Monday, 6 May 2024
ก้าวไกล

'พิธา' เตรียมดันนโยบายดูแลสูงวัยทั่วประเทศ หลังรัฐสร้างปัญหา ออกกฎหมายขัดกันมั่ว

หัวหน้าพรรคก้าวไกล รับหนังสือจากกลุ่ม 'นักกฎหมายทนายความประชาชนสี่ภาค' เตรียมผลักดัน นโยบายรองรับสังคมสูงวัย หวั่นคนแก่ถูกทอดทิ้ง

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยส.ส. จากพรรคก้าวไกล รับหนังสือจากกลุ่มนักกฎหมายทนายความประชาชนสี่ภาค ซึ่งเดินทางมาร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาเบี้ยผู้สูงอายุที่เกิดขึ้น โดยพิธาได้อธิบายถึงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยยกตัวอย่าง กรณีผู้สูงอายุถูกรัฐสั่งฟ้องคืน 'เงินคนแก่' และตัวอย่างที่ยกไปนั้นไม่ใช่ตัวอย่างเดียวที่เกิดขึ้น แต่ยังมีตัวอย่างของผู้สูงอายุอีกจำนวนมากที่ต้องคืนเงินให้กับรัฐ เนื่องจากความผิดพลาดของการออกกฎหมายที่ขัดกันและการดำเนินการของรัฐที่ไม่รอบคอบถี่ถ้วน หากรัฐไม่สามารถจัดการระบบและกฎหมายที่ขัดกันได้ ปัญหานี้จะกลายเป็นปัญหาคุกคามผู้สูงวัยทั่วประเทศ วันนี้ตนจึงเดินทางมารับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มทนายที่พบปัญหาโดยตรง

หนึ่งในตัวแทนกลุ่มนักกฎหมายทนายความประชาชนสี่ภาค ได้ยกตัวอย่างปัญหาสำคัญของคดีลูกความผู้สูงอายุที่ตนเป็นทนายความไว้ว่า "ที่ผ่านมา กรมบัญชีกลางได้เรียกเงินคืนจากผู้สูงอายุที่รับเงินจากบำเหน็จบำนาญจากบุตรชายที่เสียชีวิต ผมจึงเข้าไปเป็นทนายความยื่นฟ้องศาลปกครอง เมื่อศาลปกครองรับฟ้อง พิจารณาหลังจากนั้นผมได้ยื่นฟ้องศาลปกครองต่อกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานโดยตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง หลังจากยื่นฟ้องศาลปกครองรับฟ้อง คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะพิเศษ

'ก้าวไกล' ล่า 50,000 ชื่อตาม พ.ร.บ. ประชามติ RESET ประเทศไทย เลือกตั้งใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่

'ก้าวไกล' เปิดแคมเปญ 'RESET ประเทศไทย เลือกตั้งใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่' ล่า 50,000 ชื่อตาม พ.ร.บ. ประชามติ ชงนายกฯ จัดประชามติพร้อมเลือกตั้งปีหน้า ถามประชาชนเรื่องให้มี สสร. เลือกตั้ง มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ประหยัดงบ ดักคอ ส.ส.รัฐบาล-ส.ว. เคยรับหลักการให้มี สสร. มาแล้ว 

เมื่อ 7 กันยายน 2565 ที่รัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงภายหลังรัฐสภามีมติไม่รับหลักการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อยกเลิกอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ ที่เสนอโดยภาคประชาชน ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. เพียง 23 เสียง จาก 250 เสียง ความตอนหนึ่งว่า...

ผลการลงมติของรัฐสภาวันนี้น่าผิดหวังเป็นพิเศษ เพราะแม้รัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหาเยอะมาก แต่ข้อเสนอปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นข้อที่พื้นฐานที่สุด และ เป็นมาตราที่ขัดแย้งต่อหลักการประชาธิปไตยมากที่สุด แต่ในเมื่อไม่สามารถตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกฯ ทันการเลือกตั้งที่จะมาถึง พรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องเรียกร้องให้ ส.ว. ไม่นำตัวเองเข้ามาเป็นผู้ชี้ขาดในการจัดตั้งรัฐบาลและการเลือกนายกฯ หลังเลือกตั้ง แต่ควรเคารพและยึดตามเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนที่จะถูกสะท้อนผ่านผลการเลือกตั้ง

พิธา กล่าวต่อว่า จุดยืนที่พรรคก้าวไกลประกาศต่อประชาชนมาตลอด คือการแก้ไขวิกฤติทางการเมืองครั้งนี้ ต้องไม่ใช่แค่ 'ปะผุ' หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราแล้วจะเพียงพอ แต่ต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ที่ผ่านมาการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การร่างฉบับใหม่ผ่านช่องทางรัฐสภา เจอทางตันทุกครั้ง

พรรคก้าวไกลจึงเห็นว่าต้องหา 'ไพ่ใบใหม่' ที่ยังไม่มีใครเคยใช้ ด้วยการเปิดตัวแคมเปญชื่อ 'RESET ประเทศไทย เลือกตั้งใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่' ที่จะอาศัยช่องทางตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ 2564 มาตรา 9(5) เชิญชวนประชาชนอย่างน้อย 50,000 คน ร่วมลงชื่อเสนอต่อ ครม. ให้มีการจัดทำประชามติเพื่อถามประชาชน 1 คำถามสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ว่าประเทศไทยควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ แทนที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ฉบับปัจจุบัน โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน?” โดยจะเริ่มรณรงค์ทันทีจนกว่าได้รายชื่อครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด ในระยะเวลาที่เร็วที่สุด

“เพื่อประหยัดงบประมาณ และเพื่อให้การเลือกตั้งที่จะมาถึง ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนรัฐบาล แต่คือการเปลี่ยนกติกาประเทศ เราจะเสนอให้จัดประชามติในวันเดียวกับวันเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะต้องเกิดขึ้นไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2566” พิธากล่าว

‘ก้าวไกล’ ถาม มท.1 ช่วยครูพี่เลี้ยงถึงไหนแล้ว ยืนยัน หากตั้งใจ ‘ช่วยเหลือ-แก้ไข’ ได้หมด

‘ณัฐพงษ์-ก้าวไกล’ ตามเงินค่าอาหารเด็กเล็ก แม้จะดีใจเพิ่มจาก 20 เป็น 32 บาท แต่ความคืบหน้าการจ้างงานครู งบประมาณดูแลต่อหัวของเด็กเล็กไปจนถึงเรื่องอาคารสถานที่ต้องดีขึ้น หวังครูพี่เลี้ยงได้รับสิทธิสวัสดิการดูแลอย่างเหมาะสม

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.เขตบางแค พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้สอบถามรัฐมนตรีมหาดไทยกรณีเงินค่าอาหารกลางวันเด็กและความคืบหน้ากรณีอื่นๆ โดยเฉพาะบุคลากรของศูนย์พัฒนาเด็กในกรุงเทพ ณัฐพงษ์ เริ่มต้นอภิปราย โดยทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหารกลางวันเด็ก ค่าจ้างครูพี่เลี้ยง และงบประมาณสำหรับพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในกรุงเทพ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยได้เดินทางมาตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว ตนเองจึงต้องการสอบถามและติดตามความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยที่มาที่ไปของเรื่องนี้ คือ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในกทม. ยังคงมีปัญหาเรื่องของครูพี่เลี้ยง ปัจจุบันสถานะการจ้างงานยังคงเป็นครูอาสาอยู่ ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยได้ตอบคำถามไปแล้ว โดยตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา หลังจากตั้งคำถามไปแล้ว ได้มีการยกสถานะจากครูอาสาไปเป็นลูกจ้างหรือสถานะที่ทำให้ครูอาสาได้รับสวัสดิการ ลาป่วย ได้อย่างไรแล้ว

ประเด็นที่สองที่ณัฐพงษ์ถามต่อ คือเรื่องของเงินอุดหนุน เบี้ยอาหารกลางวันเด็ก ณ ขณะที่ตนตั้งกระทู้ถามในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่าน เป็นช่วงที่ยังไม่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ค่าอาหารกลางวันขณะนั้นอยู่ที่ 20 บาท ก่อนจะปรับแนวนโยบายโดยผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ที่ปรับค่าอาหารกลางวันเป็น 32 บาท แต่นอกจากเรื่องดังกล่าว ยังมีเงินอุดหนุนรายหัว เช่น สื่อพัฒนาการเรียนการสอน จึงอยากสอบถามความคืบหน้า ว่ารัฐมนตรีมหาดไทยได้มีการปรึกษาหารือกับทีมผู้ว่าฯ อย่างไร

'วิโรจน์' ชี้ แค่ขุดลอกคูคลองไม่เพียงพอแก้ปัญหาน้ำ แนะ!! ในปีงบฯ หน้าต้องเร่งปรับปรุง 'อุโมงค์ระบายน้ำ' 

(11 ก.ย. 65)​ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ โดยมีรายละเอียดดังนี้

น้ำท่วม กทม. แก้แค่เส้นเลือดฝอยเอาไม่อยู่ ต้องทะลวงเส้นเลือดใหญ่ด้วย

ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ของปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ในปี 2565 นี้ นั้นเกิดจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำที่มีอยู่ ซึ่งแตกต่างจากปี 2554 ที่เกิดจากน้ำเหนือที่หลากลงมาจากการพายุที่เข้าประเทศไทยถึง 5 ลูก โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าปริมาณฝนเฉลี่ยตลอดปี 2565 น่าจะพอๆ กับ ปี 2564 (ปี 65 น้อยกว่าปี 64 อยู่เล็กน้อย) แต่น่าจะมากกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 30 ปี

ที่ผ่านมา ส.ก.ก้าวไกล ได้ติดตาม และกำกับการตระเตรียมระบบระบายน้ำของ กทม. อย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าฝ่ายบริหารก็พยายามเร่งรัดการลอกท่อระบายน้ำอย่างเต็มที่ และในหลายพื้นที่ก็พบปัญหาท่อระบายน้ำอุดตัน เนื่องจากไม่ได้ลอกท่อมานาน

ผมเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังเป็นอย่างดี และยืนยันว่าประชาชนสมควรที่จะไม่พอใจ และติติงระบบระบายน้ำของ กทม. แต่ผมคิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะกล่าวโทษผู้ว่าที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเพียงไม่กี่เดือน

สิ่งหนึ่งต้องยอมรับกันตรงๆ ก็คือ ศักยภาพในการระบายน้ำของ กทม. นั้นมีปัญหาจริงๆ และลำพังแค่การลอกท่อระบายน้ำ ที่เป็นเส้นเลือดฝอย นั้นอาจไม่เพียงพอ เพราะในหลายพื้นที่แม้ว่า ส.ก.ก้าวไกล จะได้เร่งรัดการลอกท่อระบายน้ำไปแล้ว มีเครื่องสูบน้ำไปประจำการแล้ว แต่น้ำก็ยังระบายได้ช้า และท่วมขังอยู่

น้ำที่ท่วมขัง ณ วันนี้ เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า แค่เส้นเลือดฝอย เอาไม่อยู่แน่ครับ

'พิธา' เปิดตัว 'ทนายเคน' ว่าที่ผู้สมัครส.ส. จ.แพร่ ลั่น!! พร้อมผลักดัน 'สุราก้าวหน้า-ทวงคืนผืนป่า' ให้ปชช.

'พิธา' นำทีมเยือนแพร่สร้างการเมืองแห่งความหวังอีกครั้ง ส่ง 'ทนายเคน ติรานนท์' ทนายอาสา ฉายา 'ทนายคนจน' ที่ทำงานช่วยเหลือประชาชนมายาวนานเป็นว่าที่ผู้สมัครจังหวัดแพร่ มอบหมายดันแพร่เป็น 'เมืองหลวงสุราก้าวหน้า - ทวงคืนผืนป่าให้ประชาชน - ภาษีสำหรับดูแลป่า'

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เดินทางมาที่แพร่ครั้งนี้มีความฝังใจ ไม่ใช่เพราะลาบอร่อย เหล้ามีรสชาติดี หรือพี่น้องประชาชนกว่า 127,711 คน หรือครึ่งจังหวัด ให้ความไว้วางใจเลือกเราในสมัยที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ แต่สิ่งที่ฝังใจมากสุดนั้นคือ จ.แพร่ คือที่สุดท้ายที่เรามาก่อนที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ เพราะตอนนั้นเราอยากทำ 3 เรื่องสำคัญให้เกิดขึ้นในจังหวัดแพร่ คือ ทำให้ จ.แพร่เป็นเมืองหลวงของสุราก้าวหน้า การมีเบี้ยดูแลป่าสำหรับชาวแพร่ในฐานะเป็นผู้ดูแลทำให้มีพื้นที่ป่าไม้เป็นอันดับสองของประเทศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาของคนแพร่ 

“เราเชื่อว่าถ้าสิ่งเหล่านี้สามารถปลดล็อกได้จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพี่น้องชาวแพร่ได้อย่างมหาศาล และถึงวันนั้น ลูกหลานคนแพร่ไม่ต้องไปหางานในกรุงเทพฯ หรือต่างประเทศ แต่ทุกคนจะกลับมาทำงานอยู่ที่บ้านเกิดอย่างภาคภูมิใจเพราะมีสินค้าที่ดีที่สุดที่ส่งขายไปทั่วโลก”

"สิ่งที่เราอยากมุ่งมั่นอยากทำให้เกิดขึ้นใน จ.แพร่ นั้นยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุราก้าวหน้า เบี้ยดูแลป่า และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ นี่ยังคงเป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่นจะทำให้กับชาวแพร่ รวมถึงปัญหาเรื่องผลกระทบจากเหมืองแร่ที่พี่น้องชาวแพร่ประสบอยู่ก็ต้องเป็นสิ่งที่ต้องเดินหน้าให้ได้รับการแก้ไข เรายังคงมุ่งมั่นที่จะทลายทุนผูกขาด ปรับโครงสร้างประเทศ ซึ่งไม่ใช่เพียงนโยบายแบบปะผุ แต่เราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง แม้ทั้งหมดนี้จะยังไม่เกิดขึ้น แต่เราก็ยังมีความหวังว่าทำได้ นี่คือการเมืองแห่งความหวัง การเมืองที่เป็นเรื่องของทุกคน และเราหวังว่าพี่น้องชาวแพร่จะลุกขึ้นมาทีละคน บอกกันว่าพอกันทีเผด็จการ พอกันทีการเมืองแบบเดิมๆ และให้ความไว้วางใจเราเหมือนที่เคยไว้วางใจพรรคอนาคตใหม่ โดยมี ‘ทนายเคน’ ติรานนท์ เวียงธรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.แพร่ ที่จะมาตั้งคำถามว่าสุราเถื่อนหรือว่ากฎหมายเถื่อน คนนี้ที่จะมาร่วมต่อสู้กับพี่น้องเรื่องเหมืองแร่ และถ้าเขาได้เข้าไปในสภา ถ้าอยากให้แพร่ก้าวหน้า ต้องกาก้าวไกล" พิธา กล่าว

ด้าน อภิชาติ ศิริสุนทร กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ในฐานะประธานกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เดินทางมาที่ จ.แพร่ ในวันนี้ นอกจากเพื่อร่วมกิจกรรมของพรรคแล้ว ยังมาในนามของ กมธ.การที่ดินฯ เพื่อติดตามปัญหาเรื่องผลกระทบจากเหมืองแรไบท์ ที่พี่น้อง จ.แพร่ ประสบอยู่ และได้เคยเดินทางไปยื่นหนังสือต่อพรรคก้าวไกล มี ส.ส.ของพรรคตั้งกระทู้ถาม จนในที่สุดก็ได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ กมธ.ที่ดินฯ เพื่อให้มาช่วยแก้ไขปัญหานั้น วันนี้จึงเดินทางมาดูในพื้นที่จริง และมีเวทีสอบถามจากพี่น้องประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนได้ข้อสรุปว่า จะมีการส่งเรื่องไปถึงกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ได้เร่งฟื้นฟูพื้นที่ต่อไป โดยจะมีการตั้งคณะทำงานระดับจังหวัดที่ประชาชนมีส่วนร่วมดำเนินการสำหรับในส่วนของพื้นที่สัมปทานแปลงแรก ขณะที่เรื่องของแปลงใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างการขอสัมปทานของนายทุนนั้น เราจะมีหนังสือถึงกระทรวงอุตสาหกรรมให้ทบทวนยกเลิก เพราะว่าผู้รับสัมปทานนั้นทำผิดเงื่อนไข พร้อมกันนี้ก็จะชี้ให้เห็นถึงปัญหาของเดิมที่ยังแก้ไม่จบ ซึ่งถ้าของใหม่เกิดขึ้นอีกปัญหาของประชาชนก็จะยิ่งหนักขึ้นอีกอย่างแน่นอน

'พิธา' มาเหนือ!! เปิดตัว 4 ผู้สมัครลำปางใต้นิยามดินน้ำลมไฟ พร้อมชูวิสัยทัศน์ เปลี่ยน ศก.สีเทา ให้เป็น ศก.สีขาว

'พิธา' เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง 4 เขต ชูวิสัยทัศน์ เปลี่ยนลำปางจากเศรษฐกิจสีเทาของโรงไฟฟ้าเป็นเศรษฐกิจสีขาว สร้างอุตสาหกรรมดูแลผู้สูงวัย-ผู้ป่วยติดเตียง-เศรษฐกิจสร้างสรรค์ 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า แม้การเลือกตั้งที่ผ่านมาในนามพรรคอนาคตใหม่ เราจะไม่มี ส.ส.เขต จ.ลำปาง ทว่าคะแนนเสียงในจังหวัดลำปางเราได้ความไว้วางใจจากประชาชนกว่า 25% ของคะแนนเสียงทั้งจังหวัด ซึ่งทุกคนอยู่ในใจเราตลอดเวลา และอยากที่จะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับที่นี่ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชื่อ 'เศรษฐกิจสีขาว' คือเปลี่ยนเศรษฐกิจสีเทาที่เป็นควันพิษจากโรงไฟฟ้า ซึ่งทำลายสุขภาพของพี่น้อง ให้เป็นเศรษฐกิจสีขาวเรื่องการเป็นเมืองที่ดูแลสังคมผู้สูงวัยของประเทศไทยและของโลกนี้ เพราะ จ.ลำปาง มีผู้สูงอายุสูงที่สุดในประเทศไทย สังคม ไม่มีจังหวัดไหนที่เหมาะสมที่จะทุ่มงบประมาณ ทุ่มทรัพยากรมาดูแลพ่อแก่แม่เฒ่าเท่าที่ลำปาง สร้างอุตสาหกรรมดูแลผู้สูงอายุ ทำให้จังหวัดลำปางเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงวัย และเมื่อเราดูแลผู้สูงวัยที่ลำปางได้ ก็จะดูแลผู้สูงวัยในประเทศไทยได้ ดูแลผู้สูงวัยในเอเชียได้ และดูแลผู้สูงวัยในโลกนี้ได้ เราจะเปลี่ยนสิ่งที่คนคิดว่าเป็นวิกฤตให้เป็นโอกาสคือบำนาญผู้สูงอายุ 3,000 บาทที่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลหน้าของพรรคก้าวไกล

"อีกอย่างที่อยู่ในใจของผมและพรรคตลอดเวลาคือเรื่องของผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่ได้รับการดูแล พรรคก้าวไกลเสนองบประมาณสำหรับผู้ป่วยติดเตียง 9,000 บาทต่อเดือน และยังรวมถึงลูกหลานที่ทำงานไม่ได้เพราะต้องดูแลผู้ป่วย รัฐต้องมีเงินเดือนสำหรับผู้ดูแลด้วย นี่คือวิสัยทัศน์ของเราที่จะเปลี่ยนเศรษฐกิจสีเทาให้เป็นเศรษฐกิจสีขาว และถ้าเราสามารถทำที่ลำปางสำเร็จ ก็จะขยายไปสู่ระดับโลก ให้คนสูงวัยที่มีเงินมากมายมหาศาลในโลกใบนี้มาอยู่ที่ จ.ลำปาง สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดแห่งนี้ และเมื่อรวมกับเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การนำศิลปวัฒนธรรมของพื้นที่มีมาใช้ ก็จะทำให้ก้าวไปได้อีกไกลมาก ๆ" พิธา กล่าว 

พิธา กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์นี้ไม่สามารถเป็นไปได้ถ้าเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานยังไม่ดีพอ วันนี้จึงมาเพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 4 เขตของพรรคก้าวไกล จ.ลำปาง ที่ขอให้นิยามว่าเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ ของลำปาง ได้แก่...

ดิน คือ ชลธานี เชื้อน้อย ว่าที่ผู้สมัครเขต 3 ผู้คอยเกาะติดปัญหาของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ไม่ว่าจะเรื่องการอพยพคนออกจากพื้นที่ การที่ประชาชนเอาโฉนดที่รัฐออกให้เอาไปค้ำประกันธนาคารไม่ได้ รวมถึงการประชาชนโดนมติคณะรัฐมนตรีหลอกเช่าที่ที่หมดอายุแล้วเป็นต้น 

ขณะที่ น้ำ คือ รภัสสรณ์ นิยะโมสถ ว่าที่ผู้สมัครเขต 4 เป็นคนที่ติดตามปัญหาเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง และมีความมุ่งมั่นตั้งใจแก้ปัญหาเรื่องน้ำประปา ผลักดันเรื่อง พ.ร.บ.น้ำประปาสะอาด 

ต่อมา ลม คือ ทิพา ปวีณาเสถียร ว่าที่ผู้สมัครเขต 1 นี่คือลมแห่งการเปลี่ยนแปลง คือคนที่ไว้ใจได้ เพราะสู้มาตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ แพ้เพียง 2,000 คะแนนเท่านั้น และครั้งนี้จะเป็นสายลมแห่งความเปลี่ยนแปลงของลำปาง 

และสุดท้าย ไฟ คือ กฤตภพ สติดีนิติวงศ์ ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 คนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่เมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่งจัดกิจกรรมวิ่งเปลี่ยนงาว บนถนนที่สภาพผุพังเพราะมีปัญหาเรื่องป่าทับที่ นี่คือคนที่จะมาพัฒนาเรื่องการเกษตร เรื่องป่าชุมชน เพราะเป็นลูกหลานของเกษตรกร 

ทั้ง 4 คนนี้คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่จะทำให้ลำปางก้าวหน้า และการจะไปถึงจุดนั้นได้ต้องกาพรรคก้าวไกล 

ชลธานี เชื้อน้อย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 เปิดเผยว่า ความตั้งใจของตนเองที่เป็นมาตลอดคืออยากกลับมาอยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน และเมื่อมาก็ได้พบว่าคนที่บ้านเราไม่มีทุนในการประกอบอาชีพ มองว่าเรื่องที่ดิน เรื่องเอกสารสิทธิ์ จะเป็นการสร้างทุนต่อยอดให้ได้ ทำให้พ่อแก่แม่เฒ่าได้พบกับลูกหลานที่กลับมาทำมาหากินที่บ้านเกิด โดยตั้งใจที่จะทำให้แม่เมาะเป็นต้นแบบพัฒนาทั้งจังหวัด เพราะถ้าสามารถออกเอกสารสิทธิ์ที่แม่เมาะได้ ทั้งจังหวัดลำปางต้องออกเอกสารสิทธิ์ได้  ขณะที่ รภัสสรณ์ นิยะโมสถ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 กล่าวถึง ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำประปาที่ไม่สะอาดว่าเป็นปัญหาแทบจะทุกพื้นที่ใน จ.ลำปาง จึงอยากเข้าไปผลักดัน พ.ร.บ.น้ำประปาสะอาด ให้มีการจัดสรรงบสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ทำประปาหมู่บ้านที่ดีขึ้นได้

'พิธา' พูดคุยกลุ่ม 'ข้าราชการบำนาญ' ย้ำ!! ไม่มีอคติ - ไม่เคยเสนอตัดสวัสดิการ

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวพร้อมสหพันธ์ข้าราชการบำนาญแห่งประเทศไทยที่ได้เข้ามาแลกเปลี่ยนพร้อมนำเสนอแนวทางสวัสดิการมั่นคงที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ห่วงการบริหารงบรัฐบาลที่ผ่านมาทำประเทศไม่มีเงินจ่ายบำนาญในอนาคต

โดยพิธากล่าวว่าที่ผ่านมามีการบิดเบือนว่าพรรคก้าวไกลต้องการตัดเงินบำนาญข้าราชการ ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาในช่วงการพิจารณางบประมาณในวาระ 1 และได้มีการส่งข้อความกันทางไลน์ในวงกว้างว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายที่จะลดเงินบำนาญหรือไม่ และได้มีคำถามจากเครือข่ายข้าราชการบำนาญจากทั่วประเทศถามมายังพรรคก้าวไกลว่าพรรคก้าวไกลจะปรับลดเงินบำนาญตามที่มีการปั่นกระแสกันในไลน์หรือไม่? ซึ่งในครั้งนั้นผมก็ได้ส่งจดหมายชี้แจงใน 3 ประเด็นด้วยกัน คือ

หนึ่ง พรรคก้าวไกลไม่มีอคติกับข้าราชการบำนาญ กลับกัน เราเข้าใจและเห็นใจ มีหลายคนที่เป็นข้าราชการบำนาญมาในวันนี้ด้วย

สอง เรายืนยันว่า บำนาญไม่ได้เป็นปัญหา แต่การหารายได้ของประเทศที่น้อยลง และไขมันในงบที่ตัดไม่ลงเป็นปัญหา ซึ่งถ้าเราไม่ชี้ให้เห็นตอนนี้ อีก 8 ปีจะมีปัญหาจริง ๆ เราเตือนตั้งแต่ ยังไม่สายเกินไป

'พิธา' เยือนมาเลย์ ตามหาอนาคตให้เศรษฐกิจภาคใต้ ยกบทเรียนปีนังสร้างอุตสาหกรรมไฮเทค ฟื้นเมือง

หลังจบสมัยประชุมสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินทางไปเมืองจอร์จทาวน์ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าพบนาย Chow Kon Yeow มุขมนตรี ผู้นำฝ่ายบริหารรัฐปีนัง และเข้าร่วมประชุมกับสภาอุตสาหกรรมรัฐปีนังและสถาบัน Penang Institute ที่เป็นสถาบันการวิจัยการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐปีนัง

พิธากล่าวว่า วาระในการเยือนปีนังในครั้งนี้คือการตามหาอนาคตให้กับอุตสาหกรรมไทย และเศรษฐกิจภาคใต้ของประเทศไทย หลายคนอาจทราบอยู่แล้วว่า ปีนังที่เคยเป็นท่าเรือส่งออกดีบุกและยางพาราของไทยมานับร้อยปี จนทุกวันนี้ไทยไม่เหลือดีบุกแล้ว เหลือแต่ยางพารา แต่ปีนังที่ผูกพันกับภาคใต้ของไทยมายาวนานได้ยกระดับตัวเองเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมไฮเทคระดับโลกไปแล้ว มีสมญานามว่า 'ซิลิคอนวัลเลย์' แห่งตะวันออก

“ผมเลือกมาปีนังเป็นที่แรกๆ หลังจากประกาศวิสัยทัศน์ ‘จากน้ำสะอาดสู่ชิพคอมพิวเตอร์’ เพราะปีนังมีความ ‘เหมือน’ และความ ‘ต่าง’ กับประเทศไทยที่ทำให้ผมเชื่อว่าการสร้างอุตสาหกรรมอนาคตที่ไฮเทคให้กับเมืองไทยยังเป็นไปได้” พิธากล่าว

ในส่วนความเหมือน พิธาขยายความว่าอยู่ที่ความสำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E&E สำหรับปีนังอุตสาหกรรม E&E มีมูลค่าการส่งออกปีละ 3 ล้านล้านบาท จ้างงาน 300,000 คน สำหรับประเทศไทย E&E ก็สำคัญมากเช่นกันด้วยมูลค่าส่งออกปีละ 2 ล้านล้านบาท จ้างงาน 750,000 คน ซึ่งอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั้งที่ไทยและปีนัง เริ่มสร้างมา 40 ปีก่อนเหมือนกัน เริ่มสร้างจากการเป็นฐานการประกอบชิ้นส่วนที่มูลค่าเพิ่มต่ำ และเน้นแข่งขันกับโลกด้วยราคาแรงงานที่ต่ำ แต่เมื่อจีนและเวียดนามเปิดประเทศในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ก็ทำให้ทั้งไทยและปีนังสูญเสียศักยภาพการแข่งขันเรื่องค่าแรงไปช่วงหนึ่งเลยทีเดียว

แต่สิ่งที่แตกต่าง พิธากล่าวว่า คือการที่ปีนังสามารถที่จะปรับตัว ยกระดับอุตสาหกรรม และคว้าโอกาสจากสงครามการค้าและวิกฤติภูมิรัฐศาสตร์จนสามารถดึงนักลงทุนที่ต้องการย้ายฐานการผลิตมาได้อย่างมหาศาลจนในปี 2564 การลงทุนในปีนังเติบโตถึง 440% สามารถกลับมาเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมไฮเทคระดับโลกได้อีกครั้ง มีโครงการลงทุนที่เป็นข่าวเช่น การลงทุนโรงงานประกอบและทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ของ Intel มูลค่า 2.5 แสนล้านบาท

“สินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทยไปมาเลเซียก็คืออิเล็กทรอนิกส์ สินค้าส่งออกอันดับ 1 จากมาเลเซียมาไทยก็อิเล็กทรอนิกส์เหมือนกัน มาเลเซียเป็นผู้ผลิต Magnetic Disk มาผลิตเป็น Hard Disk Drive ส่งให้ไทยไปขายทั่วโลก แต่ถ้าเราจะยังเชื่อมโยงกันมากขึ้นต่อไปในอนาคต ประเทศไทยก็ต้องพัฒนา โครงสร้างพื้นฐาน ความเร็วของบริการภาครัฐ กฎระเบียบภาครัฐ และศักยภาพบุคลากร เพื่อให้ตอบโจทย์นักลงทุนไฮเทค” พิธากล่าว

'นักวิชาการ' ชำแหละ!! 'พระเอกลิเก' นักด้อยค่าความเป็นไทย ฝันจะเป็นนายกฯ

เมื่อไม่นานมานี้ นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า...

สถานะ:
•พระเอกลิเก 
•นักด้อยค่าความเป็นไทย
•ฝันจะเป็นนายกฯ

รถไฟไทยที่ทันสมัยมีให้พูดถึง
แต่นักด้อยค่าความเป็นไทย เลี่ยงที่จะพูดถึง เพราะกลัวคนรู้ความจริงว่า 8 ปีกับรัฐบาลประยุทธ์ พัฒนาไทยก้าวไกลไปสูดกู่

รถไฟฟ้า BTS และ MRT ก็คือรถไฟ

'พิธา - ศิริกัญญา' เข้าพบกลุ่มไฟฟ้าฯ สอท. ร่วมหาแนวทางยกระดับเทคโนโลยีประเทศไทย

ในวันที่ 20 กันยายน 2565 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลในฐานะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจของสภาผู้แทนราษฎรได้เข้าพบ ดร.ขัติยา ไกรกาญจน์ ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยกระดับเทคโนโลยีของประเทศ

พิธากล่าวว่า หลังจากปิดสมัยประชุมสภาตนก็ได้นั่งรถไฟไปพบกับมุขมนตรีและสภาอุตสาหกรรมของปีนัง เพื่อถอดบทเรียนความสำเร็จของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ต่อเนื่องกันในวันนี้จึงได้ขอเข้าพบประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ฯ ซึ่งภาคอิเล็กทรอนิกส์เป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญกับประเทศ เนื่องจากมีมูลค่าการส่งออกกว่า 2.2 ล้านล้านบาท และจ้างงานถึง 750,000 คน ในวันนี้จึงได้มาหารือถอดบทเรียนการพัฒนาอุตสาหกรรมตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมา และทำให้ได้เข้าใจถึงสิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมในไทยต้องสู้มาตลอดหลายสิบปี ในเรื่องเช่น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top