาร (29 มี.ค.) กองทัพรัสเซียระบุว่าจะลดระดับปฏิบัติการใกล้เมืองหลวงและเมืองเชอร์นิฮิฟ ทางภาคเหนือของประเทศ "เพื่อเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจกันและสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับการเจรจาในอนาคต" แต่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน และตะวันตกรู้สึกคลางแคลงใจเป็นอย่างมาก

ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ยูเครนรายงานว่ารัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มบ้าน ร้านค้า ห้องสมุด และที่ตั้งพลเรือนอื่นๆ ทั้งในและรอบๆ เมืองเชอร์นิฮิฟและแถบชานเมืองของกรุงเคียฟ นอกจากนี้ ทหารรัสเซียยังยกระดับโจมตีในภูมิภาคดอนบาสทางภาคตะวันออกและรอบๆ เมืองอิซุม ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางหลักที่มุ่งหน้าสู่ดอนบาส หลังจากจัดวางกองกำลังใหม่จากพื้นที่อื่นๆ

โอเล็กซานเดอร์ โลมาโก เลขาธิการสภาเมืองเชอร์นิฮิฟ บอกว่าคำแถลงของรัสเซียปรากฏชัดแล้วว่าเป็นคำโกหกโดยสิ้นเชิง "ตอนกลางคืนไม่เขาไม่ได้ลดระดับลง แต่ในทางกลับกันได้เพิ่มความหนักหน่วงของปฏิบัติการด้านการทหาร”

5 สัปดาห์หลังการรุกราน มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายพันคนจากทั้ง 2 ฝ่าย จำนวนชาวยูเครนที่หลบหนีออกนอกประเทศพุ่งแตะระดับ 4 ล้านคน ในนั้นครึ่งหนึ่งเป็นเด็ก จากข้อมูลของสหประชาชาติ

ในการเจรจาในอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันอังคาร (29 มี.ค.) ความเป็นไปได้ของข้อตกลงสันติภาพดูเหมือนจะปรากฏขึ้น เมื่อผู้แทนของยูเครนเสนอกรอบๆ หนึ่ง ซึ่งประเทศของพวกเขาจะประกาศตนในฐานะเป็นกลาง ละทิ้งความพยายามเข้าร่วมนาโต้ ตามข้อเรียกร้องของมอสโก แลกกับคำรับประกันด้านความปลอดภัยจากกลุ่มประเทศอื่นๆ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียตอบสนองในแง่บวก โดยเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศระบุในวันพุธ (30 มี.ค.) ว่าความตั้งใจของยูเครนที่จะยอมรับสถานะเป็นกลางและมองหาความมั่นคงนอกนาโต้ เป็นตัวแทนของความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม หลังคำแถลงของเครมลินว่าจะลดระดับปฏิบัติการด้านการทหาร เซเลนสกีแสดงตอบสนองด้วยความสงสัย โดยบอกว่าเมื่อคุณเจรจาต่อรองกับรัสเซีย "คุณสามารถไว้วางใจได้เพียงผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมเท่านั้น" คำประเมินที่ไปในทิศทางเดียวกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และโดมินิค ราบ รองนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ซึ่งสงสัยว่ารัสเซียมีเจตนารวบรวมกำลังพลใหม่และโจมตีอีกครั้ง

ความคลางแคลงใจดังกล่าวดูเหมือนจะมีเหตุผล สืบเนื่องจากความเคลื่อนไหวต่างๆ ของรัสเซียในวันพุธ (30 มี.ค.) ในนั้นรวมถึงกรณีที่ นายพลโอเล็กซานด์ร พาฟลุค ผู้บัญชาการเขตพื้นที่มณฑลทหารเคียฟ เผยว่ารัสเซียยิงปืนใหญ่เล็งเป้าหมายเล่นงานพื้นที่ชุมชนและโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนในเมืองบูชา โบรวารี และวิชโฮรอด รอบๆ เมืองหลวง

พล.ต.อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า ทหารเล็งเป้าหมายเล่นงานคลังเชื้อเพลิงใน 2 เมืองในแถบภาคกลางของยูเครน โดยใช้ขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลยิงจากอากาศโจมตี และกองกำลังรัสเซียยังได้ถล่มกองบัญชาการกองกำลังพิเศษยูเครนแห่งหนึ่งในเมืองมีโคลายิฟ และคลังกระสุน 2 แห่งในแคว้นโดเนตส์ค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคดอนบาส

สหรัฐฯ ระบุว่าในช่วง 24 ชั่วโมงหลังสุด รัสเซียเริ่มสับเปลี่ยนที่ตั้งกองกำลังของตนเองไม่ถึง 20% ที่อยู่ตามแนวรบรอบๆ กรุงเคียฟ

จอห์น เคอร์บี เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนทำเนียบขาวระบุว่า ทหารจากพื้นที่ดังกล่าวและจากโซนอื่นบางแห่งเริ่มเคลื่อนไหวมุ่งหน้าสู่ทางเหนือเป็นส่วนใหญ่ และบางส่วนเข้าไปในเบลารุส ซึ่งเคียฟมองว่าดูเหมือนรัสเซียมีเจตนาจัดหากำลังบำรุงใหม่ให้พวกเขาและส่งพวกเขากลับเข้าไปในยูเครน แต่ไม่ชัดเจนว่าจะเป็นจุดไหน

เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของรัสเซียระบุในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่า เป้าหมายหลักของพวกเขาในเวลานี้คือ "ปลดปล่อยดอนบาส" ภูมิภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญซึ่งประชาชนพูดภาษารัสเซีย พื้นที่ซึ่งพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียต่อสู้กับกองกำลังยูเครนมาตั้งแต่ปี 2014 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตะวันตกบอกว่ามอสโกกำลังเสริมกำลังทหารในดอนบาส

พวกนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าการมุ่งเน้นภูมิภาคดอนบาส และสัญญาลดปฏิบัติทางทหาร อาจเป็นแค่ความพยายามกลบความจริงที่ว่า กองกำลังภาคพื้นของรัสเซียถูกสกัดกั้นและได้รับความสูญเสียอย่างหนัก ในความพยายามยึดเมืองหลวงและเมืองอื่นๆ

'เซเลนสกี้' เดือด!! ตะเพิดจนท.ระดับสูง 'ขายชาติ' ชี้!! พวกเขาทั้งหมดจะถูกลงโทษทีละน้อย

31 มี.ค. 65 ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้ตะเพิดเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 นายในข้อหาทรยศชาติ พร้อมยอมรับสถานการณ์ในทางภาคใต้และภูมิภาคดอนบาสยังคงยากลำบากอย่างมาก และเน้นย้ำรัสเซียกำลังเสริมทหารใกล้เมืองมาริอูโปลที่ถูกปิดล้อม ขณะเดียวกันมอสโกได้ถอนทหารพ้นโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิล แต่ได้เอาทหารยูเครนไปเป็นตัวประกันด้วย

เซเลนสกี กล่าวว่า พวกรัสเซียชั่วร้ายมาก และมุ่งมั่นทำลายล้างราวกับว่าพวกเขามาจากโลกอื่น

"อสุรกายผู้เผาและปล้นสะดม อสุรกายผู้โจมตีและจงใจฆ่า"

ขณะที่รัสเซีย บอกว่า พวกเขากำลังปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารเพื่อปลดอาวุธและทำลายนาซีในประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งปฏิเสธคำกล่าวหาของเคียฟว่ากองกำลังรัสเซียเล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือน

เซเลนสกี เผยอีกว่า กองกำลังยูเครนผลักดันทหารรัสเซียล่าถอยจากเคียฟและเชอร์นิฮิฟ 2 เมืองที่มอสโกประกาศว่าจะมุ่งเน้นโจมตีอีกต่อไป เนื่องจากพวกเขาจะหันไปคุ้มกันดอนบาส ซึ่งประกอบด้วยสาธารณรัฐโดเนตสก์ และสาธารณรัฐลูฮันสก์

"จะมีการสู้รบรออยู่เบื้องหลัง เรายังคงจำเป็นต้องลุยฝ่าเส้นทางที่ยุ่งยากเพื่อให้เราได้ทุกสิ่งที่เราต้องการ" เขากล่าว "สถานการณ์ในทางภาคใต้และในดอนบาส ยังคงยากลำบากอย่างมาก"

‘ยูเครน’ เอาคืน! ส่ง ฮ. ทิ้งมิสไซล์ เผาวอดคลังน้ำมัน ‘รัสเซีย’!

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุเพลิงไหม้ที่คลังน้ำมันในเมืองเบลโกรอด ทางตะวันตกของรัสเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนราว 25 ไมล์ โดยเวียเชสลาฟ กลัดคอฟ (Vyacheslav Gladkov) ผู้ว่าราชการเบลโกรอดกล่าวผ่าน Telegram ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการโจมตีทางอากาศจากเฮลิคอปเตอร์ของยูเครน ด้านยูเครนยังไม่เคลื่อนไหวใดๆ ในประเด็นดังกล่าว

ขณะที่เจ้าหน้าที่สั่งอพยพประชาชนและเร่งเข้าควบคุมเพลิง โดยเบื้องต้นพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายเป็นพนักงานในคลังน้ำมัน ได้รับการปฐมพยาบาลแล้วและไม่อยู่ในอันตราย

ภายหลังพบปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งรายงานระบุว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ของยูเครน 2 ลำ บินต่ำก่อนที่จะยิงขีปนาวุธ S-8 หลายนัดเข้าที่คลังน้ำมัน

ทั้งนี้ เมื่อสองวันก่อนเพิ่งเกิดเหตุระเบิดที่คลังแสงในเมืองเบลโกรอด ซึ่งคาดว่าเกิดจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของกองทัพยูเครน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีทหารรัสเซียได้รับบาดเจ็บ 4 นาย


ที่มา : https://www.posttoday.com/world/679617

‘เซเลนสกี’ ปัดตอบส่ง ฮ. ยิงถล่มคลังน้ำมันรัสเซีย ด้านปูตินสั่งยกระดับป้องกันชายแดนตะวันตก

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนปฏิเสธที่จะให้คำตอบว่าเป็นผู้สั่งยิงถล่มคลังน้ำมันรัสเซียในเมืองเบลโกร็อด (Belgorod) หรือไม่ ขณะที่รัสเซียประกาศเสริมกำลังป้องกันชายแดนด้านตะวันตกเพื่อสกัดการโจมตีในอนาคต

แม้การเจรจาสันติภาพระหว่างเจ้าหน้าที่ยูเครนกับรัสเซียจะเกิดขึ้นอีกครั้งผ่านระบบวิดีโอลิงก์ แต่ทำเนียบเครมลินเตือนว่าเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ยิงโจมตีคลังน้ำมันที่เบลโกร็อด อาจจะทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกันลำบากขึ้น

รัฐบาลเคียฟไม่ขอยอมรับหรือปฏิเสธว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้หรือไม่ โดย เซเลนสกี ให้สัมภาษณ์กับสื่อฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐฯ ว่า “ขอโทษด้วย ผมไม่ขอชี้แจงเรื่องคำสั่งต่างๆ ที่ผมได้สั่งการไปในฐานะผู้บัญชาการสูงสุด (commander in chief)”

กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวหายูเครนว่าส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำบินในระดับต่ำเข้ามาในเขตแดนของรัสเซีย ก่อนจะยิงมิสไซล์ถล่มคลังน้ำมันที่เมืองเบลโกร็อด ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนอยู่เครนประมาณ 35 กิโลเมตร เมื่อเวลาราว 5.00 น. ของวันที่ 1 เม.ย.

ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นแสงสว่างวาบคล้ายขีปนาวุธถูกยิงในระดับที่ต่ำมาก ก่อนจะเกิดการระเบิดขึ้น

ปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้รุนแรง และต้องมีการอพยพประชาชนบางส่วนออกนอกพื้นที่ ทว่า อันตอน อิวานอฟ นายกเทศมนตรีเมืองเบลโกร็อด ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่สามารถดับไฟลงได้ทั้งหมดแล้ว

“ไม่มีความเสี่ยงใดๆ ต่อชีวิตและสุขภาพ ประชาชนทุกคนสามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้” อิวานอฟ แถลงผ่านสื่อออนไลน์

บริษัทน้ำมัน รอสเนฟต์ (Rosneft) ซึ่งเป็นเจ้าของคลังน้ำมันยืนยันว่า ไม่มีผู้บาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า คลังน้ำมันแห่งนี้ใช้ประโยชน์ในด้านพลเรือนเท่านั้น

'ยูเครน' เข้าควบคุม-ยึดพื้นที่ รอบกรุงเคียฟได้ทั้งหมด หลังรัสเซียถอนทหาร พิสูจน์ความจริงใจการเจรจา

กองทัพยูเครนสามารถเข้าควบคุมพื้นที่โดยรอบกรุงเคียฟเอาไว้ได้หมด หลังจากรัสเซียถอนกำลังทหารออกไป โดยสิ่งที่ปรากฎพบหลังยูเครนเข้าเคลียร์พื้นที่ คือ ร่องรอยความเสียหายและผู้เสียชีวิตจำนวนมากในเมืองเออร์ปิน, เมืองบูชา และฮอสโตเมล รวมถึงซากเครื่องบินลำใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งถูกทำลายลง

เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครน แถลงว่า กองทัพยูเครนสามารถยึดคืนพื้นที่รอบกรุงเคียฟทั้งหมด หลังจากยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือดในหลายเมืองและหลายหมู่บ้านรอบเมืองหลวงของประเทศในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ 

ขณะที่ฟากรัสเซีย ระบุว่า การถอนกำลังใกล้กรุงเคียฟนั้น เป็นการแสดงเจตจำนงในการเจรจาสันติภาพ แต่บรรดานักวิเคราะห์ชาติตะวันตกกล่าวว่า การปฏิบัติการทางทหารของพวกเขาถูกต้านทานจนหยุดชะงัก

หลังเข้าเคลียร์พื้นที่ เจ้าหน้าที่ยูเครน แถลงว่า ในเมืองเออร์ปิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ มีพลเรือนอย่างน้อย 200 คนเสียชีวิต ตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมีประชาชนมากกว่า 70,000 คน ที่เคยอาศัยอยู่ในเมืองนี้ พากันหลบหนีเมื่อเดือนที่แล้ว 

ส่วนเมืองบูชา ทหารยูเครนได้เคลื่อนกำลังเข้าไปยังเมืองดังกล่าวในช่วงวันหรือสองวันก่อน หลังจากที่ไม่สามารถเข้าเมืองได้เลยในระยะเวลาเกือบ 1 เดือน 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top