Wednesday, 15 May 2024
ยูเครน

'ขุนคลังยูเครน' รับ!! เงินทุนในปท.ฮวบ หวั่น!! ไม่มีเงินจ่ายรายเดือนให้ทหาร

ยูเครนถูกบีบให้ต้องพิมพ์เงินจ่ายค่าจ้างเหล่าทหารของเขาที่กำลังสู้รบกับรัสเซียอยู่ในตอนนี้ ด้วยที่ความช่วยเหลือด้านการเงินจากตะวันตกมาถึงล่าช้า 

เซอร์เกย์ มาร์เชนโก รัฐมนตรีคลังยูเครน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสหรัฐฯ ว่าเขาต้องเผชิญกับเรื่องปวดหัวอย่างต่อเนื่องในความพยายามรักษาสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายในการทำสงครามกับรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ต่ำลง หลังเศรษฐกิจถูกทุบทำลายจากการสู้รบที่ยืดเยื้อมาเกือบ 6 เดือน

รัฐมนตรีรายนี้บอกว่าด้วย ราว ๆ 60% ของงบประมาณถูกใช้ไปกับการสู้รบ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมด แต่มันยังไม่เพียงพอ เนื่องจากรายได้ทางภาษีคิดเป็นสัดส่วนแค่ 40% เท่านั้นของการใช้จ่ายของภาครัฐ ตามรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล

ก่อนหน้านี้ยูเครนเคยบอกว่า พวกเขาต้องการเงิน 5,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในการบริหารประเทศ และจะไม่สามารถอยู่รอดได้หากปราศจากความช่วยเหลือจากตะวันตก อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงคือเงินกู้และเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า ที่บรรดาผู้สนับสนุนต่างประเทศสัญญาจะมอบให้ยูเครนนั้น มาถึงล่าช้ากว่าที่คาดหมายไว้

ยกตัวอย่างเช่น จนถึงตอนนี้อียูมอบเงินแก่ยูเครนเพียง 1,000 ล้านยูโร จากทั้งหมด 9,000 ล้านยูโร ตามที่เคยรับปากไว้ ขณะที่ เยอรมนี คัดค้านแนวความคิดมอบเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ยูเครน ภายใต้คำรับประกันจากบรรดารัฐสมาชิกของอียู อย่างไรก็ตาม มาร์เชนโก ยังเชื่อว่าเขายังมีเวลามากพอในความพยายามโน้มน้าวให้บรรดารัฐบาลตะวันตกดำเนินการรวดเร็วขึ้น "หากปราศจากเงินนี้ สงครามจะยืดเยื้อยิ่งขึ้น และจะก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจหนักกว่าเดิม" เขาอธิบาย

หน่วยข่าวกรองรัสเซียฟันธง ยูเครนอยู่เบื้องหลัง เหตุลอบสังหารลูกสาว ‘มันสมอง’ ของปูติน

หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงของรัสเซีย (FSB) ยืนยัน สายลับยูเครนอยู่เบี้องหลังแผนลอบสังหาร ‘ดาร์ยา ดูกินา’ บุตรสาวของ ‘อเล็กซานเดอร์ ดูกิน’ นักการเมืองผู้เป็น ‘มันสมอง’ ของ ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย อย่างแน่นอน 

ดาร์ยา ดูกินา ในวัย 29 ปี ประกอบอาชีพเป็นผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ช่อง Tsargrad ที่เป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาลมอสโคว และเป็นบุตรสาวของ อเล็กซานเดอร์ ดูกิน ที่เป็นหนึ่งในผู้นำแนวคิดอุดมการณ์รักชาติของรัสเซีย และยังได้ชื่อว่าเป็นมันสมองของปูติน ได้เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ หลังจากกลับจากงานเทศกาลวัฒนธรรมเมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา 

โดยระเบิดได้ถูกติดตั้งไว้ในรถยนต์ SUV Toyota Land Cruiser ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่าเป็นของอเล็กซานเดอร์ ดูกิน พ่อของเธอ แต่เกิดเปลี่ยนใจขับรถคันอื่นแทน ผู้รับเคราะห์จึงเป็น ดาร์ยา ดูกินา ที่เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ

สหรัฐฯ แอบหวั่น!! ‘คลังแสง’ เริ่มร่อยหรอ ไม่อยู่ในระดับที่ไว้ใจได้ หากต้องทำสงคราม

วอลล์สตรีทเจอร์นัล เผย รัฐบาลสหรัฐฯ ส่งอาวุธป้อนกองทัพยูเครนมากจน ‘คลังแสง’ ของเพนตากอนเริ่มที่จะ ‘ขาดแคลน’ อาวุธบางประเภทเข้าให้แล้ว

วอลล์สตรีทอ้างแหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โดยระบุว่า กระสุนขนาด 155 มม. ซึ่งใช้กับปืนใหญ่อัตตาจร M777 ฮาววิตเซอร์ เหลืออยู่ในคลังแสงน้อยมาก จนทำให้เจ้าหน้าที่บางคนรู้สึกกังวล

เจ้าหน้าที่เพนตากอน (กลมโหม) ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ยืนยันกับวอลล์สตรีทว่า จำนวนกระสุน 155 มม. ในคลัง “ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต” แต่ก็ “น้อยจนน่ากังวล” และ “ไม่อยู่ในระดับที่ไว้วางใจได้ หากต้องทำสงคราม”

สำหรับปืนใหญ่ฮาววิตเซอร์ ถือเป็นปืนใหญ่ลากจูงที่สามารถยิงโจมตีเป้าหมายซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปหลายไมล์ และตามข้อมูลของเพนตากอน ณ วันที่ 24 ส.ค. สหรัฐฯ รับปากจะส่งปืนใหญ่ M777 ฮาววิตเซอร์ ให้ยูเครนแล้วทั้งหมด 126 กระบอก รวมถึงกระสุนขนาด 155 มม. อีกราวๆ 806,000 นัด

ขณะที่สัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ได้รวมกระสุนขนาด 155 มม. อีก 245,000 นัดเข้าไว้ในแพ็กเกจช่วยเหลือยูเครนมูลค่า 2,980 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นความช่วยเหลือทางทหารล็อตใหญ่ที่สุดที่วอชิงตันเคยมอบให้เคียฟ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดศึกรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 65

รัสเซียเคาะวันประชามติ ผนวกรวม 4 แคว้นยูเครน ด้านเซเลนสกี้ หยัน!! ปูตินรีบเพราะเห็นเค้าลางแพ้

สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ และ ลูฮันสก์ ที่เคยประกาศแยกตัวออกจากยูเครน ประกาศเดินหน้าทำประชามติเพื่อรวมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้ว โดยกำหนดไว้ในวันที่ 23-27 กันยายน 2565 ที่จะถึงนี้ 

ในขณะเดียวกัน เมืองเคอร์ชอน และ ซาปอริซเซีย ซึ่งเป็นเขตยึดครองของกองทัพรัสเซีย ก็เตรียมทำประชามติ เพื่อไปรวมกับรัสเซียในวันเดียวกันกับทางแคว้นโดเนตสก์ และ ลูฮันสก์ ด้วยเช่นกัน 

วลาดิมีร์ ซาลโด ผู้ว่าการเมืองเคอร์ชอน ที่ทางรัฐบาล มอสโควเป็นผู้แต่งตั้ง ได้ออกมาประกาศผ่านคลิปวิดีโอว่า “เราได้เตรียมแผนการที่จะกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอีกครั้ง และเราจะไม่ถอยหลังอีกแล้ว”

ทางด้านรัสเซีย ดมิตี้ เมดเวเดฟ อดีตผู้นำรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสภาฝ่ายความมั่นคง เคยให้ความเห็นมาก่อนหน้านี้แล้วว่า การจัดทำประชามติ ในเขตโดเนตสก์ และ ลูฮันสก์ เป็นสิ่งจำเป็น ที่จะช่วยให้รัสเซียส่งกำลังพลไปลงในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่มากกว่าที่เป็นอยู่นี้ 

ส่วน เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียก็ออกมาสนับสนุนแผนการทำประชามติอย่างเต็มที่ โดยบอกว่า ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็ควรให้ประชาชนได้มีส่วนตัดสินใจอนาคตของพวกเขา 

แต่ในทางตรงกันข้าม ดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของทางยูเครนได้ออกมาประณามแผนการทำประชามติในพื้นที่ 4 เขตยึดครองของกองทัพรัสเซียอย่างรุนแรงว่าเป็นการทำประชามติที่น่าละอาย และไม่ได้ทำให้สถานการณ์อะไรเปลี่ยนแปลงเลย

การเร่งเดินหน้าแผนการทำประชามติเกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพยูเครน สามารถตีโต้กองทัพรัสเซีย และยึดคืนพื้นที่ทั้งหมดของเมืองคาร์คีฟมาได้ และเริ่มเดินหน้ารุกคืบพื้นที่ในแคว้นลูฮันสก์ ซึ่ง โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ได้ออกมาประกาศว่ายูเครนพร้อมแล้วที่จะตีพื้นที่ในดองบาสคืนกลับมาทั้งหมด

‘เซเลนสกี’ ยุชาวรัสเซียรีบหนีออกนอกปท.หากยังอยากมีชีวิต หลัง ‘ปูติน’ เรียกระดมพลเพิ่ม

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันพฤหัสบดี (22 ก.ย. 65) เรียกร้องชาวรัสเซียต่อต้านการเรียกระดมกำลังสำรองบางส่วนโดยประธานาธิบดีวลาดมีร์ ปูติน หลังมันโหมกระพือการประท้วงและกระตุ้นให้มีการไหลบ่าเดินทางออกนอกประเทศ

"มีทหารรัสเซียตายแล้ว 55,000 นายในช่วงเวลา 6 เดือนของสงคราม" เซเลนสกีกล่าวปราศรัยประจำวัน "ต้องการมากกว่านี้หรือ? ไม่เลย พวกเขาประท้วง ต่อสู้กลับ หลบหนี หรือไม่ก็ยอมจำนนต่อทหารยูเครน"

"พวกคุณคือผู้ร่วมกระทำผิดในอาชญากรรมทั้งหมดเหล่านี้ ร่วมกระทำผิดในการฆาตกรรมและทรมานชาวยูเครน เพราะว่าพวกคุณปิดปากเงียบ เพราะว่าคุณปิดปากเงียบ" เซเลนสกีระบุ "และตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเลือก สำหรับพวกผู้ชายในรัสเซีย นี่คือการเลือกระหว่างความตายกับการมีชีวิต การกลายเป็นคนพิการหรือมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง"

สหรัฐฯ อาจดัน THAAD ระบบป้องกันภัยทางอากาศล้ำสมัย หลังรัสเซียโชว์ถล่มยูเครนตอบโต้ระเบิดสะพานที่ไครเมีย

เพจ The World Echo ได้โพสต์ข้อความการตอบโต้ยูเครนแบบจัดหนักจากรัสเซีย พร้อมโอกาสในการขายอาวุธชุดสำคัญจากสหรัฐฯ ระบุว่า...

โหดสัสรัสเซียที่แท้ทรู

ฝ่ายยูเครนเพิ่งแลบลิ้นปลิ้นตาใส่รัสเซีย พลางหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเย้ยเรื่องสะพานเชื่อมไครเมียระเบิดตูมไปหมาดๆ ส่วนหมีขาวนั้นกัดกรามกรอดๆ ลูกผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้ ยกเว้นเมีย ตดยังไม่ทันหายเหม็น ความโหดสัสรัสเซียก็ปรากฏให้โลกร้อง อั้ยหยา...

เฮียปูตินทุบโต๊ะชี้นิ้วใส่ยูเครนว่า ไอ้การที่ยูระเบิดสะพานที่ไครเมียถือเป็นการก่อการร้ายโว้ย แล้วระบายอารมณ์ด้วยการยิงจรวดใส่อาคารในเมืองซาปอริซเซีย 

ชาวโลกจับตามองว่าไอ้หมีขาวจะทำยังไงต่อ เช้าวันจันทร์ตามเวลายูเครน คือตั้งแต่หกโมงเช้ามาเลย ปูตินก็ยิงจรวดแทนคำทักทาย ปูพรมถล่มเคียฟประมาณ 75 ลูก เล่นเอาชาวเคียฟแตกตื่นหนีเอาตัวรอดกันสุดชีวิต 

รัสเซียถล่มตั้งแต่หกโมงเช้าถึงเที่ยง แต่ความเสียหายในเคียฟนั้นเรียกได้ 'บรรลัย' ตายไป 5 ราย บาดเจ็บอีก 12 ราย ไฟดับทั้งเมือง ระบบประปาและก๊าซให้ความร้อนได้รับความเสียหายหนัก ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะหนาวขนาดไหน ตอนนี้เริ่มหนาวแล้วด้วยในซีกโลกฝั่งนั้น

เปลี่ยนแม่ทัพปุ๊บโหดปั๊บ แถมปูตินยังโผล่หน้ามาในช่วงบ่าย ขู่ว่า ถ้าเคียฟไม่หยุด พี่ปูตินจะหยุดเคียฟเอง จากนั้นก็ร่ายยาวว่าได้ออกคำสั่งให้โจมตีจากระยะไกล ชนิดที่เรียกว่าอภิมหามหึมาใส่เป้าหมายต่างๆ ทั้งทางด้านพลังงาน, หน่วยสั่งการบังคับบัญชา, และการสื่อสารของยูเครน โดยใช้ขีปนาวุธซึ่งมีทั้งที่ยิงจากทางอากาศ, ทางทะเล, และภาคพื้นดิน 

สรุปง่ายๆ สั้นๆ คือมีเท่าไหร่ถวายประเคนหมด  ระดมยิงปูพรมถล่มเมืองเคียฟนั่นแหละ ทั้งนี้เพื่อตอบโต้การโจมตีแบบผู้ก่อการร้ายของยูเครนที่เพิ่งระเบิดสะพานไปหมาดๆ ในไครเมีย

‘รัฐบาลสหรัฐฯ’ พร้อมหนุน ‘ยูเครน’ สู้รัสเซียสุดกำลัง แต่ ‘กองทัพสหรัฐฯ’ อยากให้เจรจายุติสงคราม

เมื่อไม่นานมานี้ เพจ ‘Thailand Vision’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ไม่สู้ดีระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และกองทัพสหรัฐฯ โดยระบุข้อความว่า…

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 สำนักข่าว CNN ของสหรัฐฯ รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กับกองทัพสหรัฐฯ กำลังมีความเห็นที่ขัดแย้งกันสุดขั้ว ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศกับยูเครน โดยคณะเจ้าหน้าที่ความมั่นคงประจำเทียบขาว และกระทรวงต่างประเทศ ต้องการสนับสนุนให้ยูเครนสู้รบกับรัสเซียต่อไป ในขณะที่กองทัพสหรัฐฯ มองว่าควรผลักดันให้มีการเจรจาเพื่อยุติสงคราม

กองทัพสหรัฐฯ นำโดย พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ (Gen. Mark Milley) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดสหรัฐฯ ได้พยายามเสนอนโยบายการเจรจายุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งผบ.สส.สหรัฐฯ ท่านนี้ พยายามผลักดันนโยบายดังกล่าวมาตลอดเกือบทั้งเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

‘กลุ่มนาโต้’ สัญญาจัดหาอาวุธส่งให้ยูเครน ด้านรัสเซีย เตือน ถ้าส่ง ‘แพทริออต’ ได้เจอดีแน่

ในวันอังคาร (29 พ.ย.) พันธมิตรนาโต้สัญญาจัดหาอาวุธเพิ่มเติมและอุปกรณ์ สำหรับช่วยกู้ไฟฟ้าและความร้อนแก่ยูเครน หลังโครงข่ายทางพลังงานได้รับความเสียหายร้ายแรงจากปฏิบัติการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนของรัสเซีย ท่ามกลางเสียงร้องขอของเคียฟเกี่ยวกับระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออต อย่างไรก็ตามมันกระตุ้นเสียงเตือนจากมอสโก ที่บอกว่าเหล่านั้นจะกลายเป็นเป้าหมายโดยชอบธรรมของพวกเขาในทันที

เสียงไซเรนเตือนการถูกโจมตีทางอากาศดังระงมทั่วยูเครนเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ กระตุ้นให้ประชาชนหลบหนีออกจากท้องถนนไปหาที่กำบัง ทั้งนี้ แม้ต่อมาได้มีการยกเลิกคำเตือนและปิดเสียงไซเรนทั่วประเทศ แต่มีรายงานว่าในแคว้นโดเนตส์ก ทางภาคตะวันออก กองกำลังรัสเซียได้ยิงถล่มเป้าหมายต่างๆ ของยูเครนด้วยปืนใหญ่ ปืนครกและรถถัง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศจากพันธมิตรนาโต้ ในนั้นรวมถึง แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เริ่มการประชุม 2 วันในบูคาเรสต์ ในความพยายามหาหนทางช่วยมอบความปลอดภัยและความอบอุ่นแก่ประชาชนชาวยูเครน รวมไปถึงสนับสนุนกองทัพเคียฟ ให้ผ่านพ้นสงครามฤดูหนาวที่กำลังมาเยือน

ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน บอกกับผู้สื่อข่าวรอบนอกการประชุมนาโต้ พาดพิงถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศต่างๆ ของตะวันตก "เราต้องการการป้องกันภัยทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็น ไอริส ฮอว์ก และแพทริออต และเราต้องการหม้อแปลงสำหรับความจำเป็นทางพลังงานของเรา" เขากล่าว "โดยสรุปแล้ว แพทริออตและหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นสิ่งที่ยูเครนต้องการมากที่สุด"

คำขอดังกล่าวกระตุ้นเสียงตอบโต้จาก ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ออกมาเตือนนาโต้ต่อการมอบระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออตแก่ยูเครน และตำหนิพันธมิตรทหารข้ามแอตแลนติกแห่งนี้ว่าเป็น ‘องค์กรอาชญากรรม’ สำหรับป้อนอาวุธแก่สิ่งที่เขาเรียกว่า ‘ยูเครนผู้บ้าคลั่ง’

"ตามที่ เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ พูดเป็นนัย ถ้านาโต้มอบระบบแพทริออตแก่ยูเครนผู้บ้าคลั่ง เช่นเดียวกับบุคลากรของนาโต้ พวกมันจะกลายเป็นเป้าหมายโดยชอบธรรมสำหรับกองกำลังของเราในทันที" เมดเวเดฟเขียนบนเทเลแกรม

สโตลเทนเบิร์ก กล่าวก่อนหน้านี้ว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ‘กำลังพยายามใช้อากาศอันหนาวเหน็บเป็นอาวุธแห่งสงคราม’ หลังจากกองทัพรัสเซียประสบความปราชัยในสมรภูมิรบ

ในถ้อยแถลงฉบับหนึ่ง บรรดารัฐมนตรีของนาโต้ประณามรัสเซียต่อการโจมตีอย่างไม่ลดละและไร้สามัญสำนึก เล็งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนและพลังงานของยูเครน และยืนยันการตัดสินใจในปี 2008 ที่ว่า ท้ายที่สุดแล้วยูเครนจะได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของพันธมิตรทหารแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ระบุถึงมาตรการที่เป็นรูปเป็นร่างหรือกรอบเวลาที่ชัดเจนใดๆ

พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และยุโรปเผยว่าบรรดารัฐมนตรีนาโต้ จะมุ่งเน้นพูดคุยกันในเรื่องความช่วยเหลือที่ไม่ใช่อาวุธสังหาร เช่น ด้านเชื้อเพลิง เสบียงทางการแทพย์และอุปกรณ์สำหรับใช้ในฤดูหนาว เช่นเดียวกับความช่วยเหลือด้านการทหาร ในขณะที่วอชิงตัน ระบุว่าจะมอบเงิน 53 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับซื้ออุปกรณ์โครงข่ายไฟฟ้า

รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย เรียกร้องให้สมาชิกนาโต้ ตัดสินใจทางการเมือง จัดหารถถังประจัญบานทันสมัยแก่เคียฟ เพื่อความได้เปรียบด้านการทหารเหนือกองกำลังรัสเซีย แต่ดูเหมือนมหาอำนาจตะวันตกลังเลที่จะทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าว ด้วยความกังวลว่ามันอาจโหมกระพือความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย

รัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศขนานใหญ่เล็งเป้าหมายถล่มโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าและความร้อนของยูเครน เกือบทุกสัปดาห์มาตั้งแต่เดือนตุลาคม ในสิ่งที่เคียฟและพันธมิตรบอกว่า เป็นการโจมตีที่จงใจทำร้ายพลเรือน ซึ่งเท่ากับเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม

มอสโกอ้างว่าพวกเขาไม่ได้เล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือน แต่ระบุความทุกข์ทรมานของประชาชนจะจบลงก็ต่อเมื่อเคียฟยอมรับข้อเรียกร้องของพวกเขา ซึ่งไม่ได้บอกว่าคืออะไร ทั้งนี้ แม้เคียฟสอยร่วงขีปนาวุธที่พุ่งเข้ามาได้เป็นส่วนใหญ่ แต่มันก่อความเสียหายสะสมและผลกระทบของการโจมตีแต่ละครั้งก็หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

‘อียู’ เสนอยึดทรัพย์รัสเซียที่ถูกอายัด ชดเชยความเสียหายแก่ยูเครน

(1 ธ.ค. 65) สำนักข่าวซินหัว เผยว่าเมื่อวันพุธ (30 พ.ย.) ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เสนอแผนการยึดทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัด เพื่อชดเชยความเสียหายแก่ยูเครนที่เกิดจากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน

แถลงการณ์จากอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการฯ ระบุว่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดจะถูกมอบให้ยูเครน ‘เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดกับประเทศ’ ซึ่งมีการประเมินอยู่ที่ราว 6 แสนล้านยูโร (ประมาณ 21.87 ล้านล้านบาท)

ฟอน แดร์ ไลเอิน กล่าวว่า สหภาพยุโรป (EU) ได้ปิดกั้นเงินสำรองของธนาคารกลางรัสเซีย จำนวน 3 แสนล้านยูโร (ราว 10.93 ล้านล้านบาท) และอายัดเงินของอภิมหาเศรษฐีรัสเซีย จำนวน 1.9 หมื่นล้านยูโร (ราว 6.92 แสนล้านบาท)

ชาวอังกฤษ 85% อาการหนัก หลังรัฐยังหนุนยูเครนไม่เลิก ‘ค่าครองชีพพุ่ง-เริ่มกินอาหารสัตว์เลี้ยง-เทียนไขทำอาหาร’

(4 ธ.ค. 65) World Update เผยว่า ภายหลังรัฐบาลสหราชอาณาจักร เดินตามแนวทางของสหรัฐฯ ร่วมคว่ำบาตรพลังงานราคาถูกจากรัสเซีย...ผ่านมา 9 เดือน ผลปรากฏเศรษฐกิจเละ เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 3 คนพร้อมคณะรัฐมนตรีอีก 300 ตำแหน่ง (ครม.อังกฤษมี 100 ตำแหน่ง/ชุด)

อัตราเงินเฟ้อทะยานอวกาศเป็น 11.1% เศรษฐกิจตกต่ำที่สุดในรอบ 41 ปี เกิดม็อบสหภาพแรงงานต่าง ๆ นัดหยุดงานประท้วงไม่เว้นแต่ละวัน เมืองใหญ่คราคร่ำไปด้วยม็อบเผาบิลค่าไฟฟ้าที่แพงจัดจนจ่ายไม่ไหว กลายเป็นฝันร้ายสำหรับคนนับล้าน

มีการคาดว่าอัตราเงินเฟ้ออังกฤษแท้จริงคือ 13.8% ไปแล้วแต่เมื่อรัฐบาล เยียวยาบางส่วนจึงอยู่ที่ 11.1% ส่งผลให้ลักลั่นกับค่าครองชีพที่ทะยานโด่งลิ่วไปก่อน

แต่ถึงกระนั้นนายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก แห่งอังกฤษ ก็ยังคงสานต่อนโยบายรัฐบาลชุดเดิม คือ คว่ำบาตรพลังงานราคาถูกรัสเซีย น้ำเข้าราคาแพงจากสหรัฐฯ และเป็นปฏิปักษ์จีน ด้วยการประกาศว่าความสัมพันธ์ยุคทองระหว่างอังกฤษกับจีนได้จบลงแล้ว เนื่องจากจีนมีบทบาทสำคัญในเวทีโลกล้ำหน้าอังกฤษเกินไป

นอกจากนี้อังกฤษ ยังคงยื้อความขัดแย้งสงครามในยูเครนต่อไป เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นผู้ให้เงินช่วยเหลือ (เงินกู้) ค่าอาวุธรายใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน รองจากสหรัฐฯ มูลค่า 2,300 ล้านปอนด์ (99,568 ล้านบาท)

ขณะที่ปัจจัยค่าพลังงานแพง ซ้ำเติมด้วยเงินคลังไหลออกติดหล่มสงครามที่ไม่รู้จะได้เงินคืนเมื่อใด ยิ่งซ้ำเติมให้เงินหมุนเวียนภายในชาติหดหายลงไปอีก 

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ ได้ประเมินว่าครัวเรือนต้องจ่ายค่าเครื่องทำความร้อนและแสงสว่างสูงกว่าปีที่แล้วถึง 88.9% 

และภายในสิ้นปีนี้ จะมีค่าใช้จ่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตเฉลี่ย 4,960 ปอนด์/ครอบครัว ซึ่งมากกว่าปีก่อนถึง 380 ปอนด์

โพลสำรวจความคิดเห็นยังระบุอึกว่า ชาวอังกฤษมากถึง 85% หรือเกือบทั้งประเทศ วิตกกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในชีวิตความเป็นอยู่ 

ชาวอังกฤษทั่วประเทศต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในช่วงคริสต์มาสปีนี้ และมีการขาดแคลนไก่งวงและนกในฤดูหนาว อาหารค่ำวันคริสต์มาสกลายเป็นภาระที่น่าเป็นห่วงสำหรับครอบครัวชาวอังกฤษจำนวนมาก

โพลระบุอีกว่า 20% ของครอบครัวในอังกฤษ จะขอให้แขกมาบ้านช่วยจ่ายค่าอาหารค่ำวันคริสต์มาส รวมถึงวางแผนที่จะใช้จ่ายของขวัญในปีนี้น้อยลงมากกว่า 36.3% และไม่สามารถจ่ายเงินฟุ่มเฟือยได้เหมือนที่ผ่านมา 33%

หากย้อนไปในเดือนที่ผ่านมา ราคาวัตถุดิบในครัวเรือน เช่น นม, เนย, ชีส, เนื้อ และขนมปัง เพิ่มขึ้นสูงถึง 42% ทำให้ชาวอังกฤษต้องพึ่งพาธนาคารอาหารบริจาคมากขึ้นกว่าเดิม

จากค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแพง และอาหาร ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นสาเหตุหลักของภาระค่าครองชีพที่สูงเป็นประวัติการณ์ ชาวอังกฤษกำลังดิ้นรนอย่างสุดชีวิตเพื่อเอาตัวรอด ผลกระทบต่อหลายพื้นที่ของเวลส์อย่างหนัก 

ชาวเวลล์บางส่วนไม่ได้รับค่าจ้างมากพอที่จะซื้อสิ่งจำเป็นต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดวิกฤตค่าครองชีพที่ไม่สามารถจ่ายไหว ต้องใช้ชีวิตมาตรฐานระดับต่ำสุดเพื่อเลี้ยงครอบครัว

ชุมชนที่ยากไร้มากที่สุด 6 แห่งของเวลส์อยู่ในเมืองคาร์ดิฟฟ์ ครอบครัวจำนวนมากขาดสิ่งจำเป็นพื้นฐานปัจจัย 4 ในการดำรงชีพ คือ 'อาหาร'


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top