'พิธา' เปิดตัว 'ทนายเคน' ว่าที่ผู้สมัครส.ส. จ.แพร่ ลั่น!! พร้อมผลักดัน 'สุราก้าวหน้า-ทวงคืนผืนป่า' ให้ปชช.

'พิธา' นำทีมเยือนแพร่สร้างการเมืองแห่งความหวังอีกครั้ง ส่ง 'ทนายเคน ติรานนท์' ทนายอาสา ฉายา 'ทนายคนจน' ที่ทำงานช่วยเหลือประชาชนมายาวนานเป็นว่าที่ผู้สมัครจังหวัดแพร่ มอบหมายดันแพร่เป็น 'เมืองหลวงสุราก้าวหน้า - ทวงคืนผืนป่าให้ประชาชน - ภาษีสำหรับดูแลป่า'

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เดินทางมาที่แพร่ครั้งนี้มีความฝังใจ ไม่ใช่เพราะลาบอร่อย เหล้ามีรสชาติดี หรือพี่น้องประชาชนกว่า 127,711 คน หรือครึ่งจังหวัด ให้ความไว้วางใจเลือกเราในสมัยที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ แต่สิ่งที่ฝังใจมากสุดนั้นคือ จ.แพร่ คือที่สุดท้ายที่เรามาก่อนที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ เพราะตอนนั้นเราอยากทำ 3 เรื่องสำคัญให้เกิดขึ้นในจังหวัดแพร่ คือ ทำให้ จ.แพร่เป็นเมืองหลวงของสุราก้าวหน้า การมีเบี้ยดูแลป่าสำหรับชาวแพร่ในฐานะเป็นผู้ดูแลทำให้มีพื้นที่ป่าไม้เป็นอันดับสองของประเทศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาของคนแพร่ 

“เราเชื่อว่าถ้าสิ่งเหล่านี้สามารถปลดล็อกได้จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพี่น้องชาวแพร่ได้อย่างมหาศาล และถึงวันนั้น ลูกหลานคนแพร่ไม่ต้องไปหางานในกรุงเทพฯ หรือต่างประเทศ แต่ทุกคนจะกลับมาทำงานอยู่ที่บ้านเกิดอย่างภาคภูมิใจเพราะมีสินค้าที่ดีที่สุดที่ส่งขายไปทั่วโลก”

"สิ่งที่เราอยากมุ่งมั่นอยากทำให้เกิดขึ้นใน จ.แพร่ นั้นยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุราก้าวหน้า เบี้ยดูแลป่า และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ นี่ยังคงเป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่นจะทำให้กับชาวแพร่ รวมถึงปัญหาเรื่องผลกระทบจากเหมืองแร่ที่พี่น้องชาวแพร่ประสบอยู่ก็ต้องเป็นสิ่งที่ต้องเดินหน้าให้ได้รับการแก้ไข เรายังคงมุ่งมั่นที่จะทลายทุนผูกขาด ปรับโครงสร้างประเทศ ซึ่งไม่ใช่เพียงนโยบายแบบปะผุ แต่เราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง แม้ทั้งหมดนี้จะยังไม่เกิดขึ้น แต่เราก็ยังมีความหวังว่าทำได้ นี่คือการเมืองแห่งความหวัง การเมืองที่เป็นเรื่องของทุกคน และเราหวังว่าพี่น้องชาวแพร่จะลุกขึ้นมาทีละคน บอกกันว่าพอกันทีเผด็จการ พอกันทีการเมืองแบบเดิมๆ และให้ความไว้วางใจเราเหมือนที่เคยไว้วางใจพรรคอนาคตใหม่ โดยมี ‘ทนายเคน’ ติรานนท์ เวียงธรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.แพร่ ที่จะมาตั้งคำถามว่าสุราเถื่อนหรือว่ากฎหมายเถื่อน คนนี้ที่จะมาร่วมต่อสู้กับพี่น้องเรื่องเหมืองแร่ และถ้าเขาได้เข้าไปในสภา ถ้าอยากให้แพร่ก้าวหน้า ต้องกาก้าวไกล" พิธา กล่าว

ด้าน อภิชาติ ศิริสุนทร กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ในฐานะประธานกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เดินทางมาที่ จ.แพร่ ในวันนี้ นอกจากเพื่อร่วมกิจกรรมของพรรคแล้ว ยังมาในนามของ กมธ.การที่ดินฯ เพื่อติดตามปัญหาเรื่องผลกระทบจากเหมืองแรไบท์ ที่พี่น้อง จ.แพร่ ประสบอยู่ และได้เคยเดินทางไปยื่นหนังสือต่อพรรคก้าวไกล มี ส.ส.ของพรรคตั้งกระทู้ถาม จนในที่สุดก็ได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ กมธ.ที่ดินฯ เพื่อให้มาช่วยแก้ไขปัญหานั้น วันนี้จึงเดินทางมาดูในพื้นที่จริง และมีเวทีสอบถามจากพี่น้องประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนได้ข้อสรุปว่า จะมีการส่งเรื่องไปถึงกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ได้เร่งฟื้นฟูพื้นที่ต่อไป โดยจะมีการตั้งคณะทำงานระดับจังหวัดที่ประชาชนมีส่วนร่วมดำเนินการสำหรับในส่วนของพื้นที่สัมปทานแปลงแรก ขณะที่เรื่องของแปลงใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างการขอสัมปทานของนายทุนนั้น เราจะมีหนังสือถึงกระทรวงอุตสาหกรรมให้ทบทวนยกเลิก เพราะว่าผู้รับสัมปทานนั้นทำผิดเงื่อนไข พร้อมกันนี้ก็จะชี้ให้เห็นถึงปัญหาของเดิมที่ยังแก้ไม่จบ ซึ่งถ้าของใหม่เกิดขึ้นอีกปัญหาของประชาชนก็จะยิ่งหนักขึ้นอีกอย่างแน่นอน

"เหมืองแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ป่า โดยได้สัมปทานจากรัฐให้เข้ามาดำเนินการ แต่ทว่าก็สร้างผลกระทบกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการที่ดินจากเหมืองที่ทรุดทับถมลำน้ำจนเปลี่ยนทาง ปัญหาฝุ่นควัน รวมถึงปัญหาการสูญเสียพื้นที่ป่า ซึ่งประชาชนเห็นว่าควรต้องเร่งฟื้นฟู แต่อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปที่เราอยากเห็นคือที่ตรงนี้ไม่ควรเป็นเหมือง และไม่ควรที่จะเป็นป่าสงวนแห่งชาติด้วย แต่ควรเป็นป่าชุมชนที่ให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่าได้ สำหรับข้อสรุปของกรรมาธิการในวันนี้ เมื่อมีหนังสือไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เราไม่แน่ใจว่าหน่วยงานที่มีหน้าที่จะดำเนินการอย่างไร แต่เราจะติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิด เพราะอำนาจกลไกกรรมาธิการนั้น ไม่สามารถที่ออกคำสั่งได้เลยเหมือนฝ่ายบริหาร แต่อย่างไรก็ตามหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล กรณีเหมืองที่ทำผิดสัญญาสัมปทาน และสร้างผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนแบบนี้ ต้องถูกยกเลิกทันที กรณีแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนหากมีนายกรัฐมนตรีชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" อภิชาติ กล่าว

ขณะที่ ทนายเคน ติรานนท์ เวียงธรรม กล่าวว่า ตัวเองเป็นคนแพร่โดยกำเนิด โดยมีพ่อแม่เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย แม่เป็นครู พ่อเป็นตำรวจ และก็ส่งให้ตัวเองได้มีโอกาสไปเรียนในกรุงเทพฯ และเป็นทนายความอยู่ที่นั่นระยะหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต ได้เคยสัญญากับพ่อไว้ว่าจะกลับมาเป็นทนายความเพื่อช่วยผู้ตกทุกข์ได้ยากในบ้านเกิด และวันนี้ได้กลับมาทำในสิ่งที่เคยสัญญาไว้แล้ว ปัจจุบัน เป็นทนายความอาสาประจำศาลจังหวัดแพร่ ที่คนส่วนใหญ่จะรู้จักกันดีและเรียกกันในฉายาว่าทนายคนจน คนเราจะประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่เพราะใครเก่งกว่าใคร หากแต่คือการได้รับโอกาส และประเทศไทยจะก้าวหน้าได้ ประชาชนคนไทยพ้นความยากจนได้ เราต้องทำให้คนมีโอกาสเท่ากัน เราทุกคนต้องการโอกาสเข้าถึงการศึกษา ต้องการโอกาสเข้าถึงสาธารณสุข ต้องการโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรที่เป็นปัจจัยการผลิต ต้องการเข้าถึงโอกาสในการประกอบอาชีพ และต้องการโอกาสในการมีสวัสดิการถ้วนหน้าที่ไม่ต้องไปลงทะเบียนประจานความยากจนของตนเอง นี่คือสิ่งที่ผมอยากเข้าไปผลักดันให้เกิดขึ้นร่วมกับพรรคก้าวไกล