Sunday, 12 May 2024
กระบี่

กระบี่ - กฟผ. มอบเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ สนับสนุนการปฏิบัติงานป้องการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจังหวัดกระบี่

วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 คณะผู้บริหาร กฟผ. กระบี่ นำโดยนายธันยบูรณ์ สกลกิติวัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าภาคใต้ เป็นตัวแทนหน่วยงาน มอบเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่จังหวัดกระบี่ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์

รวมทั้งประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่ต้องเข้ารับการรักษา ประกอบด้วย ถุงมือ 1,500 ชิ้น , เสื้อกาวน์  1,000 ชุด , หน้ากาก N95  250 ชิ้น , ผ้าห่ม 30 ผืน , หน้ากาก Medical mask 10,000 ชิ้น , gift set 10 ชุด , หน้ากาก 3M 100 ชิ้น , ชุด PPE 100 ชุด , เจลแอลกอฮอล์ขนาด 5 ลิตร 6 แกลลอน และเจลแอลกอฮอล์ขนาด 450 มล. 30 ขวด โดยมีนายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นผู้รับมอบ ณ ศาลากลางจังหวัดกระบี่


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่ รายงาน

กระบี่ - กำหนดมาตรการลานเทปาล์มน้ำมันคุณภาพ 18 % ขึ้นไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อขับเคลื่อนนโยบายเมืองแห่งปาล์มน้ำมันคุณภาพ

พันตำรวจโท หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จังหวัดได้ติดตามการดำเนินงานตามโครงการขับเคลื่อนนโยบายเมืองแห่งปาล์มน้ำมันคุณภาพ และตรวจกำกับลานเทปาล์มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยกำหนดมาตรการเพื่อให้ลานเทรับซื้อปาล์มน้ำมันคุณภาพ (18 % ขึ้นไป) ได้ปฏิบัติ ดังนี้ ลานเทปาล์มน้ำมันต้องมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม พื้นที่ปฏิบัติงานมีจำนวนพื้นที่ใช้สอยที่เหมาะสม และถูกสุขลักษณะของพื้นที่ปฏิบัติงาน เครื่องชั่งได้มาตรฐานเหมาะสมกับการใช้งานตามกฎหมายกระทรวงพาณิชย์ ไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ในการแยกลูกร่วง โดยรางทะลายปาล์มเป็นรางทึบ ไม่มีตะแกรง หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ในการแยกลูกร่วง  มีป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน และถูกต้องตามกฎหมายกระทรวงพาณิชย์  รับซื้อปาล์มทะลายและปาล์มร่วงในราคาเดียวกัน, รับซื้อปาล์มทะลายที่มีคุณภาพตาม มกษ.5402 โดยไม่ซื้อปาล์มดิบ และปาล์มที่ไม่มีคุณภาพ  ขนส่งปาล์มถึงโรงานภายใน 24 ชม. นับตั้งแต่รับทะลายปาล์ม ไม่กระทำการใด ๆ ที่เร่งให้ปาล์มสุกเร็วโดยผิดแผกไปจากธรรมซาติ เช่น ไม่รดน้ำ บ่มปาล์ม ใช้สารเคมี อื่นๆ ที่เร่งให้ปาล์มสุกเร็วขึ้น รวมทั้งมีสิ่ง อำนายความสะดวกอื่น ๆ อาทิ แสงสว่าง อุปกรณ์เครื่องมือ กล้องวงจรปิด ฯลฯ และได้รับการรับรองมาตรฐาน RSPO    

สำหรับลานเทที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดกำหนด และออกตรวจสอบกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวได้กำหนดโทษ ดังนี้  ลานเทปาล์มน้ำมันไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2552 มาตรา 28 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หากลานเทปาล์มน้ำมันไม่แจ้งปริมาณสถานที่เก็บและไม่จัดทำบัญชีคุมสินค้าน้ำมันปาล์มและผลปาล์มน้ำมัน หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พรบ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2442 มาตรา 24(5) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมี่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละสองพันบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะมีการแจ้ง ลานเทปาล์มน้ำมันต้องประทับแสดงเครื่องหมายคำรับรองของสำนักงานกลางหรือสำนักงานสาขาที่เครื่องชั่งตวงวัดทุกเครื่อง หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พรบ. มาตรการชั่งตวงวัด (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2557 มาตรา 7 ต้องระวางโทษจำคุกไม่กินสามปีและปรับไม่เกินหนึ่งแสนสองหมื่นบาท ห้ามแก้ไขหรือดัดแปลงส่วนประกอบของเครื่องชั่งหรือโปรแกรมที่ใช้กับเครื่องช่างโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบอื่นที่คล้ายคลึงกันหรือกระทำด้วยวิธีการใด ๆ เพื่อให้ความเที่ยงของเครื่องชั่งผิดเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด หากฝ่าฝืนมีความผิด ตาม พรบ. มาตราชั่วตวงวัด (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2557 มาตรา 75 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิดเจ็ดปี และปรับไม่เกิดสองแสนแปดหมื่นบาท


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่ รายงาน

กระบี่ – คลัสเตอร์โรงเรียนปอเนาะ ยอดติดเชื้อผู้ป่วยลด ขณะที่จังหวัดกระบี่เตรียมผุดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 4 รับผู้ป่วยติดเชื้อกลับบ้าน

ศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 จ.กระบี่ ได้รายผลการตรวจ เชื้อกลุ่มเสี่ยง ข้อมูล ณ เวลา 23.00 น. วันที่ 14 ก.ค. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 ราย ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยสะสมเป็น 882 ราย กำลังรักษา 471 รายรักษาหายกลับบ้าน 411 ราย โดยคลัสเตอร์ นักเรียนโรงเรียนเอกภาพศาสนวิชญ์ ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเพียง 2 ราย มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันนักเรียนโรงเรียนเอกภาพศาสนวิชญ์

นอกจากนี้ยังมีผู้ติดเชื้อ ในพื้นที่ อ.เมือง 4 ราย เป็นนักเรียนจากโรงเรียนจงรักสัตย์วิทยาจังหวัดปัตตานี 1 ราย จากพื้นที่เสี่ยง กทม. 2 ราย และมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช 1 ราย อำเภออ่าวลึก 1 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยง กทม.อำเภอเกาะลันตา 1 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยง กทม.อำเภอปลายพระยา 1 ราย สัมผัสผู้ป่วยยืนยันจากจังหวัดนครสวรรค์ อำเภอเหนือคลอง 1 รายสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน

สำหรับการฉีดวัคซีน ป้องกันไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กระบี่ เป้าหมายฉีดวัคซีน จำนวน 352,476 คน ฉีดแล้ว 84,191 คน คิดเป็นร้อยละ 23.87 ขณะที่บางคนตั้งข้อสงสัยปนคำถาม ในโซเชียลว่า! “ยังหนักไม่พอหรือ มีบางกลุ่มทำโครงการ “รับผู้ติดเชื้อ กลับบ้าน” มาอีก ไป copy จังหวัดอื่นมา จนลืมข้อจำกัดของจังหวัดเราไป เช่น กระบี่ เป็นพื้นที่สีแดง ชาวบ้านที่ได้ ฉีดวัคซีน เข็มแรก ก็ยังมีไม่ถึง 50% บุคลากรทางการแพทย์ พอไหม เขาจะไหวรึ หากคุมไม่อยู่จนระบาดเป็นพื้นที่แดงเข้ม ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบตามมาเดือดร้อนมีอีกมาก ใครจะรับผิดชอบ หากผู้ติดเชื้อ กักตัวในโรงพยาบาลสนามแล้วหนีออกมา (เหมือนที่เคย) แล้วไประบาด จะทำไง การนำผู้ติดเชื้อกลับเวลานี้ เป็นการไปเพิ่มความเครียดให้คนในพื้นที่หรือไม่ จิตวิทยามวลชน สำคัญ และที่สำคัญไปกว่าคือ ชาวบ้านที่เขายังไม่ได้ฉีดเข็มแรกก็มีมาก และโดยเฉพาะรอบ ๆ โรงพยาบาลสนาม อย่าให้ไปเข้าสำนวนโบราณที่ว่า ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็มาแทรกเลยครับ สงสารประชาชน”

ขณะที่ จ.กระบี่ ได้จัดเตรียมโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 4 ขึ้นที่ภายใน ม.กีฬา วิทยาเขตกระบี่ ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ รับผู้ป่วยได้ จำนวน 400 เตียง คาดว่า ไว้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ตามโครงการรับผู้ป่วยกลับบ้าน


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

กระบี่ - ตำรวจน้ำ ส่งต่อบุญเพื่อชาวเล ฝ่าวิกฤติโควิด-19 บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ริมทะเล

ตำรวจน้ำ กองกำกับการ 9 โดย พ.ต.อ. จตุรวิทย์ คชน่วม ผกก.9 ฯ ได้กล่าวว่าด้วยปัจจุบันได้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ที่มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนเป็นวงกว้างทั่วทั้งประเทศ โดย พล.ต.ต. สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน. ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญและให้ ทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชน อย่างเต็มที่

ในส่วนของตำรวจน้ำจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล จึงได้มีมาตรการ เร่งด่วนในด้านต่าง ๆ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด โดยเฉพาะประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ริมทะเล ประกอบอาชีพประมง เดินทางโดยเรือเป็นปกติชีวิต ซึ่งการเข้าไปช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบากต้องอาศัยเรือเป็นหลักตำรวจน้ำ เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการการช่วยเหลือประชาชน(ชาวเล) ที่ได้รับผลกระทบ กรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19)

เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ริมทะเล และต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ตลอดทั้งสนับสนุนมาตรการตามประกาศของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล ณ บริเวณบ้านคลองหิน หมู่ที่ 7 ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ จำนวน 40 ครัวเรือน สิ่งของต่าง ๆ ที่เรานำไปส่งต่อให้ประชาชน ส่วนหนึ่งมาจากการร่วมกันของข้าราชการตำรวจน้ำกองกำกับการ 9ฯ ที่ได้ร่วมกันทำบุญในครั้งนี้และได้รับการสนับสนุน จากพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ร่วมสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยาฟ้าทะลายโจร อุปกรณ์ป้องกันและเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนที่กักตัว ตามโครงการฯ ในยามวิกฤตแบบนี้ขอเป็นส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งในการที่จะช่วยเหลือประชาชน ให้ฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี / ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

กระบี่ - สถาปัตยุคศรีวิชัย "พระธาตุวัดคลองท่อม" เป็นสถาปัตยกรรมถอดแบบยุคสมัยอาณาจักรศรีวิชัย กำลังก่อสร้างใหญ่ที่สุดภาคใต้ (สูง49 ม.)และพบได้ไม่กี่แห่งในไทย

"พระธาตุวัดคลองท่อม" เป็นสถาปัตยกรรมถอดแบบยุคสมัยอาณาจักรศรีวิชัย ปัจจุบัน ความงดงามแบบนี้ มีไม่กี่แห่ง พบในภาคใต้ ซึ้งปัจจุบันกำลังก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่สุดในภาคใต้ (ความสูง 49 เมตร) ณ.วัดคลองท่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ด้วยแรงศรัทธาเพื่อเป็นพุทธบูชา โดยพระครูสถิตนราธิการ และสาธุชนทั้งหลาย ร่วมกันทำบุญบริจาค

โดยลักษณะ "พระธาตุวัดคลองท่อม"เป็นสถูปทรงมณฑปให้มีฐานและเรือนธาตุรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนยอดเป็นเจดีย์แปดเหลี่ยม ส่วนฐานปากระฆังสร้างเป็นชึ้นลดหลั่นกันไป มีเจดีย์ประดับมุมและซุ้มบันแถลงในแต่ละทิศ

ยุคศรีวิชัย (พุทธศตวรรษที่ 13 - 18)

ยุคศรีวิชัย พบในภาคใต้ ศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยไม่ทราบแน่ชัด ในประเทศไทยจะพบร่องรอยการ สร้างสถูปตามเมืองสำคัญ เช่น เมืองครหิ อำเภอไชยาจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมืองตามพรลิงก์ จังหวัดนครศรีธรรมราช และอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี

โดยการก่อสร้างพระธาตุวัดคลองท่อม ได้มีการเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 61 ณ มณฑณพิธีสถานที่ก่อสร้างพระธาตุวัดคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ในงานพิธีวางศิลาฤกษ์พระมหาธาตุวัดคลองท่อม โดยมี พระราชวชิรากร(พระอาจารย์ชัย) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุชิรมงคล (วัดบางโทง) เป็นประธานวางแท่นศิลาฤกษ์ พระครูสถิตนราธิการ เจ้าอาวาสวัดคลองท่อม พร้อมด้วย นายไพศาล ศรีเทพ นายอำเภอคลองท่อม โดยคาดว่าจะใช้งบก่อสร้าง ประมาณ 70 ล้าน ซึ้งมีความสูงจากฐานถึงยอด 49 เมตร นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมในยุคอาณาจักรศรีวิชัย ซึ้งในปัจจุบันหาพบได้น้อยมากในภาคใต้ และมีความใหญ่โตที่สุดในภาคใต้ของไทย ปัจจุบันดำเนินกำลังก่อสร้างในส่วนของโครงสร้างหลัก


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่ รายงาน

กระบี่ - “อนุทิน” อนุมัติวัคซีน sinovac - AstraZeneca จำนวน 500,000 โดส พร้อมส่งมอบพื้นที่เป้าหมาย เพื่อเปิดเมืองพื้นฟูเศรษฐกิจ - การท่องเที่ยว พร้อมให้กำลังใจข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด-19

วันนี้ (7 ตุลาคม 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ ตรวจเยี่ยมการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID -19) พื้นที่จังหวัดกระบี่  โดยมี  นายพุฒิพงศ์  ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวต้อนรับ เข้าร่วมประชุม รับและส่งมอบวัคซีนจาก ผู้บริหารจากทั้ง 2 กระทรวง โดยมี องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมพนมเบญจา (ชั้น) 5 ศาลากลางจังหวัดกระบี่

จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 2019 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกนับตั้งแต่ เดือนมกราคม 2563 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ชะลอตัวไปจนถึงหยุดชะงัก ร้านอาหาร ห้างร้าน โรงแรม และกิจกรรมการท่องเที่ยวต้องหยุดให้บริการ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว รัฐบาลได้ประกาศ "เปิดประเทศ" ไว้เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564 เดินหน้าแผนระยะที่ 1 โดยทำการทดลองเปิดพื้นที่นำร่องในรูปแบบ Sandbox ซึ่งจังหวัดกระบี่ เริ่มเปิดเกาะพีพี เกาะไหง หาดไร่เล  ก่อนแผนระยะที่ 3 เป็นการผ่อนผัน ในเรื่องของระยะเวลาในการทำกิจกรรมในสถานที่ต่าง ๆ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 และแผนระยะที่ 3 การเปิดจังหวัด เปิดประเทศ ในเดือนพฤศจิกายน 2564

จังหวัดกระบี่ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว พื้นที่นำร่องระยะแรกที่พร้อมจะเปิดจังหวัด  จึงกำหนดเป็นนโยบายให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างน้อย ร้อยละ 70 หรือประมาณ 352,653 คน จากประชากรทั้งหมดประมาณ 504,00 คน ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มหนึ่งแล้วทุกคนจะได้รับวัคซีนเข็มสองภายใน เดือนตุลาคมนี้ คิดเป็นร้อยละ ๓๘ กระทรวงสาธารณสุขยังคงเร่งให้วัคซีนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ครบตามเป้าหมายโดยเร็วที่สุด เพื่อเปิดเมือง  พื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว พร้อมส่งมอบวัคซีน จำนวน 500,000 โดส

  

กระทรวงสาธารณสุขมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะให้การเปิดประเทศครั้งนี้ ไม่ก่อให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งให้ความสำคัญกับทั้งสุขภาพประชาชนควบคู่ กับเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 จึงเป็น "วาระแห่งชาติ"ที่ประชาชนในแผ่นดินไทยจะต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 70% หากประชาชน มีความประสงค์จะเข้ารับวัคซีนมากกว่านั้น กระทรวงสาธารณสุขก็ได้เตรียมวัคซีน สำหรับปี 2564 ไว้ถึง 125 ล้านโดส วัคซีนทางเลือก 27 ล้านโดส รวมถึง การได้รับบริจาคจากประเทศต่าง ๆ มาเป็นระยะ 

 

กระบี่ - บรรยากาศวันรับสมัครเลือกตั้ง สมาชิก อบต. และ นายกอบต. ทั้ง 46 แห่งในจังหวัดกระบี่ ท่ามกลางกองเชียร์ให้กำลังใจพร้อมนำรถแห่ออกหาเสียง คาดเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 70

วันที่ 11 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการรับสมัครเลือกตั้ง สมาชิก อบต. และนายกอบต.ทั้ง 46 แห่งในจังหวัดกระบี่  ซึ่งมีกำหนดรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 11-15 ต.ค.64 บรรยากาศการับวันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก มีว่าที่ผู้สมัคร สมาชิก อบต. และนายกอบต. เดินทางมาลงสมัคร ตั้งแต่ช่วงเช้า

โดยมี ผู้สนับสนุนเดินทางมาร่วมให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจคัดกรอง ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บริเวณทางเข้า ก่อนเข้าไปยื่นใบสมัคร    

เช่นที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลทับปริก อ.เมือง กระบี่ ได้มีผู้สมัคร นายกอบต. นำสมาชิกมาลงสมัคร ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อน เปิดทำการในเวลา 08.30 น. โดยผู้ลงสมัครนายกอบต. คนแรก ได้แก่ นายจำเริญ นวลวิจิตร อดีตประธานสภาอบต.ทับปริก ได้เดินทางมาลงสมัครเป็นคนแรก พร้อมสมาชิกครบทุกเขต ตามด้วย ด.ต.สุรศักดิ์ เกิดสุข น้องชายกำนันตำบลทับปริก นำลูกทีมมาลงสมัคร ครบทุกเขตเช่นกัน

ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบล ไสไทย อ.เมืองกระบี่ บรรยากาศ.คึกคักไม่แพ้กัน มีอดีนายก อบต.2 สมัยที่ผ่านมา ได้เดินทางมาลงสมัคร ชิงตำแหน่งนายกอบต.นอกจากนี้ยังมีผู้มัครอิสระเดินทางมาลงสมัครอย่างต่อเนื่อง

 

กลุ่มชาวสวนปาล์ม สภาเกษตรกรฯ ยื่นหนังสือเสนอถึง “พลเอกประยุทธ์” ยกเลิกมาตรการปรับลดสัดส่วนผสมขั้นต่ำ ของไบโอดีเซล บี7 และน้ำมันดีเซลธรรมดา เป็นร้อยละ 6 !!หวั่นส่งผลกระทบต่อราคาผลปาล์ม

วันที่ 12 ตุลาคม 2564 เวลา 09.00 น. ณ ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เลขที่ 9/10 ถนนอุตรกิจ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนายอธิราษฎร์ ดำดี คณะทำงานด้านปาล์มน้ำมัน สภาเกษตรกรจังหวัดกระบี่ / ท่านอาจารย์เอนก ลิ่มศรีวิไล และพนักงานสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกระบี่ 

เข้ายื่นหนังสือข้อเสนอให้ยกเลิกมาตรการปรับลดสัดส่วนผสมขั้นต่ำของไบโอดีเซล บี7 และน้ำมันดีเซลธรรมดาเป็นร้อยละ 6 ถึงท่านนายกรัฐมนตรี ‘พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ โดยมีนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มารับข้อเสนอดังกล่าว

โดยมีข้อเท็จจริงเพื่อเป็นข้อมูลพิจารณาดำเนินการ ดังนี้

1. น้ำมันไบโอดีเซล บี100 ไม่ได้เป็นภาระหลักของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

2. การใช้ข่าวโจมตีน้ำมันไบโอดีเซล บี100เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงทำลายขวัญและกำลังใจของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม

3. นโยบายการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี100 มาผสมกับน้ำมันดีเซลจนได้รับการยอมรับมาตรฐานเป็น บี7 บี10 และบี20 เป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานสะอาด ลดมลภาวะ สร้างเศรษฐกิจในชาติ

4. รัฐบาลควรรักษานโยบายที่ได้ให้ไว้กับประชาชนมากกว่าการมองแค่เรื่องราคาน้ำมันอย่างเดียว

5. สถานการณ์ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เป็นตามกลไกตลาดโลกแต่ราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำมาเป็นระยะเวลา 10ปี ปีนี้เป็นปีแรกที่ราคาปาล์มน้ำมันดีขึ้น

6. ปาล์มน้ำมันเป็นพืชยืนต้นระยะยาว ไม่สามารถปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกได้ง่ายเหมือนพืชชนิดอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงนโยบายชั่วคราวเช่นนี้ โดยไม่มีมาตรการดี ๆ มารองรับจะก่อให้เกิดผลกระทบเสียหายต่อห่วงโซ่การผลิตปาล์มทั้งระบบ

กระบี่ - รับมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ และสิ่งของใช้จำเป็นจำนวน 716 กล่อง มูลค่ากว่า 800,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด -19 ในโครงการ "ช่วยด้วย ช่วยคุณจาก โควิดได้ถึงบ้าน”

วันนี้ 15 กันยายน 2564 ที่ศาลากลาง จ.กระบี่ อ.เมือง จ.กระบี่ นายพุฒิพงศ์  ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่  เป็นประธานในการรับมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์และสิ่งของใช้จำเป็นจำนวน 716 กล่อง มูลค่ากว่า 800,000 บาทเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด -19 ในจังหวัดกระบี่ โดยมี ผศ.ดร.พิชญ์สินี ขาวล้วน ผู้บริหารโรงเรียนด็อกเตอร์หนึ่งอินเตอร์แคร์กระบี่ และศูนย์พื้นฟูดูแลผู้สุงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงด็อกเตอร์อินเตอร์แคร์ ร่วมกับทีมโครงการ "ช่วยด้วย ช่วยคุณจาก โควิดได้ถึงบ้าน"

นำโดย ทีมนายแพทย์อนุชา พาน้อย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Doctor A to Z นางกรรณิการ์ จำป่าพันธ์ ผู้ก่อตั้งโครงการช่วยด้วย COO&CO Founder Doctor A to Z พว.นิตยา ชไนศวรรย์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบางกอกเฮลท์แคร์เซอร์วิสจำกัด ร่วมกันมอบสิ่งของบริจาค ยาและเวชภัณฑ์ ทางการแพทย์และสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดในจังหวัดกระบี่ และได้ส่งมอบต่อให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ เพื่อนำไปให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีความจำเป็นต้องรักษาตัวที่บ้านภายในวิกฤตเตียงเต็มปัจจุบัน และหายป่วยเป็นจำนวนมากทางโครงการและผู้สนับสนุนจึงประสงค์ที่จะขยายความช่วยเหลือผู้ป่วยเป็น 2,000 คน ในจังหวัดกระบี่

ครม.สัญจร กระบี่นำร่องเปิดประเทศ 8-9 พ.ย.เลื่อนก่อน หลีกทางประชุมร่วมรัฐสภา พิจารณา พ.ร.บ.ปฏิรูปประเทศ “บิ๊กตู่” สั่ง ส.ส.ทุกพรรคเข้าร่วมประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ภายหลัง คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ในวันที่ 8-9 พ.ย.ที่จ.กระบี่ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว รองรับการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย เมื่อวันอังคารที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด มีรายงานว่า การประชุม ครม.สัญจรดังกล่าวต้องเลื่อนออกไป โดยอาจจะจัดประชุมระหว่างวันที่ 15-16 พ.ย.หรือ พิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง เนื่องจากในช่วงวันที่ 8-9 พ.ย.


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top