Friday, 3 May 2024
บิ๊กตู่

เปิดปรากฏการณ์ 'สังคมไทย' เริ่มย้อนไปนึกถึงผลงาน 'ลุงตู่' คุณความดี 9 ปีเริ่มทะลัก พอรู้ลุงต้องพัก ใจมันก็หวิวๆ โหวงๆ

(1 ก.ย.66) จากเฟซบุ๊ก 'Trachoo Kanchanasatitya' โดยนายตราชู กาญจนสถิตย์ ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ '10 ข้อคิดของผมกับลุงตู่' ระบุว่า…

1. ผมโล่งอกดีใจที่ลุงจะไม่มีใครด่าลุงแบบไร้หลักการและเหตุผลอีกแล้ว เค้าจะด่าใครต่อไปก็ด่าไป แค่ไม่ด่าลุงแล้วกัน ผมพอใจตรงนี้

2. ใจมันหวิว ๆ โหวง ๆ นิดนึง ที่คนที่เคยรักษาความปลอดภัยให้เราจาก โรค M79 และ เชื้อโควิด จะไม่ดูแลเราแล้ว 

3. ดีใจที่อีกไม่นาน คำว่า เผด็จการ ในสายตาของใครหลาย ๆ คนจะชัดเจนขึ้น เผด็จการไม่ใช่การเป็นทหาร แต่นักการเมืองประชาธิปไตยบางคนอาจเผด็จการมากกว่า

4. ลุงแกล้งโง่เป็น ดีกว่าคนแกล้งฉลาด แต่โง่บรม

5. ลุงทำได้ไง ให้ซาอุดีอาระเบีย มาคืนดีกับไทย ผมทำงานปีแรก คือ ปีที่ซาอุดีอาระเบียตัดความสัมพันธ์กับไทย ไม่มีใครง้อให้คืนดีมาได้ นี่จะเกษียณอยู่แล้ว มีนายกคนนึงทำได้ เราจะต่อยอดไปไกลมาก

6. ลุงทำให้ผมเห็นว่า ลุงไม่โม้ว่าลุงเก่ง ลุงไม่ได้รู้ทุกเรื่อง แต่ลุงพร้อมเรียนรู้และฟังทีมงาน แต่ลุงมีการตัดสินใจที่ไม่เข้านอกออกในใคร อะไรดี อะไรไม่ดี ลุงฉลาดที่จะรู้ และตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุด

7. ลุงไม่ทำงานเอาหน้า งานของลุงอาจจะสำเร็จหลังจากลุงลงจากตำแหน่งไปนานแล้ว วันนั้นลุงรู้ว่า คนจะลืมไปแล้วว่าลุงคิดและผลักดัน มีคนจะมาเคลมเครดิต แต่ลุงไม่แคร์ ลุงทำเพื่อประเทศชาติจริง ๆ

8. ลุงไม่ได้เป็นหมอ ลุงไม่ได้เรียนเรื่องการผลิตวัคซีน มีคนเคยคิดว่า ไทยคงได้วัคซีนโควิดน้อยกว่าใคร แต่หลังจากนั้นไม่นาน วัคซีนเหลือบาน เพราะคนไทยกลัววัคซีนมากกว่า กลัวโควิด…บ้าป่าววะ

9. คนชอบบอกว่า ลุงโง่ ผมก็งงมากว่า ลุงโง่ตรงไหน เอาอะไรมาวัด คนโง่เค้าจะสอบได้คะแนนแบบลุงเหรอ ไอ้คนที่ว่าลุงโง่ กล้ามาทดสอบไอคิวกะลุงไหม (อาจจะกล้า แต่ลุงคงไม่เสียเวลากะคนพวกนี้ ช่างมัน)

10. ลุงตู่เป็นมนุษย์ที่ลงลึก ลงรายละเอียด ติดตามอะไรหลาย ๆ อย่างในโลกโซเชียล ลุงอ่านเองไหม ผมไม่รู้ แต่เดาได้ว่าลุงสร้างทีมเพื่อทำให้ลุงต้องรู้ ผมว่าลุงรู้ทุกเรื่อง แค่เราไม่รู้ว่าลุงรู้ เท่านั้นแหละ

11. ทองคำเปลวที่ลุงแปะหลังพระ ล้นออกมาแล้วครับ วันนี้ใครหลายคนเห็นทองหลังพระแล้ว ลุงไม่ต้องพูดเองครับ จะมีคนจำนวนมากพูดให้ลุงเอง ลุงอ่านเรื่องดี ๆ ของลุงให้ทันเถอะครับ

12. อ้าว เกินโควตา 10 ข้อแล้วเหรอ กฎนี้ใครคิด กฎผิดฉันไม่ผิด ไปแก้กฎก่อน อยากเขียนอีกสัก 100 ข้อ ยื่นญัตติด่วนเลย

ขออนุญาตใช้คำว่า รักและเคารพ อย่างที่สุดนะครับ

เปิดมุมมองผู้ร่วมงาน ในวันที่ 'ลุงตู่' โดนด่า ทัวร์ลงสารพัด แต่ก็ยังฮึดสู้ เพราะต้องเดินหน้าขับเคลื่อนชาติ จึงอดทนอดกลั้นต่อสิ่งที่ 'ไม่มีราคา'

(11 ก.ย. 66) จากรายการเคลียร์ ชัดชัด ออกอากาศทางช่องเวิร์คพ้อยท์ ดำเนินรายการโดย ต๊ะ นารากร ติยายน ได้สัมภาษณ์ ‘รัชดา ธนาดิเรก’ และ ‘ไตรศุลี ไตรสรณกุล’ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสมัยของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงความรู้สึกที่ได้ทำงานรับใช้ชาติและใกล้ชิดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

โดยมีบางช่วงบางตอนที่ต๊ะ นารากร ได้ถามคำถามว่า…มีช่วงหนึ่งที่เกิดไวรัลในโซเชียล ใช้ชื่อย่อว่า ‘ผนงรจตกม’ ในตอนนั้นพลเอกประยุทธ์โดนหนักมาก ท่านได้แสดงท่าทางต่อเหตุการณ์นั้นอย่างไรบ้าง? มีหงุดหงิด เสียใจบ้างหรือไม่?

น.ส.รัชดา ได้ตอบว่า ในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำ ท่านไม่มาแสดงความรู้สึกกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้จากท่านคือความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งที่ไม่มีราคาแบบนี้ แต่ในความเป็นมนุษย์ เราก็เดาได้ว่าต้องรู้สึกอยู่แล้ว เพราะอยู่ๆ คนมาด่า ใช้คำพูดหยาบคาย บนสิ่งที่มันไม่เป็นความจริง เป็นใครก็ต้องรู้สึก แต่ท่านก็ก้าวข้ามผ่านตรงนั้น และคุยเรื่องใหม่ๆ คุยเรื่องที่จะขับเคลื่อนบ้านเมืองด้วยรอยยิ้ม

น.ส.รัชดา กล่าวเสริมว่า บางจังหวะท่านอาจจะหงุดหงิด แต่ท่านก็จะบอกว่า อ่า ผมหงุดหงิดอะ ผมขอโทษนะ และท่านก็เดินหน้าต่อ

‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ แถลงนโยบาย  หลังนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี สมัยแรก

ย้อนไปในวันนี้ เมื่อ 9 ปีก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นำคณะรัฐมนตรีแถลงนโยบาย 11 ด้าน ต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หลังนั่งเก้าอี้นายกฯ สมัยแรก

เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นำคณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตามระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลชุดนี้มีข้อแตกต่างด้านเงื่อนไขและเวลา ต่างจากรัฐบาลชุดก่อน ๆ คือ ต้องสืบทอดสานต่อภารกิจจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาประเทศไว้ก่อนแล้วเป็น 3 ระยะ และรัฐบาลนี้ไม่ได้จัดตั้งขึ้นจากพรรคการเมืองจึงไม่มีนโยบายที่ใช้หาเสียง หวังคะแนนประชานิยม เป็นฐานทางการเมือง

สำหรับนโยบายที่แถลงนั้น จำแนกเป็น 11 ด้าน ดังนี้

1. การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์

2. การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ แบ่งเป็น
2.1ระยะเร่งด่วน รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
2.2 เร่งแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้
2.3 พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ และระบบป้องกันประเทศให้ทันสมัย
2.4 เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศบนหลักการนโยบายการต่างประเทศ

3. การลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ

4. การศึกษาและเรียนรู้ การทำนุบำรุงศาสนา และศิลปวัฒนธรรม

5. การยกระดับคุณภาพ และบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชน

6. การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ

7. การส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน

8. การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม

9. การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน

10. การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ และ

11. การปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมระยะเฉพาะหน้า

'ดร.เสรี' เปิดไทม์ไลน์ 'เมืองโบราณศรีเทพ' หลังได้ขึ้นบัญชีมรดกโลก ถูกเสนอไว้ตั้งแต่ปี 62 ภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาลประยุทธ์

(20 ก.ย.66) ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร ได้เผยถึงจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้เมืองโบราณศรีเทพได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นแหล่งมรดกโลก ไว้ว่า...

เกี่ยวกับ 'เมืองโบราณศรีเทพ' มรดกโลกแห่งใหม่ของไทย อยากให้พวกเราได้ข้อมูลที่ถูกต้องนะคะ

รัฐบาลไทย (รัฐบาลลุงตู่) ได้เสนอเมืองโบราณศรีเทพขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) เพื่อพิจารณาให้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกในอนาคต เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2562

หลังจากนั้น ได้ทำข้อมูลที่สมบูรณ์ส่งให้คณะกรรมการของ UNESCO เมื่อ 28 กุมภา 2565

คณะกรรมการมาตรวจสอบ กันยายน 2565 เพื่อพิจารณาพื้นที่และองค์ประกอบว่าสอดคล้องกับเอกสารหรือไม่ มีคุณค่าสำหรับชาวโลกหรือไม่ มากน้อยเพียงใด สมควรที่ชาวโลกจะช่วยกันอนุรักษ์หรือไม่

หลังจากนั้น มาถึงวันนี้ การทำงานของรัฐบาลลุงตู่ก็ประสบความสำเร็จ นั่นคือ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียน อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เป็นแหล่งมรดกโลกภายใต้ชื่อ เมืองโบราณศรีเทพและโบราณสถานทวารวดีที่เกี่ยวเนื่อง (The Ancient Town of Si Thep and its Associated Dvaravati Monuments) 

>> ผลงานของลุงตู่ ได้รับการประกาศความสำเร็จเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 (ในสมัยของรัฐบาลเศรษฐา)

จึงเรียนให้ทุกคนทราบนะคะ ว่ากว่าเมืองโบราณศรีเทพจะได้เป็นแหล่งมรดกโลกใช้เวลา 4 ปีกว่านะคะ ไม่ใช่ 2 เดือนนะคะ

งานนี้เริ่มสมัยลุงตู่ เป็นผลงานของรัฐบาลลุงตู่นะคะ FYI สำหรับคนไทยทุกคนที่ดีใจกับการที่ประเทศไทยมีแหล่งมรดกเพิ่มอีก 1 แหล่งนะคะ

‘ธนกร’ เข้าเยี่ยม ‘ลุงตู่’ หลังไม่ได้เจอกันนานนับเดือน บอกลุงตู่ดูสดชื่นแจ่มใส พร้อมฝากความคิดถึงถึงพี่น้องทุกคน

(22 ก.ย. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความ ในเฟซบุ๊ก ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ ระบุว่า…

ผมไม่ได้เจอลุงตู่มานานนับเดือน แต่ได้ไลน์คุยกับท่านทุกวัน วันนี้จึงไปเยี่ยมท่านด้วยความคิดถึง พูดคุยกันนานร่วม 2 ชั่วโมง เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุข ท่านสดชื่นมาก สุขภาพดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส และยังถามถึงทุก ๆ คน ที่เคยทำงานร่วมกันมา

วันนี้ ลุงตู่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวการเมืองแล้วแต่ยังคงเป็นห่วงบ้านเมือง ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่อยากเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ท่านยังฝากความห่วงใย ฝากความคิดถึง ฝากความปรารถนาดีมายังพี่น้องคนไทยทุกคนครับ 

ผมสอบถามท่านว่า ได้ดู ‘ติ๊กต็อก’ บ้างไหม ท่านบอกได้ดูบ้าง ผมบอกมีแต่คนคิดถึงท่าน ผลงานท่านถูกนำออกมาโพสต์เต็มไปหมด ไม่ถูกด้อยค่าเหมือนสมัยตอนเป็นนายกเลย ท่านถามเพราะอะไร ผมบอกสงสัย AI เลิกทำงาน ท่านหัวเราะ ผมเรียนท่านว่า สิ่งที่เราเห็นในติ๊กต็อกตอนนี้ คือของจริงที่ประชาชนแสดงออก ยืนยันว่า ท่านทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง มีผลงานชัดเจน

วันนี้ ผมมีความสุขมากครับ ที่ได้เจอลุงตู่ จริง ๆ แล้วไม่อยากไปรบกวนท่านเพราะช่วงนี้ท่านคงอยากพักผ่อน ผมชวนท่านไปไหว้พระ พักผ่อนต่างจังหวัดบ้าง ท่านบอกว่า ช่วงนี้ขอให้เวลากับครอบครัวก่อน เพราะที่ผ่านมาทำงานให้ประเทศชาติอย่างเต็มที่ ไม่ได้ใช้เวลากับครอบครัวเลย จากนี้แล้วค่อยว่ากัน  

สำหรับผมแล้ว ‘ลุงตู่’ เป็นผู้มีพระคุณ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมเคารพรักตลอดชีวิต เป็น ‘สุภาพบุรุษผู้ปิดทองหลังพระ’ ตั้งใจ ทุ่มเท ทำงาน ไม่พูด ไม่อวด ถึงวันนี้ ‘แผ่นทอง คือ ผลงานของท่าน’ ถูกกล่าวขาน ชื่นชม นำเสนอทั้งในโลกโซเชียลว่า ผลงานนี้ สร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศและคนไทยทุกคน 

ด้วยรักและเคารพ
สส. ธนกร วังบุญคงชนะ 
อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ปล. ขอทำความเข้าใจท้ายสุดครับ วันนี้ลุงตู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว ผมก็ไปเยี่ยมเยียน ‘ลุงตู่’ ตามปกติในฐานะเป็นคนที่ผมเคารพรักนะครับอย่าโยงการเมืองอีกนะจ๊ะ

ย้อนคำ ‘บิ๊กตู่’ 8 ปี ทุ่มเท ‘ไม่หันเหสู่ทุจริต-เรียกทรัพย์’ หวังบ้านเมืองใสสะอาด เงินทุกบาททุกสตางค์ถึง ปชช.

จากรายการ ‘ฟังหูไว้หู’ ทางช่อง 9 เมื่อวันที่ 10 พ.ค.66 ได้เชิญ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นแขกรับเชิญ ซึ่งช่วงหนึ่งของรายการ พลเอกประยุทธ์ ได้เล่ามุมมองและเรื่องราวสําหรับผู้นําที่หมดอํานาจ ว่ากลัวหรือไม่ หากมีการไล่บี้ไล่เช็งเหมือนกับที่เกิดขึ้นในประเทศอื่น หรือต้องติดคุกติดตะรางอย่างเกาหลี ซึ่งในแง่นี้ควรระวังและต้องป้องกันอะไรบ้าง โดยระบุว่า…

“ผมป้องกันมา 8 ปีแล้ว…โดยที่ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์หรือเรื่องทุจริต ผมคิดว่าใจผมยังไม่คิดจะทุจริต และรู้ตัวว่าหากเข้ามาอย่างงี้มันอันตราย…สามารถไปถามได้เลยว่าผมเคยเรียกเงินใครสักบาทไหม…ทุกโครงการเคยเอาเงินมาส่งผมไหม…เพราะฉะนั้นขอยืนยันตรงนี้ว่า บ้านเมืองต้องมีผู้นําที่บริสุทธิ์ หากวันหน้าใครจะมาแกล้งหรือฟ้อง ก็แล้วแต่เถอะครับ…ผมยืนยันในตัวเองเพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าผมไม่มี ดังนั้น ประเทศไทยต้องใสสะอาดในวันข้างหน้าทุกมิติ”

แล้วการตรวจสอบรอบ ๆ ข้าง จะเพิ่มความเข้มข้นได้ขนาดไหน? “มีคิดกันไว้แล้วกับท่านหัวหน้าพรรค ซึ่งคิดว่าวันข้างหน้าต้องมีกฎหมายควบคุมอะไรเพิ่มอีกสักหน่อย ในเรื่องของคณะทํางานที่จะต้องไปติดตาม เพราะวันนี้มีในระบบกันหมดแล้ว แต่ตามแล้วก็เจอบ้างไม่เจอบ้าง มันต้องมีอะไรติดตามกํากับดูแลการทํางานของส่วนราชการเพิ่มขึ้นหรือเปล่า? ไม่ว่าจะเป็นส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ซึ่งบางทีมันต้องไปดูเอง คราวนี้การไปดูเองก็เขาก็ต้องไปในนามของรัฐบาล หรือในนามของนายกรัฐมนตรี เพื่อไปตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งอันนี้จะเป็นการตรวจสอบได้ตามระเบียบสํานักนายก ที่ผ่านมาทําตรงนี้ยังไม่ได้ เพราะทำไม่ทัน แต่สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คิดไปแล้ว แต่ไม่ทัน มันต้องอยู่อีกสองปี…”

“แล้วจริงๆ ผมเปิดช่องทางสื่อสารกับประชาชนอยู่แล้ว หากลองไปดูหลายเรื่องที่เราสามารถแก้ไขปัญหาได้มันเป็นเพราะอะไร? เพราะได้มีการเปิดช่องทางติดต่อสื่อสาร คือมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียนที่ทําเนียบรัฐบาล มีสํานักปลัดนายกรัฐมนตรี ทั้งหมดหลายเรื่องพอรับมา ก็มีการส่งให้ไปแก้ปัญหาหรือหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยมีคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ไปทําไปดูมาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประมง หรือเรื่องที่ดินต่างๆ พอทําตรงนี้ผมก็รู้สึกว่าทําแบบนี้มันก็ดีเหมือนกันนะ แต่ถ้าทําในหน้าที่ในกรอบของที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีบางทีอํานาจมันไม่พอ มันน้อย…เพียงแต่ว่าไปตรวจสอบใบต่างๆ แล้วหาวิธีการว่านายกฯ ควรจะทําอย่างไร แต่ถ้าเรามีคณะทํางานตรงนี้ออกมามันสามารถตามได้หมดเลย แต่ต้องระวังว่ามันจะซับซ้อนกันหรือเปล่า ซึ่งก็ต้องมีกฎหมาย มีระเบียบออกมา…”

“ผมไม่ต้องการที่จะอะไรกับใครนะ…ผมแค่ต้องการให้บ้านเมืองมันใสสะอาด และเงินทุกบาททุกสตางค์ต้องลงสู่ประชาชน ลงสู่ประเทศของเรา เพราะเงินเหล่านี้ไม่ได้หามาง่ายๆ…” พลเอกประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้าย

ตามสัญญา!! 'ลุงตู่' พาครอบครัว บินทัวร์ญี่ปุ่นในรอบ 10 ปี เผยที่ผ่านมาไปเพราะงาน ไม่เคยได้เที่ยวชมความงามของญี่ปุ่นเลย

(16 ต.ค. 66) หลังจากลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 'ลุงตู่' พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 พยายามเก็บตัวอย่างเงียบ ๆ แต่ดูเหมือนช่วงนี้จะมีความเคลื่อนไหวของลุงมาให้ติ่งพอได้หายคิดถึง

เริ่มจาก ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรีหรือ 'PMOC' เพจเฟซบุ๊กที่สนับสนุนการทำงานรัฐบาลลุงตู่ เคลื่อนไหวเปลี่ยนชื่อเพจเป็น 'ผลงานพลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีแห่งความเปลี่ยนแปลง' (Prayuth’s Memory of Change)

ฟังว่า เหตุที่เปลี่ยนชื่อด้วย 'ลุงตู่' หมดวาระลง เราเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ในออนไลน์ที่ช่วยกันเผยแพร่ผลงานเพื่อประชาชน ตามแนวคิด #ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

ทีมแอดมิน PMOC ขอกราบขอบพระคุณ FC ทุกท่าน ที่ส่งกำลังใจให้นายกฯ ลุงตู่ ของเราอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดเพจใน ต.ค.2562 จำนวน 77,463 follows

ทีมแอดมินขอปรับเปลี่ยนชื่อใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง ในชื่อ #ผลงานพลเอกประยุทธ์นายกรัฐมนตรีแห่งความเปลี่ยนแปลง (Prayuth’s Memory of Change) เพื่อให้ครอบครัวเรายังเป็นส่วนหนึ่งในสังคมไทยในการสื่อสารผลงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์เพื่อประโยชน์ของชาติต่อไป

แน่นอนว่า เพจสนับสนุนลุงออกตัวแบบนี้ ในโลกโซเชียลฯ จะยังมีประเด็นของลุงตู่ให้ติดตาม

แต่หาก FC คนไหนอยากเจอตัว 'ลุงตู่' เป็น ๆ ช่วงนี้น่าจะหาตัวลำบากหน่อยเพราะแว่วว่า พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมครอบครัว ศรีภรรยา 'อาจารย์น้อง' นราพร จันทร์โอชา และลูกฝาแฝด บินไปพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่น ปู๊น ๆ เมื่อคืน (15 ต.ค.) แล้วนะจ๊ะ

'ลุงตู่' พาครอบครัวไปญี่ปุ่นครั้งนี้ ไปในนามส่วนตัวซึ่งคนใกล้ชิดบอกว่า ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีเลยทีเดียว ที่ไปเที่ยวกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก

พล.อ.ประยุทธ์ เคยเปรยกับสื่อในวันสุดท้ายของการทำงานในตำแหน่งนายกฯ ว่า สิ่งที่อยากจะทำเป็นสิ่งแรก ๆ หลังจากว่างงานอยากจะพาครอบครัวเที่ยวสักครั้ง และประเทศที่อยากจะไปมากที่สุดก็คือ แดนปลาดิบ เพราะที่ผ่านมาเคยแต่ไปทำงาน ไม่เคยได้เที่ยวชมความงามของญี่ปุ่นเลย

โอกาสนี้เป็นโอกาสดีที่ชีวิตทุกอย่างลงตัวจึงไปทัวร์ญี่ปุ่นดูใบไม้เปลี่ยนสี รับอากาศดี ๆ ให้หนำใจสักประมาณหนึ่งสัปดาห์เต็ม

ช่วงระหว่างนี้ FC ลุงตู่ ที่อยู่ในญี่ปุ่นหากพบเจอลุงตู่ก็ทักทายกันได้นะจ๊ะ

‘พี่เต้’ ติง!! ‘เศรษฐา’ ลดแฟชันในเวทีโลก ยึดสากล เพื่อหน้าตาประเทศ พร้อมเผย!! โชคยังดี ‘น่านฟ้าเปิด’ เหตุ ‘อานิสงส์ลุงตู่ - เศรษฐาปรับตัว’

(22 ต.ค. 66) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ‘เต้’ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอถึงกรณี การแต่งกายของ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ในการเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยระบุว่า…

“ตอนนี้มีข่าวที่ดีคือ พระมหากษัตริย์และเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ได้สั่งการให้ประเทศกลุ่มอาหรับ เปิดทางให้เครื่องบินทหารของไทย สามารถบินผ่านน่านฟ้าของกลุ่มประเทศอาหรับได้แล้ว เพื่อให้สามารถเดินทางไปรับพลเมืองชาวไทยจากประเทศอิสราเอล กลับมาสู่ประเทศไทยได้ในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ไม่ต้องบินอ้อมไกล ช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางจาก 12-13 ชั่วโมง เหลือเพียงแค่ประมาณ 8 ชั่วโมง

นับเป็นการประสานงานการเจริญสัมพันธไมตรี สืบเนื่องจาก ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ที่ท่านได้เคยทำการเจรจา พูดคุยเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี”

“แต่เหตุที่ในช่วงแรก ยังไม่มีการประกาศให้ไทยได้ทำการบินผ่านน่านฟ้านั้น ก็เพราะเป็นการ ‘ตักเตือน’ ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับนายกคนใหม่คือ นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นเดิมทีเป็นนักธุรกิจ ทำให้อาจจะยังไม่เข้าใจขนบธรรมเนียม ประเพณี ความละเอียดอ่อนเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งในส่วนนี้หมายความว่า เขาแค่เตือนเฉยๆ แต่ยังไม่ได้ลดระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กล่าวคือ อาจจะลดจากเอกอัคราชทูต เหลือแค่ราชฑูต หรือลดในสถานะต่ำกว่านั้น เป็นการแนะนำให้นายกฯ เศรษฐาได้รับทราบ

ซึ่งนายกฯ เศรษฐา ก็มีได้เริ่มปรับตัวที่จะเรียนรู้ ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร และไม่ได้ฝืนจนมากเกินไป ถือว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับได้”

“เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานการณ์ที่มีสภาวะสงคราม ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างแบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะเรามีเป็นความเป็นความตายของพี่น้องประชาชนคนไทย ที่พำนักอยู่ในอิสราเอล เกือบ 30,000 คน เป็นที่ตั้ง

เพราะฉะนั้น ความสำคัญในการเป็นผู้นำประเทศ ในสภาวะเช่นนี้ย่อมต้องมีมากขึ้นตามไปด้วย การแสดงสัญลักษณ์ การพูดคุย หรือการแสดงท่าทาง อิริยาบถต่างๆ ล้วนถือเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เชิงทางการทูตทั้งสิ้น”

“ส่วนการแต่งตัวแบบแฟชัน ใส่ถุงเท้าสีชมพู สีแดง สวมเสื้อแจ็กเกต หรือเสื้อสูทที่มีความแฟชันมากกว่าทางการนั้น อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และบุคลิกของแต่ละบุคคล นายกรัฐมนตรีแต่ละประเทศจะมีบุคลิกที่ไม่เหมือนกัน

แต่ในมุมของความเป็น ‘ทางการ’ นั้น ควรที่จะต้องใส่สูทแบบสากล ถุงเท้าควรเป็นสีดำ หรือสีเทาเรียบๆ เพื่อเป็นการเคารพผู้นำของแต่ละประเทศ เพราะผู้นำของแต่ละประเทศนั้น มิได้มีเพียงแค่คนที่เป็นสามัญชนทั่วไป ผู้นำประเทศที่เป็นกษัตริย์ เป็นมกุฎราชกุมาร เป็นองค์จักรพรรดิก็มี ฉะนั้น การนอบน้อมจึงถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะเมื่อเรามีความนอบน้อมแล้ว ในยามที่เราต้องการขอความช่วยเหลือ ต่างประเทศเขาก็จะเต็มใจ พร้อมใจกันให้ความช่วยเหลือ เป็นการถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน”

“ซึ่งผมเชื่อว่า หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว นายกฯ เศรษฐา น่าจะมีการปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น เพราะถือเป็นบุคคลสำคัญในการเจรจา การขอบินผ่านน่านฟ้าของซาอุดีอาระเบียและประเทศอาหรับทั้งหมด

ในเรื่องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น ผมต้องยกความดีความชอบให้กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเบอร์ 1 และเบอร์ 2 คือ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน

ส่วนเรื่องกาละเทศะนั้น คงต้องปรับปรุงตัวต่อไป เพื่อปกกันไม่ให้สื่อมวลชนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ร่วมถึงประชาชนติติงเอาได้ และหากมีใครติติงมาก็ควรรับฟังไว้ และนำไปแก้ไข

เพราะตอนนี้คุณไม่ได้เป็นแค่นายเศรษฐา ทวีสิน แล้ว แต่คุณดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นตัวแทนประเทศไทย เป็นตัวแทนของราชอาณาจักรไทย เพราะฉะนั้น จะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบ รู้จักกาลเทศะ นี่คือสิ่งสำคัญในการเป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทยครับ”

‘ทิพานัน’ ชี้!! ผลงาน ‘บิ๊กตู่’ 9 ปี มีเพียบ ยกผลงานเจรจาการค้าเด่น หนุนเปิดประเทศ-เปิดโอกาส ชู ‘ศักยภาพผู้นำที่ดี’ พาไทยแกร่งรอบด้าน

‘ทิพานัน’ ติงนักวิชาการ ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ยกผลงานเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ยุค ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ผลงานเพียบ เปิดประเทศ เปิดโอกาส และเปิดแนวทางใหม่การลงทุนในภูมิภาคสุดปัง ชู ‘ภาวะผู้นำที่ดี’ ทำทีมไทยแกร่ง 6 ด้าน

(23 ต.ค. 66) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘อ้น ทิพานัน ศิริชนะ’ ถึงกรณีที่นักวิชาการแสดงความเห็นเปรียบเทียบ การเจรจาการค้าระหว่างประเทศระหว่าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า…

ลุงตู่มีวิสัยทัศน์ที่ดี ทั้งเปิดประเทศ เปิดโอกาส เปิดแนวทางใหม่การลงทุนในภูมิภาค

ที่สำคัญเพราะ ‘ภาวะผู้นำที่ดี’  จึงมีดังนี้

#รัฐบาลลุงตู่ มีผู้แทนการค้าไทยที่แข็งแกร่ง

#รัฐบาลลุงตู่ มีทูตทางการค้าที่เข้าใจลูกค้า

#รัฐบาลลุงตู่ มีนโยบายจากBOIที่ชวนมาลงทุนโดยเฉพาะ

#รัฐบาลลุงตู่ มีกฎหมายอำนวยความสะดวกสำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะ

#รัฐบาลลุงตู่ เดินหน้าเจรจาการค้ากับต่างประเทศมาตลอด 9 ปี

#รัฐบาลลุงตู่ พัฒนาทุกมิติไม่ใช่แค่หิ้วกระเป๋าไปขายของ

สิ่งเหล่านี้คือ ‘รากฐาน’ สำหรับการไปขายของในอนาคต

บทความตอนหนึ่งที่กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จาก รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2566 ว่า…

“เพราะถ้ามีการเปรียบเทียบทั้งสองคน ในแง่การไปเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สมัย พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องการเจรจาพูดคุยอะไรต่างๆ กับต่างชาติติดลบ”

“และการเดินสายต่างประเทศคงเป็นความพยายามหลังจากที่ขาดหายไปนานในรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จึงถือเป็นความพยายามอีกอย่างหนึ่งท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่หลากหลาย”

การนำเสนอตรงนี้อาจไม่ครบถ้วน ตรงตามหลักวิชาการ และคนอาจเชื่อตามข้อมูลนั้นไปแบบไม่ครบถ้วน จึงขอนำเสนอข้อมูลให้ครบถ้วนอีกด้าน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องครบถ้วนทุกมิติ ที่ทำให้เห็นว่า ลุงตู่วางรากฐานการลงทุนที่จับต้องได้ ไม่ขายฝัน และ #มีคนทำงานแต่ละด้านที่เป็นมืออาชีพ จนสำเร็จลุล่วง และเดินหน้าพบปะกับต่างชาติทั่วโลกมาตลอดระยะเวลา 9 ปี และมีผลงานโดดเด่นมากมาย เช่น ซาอุฯ จีน เป็นต้น

การเดินทางพบผู้นำและประชุมระดับโลกและอาเซียน ของลุงตู่ เพื่อการค้าและการลงทุน และมิติอื่นๆ มีอะไรบ้าง ขอยกตัวอย่างดังนี้

- 12-15 ธ.ค. 65 ประชุมสุดยอดอาเซียน–สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ที่บรัสเซลส์ เบลเยียม

- 25-27 พ.ค. 65 ประชุมInternational Conference on the Future of Asia (Nikkei Forum) ครั้งที่ 27 ที่โตเกียว ญี่ปุ่น

- 12-13 พ.ค. 65 การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ที่ วอชิงตันดี.ซี สหรัฐอเมริกา

- 25 ม.ค. 65 เยือนซาอุดีอาระเบีย เป็น ‘ความสำเร็จในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทย - ซาอุดีอาระเบีย’ ให้กลับมาอยู่ใน ‘ระดับปกติ’ อย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการสิ้นสุด 3 ทศวรรษแห่งความห่างเหิน และเป็นก้าวแรกของ ‘โอกาสอันมากมายมหาศาล’ 9 ด้าน คือ

1.) การท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ไทยไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี

2.) พลังงาน (เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ชาติของ 2 ประเทศ) ร่วมลงทุน-วิจัยพลังงานดั้งเดิม พลังงานสะอาด และพลังงานหมุนเวียน

3.) แรงงานไทย สนับสนุนโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ใน ‘วิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย ค.ศ. 2030’ (Saudi Vision 2030)

4.) อาหาร ผลิต-ส่งออกอาหารฮาลาลให้แก่ซาอุดีฯ และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง GCC

5.) สุขภาพ-การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความร่วมมือทางการแพทย์ของไทย

6.) ความมั่นคง ไทยจะได้รับประโยชน์จากซาอุดีฯ ประเทศมหาอำนาจในกรอบองค์กรความร่วมมืออิสลาม (OIC) เช่น ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ความร่วมมือด้านข้อมูลข่าวสารความมั่นคง การต่อต้านการก่อการร้าย

7.) การศึกษาและศาสนา ทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยมุสลิม

8.) การค้าและการลงทุน ลู่ทางธุรกิจและหุ้นส่วนทางการค้าในซาอุดีฯ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และการดึงดูดซาอุดีฯ ลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ ของไทยด้านพลังงาน นวัตกรรม โทรคมนาคม อวกาศ เทคโนโลยีสีเขียว โครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ

9.) กีฬา เช่น มวยไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง

- 1 พ.ย. 64 เข้าร่วมประชุม ‘UN Climate Change Conference’ (COP 26) ครั้งที่ 26 ที่เมืองกลาสโกว์ อังกฤษ และประกาศคำมั่นสัญญาใหม่ของไทยอย่างเป็นทางการในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2065 #จนเป็นที่มานโยบายด้านนี้ในไทย ที่ขับเคลื่อนจริง และนักลงทุนสนใจมาลงทุน

- 24 ก.ย. 64 เข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 76 ที่ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

- 24-27 พ.ย. 62 เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-เกหลีใต้ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 และการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับเกาหลีใต้ ครั้งที่ 1 ที่ปูซาน เกาหลีใต้

- 21-27 ก.ย. 62 เข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 74 ที่ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

- 28-29 มิ.ย. 62 ในฐานะประธานอาเซียน เข้าร่วมประชุมผู้นำ G20 ประจำปี 2562 ที่โอซากา ญี่ปุ่น

- 25 มิ.ย. 61 หารือทวิภาคีกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่ฝรั่งเศส

- 20 มิ.ย. 61 หารือทวิภาคีกับนางเทรีซา เมย์ นายกฯ อังกฤษ ที่อังกฤษ

- 2-4 ต.ค. 60 หารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สหรัฐอเมริกา

- 14-16 ต.ค. 59 เข้าร่วมการประชุมผู้นําเอเชีย-ยุโรป (Asia-Europe Meeting - ASEM) ครั้งที่ 11 ที่อูลานบาตอร์ มองโกเลีย

- 16-18 มิ.ย. 59 เยือนอินเดีย เพื่อความร่วมมือด้านการค้า-ความมั่นคง

- 17-21 พ.ค. 59 เยือนรัสเซีย ฟื้นความสัมพันธ์ในรอบ 11 ปี

- 9-11 พ.ย. 57 เข้าร่วมประชุมเอเปค ครั้งที่ 22 ที่ปักกิ่ง จีน

- 16-17 ต.ค. 57 เข้าร่วมการประชุมผู้นําเอเชีย-ยุโรป (Asia-Europe Meeting - ASEM) ครั้งที่ 10 ที่มิลาน อิตาลี

รัฐบาลลุงตู่ต้อนรับผู้นำที่มาเยือนไทย แสดงให้ต่างชาติเห็นศักยภาพบ้านเมืองไทยที่เจริญ และน่าลงทุนจริงๆ

- 14 ก.พ. 66 นายกฯ มาเลเซีย

- 10 ก.ค. 65 รมว.ต่างประเทศของอเมริกา และไทยและสหรัฐฯ ลงนามร่วมกันในแถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

- 4-5 ก.ค. 65 มนตรีแห่งรัฐ และ รมว.ต่างประเทศของจีน

- ส่งเสริมการลงทุนใน EEC

- พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยง

- รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวกับระบบรางและรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนของไทย

- ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

- ลงนาม MOU ด้านการรรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

- 13 มิ.ย. 65 รมว.กลาโหมของอเมริกา

- 1-2 พ.ค. 65 นายกฯ ญี่ปุ่น

- 20-23 พ.ย. 62 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส

- 8 ส.ค. 60 รมว.ต่างประเทศของอเมริกา

- 27 ม.ค. 60 ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศของอังกฤษ

ความสำเร็จที่โดดเด่น และปังที่สุด คือ

- 18-19 พ.ย. 65 ลุงตู่ เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมเอเปค ‘APEC2022’ ต้อนรับผู้นำจาก 21 เขตเศรษฐกิจ และได้รับคำชมเชยจาก ผอ.เลขาธิการเอเปค ยกย่องไทย จัดประชุม APEC2022 ได้ยอดเยี่ยม ระดับ world class และผลักดัน “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG” สำเร็จในเวทีโลก

- 15 พ.ย. 63 ไทยร่วมก่อตั้งและลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค #RCEP กับ 14 ประเทศ (บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้) ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรรวมกันกว่า 2,200 ล้านคน (30% ของ GDP โลก) เพิ่มโอกาสและศักยภาพในการแข่งขันให้กับสินค้าไทยให้ได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 65

- 16 ธ.ค. 62 ‘ประเทศแรกในเอเชีย’ ไทยประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน

- ปี 61-66 ไทยคงสถานะอันดับสูงสุดในอาเซียน 5 ปีซ้อน สำหรับดัชนีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Index)

- ปี 58-61 ไทยได้รับเลือกให้เป็นประเทศผู้ประสานงานระหว่างอาเซียนกับ EU
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ รัฐบาลลุงตู่ วางรากฐานความเชื่อมั่น เปิดประเทศและไปแนะนำประเทศ ให้คนทั่วโลกรู้จักและมาลงทุนในไทย

ดังนั้น อาจมีใครหลายคนที่อาจจะยังไม่ทราบข้อมูลและวิจารณ์บนพื้นฐานไม่รู้… จะได้รู้เพิ่มเติมค่ะ

ข้อมูลจาก https://www.soc.go.th/?page_id=10338

รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ (1) ปีที่ 1-4 และ (2) ปีที่ 1-3 
#ลองหาอ่านดูเผื่อใครสนใจค่ะ

23 ตุลาคม 2566
Cr. เพจ อ้น ทิพานัน ศิริชนะ

'เนเน่-รทสช.' น้อมรับผิด!! พร้อมแจงเหตุไม่ลุกขึ้นป้อง 'ลุงตู่' หลังมี สส.ปากไม่ดี 'ขยี้-แซะ' แล้ว 'รองอ๋อง' ปล่อยไหล

(1 พ.ย. 66) นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวขอโทษ FC ลุงตู่ หลังปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูก สส.พรรคหนึ่งหยิบยกขึ้นมาขยี้กลางสภาและลามต่อไปให้โลกออนไลน์กระหน่ำซ้ำ ว่า...

ในฐานะรองโฆษกพรรคฯ เนเน่ #ขอโทษFC ทุกคนแทนพรรค ในการทำหน้าที่บกพร่องของพรรคค่ะ ในการประชุมทีมวันนี้ เนเน่แชร์ความรู้สึกของทุกคนที่เนเน่รวบรวมมาให้ทีมได้ฟัง 

ข้อมูลที่ได้รับมาจากพี่ ๆ สส. คือจังหวะที่เกิดเหตุขึ้นนั้น สส.รทสช. ไปประชุม กรรมาธิการทั้งหมด และประธานสภา ณ ขณะนั้นเป็นคนที่เคยอยู่ในพรรคเดียวกับผู้อภิปราย 

ด้วย 2 เหตุดังกล่าว จึงไม่มีการห้ามปรามใด ๆ เกิดขึ้นเลย รทสช. ไม่มีโอกาสประท้วง และประธานก็ไม่ทำหน้าที่ปราม

อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถใช้เหตุนี้เป็นข้ออ้างได้...เราจะเรียนรู้และพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้นค่ะ 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top