Saturday, 4 May 2024
ชลบุรี

ชลบุรี - สุดระทึก ขี่รถจยย. ไฟเผาวอดทั้งคันคาดสายน้ำมันรั่วและเครื่องร้อน

เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 5 พ.ค.64 ภาพจากโทรศัพท์มือถือที่ชาวบ้านได้ถ่ายไว้ขณะเกิดเหตุไฟไหม้รถ จยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ ไม่ทราบสี ทะเบียน กนก 619 ตราด มีชาวบ้านนำเครื่องดับเพลิงมาฉีด แต่ก็ยังไม่ดับ ต้องนำรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองอ่างศิลา 1 คัน ฉีดน้ำประมาณ 10 นาที ไฟจึงดับแต่รถ จยย.วอดทั้งคัน

สอบถามคนขี่รถ จยย.เป็นชายหนุ่มไม่ยอมบอกชื่อ และไม่ให้ข้อมูลใด ๆ ทั้งสิ้น ทราบเพียงว่ายืมรถเพื่อนมาซื้อของที่ตลาดและก่อนกลับบ้านไฟได้ไหม้วอดทั้งคัน 

สอบถาม นายชำนาญ สระใส อายุ 43 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า เห็นชายหนุ่มขี่รถ จยย.มาแล้วเกิดไฟลุกท่วมคนขี่รถ จยย.กระโดดออกมาทัน เบื้องต้นคาดว่าสายน้ำมันรั่วและน้ำมันเบนซินกระเด็นไปโดนเครื่องที่ขี่มาร้อน ทำให้เกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว แต่ยังโชคดีที่ไม่เป็นอันตรายใด ๆ ในครั้งนี้


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ชลบุรี - อันตราย โพสต์เตือนสุนัขพิทบูล เดินเพ่นพ่านบนถนนหาดบางแสน โดนกัดอาจถึงตายได้

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 5 พ.ค.64 ผู้ใช้นามว่า “ณรงค์ชัย ( ตุ้ย ) คุณปลื้ม” นายกเทศบาลเมืองแสนสุข ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี มีข้อความว่า “เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนว่าพบ สุนัข คาดว่าจะเป็นสายพันธุ์ พิทบูลเทอเรียร์ ครับที่เจ้าของปล่อยให้เดินบนที่ทางสาธารณสณะ ทำให้ประชาชน เกิดความหวาดระแวง และ อาจเกิดอันตรายต่อประชาชนที่อยู่ในบริเวณนั้นครับ โดยเฉพาะเด็ก และผู้สูงอายุ เนื่องจากเราไม่ทราบว่าสุนัขจะมีพฤติกรรมดุร้ายหรือไม่ แต่ตามเทศบัญญัติ ระบุไว้ไม่ให้ปล่อยสัตว์ที่มีเจ้าของโดยไม่มีการควบคุมดูแลครับ รบกวนขอความร่วมมือด้วยครับ กรุณาใส่สายจูงสุนัขทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยต่อสุนัขเองและ ประชาชน และหากสุนัขขับถ่ายกรุณาช่วยเก็บของเสียของสุนัขด้วยครับ เพื่อความสะอาด” แล้วมีภาพสุนัขพันธุ์พิทบลูตัวใหญ่ 2 ตัว เดินอยู่กลางถนนริมหาดบางแสน ท่าทางน่ากลัวจะเป็นอันตรายกับนักท่องเที่ยว และคนในพื้นที่

ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่สำรวจดูบริเวณที่มีภาพลง แต่ไม่เจอสุนัขพันธุ์พิทบูลทั้ง 2 ตัว เจอแต่สุนัขไทยท่าทางไม่ดุ นอนเป็นเจ้าของพื้นที่อยู่ โดยวันนี้มีนักท่องเที่ยวบางตาเพราะเพิ่งเลยวันหยุดต่อเนื่อง

สอบถามนายสิทธิศักดิ์ พรหมประเสริญ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านอาหารริมหาดบางแสนเผยว่า สุนัขนั้นเจ้าของควรดูแลสอดส่องให้ดี เพราะตรงนี้มันเป็นที่สาธารณะ นักท่องเที่ยวมาเยอะ และส่วนมากนักท่องเที่ยวจะมีเด็กมาด้วย มันอันตราย ฝากบอกไม่ว่าใครก็แล้วแต่ที่มีสุนัขมาหรือเจ้าของสัตว์เลี้ยงมาควรมีสายลากจูง และต้องคอยดูแลอย่าให้คลาดสายตา คนพื้นที่เป็นชาวบ้านแถวนี้บางคนมาเดินขายของหมาจะกัดได้ เพราะหมาพวกนี้ถ้ามันไม่คุ้นหน้ามันกัดอยู่แล้ว ที่เคยดูข่าวมานะ ก็กังวลใจเพราะอยู่ใกล้ร้านเรา ตัวมันใหญ่มากหากโดนกัดอาจถึงตายได้   


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ชลบุรี - ผอ.โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่ ถึงทางตันจากพิษโควิด วอนผู้ใจบุญร่วมบริจาคเพื่อให้อยู่รอด

ผอ.โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา ชี้หากสถานการณ์การบริจาคไม่ดีขึ้นคาด ตุลาคมนี้ ถึงทางตัน หลังโดนโควิด-19 เล่นงานมา 3 ระลอก โรงเรียนได้พยายามช่วยเหลือตัวเองมาโดยตลอด วอนผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงิน เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนและของใช้จำเป็นในการดำรงค์ชีวิตประจำวัน

วันที่ 4 พ.ค.64 นายชิด สุขหนู  ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา จังหวัดชลบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงสภาพคล่องของโรงเรียนตอนนี้ว่า ติดลบมานานแล้ว ตั้งแต่โควิด 19 ระลอกแรก จนถึงระลอก 3 ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าตั้งแต่ระลอกที่ 1 และระลอกที่ 2  ทางโรงเรียนได้ทำการแก้ไขปัญหาเรื่องของสภาพคล่องด้วยการปรับลดขนาดองค์กรลง การตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก รวมถึงหากิจกรรมระดมทุนที่พอจะสามารถทำได้ในช่วงที่ผ่านมาและลดรายจ่ายบางรายการลงที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค โควิด 2 ระลอกที่ผ่านมา พบว่าทุกคนต่างอ่อนล้าและอ่อนแรงในการต่อสู้กับโรคและต่อสู้กับการประคององค์กรให้อยู่รอด คณะครูได้พยายามร่วมกันระดมสมองในการที่จะหารายได้เข้าโรงเรียน เพื่อช่วยกันประคับประคองโรงเรียนให้อยู่รอด ด้วยการปลูกผักสวนครัวรับประทานเองเมื่อเหลือก็จะนำออกจำหน่ายหารายได้ให้กับโรงเรียน ที่ผ่านมายอมรับว่าเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะมีผู้ใจบุญเดินทางมาบริจาคเงิน เพื่อสนับสนุนในการจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนและของใช้ที่จำเป็น เพราะทุกคนต่างก็แย่ไปพร้อม ๆ กัน แต่ก็ยังถือว่าในช่วงที่ผ่านมาพอจะมียอดบริจาค จากผู้มีจิตศรัทธาเข้ามาบ้าง  

แต่เมื่อมาถึงโควิด ระลอก 3 นี้พบว่าสาหัสมาก เนื่องจากจำนวนยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นจนน่าใจหาย ซึ่งทางโรงเรียนถือว่ายังโชคดีที่เด็กกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ได้กลับไปอยู่กับผู้ปกครอง เนื่องจากปิดเทอม ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายของทางโรงเรียนมีไม่มาก แต่ถ้าหลังเปิดเทอมแล้วตามที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศ ให้โรงเรียนทั่วประเทศเปิดเรียนพร้อมกันในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เด็ก ๆ ก็จะกลับมาเรียนตามปรกติ ซึ่งในรอบนี้ทางโรงเรียนได้แจ้งไปยังผู้ปกครอง ในการนำเด็กเข้าเรียนว่าขอให้เด็กนักเรียนประถมศึกษากลับเข้ามาเรียนก่อน ในส่วนของระดับชั้นอนุบาล ขอความร่วมมือในการยังไม่ส่งเด็กนักเรียนเข้าเรียน     

          

โดยทางโรงเรียน ได้ให้เหตุผลเรื่องของการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงนี้ ซึ่งเกรงว่าเด็ก ๆ อาจจะไม่ปลอดภัย เพราะเด็กเล็กยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ดังนั้นในช่วงเปิดเทอมที่จะถึงนี้ ทางโรงเรียนจะต้องระดมทุน เพื่อรองรับนักเรียนที่จะกลับเข้าเรียน ซึ่งในส่วนของการเก็บค่าเทอมนั้น ทางโรงเรียนไม่สามารถเรียกเก็บได้จากผู้ปกครอง  เนื่องจากว่าเป็นองค์กรการกุศล แต่ถ้าหากพบว่าสถานการณ์ยอดการบริจาคยังไม่มีในช่วงนี้ ก็คาดว่าถึงช่วงเดือนตุลาคมนี้ ก็จะเข้าขั้นวิกฤต ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าทิศทางต่อไปจะเป็นเช่นไร

ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่ทำได้ก็เพียงขอรับน้ำใจจากผู้ที่มีจิตศรัทธา โดย ทางโรงเรียนขอรับบริจาคเงินทุน เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การเรียน การสอน ซ่อมแซมอาคาร และของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน สำหรับการศึกษาของผู้พิการทางสายตา

โดยสามารถบริจาค ได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์  บัญชี ทุนบรมราชกุมารีเพื่อคนตาบอด (2536)  บัญชี 669-2-10787-4  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ชลบุรี - พายุฝนกระหน่ำคืนเดียว วัดช่องแสมสารและวิหารหลวงพ่อดำเสียหายหลายแห่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (02.00 . ของวันที่ 6 พ.ค.64) ลมพายุพัดถล่มลงมาอย่างหนัก นอกจากนี้แล้วยังเกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในเขตพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยเฉพาะวัดช่องแสมสาร ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับทะเล บริเวณพื้นที่ ต.แสมสาร ได้รับความเสียหายหลายแห่ง รวมถึงวิหารหลวงพ่อดำ ที่ตั้งอยู่บนเขาเจดีย์ ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน

เบื้องต้นคณะกรรมการวัดช่องแสมสารและชาวบ้าน ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเบื้องต้น พบว่ามีหลายจุด เช่น  หลังคาศาลาเมรุ หลังคาห้องรับสังฆทานวิหาร หลังคากุฏิเจ้าอาวาส เต้นบริเวณหน้าท้ามสหัมบดีพรหม กำแพงวัด หลังคาห้องรับรอง หลังคากุฏิพระเณร ต้นไม้น้อยใหญ่บริเวรวัด หลังคาศาลาการเปรียญ รวมถึงบริเวณวิหารหลวงพ่อดำ เขาเจดีย์ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน แต่โชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งทางวัดช่องแสมสารก็จะตรวจสอบความเสียหายและทำการซ่อมแซมต่อไป


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

ชลบุรี - กองเรือยุทธการ จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตช่วยวิกฤตชาติ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 66 พรรษา

วันที่ 6 พ.ค.64 พล.ร.ท.ชาญชัยยศ  อัฑฒ์สุวีร์ รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในการจัดกิจกรรม  กองเรือยุทธการบริจาคโลหิตช่วยวิกฤตชาติ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 66 พรรษา 2 เมษายน 2564  ณ ห้องคลังเลือด โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี   

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผู้บริจาคโลหิตมีจำนวนลดลงทั่วประเทศ ทำให้ปริมาณโลหิตสำรองขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงพยาบาลต่างๆ รวมทั้งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ฯ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของกองทัพเรือ และเป็นศูนย์รับบริจาคโลหิตของสภากาชาดไทย ที่รองรับผู้ป่วยในพื้นที่ จ.ชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เข้าสู่ภาวะวิกฤตของการขาดโลหิต กองเรือยุทธการจึงได้เชิญชวนกำลังพลร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิตช่วยวิกฤตชาติฯ ในครั้งนี้

โดยจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตฯ ระหว่างวันที่ 6 - 7 พ.ค.64 คาดว่ากำลังพลที่เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 150 นาย กองเรือยุทธการได้จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จากวันที่ 8 ก.พ.64 โดยร่วมกับจังหวัดชลบุรี และจะดำเนินการเป็นระยะไปถึงวันที่ 30 ก.ค.64 หรือจนกว่าสถานการณ์การขาดโลหิตจะบรรเทา เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พล.ร.อ.สุทธินันท์  สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการที่ตั้งไว้ สอดคล้องกับนโยบายกองทัพเรือในการแก้ปัญหาการขาดแคลนโลหิตในภาพรวมของประเทศ


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

ชลบุรี - ตำรวจภูธรภาค 2 แถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ หลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่าความเสียหายมากกว่า 800 ล้านบาท

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เข้าสอบสวน นางสาวจิตราโยธาภิรมย์ ผู้ต้องหาคดี ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์หลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยหลอกให้ประชาชนร่วมลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาที่ถูกกว่าความเป็นจริง โดยซื้อในราคาใบละ 80 บาท และบางคนหากไม่รับสลากกินแบ่งรัฐบาลไปขาย ก็จะฝากขายสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยรับเงินส่วนต่างฉบับละ ๓ - ๕ บาท โดยในช่วงแรกผู้เสียหายหลายคนได้รับสลากจริงและผลตอบแทนจริงทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก จนต่อมาในรอบประจำวันที่ 16 เมษายน 2564 ทางผู้ต้องหาไม่ส่งสลากและจ่ายเงินค่าตอบแทนดังกล่าว ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก และปัจจุบันมีมูลค่าความเสียหายในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด เป็นเงินจำนวน 814, 184,113 บาท

ซึ่งวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 นางสาววนิดา มานะเปรมปรีย์ พร้อมผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมาก  ได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.จิตรา ซึ่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด ได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 400/2564 และได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดตราด ออกหมายจับ จนทางผู้ต้องหาทนความกดดันไม่ไหว ได้เข้ามอบตัวผ่านช่องทางชี้เบาะแส ภาค 2  เนื่องจากมีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับความปลอดภัยและความยุติธรรมในการเข้าสู่ กระบวนการทางกฎหมาย จึงได้นำตัวมาแถลงข่าว ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตราด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

ชลบุรี - ล็อกดาวน์กาะล้าน ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายพัทยาเป็นไปอย่างเงียบเหงา

บรรยากาศบริเวณ ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยา (แหลมบาลีฮาย) เป็นไปอย่างเงียบเหงา หลังชาวบ้านมีมติขอปิดเกาะล็อกดาวน์ งดรับนักท่องเที่ยว 15 วัน ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19

จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวงกว้างของระลอกที่ 3 ทำให้รัฐกลับมากำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาด โดยในส่วนชองชุมชนเกาะล้าน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้มีมติจากประชาชนบนเกาะ ให้ทำการล็อกดาวน์ปิดเกาะ แบบงดรับนักท่องเที่ยว เป็นเวลา 15 วัน คือระหว่างวันที่ 5-20 พ.ค.64 นั้น

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ บริเวณท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยา (แหลมบาลีฮาย) พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษของเมืองพัทยา ปฏิบัติงานบริเวณจุดคัดกรอง ในอาคารท่าเทียบเรือ  ส่วนที่บริเวณท่าเทียบเรือบริการเรือนำเที่ยว ชนิดเรือเร็วหรือสปีดโบ๊ทแทบที่จะไม่มีการให้บริการ มีเพียงเรือเร็วนำส่งของข้ามฝั่งที่ยังคงทำงานอยู่เท่านั้น

บริเวณสุดสะพานแหลมบาลีฮาย  สำหรับเป็นท่าเทียบเรือโดยสารขนาดใหญ่ ที่ให้บริการเรือโดยสารขนาด 2 ชั้น ข้ามฟาก พัทยา-เกาะล้าน (หาดตาแหวน) และพัทยา-ท่าหน้าบ้านเกาะล้าน พบว่าหยุดให้บริการ ตามมติของประชาชนชาวชุมชนเกาะล้าน ส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมดูแตกต่างจากช่วงเหตุการณ์ปกติเป็นอย่างมากง


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ชลบุรี - มูลนิธิพุทธรักษา บริษัทสี่พระยามอบเครื่องออกซิเจนรักษาผู้ป่วยโควิด รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ

วันนี้ 10 พ.ค.64 ที่ศูนย์รับบริจาคโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  นายเวคิน  ตั้งกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)  ผู้แทนมูลนิธิพุทธรักษา นางสาววิภาวี จิรังบุญกุล และ นายวรงค์ รุ่งตระการ ผู้แทน บริษัท สี่พระยาก่อสร้าง จำกัด นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 8 จังหวัดชลบุรี  ได้ร่วมกันส่งมอบ เครื่องช่วยหายใจ แบบ Vela Plus จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องช่วยใจแบบ High Flow จำนวน 1 เครื่อง ร่วมมูลค่ากว่า 670,000 บาท   ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี นาวาเอกหญิงนงลักษณ์ สิงหโกวินท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการสุขภาพ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เป็นผู้รับมอบ

สำหรับการบริจาค มีมูลนิธิพุทธรักษา มูลนิธิธนินท์เทวี เจียรวนนท์ บริษัทสี่พระยาก่อสร้าง จำกัด  ได้ร่วมกันบริจาคเครื่องช่วยหายใจ แบบ Vela Plus จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 420,000 บาท และเครื่องช่วยใจแบบ High Flow จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 250,000 บาท  ร่วมมูลค่ากว่า 670,000 บาท  ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ  เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19   

        

นาวาเอกหญิงนงลักษณ์ สิงหโกวินท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการสุขภาพ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในระลอกที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการระบาดครั้งนี้ส่งผลเป็นวงกว้าง ทำให้มีผู้ป่วยรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆ เป็นจำนวนมาก หลายโรงพยาบาลขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะ “เครื่องออกซิเจน” เป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นและสำคัญในการช่วยชีวิตผู้ป่วยภาวะหายใจล้มเหลว หรือมีภาวะพร่องออกซิเจน และเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้มากยิ่งขึ้น ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ต้องขอขอบคุณผู้บริจาค ที่ร่วมกันบริจาคเครื่องออกซิเจน เพื่อช่วยรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่กำลัง ระบาดอยู่ในช่วงนี้  โดยมี นายสะถิระ เผือกประพันธุ์. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 8 จังหวัดชลบุรี  เป็นผู้ประสานงานในการได้รับมอบ เครื่องออกซิเจน ในครั้งนี้


ภาพ/ข่าว  นิราช ทิพย์ศรี / นันทพล ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ปราจีนบุรี – เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบมือยิงหน้าห้างได้แล้ว พร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

จากเหตุการณ์ที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงคู่อริ ที่บริเวณหน้าห้างแมคโคร สาขากบินทร์บุรี หมู่ 8 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในเวลาประมาณ  23.00 น. บริเวณถนนสายสุวรรณศร ทราบชื่อนายอภินันท์ โสมา จากการตรวจค้นร่างกาย  พบของกลาง ปืนสั้น 1 กระบอก พร้อมกระสุนอีก 4 นัด กระสุนปืน M16 จำนวน 130 นัด กระสุนปืนลูกซอง 5 นัด และระเบิด จำนวน 1 ลูก อยู่ภายในเป้  จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่  สภ.กบินทร์บุรี

เช้าวันนี้ (9 พ.ค. 64) พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง  ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้นำตัวนายอภินันท์ โสมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณหน้าห้างแมคโคร กบินทร์บุรี โดยมีชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ได้ทำแผนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง  ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี กล่าวถึงสาเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้ โดยคนร้ายได้รับสารภาพว่า ตนเองมีเรื่องขัดแย้งกับนายวัฒนะ เรื่องงานประจำ ก่อนที่จะนัดเคลียร์ปัญญากันในช่วงเย็นเมื่อวาน ที่หน้าห้างแมคโคร  แต่การเจรจาไม่ลงตัว  ผู้ก่อเหตุอ้างว่าฝ่ายตรงข้ามยกพวกมาหลายคน และจะเข้ามาชกต่อยตน จึงได้ใช้อาวุธปืนที่เตรียมมายิงเข้าใส่กลุ่มของนายทรงกลด เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ก่อนที่จะหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนที่จะถูกจับตัวได้ 

นายอภินันท์  โสมา ผู้ก่อเหตุได้กล่าวขอโทษญาติของผู้สูญเสีย ตนเองทำไปเพราะต้องการป้องกันตัวเอง ไม่ได้คิดจะเอาชีวิตใคร และตกใจที่ฝ่ายตรงข้ามยกพวกมากันหลายคน ส่วนการแจ้งข้อกล้าวหานั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัฒน์  กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี

ชลบุรี - รมว.สุชาติ มอบ ผู้ช่วยฯ ลุยพัทยา ตรวจเยี่ยมการตรวจโควิด-19 เชิงรุกในสถานประกอบการ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงานลงพื้นที่ จ.ชลบุรี ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการตรวจโควิด-19 เชิงรุกในสถานประกอบการ

วันที่ 12 พ.ค.64 เวลา 08.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจลูกจ้างที่เข้ารับการตรวจโควิด-19 เชิงรุกเพื่อผู้ประกันตนในสถานประกอบการในพื้นที่ จ.ชลบุรี โดยมี นายสมชัย รัตนโอภาส ประธานบริหารโรงแรมในเครือเอวันกรุ๊ป และโรงแรมมิตร์บีช ตลอดจนคณะผู้บริหารเมืองพัทยา และคณะผู้บริหารโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา ร่วมให้การต้อนรับ ณ โรงแรมเอ วัน เดอะรอยัลครูซ พัทยา จ.ชลบุรี พร้อมนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงานได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับระบบการตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุกในสถานประกอบกิจการ

นายสุรชัย กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงานถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากสภาพปัญหาในปัจจุบันได้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง และมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีดำริกำชับให้กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพิ่มจุดตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกแก่แรงงานในสถานประกอบการเพื่อเร่งควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม เช่น นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง สมุทรสาคร และพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น

ในวันนี้ ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน มอบหมายให้ผมลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เพื่อมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจลูกจ้างและเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุกในสถานประกอบการแก่ลูกจ้าง พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งตัวแทนจาก 6 บริษัทผู้ประกันตน ม.33 ที่เข้ารับการตรวจจำนวนทั้งหมด 346 ราย ประกอบด้วย บริษัท เอ-วัน พัทยา จำกัด จำนวน 28 ราย บริษัท เอ-วัน พัทยา จำกัด สาขาโรงแรมมิตร์บีช จำนวน 27 ราย บริษัท วั่นอี้ จำกัด จำนวน 56 ราย บริษัท วั่นอี้ จำกัด สาขาเอ-วัน พัทยาบีช รีสอร์ท จำนวน 2 ราย บริษัท สี่หุ่น จำกัด จำนวน 38 ราย และบริษัท วันทมิตร จำกัด จำนวน 95 ราย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top