Sunday, 12 May 2024
กระบี่

“บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่ "จ.ระนองและจ.กระบี่” กำชับหน่วยมั่นคง เข้มสกัดแรงงานทะลักเข้าเมือง พร้อมเร่งขับเคลื่อนจัดที่ดินทำกินและดึงภาคประชาชนร่วมแก้ปัญหา  

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ ตรวจติดตามความคืบหน้างานสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ จ.ระนอง และ จ.กระบี่ โดยรับฟังการบรรยายสรุปจากหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ณ ศาลากลาง จ.ระนอง ถึงการปฏิบัติงานในภาพรวม ด้านความมั่นคง สถานการณ์ด้านแรงงาน ยาเสพติดและมาตรการควบคุมป้องกันโรค 

โดย พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมกับแนวคิด “ระนองโมเดล” ในความเข้มแข็งของมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่อาศัยการมีส่วนร่วมและความใส่ใจร่วมกันของกลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่ ร่วมขับเคลื่อนภายใต้การนำของผู้นำท้องถิ่นระดับหมู่บ้าน ซึ่งสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เร็ว  พร้อมย้ำว่า  จ.ระนอง เป็นเส้นทางผ่านยาเสพติดและการลักลอบเข้าเมืองทั้งทางบกและทางทะเล  จึงต้องคุมเข้มเฝ้าระวังและเข้มงวดกวดขัน เน้นงานเชิงรุกกับการลักลอบเข้าเมือง การใช้แรงงานผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์และยาเสพติด รวมทั้งการลักลอบนำเข้ายางพาราผิดกฎหมาย ซึ่งกระทบต่อเกษตรกรโดยตรง  

โดยให้บูรณาการทำงานร่วมกันทั้งจุดผ่านแดน จุดผ่อนปรนและช่องทางธรรมชาติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง  พร้อมทั้งย้ำการปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเล ขอให้เป็นไปตามหลักสากลบนพื้นฐานของกฎหมายและพันธกิจระหว่างประเทศ คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม ผลกระทบต่อเด็ก สตรีและคนป่วยเป็นอันดับแรก 

ทั้งนี้รองนายกรัฐมนตรี ยังแสดงความเป็นห่วงการเข้าถึงวัคซีนของประชาชนและแรงงาน โดยขอให้สร้างการรับรู้และกระจายวัคซีนลงไปอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะกับกลุ่มเสี่ยงและผู้ใช้แรงงาน  พร้อมย้ำว่า การลักลอบเข้าเมืองและแรงงานผิดกฎหมายยังถือเป็นความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่สำคัญที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุดร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ขอให้สร้างความรู้ความเข้าใจกับแรงงานข้ามชาติและผู้ประกอบการ ให้การสนับสนุนมาตรการควบคุมโรคที่กำหนดไปพร้อมๆกัน 

 

‘บิ๊กตู่’ เยี่ยมศูนย์พัฒนาประสิทธิภาพสร้างความปลอดภัย พร้อมชมสาธิตช่วยนักท่องเที่ยวประสบภัย “ขอ” ทุกคนรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  ปลื้มนทท.จองมาไทยแสนกว่าคน ชวนฉีดวัคซีน บอกไม่ต้องกลัว ลั่นพร้อมรับฟังใครทุจริตขอให้บอก ไม่ต้องกลัว 

ที่จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางถึงตำบลไสไทย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เพื่อเดินตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาประสิทธิภาพการให้ความช่วยเหลือและสร้างความปลอดภัย ทางการท่องเที่ยวจ.กระบี่ พร้อมชมการสาธิตเหตุการณ์จำลองการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวโดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้ประเทศปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งภัยธรรมชาติและภัยที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ทั้งนี้ บ้านเมืองเจริญเติบโตขึ้นทุกวันและมีความเสี่ยง การท่องเที่ยวมีมากขึ้น ปัญหาที่เจอในวันนี้มีทั้งทางบกและทางทะเล ในการท่องเที่ยวทุกประเภทว่าจะดำเนินการส่งข่าวแจ้งเหตุกันอย่างไร จึงจะต้องทำงานแบบบูรณาการไม่ใช่ทำงานแบบของใครของมัน จึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้ รวมถึงเรื่องของเรือรั่วและน้ำมันรั่วจะต้องศึกษาปัญหาต่างๆเหล่านี้ ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่แล้ว

แต่สิ่งสำคัญการทำงานจะต้องบูรณาการของทุกหน่วยงาน เราจะมีความพร้อมเพียงหน่วยงานเดียวไม่ได้ แต่จะต้องดูหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการกู้ภัยช่วยเหลือว่ายังมีหน่วยงานอะไรบ้างทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งตนยินดีที่ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเหล่านี้ และวันนี้ต่อไปอาจจะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้เปิดสถานฝึกดังกล่าวเหล่านี้ขึ้นมาบ้าง เพื่อลดปัญหาในเรื่องงบประมาณของภาคราชการแต่สถานที่ฝึกจะต้องมีใบรับรองครบถ้วนสมบูรณ์ เหมือนกับในต่างประเทศที่มีมาตรฐาน ทั้งนี้ภัยต่างๆที่เกิดขึ้นจะประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้มีการเปิดประเทศ  เราไม่ต้องการที่จะถอยหลังกลับไปที่เก่าอีกเป็นอันขาด สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเมืองเจริญเติบโตไปมากแล้ว และที่ตนประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ทุกคนทราบดีว่าเป็นการประกาศบนพื้นฐานความเสี่ยงสูงสุดของตน ก็ต้องขอบคุณคนไทยที่เกี่ยวข้อง ทั้งข้าราชการ ท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ และประชาชน ที่ร่วมมือจนเกิดวันนี้ขึ้นมาได้ และทราบว่านักท่องเที่ยวแสนกว่าคนจองมาเที่ยวประเทศไทย และคาดว่าจะมีมากกว่านี้ในหลายแสนและหลักล้านในโอกาสต่อไป ตนพูดในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และการประชุมอาเซียนที่ผ่านมา เรากำลังเป็นผู้นำในการเปิดประเทศทุกอย่างจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่เราทุกคนจะช่วยกันทั้งในเรื่องการฉีดวัคซีน การดูแลรักษาผู้ป่วยเจ็บ และวันนี้วัคซีนก็ไม่ได้ขาดแคลนจะต้องฉีดให้ทั่วถึง แต่ถ้าเลือกกันมากก็จะทำให้เสียโอกาส ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำงานทุกคนต้องปลอดภัย ขอให้เอาแบบการฝึกของต่างประเทศมาดูด้วย เพื่อพัฒนาต่อไป มีภาพยนต์ตัวอย่างหลายเรื่อง ถือเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย 

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พบปะกับสมาคมกลุ่มแม่บ้าน จ.กระบี่ที่มารอให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวย้ำว่าขอให้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนร้องเพลง”บ้านเกิดเมืองนอน” ของสุนทราภรณ์ร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยมประชาชนภาคใต้ฝั่งอันดามัน คิดถึงเสมอมา และดีใจที่ได้เห็นการแต่งกายในชุดท้องถิ่น ประเทศไทยมีความหลากหลายอัตลักษณ์ประเพณีเป็นสิ่งสำคัญ ยืนยันว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการท่องเที่ยว และการเปิดประเทศแม้มีความท้าทายสูง ประกาศแล้วต้องทำให้ได้ โดยเราจะต้องทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีเตรียมรับความพร้อมกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นและแก้ปัญหาให้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะกลับไปที่เดิม

วันนี้ดีใจเห็นทั้งคนรุ่นสาว รุ่นเด็ก และเยาวชน พร้อมกันนี้ทราบว่ามีการฉีดวัคซีนเกือบครบ 100% แล้ว ขอให้ฉีดวัคซีนไม่ต้องกลัว เพราะเขาฉีดกันทั้งโลกและWTO มีการรับรองวัคซีนแล้วทุกตัว ฉีดเข็ม1-2 ภูมิขึ้นระดับหนึ่ง และฉีดเข็ม 3 ภูมิขึ้นสูง ซึ่งในปี 2565 ถ้าโควิด-19 ยังอยู่เราก็ฉีดแค่เข็มเดียว เหมือนไข้หวัดใหญ่ ไม่ต้องไปกลัวอะไร ต้องปลอดภัยไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มีอาการรุนแรงไม่เสียชีวิต  เมื่อวัคซีนครบเศรษฐกิจจะดีขึ้น สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ถ้าไม่ฉีดวัคซีนคงจะมีมาตรการทางสังคม โดยวันข้างหน้าจะมีพื้นที่สีขาว สีฟ้า จึงขอให้ไปฉีดฉีดวัคซีนกัน ตอนนี้คนฉีดวัคซีนน้อยลงไม่ทราบว่าเพราะอะไร 

ระหว่างนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยกับเด็กนักเรียนจากโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ว่า ขอให้สงสัยในเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่าไปสงสัยในเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์กันมากนัก

วันนี้รัฐบาลส่งเสริมธุรกิจสตรี สนับสนุนเอสเอ็มอี ให้เกิดความเข้มแข็ง รัฐบาลดูแลทุกกลุ่มวันหน้าโตมาจะมาแทนลุง วันนี้ลุงคิดให้ล่วงหน้า บางอย่างต้องใช้เวลาศึกษารับฟังความคิดเห็น ถ้าออกมาไม่ได้ก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งหมด เพราะเราเป็นประชาธิปไตยต้องรับฟังประชาพิจารณ์ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อะไรที่เป็นประโยชน์กับพื้นที่ก็ดำเนินการ แต่ถ้าไม่เห็นด้วยอยู่ตลอดมันก็จะไปไม่ได้ อาจารย์ต้องสอนให้เด็กนักเรียนมีกระบวนการในความคิด วิสัยทัศน์และเด็กทุกคนต้องมีกระบวนการคิดในสมองของตนเองและมีวิสัยทัศน์ นายกฯเองก็มีกระบวนการในความคิด ซึ่งต้องมีขั้นตอนนักเรียนต้องเรียนรู้และอ่านหนังสือให้เยอะบ้านเมืองเราไม่ได้ด้อยกว่าใคร คนของเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร เพียงแต่ต้องคิดให้เป็นและทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ต้องเคารพในสถาบันหลักของชาติ ประเทศไทยนั้นคือประเทศไทย 

กระบี่ - 2 สามี-ภรรยา! บุกร้อง "แรมโบ้" ทวงคืน ที่ดินบรรพบุรุษหลังถูก จนท.ป่าชายเลน นำรถแบคโฮ ล้มต้นปาล์มกลางดึก ส่อพิรุธ! หลังเคยร้อง ผวจ.กระบี่ ตรวจสอบแต่เรื่องเงียบ

นายภพ สกุลสวน อายุ 55 ปี พร้อมด้วยนางสายใจ สกุลสวน อยู่บ้านเลขที่ 52/1 ม.5 ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมด้วยครอบครัว และตัวแทนสภาเกษตรกร จ.กระบี่ ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกรณีเจ้าหน้าที่ป่าชายเลนกระบี่ เข้ายึดพื้นที่โค่นทำลายต้นปาล์มน้ำมันในที่ดินทำกินที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ นับ 100 ปี รวมเนื้อที่ 17 ไร่เศษหลังทราบว่า นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเปิดศูนย์ดำรงธรรมสวนหน้ารับเรื่องร้องเรียน สนับสนุนภารกิจนายกรัฐมนตรี ในการประชุม ครม.สัญจร 15-16 นี้ หลังจากที่เคยยื่นเรื่องขอความเป็นธรรม จาก ผวจ.กระบี่ ไว้แล้ว แต่เรื่องเงียบ

นายภพ และนางสายใจ สองสามีภรรยา กล่าวว่า สำหรับที่ดินแปลงนี้ เดิมเป็นที่ดินมรดก ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ทำกินมา 3 อายุคน รวม กว่า 100 ปี กว่าจะตกทอดมาถึงตนสองคน ครั้งแรกที่จำความได้ที่ดินแปลงนี้มีการทำนา และต่อมาปลูกปาล์มน้ำมันจนหมดอายุเก็บเกี่ยว ประมาณ 30 ปี และก็ได้โค่นทิ้ง และปลูกแทนใหม่ มีอายุ ได้ 13 ปี ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ป่าชายเลน เข้าไปปักป้าย ยึดที่ดินและนำรถแบคโฮ ทำลายต้นปาล์ม เมื่อเวลาประมาณ ตี 3 กลางดึก เสร็จประมาณ 7 โมงเช้า ของคืนวันที่ 20 พ.ค.64 ที่ผ่าน ซึ่งตนเองมองว่าผิดวิสัยของข้าราชการ ที่เข้าทำลายผลอาสินของชาวบ้านในยามวิกาล แล้วยังข่มขู่ห้ามไม่ให้แสดงตัว จึงได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม ให้ระงับการดำเนินการและสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกันนี้เตรียมรวบรวมหลักฐาน ยื่นฟ้องศาลปกครอง ม.157 ต่อไป

จากการตรวจสอบข้อมูลการถือครองที่ดินของนายภพ สกุลสวน และนางสายใจ วหุลสวน 2 สามีภรรยา เดิมเป็นของนายเฟื่อง เนื้ออ่อน เป็นตาของภรรยา ซึ่งนายเฟื่อง เนื้ออ่อน ได้ครอบครองและทำประโยซนในที่ดินดังกล่าวมาก่อน พ.ศ.2485 ซึ่งเป็นการครอบครองและทำประโยชน์มาก่อนที่จะมีประกาศของรัฐ ประกาศให้เป็นเขตป่าไม้ถาวร ประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ และประกาศให้เป็นเขตป่าขายเลน นายเฟือง ได้ทำประโยชน์ในที่ดินทำกินโดยการทำนามาอย่างต่อเนื่อง

และประมาณ พ.ศ.2530 จึงเปลี่ยนลักษณะการทำประโยชน์มาเป็นสวนปาล์ม น้ำมัน และได้ปลูกปาล์มน้ำมันเป็นรายแรก ๆ ในจังหวัดกระบี่ ซึ่งผู้เสียหายได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อจากนายเฟื่องฯ และได้ชำระภาษีบำรุงท้องที่ รวมถึงได้จดทะเบียนเกษตรกร และทำกินในที่ดินตลอดมา จนถึงปัจจุบัน และไม่มีสภาพเป็นป่า นอกจากนี้ที่ดินติดกันล้อมที่ดินของผู้เสียหายมีที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง มีถนน และไฟฟ้า มีทะเบียนบ้าน เป็นชุมชนมีราษฎรอยู่อาศัยหลายครัวเรือนและทำกินกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่จนท.กลับดำเนินการเฉพาะที่ดินของผู้เสียหาย

 

'บิ๊กตู่'ฮึ่มกลุ่มเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวาย ถามคนไทยรับได้หรือไม่ ขอใช้มาตรการสังคมตักเตือน ลั่นคำว่าสถาบันฯต้องอยู่คู่กับไทยตลอดไป เผย จัดซื้อวัคซีนปีหน้า 60 ล.โดสแล้ว พร้อมขอให้รอดูสถานการณ์หลังมีการวิจัยพัฒนาวัคซีนใหม่ออกมาอีก

ที่โรงแรมโซฟิเทลกระบี่ โภคีธรา แอนด์ สปา รีสอร์ท จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีมีการเดินหน้าเปิดประเทศและเป็นไปด้วยดี ห่วงหรือไม่ว่าการเคลื่อนไหวชุมนุมจะทำให้เสียบรรยากาศ ว่า ให้สังคมช่วยกันพิจารณา เพราะนายกฯ มีอย่างเดียวคือการบังคับใช้กฎหมายอย่างระมัดระวัง เป็นไปตามขั้นตอนและเป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ทุกประการ ดังนั้นต้องไปดูวัตถุประสงค์การสร้างความวุ่นวายนั้นเพื่ออะไร แล้วคนไทยยอมรับได้หรือไม่ ถ้ายอมรับไม่ได้มาตรการสังคมต้องตักเตือนกัน อย่าให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียว

"ผมเน้นย้ำคำว่าสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ต้องคงอยู่คู่กับไทยตลอดไป"นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมีการโหนเรื่อยๆ กังวลว่าจะบานปลายหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่กังวล แต่เป็นความห่วงใยมากกว่า อย่าเรียกว่ากังวล เพราะถ้ากังวลคงกังวลหลายเรื่องที่ทุกอย่างประดังประเดถมเถเข้ามาในสถานการณ์วันนี้ ทั้งราคาน้ำมัน หนี้ครัวเรือน เกษตรกรให้มีรายได้ที่ดีขึ้น รวมถึงปัญหาอะไรต่างๆ

 

กระบี่ - ‘ลุงตู่’ ขอบคุณชาวกระบี่ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง การประชุมครม.สัญจร นัดแรกของปีนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการแผนงานระยะสั้น 7 โครงการ เร่งด่วน งบ 494 ล้านบาท

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร ณ โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ ครม. ทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อสีสันสดใสเป็นลายผ้าบาติก ผ้าประจำจังหวัดกระบี่ ซึ่งก่อนการประชุมเริ่ม นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จากนั้นเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ร่วมกับผู้ว่าราชการ 6 จังหวัด ต่อด้วยการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ที่ถือเป็นนัดแรกในปีนี้

ขณะที่วาระการประชุม ครม. วันนี้ กลุ่ม 6 จังหวัด จังหวัดอันดามัน มีการของบประมาณ 17 โครงการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยว วงเงินกว่า 2,128 ล้านบาท เช่น โครงการภูเก็ตเฮลท์แซนด์บ็อกซ์ ที่เป็นโครงการบริหารจัดการสุขภาพของจังหวัดภูเก็ตทั้งระบบ โครงการนำสายไฟฟ้าลงดินที่เทศบาลเมือง ช่วงตลาดเก่าของจังหวัดภูเก็ต โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือท่าเลน โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือโดยสารเรือท่องเที่ยวป่าคลองจิหลาด โครงการกิจกรรมเทศกาลการท่องเที่ยวและกิจกรรมกีฬาเชิงการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัด

 

ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ คณะฯ ลงพื้นที่กระบี่เยี่ยมเยียนและสร้างกำลังใจในการปฏิงานตามแนวท่องเที่ยววิถีใหม่ แก่เจ้าหน้าที่ฯ ตามแนวนโยบายการเปิดประเทศ 

ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมือง จ.กระบี่ พล.ต.ท. สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวพร้อมคณะฯ ประกอบด้วยพล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์  โชคชัย รอง ผบช.ทท./พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผบก.ทท.3 /พ.ต.อ.เอกกฤต วิริยะภาพ รอง ผบก.ทท.3 /พ.ต.อ.นรเศรษฐ์ สุวรรณนิกขะ รอง ผบก.ทท.3 /พ.ต.อ.ยุทธภูมิ  ปั้นลายนาค   รอง ผบก.ทท.3 /พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.2 บก.ทท.3 

โดยมี พ.ต.ท.ศักดิ์อนันต์ คำไสย รรท.สว.ส.ทท.3 กก.2 บก.ทท.3 หัวหน้าสถานีตรวจท่องเที่ยวกระบี่ และเจ้าหน้าที่รวมถึง ล่ามแปลภาษาประจำสำนักงานฯ และอาสาสมัครท่องเที่ยว ที่เป็นทีมทำงาน ร่วมให้การต้อนรับ และรับนโยบายการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งมอบสิ่งของอุปโภค​บริโภคให้เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ 

ผู้บัญชา​การตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ เพื่อมาดูการทำงานที่ต้องสอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์​ จันทร์​โอชา​ นายกรัฐมนตรี ในการเปิดประเทศ​ทเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน​2564 เนื่องจากจังหวัดกระบี่ ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ สีฟ้าของประเทศ ที่เป็น 1 ใน 4 จังหวัดนำร่อง ท่องเที่ยวประกอบด้วย กรุงเทพ​มหานคร​ กระบี่ ภูเก็ต พังงา ที่สามารถ ร่วมโครงการเปิดประเทศ ท่องเที่ยวได้ทั้งจังหวัด 

ในส่วนจังหวัดกระบี่นั้น มีพื้นที่เป้าหมาย  Phuket Sandbox ที่มีความเข้มงวดตามเงื่อนไข การทดลองเปิดประเทศก่อนหน้านี้  จำนวน 3  แหล่งท่องเที่ยว คือ เกาะพีพี เขตอุทยานแห่งขาติหาดนพรัตน์​ธารา​และหมู่เกาะพีพี  เกาะไหง ในเขตอุทยานแห่งขาติหมู่เกาะลันตา อ่าวไร่เล เขตอำเภอเมือง 

การท่องเที่ยวในแนวทางใหม่ เป็นเรื่องการดูแล​ความปลอดภัย​ทางสาธารณสุข​ มาตรฐานการ​รักษา​โรค ในโลกสีเขียว วิถีใหม่เป็นเรื่องที่ตำรวจท่องเที่ยวจะต้องปรับตัวในการทำงานให้เกิดผลดีที่สอดคล้องกับแนวนโยบายฯและได้ทำการทดลองใช้ อุปกรณ์​และตรวจสอบ การทำงานของ Call Center 1155 สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว ตามสโลแกน Your First Friend " เพื่อนคนแรกของนักท่องเที่ยว" ที่ให้บริการ สร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว เมื่อมีปัญหา และสอบถามข้อมูล ที่มีล่ามแปล สนทนาได้ 5 ภาษา ตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย 

กระบี่ - ‘ทหารจิตอาสา’ สนธิกำลัง ‘ตำรวจอาสารักษาดินแดน’ เข้าฟื้นฟูบ้านที่ดินสไลด์ทับห้องครัว – ห้องน้ำเสียหา เพื่อช่วยเหลือในพื้นที่ตำบลเขาเขน ให้อยู่ต่อได้

เมื่อวันที่ 25พฤศจิกายน 2564 พันเอก ภาณุวัฒน์ สุคชเดช ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนาวาอากาศเอก อาทิตย์ ภากรสังขรัตน์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย พลตำรวจตรี ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และนายวินัย ดินแดง นายอำเภอปลายพระยา สนธิกำลังทหารจิตอาสา ตำรวจจิตอาสา และอาสารักษาดินแดนอำเภอจิตอาสา เราทำความดีเพื่อชาติศาสตร์กษัตริย์  ระดมกำลังเข้าร่วมฟื้นฟูพัฒนาบ้านเรือนพร้อมนำสิ่งของบริโภคและอุปโภค ไปมอบให้กับนายเล็ก และนางสุจินต์ คำศิริ อยู่บ้านเลขที่ 296 หมู่ที่  6 บ้านคลองปัญญา ตำบลเขาเขน อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่

ที่ถูกดินจากเนินเขาหลังบ้านสไลด์ไหลลงมาทับบ้านได้รับความเสียหายบางส่วน โดยเฉพาะห้องครัว ห้องน้ำ โรงรถยนต์ เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ดินอุ้มน้ำจนอิ่มตัวจึงเกิดดินล้วนซุยไม่สามารถเกาะตัวกันได้ จึงเปิดดินสไลด์ไหลลงมาทับบ้านกลังดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 เวลา 17.00 นาฬิกา ที่ผ่านมา ซึ่งในวันเกิดเหตุทหารจิตอาสาของ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จังหวัดกระบี่ และอาสารักษาดินแดนอำเภอปลายพระยา ร่วมถึงตำรวจจิตอาสาสถานีตำรวจภูธรอำเภอปลายพระยา ได้เข้าให้การช่วยเหลือไปครั้งหนึ่งแล้ว

 

กระบี่ - กกต.กระบี่ ปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่โดยออกณรงค์การเลือกตั้ง อบต.โค้งสุดท้าย ครอบคลุม 8 อำเภอ 25 -27 พ.ย. เพื่อปลุกกระแสให้ทุกเสียงคือพลังเลือกตั้งสุจริต ใช้สิทธิ์โปร่งใส

นายวีระยี่แพร ผู้ตรวจการ เขตตรวจการที่ 5 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้เป็นประธานปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่จำนวน 10 คันออกจากบริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายของ ที่จะถึงวันเลือกตั้งอบต .พร้อมกันทั่วประเทศ โดยอบตไสไทย ยกทีมเข้าร่วมบรรยากาศคึกคัก

นางสาวขนิษฐา ปั้นทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่กล่าวว่า  การจัดกิจกรรมรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ การเลือกตั้งอบต .ขึ้น ในช่วง 3 สัปดาห์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นโค้งสุดท้าย ก่อนถึงวันเลือกตั้งอบต.พร้อมกันทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ประชาชน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีความตื่นตัวออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งสภาอบต และนายกอบต. ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ด้วยสโลแกน ทุกเสียงคือพลังเลือกตั้งสุจริตใช้สิทธิ์โปร่งใส  โดยรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่รณรงค์การเลือกตั้งอบต. ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ จำนวน 8 อำเภอ ระหว่างวันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งจัด ตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ของอำเภอทั้ง 8 อำเภอ    

ด้าน องค์การบริหารส่วนตำบลไสไทย ร่วมได้จัดรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ พร้อมขบวนรถกว่า 10 คัน นำเจ้าหน้าที่ ออกประชาสัมพันธ์ ในพื้นที่ตำบลไสไทย ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้ง 14 หน่วย มีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 1 10,140 คน ซึ่งมีจำนวนมากที่สุด ในการเลือกตั้งอบต.เขตอำเภอเมืองกระบี่  

 

กระบี่ - ทำพิธี! “จมฝูงเรือรบหลวง” อย่างสมเกียรติ สร้างอุทยานเรียนรู้ใต้ท้องทะเลเกาะลันตา

วันที่ 15 ธ.ค.64 นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีจมเรือรบหลวง รวม 3 ลำ ใกล้กับเกาะหมา ท้องทะเล อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ลงสู่ใต้ทะเล เป็นอุทยานการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรทางทะเล และเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำ ระดับโลก ในพื้นที่ทะเลเกาะลันตา จ.กระบี่ โดยมีนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ / พลเรือตรี พัลลภ เขม้นงาน รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 / นายชวน ภูเก้าล้วน ประธานสภาการศึกษาจังหวัดกระบี่ หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ และประชาชน เข้าร่วม

โดยก่อนการจมเรือหลวง ทั้ง 3 ลำ คือ เรือหลวงปราบปรปักษ์ เรือ ต 15 หรือเรือหลวงสู้ไพรินทร์ และเรือ ต 16 หรือเรือหลวงหาญหักศัตรู ลงสู่ใต้ท้องทะเล ได้มีพิธีวางพวงมาลาไว้อาลัยอย่างสมเกียรติ พร้อมทำการนำน้ำเข้าเรือใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง กว่าเรือจะจมดิ่งสู่ก้นทะเลทั้งลำ ซึ่งพิธีจมเรือดังกล่าวเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำของจังหวัดกระบี่ และจังหวัดฝั่งอันดามัน ตามโครงการอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล โดยความร่วมมือระหว่างจังหวัดกระบี่ ร่วมกับกองทัพเรือ และสภาการศึกษา จ.กระบี่

นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเลจังหวัดกระบี่ ได้รับการอนุเคราะห์จากกองทัพเรือ มอบเรือปลดประจำการ จำนวน 11 ลำ ซึ่งเป็นเรือที่ปลดประจำการ เพื่อจมใต้ท้องทะเลเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ โดยในวันนี้ ทำการจมเรือรบปลดประจำการจำนวน 3 ลำ ได้มีการทำพิธีวางเรือไปแล้ว จำนวน 3 ลำ เพื่อเป็นการจัดสร้างปะการังเทียม ตามโครงการอุทยานเรียนรู้ใต้ท้องทะเล จังหวัดกระบี่ ส่วนอีก 8 ลำ จะนำมาจมอีก ประมาณเดือนมีนาคม 65 ซึ่งจากนี้ไปเรือรบทั้ง 3 ลำ จะทำหน้าที่อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ตามโครงการอุทยานเรียนรู้ใต้ท้องทะเลจังหวัดกระบี่ตลอดไป

ด้านนายสมชาย หาญภักดีปฎิมา รอง ผวจ.กระบี่ กล่าวว่า เชื่อว่าในอนาคต จังหวัดกระบี่ จะเป็นศูนย์กลางการดำน้ำดูปะการังที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในท้องทะเลฝั่งอันดามัน เนื่องจากมีปะการัง ที่เป็นโครงการอุทยานเรียนรู้ และปะการังธรรมชาติ โดยก่อนหน้านี้ทางจังหวัดกระบี่ ได้นำเรือรบที่ปลดประจำการ ไปวางไว้ท้องทะเล จำนวน 2 จุด ได้แก่บริเวณเกาะยาวาซำ และเกาะพีพีเล ต.อ่าวนาง พบว่ามีปะการังเริ่มเจริญงอกงาม และกำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว

 

กระบี่ - สสจ.กระบี่ยืนยัน! พบนักท่องเที่ยวต่างชาติติดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 3 ราย ผู้ว่าฯสั่งคุมเข้มเข้ม งานเคาท์ดาวน์ อ่าวนางบีช เฟสติวัล 2022 ถ้ามาตรการไม่เป็นไปตามที่กำหนด สามารถพิจารณาให้หยุดงานได้ทันที

วันที่ 28 ธ.ค.64 นายแพทย์ชัยวัฒน์ ทองไหม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า "จากการที่จังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดนำร่องการท่องเที่ยว จนถึงขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว 1,900 คนเศษ จากการตรวจทุกราย พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 11 ราย ในจำนวนนี้เป็นสายพันธ์โอมิครอน 3 ราย จากสายการบิน Finnair 2 ราย อยู่ในระหว่างการรักษา โดยมีกลุ่มเสี่ยง 200 ราย ซึ่งเฝ้าระวังครบ 7 วัน ตรวจเชื้อแล้วไม่พบ ส่วนอีก 1 ราย จากไฟล์ส่วนตัว ที่บินตรงเข้ามา ซึ่งได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว"

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่ได้ลงทะเบียนไว้ อีก 1,400 คนที่จะเดินทางเข้าจังหวัดกระบี่โดยตรง ก็จะต้องใช้หลักเกณฑ์ใหม่ คือเมื่อมาถึงต้องตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการวางแผนว่าใครจะเป็นเจ้าภาพในการตรวจ รวมถึงค่าใช้จ่าย จากเดิมที่ตกลงไว้ คือ ตรวจ RT-PCR ครั้งเดียว ส่วนอีก 1 ครั้งให้นักท่องเที่ยวตรวจเองแบบ ATK และส่งผลมายืนยัน  ด้านมาตรการเฝ้าระวังได้มีการ ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา  หรืออยู่ในที่สาธารณะ ส่วนมาตรการอื่น ๆ ได้มีการประชาสัมพันธ์และเข้มข้นตลอดเวลา  ร่วมทั้งเร่งฉีดวัคซีนของคนกระบี่เองให้ได้ครบตามกลุ่มเป้าหมาย

นายนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวในที่ประชุมกรมการจังหวัดว่า "งานเคาท์ดาวน์ อ่าวนาง ได้มอบหมายให้ สสจ และผู้บังคับการตำรวจประสานกันอย่างใกล้ชิด ถ้าพบว่าไม่ทำตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ปิดได้ทันที" ผู้ว่าย้ำ ต้องเข้มงวดเข้าใจว่าเป็นเรื่องเศรษฐกิจแต่ชีวิตก็ต้องรักษาด้วย

ด้านพล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กระบี่ย้ำ ดูแลการจัดงานเคาท์ดาวน์ อ่าวนางบีช เฟสติวัล 2022 อย่างเข้มงวดในการจราจรและความปลอดภัย โดย จัดทำแผนจราจรบริเวณการจัดงาน จัดทำป้ายบอกเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ไปร่วมงาน ด้านความปลอดภัย ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ดังนี้ จำกัดคนเข้างาน ( 4 ตร.ม.ต่อ 1 คน ร่วมงานได้ไม่เกิน 1,000 คน) และกำหนดแบ่งเป็นโซน คือ โซนคอนเสิร์ตและไม่ใช่คอนเสิร์ต ซึ่งผู้เข้าชมคอนเสิร์ต ให้นั่งชมเท่านั้น) ผู้ที่เข้าร่วมงานต้องลงทะเบียน มีผลการฉีดวัคซีน และผลตรวจ ATK  เป็นลบภายใน 72 ชม.

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top