Saturday, 27 April 2024
ชูวิทย์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รับข้อมูลชูวิทย์ หลังพบต่อวีซ่าเกษียณที่ชลบุรี แต่เป็นบ้านร้างมีสุนัข 2 ตัว พร้อมขยายจับสมาคมจีนเถื่อน

วันนี้ (20 ก.พ.66) เวลา 9.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมายัง สน.นางเลิ้ง เพื่อร่วมรับข้อมูลร้องทุกข์จากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ให้ดำเนินคดีกับ นายหยูซินฉี ประธานสมาคมจีนจื้อกงแห่งอาเชียน และสมาคมชาวจีนอื่นๆ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังพบว่านายหยู ได้ตั้งสมาคมเถื่อนและมีการแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อหาผลประโยชน์

จากข้อมูลของนายชูวิทย์พบว่า นายหยูได้มีการตั้งสมาคมจีนจื้อกงแห่งอาเซียน โดยมิได้มีการจดแจ้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และยังมีพฤติการณ์ในการแอบอ้างตนว่ามีความสนิทสนมกับข้าราชการทหาร ตำรวจ นักการเมือง รวมไปถึงสถาบันของประเทศ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเอง ในสายตาของคนจีน และใช้โอกาสดังกล่าวในการแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเอง นอกจากนี้จากการตรวจสอบการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรพบว่า นายหยูได้รับการอนุญาตให้ต่อวีซ่าในลักษณะเกษียณให้อยู่ที่ อ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วจะพบว่า สถานที่ที่แจ้งที่อยู่ไว้เป็นบ้านร้าง ภายในบ้านมีสุนัขอยู่ 2 ตัว แต่ตัวนายหยูอาศัยอยู่จริงที่กรุงเทพฯ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ นายชูวิทย์ได้เคยมอบให้นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล นำไปอภิปรายในสภามาแล้ว

'ชูวิทย์' เร่งเดินหน้าปิดเกม 'สารวัตรซัว' แฉ!! ไม่เคยทำงาน แต่เบิกเบี้ยเลี้ยง-โอที

(22 ก.พ. 66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจกลางคืน ซึ่งเป็นผู้ออกมาเปิดโปงเกี่ยวกับ 'ทุนจีนสีเทา' และเว็บพนันออนไลน์จนแตกกระเจิง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์' มีเนื้อหาดังนี้...

แนวรับพนันออนไลน์

หลังจากผมจัดลำดับประเภท 'พนันออนไลน์' โดยจำแนกเงินทุนหมุนเวียนของแต่ละเจ้า เกิดอาการวงแตกกระเจิงคนละทิศคนละทาง บรรดาโปรแกรมเมอร์ไปพักร้อนต่างประเทศกันเป็นแถว ต้องขออภัย ผมไม่ได้ 'ตีกิน' ระดับผมไม่จำเป็นต้องพึ่งเงินพนันยังชีพ

แต่หากใครจะกิน 'ตามน้ำ' ผมก็รู้ว่ามันเป็น 'ธรรมเนียม' ไทย ๆ จะให้จัดการทีเดียวคงยาก เช่น ของไอ้ซัว ทำทั้งเว็บพนัน สล็อต คอลเซ็นเตอร์ มีในเครือข่ายประมาณ 300 เว็บ เอากันง่าย ๆ จ่ายเว็บละ 30,000-50,000 บาท แล้วแต่เว็บไหนเป็นที่นิยม เดือนนึงตกประมาณ 10 กว่าล้าน

ค่าธรรมเนียมนี้จ่ายถึงใคร แผนกใด แม้ไม่มีใบกำกับภาษีมาแสดง แต่รู้อยู่ว่าแบ่งกันอย่างไร ใครรับ? ซัวดูแลทุกเดือน จะยอมละชามข้าวเดือนละ 10 ล้านไหวหรือ?

“เดี๋ยวชูวิทย์ก็หมดแรงไปเอง”

นี่ไม่ใช่คำพูดที่ผมไปเสกสรรปั้นแต่ง แต่เป็นคำพูดของซัวส่งไลน์ผ่านคนใกล้ชิด ได้เห็นได้อ่านกับตา รู้ซึ้งว่าเกมนี้ไม่ธรรมดา แม้ผมจะเข้าวัยเลยเกษียณ แต่ยังมีเขี้ยวเล็บ แต่ก่อนสังคมไม่เคยได้ยินชื่อ 'สารวัตรซัว' ผมจี้เอามันมาขึ้นเขียงว่าเป็น 'นายตำรวจ' และเป็น 'นายบ่อน' ด้วย ควบสองตำแหน่งอย่างนี้ไม่ไหว จนท่าน ผบ.ตร. เด่นเห็นด้วยกับผม จัดการฟันให้ออกจากราชการทันที

ผมเพิ่งมารู้เอาทีหลังว่า 'ซัว' ไม่เคยไปทำงานตำรวจ แต่ยังเสือกเบิกเบี้ยเลี้ยงโอทีอีกต่างหาก จะไปยกให้ใครไม่ทราบได้ แต่เป็นภาษีของประชาชนอย่างผมแน่นอน ที่ผมพูดเพราะไม่มีใครพูด

‘อนุทิน’ เมิน ‘ชูวิทย์’ จ่อแฉพรรคร่วม เหน็บ!! คนชี้นิ้วใส่คนอื่น อีก 4 นิ้วหันเข้าตัว

‘อนุทิน’ เมิน ‘ชูวิทย์’ จ่อแฉพรรคร่วม เหน็บ คนชี้นิ้วใส่คนอื่น อีก 4 นิ้วหันเข้าตัว ย้ำ สัมพันธ์พรรคร่วมไร้ปัญหา ขอแค่หัวไม่ทะเลาะกันพอ

(23 ก.พ.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นหนังสือต่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้ตรวจสอบการทุจริตหลายโครงการของพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ของกระทรวงคมนาคม ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภท.ว่า ไม่กังวล ที่นายชูวิทย์ออกมาแฉ นายศักดิ์สยามได้ชี้แจงไปแล้ว การจะกล่าวหาใครจะต้องมีหลักฐานให้ชัดเจน การคาดคะเนหรือวิเคราะห์ ไม่สามารถใช้ในกระบวนการยุติธรรมได้ ต้องมีหลักฐาน ถ้ามีหลักฐานก็ฟาดไม่เลี้ยง 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกมาแฉในช่วงนี้ที่ใกล้เลือกตั้ง จะมีผลกระทบในการหาเสียงของพรรคหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เชื่อว่าประชาชนรับทราบกันดี โดยเฉพาะช่วงใกล้เลือกตั้งตั้ง จะมีการสาดโคลนใส่กันได้ และที่ผ่านมาก็เกิดขึ้นตลอด เป็นปกติ แต่คนสาดต้องระมัดระวัง โดยจะพูดเป็นตัวย่อ หรือพูดอ้อมไปมา และเรื่องเหล่านี้หาสาระไม่ได้

‘เสี่ยหนู’ ลั่น!! ไม่สนใจ ‘ชูวิทย์’ ตามบี้ ‘ภูมิใจไทย’ ชี้ มีคนหนุนหลัง เผย ไม่หวั่น หากร่วมงานในอนาคต

(27 ก.พ. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จองกฐินพรรคภูมิใจไทย โดยจะติดตามการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข ว่า ยังไม่ทราบ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูดหรือทำอะไร เราต้องรับฟัง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินหรือไม่ว่า ทำไมนายชูวิทย์ ถึงพุ่งเป้ามาที่พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่ได้ประเมิน เราก็ทํางานของเรา ทุกคนมีสิทธิที่จะทําอะไรตามที่รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายเปิดทางให้

เมื่อถามว่า มองว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งเหมือนกัน แต่ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อคะแนนเสียงของพรรค ภท. เพราะเรามีนโยบายที่ชัดเจน และผลงานชัดเจน ไม่เคยไปลอกเลียนผลงานของคนอื่นมา เรามีผลงานเป็นของตัวเอง ทำอะไรเรารู้ ประชาชนก็รู้

เมื่อถามว่า พอรู้หรือไม่ว่ากลุ่มการเมืองที่อยู่เบื้องหลังนายชูวิทย์คือ กลุ่มใด นายอนุทิน กล่าวว่า ทราบหมดแหละ แต่ทําไมจะต้องมาพูดกัน เราก็ทำงานของเราไป และเรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น เพียงแต่เราไม่ทำแบบนี้

เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ ว่าทำไมถึงมารับเรื่องจากนายชูวิทย์ด้วยตัวเอง นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องคุย คุยไปก็ไม่มีประโยชน์ พอเลือกตั้งเสร็จใครมี ส.ส.เท่าไหร่ ถึงจะเป็นตัวชี้ว่าใครจะต้องคุยยังไงกับใคร มีเงื่อนไขอะไร ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์ แต่ละคนก็ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อถ้าได้รับความไว้วางใจจากประชาชน พรรค ภท.คิดอยู่แค่นี้ ใครจะทำอะไรก็แล้วแต่

เมื่อถามว่า บรรยากาศเป็นแบบนี้จะมองหน้ากันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้หรือ นายอนุทินกล่าวว่า ก็มองกันอีกแค่ไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ ไม่เป็นไร ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ ครม.ต้องแยกออกจากัน และไม่ได้อึดอัดอะไร เพราะเราทํางาน การมาประชุม ครม.คือการทำงาน ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง ถ้าไม่ทำงาน คนก็หาว่าละเลยละเว้น

เมื่อถามว่า จะไม่ส่งผลต่อการร่วมรัฐบาลในอนาคตใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการกระทำของแต่ละพรรค พูดถึงก็ดีเหมือนกัน ก่อนเลือกตั้งคนจะได้ไปทำงานอย่างเต็มที่ ปลดแอกปลดพันธนาการทั้งหลาย ทําให้เราอยากเป็นตัวของเราเองอย่างเต็มที่ จะได้คิดอะไรของเราเอง โดยไม่ต้องมีความเกรงอกเกรงใจหรือวิตกกังวลอะไร เพราะบางที เราต้องนึกถึงตัวเราเอง มัวแต่ไปคิดถึงคนอื่นมาก ๆ ก็จะเป็นสิ่งที่ไม่ดีกับตัวเรา

ไม่ยุ่งกับจิ๊กโก๋!! ‘เสี่ยหนู’ เมิน ‘ชูวิทย์’ ดิสเครดิต-ขู่เผารังหนู มั่นใจ พรรคมีผลงานชัดเจน เชื่อ ปชช.รับรู้

(1 มี.ค. 66) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่รณรงค์เลือกตั้งเพื่อชิงเก้าอี้ในกรุงเทพมหานคร ว่า เราไม่ได้บอกว่าจะไปชิงเก้าอี้กับใคร แต่เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่าพรรค ภท.สามารถทำนโยบายได้สำเร็จ และเป็นประโยชน์กับประชาชน ถ้าประชาชนเห็นแล้วพวกท่านก็จะเลือกตนและพรรค ภท.

เมื่อถามถึงการลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร เดิมที พรรค ภท.เกิดประหม่ามาก ตอนนี้มีความมั่นใจขึ้นบ้างหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เวลาเราเจอคนเยอะ ๆ เราก็ประหม่าทุกครั้ง แต่การทำงานของเราในช่วงนี้ต้องรณรงค์หาเสียง ตนในฐานะหัวหน้าพรรค จึงมอบนโยบายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว แต่ถ้ามีกรณีเร่งด่วนก็พร้อมทำงานเต็มที่

“เรื่องการเมืองปล่อยผมไปตามยถากรรม” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามถึงพื้นที่ที่พรรค ภท.จะเจาะเป็นพิเศษ นายอนุทินกล่าวว่า เรานำเสนอนโยบายผ่านผู้แทนราษฎร งานด้านการเมืองสำคัญหมด เพราะประชาชนอยู่ทุกอำเภอ ทุกที่มีโอกาสหมด พรรค ภท.เราเปิดตัวเมื่อสิบปีที่แล้ว ก็มีสมาชิกเข้ามาเพิ่ม และตนเชื่อว่างานของตนใน สธ. ก็สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้

เมื่อถามถึงนโยบายที่จะเปิดตัวเพิ่ม นายอนุทินกล่าวว่า เราเปิดไปหมดแล้วตั้งแต่ 3 เดือนก่อน ไม่มีเพิ่มมากกว่านี้แล้ว เท่าที่มีอยู่ก็ขอให้ได้ทำอย่างเต็มที่ ในการทำประโยชน์ให้ประชาชนและบ้านเมือง

ถามย้ำว่า มีความมั่นใจว่านโยบายตอนนี้จะทำให้ได้เป็นรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า น่าจะโอเค

เมินใส่แม้โดนสกัดขา  ‘ศุภชัย’ โต้ ‘ชูวิทย์’ เอาข้อมูลเก่า-เท็จ ดิสเครดิต ‘ภูมิใจไทย’ ท้าให้ตรวจสอบ พร้อมเดินหน้าต่อไม่ขอขัดแย้งใคร

ไร้ปี่ไร้ขลุ่ย! ‘ศุภชัย’ โต้ ‘ชูวิทย์’ เอาข้อมูลเก่า-เท็จมาเจาะยาง ‘ภูมิใจไทย’ ขอสังคมตัดสินปม ‘รับงาน’ พรรคใหญ่มาตัดคะแนนนิยมหรือไม่ ยันมุ่งนโยบาย ไม่ขัดแย้งใคร 

1 มีนาคม 2566 นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงข้อพาดพิงของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาโจมตีพรรคภูมิใจไทยเรื่องเงินทอนรถไฟฟ้าสายสีส้มและนโยบายกัญชาเสรีว่า ทั้ง 2 เรื่องเป็นเรื่องเก่าที่พรรคเคยชี้แจงสร้างความกระจ่างทั้งในเวทีสภาและนอกสภามาแล้วหลายครั้ง ไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นอย่างที่พยายามประโคมข่าวกัน โดยเฉพาะกรณีเรื่องรถไฟสายสีส้ม ตนได้อ่านข้อมูลเก่าของเอกชนที่เคยร้องเรียนไว้ทั้งหมด ไม่ได้มีเรื่องเงินทอนแต่อย่างใด พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดนายชูวิทย์ถึงเพิ่งมาสนใจและพยายามกระพือเรื่องเก่าที่พรรคเคยชี้แจงไปแล้วหลายครั้งให้เป็นประเด็นอีก

‘เฮียชู’ ดูไว้!! ‘อนุทิน’ โพสต์เหน็บ ‘ชูวิทย์’ นี่คือวิธีแสดงความรักคน ‘ภูมิใจไทย’

(2 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Anutin Charnvirakul’ เป็นภาพของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กำลังยกเท้าในลักษณะเตะหยอกล้อกับนายอนุทิน ขณะที่อีกภาพ นายอนุทิน กำลังใช้เท้าเตะหยอกล้อ นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.กาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย พร้อมระบุว่า…

“วิธีการแสดงออกถึงความรักกันของคนในพรรคภูมิใจไทย”

เฉไฉไปเรื่อย!! ‘ศุภชัย’ ฉะ ‘ชูวิทย์’ ลั่น!! ทำตัวเหมือน ‘เด็กเลี้ยงแกะ’ หลังไร้เอกสารโอน 3 หมื่นล้าน ไปสิงคโปร์ ปมรถไฟฟ้าสีส้ม

‘ศุภชัย’ ซัด ‘ชูวิทย์’ อย่าทำตัวเป็น ‘เด็กเลี้ยงแกะ’ หลังผ่านมาจะ 2 สัปดาห์ ยังไม่ปรากฏเอกสารโอนเงินไปธนาคาร สิงคโปร์ กรณีรถไฟฟ้าสีส้ม

(11 มี.ค.66)  นายศุภชัย ใจสมุทร  ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวทวงถามนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่บอกว่ามีเอกสารการโอนเงิน หรือบอกว่ามีเงินทอน 3 หมื่นล้าน โอนจากประเทศไทยไปสิงคโปร์ ธนาคาร HSBC ว่าสิ่งที่นายชูวิทย์ ออกมาพูดไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องเก่า ขณะนี้เป็นเวลานานแล้ว หากมีเอกสารจริง ควรจะได้นำออกมาให้สาธารณชนได้รับทราบ แต่พอกระทรวงคมนาคมถามไปว่าใครเป็นคนโอน ใครเป็นคนรับโอน ก็เฉไฉไปเรื่อย ๆ และไม่ยอมตอบ

‘ศุภชัย’ เดือด!! ร้อง กกต. สอบ ‘ชูวิทย์’ ชี้!! ใช้สิทธิไม่สุจริต - รับงานโจมตี ภท.

(16 มี.ค. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรค แถลงกรณีที่มีบุคคลโจมตีกล่าวหารัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีการทำเป็นขบวนการเพื่อปลุกปั่นสร้างความเกลียดชังให้พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีผลต่อคะแนนนิยมว่า กรณีดังกล่าวพรรคขอยืนยันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะที่รัฐมนตรีของพรรคได้ปฏิบัติหน้าที่มีกระบวนการทางนิติบัญญัติในการตรวจสอบ และมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ อาทิ การร้องกล่าวหานายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม แต่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามเกินกว่าการตรวจสอบทั่วไป แต่เป็นการสร้างระบบศาลเตี้ยเข้ามาเพื่อทำการปลุกปั่นสังคมให้เกิดความเข้าใจผิด โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงเรื่องความผิดถูกที่อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ทั้งนี้ พรรคได้ปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯ หรือในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลในกระทรวงต่างๆ เราได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท ไม่มีการโกงบ้านเมืองอย่างที่มีคนออกมาพยายามกล่าวหา

ทั้งนี้ เราจึงต้องออกมายืนยันว่า การกล่าวหานั้นเป็นการกล่าวร้ายพรรคโดยมีวาระซ่อนเร้นอยู่ ที่ผ่านมาเราพยายามปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งแน่นอนว่าการดำเนินการของพรรคอาจกระทบคนบางคน บางกลุ่ม หรือนิติบุคคลบางแห่ง แต่เรายืนหยัดเสมอมาว่าเราได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งเป็นการปฏิบัติทุกอย่างภายใต้กฎหมาย ดังนั้น เรื่องถูกผิดต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย

“แต่วันนี้กรณีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ที่มีการประกาศอย่างชัดเจนว่ารับงานมาเพื่อมุ่งร้ายทำลายพรรคภูมิใจไทย กรณีนี้เป็นการใช้สิทธิที่ไม่สุจริตในฐานะประชาชนที่จะติชมด้วยความเป็นธรรม แต่มีเจตนาซ่อนเร้น ซึ่งเป็นการใช้เสรีภาพของประชาชนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการพูดอาฆาตมาดร้าย และมีการแสดงออกตามพื้นที่ต่างๆ” นายศุภชัย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นถามว่ารับงานจากใคร ก็มีข่าวปรากฏออกมาค่อนข้างชัด ว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่เสียประโยชน์ในสิ่งที่พรรคออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น ในวันนี้พรรคจะดำเนินการกับบุคคลใดก็ตามที่เข้ามากล่าวร้าย บิดเบือน พรรคภูมิใจไทยในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง เราเชื่อมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรม จะไม่ยอมให้กระบวนการที่ทำเหมือนเป็นศาลเตี้ยเข้ามาจนทำให้กระบวนการทางกฎหมายสั่นคลอน วันนี้นายชูวิทย์หรือใครก็ตามที่นำเรื่องที่นายชูวิทย์แถลง ไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง มุ่งร้าย บิดเบือนพรรคภูมิใจไทย เราจะดำเนินการทุกคดีกับใครก็ตามที่ใส่ร้ายพรรค ทำให้พรรคเสื่อมเสีย โดยพรรคยึดหลักการเคารพกฎหมาย ฉะนั้น เมื่อมีบุคคลที่ไม่เคารพกฎหมายมาทำแบบนี้ เราก็จำเป็นต้องปกป้องศักดิ์ศรี และคะแนนนิยมของพรรค โดยจะดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรมทุกเรื่องกับทุกฝ่ายกับบุคคลทุกคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยว

นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า นี่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พรรคจะดำเนินคดีเพื่อปกป้องสิทธิของเรา โดยยึดหลักบ้านเมืองที่ต้องมีขื่อมีแป เราไม่ได้ปิดปากนายชูวิทย์ เพราะถ้าจะใช้เสรีภาพติชมเราไม่มีปัญหา แต่ถ้าใส่ร้ายป้ายสีถือว่าเป็นการล่วงละเมิดต่อพรรค วันนี้ (16 มี.ค.) พรรคจะยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาตรา 22 ระบุว่า กกต.ต้องมีหน้าที่ในการกำกับดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม รวมถึงพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 ระบุว่า ห้ามไม่ให้ผู้ใดใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น ซึ่งมีผลทำให้ประชาชนมีความเข้าใจหลงผิดในคะแนนนิยม ซึ่งทั้งหมดเป็นโทษทางอาญา บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของนายชูวิทย์จะมีการดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เช่น พรรคจะมีการดำเนินคดีโดยหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรค หากพบว่าผิดก็จะดำเนินคดี รวมถึงหน่วยงานราชการ เช่น กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่นายชูวิทย์ไปดำเนินการหมิ่นประมาทใส่ร้าย ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะดำเนินคดีต่อไป

‘เสี่ยหนู’ ไม่กังวล เสียคะแนนนิยม ปม ‘ชูวิทย์’ โจมตี  ชี้ ปชช. มีสิทธิ์ตรวจสอบ เปรียบ ‘ภท.’ เป็นภูเขาทอง

(18 มี.ค. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม. 33 เขต พรรคภูมิใจไทย ว่า ผู้สมัครและผู้บริหารพรรคลงพื้นที่ทุกวัน พบปะชาวบ้านในชุมชนย่อยต่าง ๆ ซึ่งพบว่า ประชาชนให้การตอบรับกระแสของพรรคดีขึ้นเป็นอย่างมาก ชาว กทม. ชื่นชมในนโยบายต่าง ๆ อาทิ นโยบายเรื่องสุขภาพ การแก้ปัญหาฝุ่นละอองทางอากาศ ค่าครองชีพ เป็นต้น

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หลังนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาคัดค้านพรรคภูมิใจไทย จะทำให้เสียคะแนนนิยมในพื้นที่ กทม.หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวสั้น ๆ ว่า “ไม่กังวล” และการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ก็ไม่มีปัญหา เพราะพรรคภูมิใจไทยเปรียบเหมือนภูเขาทอง ส่วนที่เหลือก็ไปคิดกันเอาเอง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top