Sunday, 19 May 2024
น้ำท่วม

'เสี่ยงลุย' ไม่คุ้มเสีย!! ระวัง!! ขับรถเปิดแอร์ฝ่าน้ำท่วม รถยุโรป ตุย!! รถญี่ปุ่นผ่านฉลุย

เมื่อเข้าฤดูฝนอย่างนี้คนมีรถยนต์อย่างเรา มันจี๊ดที่ใจมากเวลาขับรถฝ่าน้ำท่วม คนกรุงทราบดีว่าถ้าไม่ขับฝ่าน้ำท่วมกลับบ้าน ตี 5 ก็คงไม่ถึงบ้านถ้ายังรอให้น้ำลดอยู่ แต่คุณรู้ไหมครับเราควรจะขับรถยนต์ฝ่าน้ำยังไงให้ยังรอด? 

(คำถาม : คุณคิดว่าทำไมรถยุโรปถึงกลัวน้ำมากกว่ารถญี่ปุ่น?)

หากจะเล่าถึงทริกเล็กๆ ในการขับรถฝ่าน้ำท่วม สิ่งสำคัญคือห้ามขับรถเร็ว เพราะการที่คุณขับรถเร็วจะทำให้รถนั้นเสียการทรงตัว เบรกจะลื่นขึ้นกว่าปกติทำให้ควบคุมรถได้ยาก

ปิดแอร์แล้วเปิดกระจกเล็กน้อยเพื่อให้อากาศถ่ายเท ทำไมต้องปิดแอร์ เป็นเพราะว่าเมื่อเราเปิดแอร์ ใบพัดแอร์จะทำงานอาจทำให้ใบพัดหมุนน้ำกระจายไปยังจุดต่างๆ ของห้องเครื่อง อาจจะทำให้ใบพัดแอร์หักได้รับความเสียหาย

ห้ามสตาร์ตเครื่องยนต์ที่ดับขณะฝ่าน้ำ หากคุณพยายามสตาร์ต 1-2 ครั้งแล้วรถยังไม่ติด ห้ามฝืนสตาร์ตต่อไปเรื่อยๆ เพราะน้ำจะเข้าระบบเครื่องยนต์ เสียหายหนักไปอีกไม่คุ้มแน่นอน สาเหตุที่เครื่องดับอาจเกิดจาก หัวเทียนเปียกน้ำ น้ำเข้ากรองอากาศดูดเข้าเครื่องยนต์ ซึ่งรถยุโรปมักวางกรองอากาศไว้ต่ำใกล้ซุ้มล้อ มีโอกาสเสี่ยงมากกว่ารถญี่ปุ่น

หลังลุยน้ำท่วมให้จอดสตาร์ตทิ้งไว้สักพัก ข้อดีของการทำแบบนี้ คือการให้ไอเสียไล่น้ำที่อาจตกค้างอยู่ แล้วให้คุณเดินสำรวจรถว่ามีหลอดไฟดับไหม แผ่นป้ายทะเบียนหลุดหรือเปล่า สำรวจพรมภายในรถ หากมีน้ำซึมเข้ามา ให้ผึ่งรถให้แห้ง

หากมีคำถามว่าน้ำต้องท่วมระดับไหนถึงไม่ควรขับฝ่า เพราะบางทีมันก็จำเป็นต้องขับฝ่าจริงๆ กรมการขนส่งก็ได้ออกมาให้ความรู้ผ่านเพจ 'ขับขี่ปลอดภัย by DLT' ไว้ว่า..

• ระดับน้ำ 5-10 ซม. ขับผ่านได้ทุกคัน แต่ยังต้องมีสติ ระมัดระวัง ไม่ควรใช้ความเร็วสูง อาจทำให้สูญเสียการควบคุมได้ เพราะถนนลื่น

• ระดับน้ำ 10-20 ซม. รถทุกประเภทยังขับผ่านไปได้ รถขนาดเล็กอาจได้ยินเสียงน้ำใต้ท้องรถ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะยังมีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปในตัวรถ

• รถอีโคคาร์ต้องระวัง ระดับน้ำ 20-40 ซม. เพราะส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้มีความสูงจากระดับพื้น 15-17 ซม. อาจทำให้เกิดปัญหาท่อไอเสียจม แต่ยังสามารถขับลุยน้ำผ่านได้ ส่วนรถกระบะยังผ่านไปได้

• ระดับน้ำ 40-60 ซม. รถเก๋ง รถขนาดเล็กต้องเลี่ยง รถกระบะยังฝ่าไปได้ ปิดแอร์ขณะขับ ป้องกันพัดลมแอร์หน้ารถดูดละอองน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ จะทำให้เครื่องยนต์ดับ ขับขี่ให้ช้าลง ลดการเกิดคลื่นน้ำซัดเข้าหารถ จากรถคันอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงที่น้ำจะกระจายเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์

• ระดับน้ำ 60-80 ซม. อันตรายต่อรถทุกคัน ไม่ควรขับลุย เพราะน้ำอาจไหลเข้าห้องเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ดับ หยุดชะงัก ก่อให้เกิดความเสียหายในระบบต่างๆ ได้ ซึ่งการขับลุยน้ำท่วมระดับนี้ต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ ที่สำคัญอย่าปะทะคลื่นโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องดับกลางอากาศ

• ระดับน้ำสูงเกินกว่า 80 ซม. ควรใช้เส้นทางอื่น

'ชลน่าน' ยกทัพ 'เพื่อไทย' ซับน้ำตาชาวขอนแก่น หลังน้ำท่วมยาว ขาดอาหารและยา รัฐไม่เหลียว

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรค วันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น มุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น ภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น บัลลังก์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น พชรกร อรรณนพพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น วิภาณี ภูคำวงศ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น สุรพจน์ เตาะเจริญสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น รวมทั้งสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย เยี่ยมเยือนให้กำลังใจ พร้อมรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย และรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้นำชุมชนและพี่น้องประชาชนใน 3 จุด จุดที่ 1 บ้านเมืองเพีย ต.เมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จุดที่ 2 บ้านท่าข่อยใต้ ต.ชนบท อ.ชนบท จุดที่ 3 บ้านวังเวิน ต.ศรีบุญเรือง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า จากการพูดคุยรับฟังปัญหา พี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในขณะนี้ต้องการให้รัฐบาลเร่งชดเชยเยียวยาพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเต็มพื้นที่ บ้านเรือนพี่น้องประชาชนถูกน้ำท่วมมิดหลังคาเรือนเสียหายทั้งหมด ขณะที่ถนนหลัก ถนนรอง ทางเข้าหมู่บ้าน พนังกั้นน้ำ ได้รับความเสียหาย หลังจากน้ำลดแล้วอยากให้รัฐบาลเร่งเข้ามาซ่อมแซมสาธารณูปโภคเหล่านี้โดยด่วน

ทั้งนี้เมื่อครั้งที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เมื่อครั้งที่เกิดอุทกภัยในปี 2554 รัฐบาลเพื่อไทยเยียวยาพี่น้องประชาชน อย่างทันการณ์และเท่าเทียม ครัวเรือนละ 5,000 บาท จึงอยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย

รัฐบาล เตือน!! โจรขโมยของ 'คนน้ำท่วม' ซ้ำเติมความเดือดร้อน โทษหนักกว่าปกติ

(9 ต.ค. 65) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งบรรเทาความเดือดร้อน ช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก และฝนตกสะสม น้ำป่าไหลหลาก น้ำทะเลหนุน เนื่องจากบางพื้นที่ต้องอพยพประชาชนไปพักที่ศูนย์อพยพต่าง ๆที่ทางราชการจัดไว้ ทำให้ประชาชนต้องทิ้งที่อยู่อาศัยเพื่อความปลอดภัยในชีวิต นายกรัฐมนตรี ห่วงใยทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหมั่นตรวจตราดูแลอย่างเข้มข้น

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ฝากเตือนมิจฉาชีพอย่าฉวยโอกาสลักทรัพย์ หรือขโมยตามบ้านเรือนผู้ประสบภัย กรณีนี้ผู้กระทำจะได้รับโทษหนักกว่าปกติเพราะถือว่าเป็นการไปซ้ำเติมผู้ที่กำลังเดือดร้อน โดยจะได้รับโทษ ตามมาตรา 335 (2) ที่กำหนดว่า ผู้ใดลักทรัพย์ในที่หรือบริเวณที่มีเหตุเพลิงไหม้ การระเบิด อุทกภัย หรือในที่หรือบริเวณที่มีอุบัติเหตุ เหตุทุกขภัยแก่รถไฟ หรือยานพาหนะอื่นที่ประชาชนโดยสาร หรือภัยพิบัติอื่นทำนองเดียวกันหรืออาศัยโอกาสที่มีเหตุเช่นว่านั้น หรืออาศัยโอกาสที่ประชาชนกำลังตื่นกลัวภยันตรายใด ๆ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1- 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท

'ชัยวุฒิ' หวั่น!! คันกั้นน้ำขาด เร่งระบายด่วน! ยันมติครม. ต้องเอาน้ำลง 11 ทุ่ง ช่วยลดผลกระทบ

(9 ต.ค. 65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่ บริเวณ เเนวคันกั้นน้ำขาด เเละเสียหาย ที่ บริเวณวัด ประสาท อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พร้อมกับ นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี และหัวหน้าส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง โดย นายชัยวุฒิ ได้ให้กำลังใจ พร้อมพูคคุยกับประชาชน ผู้ประสบภัย ขณะที่จังหวัดสิงห์บุรี ได้นำอาหารเเห้ง จากผู้มีจิต ศรัทธา มามอบให้ผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 2,000 ครอบครัวด้วย

ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สิ่งสำคัญตอนนี้เราเน้นจะดูเรื่องอาหารการกินมีการตั้งโรงครัวพระราชทานให้ถุงยังชีพน้ำดื่ม สะอาด แล้วก็ดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนผู้สูงอายุ คนป่วยติดเตียงที่มีสุขภาพไม่ดี ก็จะนำมาพักอยู่ที่โรงพยาบาล อําเภอพรหมบุรี ซึ่งจะรองรับผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงขณะนี้ เราเตรียมศูนย์พักพิงไว้ทุก ๆ อําเภอเพื่อ รองรับผู้ประสบภัย ที่น้ำท่วมหนัก นอกจากนี้ก็มีการจัดตั้ง สุขาชั่วคราวในทุก ๆ จุดที่ประชาชนบ้านถูกน้ำท่วมด้วย โดยในภาพรวมถือว่าสิงห์บุรี เเละจังหวัดในพื้นที่ ภาคกลาง ได้มีการวางแผนมาอย่างดี

'วัชระ' เสนอนายกฯเร่งตั้ง 'กระทรวงการพัฒนาทรัพยากรน้ำ' ก่อนสายเกินไป เหตุเจ้าภาพเยอะ กระจัดกระจาย อำนาจไม่รวมศูนย์ ทำให้แก้ปัญหาได้ไม่สะเด็ดน้ำ

วันที่ 11 ต.ค. นายวัชระ กรรณิการ์ กรรมการบริหารและรองเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคกลาง ให้สัมภาษณ์ ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมในอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นทั้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดอื่น ๆ ในภาคกลาง ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นปัญหาที่หมักหมมมานานตั้งแต่อดีตแล้ว ซึ่งตนเข้าใจและยอมรับได้ในระดับหนึ่งว่า ภาคกลางมีภูมิประเทศเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ง่ายต่อการเกิดน้ำท่วม แต่ถ้ามองในแง่ข้อเท็จจริงก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ในแต่ละปีปัญหาน้ำท่วมได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น สร้างความเดือดร้อนและสร้างความเสียหายให้กับประชาชนอย่างมาก ถึงแม้จะมีการเยียวยาหรือชดเชยจากหน่วยงานภาครัฐในรูปแบบต่าง ๆ แต่ก็เชื่อว่าไม่สามารถทดแทนกันได้ และไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ตนเห็นความเสียหายของชาวบ้านในทุกรูปแบบ บางคนเสียบ้าน เสียรถ เสียร้านค้า บางคนเสียไร่นา เสียบ่อปลา และที่สำคัญที่สุดผู้ประสบภัยทุกคนสูญเสียความสุขที่เคยมี หลายคนต้องหนีน้ำมานอนเพิงริมถนนที่ศูนย์พักพิง รอถุงยังชีพจากภาครัฐหรือภาคเอกชนที่จะมาช่วยเท่านั้น

'เพื่อไทย' ลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวอยุธยา ชี้!! ถ้าได้เป็นรัฐบาลแก้ปัญหาน้ำท่วมได้แน่นอน

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 11 ต.ค. ที่จ.พระนครศรีอยุธยา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจิรทัศ ไกรเดชา ส.ส.พระนครศรีอยุธยา นายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล นายอาทิตย์ ภาคอินทรีย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคพเพื่อไทย เดินทางไปที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานผักไห่ เพื่อลงเรือเยี่ยมพี่น้องประชาชน บริเวณแม่น้ำน้อย องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลาดชิด อ.ผักไห่ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย จากนั้น น.ส.แพทองธารพร้อมคณะเดินทางมาที่วัดลาดชิด เพื่อพบปะประชาชนเกือบ 100 คนที่ได้รับความเดือดร้อน 

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยมาหาพี่น้องประชาชนเพื่อมาให้กำลังใจ ตนได้ลงเรือเห็นแล้วว่าระดับน้ำสูงมาก ขอให้กำลังใจทุกท่าน ถ้าพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เรามั่นใจว่าจะจัดการดูแลเรื่องน้ำให้ประชาชนดีกว่านี้แน่ ๆ ตนอยากจะดีดนิ้วให้น้ำมันหายไปให้หมด เพื่อให้พี่น้องอยู่กันสบาย ๆ แต่ไม่มีซูเปอร์พาวเวอร์ ต้องรอให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเพื่อมีแรง กำลังและอำนาจในการช่วยจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้กับพี่น้องให้ดีขึ้นกว่านี้ ตอนนี้ขอส่งกำลังใจด้วยความจริงใจจากพรรคเพื่อไทย ขณะนี้ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยก็กระจายกำลังกันทำหน้าที่ อะไรที่เราทำได้ เราทำแน่ ขอให้พี่น้องสบายใจ แต่ตอนนี้ขอให้กำลังใจพี่น้องเต็ม ๆ ไปก่อน 

จากนั้น น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เห็นใจพี่น้องประชาชน เห็นว่ามีระดับน้ำเยอะ ทุกคนดูมีกำลังใจและมีพลังบวก เรามาหาชาวบ้านแต่ชาวบ้านกลับยิ้มแย้มแจ่มใส และให้กำลังใจประชาชน เก่งมาก ๆ ตนขอชื่นชมจากใจที่ชาวบ้านเจอปัญหานี้แล้วยังมีกำลังใจ มีน้ำใจให้กับพรรคเพื่อไทยและพวกเราทั้งหมด 

เมื่อถามว่าจะมีการสานต่อโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยุคสมัยเปลี่ยนไป เราต้องกลับมามาดูแลเรื่องน้ำแน่นอน แต่ต้องดูรายละเอียดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านน้ำและพรรคเพื่อไทยด้วย แน่นอนว่านี่เป็นปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อนและต้องนำมาแก้ไข

เมื่อถามต่อว่าโครงการดังกล่าวเคยมีเสียงวิจารณ์ แสดงว่าพรรคเพื่อไทยจะกลับมาทบทวนใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เดิมเรามีแผนโครงการบริหารจัดการน้ำฯ ขณะนั้น เราได้บูรณาการแผนทั้งหมด ปรากฏว่าระหว่างนั้นมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก่อน ทำให้แผนต้องหยุดชะงักลง ถ้ามีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาล เราก็จะยึดแผนเดิมอยู่ ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงโครงการฯ ที่น.ส.แพทองธารพูด บางส่วนอาจมีความจำเป็น เพราะวันนั้นกับวันนี้มันต่างกันร่วม 10 ปีแล้ว ก็อาจจะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงการฯ

เมื่อถามว่าหากโครงการนี้ยังคงอยู่ปัญหาน้ำท่วมจะดีขึ้นกว่านี้หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าดีขึ้น ถ้าโครงการยังอยู่และมีการปฏิบัติตาม

'ชัยวุฒิ' ลงพื้นที่ตามติดน้ำท่วม จ.นครสวรรค์ เผย การจัดการน้ำ - ช่วยเหลือประชาชน เป็นไปด้วยดี

วันนี้ (12 ตุลาคม 2565) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีนายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ บรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่ รวมถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานในพื้นที่ประสบอุทกภัยร่วมประชุมรับฟังนโยบายผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ด้วย ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ 

โดยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวภายหลังรับฟังบรรยายสรุป ว่า จากปริมาณน้ำในพื้นที่แม้จะถึงระดับสูงสุด แต่จากการคาดการณ์ปริมาณฝน ซึ่งไม่มีการตกเพิ่มเติม ในระยะ 2-3 วัน จะส่งผลให้น้ำลดระดับได้ และปริมาณน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งระบบป้องกันน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทั้งจังหวัดนครสวรรค์เอง และจังหวัดใกล้เคียง ถือว่ามีการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี รวมถึงการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกร ที่ปลูกพืชในบริเวณพื้นที่รับน้ำให้มีความเข้าใจ และกำหนดรอบในการปลูกพืช เพื่อใช้พื้นที่ในการรองรับน้ำ หรือ ชะลอน้ำที่ผ่านทางจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อลดผลกระทบให้กับพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ

หลังจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย ชุมชนบางปราง ทางรถไฟ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง / วัดจอมคีรีนาคพรต ตำบลนครสวรรค์นอก อำเภอเมือง / อบต.บางเคียน อำเภอชุมแสง / วัดสระเศรษฐี และวัดสำโรง ตำบลน้ำทรง อำเภอพยุหะคีรี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ 

'เยาวชน SEED' รวมตัวแพ็กกระสอบทรายช่วยน้ำท่วม เผย!! 'ดีกว่านอนอยู่บ้าน-ด่าคนอื่นผ่านออนไลน์ไปวันๆ'

(13 ต.ค.65 ) The Pushisher ได้โพสต์ข้อความการออกมาช่วยเหลือสังคมในช่วงอุทกภัยกระจายของน้องๆ ทีม SEED Thailand ระบุว่า...

ใจเขา ใจเรา ไม่นิ่งดูดาย
ลุกออกมาลงมือทำ
เยาวชน SEED อาสา
แพ็กกระสอบทรายช่วยน้ำท่วม

เนื่องจากในปัจจุบัน เกิดปัญหาอุทกภัย กระทบการใช้ชีวิตของประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เจ้าหน้าที่รัฐ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังคนและทรัพยากร ลงพื้นแก้ปัญหา ช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

โดยเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 เวลา 8.00 - 12.00 น. เครือข่ายเยาวชน SEED Thailand และน้องๆ จิตอาสา จำนวน 20 คน ภายใต้โครงการ 'SEED อาสา' ร่วมกับเทศบาลนครรังสิต แพ็กกระสอบทราย เพื่อใช้สำหรับการป้องกันน้ำท่วม ณ เทศบาลเมืองปทุมธานี อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยสามารถแพ็คกระสอบทรายได้ทั้งหมด 300 กระสอบ นำส่งให้พี่ๆ เจ้าหน้าที่ นำไปช่วยเหลือประชาชนต่อไป

น้องๆ ทีม SEED อาสา ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว The Publisher ว่า "น้ำท่วมรอบนี้ กระทบชีวิตคนเมืองแทบทุกคน ถึงแม้บางคนจะไม่เจอน้ำท่วมบ้าน แต่ก็เจอปัญหารถติด ไฟดับ เดินทางไปทำงานไม่สะดวก เปิดร้านขายของไม่ได้ ผมไม่ได้เจอน้ำท่วมแบบจังๆ แต่ก็ได้รับผลกระทบเวลาเดินทาง

ป่วยที่ไหนไปนั่น!! 'นายกฯ' ช่วยไว!! ให้สิทธิผู้ป่วยบัตรทองในพื้นที่น้ำท่วม 'รักษาฟรี - ที่ไหนก็ได้' แม้ไม่ใช่หน่วยบริการตามสิทธิ

(15 ต.ค. 65) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กำชับส่วนราชการเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และให้ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น สำหรับการดูแลสุขภาพประชาชน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมดูแลผู้ป่วยสิทธิบัตรทองในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม มีการจัดระบบให้สามารถรับการรักษาต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยสามารถใช้บริการที่หน่วยบริการ หรือ สถานพยาบาลที่ไม่ใช่หน่วยบริการตามสิทธิได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งทางหน่วยบริการจะเบิกค่าใช้จ่ายจากสปสช. ตามขั้นตอนต่อไป

'สมคิด' จวก 'ประยุทธ์' บริหารจัดการน้ำล้มเหลวทุกทาง ชี้!! ใช้งบ 4 แสนล้าน ผู้รับเหมารวย แต่ปชช.จมน้ำเช่นเดิม

(15 ต.ค. 65) สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แสดงความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัด อยากเรียกร้องให้รัฐบาลรีบช่วยเหลือเร่งจ่ายเงินเยียวยาโดยเร่งด่วน อย่าชักช้าเหมือนปี 2562 ที่ชาวบ้านต้องรอเงินเยียวยาไปซ่อมบ้านเรือนนานถึง 6-8 เดือน

เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะรัฐบาลออกกฎระเบียบ ขั้นตอนมากมาย ทำให้ประชาชนที่ประสบเหตุต้องรอนานกว่าจะได้เงินจาก 1 วัน เป็น 1 เดือน เป็นหลายเดือน จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุน้ำท่วมหนักมากกว่าทุกปี พี่น้องประชาชนต้องหนีน้ำขึ้นหลังคานับหมื่นครัวเรือน นาข้าวหลายแสนไร่ ต้องจมน้ำ ปศุสัตว์ตายเพราะน้ำท่วม กว่าจะได้เงินเยียวยาต้องรอข้ามปี ดังนั้น รัฐบาลต้องมีเจ้าภาพที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ อย่าหวังพึ่งระบบราชการดำเนินการ เพราะจะไม่ทันความเดือดร้อนของประชาชน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top