Monday, 6 May 2024
กรุงเทพ

'ชาวเน็ต' ขุด 'เพจอัศวิน' โพสต์รายงานน้ำท่วมเพียบ เทียบ 'เพจชัชชาติ' มีแต่ไลฟ์ หาอ่านข้อมูลไม่ได้

(13 ก.ย. 65) ขณะนี้ชาวเน็ตให้ความสนใจไปที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งโพสต์เปรียบเทียบการรายงานสถานการณ์และแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร (กทม.) ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ คนก่อน โดยมีรายละเอียดดังนี้

เปิดไปดูเพจอดีตผู้ว่ากทม. อัศวิน ขวัญเมือง เลื่อนดูเล่น ๆ ในช่วงเวลาหน้าฝนแทบทุกวันมีแต่ข้อมูล และรายงานว่าได้สั่งงานอะไรบ้าง

รายงานตัวเลขหมด

ความน่าจะเป็นที่กรมอุตุเตือนรอบ 7 วันข้างหน้าว่าอาจจะมีฝนหนักแค่ไหน

มีการรายงานตัวเลขระดับน้ำแต่ละสถานีระบายน้ำ ว่าอยู่ระดับไหน พร้อมสำหรับรับน้ำแค่ไหน

ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสูงแค่ไหน น้ำทะเลหนุนแค่ไหน ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านประตูในแต่ละวันระบายได้แค่ไหน เพื่อประเมินกำลังในการระบายหากฝนตกหนัก

'อัษฎางค์' ชี้!! ปัญหาน้ำท่วมมีมาตลอด 200 กว่าปี แต่ไม่ใช่เพราะฝนตกหนักที่สุดในรอบ 6 ปี 30 ปี 100 ปี

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก 'เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค' โดยระบุว่า...

“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่น้ำมากที่สุดในรอบกี่ปี แต่อยู่ที่ผู้ว่าที่ไม่รู้จักการจัดการกับปัญหาที่มันมีอยู่คู่กับกรุงเทพตลอดมาต่างหาก”

ไอ้ที่ท่วมหนักปีนี้ ไม่ใช่เพราะฝนตกหนักที่สุดในรอบ 6 ปี 30 ปี 100 ปี หรอก

แต่หนักตรงที่มีผู้ว่าที่ “ไม่มีปัญญาจัดการกับปัญหาที่มันมีอยู่ทุกปี” ต่างหาก

ทำให้ปีนี้หนักที่สุด 
เขตไหนไม่เคยท่วม ก็ท่วม

ปัญหาน้ำท่วม อยู่คู่กับกรุงเทพมา 200 กว่าปีแล้ว

ปีไหนที่มันท่วมหนัก ไม่ใช่เพราะปัญหาจากน้ำหรอก เพราะน้ำคือปัจจัยพื้นฐานที่อยู่คู่กับปัญหาน้ำท่วม ที่ใครจะมาเป็นผู้ว่า ควรรู้อยู่แล้ว มิใช่หรือ

ย้ำว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่น้ำ เพราะน้ำท่วมมาตลอด 200 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่ตั้งกรุงเทพฯ แล้ว

แต่อยู่ที่ผู้นำไม่รู้จักการจัดการกับปัญหาที่มันมีอยู่คู่กับกรุงเทพฯ มาตลอด 200 กว่าปีต่างหาก

ตัวเองก็อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มาตลอดชีวิต

แถมบอกว่า ได้ศึกษา เตรียมตัว มาก่อนเป็นผู้ว่ากว่า 2 ปี

ฝนตกตูมเดียว กรุงเทพฯ จมน้ำทันที 

'บิ๊กป้อม' ขอคนกรุงเชื่อมั่น ทุกฝ่ายต่างเร่งแก้น้ำท่วม ย้ำ!! ไม่ท่วม พร้อมยัน 'ชัชชาติ' แข็งแกร่งต้องชื่นชม

ขอคนกรุงเทพมั่นใจ ทุกฝ่ายต่างเร่งแก้น้ำท่วม ย้ำ!! ไม่ท่วม และ 'ชัชชาติ' แข็งแกร่งต้องชื่นชม 

พล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2565

'ชัชชาติ' ขอบคุณ 'บิ๊กป้อม' ทำโครงการบ้านมั่นคง ช่วยคลองลาดพร้าว ระบายน้ำคล่องตัวดีขึ้นมาก

(14 ก.ย. 65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ตรวจเยี่ยมพื้นที่น้ำท่วมเขตมีนบุรี และเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร โดยจุดแรกเวลา 15.10 น. ไปที่ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ (ตอนมีนบุรี) มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวิรัตน์ รัตนเศรษฐ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.มีนบุรี พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ

พล.อ.ประวิตร รับฟังการบรรยายเรื่องการบริหารจัดการน้ำภายในคันกั้นน้ำพระราชดำริและโครงการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสียมีนบุรี ระยะ 1 และระยะ 2 จากนายชัชชาติ โดยนายชัชชาติระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาฝนตกในพื้นที่กทม.จำนวนมาก ตอนนี้อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ โดยหลังจากนี้จะเสนอแผนทำทางด่วนน้ำให้การระบายน้ำไม่ต้องไปผ่านบริเวณพระโขนง โดยจะเร่งเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ในเดือนต.ค.นี้ 

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมีปัญหาน้ำหลายคลองยังอยู่ในสถานการณ์วิกฤต จึงต้องเร่งระดมเครื่องสูบน้ำจากหลายหน่วยงานเข้ามาสนับสนุน โดยภายใน 1-2 วันนี้จะเร่งทยอยปิดล้อมหมู่บ้าน เพื่อสูบน้ำออกจากบริเวณที่ท่วมขังให้เร็วที่สุด

นายชัชชาติ รายงานว่า ปริมาณน้ำที่ประตูระบายน้ำแห่งนี้ยังไม่เท่าในปี 2554 ยังมีความห่างในระดับความสูงของน้ำอีกประมาณ 50 เซนติเมตร พร้อมระบุว่า ปริมาณน้ำในพื้นที่มีนบุรีไม่หนักมาก ที่หนักคือคลองประเวศ ลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร ซึ่งต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ไปทำเรื่อง 'บ้านมั่นคงในคลองลาดพร้าว' ดีขึ้นมาก ทำให้การระบายน้ำคล่องตัว

'ชัยวุฒิ' ลงพื้นที่เขตบางเขน แจกถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อม ภญ.นพวรรณ หัวใจมั่น ว่าที่ผู้สมัคร เขตบางเขน พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ซอยกาญจนา 5/1  แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน เพื่อมอบถุงยังชีพช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังมานาน เนื่องจากชุมชนแห่งนี้อยู่ติดคลองพระยาสุเรนทร์

โดยนายชัยวุฒิ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ในส่วนของรัฐบาล ก็เร่งเข้าไปช่วยเหลือดูแลประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา เช่น การยกพื้นที่ให้สูงขึ้น หรือทำคันกั้นน้ำ และทำทางด่วนระบายน้ำให้ดีขึ้น ไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากต่อไป ซึ่งขณะนี้ผู้ว่าฯ กทม. และรัฐบาลได้หารือกันเพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหา ที่สำคัญต้องคุยกันเรื่องอนาคตว่าจะหาวิธีระบายน้ำอย่างไร ในระยะยาว

ซึ่งจากการลงพื้นที่ ชาวบ้าน ต้องการให้เข้ามาเยียวยาซ่อมแซมบ้าน และเยียวยาพื้นที่การเกษตร และเยียวยารายได้ที่หายไป

'พงศ์พรหม' เน้น 95% ความสกปรก 'กทม.-เมืองไทย' ไม่ใช่ความห่วยของภาครัฐที่เราด่าเขาทั้งวัน

'พงศ์พรหม' ชี้!! ทุกครั้งที่คนไทยไปต่างประเทศ แทบทุกคนจะเอาสิ่งดี ๆ ในต่างประเทศมาเปรียบเทียบกับไทย แล้ว 'ด่า' ทั้งที่บางเรื่องเกิดจากพฤติกรรมคนไทยทั้งนั้น

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pongprom Yamarat ระบุว่า..

ผมไม่ได้ออกนอกประเทศมาร่วม ๆ 4 ปี

ไปญี่ปุ่นครั้งนี้ผมมีมุมมองเมืองไทยที่เปลี่ยนไปเยอะ ที่อยากชวนเพื่อนๆ มาแบ่งปันกัน

เวลาเราไปต่างประเทศ แทบทุกคนจะเอาสิ่งดี ๆ ในต่างประเทศมาเปรียบเทียบกับไทย

ผมก็เป็น!!

เวลาเราบอกว่า ญี่ปุ่นสะอาด เยอรมันการเดินทางดี สิงคโปร์มีต้นไม้เยอะ

พอมองย้อนกลับมาไทย เรามักจะเริ่มต้นด้วยการด่า

ด่า ด่า ด่า ด่า ด่า ด่า 

เอาแค่ถนนในญี่ปุ่น สิงคโปร์ จีน (เช่นเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง) แม้แต่มาเลเซีย ที่สะอาดกว่ากรุงเทพมาก

เวลาเราด่า เราด่าใคร?
1. กทม.ห่วย ไม่ดูแลให้ดี
2. คนที่อยู่ในกรุงเทพนี่แหละ

แน่นอน กทม.โดนประจำแหละครับ ผมเองก็ด่าเขาบ่อย ซึ่งก็จะด่าไปเรื่อยๆ นะ

แต่เหตุใหญ่มันคือ 'คุณภาพ และความรับผิดชอบของประชาชน' ครับ

ถ้าไม่มีขยะบนถนนซะอย่าง กทม.เค้าก็ไม่ต้องมาตามเก็บทั้งวัน

ผมนั่งสังเกตที่ USJ (Universal Studio Japan) ที่คนแน่นคลั่ก

ตลอด 3 ชั่วโมง ผมเห็นคนทำความสะอาดคนเดียว!!

เพราะที่ตามถนนมันสะอาดได้ เพราะคนญี่ปุ่นไม่ทิ้งขยะเรี่ยราด

นั่นคือสิ่งที่ทำให้บ้านเมืองเขาสะอาด

‘เดชรัต’ หวั่น 6-10 ต.ค. 'กทม.-นนทบุรี' เสี่ยงท่วมหนัก ชี้!! รัฐต้องแจ้งแผนโดยเร็ว ปชช.จะได้เตรียมตัวถูก

‘เดชรัตน์-ก้าวไกล’ เตือน ลุ่มน้ำเจ้าพระยาส่อวิกฤต 6-10 ต.ค. น้ำทะเลหนุนสูง กรุงเทพ-นนทบุรีเสี่ยงท่วมหนัก ชี้ รัฐบาลต้องประกาศแผนเผชิญเหตุให้ทราบโดยเร็ว

เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center พรรคก้าวไกล ได้ออกมาเตือนสถานการณ์ สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีความเสี่ยงสูงมากที่จะมีน้ำท่วมในวงกว้างซึ่งกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะได้รับผลกระทบ 

เดชรัตกล่าวว่า ปริมาณน้ำเหนือยังคงเพิ่มมาเรื่อย แม้จะไม่มากเท่าปี 54 แต่เขื่อนต่าง ๆ เริ่มมีความสามารถในการรับน้ำได้อีกไม่มาก และยังต้องระบายออกต่อไป เพราะ ด้วยอิทธิพลของปรากฎการณ์ลานิลญา ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังมีฝนต่อเนื่องจนถึงปลายเดือนตุลาคม ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยาประกาศว่า อาจจะปล่อยน้ำสูงถึง 2,800 ลบ.ม./วินาที และเขื่อนป่าสักอาจปล่อยน้ำสูงถึง 800 ลบ.ม./วินาที 

สำหรับสถานการณ์น้ำในแต่ละจังหวัดในลุ่มน้ำพระยาตอนบน จากข้อมูลที่รวบรวมจากที่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก้าวไกล พบว่าในเขื่อนต่าง ๆ เช่น เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสัก เพิ่มการระบายน้ำเร็วมาก บางพื้นที่คันกั้นน้ำแตกเสียหาย พื้นที่ที่ไม่เคยท่วมมากก่อน ประชาชนต้องอพยพข้าวของอย่างฉุกละหุก นอกจากนี้ ยังพบว่า ประชาชนในศูนย์อพยพหลายแห่ง ยังไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ เช่น เต้นท์ไม่พอ สุขาไม่พอ

“ในพื้นที่ อ.บางบาง จ.อยุธยา ที่เป็นทุ่งรับน้ำเกิดความขัดแย้งขึ้น จากการที่มีบ่อทรายและบ่อขยะอยู่ในพื้นที่ทุ่งรับน้ำ ทำให้ไม่มีการปล่อยน้ำลงทุ่งรับน้ำแบบที่ควรจะเป็น ในขณะที่ประชาชนบางส่วนที่ได้รับควาทเดือดร้อนเรียกร้องให้ปล่องน้ำเข้าสู่ทุ่งรับน้ำ”

สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เมื่อเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสักปล่อยน้ำมามากขึ้น ทำให้ปริมาณการไหลของน้ำที่จุดบางไทร ซึ่งเป็นจุดวิกฤตสำหรับพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง รวมถึงกรุงเทพและปริมณฑล ปริมาณการไหลของน้ำอาจสูงเกิน 3,300-3,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งแปลว่า จะเต็มอัตราความจุของลำน้ำตามธรรมชาติพอดี และยังเป็นข้อจำกัดในการระบายน้ำด้วย แถมด้วยปัจจัยน้ำทะเลหนุนสูง ตั้งแต่วันที่ 6-10 ตุลาคม 2565 จะทำให้พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ในภาวะเสี่ยงอย่างมาก 

“นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร จากวันนี้ไป พื้นที่ริมฝั่งเจ้าพระยา และคลองอ้อมนนท์ จะมีความเสี่ยงสูงมาก คันกันน้ำชำรุด น้ำท่วมขังจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ไม่สามารถระบายน้ำได้ เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนมาพร้อมกันทำให้ระบบระบายน้ำไม่สามารถรองรับฝนหนักมาก ที่มีปริมาณฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตรได้ดีนัก แม้ว่าตอนนี้ อปท. ต่าง ๆ ทำการพร่องน้ำในคลอง ในท่อ ยังเต็มที่ แต่ความสามารถในการสูบน้ำอาจทำได้จำกัดมากขึ้น ส่วนในกรุงเทพมหานครยังต้องระมัดระวัง การระบายน้ำไปในพื้นที่ทางตะวันออกของกรุงเทพมหานครด้วย” 

เดชรัต กล่าวต่อว่า ปัญหาในการรับมืออุทกภัยในปี 2565 โดยภาพรวมแม้ว่า พื้นที่และระดับการท่วมของน้ำจะไม่มากเท่าระดับปี 2554 แต่ก็มีพื้นที่และประชาชนที่ประสบภัยมากกว่าปี 2564 แน่นอน เพราะฉะนั้น รัฐบาลควรยกระดับการเตรียมความพร้อมรับมือ การเผชิญเหตุ และการเยียวยาขั้นสูงสุด 

'กรุงเทพ' คว้าแชมป์เมืองท่องเที่ยวพักผ่อน 'ที่ดีที่สุด' ในเอเชียแปซิฟิก

(23 ต.ค.65) Business Traveller สื่อธุรกิจท่องเที่ยวชื่อดัง ประกาศรายชื่อ ผู้ชนะรางวัลด้านการท่องเที่ยวอันยิ่งใหญ่ในภูมิภาค นั้นก็คือ รางวัล Business Traveller Asia-Pacific จัดขึ้นเป็นปีที่ 31 ของงานแจกรางวัล และยังคงจัดอย่างต่อเนื่องเพื่อเฉลิมฉลองให้กับสิ่งที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมการเดินทางและการโรงแรม ซึ่งได้รับการโหวตจากกรรมการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดในภูมิภาค ได้แก่ ผู้อ่าน Business Traveller Asia-Pacific

ผู้อ่านของเราเป็นผู้เชี่ยวชาญ สำหรับการเดินทางเพื่อทำธุรกิจ โดยเฉลี่ย 19 ครั้งต่อปี (ก่อนเกิดโควิด-19) ซึ่งสามารถประเมินว่าอะไรคือเที่ยวบินที่สมบูรณ์แบบและโรงแรมที่ยอดเยี่ยม ในแต่ละปีเราเชิญสมาชิกที่ภักดีของเรามากกว่า 30,000 รายให้ลงคะแนนเสียงใน Reader Poll และแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับทุกอย่างตั้งแต่แบรนด์โรงแรมที่พวกเขาชื่นชอบหรือโรงแรมที่ต้องการในเมืองใดเมืองหนึ่ง ไปจนถึงประสบการณ์บนเครื่องบินที่ดีที่สุด หรือสนามบินและสายการบินที่ต้องการ

ในขณะที่ปีนี้เรากลับมาขอความคิดเห็นของผู้อ่านในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาเท่านั้น (ปีที่แล้วคือ 24 เดือนเนื่องจากสถานการณ์ทั่วโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน) เรายังคงขอให้ผู้อ่านพิจารณาประสบการณ์ที่ไม่ใช่การเดินทางที่เกี่ยวข้องกับโควิดและผลที่ตามมา รวมถึงระดับ ด้านการสื่อสาร ประสิทธิภาพ ความอ่อนไหว และการสนับสนุนจากบริษัทและองค์กรภายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

'บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก' บุกตรวจผับนอมินีต่างชาติในคืนฮาโลวีน 7 แห่ง คาดโทษตำรวจท้องที่ละเลยบกพร่อง ลงโทษสถานหนัก

เซอร์ไพรส์คืนฮาโลวีน 'บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก' นำกำลัง 200 นาย สุ่มตรวจค้นสถานบันเทิงนายทุนต่างชาติเป็นนอมินี 7 แห่งทั่ว กทม.คาดโทษท้องที่ละเลยบกพร่องต้องรับผิดชอบ

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 1 พ.ย.พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.(ปป.) และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. (สส.) พร้อมชุดปฏิบัติการ บช.น., บช.สอท., บช.ปส., บช.สตม. พิสูจน์หลักฐาน และ บช.ทท.กว่า 200 นาย เข้าตรวจค้น ผับ บาร์ สถานบริการซึ่งคาดว่าเป็นของนายทุนต่างชาติ และนอมินีพร้อมกัน 7 จุด ทั่วกรุงเทพมหานคร โดยมีสถานบันเทิงขนาดใหญ่ อาทิ ร้าน แอสการ์ด (Asgard) บาร์โฮส ย่านห้วยขวาง และสถานบันเทิงเบบี้เฟส ย่านเอกมัย โดยใช้เวลาปฏิบัติการประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่คณะรอง ผบ.ตร. ทั้ง 2 นาย จะเดินทางมาสรุปผลปฏิบัติการที่ร้านแอสการ์ด บาร์โฮส แยกเหม่งจ๋าย

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ปฏิบัติการในค่ำคืนนี้เป็นการทำงานร่วมกัน ระหว่างตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปรามและตำรวจฝ่ายสืบสวน จากผลการปฏิบัติงาน ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ซึ่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนมาตั้งแต่คดีที่พัทยา โดยการทำงานจะเน้นไปที่เรื่องของยาเสพติด อาวุธปืน และ การปล่อยเด็กเข้าใช้บริการ อย่างที่เคยกล่าว ว่า 3 เรื่องนี้ เป็นหน้าที่ของสถานบันเทิงจะต้องเป็นผู้คัดกรองอยู่แล้ว ต้องไม่ให้มีเล็ดลอดเข้าไป หลังจากนี้เรื่องการกวดขันสถานบันเทิง เราจะทำงานบูรณาร่วมกันทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวน ใช้กำลังพลของทุกกองบัญชาการ รวมถึงปัญหาบุคคลต่างชาติที่เข้ามาทำงานในบ้านเรา โดยเฉพาะปัญหามาเฟียต่างชาติ หลาย ๆ แก๊ง

พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผลการปฏิบัติงานวันนี้ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย มีเพียงผลตรวจปัสสาวะนักท่องเที่ยวที่พบสารเสพติด ซึ่งอาจเป็นการเสพมาจากภายนอกสถานบันเทิง ในวันนี้ที่มี รอง ผบ.ตร.นำกำลังลงพื้นที่ ตรวจตราตามสถานบันเทิงถึง 2 คน ตนถือว่า พวกตนมาเปิดปฏิบัติการให้แล้ว หลังจากนี้ตำรวจท้องที่ก็ต้องทำงานกวดขันตามนโยบายด้วย หากตรวจพบภายหลัง ว่า ละเลยบกพร่อง เจ้าของท้องที่ก็ต้องรับผิดชอบ หากในภายหลังตรวจพบความผิด จำเป็นต้องลงโทษไม่มีการตักเตือน ในส่วนของสถานบันเทิงหากคุณทำผิดต้องปิด 5 ปี แอบเปิดเมื่อไหร่ ก็มีโทษจำคุก เนื่องจากเป็นนโยบายที่ท่าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการเอาไว้แล้ว เข้าใจว่า เราเพิ่งผ่านพ้นสถานการณ์ความลำบากมาจากโควิด 19 การลงตรวจสอบของตำรวจ ย่อมส่งผลกระทบในภาพรวมต่อสถานบันเทิง แต่เมื่อคุณมีอาชีพทำสถานบันเทิง คุณก็ต้องอยู่ในกรอบ ปฏิบัติตามกฎหมาย และช่วยสอดส่องดูแลไม่ให้มีสิ่งผิดกฎหมายด้วย

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ท่าน ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำและกำชับ ในมาตรการป้องกันและตรวจค้นสารเสพติด อาวุธ และเยาวชน ในสถานบริการอย่างเคร่งครัด วันนี้ก็มีการบูรณาการร่วมกันลงพื้นที่ตรวจค้นประมาณ 7 แห่ง ทั่วกรุงเทพมหานคร โดยใช้กำลังจาก บช.ปส., บช.สตม., บช.น., บช.ทท. และ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ในแต่ละจุดที่ทำการตรวจค้น มีการนำน้ำยาตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ลงไปตรวจทดสอบประมาณ 300 ชุด ผลการตรวจสอบมีนักท่องเที่ยวฉี่สีม่วงเพียง 1-2 คน ซึ่งถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดี แต่อาจเป็นเพราะคืนนี้ แม้จะเป็นเทศกาลฮาโลวีน แต่เป็นวันธรรมดา ไม่ใช่วันหยุดทำให้นักท่องเที่ยวน้อยก็เป็นได้ 

ในส่วนของการสืบสวนที่ตนรับผิดชอบ หลังจากนี้ หากพบว่ามีสถานบันเทิงฝ่าฝืนกฎหมายกระทำความผิด ก็จะต้องขยายผลหาตัวเจ้าของกิจการมาดำเนินคดีต่อไป คดีผับศูนย์เหรียญ บ่อนศูนย์เหรียญ ที่ สน.ยานนาวา และ สน. สุทธิสาร ก็ยังต้องดำเนินการต่อคาดว่าภายใน 2-3 วัน จะมีการออกหมายจับ ผู้กระทำความผิดได้เกือบทั้งหมด หลังจากทำการเช็คเส้นทางของเงิน และช่องทางการติดต่อสื่อสารของผู้ร่วมขบวนการ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

'ดร.นิว' ชี้!! เผด็จการเท่านั้นที่คิดป่วนเอเปก อัด!! ชัชชาติไม่รู้กาลเทศะเอาใจม็อบ 3 นิ้ว

(12 พ.ย. 65) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง ‘เผด็จการเท่านั้นที่คิดป่วน #APEC2022’ โดยมีเนื้อหาดังนี้

การประชุม APEC 2022 นับได้ว่าเป็นอีกเหตุการณ์สำคัญที่ควรต้องวางความขัดแย้งทางการเมืองลงเสียชั่วคราว แล้วควรหันมาร่วมใจกันสามัคคีในฐานะของเจ้าภาพที่ดี เพราะการประชุม APEC 2022 ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นเรื่องของประชาชนคนไทยทุกคน อีกทั้งเป็นโอกาสและผลประโยชน์ของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ

เนื่องด้วยการประชุม APEC 2022 เป็นการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับนานาชาติในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อีกทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการโปรโมตการท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังวิกฤตโควิดได้เป็นอย่างดี การที่ประเทศไทยของเราได้เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ จึงเป็นความหวังของประชาชนทุกหมู่เหล่า

แต่คนส่วนน้อยกลุ่มหนึ่งซึ่งมีพรรคการเมืองบางพรรคคอยหนุนหลังมาโดยตลอด นับตั้งแต่ลงมือกระทำผิดกฎหมายตลอดจนช่วยเหลือประกันตัว กลับมีการวางแผนก่อการชุมนุมสร้างความปั่นป่วน จ้องบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของประเทศชาติและผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ไม่ต่างจากเผด็จการ แถมยังเป็นเผด็จการยิ่งกว่าเผด็จการเสียด้วยซ้ำ

แม้แต่คุณชัชชาติเองก็ทำตัวน่าผิดหวังอย่างมาก เพราะไม่รู้จักกาละเทศะ จะปล่อยให้มีการชุมนุมที่ลานคนเมืองในห้วงของการประชุม แสดงให้เห็นว่าคุณชัชชาติไม่ได้เข้าใจหลักการของประชาธิปไตยอย่างถ่องแท้ คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของคนส่วนน้อยที่จ้องแต่จะสร้างความปั่นป่วนมากกว่าคำนึงถึงผลประโยชน์ของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top