Sunday, 12 May 2024
กระบี่

ทกจ.กระบี่ร่วมกับ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ลงพื้นที่สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวก่อนเข้าช่วงเทศกาลสงกรานต์

วันที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 10.00 น. นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ พร้อมนางสาวศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ออกตรวจสถานประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา กับสถานประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ในพื้นที่ จ.กระบี่ ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559

‘จุรินทร์’ ปราศรัยใหญ่ที่กระบี่ ช่วย ‘สาคร-น้ำผึ้ง-เคี่ยง’ หาเสียง ย้ำ!! คนกระบี่มีศักดิ์ศรี อย่าให้ใครซื้อได้ มั่นใจ!! ‘ปชป.’ ชนะยกทีม

(5 พ.ค. 66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาร่วมปราศรัยใหญ่ ชู 3 ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย

เขต 1 นายธนวัช ภูเก้าล้วน (เคี่ยง) เบอร์ 3
เขต 2 นายสาคร เกี่ยวข้อง (สาคร) เบอร์ 5 
เขต 3 ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล (น้ำผึ้ง) เบอร์ 5

นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมขึ้นเวทีอย่างคับคั่ง อาทิ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค, นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค, น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง, ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย และนายทวีเกียรติ ใจดี

บรรยากาศการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อนายจุรินทร์ เดินทางถึงบริเวณลานประติมากรรมปูดำ เทศบาลเมืองกระบี่ มีพี่น้องประชาชนขอจับมือ ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ส่งยิ้มให้กำลังใจ พร้อมกับอวยพรให้นายจุรินทร์ เป็นนายกรัฐมนตรี

เร่งล่าโจรแสบ!! ขโมยกระบี่อนุสาวรีย์ ‘กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์’ นับเป็นครั้งที่ 2 หลังเคยถูกขโมยไปแล้วเมื่อ 15 ปีก่อน

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 66 เจ้าหน้าที่เร่งหาเบาะแสคนร้ายขโมยกระบี่พระอนุสาวรีย์ กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ที่ประดิษฐานอยู่บนเขาน้อย จังหวัดสงขลา นับเป็นครั้งที่ 2 หลังเคยหายไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ 15 ปีก่อน

นับเป็นเรื่องสะเทือนใจชาวจังหวัดสงขลาอย่างมาก เมื่อปรากฏว่า กระบี่ที่ห้อยอยู่ด้านซ้ายของพระอนุสาวรีย์ ‘พลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์’ ซึ่งประดิษฐานอยู่บนเขาน้อยได้หายไป เหลือเพียงพระอนุสาวรีย์ที่ไม่มีกระบี่ คาดว่า คนร้ายแอบปีนขึ้นไปขโมยในช่วงกลางคืนเพราะไม่มีคน โดยทางเทศบาลนครสงขลาได้มาตรวจสอบแล้ว และประสานตำรวจให้ช่วยสืบสวนหาเบาะแส ซึ่งชาวสงขลาต่างวิงวอนให้ผู้ที่ขโมยไปนำกลับคืนมาไว้ที่เดิม เนื่องจากเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อจิตใจของชาวสงขลา

และเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก เพราะว่ากระบี่ที่ห้อยอยู่ด้านข้างพระอนุสาวรีย์ฯ เคยถูกคนร้ายขโมยหายไปครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2551 หรือเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา และได้มีการสร้างทดแทนขึ้นมาใหม่ เพื่อให้พระอนุสาวรีย์ฯ มีความสง่างามเหมือนเดิม แต่ปรากฏว่าก็มาถูกขโมยไปอีก จากการสันนิษฐานคาดว่าคนร้ายที่มาขโมยกระบี่ ซึ่งไม่สามารถประเมินค่าได้ อาจเป็นกลุ่มที่สะสมของเก่า หรือไม่ก็นำไปขายเป็นทองเหลืองในร้านค้าของเก่า

DSI จับมือกรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งดำเนินคดีทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ และเอาผิดผู้บุกรุกครอบครองที่ดินสหกรณ์นิคมคลองท่อมและนิคมอ่าวลึกโดยมิชอบ

วานนี้ (วันอังคารที่ 15 สิงหาคม 2566) ร้อยตำรวจเอก ปิยะ  รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับ นายประวัติ  แดงบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินการคดีพิเศษที่ 56/2566 กรณี ทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ขณะที่ร้อยตำรวจเอก ชาญณรงค์  ทับสาร รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและคณะ กำลังสอบสวนบันทึกปากคำพยานปากสำคัญ ณ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่  

อีกทั้งยังได้เดินทางไปรับทราบข้อมูล ประชุมหารือแนวทางในการดำเนินคดีร่วมกัน ซึ่งขณะนี้มีจำนวน 3 คดีด้วยกัน ได้แก่

1. คดีทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้ามากแล้ว  
2. คดีทุจริตที่ดินในนิคมคลองท่อม ขณะนี้ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการรับรองเอกสารมิชอบเพื่อออกโฉนดที่ดินในนิคมคลองท่อม จำนวน 313 แปลง
3. คดีบุกรุกครอบครองพื้นที่นิคมสหกรณ์อ่าวลึก 796 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานการอนุญาตให้ใช้ที่ดินที่ได้สิ้นสุดแล้วแต่ผู้รับอนุญาตเดิมยังคงครอบครองทำประโยชน์ และมีผู้เข้าครอบครองใหม่ 35 ราย เข้าทำการแย่งสิทธิต่อกัน โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะสืบสวนสอบสวนเอาผิดกับผู้กระทำความผิดทุกรายอย่างเป็นธรรม หลังจากที่ดำเนินคดีแล้วจะส่งคืนพื้นที่ให้กับกรมส่งเสริมสหกรณ์นำไปบริหารจัดการตามหน้าที่และอำนาจของกรมส่งเสริมสหกรณ์ต่อไป

กระบี่-องคมนตรี ติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดกระบี่

เมื่อวานนี้ 26 ต.ค.2566 พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมด้วย พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ในฐานะ รองประธานอนุกรรมการฯ และคณะ ได้เดินทางไปติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยมี นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมและรายงานความคืบหน้าในการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำหริในพื้นที่

โอกาสนี้หน่วยงานต่าง ๆ ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะ แนวทางแก้ปัญหา ของ องคมนตรี ในการเดินทางตรวจติดตามครั้งที่ผ่านมา อาทิ สำนักงานชลประทานที่ 15 กรมชลประทาน ได้รายงานความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหยา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา ที่ยังประโยชน์เรื่องน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค แก่ราษฎรในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน ของ ตำบลปลายพระยา จำนวน 800 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 3,932 ไร่ โดยปัจจุบัน กรมชลประทาน ได้พัฒนาอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ด้วยการสร้างถนนรอบอ่าง ระยะทาง 7,800 เมตร เตรียมก่อสร้างท่อส่งน้ำให้กับราษฎรในพื้นที่ หมู่ที่ 3 และ หมู่ที่ 9 ตำบลปลายพระยา บางส่วน จำนวน 200 ครัวเรือน ที่ยังคงขาดแคลนน้ำ รวมถึงเตรียมก่อสร้างสถานีสูบน้ำและระบบท่อส่งน้ำ และได้ขยายเขตไฟฟ้าให้แก่ราษฎร หมู่ที่ 1 ต.ปลายพระยา ที่อาศัยอยู่ด้านเหนือของอ่างเก็บย้ำคลองหยาฯ ซึ่งอดีตไม่มีไฟฟ้าใช้ ทั้งนี้หากโครงการแล้วเสร็จจังหวัดกระบี่ เตรียมขยายผลโครงการโดยการส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ต่อไป

นอกจากนี้ ได้มีการรายงานความคืบหน้า โครงการปลูกข้าวเพื่อบริโภคครบวงจรในนิคมสหกรณ์อ่าวลึก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ , โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าทุ่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ , โครงการอ่างเก็บน้ำบางกำปรัด อันเนื่องมาจากพระราชดำริ , โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำเขียว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ , โครงการทำนบดินคลองสังกาอู้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ , โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มขนาดเล็ก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มขนาดเล็ก 

ในช่วงบ่าย องคมนตรี และคณะฯ เดินทางไปยัง โครงการอ่างเก็บน้ำบางกำปรัด อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่หมู่ที่ 6 บ้านโคกหาร ตำบลโคกหาร อำเภอเขาพนม ซึ่งเป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง มีความจุน้ำ 16 ล้านลูกบาตรเมตร ที่ช่วยสนับสนุนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค แก่ ราษฎร หมู่ที่ 2,3,4,5,6,7,9 และหมู่ที่ 10 ตำบลสินปุน หมู่ที่ 1,2,3,4,5 และหมู่ที่ 6 ตำบลโคกหาร อำเภอเขาพนม จานวน 1,200 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตร จานวน 16,909 ไร่ แต่ทั้งนี้ยังคงมีราษฎร หมู่ที่ 4 บางส่วน และหมู่ที่ 7 ตำบลโคกหาร  หมู่ที่ 3 บางส่วน หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 10 ตำบลสินปุน ยังขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค และทำการเกษตร กรมชลประทาน จึงได้ดำเนินโครงการช่วยเหลือด้วยการสร้างระบบท่อส่งน้ำ จาก อ่างเก็บน้ำบางกำปรัดอันเนื่องมาจากพระราชดาริ เพื่อขยายพื้นที่ส่งน้ำให้กับราษฎร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา สำรวจ และออกแบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 และจะเสนอขอสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างจาก สำนักงาน กปร. ในปี พ.ศ. 2568 วงเงินงบประมาณ 35 ล้านบาท ต่อไป

จังหวัดกระบี่ มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวม 17 โครงการ ที่เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่มี จำนวน 8 โครงการ โครงการพัฒนาสิ่งแวดล้อม 3 โครงการ โครงการส่งเสริมอาชีพ 1 โครงการ โครงการพัฒนาแบบบูรณาการและโครงการพัฒนาด้านอื่น ๆ จำนวน 5 โครงการ ซึ่งได้สร้างประโยชน์สุขให้แก่ราษฎรเสมอมา...

กระบี่-เปิดปฏิบัติการ (Kick off) ปล่อยแถวระดมกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล เน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

นายสมชาย หาญภักดีปฎิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการเพื่อสนองนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการป้องกันและปราบปราม ผู้มีอิทธิพลในแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งออกตรวจจัดระเบียบสังคม เพื่อกวดขัน ตรวจตรา และให้คำแนะนำต่อสถานบริการสถานประกอบกิจการต่างๆ ได้ถือปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดในการเปิดให้บริการเน้นย้ำห้ามเด็กและเยาวชนเข้าใช้บริการ ในสถานบริการและห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กและเยาวชน รวมถึงการปิดให้บริการตามเวลาที่กฎหมายกำหนด อันเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในพื้นที่ 

สำหรับจังหวัดกระบี่ได้เร่งจัดตั้งกลไกในการดำเนินการ การติดตามและรายงานผล เพื่อนำนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปสู่ การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการบูรณาการหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ทุกภาคส่วน ร่วมกับชุดปฏิบัติการของฝ่ายปกครองที่จังหวัดและอำเภอจัดตั้ง ดำเนินการตั้งจุดตรวจจุดสกัดสิ่งผิดกฎหมาย ตรวจตรา หาข่าวที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การค้ามนุษย์ การครอบครองและพกพาอาวุธปืน การพนัน ผู้มีอิทธิพล ตลอดจนสถานบริการและสถานบันเทิง ที่กระทำผิดกฎหมาย และเน้นย้ำให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้ที่ฝ่าฝืนในทันที

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าว ขอให้แจ้งเบาะแสมายังศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1195 พร้อมกับขอความร่วมมือจากประชาชนในทุกภาคส่วนของสังคม ได้ร่วมกันใช้มาตรการทางสังคม กดดันผู้กระทำผิดให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ควบคู่ไปกับการใช้มาตรการทางกฎหมายจากเจ้าหน้าที่รัฐ ในการขยายผลปราบปรามจับกุมอย่างจริงจัง พร้อมทั้งร่วมกันให้ข้อมูลข่าวสาร หรือเบาะแสเพิ่มเติม เกี่ยวกับบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ผ่านทาง ตู้ ปณ. 1111 รวมทั้ง ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่าน หมายเลข 1599

'น้ำใจคนกระบี่' แห่ร่วมบริจาคโลหิต หลังทราบข่าว ธนาคารเลือดโรงพยาบาลกระบี่ขาดแคลน

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 สืบเนื่องจาก มีการประชาสัมพันธ์ทางเพจข่าวดังในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ทางธนาคารเลือดโรงพยาบาลกระบี่ แจ้งความประสงค์ขอรับบริจาคเลือดซึ่งมีจำนวนน้อยต่อการช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่ ซึ่งการประชาสัมพันธ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากบุคคลในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และหน่วยงานต่างๆ ทั้งนี้ ทางโรงเรียนดร. 1 intercare จังหวัดกระบี่ นำโดย ดร.พิชญุ์นี ขาวล้วน  ผู้บริหารโรงเรียนดร. 1 อินเตอร์แคร์กระบี่จัดทำโครงการจิตอาสา บริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ โดยนักเรียนโรงเรียนดร. 1 อินเตอร์แคร์กระบี่รุ่น 27 ร่วมกันบริจาคโลหิตที่โรงพยาบาลกระบี่ รวมถึงบุคคลทั่วไปที่มีความประสงค์บริจาคโลหิต โดยมี นายแพทย์สุรัตน์ ตันติทวีวรกุล ผอ.โรงพยาบาลกระบี่ มาให้กำลังใจต่อผู้ที่มีความประสงค์ร่วมบริจาคโลหิต 

และสำหรับผู้มีความประสงค์มีจิตอาสาต้องการบริจาคเลือดสามารถติดต่อได้ที่ธนาคารเลือดโรงพยาบาลกระบี่ เวลา 8:30 น. -13:00 น วันจันทร์ - วันศุกร์ บริจาคโลหิตด้วยหัวใจส่งต่อการให้ที่งดงามให้เลือดเท่ากับให้ชีวิต 

โดยครั้งนี้ มีนักเรียนโรงเรียนดร. 1 intercare ร่วมกิจกรรม โครงการจิตอาสา #IKSบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ นักเรียนโรงเรียนด็อกเตอร์หนึ่งอินเตอร์แคร์กระบี่ รุ่น27 บริจาคโลหิตที่โรงพยาบาลกระบี่  และนอกนี้ยังมีประชาชนที่ได้ทราบข่าวจากการประชาสัมพันธ์ทางเพจข่าวในท้องถิ่นได้เดินทางมาร่วมกันบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง

กระบี่-แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจน้องทหารใหม่ ผลัดที่ 2 ประจำปี 2566 หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ “เน้นย้ำให้ดูแลทหารใหม่ให้เสมือนคนในครอบครัว”

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เดินทางตรวจเยี่ยมให้กำลังใจน้องทหารใหม่ ผลัดที่ 2 ประจำปี 2566 ของหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยมีพันเอก ธนวัฒน์ สายสกุลรัตน์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 พร้อมด้วยรองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 15,ผู้ฝึกทหารใหม่ ตลอดจนส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับและนำตรวจเยี่ยม

พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำให้หน่วยฝึกทหารใหม่ยึดถือปฏิบัติตามหลักสูตรการฝึกทหารใหม่ ให้สอดคล้องกับนโยบายของกรมยุทธศึกษาทหารบก สร้างความภาคภูมิใจแก่น้องทหารใหม่และครอบครัว และในโอกาสนี้ได้นำอาหารพิเศษ (ไก่ย่างเนื้อทอง โดนัท น้ำหวานต่างๆ และไอศกรีม) มามอบให้กับน้องทหารใหม่ พร้อมมอบนโยบายการฝึกและมาตรการต่างๆ ให้หน่วยฝึกทหารใหม่ได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด พร้อมเน้นย้ำให้ ผู้ฝึก ผู้ช่วยผู้ฝึก ครูนายสิบ ตลอดจนครูทหารใหม่ดูแลน้องทหารใหม่อย่างใกล้ชิด ใส่ใจในทุกรายละเอียดของน้องทหารใหม่ โดยเฉพาะการติดตั้งมุ้งลวดสำหรับโรงนอน พร้อมกับการติดกล้อง CCTV ภายในโรงนอนให้ครอบคลุมบริเวณจุดต่างๆ รวมถึงความเป็นอยู่ของครอบครัวทางบ้าน จะต้องมีการเข้าไปดูแลครอบครัวของทหารใหม่ที่ทางบ้านประสบปัญหาต่างๆ  รวมถึงให้มีการแนะนำประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเข้าสู่การเป็นนักเรียนนายสิบ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำหรับทหารใหม่ที่จะต่อยอดเข้าสู่การเป็นทหารอาชีพในอนาคต

พร้อมกันนี้ได้ขอให้น้อง ๆ ทหารใหม่ได้เก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ต่างๆ ที่ทางหน่วยฝึกฯ ได้มอบให้มากที่สุด และให้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ รวมถึงมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง จงตั้งใจอดทนจนผ่านการฝึก พร้อมที่จะเป็นสุภาพบุรุษอย่างแท้จริง

กระบี่-บูรณาการร่วมสุ่มตรวจคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเล ป้องปรามปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฏหมายคุ้มครองแรงงาน

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567  ที่บริเวณท่าเทียบเรือศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเล กระบี่ ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่   มอบหมายให้ นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
ในฐานะรองหัวหน้าศูนย์บริหารจัดการแรงงานประมงจังหวัดกระบี่ นำคณะทำงานศูนย์บริหารจัดการแรงงานประมงจังหวัดกระบี่ลงเรือตรวจการณ์ ออกตรวจบูรณาการคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเล เพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายไม่ให้มีการใช้แรงงานเด็กในเรือประมงทะเล มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีมาตรการที่ชัดเจนและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเลไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ด้านแรงงานและได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฏหมายคุ้มครองแรงงาน โดยมี นายฉลาดวิทย์ ประเทืองมาศ  สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดกระบี่ ในฐานะเลขานุการศูนย์ฯ การดำเนินการเป็นการตรวจสภาพการจ้างและสภาพการทำงาน การค้ามนุษย์ด้านแรงงาน พร้อมหน่วยงานตรวจบูรณาการ 17 หน่วยงาน ที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการป้องกัน แก้ไข และปราบปรามการกระทำประมงผิดกฎหมายที่มีการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ 

และสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่หรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่(ด้านสังคม) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่ ฝ่ายทหาร สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ สำนักงานประมงจังหวัดกระบี่ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ สถานีตำรวจน้ำ ๒ กองกำกับการ ๗ กองบังคับการตำรวจน้ำกระบี่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกระบี่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ สำนักงานแรงงานจังหวัดกระบี่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดกระบี่ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ ของชาติทางทะเล จังหวัดกระบี่(ศรชล.) ศูนย์ป้องกันและปราบปรามทะเลจังหวัดกระบี่ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่ และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดกระบี่ ในฐานะเลขานุการศูนย์ฯ การดำเนินการเป็นการตรวจสภาพการจ้างและสภาพการทำงาน การค้ามนุษย์ด้านแรงงาน 

โดยมีล่ามแปลภาษาต่างด้าว หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามมาตรการภายใต้กฎหมายตามภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำหรับกรณีมีเหตุต้องสงสัยเข้าข่ายการค้ามนุษย์ด้านแรงงานให้ดำเนินการตามแนวทางกลไกการส่งต่อระดับชาติ( NRM) เพื่อการบริหารจัดการคดีและการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และการบังคับใช้กฎหมายหรือบริการอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป 

นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้นำคณะทำงานฯออกตรวจบูรณาการด้านแรงงาน โดยออกตรวจเรือในพื้นที่น่านน้ำอันดามันเขตรับผิดชอบ 16 ตำบล 5 อำเภอของจังหวัดกระบี่ สุ่มตรวจเรือประมงพาณิชย์ประเภทเรืออวนล้อม หรือเรืออวนดำ จำนวน 6 ลำ มีแรงงานประมงเป็นชาวกัมพูชา 27 คน เมียนมาร์ 20 คน ชาวไทย 125 คน ไม่พบการกระทำความผิดด้านแรงงานหรือการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในกิจการประมงทะเล โดยเฉพาะการใช้แรงงานเด็กต่ำกว่า 18 ปี แรงงานมีการตรวจสภาพการจ้างกสรทำงาน และแรงงานประมงยินยอมลงเรือทำงานด้วยความสมัครใจ..

กระบี่///ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

กระบี่-รองผู้ว่าฯกระบี่ เปิดศูนย์ประสานงานและลานกิจกรรมอำเภอเมืองกระบี่ โครงการ TO BE NUMBER ONE รวมพลังป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

ทุกตำบลและหมู่บ้าน สนองพระปณิธาน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี 
วันที่ 25 มกราคม 2567 ที่บริเวณลานกิจกรรม อำเภอเมืองกระบี่ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่   มอบหมายให้ นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้เป็นประธาน เปิดศูนย์ประสานงานและลานกิจกรรมโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE อำเภอเมืองกระบี่ และมี นายเดชรัฐ สิมศิริ อนุกรรมการโครงการโครงการ TO BE NUMBER ONE ร่วมเป็นเกียรติในพิธี เพื่อให้ลานกิจกรรม เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนกิจกรรมโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE แบบบูรณาการ ที่ทุกหน่วยงานทั้ง ภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน เยาวชน และเครือข่ายประชาชน ได้ถือปฏิบัติและสนับสนุนตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วย ในการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเตรียมความพร้อมสำหรับการประกวดอำเภอ TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2567
โดยกิจกรรมภายในงาน จัดให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงขับเคลื่อน TO BE NUMBER ONE ระหว่าง หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษาและกลุ่มพลังมวลชน  พิธีมอบป้ายชมรม TO BE NUMBER ONE  มอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติแก่ผู้สนับสนุนกิจกรรม การแสดงความสามารถของเยาวชน TO BE NUMBER ONE นอกจากนี้ยังจัดให้มีนิทรรศการผลงานและความสำเร็จของสมาชิก TO BE NUMBER ONE  การจัดแสดงและจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ชุมชน และสินค้าOTOP ของสมาชิก TO BE NUMBER ONE ในอำเภอเมืองกระบี่ อีกด้วย

สำหรับ อำเภอเมืองกระบี่ และ จังหวัดกระบี่ ได้เข้าร่วมโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่ได้พระราชทานโครงการให้กับเยาวชน เพื่อให้เด็กและเยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เริ่มตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2545 มาจนถึงปัจจุบัน โดยได้กำหนดเป็นแผนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนงานแบบบูรณาการให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถือปฏิบัติและสนับสนุนตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วย นำแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดเข้าไปบรรจุในแผนงานของหน่วยงาน กำหนดสวมใส่เสื้อ TO BE NUMBER ONE อำเภอเมืองกระบี่ ทุกวันพุธ เพื่อเป็นการแสดงถึงพลังและประชาสัมพันธ์โครงการ TO BE NUMBER ONE พร้อมทั้งร่วมกันรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง นำแนวทางการดำเนินงานตามหลัก 3 ก ได้แก่ กรรมการ กองทุน กิจกรรม และ 3 ยุทธศาสตร์หลักของโครงการ TO BE NUMBER ONE คือ การสร้างกระแส การสร้างภูมิคุ้มกัน การสร้างและพัฒนาเครือข่ายเป็นแกนหลักในการดำเนินงานในการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกหลานชาวกระบี่ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด สร้างความตระหนักรู้ถึงโทษและพิษภัยของยาเสพติด เพื่อให้เป็นเยาวชนที่เติบโตมาอย่างมีคุณภาพทั้งร่างกายจิตใจ ...
กระบี่///ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top