Saturday, 4 May 2024
ชลบุรี

ชลบุรี-ปิดเทอม นักว่ายน้ำเยาวชนเกือบ 200 คน ร่วมว่ายน้ำรอบเกาะ เก็บขยะ ปลูกฝังรักษ์เต่า รักษ์ทะเล

ในช่วงปิดภาคเรียนเด็กๆ และเยาวชนนักว่ายน้ำจากสโมสรต่างๆ อาทิ สโมสรว่ายน้ำวิชั่น สโมสรว่ายน้ำราชนาวีสัตหีบ และนักว่ายน้ำเพื่อการอนุรักษ์ (Open water Swimming) ภาคประชาชน ตลอดจนผู้ปกครองและจิตอาสาเกือบ 200 คน ได้มารวมตัวกันใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ร่วมทำกิจกรรม รณรงค์สร้างความตระหนักในการว่ายน้ำรอบเกาะขาม เพื่อการอนุรักษ์ และเก็บขยะ เพื่อกระตุ้นและปลูกฝังการอนุรักษ์ระบบนิเวศวิทยาทางทะเล เต่าทะเล สัตว์น้ำทะเล และปะการัง โดยใช้ทักษะความเป็นเลิศด้านการว่ายน้ำที่ถนัดว่ายน้ำรอบเกาะขาม แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระยะทาง 3 กม. ภายใต้โครงการ “เกาะขาม รักษ์เต่า รักษ์ทะเล ลดขยะ” ณ อุทยานใต้ทะเลเกาะขามแสมสาร สัตหีบ

โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองทัพเรือ โดยพลเรือโท สุระศักดิ์ สิงขรวัฒน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 นาวาเอกอโศก ศรีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 พล.ต.สุรจิตร รวยรื่น ประธานฝ่ายกีฬาว่ายน้ำมาราธอน สมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย จ.อ.ไพฑูรย์ แสงแก้ว คณะกรรมการฝ่ายว่ายน้ำมาราธอน สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย และผู้ช่วยผู้ฝึกสอนสมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทย คุณอโณมา ศรัณย์ศิขริน (เมจิ อโณมา) ร่วมสมทบทุนอนุรักษ์เต่าทะเล เรือตรี มาโนช ผลยังส่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีพซี คอมเมอร์เชียล ไดฟ์วิ่ง จำกัด ร่วมสมทบทุนอนุรักษ์ เต่าทะเล นาวาเอกนิติรักข์ การดี ผู้แทนทัพเรือภาคที่ 1 ที่ปรึกษากิจกรรม นาวาตรีวสันต์ ภิรมย์โพธิ์ ผบ.ร้อย บก.ทรภ.2  ประธานฝ่ายกิจกรรมและดูแลควบคุมความปลอดภัยทางน้ำ และคณะกรรมการฯ ให้การสนับสนุนและเข้าร่วมกิจกรรม ในวันนี้

สำหรับกิจกรรม "เกาะขาม รักษ์เต่า รักษ์ทะเล ลดขยะ" นับเป็นช่องทางหนึ่งในการรณรงค์ให้ทุกๆ คน ได้ตระหนักและใส่ใจในการช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลของพื้นที่สัตหีบ และไม่ทิ้งขยะโดยเฉพาะขยะจำพวกพลาสติก ซึ่งเป็นอันตรายต่อเต่าทะเล และสัตว์น้ำทะเล อื่นๆ

ซึ่งการรณรงค์ดังกล่าว จะส่งผลให้ท้องทะเลของประเทศไทยสวยงาม เป็นมรดกส่งต่อสืบทอดไปถึงบุตรหลานรุ่นหลัง ต่อไปอีกด้วย 

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

ดีอี-ตำรวจไซเบอร์ จับกุมเว็บพนันออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท

พร้อมทลายแหล่งบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ที่จังหวัดชลบุรี พร้อมขยายผลข้ามแดน ควบคุมตัวคนไทย 154 รายในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันที่ 27 มีนาคม 2567 นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) , พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.ฯ ปฏิบัติราชการ บช. สอท. , พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. , พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 ร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด โดย นายสุริยน ประภาสะวัต ตําแหน่งอัยการพิเศษ ฝ่ายการสอบสวน 1 , เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมือง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง , ตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ (AIS) โดย นายศรัณย์ ปรีชา ผู้จัดการฝ่ายกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดย พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลการจับกุม “JOINT CYBER OPERATION”  ใน 3 ปฏิบัติการ ดังนี้ 

1. ครั้งแรกเก็บพยานหลักฐานนอกประเทศ ขยายผลข้ามแดนจับกุมคนไทย 154 ราย ถูกควบคุมตัวในเมียนมา โดยได้ประสานความร่วมมือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เก็บรวบรวมข้อมูลและตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานเครือข่ายการพนันออนไลน์ใน จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับตำรวจสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้เข้าปราบปรามบ่อนการพนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จ.ท่าขี้เหล็ก โดยจัดตั้งศูนย์สืบสวนสอบสวนและขยายผลการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อร่วมขยายผลเก็บรวบรวมข้อมูลและตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ซักถามคัดกรองปากคำบุคคล รวมทั้งการตรวจสอบพยานหลักฐานทางดิจิทัล และรายละเอียดต่าง ๆ สำหรับแนวทางการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน หลังจากได้รับโทษตามกฎหมายแล้ว จะส่งตัวกลับมาดำเนินนคดีในประเทศไทย

2. ทลายแหล่งลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ใกล้สถานศึกษาดัง จ.ชลบุรี โดยเข้าตรวจค้นและจับกุมตัว นายหัถตชัยฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ ต.หนองชาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า รวม 370 ชิ้น มูลค่าของกลางประมาณ 50,000 บาท พร้อมขยายผลการจับกุมถึงแหล่งที่มา จุดกระจายสินค้า และผู้ทำหน้าที่ค้าส่งหรือส่งสินค้าในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงขออนุมัติหมายจับและหมายค้นนายรัชชานนท์ฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี โดยเป็นผู้จำหน่ายและผู้จัดส่งบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยจะเป็นแหล่งเก็บ ซุกซ่อนและจําหน่าย บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 2 จุด 

โดยจุดที่ 1 ภายในซอยบางทราย 63 หมู่ที่ 5 ต.บางทราย อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บ ซุกซ่อน สถานที่แพ็คของ จากการตรวจค้นพบนายรัชชานนท์ฯ อายุ 25 ปี แสดงตนเป็น ผู้ดูแล/เจ้าของบ้าน ตรวจยึดของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 12 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 1,560 บาทและอุปกรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และ จุดที่ 2 ในพื้นที่ ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสถานศึกษาชื่อดังของจังหวัดชลบุรี เพียง 300 เมตร ตรวจยึดของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา บุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จำนวนกว่า 5,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท 

ทั้งนี้ ขอแจ้งเตือนผู้บริโภคและประชาชนว่า การจำหน่าย ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า การลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นความผิดตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองที่ 9/2558 เรื่อง  “ห้ามขายหรือห้ามให้บริการบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า” มีความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุกไม่ เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย หรือรับไว้โดยประการใดโดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร โดยถูกต้อง ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคา สินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. จับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์ slotpgthai.net และ uwin9.com พบเครือข่ายที่เกี่ยวข้องรวม 25 เครือข่าย ตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท พบยอดเงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 500 ล้านบาท โดยได้ตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหารวม 7 ราย กลุ่มผู้รับ ผลประโยชน์จำนวน 1 ราย กลุ่มผู้ดูแลการเงิน 1 ราย และบัญชีม้า 5 ราย ทั้งนี้ยังตรวจสอบพบเครือข่ายพนัน อื่น ๆ รวม 25 เครือข่าย มีสมาชิกผู้เล่นกว่า 200,000 คน โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันทาง อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” 

ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านความมั่นคงระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณชายแดน ในการดำเนินการขยายผลจับกุมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันออนไลน์ ซิมผี บัญชีม้า  โดยตั้งแต่ 1 ต.ค. 66 - 5 มี.ค. 67 กระทรวงดีอีดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์เกี่ยวกับพนันออนไลน์ จำนวน 25,571 รายการ  เพิ่มขึ้น 13 เท่าตัวจาก 2,059 เว็บ ในช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 เพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน ในการตรวจสอบ ระงับ ยับยั้ง หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษาสายด่วน AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

‘ชลบุรี’ เข้าตา!! จ่อถูกเปิดตัวเมืองใหม่ใน ‘มิชลิน ไกด์ไทย 2568’ ขยายฐานความอร่อย เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งภาคตะวันออก

(3 เม.ย. 67) มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ประกาศขยายขอบเขตการจัดทำคู่มือฉบับประจำปี 2568 เข้าสู่ ‘ชลบุรี’ เมืองตากอากาศชายทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด ส่งผลให้ ‘ชลบุรี’ เป็นจุดหมายล่าสุดในการเข้าดำเนินการคัดสรรและจัดอันดับร้านอาหารเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักชิมและนักท่องเที่ยวออกค้นหาประสบการณ์ด้านอาหารที่แปลกใหม่และแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งนี้ คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ฉบับประจำปี 2568 มีกำหนดเผยแพร่ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ด้าน เกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่า “ชลบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพซึ่งมีทั้งชายหาดที่งดงาม วัดที่เงียบสงบ ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น กิจกรรมตามเทศกาลต่าง ๆ ไปจนถึงร้านอาหารและรถเข็นขายอาหารริมทาง และสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งยังโดดเด่นเป็นพิเศษในเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ อาหารท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงบรรยากาศการทานอาหารริมชายหาด องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ชลบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชีวิตชีวา ทีมผู้ตรวจสอบของ 'มิชลิน ไกด์' รู้สึกตื่นเต้นและแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะออกสำรวจและคัดสรรร้านอาหารในพื้นที่นี้”

ชลบุรีเป็นจังหวัดริมฝั่งทะเลซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงประมาณ 80 กิโลเมตร จึงเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมที่ใกล้ที่สุดสำหรับคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการหลบหนีความวุ่นวายจากงานที่เคร่งเครียด รวมทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาไกลจากหลากหลายพื้นที่ สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรีสามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม นอกจากประเพณีท้องถิ่น อาหารประจำภูมิภาค และอาหารทะเลสดใหม่แล้ว ชลบุรียังเป็นสวรรค์ของคนรักชายหาดโดยมีจุดท่องเที่ยวสำคัญอย่างบางแสน พัทยา และเกาะล้าน

ด้าน ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทยว่า มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่อาหารไทยบนเวทีโลกและทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะจุดหมายด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารชั้นนำระดับโลก จึงเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติของภาครัฐซึ่งมุ่งเน้น 5 ด้าน (5Fs) ได้แก่ อาหาร (Food), แฟชั่น (Fashion), ภาพยนตร์ (Film), มวยไทย (Fight) และเทศกาล (Festival) เพื่อยกระดับศักยภาพทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยในตลาดโลก

“ศาสตร์และศิลป์ด้านอาหารที่โดดเด่นและหลากหลายเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์หรืออิทธิพลทางวัฒนธรรมที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยือนประเทศไทย การที่ ‘มิชลิน ไกด์’ ในฐานะคู่มืออ้างอิงด้านอาหารที่ทรงอิทธิพลต่อผู้คนทั่วโลก เผยแพร่ความหลากหลายและความน่าสนใจของอาหารและบรรยากาศแวดล้อมด้านอาหารในประเทศไทย ถือเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยให้มีความหมายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่าการขยายขอบเขตจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ไปยังจังหวัดชลบุรี จะส่งผลดีหลายด้าน...ทั้งต่อตัวจังหวัดเองและต่อประเทศ อาทิ เพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้กับธุรกิจร้านอาหาร, ส่งเสริมวัตถุดิบในท้องถิ่น, สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน, กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาความเป็นเลิศทั้งด้านคุณภาพอาหารและการบริการ โดยชูแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Tourism เป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม” คุณฐาปนีย์ สรุปปิดท้าย

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ได้ที่: guide.michelin.com/th/th หรือติดตามข่าวสารล่าสุดของ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา 2565’ ได้ทางเฟซบุ๊ค: facebook.com/MichelinGuideThailand และ facebook.com/MichelinGuideAsia

ท่าเรือสำราญพัทยา ‘แหลมบาลีฮาย’ พร้อมเป็นต้นทาง เรือสำราญระดับโลก เพื่อเปิดโอกาสใหม่ ในการท่องเที่ยวอ่าวไทย เปิดรับ นทท.กระเป๋าหนัก

เมื่อวานนี้ (26 เม.ย. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ การพัฒนาท่าเรือสำราญพัทยา แหลมบาลีฮาย เพื่อใช้เป็นต้นทางเปิดรับ เรือสำราญระดับโลก โดยได้ระบุว่า ...

วันนี้เอาการแผนการพัฒนาการเดินทาง ทางน้ำ ที่น่าสนใจ และเป็นอีกโอกาสในการสร้างรายได้ในการรับนักท่องเที่ยวรายได้สูงเข้าประเทศ คือการก่อสร้างท่าเรือสำราญ ในเขตอ่าวไทยตอนบน 

โดยโครงการได้มีการศึกษาและเปรียบเทียบในหลายที่ แล้วมาลงตัวที่ แหลมบาลีฮาย พัทยา 
เพื่อสร้างเป็นท่าเรือต้นทาง (Home Port) และท่าเรือจอดพัก (Port of Call) ของเรือสำราญระดับโลก ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในไทย ซึ่งมีเรือได้เริ่มเข้ามาทำเส้นทางเดินเรือประจำ บ้างแล้ว

ซึ่งปัจจุบัน ใช้อาคารท่าเรือสำราญของท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งก็ไม่ตอบรับกับความต้องการของสายเรือสำราญ และนักท่องเที่ยว ซึ่งควรจะเป็นท่าเรือที่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว

เรามาทำความเข้าใจรูปแบบ การใช้งานของท่าเรือสำราญกันก่อน
1. ท่าเรือต้นทาง (Home Port) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของสายเรือนั้นๆ ในการออกเดินทางสู่ปลายทาง หรือไปเที่ยวในจุดต่างๆ และกลับมาส่งผู้โดยสารที่เดิม
ซึ่งท่าเรือเหล่านี้ จะมีกิจกรรมเช่น 
- การพักคอยการเดินทางของผู้โดยสาร
- การเปลี่ยนกะของเจ้าหน้าที่ในเรือ
- การเติมหรือเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่จะไปให้บริการบนเรือ
ตัวอย่างเช่น ท่าเรือสิงคโปร์ และท่าเรือแหลมฉบัง 

2. ท่าเรือจอดพัก (Port of Call) ซึ่งเป็นการจอดแวะพัก เพื่อให้ผู้โดยสารลงไปเดินท่องเที่ยวตามพื้นที่ต่างๆ และเปลี่ยนอิริยาบถ จากการนั่งเรือ
ซึ่งท่าเรือเหล่านี้ จะมีกิจกรรมเช่น
- การจัดทัวร์ระยะสั้นรับนักท่องเที่ยว
- รับนักท่องเที่ยว ของ ร้านอาหาร และบาร์ท้องถิ่น
โดยแบ่งท่าเรือเป็น 2 กลุ่มคือ 
- มีท่าเทียบเรือ (ลงจากเรือขึ้นบกได้โดยตรง)
- ท่าทอดสมอระยะไกล (ต้องนั่งเรือเล็กเข้าฝั่งอีกที) ซึ่งในกรณีนี้ ผู้โดยสารจมบางส่วนจะไม่ลงไปเพราะเสียเวลา และกลับขึ้นเรือยาก
ตัวอย่างเช่น สมุย, พัทยา, ภูเก็ต และฟูก๊วก (เวียดนาม)

ซึ่งท่าเรือพัทยา จะถูกออกแบบให้เป็นผสม (Hybrid) เป็นทั้ง Home Port และ Port of Call เพื่อให้พัทยาได้ประโยชน์สูงสุด 

โดยจากที่ปรึกษา ได้สรุปพื้นที่เป็นบริเวณแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี มีความเหมาะสมเนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้เคียงมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ และหลากหลาย ดึงดูดให้มีผู้โดยสารมาใช้ท่าเรือสำราญ 

ซึ่งมีการออกแบบรองรับ ท่าเรือทั้ง 2 แบบ แบ่งเป็น
- ท่าเรือต้นทาง (Home Port) รองรับเรือขนส่งผู้โดยสารไม่เกิน 1,500 คน 
- ท่าเรือแวะพัก (Port of call) สำหรับรองรับเรือขนส่งผู้โดยสาร 3,500-4,000 คน

จากการศึกษาคาดการณ์จำนวนเที่ยวเรือ
ในปี 2570 ประมาณ 60 เที่ยวต่อปี และเพิ่มเป็น 100 เที่ยวในอีก 10 ปี (ปี 2580) 
โดยคาดการณ์สัดส่วนรายได้จากการดำเนินงานท่าเทียบเรือ 73% (3,730 ล้านบาท ) ได้แก่ ค่าธรรมเนียมจอดเรือ ค่าธรรมเนียมผ่านท่า
รายได้จากการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ 27% (1,390 ล้านบาท) ได้แก่ ค่าเช่าพื้นที่ ค่าที่จอดรถ ค่าเช่าที่จอดเรือเฟอร์รี และสปีดโบ๊ต

รูปแบบการก่อสร้าง
เป็นท่าเรือใหม่ห่างจากชายฝั่งลงไปในทะเลประมาณ 1 กม. เพื่อลดการเวนคืน และยังสามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ ที่ความลึกร่องน้ำประมาณ 12-14 เมตร 
รองรับเรือสำราญขนาดระวางบรรทุก 236,000 ตันกรอส ได้พร้อมกัน 2 ลำ ความยาวท่าเทียบเรือรวม 420 เมตร 

ส่วนอาคารผู้โดยสาร รองรับได้ 3,500-4,000 คน/เที่ยว 
สิ่งอำนวยความสะดวก
- โถงพักคอย 
- จุดตรวจความปลอดภัย 
- จุดเช็กอินรับบัตรโดยสาร 60 ช่อง 
- จุดตรวจคนเข้าเมือง 26 ช่อง 
- จุดฝากสัมภาระ 
- อาคารและลานจอด รองรับรถยนต์ได้ 132 คัน และรถบัส 82 คัน

มูลค่าการลงทุน
เบื้องต้นประมาณการค่าลงทุนรวม 7,412 ล้านบาท แบ่งเป็น 
1. ค่าลงทุน 5,934 ล้านบาท 
- ค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานนอกชายฝั่ง 4,315 ล้านบาท 
- ท่าเทียบเรือ อาคารผู้โดยสาร 2,881 ล้านบาท 
- สะพานเชื่อมท่าเรือ 675 ล้านบาท 
- ลานจอดรถ 567 ล้านบาท 
- ท่าเรือโดยสาร และเรือเร็ว 192 ล้านบาท
- ค่าอุปกรณ์ 400 ล้านบาท 
- ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 608 ล้านบาท 
- ถนนยกระดับ 1611 ล้านบาท 

2.ค่าดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) 1,478 ล้านบาท

รูปแบบการลงทุน
เป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) 
- ภาครัฐ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเทียบเรือ และทางเข้า มูลค่า 5,534.56 ล้านบาท (66%)
- เอกชนอาจ ลงทุนในส่วนของอาคารผู้โดยสาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มูลค่า 1,877.66 ล้านบาท (34%) เครื่องมือและอุปกรณ์และบริหาร 30 ปี
ซึ่งจากการศึกษา มีอัตราผลตอบแทน 20% ระยะเวลาคืนทุนเท่ากับ 10 ปี

ซึ่งจากแผนก็น่าจะช่วยสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อีกมหาศาล


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top