Friday, 3 May 2024
บิ๊กตู่

3 แกนกลยุทธ์ฝ่าวิกฤติ 'รัฐบาลประยุทธ์'

ไม่มีคำว่าดีที่สุด!! หรือสมบูรณ์แบบที่สุด!!

ขนาดรสชาติของอาหารยังไม่สามารถนิยามคำว่าอร่อยที่สุดให้คนทุกคนยอมรับได้ จะมีก็แต่ถูกปากหรือไม่ถูกปากที่สุดสำหรับใครเท่านั้น

นั่นจึงไม่แปลกที่ภาพรวมผลงานของทุกๆ รัฐบาลไทยที่ผ่านมาหลายทศวรรษ จะโดนบ้าง ไม่โดนบ้าง ทันใจบ้าง ไม่ทันใจบ้าง รับรู้ได้บ้าง ไม่รับรู้ได้บ้าง

แต่เชื่อว่าทุกๆ รัฐบาลไทย ล้วนมีธงแห่งความท้าทายในการสร้างสรรค์สิ่งดีงามทิ้งไว้ เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ตน รวมถึงนำประโยชน์มาสู่คนในสังคม และประเทศชาติไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง (ส่วนคอรัปชันก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)

คำถาม คือ คนไทยในวันนี้ใจกว้างแค่ไหนที่จะมองไปรอบๆ ตัว ว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปในทางที่ดีบ้างแล้ว? หรือสนใจแค่ความสะใจจากกระแสสื่อที่เอามันส์ จนกลบความเปลี่ยนแปลงแบบมโหฬารมันช่างดูไร้ค่า!!

>> พัฒนาการที่เด่นชัดของโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานทั่วไปและเมืองท่าสำคัญ รถไฟ, รถไฟฟ้า, ถนน, สนามบิน, ท่าเรือและโครงสร้างที่เอื้อต่อระบบเศรษฐกิจในยุคโลกไร้รอยต่อมากเป็นประวัติการณ์

>> การวางแผนต่อยอดให้คนไทยดำเนินชีวิตต่อได้ในวันที่ Climate Change เข้ามาแทรกซึมสังคมโลก แต่เรายังไม่เคยชะโงกหน้าออกนอกจอมือถือ แล้วไปส่องดูว่าระบบนิเวศแห่งพลังงานสะอาดและยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังค่อยๆ เปลี่ยนผ่านเข้ามาใกล้ชีวิตขึ้นเรื่อยๆ จากการผลักดันของรัฐบาลที่รวดเร็วขึ้นทุกวันๆ จนรู้ตัวอีกทีปั๊มน้ำมันอาจจะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นปั๊มชาร์จไฟ

>> คนรุ่นใหม่ทึ่อยากทำธุรกิจ และคนค้าขายทึ่เริ่มติดขัดทางธุรกิจ ขาดทุนหมุนเวียน เพราะแหล่งทุนใหญ่จมอยู่แต่คนมีเครดิต ก็กำลังจะถูกปรับโดยรัฐบาลที่ค่อยๆ เข้าไปเจรจากับนายแบงก์อย่างละมุนละม่อม และรอวันที่สุกงอม เปิดโอกาสให้ทุนหมุนเวียนเข้าถึงประชาชนทุกคนที่พร้อมนำไปบริหารชีวิตตนเองได้ง่ายดายขึ้น

‘ดร.นิว’ ติง ‘บิ๊กตู่’ สอบตกด้านความมั่นคง หลังสิงคโปร์ ‘เจอ-จับคนผิด’ วันเดียวเลี้ยวคุก

(9 ..65) เว็บไซต์ นสพ.The Straits Times ของสิงคโปร์ เสนอข่าว Man arrested for threatening PM Lee Hsien Loong on social media, following shooting of Japan's ex-PM Abe ระบุว่า เมื่อวันที่ 8 .. 2565 ตำรวจควบคุมตัวชายวัย 45 ปี หลังสืบทราบว่าชายคนดังกล่าวแสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ ในลักษณะข่มขู่คุกคามให้ใช้ความรุนแรงกับ ลีเซียนลุง (Lee Hsien Loong) นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ซึ่งวันดังกล่าวเป็นวันเดียวกับที่ ชินโซ อาเบะ (Shinzo Abe) อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิงเสียชีวิต

โดยเกรียนคีย์บอร์ดคนดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในเวลา 15.10 . และถูกจับกุมได้ในอีก 5 ชั่วโมงต่อมา โดยตำรวจได้ยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถืออีก 4 เครื่องไปตรวจสอบ เบื้องต้นยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งหากถูกตั้งข้อหายุยงปลุกปั่นด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ใช้ความรุนแรง และศาลตัดสินว่าผิดจริงในจ้อหาดังกล่าว อาจถูกจำคุกได้สูงสุดถึง 5 ปี รวมถึงยังมีโทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย

สืบเนื่องจากเรื่องดังกล่าว ทางด้าน ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

เรามีนายกอดีตทหารที่สอบตกด้านความมั่นคง

ประเทศสิงคโปร์สามารถรวบตัวคนที่โพสต์หมิ่นประมาทข่มขู่คุกคามนายกรัฐมนตรีได้ภายในวันเดียว อีกทั้งมีกระบวนการยุติธรรมที่รวดเร็วในการตัดสินคดีความที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง

เมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทย เรามีนายกรัฐมนตรีที่เคยเป็นถึงอดีตผู้บัญชาการทหารบก แต่กลับไม่เคยสร้างอธิปไตยไซเบอร์ (Cyber Sovereignty) ปล่อยให้ประเทศชาติถูกรุกรานทางไซเบอร์มาโดยตลอด

นอกจากนายกรัฐมนตรีจะปล่อยให้ตัวเองถูกด่าแบบสาดเสียเทเสีย ยังไม่สามารถปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ ปล่อยให้มีการหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายกันอย่างเสรี

แม้คุณ ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha จะมีผลงานในด้านต่างๆ จำนวนไม่น้อย แต่กลับสอบตกด้านความมั่นคงอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะไร้สติปัญญาในการสร้างอธิปไตยไซเบอร์ และไม่มีน้ำยาในการผลักดันให้เกิดกระบวนการยุติธรรมที่รวดเร็วในการตัดสินคดีความที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง

ขณะที่ประเทศสิงคโปร์สามารถรวบตัวผู้กระทำความผิดด้านความมั่นคง ไม่ว่าจะบนท้องถนนหรือในโลกออนไลน์ได้ภายในวันเดียว แล้วนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่รวดเร็วได้ในทันที

แต่ประเทศไทยกลับปล่อยให้มีการทำผิดกฎหมายและบ่อนทำลายความมั่นคงได้อย่างเสรี ตลอดจนมีกระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้า แถมยังถูกแทรกแซงโดยขบวนการบ่อนทำลายความมั่นคงอีกเสียด้วย

อย่างที่บอกไปแล้ว คุณประยุทธ์มีผลงานไม่น้อยก็จริง แต่ผลงานด้านความมั่นคงและการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นสอบตกอย่างน่าอับอายที่สุด ไม่สมกับการเป็นชายชาติทหารเลยแม้แต่นิดเดียว

ถ้าประชาชนผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างผมหรือใครก็ได้ที่รู้หลักวิชา นั่งอยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรีในวันนั้น แล้วทำการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่ระบอบประชาธิปไตยตามแนวทางที่ถูกต้องและมีความเป็นธรรม

นำไปสู่การทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนชาวไทยตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เราคงมีอำนาจอธิปไตยที่เป็นของปวงชนอย่างแท้จริง อีกทั้งมีความมั่นคงแห่งรัฐที่แข็งแกร่งตามไปด้วย

'นายกฯ' ให้กำลังใจคณะผู้จัด 'ศึกวันแดงเดือด' ช่วยหนุนบทบาทไทยสู่แลนด์มาร์กกิจกรรมระดับโลก

(12 ก.ค.65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชื่นชมคณะผู้จัดงานทุกคน ที่ช่วยขับเคลื่อนการแข่งขันฟุตบอลรายการ The Match Bangkok Century Cup 2022 แมตซ์พิเศษระหว่าง "ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" กับ"ทีมลิเวอร์พูล"ที่จะแข่งขันในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก โดยเป็นกิจกรรมที่รวมกลุ่มผู้คนจำนวนมากเป็นครั้งแรก ภายหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการโควิด-19  สร้างความสุขให้คนไทย พร้อมให้กำลังใจให้คณะผู้จัดงาน ให้สำเร็จด้วยดี สร้างความประทับต่อนักฟุตบอลทั้งสองทีม และแฟนบอลชาวไทยทุกคน

‘เด็กเพื่อไทย’ ยำ 'บิ๊กตู่' ทำหน้าทะเล้น ประหนึ่งว่าภูมิใจกับการรัฐประหาร

รองโฆษกเพื่อไทยซัดประยุทธ์ภูมิใจที่ทำรัฐประหาร ไม่รู้จักละอาย ไม่แปลกใจทำไมชอบโยงนายเหนือ ทั้งที่เทียบกันไม่ติด แนะเลิกใช้วาทกรรม ควรอยู่ให้คนรักจากไปให้คนคิดถึงดีกว่า

(21 ก.ค. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตอบกลางสภาผู้แทนราษฎรว่าไม่ได้เป็นคนปฏิวัติ และระบุว่าคนที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้คือนายกรัฐมนตรีคนเดียว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมก็ยกมือรับในสภา ซ้ำยังทำหน้าทะเล้น ลอยหน้าลอยตา ประหนึ่งว่าภูมิใจกับการรัฐประหารยึดอำนาจมาจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ว่าบ่งบอกถึงความไร้ยางอายและไร้วุฒิภาวะ เพราะการรัฐประหารเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั่วโลกไม่ยอมรับ เป็นเรื่องที่น่าอับอายมากของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนายกฯ

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 20 ก.ค. ที่คนในสภาออกมายอมรับว่าเป็นผู้ทำการรัฐประหารและทำการยึดอำนาจแต่เพียงผู้เดียว เป็นสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในความทรงจำที่เลวร้ายของประชาชน และเช่นเดียวกับผู้ที่สนับสนุนและออกหน้าแทน พล.องประยุทธ์ คือผู้ที่เห็นดีเห็นงามต่อผู้ที่ทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศนี้”

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม จับมือลงนาม ไทย-ปูซาน ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ตั้งเป้าใน 3 ปี เพิ่มมูลค่าส่งออกไทย 2 แสนล้านบาท 

เมื่อวันที่24 ก.ค.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายด้านการค้ากับประเทศพันธมิตรกลุ่มเมืองรองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง และนำไปสู่การลงนามความร่วมมือระหว่างไทย-ปูซาน เชื่อมั่นการทำบันทึกความเข้าใจ ไทย-ปูซาน ที่จะผลักดัน Soft power และการส่งออกของไทย

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯ มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศ เพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทั้งการเจรจาการค้าในเวทีระดับโลกและภูมิภาคในหลายรูปแบบ ส่งผลให้เกิดความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรเมืองหลัก และเมืองรอง ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง อาทิ มณฑลไห่หนาน มณฑลกานซู่ ประเทศจีน เมืองโคฟุ ประเทศญี่ปุ่น หรือรัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย เป็นต้น โดยวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจด้านการค้า (Memorandum Of Understanding : MOU) หรือ Mini FTA ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจปูซาน หรือ Busan Economic Promotion Agency (BEPA) สาธารณรัฐเกาหลี

‘บิ๊กตู่’ สั่ง ‘กองทัพ’ ช่วยคนกรุงเจอฝนถล่ม ซ่อมรถเสีย เคลียร์ขยะขวางทางระบาย

‘บิ๊กตู่’ สั่ง กองทัพ ประสาน กรมอาชีวะ ลงช่วยซ่อมรถยนต์เสีย หลังฝนถล่มกรุงเทพฯ ทำน้ำท่วมขังการจราจรติดขัดหนัก

(1 ส.ค. 65) พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการ กระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพ ประสานขอความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ จัดอาสาสมัคร จากกรมอาชีวะศึกษา ร่วมกับกำลังทหารและเครื่องมือช่าง กระจายลงพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ให้การช่วยเหลือเร่งด่วน ประชาชนที่ติดอยู่บนท้องถนนจำนวนมาก รถยนต์ขัดข้องหลายคัน จากฝนตกหนักและน้ำท่วมขังสูงในหลายพื้นที่ ส่งผลหลายเส้นการสัญจรไม่สะดวก การจราจรติดขัดหนัก

หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แทงกั๊ก!! หนุนคนทำเพื่อ ‘ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์’

(3 ส.ค. 65) ที่สโมสรราชพฤกษ์ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมใหญ่วิสามัญพรรค รทสช. และได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ว่า... 

สำหรับยุทธศาสตร์พรรคที่สำคัญคือ การช่วยเหลือดูแล ประชาชน เพราะวันนี้ประชาชนต้องการที่พึ่ง ต้องการให้คนเข้ามาแก้ปัญหาในชีวิต ในการดำรงชีพ การทำมาหากิน ที่ไม่เคยมีใครดูแล โดยเฉพาะประชาชนตัวเล็ก ๆ ชาวบ้านชาวนา เกษตรกร พนักงานกินเงินเดือน ที่เขามีปัญหาเยอะมาก วันนี้เขาไม่ได้ต้องการทีมเศรษฐกิจ แต่เขาต้องการคนที่จะแก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้เขาได้อย่างไร เพื่อให้เขามีเงินทุนเดินหน้าต่อไปได้ไม่ต้องถูกล้มละลาย นี่คือนโยบายหลักของพรรคที่จะใช้เข้าหาประชาชน

เมื่อถามว่า ได้มีการเปิดตัว ส.ส.ไปแล้ว นายพีระพันธุ์ กล่าวว่าพึ่งมารับตำแหน่งวันนี้ ก็ยังคงไม่มีโอกาสไปเปิดตัวใคร คงต้องอีกสักพักหนึ่ง แต่มั่นใจได้เลยว่า เราจะมีผู้สมัคร ส.ส.เขตเป็นจำนวนมาก ซึ่งในทางการเมืองเรามองทั้งประเทศ มองในภาพรวม

เมื่อถามว่า มีคนระบุว่า การเปิดตัวพรรควันนี้ เป็นสาขา 2 ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “ไม่เหมือนหรอก ผมนึกไว้แล้วว่าต้องถามแบบนี้ มีกี่คนที่ไม่ใช่ ปชป. ที่ผ่านมาเรามีพรรคการเมืองไม่กี่พรรค ที่นักการเมืองสังกัด เราก็มากันอย่างนี้ แต่วันนี้มันไม่ใช่ ปชป.2 อย่างกรรมการบริหารพรรค ก็ไม่ได้มีแค่ ปชป. มีทั้งคนหน้าใหม่ เป็นสิ่งที่สื่อพูดกันไปเอง ในความเป็นจริงมันไม่ใช่อยู่แล้ว”

เมื่อถามว่า นายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และอดีตแกนนำ กปปส. ก็ได้มาแสดงความยินดี จะมีโอกาสร่วมงานกันหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “ผมกับพี่ถาวร รู้จักกันมา 30 ปี ถ้าเป็นพี่ถาวร ผมก็ไปแสดงความยินดี มันไม่เกี่ยวกันมันเป็นเรื่องน้ำใจ เราต้องมีน้ำใจต่อกันเท่านั้นเอง”

เมื่อถามว่า มีนายก อบจ. จ.พัทลุง สุราษฎร์ธานี ชุมพร มาร่วมแสดงความยินดี จะเป็นพื้นที่เผ้าหมายในการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายพีรพันธุ์ กล่าวว่า “ตนมั่นใจว่าจะสามารถกวาด ส.ส.ได้ทั้งภาคใต้ เราจะต้องคาดหมายว่าเราจะชนะหมดทุกเขต”

เมื่อถามว่า ในอนาคตหากมีการเลือกตั้งจะมี ส.ส.พรรค ปชป.เข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “เป็นเรื่องของอนาคต อย่างที่ถามถึง นายถาวร จะมาบอกว่าไม่มีการพูดคุยกัน คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเรารู้จักกันส่วนตัว แม้ตนออกจากพรรค ปชป.มานานแล้ว แต่ในทางส่วนตัวเราก็เป็นมิตร เป็นเพื่อนกัน เราไม่ได้คบกัน ที่การเป็นพรรค แต่เราคบกันที่ใจ ฉะนั้นอยู่ตรงไหน ก็คุยกันได้อยู่แล้ว”

เมื่อถามว่า พรรคจะยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “นโยบายแนวทางของพรรค รสทช. เราไม่ได้สนับสนุนบุคคล แต่เราสนับสนุนแนวทางและการทำงานเดียวกัน ที่สำคัญคือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซึ่งเราทำงานด้วยกันได้หมด”

เมื่อถามว่า แคนดิเดตนายกฯ จะเสนอเพียง 1 คนหรือ 3 คน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “ยังไม่ถึงเวลาพิจารณา ตนเพิ่งมาเป็นหัวหน้าพรรคไม่ถึง 1 วันเลย จะไปพูดแบบนั้นยังไม่ได้”

เมื่อถามว่า มีคนมองว่า พรรคนี้ ตั้งมาเพื่อ พล.อ.ประยุทธ์ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “ใครพูดล่ะ ผมไม่เคยพูด เมื่อกี้ก็พูดชัดแล้ว ว่าพรรคนี้ทำเพื่อประชาชน เราตั้งพรรคการเมือง ไม่ได้ไปตั้งพรรค เพื่อไปสนับสนุนอะไรใคร พรรคการเมือง ก็ต้องทำงานการเมือง”

เมื่อถามว่า มันมีภาพจำ ก่อนที่จะมีการเปิดตัวพรรค ที่มีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นคนก่อตั้งพรรค นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ก็คิดกันไปเอง สื่ออยากจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่สื่อ ตนจะเดินตามแนวทางที่ตนยืนหยัดมา”

ลุ้น!! ‘บิ๊กตู่’ ส่งเอกสารชี้แจงภายใน 15 วัน หลังศาล รธน. มีมติ 5 ต่อ 4 สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

ด่วน!! ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องฝ่ายค้าน ตีความวาระ 8 ปี เสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 สั่ง ’บิ๊กตู่’ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ฟาก ‘บิ๊กป้อม’ ผงาดนั่งรักษาการณ์นายกฯ ส่วน ‘บิ๊กตู่’ ร่วมถกครม.ได้ในฐานะ รมว.กลาโหม

 (24 ส.ค.65) คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่เข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 เพื่อขอส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่าสิ้นสุดลงของตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสองและมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะมีคำสั่งวินิจฉัยออกมา เนื่องจากเห็นว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว เห็นว่ากรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7(9) จึงมีมติเอกฉันท์รับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยให้ผู้ถูกร้องสามารถยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

'ดร.นิว' แนะ 'บิ๊กตู่' ใช้ช่วงหยุดหน้าที่นายกฯ พักผ่อน หากหวนคืนตำแหน่ง ขอให้มุ่งสู่เส้นทาง 'รัฐบุรุษ'

(25 ส.ค. 2565) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาดังนี้ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก ๕ ต่อ ๔ ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ก็ขอให้ท่าน ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha พักผ่อนจากภาระอันหนักอึ้ง

หากท่านมีโอกาสได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ก็ขอให้ท่านเลือกเส้นทางของ 'รัฐบุรุษ' นำพาประชาชนไปสร้างประชาธิปไตยตามแนวทางราชประชาสมาสัยอย่างสันติให้เป็นผลสำเร็จ ถ่ายโอนอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง สถาปนาระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องและมีความเป็นธรรม ตลอดจนมีรัฐธรรมนูญที่เป็นผลสำเร็จของการสร้างประชาธิปไตยในที่สุด

ดร.ศุภณัฐ
๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕

#ประชาธิปไตยTheseries by ดร.ศุภณัฐ

พลเอกประยุทธ์จะเป็น "โมฆบุรุษ" หรือ "รัฐบุรุษ" ? การเป็น "โมฆบุรุษ" หรือ "รัฐบุรุษ" ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการดำรงตำแหน่งครบแปดปีเมื่อไหร่ หรือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร หากแต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการกระทำของพลเอกประยุทธ์เอง

จริงๆ พลเอกประยุทธ์น่าจะเป็นรัฐบุรุษไปแล้วเสียด้วยซ้ำ หากยึดอำนาจแล้วนำมาสร้างประชาธิปไตย ทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนอย่างแท้จริง แต่ก็ไม่ได้นำพา วกกลับมาสู่ระบอบเผด็จการลัทธรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับการรัฐประหารทุกครั้ง

การไม่สร้างประชาธิปไตยของพลเอกประยุทธ์จึงทำให้อำนาจอธิปไตยยังคงเป็นของคนส่วนน้อยเหมือนเดิม ทำให้การเคลื่อนไหวที่ผิดหลักวิชาภายใต้ระบอบเผด็จการยังคงอยู่ ไม่ได้ยุติความขัดแย้งและความเห็นผิดทางการเมืองให้หมดสิ้นไปแต่อย่างใด

ถ้าพลเอกประยุทธ์ไม่สร้างประชาธิปไตย ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้ระบอบเผด็จการต่อไป คอยรับใช้อำนาจอธิปไตยของคนส่วนน้อย เอื้อผลประโยชน์แก่นายทุนนักธุรกิจหลังม่านการเมือง แล้วปล่อยให้ระบอบปรสิตของนักการเมืองทำนาบนหลังคนร่ำไป

ในที่สุดพลเอกประยุทธ์ก็จะพังไปเองโดยไม่ต้องมีใครมาขับไล่ นำไปสู่จุดจบทางการเมืองแล้วกลายเป็น "โมฆบุรุษ" เฉกเช่นนายกรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ในระบอบเผด็จการแห่งนี้ ที่เข้ามาแสวงอำนาจและผลประโยชน์โดยไม่สร้างประชาธิปไตยให้กับประชาชน

ถ้าพลเอกประยุทธ์สร้างประชาธิปไตย โค่นระบอบเผด็จการของคณะราษฎรเสียให้สิ้น บดขยี้การเคลื่อนไหวแนวทางผิดทั้งหมด ด้วยการเมืองกระแสสูงที่นำพาประชาชนไปสร้างประชาธิปไตย แล้วทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนได้เป็นผลสำเร็จ

พลเอกประยุทธ์ก็จะได้รับการยกย่องสรรเสริญ และถูกจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะ "รัฐบุรุษ" แถมยังเป็น "วีรบุรุษประชาธิปไตย" ของปวงชนอีกด้วย เพราะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านระบอบเผด็จการไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง

ถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกันนี้ ผมจะขอโทษประชาชนที่ไม่ได้ทำตามสัญญา ไม่ได้สร้างประชาธิปไตยที่ถูกต้องสมบูรณ์ตั้งแต่ตอนเข้าสู่อำนาจ แต่นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะนำพาประชาชนไปสร้างประชาธิปไตยอย่างสันติ เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย

'บิ๊กบี้' ชื่นชม 'บิ๊กตู่' 'สุภาพบุรุษ-แบบอย่างชายชาติทหาร' ปฏิบัติตามคำสั่งศาลฯ ทำตามระบบประชาธิปไตย

(25 ส.ค. 65) พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่า วันนี้ยังไม่มีการประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล (บอร์ด 7 เสือกลาโหม) ซึ่งวันนี้จะมีการประชุมสภากลาโหมด้วย 

ส่วนกระแสข่าวลือการเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการทหารบกนั้น พลเอก ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า บอกแล้วอย่าไปคาดการณ์ หรือเชื่อข่าวลือต่างๆ พร้อมฝากนักข่าวช่วยคิดในสิ่งที่ดี ช่วยทำให้สังคมส่วนใหญ่มองหรือคิดในสิ่งที่ดีร่วมกัน เพื่อให้ประเทศชาติไปในทางที่ดี

“ยกตัวอย่างเรื่องของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทุกคนควรชื่นชมยกย่องท่านที่ปฏิบัติตามระบบของประชาธิปไตย ซึ่งประชาธิปไตยก็คือระบบนิติศาสตร์ ที่มีการตรวจสอบ มีเรื่องอะไรก็ร้องไปที่ตุลาการ ตุลาการก็สั่งมาที่ฝ่ายบริหาร ว่าฝ่ายบริหารควรต้องทำอย่างไร ฝ่ายบริหารก็ปฏิบัติตามนั้น นี่คือระบบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ และต้องชื่นชมว่าท่านคือสุภาพบุรุษ คือผู้นำ ท่านคือแบบอย่างของชายชาติทหาร ที่ว่าฝ่ายตุลาการสั่งมาอย่างไรท่านก็ปฏิบัติตามอย่างนั้น นี่คือสิ่งที่ดี ๆ ของประเทศเรา คือประชาธิปไตยต้องปฏิบัติแบบนี้ ไม่ใช่พอตุลาการพูดมาก็ไปคิดแทน ไปคาดการณ์เองเหมือนฝ่ายอื่น ๆ ซึ่งมันไม่ใช่ นี่คือสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้น” 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top