(1 มี.ค. 66) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่รณรงค์เลือกตั้งเพื่อชิงเก้าอี้ในกรุงเทพมหานคร ว่า เราไม่ได้บอกว่าจะไปชิงเก้าอี้กับใคร แต่เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่าพรรค ภท.สามารถทำนโยบายได้สำเร็จ และเป็นประโยชน์กับประชาชน ถ้าประชาชนเห็นแล้วพวกท่านก็จะเลือกตนและพรรค ภท.

เมื่อถามถึงการลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร เดิมที พรรค ภท.เกิดประหม่ามาก ตอนนี้มีความมั่นใจขึ้นบ้างหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เวลาเราเจอคนเยอะ ๆ เราก็ประหม่าทุกครั้ง แต่การทำงานของเราในช่วงนี้ต้องรณรงค์หาเสียง ตนในฐานะหัวหน้าพรรค จึงมอบนโยบายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว แต่ถ้ามีกรณีเร่งด่วนก็พร้อมทำงานเต็มที่

“เรื่องการเมืองปล่อยผมไปตามยถากรรม” นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามถึงพื้นที่ที่พรรค ภท.จะเจาะเป็นพิเศษ นายอนุทินกล่าวว่า เรานำเสนอนโยบายผ่านผู้แทนราษฎร งานด้านการเมืองสำคัญหมด เพราะประชาชนอยู่ทุกอำเภอ ทุกที่มีโอกาสหมด พรรค ภท.เราเปิดตัวเมื่อสิบปีที่แล้ว ก็มีสมาชิกเข้ามาเพิ่ม และตนเชื่อว่างานของตนใน สธ. ก็สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้

เมื่อถามถึงนโยบายที่จะเปิดตัวเพิ่ม นายอนุทินกล่าวว่า เราเปิดไปหมดแล้วตั้งแต่ 3 เดือนก่อน ไม่มีเพิ่มมากกว่านี้แล้ว เท่าที่มีอยู่ก็ขอให้ได้ทำอย่างเต็มที่ ในการทำประโยชน์ให้ประชาชนและบ้านเมือง

ถามย้ำว่า มีความมั่นใจว่านโยบายตอนนี้จะทำให้ได้เป็นรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า น่าจะโอเค

เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองมาล้มพรรค ภท. นายอนุทินกล่าวว่า พรรคเรามีผลงานชัดเจน ไม่ต้องมีใครออกมาเชียร์ เราต้องเชื่อว่าประชาชนเห็นอยู่ รวมถึงการรณรงค์เลือกตั้งเราต้องเอานโยบายไปเสนอ ให้ประชาชนพิจารณาจากผลงานที่ ภท.ทำได้ทั้ง 3 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม ทุกมิติก็ใช้ได้ตามเจตนารมณ์ทุกประการ

ถามถึงกรณี นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือ ‘เสธ.หิ’ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออกมาให้ข่าวว่า ไม่ได้อยู่เบื้องหลังของนายชูวิทย์ และโทรหานายอนุทินแล้วแต่ไม่รับสาย นายอนุทินกล่าวว่า “เปลี่ยนโทรศัพท์กี่ครั้งแล้ว เพราะเวลาพูดเหมือนคอนเฟอเรนซ์ เพราะพูดกัน 2 คน เหมือนคุยกัน 20 คน หลัง ๆ ก็มีคอลเซ็นเตอร์ ฝากเข้าตำแหน่ง โทรมาขอยืมเงิน ก็รับไม่ไหว เบอร์ไม่คุ้นเคย หลัง ๆ ก็ใช้ไลน์ เพราะเราจะได้รู้ว่าเป็นใคร”

เมื่อถามถึงการร่วมกันงานในอนาคต นายอนุทินกล่าวว่า ร่วมงานกันได้ เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องนายชูวิทย์นั้น เป็นเรื่องระหว่างพรรคต่อพรรค ไม่ใช่ตัวบุคคล เป็นสีสันทางการเมือง

“ทัวร์ลงแสดงว่ามีผลงาน มีราคา มีสิ่งที่คนอื่นไม่อยากปล่อยให้เราเจริญเติบโตมากกว่านี้ แต่เราไม่ต่อยกับจิ๊กโก๋ เราเข้าทางพระ ให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง ยอมก้มหัวนิดหน่อย แบบสบาย ๆ ไม่ใช่ไปถึงปลายทางแล้วเลือดโชก” นายอนุทินกล่าว

ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_3850565