Wednesday, 15 May 2024
นายกรัฐมนตรี

'นายกฯ' ปลื้ม รายได้คงคลัง  9 เดือนแรกปีงบ 65 ทะลุ 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% ขณะที่ 3 กรมภาษี จัดเก็บได้กว่า 2 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 191,122 ล้านบาท หรือ 10.5% รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้ 116,130 ล้านบาท เพิ่ม 10%

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามคืบหน้า การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ผ่านมา โดยล่าสุดกระทรวงการคลังได้รายงานฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค. 64-มิ.ย. 2565) รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,878,346 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 130,689 ล้านบาท หรือ 7.5% ขณะที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งสิ้น 2,434,146 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 44,979 ล้านบาท หรือ 1.9% ซึ่งรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 621,075 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 587,915 ล้านบาท
 
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค. 2564 - มิ.ย. 2565) รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 1,857,524 ล้านบาท หรือ 6.4% และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ประมาณ 6.4% โดยการจัดเก็บรายได้รวมของ 3 กรมภาษี (กรมสรรพากร, กรมสรรพาสามิต และกรมศุลกากร) ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 2,004,834 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 191,122 ล้านบาท หรือ 10.5% สำหรับรัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 116,130 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 10,561 ล้านบาท หรือ 10% ส่วนหน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 109,710 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 14,495 ล้านบาท หรือ 11.7% 

สายชิลล์ต้องลอง ‘นายกฯ’ ชวนชิมกาแฟ “โรบัสต้า สะบ้าย้อย” หอม กลมกล่อม ไม่เปรี้ยว ผลงานรัฐบาลส่งเสริมอาชีพชาวจังหวัดชายแดนใต้ เตรียมดันขึ้น GI

เมื่อวันที่ 30 ก.ค.น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ เปิดเผยว่า  ได้ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อติดตามการขับเคลื่อนนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ปลูกกาแฟ เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้แก่ประชาชนเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกองกำลังทหารพัฒนา ได้ร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนากาแฟโรบัสต้า ที่ปัจจุบันถือเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง ที่เกษตรกรในพื้นที่นิยมปลูกกันมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเบตง อำเภอธารโต จังหวัดยะลา และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย ได้พบกับนายจีรวัฒน์ นุ่นศรี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานรักบ้านเกิด ตำบลเขาแดง อ. สะบ้าย้อย ซึ่งเล่าว่า ประชาชนที่นี่มีความสุขและมีความหวังจากโครงการส่งเสริมการปลูกกาแฟเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว ทุกคนยังรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเผยแพร่ความโดดเด่นของพื้นที่ 

‘บิ๊กตู่’ สั่งคมนาคม เร่งสอบ 2 อุบัติเหตุ คานสะพานกลับรถหล่น – นกแอร์ไถลตกรันเวย์

‘บิ๊กตู่’ สั่งคมนาคม สอบเหตุคานสะพานกลับรถหล่นทับรถยนต์-นกแอร์ไถลออกนอกรันเวย์

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบกรณีอุบัติเหตุคานสะพานลอยกลับรถ กม. 34 ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ใกล้กับโรงพยาบาลวิภาราม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร หล่นทับรถยนต์จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ โดยกำชับกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง วิเคราะห์หาสาเหตุเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และย้ำให้ใช้มาตรการความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด 

พร้อมทั้งให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยทุกพื้นที่ของโครงการปรับปรุงสะพาน หรือในบริเวณพื้นที่ที่มีการก่อสร้างเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ส่งผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้ทางและถนนนำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนขึ้นอีก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ พร้อมสั่งการให้มีการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุตามระเบียบกฎหมายที่มีอยู่

ภูมิธรรม ซัด!! ประยุทธ์ ถึงเวลามียางอาย คืนอำนาจกลับไปให้ประชาชน

23 สิงหาคม 2565 นี้ ‘ประยุทธ์’ จะครองอำนาจครบ 8 ปี จะได้รู้กันว่าใครสนับสนุนเป็นเนติบริกรคุ้มครองให้อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยไม่รู้จักอายและไม่สนใจว่าจะ ย่ำยี หลักการรัฐธรรมนูญซ้ำ ๆ ครั้งที่เท่าไหร่
...ถึงเวลา มียางอาย คืนอำนาจกลับไปให้ประชาชน

ภูมิธรรม เวชยชัย 
ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
2 สิงหาคม 2565

ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความหัวข้อ ‘สิงหาคม 2565 ประยุทธ์ ครองอำนาจที่ยึดมาจากประชาชน และเป็นนายกฯ ต่อเนื่อง ครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ ได้เวลา มียางอาย คืนอำนาจกลับไปให้ประชาชน’ ระบุว่า 8 ปี ภายใต้ระบอบการเมืองแบบ ‘ประยุทธ์’ ซึ่งใช้อำนาจที่ยึดมาจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งบริหารประเทศ 4 ปีกว่า แล้วจัดแจงแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับ ‘เผด็จการอุ้มสม’ โดยอาศัยฐานอำนาจของ 3 ป. ทั้งส่วนของกลุ่มทุน ทหาร ข้าราชการเกษียณ จัดการเลือกตั้งสร้างกลไก ส.ว. และ พรรคการเมืองบางส่วนที่ไร้อุดมการณ์กลับคำที่ให้ไว้กับประชาชน ยกมือยอมให้ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลที่ไม่เคยใส่ใจทุกข์ยากของประชาชนเข้ามาบริหารประเทศต่อเนื่อง

‘ประยุทธ์’ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่เคยฟังเสียงประชาชน ไม่เคยมีนโยบายที่สร้างความหวังให้ประชาชนและประเทศชาติ จะมีก็แต่มาตรการเจียดเงินมาจ่ายแจกทีละน้อย คิดแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แบบ ‘ปัดปัญหาออกพ้นตัว’ มากกว่าการดำเนินนโยบายที่ส่งผลเชิงโครงสร้าง และภาพรวมของการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะปัญหาเหลื่อมล้ำซึ่งส่งผลในระยะยาว

การครองอำนาจยาวนานถึง 8 ปีภายใต้ฐานอำนาจ ฐานทุนที่จับมือร่วมกัน เป็นการบริหารที่สร้างผลประโยชน์ผูกขาดอย่างมหาศาลให้ประยุทธ์และพวกพ้อง เป็นการบริหารประเทศโดยผู้นำที่ขาดคุณสมบัติทุกประการ ทั้งความรู้ วิสัยทัศน์ มารยาท วุฒิภาวะทางอารมณ์ และความชอบธรรม

8 ปีภายใต้การบริหารของ ‘ประยุทธ์’ เราได้เห็นการทำสิ่งที่ผิดให้กลายเป็นถูก แบบหน้าไม่อาย ทำลายหลักนิติธรรม นิติรัฐ เพียงเพื่อให้ตัวเองและพวก ยังคงอยู่ในอำนาจต่อไปได้ พร้อมกับสกัดกั้นกลุ่มคนที่มีความเห็นแตกต่างในทุกรูปแบบ

วันนี้เราจึงได้เห็น วิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อประชาชนและหลักการประชาธิปไตย กลายเป็นรัฐธรรมนูญที่ซ่อนเร้นอำนาจและผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ ซึ่ง ‘ประยุทธ์และพวก’ ร่วมกันออกแบบ แก้ไข เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญตามอำเภอใจ โดยไม่คำนึงถึงหลักการใด ๆ ทั้งที่รัฐธรรมนูญในประเทศประชาธิปไตยทั่วไปเป็นกฎหมายสูงสุด ใช้เป็นหลักในการปกครองของทุกประเทศ โดยให้เกียรติให้คุณค่ากับประชาชน เห็นประชาชนเป็นใหญ่ และต้องออกแบบให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้นรัฐธรรมนูญจึงเป็นเสมือนหลักยึด เพื่อให้เกิดระบบการเมืองที่สร้างสมดุลและคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพตลอดจนผลประโยชน์ของทุกคนในสังคม

แต่…สำหรับรัฐธรรมนูญประเทศไทย ภายใต้การนำของประยุทธ จันทร์โอชา ที่ยกมือยิ้มร่ายอมรับว่าเป็นผู้นำรัฐประหาร อย่างหน้าชื่นตาบาน นอกจากจะยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ยังสร้างรัฐธรรมนูญใหม่ที่จะควบรวมครอบอำนาจกลับมาไว้ที่ตนเองทั้งหมด ไม่เคยตระหนักรู้ว่าประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกขมขื่นแค่ไหน ไม่เคยรู้ว่าสังคมโลกมองผู้นำประเทศไทยอย่างไร เพราะผู้นำคนนี้ ไร้สำนึกรู้ถึงความน่าละอายของการทำรัฐประหาร ที่เป็นต้นเหตุฉุดรั้งประเทศและคุณภาพชีวิตประชาชนทุกกลุ่ม ให้ตกต่ำถึงขีดสุด

ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันนี้ จึงไม่ได้ทำเพราะผลประโยชน์ประชาชน แต่ใช้อำนาจ สั่งการแก้ไขเพื่อให้ตนและพวกพ้องอยู่ในอำนาจได้ยาวนานที่สุด ทำให้รัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ขาดความน่าเชื่อถือ ไร้หลักการประชาธิปไตย

….ประเทศไทย รัฐบาลไทย รัฐสภาไทย เราเดินมาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร ?

คำตอบ คือ เพราะ 8 ปีของประยุทธ์นั้นกล้ากระทำการทุกเรื่องที่ผิดหลักการ ผิดกติกาได้เพราะถือดีว่า ‘พวกตนยึดกุมและควบรวมอำนาจการปกครองในประเทศ’ ไว้เพียงกลุ่มเดียว …ดังนั้น อยากทำอะไรก็ทำได้ไม่เกรงกลัวใคร เนื่องจากมีกลไก ส.ว. 250 คน ซึ่งล้วนเป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาและพวกพ้อง กำหนดให้มีอำนาจล้นพ้น สามารถ ควบคุมกติกา กำหนดตัวนายกรัฐมนตรี และทำทุกอย่างตามใบสั่ง โดยไม่ได้ตระหนักและคำนึงถึงเกียรติศักดิ์ศรีของตำแหน่ง ส.ว. แต่ทำให้กลายสภาพจากที่ปรึกษาในสภาฯ มาเป็นลิ่วล้อหุ่นยนต์ ยกมือเพื่ออุ้ม ‘ประยุทธ์’ คนเดียว

‘บิ๊กตู่’ มั่นใจปีนี้ เศรษฐกิจไทยโต 3.3% ลั่นปีหน้าดีขึ้นอีกจากส่งออก -นทท.ทะลัก

‘ประยุทธ์’ ชี้ ศก.ไทยโตต่อเนื่อง 3.3% คาดปีหน้าแตะ 4.2% ผลจากเอกชนฟื้นตัว - นทท.เข้าปท.กว่า 6 ล้านคน ด้านส่งออกยังมีข่าวดี ขยายตัว 7.9% ขอเชื่อมั่นเสถียรภาพการเงินประเทศ เตรียมกดอัตราเงินเฟ้อจาก 6.2% เหลือ 2.5% ภายในปี 2566 
 

เมื่อเวลา 12.20 น.วันที่ 2 ส.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า วันนี้ครม. รับทราบภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2565 โดยตนแจ้งครม. ทราบว่ามีหลายประเด็นมีแนวโน้มไปในทางที่ดี ซึ่งต้องแยกจากกันระหว่างเศรษฐกิจระดับมหภาคกับเศรษฐกิจระดับจุลภาค และประชาชนข้างล่างก็อีกเรื่องที่เราต้องแก้ปัญหาตรงนั้น แต่นี่คือภาพใหญ่ของประเทศที่เทียบเคียงกับทุกประเทศในโลก สรุปว่ามีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี แต่ยังมีประเด็นที่ยังต้องติดตาม โดยเฉพาะสถานการณ์ด้านการเงิน การคลังภายนอกประเทศเพื่อให้ทุกภาคส่วนใช้เป็นข้อมูลสำหรับประกอบกิจการและเตรียมการรับกับอนาคตที่จะมาถึง เนื่องจากเศรษฐกิจนั้นผูกติดกันหมดทั้งโลก 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องร้อยละ 3.3 ในปีนี้ และคาดการณ์จะเพิ่มเป็นร้อย 4.2 ในปีหน้า จากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน และการซื้อของกลุ่มผู้มีรายได้สูงในประเทศในครึ่งปีหลัง รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ประมาณการอยู่ที่ 6 ล้านคน จากเดิมที่ประเมินไว้ 5.6 ล้านคน โดยเฉพาะเดือนนี้เพิ่มขึ้นถึง 2 ล้านคน ถือเป็นการเพิ่มขึ้นจำนวนมากพอสมควรจากมาตรการเปิดประเทศของไทย และต่างประเทศที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ฉะนั้นในปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 19 ล้านคน และภาคเศรษฐกิจก็คาดว่าจะมีการระดมทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องให้สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ 

ทั้งนี้ เราต้องเร่งพิจารณาเป็นกรณีเร่งด่วนคือเรื่องค่าเงินบาท ที่มีผลต่อการนำเข้าและส่งออกซึ่งด้านการส่งออกสินค้าไทยถือเป็นข่าวดีที่แนวโน้มขยายตัว ร้อยละ 7.9 จากที่เดิมที่ประมาณการไว้ร้อยละ 7.0 และในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องอีก แต่ก็มีปัจจัยที่ทำการเกิดความผันแปรของผู้ค้าโดยเฉพาะกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก เช่น จีน โดยปัจจัยหนึ่งคืออัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก จากผลของราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผ่านไปยังต้นทุนสินค้าต่าง ๆ โดยอัตราเงินเฟ้อของไทยปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 6.2 แต่คาดว่าจะลดงเหลือร้อย 2.5 ในปี 2566  ขอให้ประชาชน และภาคธุรกิจเชื่อมั่นเสถียรภาพการเงินของไทยยังมันคงและแข็งแกร่งจากการดำเนินนโยบายการเงินการคลังที่รอบคอบและมีวินัยของเรา และเป็นที่เชื่อมั่นของนักวิเคราะห์ นักลงทุนต่างประเทศจากความสนใจในการเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเรื่องการลงทุนมีหลายอย่าง หลายประเทศ หลายโครงการ ที่ตนยังไม่สามารถชี้แจงได้เนื่องจากอยู่ช่วงการเจรจาร่วมกัน ทั้งโครงการขนาดใหญ่ ขนาดเล็กจำนวนมากพอสมควร 

‘บิ๊กตู่’ เตรียมลงพื้นที่กาญจนบุรี 4 ส.ค.นี้ ติดตามแก้ปัญหาน้ำแล้ง – ดูแผนฟื้นฟูท่องเที่ยว

‘บิ๊กตู่’ เตรียมลงพื้นที่กาญจนบุรี 4 ส.ค.นี้ ติตตามข้อสั่งการแก้ปัญหาน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค-เกษตร และการปรับภูมิทัศน์สองฝั่งแม่น้ำแคว แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชาวกาญจน์ พร้อมรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่        

เมื่อวันที่ 3 ส.ค.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในวันที่ 4 สิงหาคม 2565 เพื่อติตตามการดำเนินงานตามข้อสั่งการ และรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ โดยมีกำหนดการ ดังนี้ โดยช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะติดตามการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็น พื้นที่ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำและมีภัยแล้งเป็นประจำทุกปี เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบเชิงเขา และเป็นพื้นที่เขตเงาฝน ไม่มีแม่น้ำไหลผ่าน รวมทั้งขาดแคลนระบบชลประทาน ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับ “โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง”15 โครงการ ครอบคลุม 11 จังหวัด ไว้เป็น “โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรจากภาวะวิกฤตภัยแล้ง 

‘บิ๊กตู่’ ลงพื้นที่เมืองกาญจน์ฯ ติดตามแก้น้ำแล้ง หลังรัฐบาลอนุมัติงบ 136 ล้าน ช่วยปชช.มีน้ำใช้

‘บิ๊กตู่’ ควง ‘บิ๊กป๊อก’ พร้อมคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่เมืองกาญจน์ ฯ ตรวจราชการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ - แผนฟื้นการท่องเที่ยวหลังโควิดคลายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร

เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 4 ส.ค.ที่สนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม.2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกเดินทางไปยังจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอห้วยกระเจา ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตรวจราชการที่จังหวัดกาญจนบุรี  โดยจุดแรกนายกรัฐมนตรี ติดตามแก้ไขปัญหาการขนาดแคลนน้ำ เพื่อการอุปโภคและการเกษตร ณ โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านทุ่งคูน หมู่ที่ 19 ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา

ทั้งนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน ทั้งหมด 136.264 ล้านบาท เพื่อจะก่อสร้างระบบกระจายน้ำ โดยวางท่อเมนเหล็กเพื่อส่งต่อน้ำบาดาลไปยังพื้นที่ ระยะทาง 11.835 กิโลเมตร ให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ผลปรากฎสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ 4,911 คน 1,816 ครัวเรือน มีพื้นที่รับประโยชน์ 7,264 ไร่ และคาดว่าจะช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 120,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี 

จากนั้นนายกฯ และคณะเดินทางไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน พร้อมกับไปตรวจติดตามความคืบหน้าการจัดระเบียบเรือนแพและปรับปรุงภูมิทัศน์ ท่าเทียบเรือขุนแผน บริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำแคว ณ Sky Walk ริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ที่ได้มีการปรับภูมิทัศน์เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19

‘นายกฯ’ ปลื้มสัญญาณบวกท่องเที่ยวไทยแรง หลังต่างชาติค้นหาที่พัก Airbnb ในไทยพุ่ง 180%

‘นายกฯ’ พอใจตัวเลขนักเดินทางต่างชาติค้นหาที่พัก Airbnb ในไทยเพิ่มขึ้น 180% ผลจากความเชื่อมั่นในการผ่อนคลายมาตรการของรัฐ ผลักดันการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง พร้อมวางเป้าหมายท่องเที่ยว 3 ซีนาริโอ ปี 2566

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ Airbnb ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจองที่พักระดับโลก พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติมีการค้นหาที่พักเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นกว่า 180% เมื่อเปรียบเทียบระหว่างไตรมาส 1 ของปี 2564 กับปี 2565 อันเป็นผลสะท้อนสอดรับกับการที่รัฐบาลผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ ด้านการเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรียินดีอย่างยิ่งที่ประเทศไทยยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมทั้งชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว ผ่านการประกาศ “ปีส่งเสริมท่องเที่ยวไทย 2565-2566” หรือ Visit Thailand Year 2022-2023 เพื่อกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยมากขึ้น 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบจากการเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในการทำงานทางไกลและมีจำนวนของ Digital Nomad เพิ่มมากขึ้น ทำให้การเข้าพักระยะยาวเพิ่มสูงขึ้น (การเข้าพัก 28 วันหรือมากกว่า) โดยจากข้อมูลล่าสุดของ Airbnb 5 จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา (ชลบุรี) เชียงใหม่ และเกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) 

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวมีความสนใจอยากออกไปสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ มากขึ้น อาทิ เกาะลันตา (กระบี่) ตราด ปาย (แม่ฮ่องสอน) และชะอำ (เพชรบุรี) โดยนักท่องเที่ยวที่มีการค้นหาเพื่อเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากที่สุด ได้แก่ นักท่องท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอรมนี ตามลำดับ 

นายธนกร กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยแล้วกว่า 2.7 ล้านคน โดยคาดหมายว่าตลอดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ตามเป้าที่ตั้งไว้ และสำหรับในปี 2566 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วางเป้าหมายพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่หมุดหมายการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นคุณค่าและความยั่งยืน มีรายได้จากนักท่องเที่ยวทั้งเที่ยวในประเทศและต่างชาติเที่ยวไทยอยู่ที่ระหว่าง 1.25-2.38 ล้านล้านบาท ผ่านการวางเป้าหมายเชิงเศรษฐกิจ 3 ซีนาริโอ ได้แก่

‘ลุงตู่’ ปลื้มคนเมืองกาญจน์ต้อนรับอบอุ่น ลั่น จะกระตุ้นศก. สร้างรายได้ให้ปชช.อย่างเต็มที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha’ ภายหลังการลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดกาญจนบุรี โดยระบุว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ

อย่างที่เราทราบดีว่าในช่วงนี้เป็นฤดูฝน และเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้อาจมีน้ำหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่า และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งผมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมในการความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตามแผนเผชิญเหตุที่รัฐบาลได้ให้การอนุมัติงบประมาณไปแล้ว โดยรัฐบาลได้เตรียม 13 มาตรการ ป้องกันและรับมือกับผลกระทบจากอุทกภัยในแต่ละพื้นที่ไว้ล่วงหน้าแล้ว ขอให้ทุกครัวเรือนได้ติดตามการแจ้งเตือนภัยจากทางราชการและผู้นำในชุมชนอย่างใกล้ชิดนะครับ

อย่างไรก็ตาม ในอีกมุมหนึ่ง ฤดูฝนก็เป็นโอกาสสำหรับเกษตรกรเช่นกัน ผมจึงได้สั่งการให้มีการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค สนับสนุนภาคการผลิต ทั้งเกษตรกรรม-อุตสาหกรรม ตลอดจนการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งด้วย เช่น การวางแผนเพาะปลูกข้าวนาปี ทุกภาคของประเทศ 59.42 ล้านไร่ ทั้งในเขตชลประทาน 16.83 ล้านไร่ และนอกเขตชลประทาน 42.59 ล้านไร่ ที่จะต้องได้รับน้ำอย่างทั่วถึงและเพียงพอ 

นอกจากการใช้ประโยชน์จากน้ำฝนแล้ว รัฐบาลยังได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุน จากน้ำบาดาล โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเงาฝน ที่ไม่มีแม่น้ำไหลผ่าน และขาดแคลนระบบชลประทาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และสนับสนุนการประกอบอาชีพ สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในการนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกรชาวไทยเป็นล้นพ้น ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับ “โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง” 15 โครงการใน 11 จังหวัด ไว้เป็น “โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ตามพระราชปณิธาน "สืบสาน รักษา ต่อยอด" อย่างแท้จริง

และในวันนี้เอง (4 ส.ค. 65) ผมได้ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อติดตามผลการดำเนินงานโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ฯ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านทุ่งคูณ หมู่ที่ 19 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจาจ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็น 1 ใน 8 โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ใน จ.กาญจนบุรี โดยเมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ตามแผน จะมีปริมาณน้ำบาดาลต้นทุน รวมทั้งสิ้น 7.37 ล้าน ลบ.ม./ปี มีผู้ที่ได้รับประโยชน์รวม 13,254 ครัวเรือน  ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ 3 โครงการ และได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำบาดาล เพื่อรับผิดชอบการบริหารจัดการระบบประปาบาดาล ในรูปแบบที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมร่วมกันต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างคุ้มค่าสูงสุด 

‘บิ๊กตู่’ สั่งจนท. ตรวจสอบสถานบันเทิง หลังไฟไหม้ผับดังชลบุรีทำคนตายเพียบ

‘บิ๊กตู่’ ให้เจ้าหน้าที่ ประสานเจ้าของเม้าส์เทน บีผับ ช่วยเหลือเยียวยา ผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ จี้ ส่วนราชการในพื้นที่สำรวจสถานบันเทิงให้มีความปลอดภัย หวั่นเกิดเหตุซ้ำ

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานกรณีเหตุเพลิงไหม้ เม้าส์เทน บีผับ ( MOUNTAIN B ) ริมถนนสาย สุขุมวิท  ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบว่ามีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนหลายราย นายกรัฐมนตรีกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งตรวจสอบหาสาเหตุ มอบหมายให้ส่วนราชการเป็นคนกลางประสานกับเจ้าของผับเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top