Monday, 6 May 2024
กรุงเทพ

ศลต.ตร.เผยตั้งแต่บ่ายวันนี้ มีเวทีปราศรัยใหญ่ 8 พรรค 8 จุด กทม. – ปริมณฑล แนะประชาชนวางแผนการเดินทาง จัดกำลังตำรวจจราจรอำนวยความสะดวก

วันนี้ (12 พฤษภาคม 2566) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการ ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ทำหน้าที่ โฆษก ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศลต.ตร. กำชับให้ ศลต.ตร.กำหนดแผน และมีมาตรการในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่พี่น้องประชาชน ในช่วงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทั่วไป พ.ศ.2566
 
พล.ต.ท.นิธิธร ฯ กล่าวว่า เนื่องจากในวันนี้ (12 พฤษภาคม 2566) ศลต.ตร.ได้รับแจ้งว่า พรรคการเมืองหลายพรรคได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ศลต.ตร.โดยพล.ต.อ.รอยฯ ได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ที่มีการจัดการปราศรัย และพื้นที่ติดต่อ วางมาตรการเพื่อบริหารจัดการการจราจรอำนวยความสะดวกกับประชาชนที่เดินทางไปร่วมฟังการปราศรัย และเพื่อให้ผลกระทบกับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนน้อยที่สุด ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ ให้พี่น้องประชาชนรับทราบ เพื่อการวางแผนการเดินทางด้วย
 
ขณะนี้ ศลต.ตร.รับแจ้งว่าตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้ ซึ่งเป็นวันศุกร์ที่ปริมาณรถมากกว่าปกติ จะมีการปราศรัยใหญ่ของพรรคการเมือง 8 จุด ดังนี้
1. พรรคพลังประชารัฐ ปราศรัยที่ อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทย - ญี่ปุ่น เขตดินแดง กทม. ในเวลา 14.00 น.
2. พรรคภูมิใจไทย ปราศรัยที่ ห้างสรรพสินค้า โชว์ ดีซี ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กทม.ในเวลา15.30 น.
3.พรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย กทม. ในเวลา 16.00 น.
4.พรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยที่ ลานคนเมือง เขตพระนคร กทม. ในเวลา 17.00 น.
5.พรรคเพื่อไทย ปราศรัยที่ อิมแพ็คอารีนา เมืองทองธานี จว.นนทบุรี ในเวลา 17.30 น.
6. พรรคก้าวไกล ปราศรัยที่ อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย - ญี่ปุ่น เขตดินแดง กทม. ในเวลา 18.00 น.
7. พรรคชาติพัฒนากล้า ปราศรัยที่ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กทม. ในเวลา18.00 น.
และ 8. พรรคไทยสร้างไทย ปราศรัยที่ ลานกิจกรรม ปาร์ค พารากอน เขตปทุมวัน กทม.ในเวลา 18.00 น.
ขณะเดียวกันกรมอุตุนิยมวิทยา ออกรายงานแจ้งว่า ด้วยอิทธิพลจาก พายุไซโคลนโมคา ทำให้มีฝนตกต่อเนื่อง และฝนตกหนักบางแห่ง ทั่วประเทศ รวมถึงกทม.และปริมณฑล ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม ดังนั้นอาจส่งผลให้การจราจรติดขัด หนาแน่นกว่าปกติ จึงขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทาง และเผื่อเวลาในการเดินทางด้วย
 
พล.ต.ท.นิธิธร ฯ กล่าวด้วยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ผอ.ศลต.ตร.จึงได้สั่งการกำชับไปยังตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1 ให้เตรียมแผนรองรับ และให้จัดกำลังตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร รวมถึงบริการดูแลประชาชน อย่างเต็มที่ โดยประชาชนสามารถโทรสอบถามเส้นทาง สภาพการจราจรได้ที่สายด่วน 1197 กองบังคับการตำรวจจราจร หรือติดตามได้ทางเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์  “1197สายด่วนจราจร”
 

‘ปลัด กทม.’ ตรวจเช็กความเรียบร้อย ก่อนเลือกตั้ง 66 วันพรุ่งนี้ ยัน!! เรียบร้อยดี ไม่พบปัญหา คาดรู้ผลไม่เป็นทางการ 3-4 ทุ่ม

(13 พ.ค. 66) ที่สำนักงานเขตมีนบุรี นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมการตรวจรับหีบบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง ให้แก่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.)

นายขจิต เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า วันนี้เป็นการส่งมอบวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง ให้แก่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค. 66) ถือว่ามีความสำคัญ เจ้าหน้าที่จะต้องมีการนับบัตรเลือกตั้งให้ครบตามจำนวนที่ได้รับ รวมถึงสำนักงานเขตได้มีการพูดคุยให้รายละเอียดต่างๆ กับคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ทาง กกต.ได้มีการส่งมอบโปสเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีรูปผู้สมัคร และพรรคการเมืองในแต่ละเขตให้นำไปติดที่หน่วยเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนที่มาใช้สิทธิได้ดูก่อนเข้าคูหาอีกด้วย

“สำหรับภาพรวม 50 เขต วันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยยังไม่ได้รับแจ้งปัญหาอะไร ส่วนการนับคะแนนในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค. 66) จะเริ่มนับได้หลังจากปิดการลงคะแนน โดยเป็นการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับให้ทุกคนไม่ประมาทและทำตามขั้นตอนด้วยความรอบคอบ ไม่ต้องรีบเร่ง ขอให้เน้นความถูกต้องไว้ก่อน ซึ่งวันนี้เขตได้แจ้งรายละเอียดขั้นตอนการจัดการเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทราบอย่างละเอียดอีกครั้ง มั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนจัดการเลือกตั้งด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม คาดว่าจะทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการประมาณ 21.00-22.00 น.”  นายขจิต ระบุ

ทั้งนี้ กทม.ขอเชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค. 66) พร้อมเพรียงกัน โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนไปแสดงตนขอใช้สิทธิ บัตรประชาชนที่หมดอายุแล้วก็สามารถใช้ได้ นอกจากนี้ นำเอกสารทางราชการที่มีรูปและเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ไปแสดงตนได้ เช่น หนังสือเดินทาง (Passport) ใบขับขี่ เป็นต้น หากลืมบัตรประชาชนสามารถแสดงตนด้วยบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ในมือถือก็ได้ แต่ต้องลงทะเบียนในแอพพลิเคชั่น ThaiD ก่อนจึงจะใช้ได้ และเพื่อความสะดวกต่อการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เขตเลือกตั้ง และรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี 2566 ได้ทางแอพพลิเคชั่นสมาร์ตโหวต (Smart Vote) และไทยดี (ThaiD) ได้ทั้งใน App Store และ Google Play

ฝนถล่ม กทม.-นนท์ ปชช.ไม่หวั่น!! กางร่มเฝ้านับคะแนน ชาวกรุงเกาะรั้วเหล็กอย่างใกล้ชิด ตามติดผลลานคนเมือง

(14 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการนับคะแนนในพื้นที่ต่างๆ โดยเมื่อเวลา 18.20 น. ฝนตกลงมาอย่างหนักที่หน่วยเลือกตั้งที่ 17-29 เขตเลือกตั้งที่ 8 (เฉพาะตำบลบางคูรัด ตำบลบางรักพัฒนา และตำบลบางรักใหญ่) บริเวณสระน้ำกลางหมู่บ้านพฤกษา 3 อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ประชาชนบางส่วนทยอยกลับ ขณะที่บางส่วนกางร่มดูการนับคะแนนต่อไป

ด้านลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ฝนตกลงมาอย่างหนัก ประชาชนหลบฝนใต้ชายคาศาลาว่าการกทม. โดยที่การรับคะแนนยังคงดำเนินต่อไป กระทั่งเวลา 18.38 น. ฝนหยุดตก ประชาชนเฝ้ารอดูผลคะแนนโดยเกาะขอบรั้วหน้าป้าย LED

‘4 รองผู้ว่า กทม.’ เผย ความในใจถึง ‘ผู้ว่าฯ ชัชชาติ’ หลังร่วมงานเพื่อเดินหน้าพัฒนากรุงเทพฯ ครบ 1 ปี

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 66 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แถลงผลงาน ‘365 วัน ทำงาน ทำงาน ทำงาน ตามนโยบาย 9 ด้าน 9 ดี’ เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี ของการทำงาน

โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้เป็นการแถลงผลงานตนเอง แต่เป็นการแถลงผลงานของทีม กทม. ซึ่งทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ ทั้งข้าราชการ บุคลากร และ ส.ก. โดยหลักการทำงานในปีแรกจะเป็นปีของการนำนโยบายมาทำ Sandbox หรือต้นแบบ โดยเริ่มต้นจากการทำต้นแบบเล็กๆ นำแนวคิดนโยบายมาทดสอบ เมื่อประสบความสำเร็จ จะเป็นการต่อยอด และขยายผลนโยบายไปสู่การปฏิบัติในวงกว้าง

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการแถลง ได้มีการถามความใจในของท่านรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทั้ง 4 ท่าน กับการทำงานร่วมกับท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา โดยท่านแรก รองศาสตราจารย์วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ตอบว่า…

“จริงๆ แล้ว ผมค่อนข้างคุ้นชินกับสไตล์ารทำงานของท่านอาจารย์ชัชชาติอยู่แล้ว เพราะผมเคยช่วยงานท่านมาก่อน หากถามว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา มีเรื่องหงุดหงิดอะไร ก็คงจะเป็นเรื่องของระบบภายในที่มีความล่าช้า และยังไม่รวดเร็วทันใจมากพอ เพราะในหลายๆ เรื่อง ผมคิดว่าเราน่าจะทำได้เร็วกว่านี้ แต่เนื่องจากติดขัดในส่วนของกระบวนการต่างๆ ทำให้การดำเนินการต่างๆ ยังไม่คล่องตัวมากเท่าที่ควรจะเป็น 1 ปีผ่านไปเร็วมากครับ นึกว่าเพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่เดือน เพราะท่านผู้ว่าฯ ก็ลงพื้นที่ตลอด และมีโจทย์ใหม่ๆ มาให้ทำ มีปัญหามาให้แก้ไขกันอยู่ทุกวัน คอยตามจัดการสะสางงานที่ได้รับคำสั่งการมาครับ”

ท่านต่อมา รองศาสตราจารย์ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวความในใจว่า…

“เวลาทำงานลงพื้นที่ ท่านผู้ว่าฯ จะชอบถามคำถามว่า “ว่ายังสนุกอยู่หรือเปล่า?” ก็ขอตอบว่า สนุกค่ะ ยังอยากทำอยู่ และยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากทำ ก่อนเข้ามารับตำแหน่ง เคยมีความเชื่อว่าตัวเองมีความรู้เกี่ยวกับ กทม.อยู่พอสมควร แต่เมื่อเข้ามาและเจอนโยบายที่ท่านผู้ว่าฯ อยากให้ทำ มันเหมือนกับว่าเราต้องเรียนรู้ใหม่เกือบทั้งหมดเลย เพราะว่ารายละเอียดต่างๆ มันเยอะมาก และถนนในกรุงเทพฯ ที่เคยคิดว่ามันมีความกว้างเพียงพอ ไม่ได้เล็กอะไร เมื่อลงพื้นที่ อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าถนนหนทางดูเล็กลงไปมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ชอบมาก คือ ผู้ว่าฯ จะลงพื้นที่ไปดูงานให้ เนื่องจากที่ผ่านมา ไม่เคยมีผู้บริหารคนไหน คอยลงพื้นที่ติดตามงานให้มาก่อน ตรวจเช็กความเรียบร้อย เป็นเหมือนกระบวนการตรวจสอบให้ด้วย ซึ่งตรงนี้ช่วยให้งานของรองผู้ว่าทั้ง 4 คนนั้น ลดลงไปมากพอสมควร และยังให้คำแนะนำในส่วนที่เรายังมีความบกพร่อง ว่าควรแก้ไขตรงจุดไหนเพิ่มเติม มีความท้าทายใหม่ๆ ทุกวัน ตอน 6 โมงเช้าจะมีงานใหม่ๆ ส่งมาให้ทุกวัน ก็รู้สึกดีค่ะ มีพลังงานในการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม”

ท่านต่อมา นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวความในใจว่า…

“นอกจากการทำงานที่เราทุกคนจะมีการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ลักษณะของผู้บริหารที่มาจากการแต่งตั้ง และมาจากการเลือกตั้ง ย่อมมีความแตกต่างกัน ลักษณะการเข้าถึงประชาชน การใกล้ชิดกับประชาชน การยึดโยงประชาชนเป็นส่วนรวม ก็ย่อมมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะฉะนั้น การทำงานก็ย่อมไม่เหมือนกันด้วย การทำงานในตอนนี้ให้ความเป็นอิสระในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น และในขณะเดียวกัน เราทุกคนก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อประชาชนทุกคนที่เลือกตั้งท่านผู้ว่าฯ มา”
.
และต่อมา ท่านสุดท้าย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวความในใจว่า…

“สนุกมากครับ เหมือนเป็นงานในฝันที่เราอยากทำ ทำให้เราอยากตื่นขึ้นมาทำงานทุกวัน และมีความตั้งใจที่อยากจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมากกว่านี้ยิ่งๆ ขึ้นไปในทุกวัน และรู้สึกว่า ถ้าพวกเรามีเวลามากกว่านี้ หรือได้ทำให้ละเอียดมากกว่านี้ ผมเชื่อว่าภาพรวมจะออกมาดีกว่านี้”

นอกจากนี้ ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังได้กล่าวความในใจของตัวเองทิ้งท้ายไว้อีกด้วย “พวกเราทำงานร่วมกันเป็นทีม ผมต้องขอขอบคุณทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่ายที่รวมแรงรวมใจกัน ตั้งแต่ท่านปลัด พี่ๆ เพื่อนๆ ตลอดจนถึงถึงเจ้าหน้าที่ กทม.ทุกท่าน ผมคิดว่าเราไม่มีดีไปกว่าทีมงานของเราได้ ต่อให้นโยบายที่เราคิดกันมาจะดีแค่ไหนก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ซึ่งเปรียบเหมือนโซ่ข้อสุดท้ายที่เชื่อมเรากับประชาชน ถ้าหากเขาไม่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ทุกอย่างๆ ก็คงไม่มีทางออกมาดีได้ และผมต้องขอกราบเรียนตรงนี้เลยว่า ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ผลงานของชัชชาติ แต่เป็นผลงานของทีม กทม.ทุกคน และงานในหลายๆ เรื่องก็ไม่ใช่งานที่ทำให้สมัยนี้ด้วย เป็นงานที่ต่อเนื่องกันมานานแล้ว จึงขอถือว่าเวลาแถลงก็แถลงในนาม กทม.”

‘ประเทศไทย’ ติดอันดับ 2 ปลายทางยอดนิยม นทท. ทั่วโลก ‘กรุงเทพฯ’ คว้าอันดับ 1 เมืองถูกจองเข้าพักมากที่สุด

วันที่ (22 มิ.ย. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยผลสำรวจ เดือนม.ค. - พ.ค.ปี 2566 ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นบนหลายแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยว ทั้ง Agoda และ Klook สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยสะสม 5 เดือน กว่า 10.6 ล้านคน สะท้อนศักยภาพด้านการท่องเที่ยวไทย และการดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล

โดย Agoda แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลก เปิดเผยสถิติข้อมูลนักท่องเที่ยวบนแพลตฟอร์มในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 พบว่า การท่องเที่ยวโดยรวมของไทยฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่าประเทศอื่น จากการที่ไทยเปิดประเทศเร็ว โดยเฉพาะการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน ประกอบกับ ไทยมีเที่ยวบินรองรับนักท่องเที่ยวเพียงพอ

ประเทศไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น และมีนักท่องเที่ยวเดินทางภายในประเทศมากที่สุดเป็นอันดับที่ 4 รองจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และมาเลเซีย

นอกจากนี้ กรุงเทพฯ ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีการจองเข้าพักบนแพลตฟอร์มมากที่สุดในโลก โดย Agoda เชื่อมั่นว่า กรุงเทพฯ สามารถพัฒนาเป็น ศูนย์กลางเทคโนโลยีของเอเชียได้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ และสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมที่ทำให้ไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

นายอนุชา กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับ Klook แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย ในการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดภายใต้แคมเปญ ‘Let Your Journey be THAI’ โดยส่งเสริมต่างชาติให้เดินทางมาเที่ยวไทย ผ่านการประชาสัมพันธ์ 5F Soft Power ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยว

โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติจองกิจกรรมในไทยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 1,200 จากช่วงเดียวกันของปี 2565 โดย ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และมาเลเซีย มีการจองกิจกรรมไทยบนแพลตฟอร์ม Klook มากที่สุดเป็น 5 อันดับแรก กิจกรรมยอดนิยม ได้แก่ ทัวร์แบบ Day trip กิจกรรมชมความสวยงามของเมืองไทย และสปา เป็นต้น

กรุงเทพฯ ขึ้นแท่น เทียบชั้น โตเกียว เบอร์ลิน สื่อแคนาดาระบุ แม้แต่อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย ก็ต้องมาเรียนรู้

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สื่อจากประเทศแคนาดา ได้โพสต์เกี่ยวกับระบบขนส่งมวลชนทางรางของกรุงเทพมหานคร โดยโพสต์ว่าเมืองนี้ มีระบบขนส่งทางรางที่หลากหลาย กรุงเทพฯกำลังสร้างเมืองให้มีเครือข่ายรถไฟฟ้า ทางรางเป็นศูนย์กลาง ผู้คนสามารถเดินทางไปที่สนามบินได้ด้วยรถไฟฟ้า หากนำระยะทางจากรถไฟฟ้าทั้งหมดมารวมกัน ก็จะได้ระยะทางความยาวมากกว่า 300 กิโลเมตร มีมากกว่า 200 สถานี

หลังจากที่สื่อของแคนาดา ได้โพสต์ข่าวนี้ลงไปก็ได้มี คอมเมนต์ ตอบกลับมา มากมายหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น 

เป็นเรื่องที่ดี ที่ได้เห็นกรุงเทพมหานครมีการพัฒนาขึ้น ทั้งการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและสวนสาธารณะ ทำให้เมืองที่วุ่นวายแห่งนี้น่าอยู่และดูสนุกสนานมากขึ้น ช่างเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับมหานครที่ มีความคับคั่ง

เป็นตัวอย่างที่ดี สำหรับเมืองอื่นๆของโลก แต่ควรเป็นระบบการชำระเงินแบบบัญชีเดียว

รถไฟฟ้า BTS เป็น หนึ่งในบริการที่ดีที่สุด ที่เคยได้ใช้บริการมา มีความสุขที่ได้เห็นการขยายตัว

ได้ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดง มันสะอาดและสะดวกสบาย

มันเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นระบบขนส่งสาธารณะขยายตัว พร้อมบริการที่ยอดเยี่ยม

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! เทศกาลภาพยนตร์ไทย-มาเลเซีย 2023 คึกคัก พร้อมดันกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางด้านภาพยนตร์ของอาเซียน

(17 ก.ค. 66) สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ ใช้มิติวัฒนธรรมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ และสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย โดยรับทราบผลสำเร็จของงานเทศกาลภาพยนตร์ไทยในมาเลเซียประจำปี 2566 ภายใต้ธีม ‘Bridging Thainess to International Audience’ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่  13 - 16 กรกฎาคม 2566 ที่โรงภาพยนตร์ GSC Mid Vally โดยมีแขกผู้มีเกียรติจากกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย กระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะและวัฒนธรรมมาเลเซีย คณะกรรมการพัฒนาภาพยนตร์แห่งมาเลเซีย (FINAS) คณะทูตานุทูตต่างประเทศ พร้อมทั้งสื่อมวลชนมาเลเซีย นักเรียน นักศึกษามาเลเซียและไทย คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในมาเลเซีย และแฟนคลับชาวไทยและมาเลเซีย เข้าร่วมกันอย่างคึกคัก

ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมมิตรภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว ในเชิงสังคมและวัฒนธรรม ยังเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และความร่วมมือในอนาคตระหว่างอุตสาหกรรมภาพยนตร์และบันเทิงของทั้งสองประเทศ เปิดโอกาสทางด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาความสำเร็จของประเทศไทยสามารถดึงดูดคณะถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในไทย ทำให้สถิติ 7 ปี (2559 - 2565) สร้างรายได้เข้าประเทศแล้วกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ครม.พล.อ.ประยุทธ์ได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยเพิ่มเติมเพื่อดึงดูดคณะถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศ  ทำให้มั่นใจว่าจะผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางด้านภาพยนตร์ของอาเซียนได้ตามเป้าหมาย

สำหรับการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ไทยในมาเลเซีย ประจำปี 2566 ภายใต้ธีม ‘เชื่อมความเป็นไทยสู่สากล’ นำภาพยนตร์ไทย 5 เรื่องจากเครือภาพยนตร์ไทยที่มีชื่อเสียงมาฉายสู่สายตามิตรชาวมาเลเซีย ได้แก่ แอน (Faces of Anne) เทอมสองสยองขวัญ (Haunted Universities 2nd Semester) บุพเพสันนิวาส 2 (Love Destiny the Movie) Fast & Feel Love เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ และหนังรักคลาสสิคตลอดกาล Friend Zone ระวัง...สิ้นสุดทางเพื่อน โดยจัดฉายในโรงภาพยนตร์ในเครือ Golden Screen Cinemas (GSC) 4 แห่งใน กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองปูตราจายา และรัฐสลังงอร์ ได้แก่ GSC Mid Valley GSC 1 Utama GSC MyTown และ GSC IOI City Mall โดย ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

'กรณ์' ชี้!! เร่งแก้ปัญหา Ashton Asoke เป็นเรื่องถูกต้อง แต่ต้องไม่ผิดกฎหมายและต้องเยียวยาผู้ร้องได้แบบครบมิติ

(4 ส.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีใครต้องรับผิดชอบอย่างไร และจะแก้ไขเยียวยาให้ผู้ร้องอย่างไร ในเคส 'Ashton Asoke' ไว้ว่า...

ประเด็นนี้สำคัญครับ

เมื่อวานผู้ว่าชัชชาติแถลงว่า ให้เวลาโครงการ Ashton 30 วัน++ ในการหาทางออกใหม่ 

และเน้นว่า "แต่วันนี้ทางออกปัจจุบันยังใช้ได้เหมือนเดิม"

ในทางปฏิบัติผมว่าถูกต้อง รีบ ๆ หาทางออกให้ผู้อาศัยในอาคารเดือดร้อนน้อยที่สุด

แต่ในทางกฎหมายผมมองว่ามีประเด็นปัญหา

เพราะเมื่อวานสำนักงานกฎษฎีกาได้ออกมายืนยันว่า สำนักงานฯ ได้มีมติแจ้งไปทาง รฟม. (ผู้ที่ให้โครงการเช่าใช้ที่ของตนเป็นทางออก) ตั้งแต่ปี 2563 ว่า รฟม. ไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการนำพื้นที่ให้เอกชนเช่าใช้ ยิ่งศาลพิพากษายืนยันความเห็นนี้ สถานะยิ่งชัดว่า รฟม.ให้เอกชนเช่าใช้ที่นี่ไม่ได้

ดังนั้นประเด็นเฉพาะหน้าที่สำคัญที่สุดคือ ทำอย่างไรให้ รฟม. ยังสามารถคงการเปิดทางเข้า/ออกให้โครงการได้โดยไม่ผิดกฎหมาย?

ส่วนทางกทม. ผมมองว่าการให้เวลาทางโครงการไปหาทางออกใหม่ เพื่อมาขอใบอนุญาตใบใหม่นั้นเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล 

...แต่ไม่พอ!! เพราะไม่ได้บรรเทาปัญหาให้กับชาวบ้านเดิมที่ฟ้องร้อง กทม. มาตั้งแต่ปี 58 ว่าโครงการนี้สร้างผิดกฎหมาย พูดง่ายๆ คือความผิดสำเร็จแล้ว 

และที่ผู้ว่าฯ ยังไม่ได้พูดคือส่วนนี้ ว่าใครต้องรับผิดชอบอย่างไร จะแก้ไขเยียวยาให้ผู้ร้องอย่างไร และที่สำคัญที่สุด กทม. จะปรับตัวเองอย่างไรไม่ให้มีการสร้างตึกที่ผิดกฎหมายอีกในอนาคต

5 อันดับ เมืองจุดหมายปลายทางยอดนิยม สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ (ม.ค.-มิ.ย. 66)

(15 ก.ย. 66) ออมรี มอร์เกนสเติร์น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร อโกด้า (Agoda)แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยว กล่าวว่า อโกด้าได้เปิดเผยจุดหมายปลายทางสำหรับการจองเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) ปรากฏว่าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอง 5 อันดับแรก มีกรุงเทพฯ (ประเทศไทย) คว้าอันดับ 1 ตามมาด้วย สิงคโปร์, โซล (ประเทศเกาหลีใต้), โฮจิมินห์ ซิตี้ (ประเทศเวียดนาม) และกัวลาลัมเปอร์ (ประเทศมาเลเซีย)

เมื่อพิจารณาถึง 5 เมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชาวไทยตัดสินใจเลือกเดินทาง พบว่าประเทศเวียดนามกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเมืองดานัง ฮานอย หรือโฮจิมินห์ ซิตี้ เมืองเหล่านี้ถือเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยตามลำดับ โดยมีฮ่องกงและกัวลาลัมเปอร์ตามมา ซึ่งจุดหมายสำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศยอดนิยม 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต

ออมรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ อโกด้า ได้จัดอิมเมอร์ซีฟอีเวนต์ครั้งแรกของแบรนด์เพื่อเปิดตัวบริการจองตั๋วเครื่องบิน ‘Agoda Flights’ อย่างเป็นทางการ โดยงาน ‘Fly for Less'’ คืออีเวนต์ที่อโกด้าจัดขึ้นเพื่อพาผู้ใช้งานแพลตฟอร์มเดินทางท่องเที่ยวแบบเสมือนจริง สู่จุดหมายปลายทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวเลือกบินไปเที่ยวพักผ่อน งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 - 16 ก.ย. 66 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. - 22.00 น. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

งาน Fly for Less เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้ร่วมงานจะได้เดินทางแบบเสมือนจริง ผ่านการรับชมวีดีโอที่ฉาย 360 องศาในโดม นอกจากนี้ ภายในงานยังมีบูธถ่ายภาพให้ผู้เข้าร่วมงานได้เก็บภาพทริปเดินทางในฝันของตนเอง ส่วนลดสำหรับจองตั๋วเครื่องบินสูงสุด 350 บาท และสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบิน 1 ใบ จากทั้งหมด 100 ใบ ‘ฟรี’ เมื่อร่วมเล่นเกมชิงรางวัล

“เราต้องการเป็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเลือกใช้และนึกถึงเป็นอันดับ 1 ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้จองตั๋วเครื่องบิน และหรือกิจกรรมต่าง ๆ ในราคาที่คุ้มค่าพอ ๆ กับราคาที่พักที่พวกเขาจองที่พักกับอโกด้า และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมอโกด้าจึงเปิดตัวฟีเจอร์จองเที่ยวบิน Agoda Flights บนแพลตฟอร์มของเราเมื่อปี 2019 โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวหาดีลเดินทางที่ดีที่สุดได้อย่างสะดวกที่สุด เรารู้สึกยินดีมากที่จะเฉลิมฉลองการเปิดตัว Agoda Flights อย่างเป็นทางการ ด้วยการจัดงาน Fly For Less ที่ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวเลือกบินมาเที่ยวมากที่สุด” ออมรี กล่าวทิ้งท้าย

‘EA’ ส่งมอบชุดแบตเตอรีลิเทียมไอออน ‘อมิตา เทคโนโลยี’ ให้ กทม. หนุนพัฒนารถสันดาปสู่รถไฟฟ้าดัดแปลง หวังแก้ปัญหาฝุ่น-มลภาวะ

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ผู้นำนวัตกรรมพลังงานสะอาด เดินหน้าส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ ได้ส่งมอบชุดแบตเตอรีลิเทียมไอออน ใช้สำหรับดัดแปลงรถสันดาปเป็นรถไฟฟ้า (EV Conversion) จากนวัตกรรมระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจร ‘อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย)’ โดยมี นางสาวอำภา นรนาถตระกูล ผู้อำนวยการสำนักการคลัง เป็นผู้แทนผู้บริหารกรุงเทพมหานครรับมอบ ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

สำหรับโครงการรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงต้นแบบ เป็นความร่วมมือระหว่าง ‘กรุงเทพมหานคร’ กับ ‘สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ’ (สสส.) มูลนิธิส่งเสริมการออกแบบอนาคตประเทศไทย ตามโครงการสานพลังขับเคลื่อนเคานต์ดาวน์ PM2.5 เพิ่มสุขภาวะผู้คนในพื้นที่ กทม. ซึ่งมุ่งแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ

โดยหนึ่งในแผนงาน คือ การนำรถยนต์สันดาป มาทำการดัดแปลงเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ไม่มีการปล่อยมลพิษและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เพื่อทำการศึกษาประโยชน์จากการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ต้นทุนการดำเนินการ ความคุ้มค่า ความปลอดภัยในการใช้งาน และความเหมาะสมในการปรับเปลี่ยนรถยนต์ราชการของกรุงเทพมหานครเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ในการนี้ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้การสนับสนุนแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 30 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักในการจัดทำรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงที่มีมูลค่าสูง

โดยการดัดแปลงนั้น กทม. ร่วมกับศูนย์วิจัย Mobility & Vehicle Technology Research Center (MOVE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในการดำเนินการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ

คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 จากนั้นจะมีการจัดทำชุดความรู้เกี่ยวกับการดัดแปลง

การใช้งาน และการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงจัดทำหลักสูตรการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้าเพื่ออบรมให้ความรู้แก่ผู้สนใจทั่วไปผ่านโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานครต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top