Wednesday, 15 May 2024
บิ๊กโจ๊ก

‘ไผ่’ ฝาก ‘บิ๊กโจ๊ก’ ช่วยตรวจสอบหลังพบเพื่อน ‘แก๊งมาเก๊า 888’ เจ้าพ่อเว็บพนันหนีคดี โผล่ในคลิปทะเลาะวิวาท ‘สส.ก้าวไกล’

‘ไผ่ ลิกค์’ สส.พปชร. ชี้เหตุ สส.ก้าวไกลทะเลาะวิวาทในร้านอาหาร จะถูกจะผิดอย่างไร ตนไม่ขอยุ่ง แต่อยากจะแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าคนในนั้นเป็นเพื่อนกับ ‘แก็ง 4 บ. มาเก็า 888’ และเป็นกลุ่มเดียวกับ ‘เอ็ดดี้’ ที่หนีคดีอยู่ ฝาก ‘บิ๊กโจ๊ก’ ช่วยเช็กเพื่อความสบายใจของประชาชน

(12 ส.ค. 66) นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุถึงเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกลางร้านอาหารของนายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม.เขต 3 ยานนาวา-บางคอแหลม ของพรรคก้าวไกลว่า…

“เรื่องที่เกิดขึ้นจะถูกจะผิด จะทำการป้องกันตัว หรือเกินกว่าเหตุ ผมไม่ขอยุ่งเกี่ยว จะร้านเลิกแล้วไม่ยอมกลับ หรือร้านเช็คบิลช้า ผมก็ไม่เกี่ยว

แต่ผมอยากจะแจ้งทางเจ้าหน้าที่หน่อยครับ มีคนในนั้นที่เป็นเพื่อนกับแก็ง 4 บ. มาเก็า 888 และเป็นกลุ่มเดียวกับเอ็ดดี้ที่หนีคดีอยู่ แหล่งข่าววงในบอกว่าไปด้วยแต่เพิ่งกลับมา ว่าทำงานอะไรเกี่ยวกับธุรกิจสีอะไร ฝากบิ๊กโจ๊กช่วยเช็ก เพื่อความสบายใจของประชาชนหน่อยนะครับ”

‘บิ๊กโจ๊ก’ เผย!! กู้หลักฐานกล้องวงจรปิดใกล้เสร็จแล้ว เตรียมออกหมายจับเพิ่ม ขอตำรวจในงานเลี้ยงพูดความจริง

(12 ก.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดียิงสารวัตรแบงค์ สังกัดตำรวจทางหลวงเสียชีวิตในงานเลี้ยงกำนันนกคืนวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า จากการสืบสวนสอบสวน ขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนเลี้ยงว่ามีตำรวจอยู่ร่วมงานเลี้ยงจำนวน 28 นาย และพลเรือน 27 คน ในจำนวนนี้มีตำรวจ 6 นาย ถูกแจ้งข้อหาและฝากขังไปแล้ว และมีข้าราชการของกรมราชทัณฑ์ 1 คน ส่วนพลเรือนขณะนี้ถูกดำเนินคดีฐานทำลายหลักฐานรวม 4 คน ส่วนจะแจ้งข้อหาหรือออกหมายจับใครเพิ่มเติมยังต้องรอการกู้ไฟล์เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดให้ได้ก่อนเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีและจะเห็นความชัดเจนว่ามีใครเกี่ยวข้อง หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่ามีการออกหมายจับเพิ่มทั้งตำรวจและพลเรือนแน่นอน

ในส่วนของเซิร์ฟเวอร์หากมีการกู้สำเร็จจะไม่มีการจะไม่มีการนำมาเปิดเผยเนื่องจากรายละเอียดนี้ใช้ประกอบสำนวนทนายของจำเลยอาจจะใช้ต่อสู้คดีได้ ดังนั้นตัวเองจะไปดูและเป็นผู้นำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเอง 

ทั้งนี้ยืนยันว่าคดีนี้ผู้เสียชีวิตจะได้รับความเป็นธรรมที่สุด และจะมีการขยายผลไปถึงประเด็นอื่น ๆ ที่เชื่อมโยง เครือข่ายกำนันนก ว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน ทั้งการฮั๊วะประมูลโครงการของรัฐในพื้นที่ภาคเจ็ด เรื่องเว็บพนันออนไลน์ก็กำลังสืบสวนอยู่เช่นกัน

รวมถึงกรณีกระแสข่าวเส้นทางการเงินเครือข่ายกำนันนก ที่มีการโอนให้กับนายตำรวจทั้งที่อยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดเหตุและตำรวจที่ไม่ได้ไปงานด้วยตอนนี้ก็มีข้อมูลแล้วว่าอยู่หน่วยงานไหน แต่ขอยังไม่เปิดเผยเพราะรายละเอียดอยู่ในสำนวน

ส่วนกรณีที่มีเว็บไซต์ออนไลน์ สื่อโซเชียลมีเดียออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวกำนันนก จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเว็บอวตารที่ทำขึ้นมาหลังจากเกิดคดีแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหาตัวบุคคลดังกล่าว หากพบตัวก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนประเด็นการเสียชีวิตของผู้กำกับเบิ้ม พ.ต.อ.วชิรา ผู้กำกับการตำรวจทางหลวง 2 ที่ก่อเหตุปลิดชีพในบ้านพัก เป็นเรื่องที่ทุกคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียดายและเสียใจเป็นอย่างมาก จากที่ตัวเองเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุจากหลักฐานตอนนี้ยังพบว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังต้องรอผลการตรวจของเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์และพิสูจน์หลักฐานเพื่อความชัดเจน

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผู้กำกับปลิดชีพตัวเองยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นประเด็นความเครียดเนื่องจากพนักงานสอบสวน ที่สอบปากคำผู้กำกับเบิ้ม ระบุว่าผู้กำกับเบิ้มมีความเครียดสูง ส่วนประเด็นที่โซเชียลสงสัยว่าทำไมโทรศัพท์มือถือถึงอยู่ที่บางนา ห่างไกลจากสถานที่พบศพ เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งเป็นผู้ถือโทรศัพท์มือถือมาสอบปากคำอีกครั้ง 

ส่วนแท็กซี่ที่ขับมาส่งผู้กำกับเบิ้มที่บ้านก่อนเกิดเหตุ เมื่อคืนนี้ได้เรียกมาสอบปากคำแล้ว จากคำให้การ ไม่ครบข้อพิรุธ ระหว่างเดินทางไปบ้านหลังเกิดเหตุผู้กำกับเบิ้มก็ได้บอกเส้นทางกลับบ้านด้วยตัวเอง และเดินทางเพียงลำพังคนเดียว

ส่วนประเด็นเรื่องโรบอทดูดฝุ่น ที่พบหัวกระสุน จะมีการตั้งเวลาหรือมีการสั่งการผ่านมือถือจากข้างนอกหรือไม่ ข้อสงสัยนี้ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ กับบริษัทผู้ผลิต

ส่วนกรณีผู้กำกับ สน.พญาไทที่มีคลิปเสียงข่มขู่ผู้สื่อข่าว เชื่อว่าเกิดจากความเครียด ซึ่งหลังจากนี้หากผู้สื่อข่าว ยังติดใจสามารถแจ้งความผ่านตัวเองได้ ส่วนที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคเจ็ดจัดกำลังดูแลผู้สื่อข่าว ที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ภาคเจ็ดเชื่อว่าทำไปเพื่อความสบายใจ

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า เวลานี้ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์งานเลี้ยงทั้งหมดยังให้การไม่เป็นความจริง ซึ่งส่วนตัวมองว่าต้องมีจิตสำนึก รักพวกพ้องตำรวจด้วยกัน เพราะตอนนี้มีตำรวจถูกยิงตายแล้วหนึ่ง บาดเจ็ดหนึ่ง และปลิดชีพเพิ่มอีก ดังนั้น ก็ควรออกมาพูดความจริง เพราะสาเหตุการตายที่เกิดขึ้นเกิดจากการเป็นไม้ค้ำยันให้กับผู้มีอิทธิพล ซึ่งแย่เต็มที

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีตำรวจที่ให้การร้องไห้และพูดความจริงออกมาทั้งหมดยืนยันว่ายังไม่มีข้อมูลตรงนั้น มีเพียงตำรวจที่อยู่ในเรือนจำเท่านั้นที่มีความเครียดเวลาญาติไปเยี่ยมก็จะร้องไห้ 

ส่วนตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องเบื้องต้นได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาคอยติดตามอย่างต่อเนื่องหากมีความเครียดก็ให้นำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจและมีนักจิตวิทยาคอยประเมินสภาพจิตใจเพื่อป้องกันความเสี่ยงเกิดเหตุซ้ำรอยผู้กำกับเบิ้ม

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่าเมื่อวานนี้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ติดต่อมาหาตัวเอง แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ซึ่งจะทำงานร่วมกันโดยนายชาดาจะช่วยสแกนรายชื่อผู้มีอิทธิพลและส่งมาให้ตัวเองดำเนินการต่อ

‘บิ๊กโจ๊ก’ เผย!! กู้หลักฐานกล้องวงจรปิดใกล้เสร็จแล้ว เตรียมออกหมายจับเพิ่ม ขอตำรวจในงานเลี้ยงพูดความจริง

(12 ก.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดียิงสารวัตรแบงก์ สังกัดตำรวจทางหลวงเสียชีวิตในงานเลี้ยงกำนันนกคืนวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า จากการสืบสวนสอบสวน ขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนเลี้ยงว่ามีตำรวจอยู่ร่วมงานเลี้ยงจำนวน 28 นาย และพลเรือน 27 คน ในจำนวนนี้มีตำรวจ 6 นาย ถูกแจ้งข้อหาและฝากขังไปแล้ว และมีข้าราชการของกรมราชทัณฑ์ 1 คน ส่วนพลเรือนขณะนี้ถูกดำเนินคดีฐานทำลายหลักฐานรวม 4 คน ส่วนจะแจ้งข้อหาหรือออกหมายจับใครเพิ่มเติมยังต้องรอการกู้ไฟล์เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดให้ได้ก่อนเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีและจะเห็นความชัดเจนว่ามีใครเกี่ยวข้อง หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่ามีการออกหมายจับเพิ่มทั้งตำรวจและพลเรือนแน่นอน

ในส่วนของเซิร์ฟเวอร์หากมีการกู้สำเร็จจะไม่มีการจะไม่มีการนำมาเปิดเผยเนื่องจากรายละเอียดนี้ใช้ประกอบสำนวนทนายของจำเลยอาจจะใช้ต่อสู้คดีได้ ดังนั้นตัวเองจะไปดูและเป็นผู้นำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเอง 

ทั้งนี้ยืนยันว่าคดีนี้ผู้เสียชีวิตจะได้รับความเป็นธรรมที่สุด และจะมีการขยายผลไปถึงประเด็นอื่น ๆ ที่เชื่อมโยง เครือข่ายกำนันนก ว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน ทั้งการฮั๊วะประมูลโครงการของรัฐในพื้นที่ภาคเจ็ด เรื่องเว็บพนันออนไลน์ก็กำลังสืบสวนอยู่เช่นกัน

รวมถึงกรณีกระแสข่าวเส้นทางการเงินเครือข่ายกำนันนก ที่มีการโอนให้กับนายตำรวจทั้งที่อยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดเหตุและตำรวจที่ไม่ได้ไปงานด้วยตอนนี้ก็มีข้อมูลแล้วว่าอยู่หน่วยงานไหน แต่ขอยังไม่เปิดเผยเพราะรายละเอียดอยู่ในสำนวน

ส่วนกรณีที่มีเว็บไซต์ออนไลน์ สื่อโซเชียลมีเดียออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวกำนันนก จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเว็บอวตารที่ทำขึ้นมาหลังจากเกิดคดีแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหาตัวบุคคลดังกล่าว หากพบตัวก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนประเด็นการเสียชีวิตของผู้กำกับเบิ้ม พ.ต.อ.วชิรา ผู้กำกับการตำรวจทางหลวง 2 ที่ก่อเหตุปลิดชีพในบ้านพัก เป็นเรื่องที่ทุกคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียดายและเสียใจเป็นอย่างมาก จากที่ตัวเองเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุจากหลักฐานตอนนี้ยังพบว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังต้องรอผลการตรวจของเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์และพิสูจน์หลักฐานเพื่อความชัดเจน

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผู้กำกับปลิดชีพตัวเองยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นประเด็นความเครียดเนื่องจากพนักงานสอบสวน ที่สอบปากคำผู้กำกับเบิ้ม ระบุว่าผู้กำกับเบิ้มมีความเครียดสูง ส่วนประเด็นที่โซเชียลสงสัยว่าทำไมโทรศัพท์มือถือถึงอยู่ที่บางนา ห่างไกลจากสถานที่พบศพ เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งเป็นผู้ถือโทรศัพท์มือถือมาสอบปากคำอีกครั้ง 

ส่วนแท็กซี่ที่ขับมาส่งผู้กำกับเบิ้มที่บ้านก่อนเกิดเหตุ เมื่อคืนนี้ได้เรียกมาสอบปากคำแล้ว จากคำให้การ ไม่ครบข้อพิรุธ ระหว่างเดินทางไปบ้านหลังเกิดเหตุผู้กำกับเบิ้มก็ได้บอกเส้นทางกลับบ้านด้วยตัวเอง และเดินทางเพียงลำพังคนเดียว

ส่วนประเด็นเรื่องโรบอทดูดฝุ่น ที่พบหัวกระสุน จะมีการตั้งเวลาหรือมีการสั่งการผ่านมือถือจากข้างนอกหรือไม่ ข้อสงสัยนี้ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ กับบริษัทผู้ผลิต

ส่วนกรณีผู้กำกับ สน.พญาไทที่มีคลิปเสียงข่มขู่ผู้สื่อข่าว เชื่อว่าเกิดจากความเครียด ซึ่งหลังจากนี้หากผู้สื่อข่าว ยังติดใจสามารถแจ้งความผ่านตัวเองได้ ส่วนที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคเจ็ดจัดกำลังดูแลผู้สื่อข่าว ที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ภาคเจ็ดเชื่อว่าทำไปเพื่อความสบายใจ

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า เวลานี้ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์งานเลี้ยงทั้งหมดยังให้การไม่เป็นความจริง ซึ่งส่วนตัวมองว่าต้องมีจิตสำนึก รักพวกพ้องตำรวจด้วยกัน เพราะตอนนี้มีตำรวจถูกยิงตายแล้วหนึ่ง บาดเจ็บหนึ่ง และปลิดชีพเพิ่มอีก ดังนั้น ก็ควรออกมาพูดความจริง เพราะสาเหตุการตายที่เกิดขึ้นเกิดจากการเป็นไม้ค้ำยันให้กับผู้มีอิทธิพล ซึ่งแย่เต็มที

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีตำรวจที่ให้การร้องไห้และพูดความจริงออกมาทั้งหมดยืนยันว่ายังไม่มีข้อมูลตรงนั้น มีเพียงตำรวจที่อยู่ในเรือนจำเท่านั้นที่มีความเครียดเวลาญาติไปเยี่ยมก็จะร้องไห้ 

ส่วนตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องเบื้องต้นได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาคอยติดตามอย่างต่อเนื่องหากมีความเครียดก็ให้นำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจและมีนักจิตวิทยาคอยประเมินสภาพจิตใจเพื่อป้องกันความเสี่ยงเกิดเหตุซ้ำรอยผู้กำกับเบิ้ม

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่าเมื่อวานนี้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ติดต่อมาหาตัวเอง แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ซึ่งจะทำงานร่วมกันโดยนายชาดาจะช่วยสแกนรายชื่อผู้มีอิทธิพลและส่งมาให้ตัวเองดำเนินการต่อ

‘บิ๊กโจ๊ก’ จ่อแจ้งข้อหา 14 ตร. ร่วมงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ผิด 157-ให้การเท็จ ไร้ความละอายใจต่อเกียรติภูมิตำรวจ

(17 ก.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยทางโทรศัพท์ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับตำรวจที่ร่วมงานเลี้ยงบ้านของ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ว่า จากการประชุมสรุปผลการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดประกอบสำนวนคำให้การของตำรวจทุกนายที่เข้าร่วมงานเลี้ยงและประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ทำให้สามารถสรุปได้ว่ามีข้าราชการตำรวจที่เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวน โดยไม่ละอายใจต่อเกียรติภูมิความเป็นตำรวจ จึงต้องดำเนินคดีกับตำรวจทุกนายที่มีพฤติกรรมกระทำผิด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีตำรวจที่เข้าข่ายกระทำความผิดรวม 14 นาย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เป็นกลุ่มตำรวจที่ไม่ให้การช่วยเหลือ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงก์ และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. อาทิ พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท ถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ส่วนข้อหาแจ้งความเท็จหรือให้การเท็จนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า รวมถึง พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผกก.เบิ้ม ก็ถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากเสียชีวิตไปแล้ว พนักงานสอบสวนจะระบุท้ายสำนวนว่าเสียชีวิตแล้ว ส่วนพ.ต.ท.วศิน ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่า เป็นหนึ่งในผู้ที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาฐานแจ้งความเท็จ แต่ล่าสุดจากการตรวจสอบสำนวนคำให้การและภาพประกอบวงจรปิด พบว่าคำให้การนั้นตรงกันและอยู่ในฐานะผู้เสียหายจึงรอดไม่ถูกดำเนินคดี

รองผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหาตำรวจทั้ง 14 นาย เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ เป็นหัวหน้าชุดในการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้ โดยจะเรียกตำรวจทั้ง 14 นาย มารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันนี้

‘บิ๊กโจ๊ก’ ปัดเอี่ยวเครื่อข่ายพนันออนไลน์ หลังตร.ไซเบอร์บุกค้น ส่วนที่ออกหมายจับลูกน้อง กร้าว!! หากทำผิดไม่มีการละเว้น

(25 ก.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ภายหลังพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ตรวจค้นบ้านพักภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซอยวิภาวดี 60 อ้างเกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์ว่า ในการออกหมายค้นวันนี้ผมนำตรวจค้นเอง ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ส่วนที่ออกหมายจับลูกน้องผม ใครที่ถูกออกหมายจับก็ต้องไปชี้แจง

เมื่อถามว่าเห็นว่ามีเกี่ยวข้องกับเว็บพนันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผมเกี่ยวข้องกับการปราบปรามอย่างเดียว แต่ไม่เป็นไรเมื่อวันนี้มีหมายค้นหมายจับก็ให้ความร่วมมือปฎิบัติตามหมาย

“ส่วนเงินที่เข้าบัญชีต่างๆ ไม่มีหรอกผมมั่นใจ เมื่อมีหมายก็ต้องชี้แจงข้อกล่าวหา เมื่อลูกน้องทำผิดก็ต้องไม่ละเว้น”

‘บิ๊กโจ๊ก’ ยัน!! ไม่รู้จัก 'มินนี่' เจ้าแม่เว็บพนัน หลังคลิปร้องเพลงคู่ว่อนเน็ต ย้ำ แค่ไปงานเลี้ยงลูกน้องเท่านั้น เชื่อ!! เหตุการณ์นี้เป็นการดิสเครดิตตน

(25 ก.ย. 66) ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีในโลกโซเซียลได้แชร์คลิปร้องเพลงคู่กันกับ ‘มินนี่’ เจ้าของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ ว่า ตนนั้นรู้มานานแล้วว่าจะมีการนำเอาคลิปนี้นั้นมาทำการดิสเครดิตตน และบอกว่าตนไม่ได้รู้จักเลย ว่าผู้หญิงที่มาร้องเพลงด้วยนั้นเป็นใคร

โดยวันนั้นเป็นงานเลี้ยงลูกน้องของตนโดยมีตนเป็นเจ้าภาพ แต่ว่าการที่ใครจะนำคนนอกเข้ามาในงานนั้นตนไม่ทราบ ยืนยันว่าตนไม่ได้รู้จักหรือมีการติดต่อตัวของ ‘มินนี่’ แต่อย่างใด ส่วนในเรื่องที่มีภาพออกมาว่าลูกน้องของตนนั้นมีการไปโอบกอดตัวของ ‘มินนี่’ อย่างสนิทสนมนั้น ทางลูกน้องนั้นก็ต้องไปตอบให้ได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร หากเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็ต้องดำเนินคดี

“ผมนั้นไม่ได้ท้อแท้ ผมก็ยังออกมาทำงานตามปกติ เบื้องต้น สิ่งที่ออกมาในวันนี้ไม่ได้กระทบการทำงานของผม แต่อย่างใดก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษา ก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ต้องว่าไปตามกระบวนการพยานหลักฐาน ส่วนประเด็นที่นายอัจฉริยะจะออกมาแฉ ถ้าไม่ใช่ความจริงก็จะดำเนินคดีกลับไป ซึ่งตนก็ได้มีการดำเนินการฟ้องนายอัจฉริยะอยู่แล้วที่ศาลอาญาเรื่องของการหมิ่นประมาท” รอง ผบ.ตร.กล่าว

‘จากสมาคมชาวปักษ์ใต้’ รวมพล 26 ก.ย.สโมสรตำรวจ ร่วมให้กำลัง ‘บิ๊กโจ๊ก’ เชื่อ!! ถูกรังแกจากอิทธิพลมืด

(25 ก.ย.66) สมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เขียนจดหมายเปิดผนึก ขอเชิญร่วมให้กำลังใจแก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ ความว่า…

เรียน ที่ปรึกษา/กรรมการ/อนุกรรมการ/สมาชิกสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ/นายกสมาคมประธานชมรมชาวใต้ทั้ง14จว.ภาคใต้ทุกพื้นที่/เครือข่ายสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ/สมาชิกสมาคมชมรมชาวใต้ทุกพื้นที่/ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน

สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ ขอเชิญทุกท่านร่วมให้กำลังใจ แก่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล นายกสมาคม ชาวปักษ์ใต้ฯ ปกป้องคนดีที่ถูกรังแกจากอิทธิพลมืด

นัดหมายตามรายละเอียดดังนี้...
พบกันในวันอังคารที่ 26 กันยายน 2566
เวลา 09.00 น. ณ สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร
การแต่งกาย สวมเสื้อสีเหลือง กรรมการสวมสูททับ และติดโลโก้สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ บุคคลทั่วไปสวมเสื้อเหลืองใช้สูททับหรือแต่งกายด้วยชุดสุภาพ (สวมเสื้อเหลือง) สมาคมชมรมชาวใต้ใส่เสื้อเหลือง(สูททับ)หรือสวมเสื้อเหลืองแต่งกายสุภาพ

"เราทำความดีด้วยหัวใจ"
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน

ขอแสดงความนับถือ
ดร.อนันต์ ชูรักษ์
ผอ.สำนักอำนวยการ เลขาธิการ
สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ
0813508549

รศ.(พ)ดร.เชวงศักดิ์ ลักษณะวิลาศ
อุปนายกฝ่ายประชาสัมพันธ์
ผู้แจ้งข่าว/ประสานงาน 0628539645

หมายเหตุ...
ขอความกรุณาช่วยส่งต่อข่าวนี้ไปยังสายงานของท่านด้วย

'ดร.สุวินัย' ยกกรณี 'บ้านบิ๊กโจ๊ก-เว็บพนันออนไลน์-หมิ่น 112' ฉากทัศน์พิฆาตมาเฟียทุกวงการอย่างเด็ดขาด กำลังเกิด!!

(26 ก.ย.66) ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Suvinai Pornavalai' ระบุว่า...

ความจริงที่มีหนึ่งเดียว เรื่องบ้าน ‘บิ๊กโจ๊ก’ กับคดีเว็บพนันออนไลน์

เวลาอ่านข่าว อย่าอ่านตามตรรกะหรือวาทกรรมที่มีใครบางคนต้องการให้คนอ่านเชื่อตามนั้น เพื่อจูงจมูกคนอ่านให้เชื่อใน ‘บทสรุป’ ที่เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว

สิ่งที่คนอ่านควรทำคือ หาข้อเท็จจริงที่เป็น ‘ความจริงที่มีหนึ่งเดียว’ ออกมา โดยยังไม่รีบด่วนสรุปอะไรทั้งสิ้น

(1) บ้าน ‘บิ๊กโจ๊ก’ ทั้ง 5 หลัง ความจริงเจ้าของบ้าน 3 หลัง คือเสี่ยแต๋ม คนดังจังหวัดอุดรธานี ส่วนอีก 2 หลังเป็นของภรรยาเสี่ยแต๋ม…สรุปก็คือเป็นของเสี่ยแต๋มและภรรยา ที่ ‘อุปถัมภ์’ บิ๊กโจ๊กกับลูกน้อง โดยให้พักพิงแทบจะฟรี

(2) เพราะบ้านทั้ง 5 หลังนี้มีการจ่ายค่าไฟโดยใช้บัญชีม้าของมินนี่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันออนไลน์ โดยที่บัญชีม้าคือ นายครรชิต ที่เป็นผู้ที่มีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมากกว่า 5 คดี

(3) ความจริงก็คือ บิ๊กโจ๊กพำนักอยู่ในบ้านที่มีชื่อเจ้าของเป็นคนอื่น แต่ทำตัวราวกับเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้น

(4) มีภาพที่บิ๊กโจ๊กถ่ายภาพกับมินนี่ แต่ไม่ชัดเจนว่าบิ๊กโจ๊กรู้จักมินนี่หรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ลูกน้องคนสนิทของบิ๊กโจ๊กคนหนึ่งสนิทสนมกับมินนี่แน่นอน

(5) พ.ต.อ.เขมรินทร์ ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก ผู้ที่ถูกออกหมายจับ มีการซื้อพระจากต้อม นครสวรรค์ ด้วยเงินจำนวนมาก ลักษณะเหมือนการฟอกเงิน โดยเอาเงินจากเครือข่ายมินนี่เข้าไปซื้อพระ โดยที่ต้อม นครสวรรค์ เกี่ยวข้องกับนายเป้ ผู้ต้องหาเว็บพนันออนไลน์ที่อ้างว่าถูกผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เรียกเงิน 140 ล้านบาท 

(6) มินนี่ทำเว็บพนันตั้งแต่ปี 2560 ดูจากหน้าตาและอายุ มินนี่น่าจะเป็นแค่หุ่นเชิดของขาใหญ่ในวงการสีเทามากกว่า โดยมีลูกน้องบิ๊กโจ๊กเข้าไปเกี่ยวข้องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

 (7) ผู้ต้องหาแถวสองแถวสามที่จะตำรวจถูกดำเนินคดีเว็บพนันออนไลน์ แบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม คือกลุ่มตำรวจ กลุ่มนักข่าว กลุ่มพลเรือน และกลุ่มนักกฎหมาย

ขอแถมข่าวอีกเรื่อง ที่ดูเผิน ๆ เหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน

"ชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทยได้ให้สัมภาษณ์เนชั่นว่า จะเพิ่มให้พวก 112 หรือหมิ่นสถาบันในประเภทที่ 17 เป็นผู้มีอิทธิพลที่จะต้องปราบปรามอย่างเด็ดขาดไปด้วย ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงมีการจัดทำบัญชีดำแกนนำที่มีอิทธิพลในสื่อและแกนนำม๊อบต่อต้านรัฐบาลและหมิ่นสถาบันรวมถึงนักการเมืองพรรคก้าวไกลอีกด้วย"

หากมองป่าทั้งป่า เราจะเห็นภาพกว้างเรื่อง ‘การปราบปรามผู้มีอิทธิพลทุกวงการอย่างเด็ดขาด’ ที่น่าจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ โดยที่การปราบปรามผู้มีอิทธิพลในวงการเว็บพนันออนไลน์เป็นแค่หนึ่งในนั้นเท่านั้น

จงจับตาเรื่อง ‘การปราบปรามผู้มีอิทธิพลทุกวงการ’ หลังจากนี้ให้ดีเถิด

‘บิ๊กก้อง’ ยัน!! บชก.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง-เชื่อมโยงคดีใดๆ กรณีชุดคอมมานโดบุกค้นบ้าน ‘บิ๊กโจ๊ก’ พร้อมอาวุธครบมือ

(26 ก.ย. 66) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท./โฆษก บช.ก. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. และ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. ร่วมแถลงความคืบหน้าคดี ลูกน้องคนสนิทของ กำนันนก ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต

ทั้งนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ได้ตอบถึงกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ถูกตรวจค้นบ้านพัก รวมถึงนายตำรวจใกล้ชิดถูกดำเนินคดีอาจมีส่วนเชื่อมโยงจากคดีกำนันนกหรือไม่นั้น พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า คดีนี้ บชก.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในทางใดตั้งแต่เริ่มต้น และไม่มีความเกี่ยวข้องกัน หรือเชื่อมโยงกันแต่อย่างใด หลังจากนี้ก็ยังจะสามารถทำงานร่วมกันได้ไม่มีผลอะไรเปลี่ยนแปลง

ส่วนกรณีภาพบันทึกการตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ปรากฎชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด ลงพื้นที่ปฏิบัติการพร้อมด้วยอาวุธครบมือนั้น แม้หน่วยคอมมานโดจะอยู่ใต้สังกัดของ บชก. ส่วนในทางปฏิบัติก็จะรับงานตรงกับ สตช.สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ ตนพอรับทราบอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ทราบรายละเอียดอะไรเลย

‘เอ ศุภชัย’ ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ปมร่วมเฟรม ‘บิ๊กโจ๊ก-มินนี่’ แต่คนใกล้ชิดช่วยยืนยัน!! ไม่รู้จักแน่นอน แค่ไปงานเลี้ยงเท่านั้น

(27 ก.ย.66) หลังจากที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเผยภาพในงานเลี้ยงที่มี บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และคุณกุ๊บกิ๊บ ภรรยา และยังมีนางสาวมินนี่ ผู้ต้องหาคดีเว็บพนัน และ เอ ศุภชัย ผู้จัดการดาราชื่อดัง ร่วมเฟรมเดียวกัน

โดยเฟซบุ๊กของ น้อง-ธัญญารัตน์ ถาม่อย ผู้สื่อข่าว PPTV เปิดเผยว่า คนใกล้ชิดของ ‘เอ ศุภชัย’ ซึ่งอยู่ในงานเลี้ยงวันดังกล่าวด้วย ให้ข้อมูล PPTV ว่า ‘เอ ศุภชัย’ ได้รับเชิญไปงานเลี้ยง เนื่องจากรู้จักกับบิ๊กโจ๊กและภรรยามานานแล้ว

โดยงานเลี้ยงดังกล่าวจัดขึ้นหลังงานศพของคุณพ่อบิ๊กโจ๊กเพื่อขอบคุณลูกน้องและคนใกล้ชิดตามที่บิ๊กโจ๊กให้สัมภาษณ์ วันนั้นคนที่มาร่วมงาน ก็มีการถ่ายรูปร่วมกันหลายรูป บางคนก็รู้จักกันบางคนไม่รู้จักกัน ส่วนภาพที่มีการเผยแพร่ออกมา นางสาวมินนี่เข้ามาขอถ่ายรูปกับ ‘เอ ศุภชัย’ พร้อมกับบิ๊กโจ๊กและภรรยา ซึ่งก็เป็นปกติของคนที่มีชื่อเสียง สามารถถ่ายรูปกับทุกคนได้ แต่ยืนยันว่า ‘เอ ศุภชัย’ ไม่รู้จักนางสาวมินนี่เป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน

ขณะที่ ‘เอ ศุภชัย’ ระบุสั้นๆ ว่าตอนนี้ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์สื่อไหนเลย เนื่องจากอยู่ระหว่างการทำงาน โปรโมตการท่องเที่ยว ที่บ้านเกิดในจังหวัดนครศรีธรรมราช 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top