Wednesday, 24 April 2024
Y WORLD

#คำคมการศึกษา ประจำวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 

#คำคมการศึกษา ประจำวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 

✏️จุดเริ่มต้นของการเรียนรู้คือ การตั้งคำถาม 
 

วิชาภาษาไทย: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาไทย)

THE STUDY TIMES X ClassOnline

????วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม

วิชาภาษาไทย: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาไทย)

โดย ครูต้นคูน ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์

ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ (Ph.D. in Communication Arts) สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

#สอนวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคม ระดับ ม.ต้น-ม.ปลาย

#ClassOnline

https://www.classonline.co.th/

.

.

นาวิน ตาร์ จากเด็กที่ไม่สนใจการเรียนสู่อาจารย์ในระดับมหาวิทยาลัย

หลาย ๆ คนในช่วงมัธยมอาจจะเป็นถูกสังคมหล่อหลอมให้กลายเป็นคนที่ไม่สนใจ เกเร และไม่ชื่นชอบการเรียนไปเลย แต่ก็มีอีกหลาย ๆ คนที่กลับตัวกลับใจ หันมาสนใจในด้านการศึกษาจนประสบความสำเร็จ อย่าง “นาวิน ตาร์” ดารานักแสดงที่มีดีกรีเป็นถึงอาจารย์ในระดับมหาวิทยาลัย ! 

นาวิน เยาวพลกุล หรือ นาวิน ตาร์ การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาที่สาธิตปทุมวันและสาธิตประสานมิตรนั้น นาวิน ตาร์ เป็นเด็กที่เกเร ไม่สนใจการเรียนถึงขนาดตัวเขาเองมีปัญหากับโรงเรียน จนถูกไล่ออกจากโรงเรียนถึงสองครั้งจากโรงเรียนทั้งสองที่ !

แต่ด้วยความตั้งใจและหันกลับมาศึกษาเล่าเรียนใหม่อีกครั้ง จึงทำให้สามารถเอ็นทรานซ์ได้และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเลยทีเดียว จากนั้นตัวนาวิน ตาร์ก็ได้รับทุนอานันทมหิดลศึกษาต่อที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ปริญญาโทที่ Oregon State University และได้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ที่ University of California, Davis อีกด้วย 

นอกจากนี้ นาวิน ต้าร์ ได้รับโอกาสได้เป็นอาจารย์จากโควตาของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ให้แก่นิสิตที่สำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนเป็นอันดับที่ 1 ของรุ่น และได้ร่วมสอนวิชาเศรษฐศาสตร์จุลภาคและคณิตศาสตร์สำหรับนักเศรษฐศาสตร์ (Mathematics for Economists) ทั้งในภาคปกติและหลักสูตรนานาชาติด้วย

เรียกได้ว่านอกจากความสามารถในการแสดงแล้ว ความรู้และความสามารถทางด้านการศึกษาก็ไม่เป็นรองใคร นับได้ว่าเป็น Idol ของใครหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ 


ที่มา : https://www.sanook.com/campus/1393269/

#คำคมการศึกษา ประจำวันที่ 17 กรกฎาคม 2564

#คำคมการศึกษา ประจำวันที่ 17 กรกฎาคม 2564

✏️อ่านหนังสือ 10 รอบไม่เคยจำ เจอหน้าเธอ 1 ครั้งไม่เคยลืม

THE STUDY TIMES X ClassOnline เสาร์อาทิตย์นี้ พบกับ LIVE วิชาภาษาไทย และวิชาภาษาอังกฤษ

????THE STUDY TIMES X ClassOnline เสาร์อาทิตย์นี้

????วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม และ วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม 2564

⏰เวลา 16.00 น.

พบกับ LIVE วิชาภาษาไทย และวิชาภาษาอังกฤษ

????วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม
วิชาภาษาไทย: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาไทย)

โดย ครูต้นคูน ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์
ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ (Ph.D. in Communication Arts) สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
#สอนวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคม ระดับ ม.ต้น-ม.ปลาย

????วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม
วิชาภาษาอังกฤษ: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาอังกฤษ)

โดย ครูพี่ทาม์ย ฐานุวัชร์ รินนานนท์
ศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา (เรียนเน้นภาษาสเปน) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, อาจารย์ผู้สอนอบรม TOEIC ให้องค์กรภาครัฐและเอกชนระดับประเทศ
#สอนวิชาภาษาอังกฤษ ระดับ ม.ต้น-ม.ปลาย

????ช่องทางรับชม LIVE
Facebook และ YouTube: THE STUDY TIMES

วิชาสังคม: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (สังคม)

THE STUDY TIMES X ClassOnline

????วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม

วิชาสังคม: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (สังคม)

โดย ครูต้นคูน ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์

ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ (Ph.D. in Communication Arts) สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

#สอนวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคม ระดับ ม.ต้น-ม.ปลาย

#ClassOnline

https://www.classonline.co.th/

.

.

รู้จัก “คณะเศรษฐศาสตร์” คณะของคนที่ชอบวิเคราะห์ มีหลักการ และมีเหตุผล !

เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะรู้จักหรือเคยคุ้นชื่อ “คณะเศรษฐศาสตร์” พอได้ยินถึงชื่อคณะหลาย ๆ คนอาจจะนึกแค่ว่าเรียนเกี่ยวกับเลข การคำนวณ จบไปทำงานธนาคาร แต่แท้จริงแล้วคณะนี้เรียนอะไร THE STUDY TIMES จะขอมาแนะนำเกี่ยวกับคณะนี้กันค่ะ 

คณะเศรษฐศาสตร์ เป็นการศึกษาเกี่ยวกับวิธีการควบคุมและกระจายทรัพยากรของมนุษย์ โดยคำว่าเศรษฐศาสตร์ในภาษาอังกฤษคือ Economics มาจากคำว่า Oikonomia ในภาษากรีกโบราณ มีความหมายว่า การจัดระเบียบเรื่องในบ้าน และ การบริหารจัดการภาระหน้าที่ 

เดิมทีเศรษฐศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของสาขาวิชารัฐศาสตร์ ที่เพิ่งแยกออกมาเป็นวิชาของตัวเองช่วงปลายศตวรรษที่ 19 การศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ โดยสามารถแบ่งตามเนื้อหาได้เป็น 2 สาขาหลัก ๆ คือ เศรษฐศาสตร์จุลภาคและเศรษฐศาสตร์มหาภาค 



เศรษฐศาสตร์จุลภาค เป็นการศึกษาในเรื่องของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับบุคคล โครงสร้างของระบบเศรษฐกิจนั้น ๆ และบุคคล หรือหน่วยงานสำคัญ ๆ ที่มีบทบาทเกี่ยวข้องในแต่ละเรื่อง เช่น การศึกษาเกี่ยวกับตลาดแต่ละตลาด และตัวแทนทางเศรษฐกิจ ที่มีความเกี่ยวข้องกัน ไม่ว่าจะเป็นระดับครัวเรือน หน่วยธุรกิจ ผู้ซื้อ และผู้ขาย ฯลฯ

ส่วนเศรษฐศาสตร์มหภาค เป็นการศึกษาเศรษฐกิจในภาพรวม เช่น อุปทานมวลรวมและอุปสงค์มวลรวม การว่างงาน เงินเฟ้อ การเติบโตของเศรษฐกิจ นโยบายการเงินและนโยบายการคลัง เป็นต้น

ส่วนการเรียนในแต่ละชั้น ปี 1 จะได้เรียนในวิชาพื้นฐานทั้งหมด ทั้งวิชาคณิตศาสตร์ สถิติ ภาษาอังกฤษ รวมถึงจะได้เรียนวิชาเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นอีกด้วย

พอเข้าสู่ ปี 2 จะได้เรียนเข้าใจลึกมากยิ่งขึ้นในวิชาเศรษฐศาสตร์ในหลาย ๆ ระดับ เช่น เศรษฐศาสตร์จุลภาค เศรษฐศาสตร์มหาภาค และการนำความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

ส่วน ปี 3 ปีนี้ จะได้เจอวิชาเฉพาะที่เจาะลึกมากขึ้น รวมถึงเนื้อหาที่มีความหลากหลาย เช่น  หมวดการเงิน หมวดทรัพยากรมนุษย์ หมวดสินค้าเกษตร หมวดนโยบาย หมวดการพัฒนา 

และ ปี 4 ปีสุดท้าย เนื้อหาการเรียน จะได้เลือกเรียนเฉพาะหมวด ที่ตัวเองได้เลือกและมีการทำวิจัยจบและมีการสัมมานาตามแต่ละมหาวิทยาลัย 



สำหรับสาขาในคณะเศรษฐศาสตร์มีดังต่อไปนี้ 

เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ / เศรษฐศาสตร์การจัดการ เป็นสาขาที่เรียนเกี่ยวกับการพลิกแพลงเอาความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ ไปใช้ในการบริหารจัดการในทุกๆ ด้านขององค์กร หรือธุรกิจต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ

เศรษฐศาสตร์การเงิน เป็นสาขาที่เรียนเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินให้มีประสิทธิภาพ โดยอาศัยทฤษฎี และความรู้ทางเศรษฐศาสตร์

เศรษฐศาสตร์การคลัง เรียนเกี่ยวกับนโยบาย และมาตรการการคลัง การหารายได้ และการใช้จ่ายของรัฐบาล รวมถึงผลกระทบของมาตรการการคลังที่มีต่อเศรษฐกิจ

เศรษฐศาสตร์การพัฒนา และวางแผน ศึกษานโยบาย และกลยุทธ์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งยังศึกษาบทเรียนตัวอย่างในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ

เศรษฐศาสตร์แรงงาน และทรัพยากรมนุษย์ เน้นการเรียนเพื่อนำความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ไปแก้ปัญหาตลาดแรงงาน ปัญหาการว่างงาน และการวางแผนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

เศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม เป็นสาขาที่ศึกษาเพื่อหาวิธีจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ที่ถูกนำไปใช้ในระบบเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ

เศรษฐศาสตร์ทฤษฎี และการวิจัย / เศรษฐศาสตร์เชิงปริมาณ เน้นการเรียนด้านทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์เป็นหลัก ซึ่งบัณฑิตจากสาขานี้จะเป็นคนที่มีการตัดสินใจที่แม่นยำ เพราะจะมีมุมมอง การคิดวิเคราะห์ และการเชื่อมโยง สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระดับภาพรวมได้เป็นอย่างดี

เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ สาขานี้จะผสมผสานความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ เข้ากับความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้นักศึกษาเติบโตไปในโลกของการค้าระหว่างประเทศได้

เศรษฐศาสตร์เกษตร เรียนเพื่อนำความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ไปใช้ในการจัดการการเกษตร

เศรษฐศาสตร์สหกรณ์ สาขานี้จะเน้นการจัดการสหกรณ์ ด้วยความรู้ทางเศรษฐศาสตร์

เศรษฐศาสตร์การพัฒนา เรียนเพื่อนำความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ไปใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมในระดับประเทศ

เศรษฐศาสตร์สาธารณะ ศึกษาบทบาทของรัฐบาลที่มีต่อสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ทั้งยังวิเคราะห์บทบาทของรัฐบาล ในการใช้จ่ายงบประมาณ ภาษีอากรของราษฎร และศึกษาถึงการใช้นโยบายการคลังในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจด้วย

เศรษฐศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นการนำความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ไปใช้ในการจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้สามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมด้วย



ในประเทศไทยมีมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนทั้งในภาครัฐและเอกชนมีดังต่อไปนี้ 

มหาวิทยาลัยภาครัฐ
•    คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  
•    วิทยาลัยนานาชาติ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยมหิดล 
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา 
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ  
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 
•    คณะสังคมศาสตร์บูรณาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย  
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้  
•    คณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร  
•    คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา  
•    คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  
•    คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา  
•    สำนักวิชาการจัดการ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง  
•    คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยทักษิณ  
•    คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม  
•    คณะเทคโนโลยีสังคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี 
•    คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง  
•    สำนักวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  
•    สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 

มหาวิทยาลัยภาคเอกชน 
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก  
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์  
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ 
•    คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 
•    คณะบริหารธุรกิจ สาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล  
•    คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

หลาย ๆ คนสงสัยว่าพอจบไปแล้วจะต้องทำงานที่ธนาคารอย่างเดียวหรือไม่ จริง ๆ แล้วคณะเศรษฐศาสตร์เมื่อเรียนจบแล้วสามารถทำงานได้หลากหลาย ทั้งในงานธนาคาร บริษัทด้านการเงินหรือบริษัทด้านตลาดหลักทรัพย์ ทำงานในบริษัทประกันภัย ที่ต้องการนักเศรษฐศาสตร์ เพื่อทำหน้าที่ในการวิเคราะห์และวิจัยเกี่ยวกับสภาวะของตลาด และการวางแผนในการดำเนินธุรกิจอย่างไรให้ได้กำไร บริษัทที่ต้องการฝ่ายการตลาดหรือ Marketing ก็สามารถทำงานด้านนี้ได้เช่นเดียวกัน 

ในปัจจุบันคณะเศรษฐศาสตร์ถือว่ามีความสำคัญในทุกประเทศ เพราะ เศรษฐกิจถือว่าเป็นตัวเดินเครื่องที่สำคัญ การค้าขาย ธุรกิจต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็ต้องใช้ศาสตร์ความรู้จากเศรษฐศาสตร์ทั้งสิ้น สุดท้ายนี้ THE STUDY TIMES ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ทุกคนเจอทางที่ตัวเองชอบกันนะคะ 


ที่มา
https://campus.campus-star.com/education/76630.html
https://tcaster.net/2021/01/about-bachelor-of-economics/
https://www.sanook.com/campus/1401708/

คำคมการศึกษา ประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2564

#คำคมการศึกษา ประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2564

 

✏️มองทุกปัญหาเป็นครู เรียนรู้ แก้ไข เพื่อไปสู่ความสำเร็จ

 

ลูกฉลาด...แต่ไม่สามารถสื่อสารได้ ไขข้อข้องใจ พร้อมวิธีแก้!!

ครูพิม ณัฏฐณี สุขปรีดี นักจิตวิทยาพัฒนาการ ผู้ซึ่งมีความสนใจพิเศษในเรื่องพัฒนาการเด็กวัยแรกเกิดจนถึงวัยรุ่นตอนต้น ให้ข้อมูลว่า ในทางพัฒนาการมอง ‘ความฉลาด’ คือ ทักษะ หรือความสามารถที่เด็กทำได้ดีเป็นพิเศษ หรือมีแนวโน้มที่จะพัฒนาตัวเองต่อไปได้ง่ายกว่าทักษะอื่นๆ ในความเป็นจริงทุกคนจะมีความฉลาด สิ่งที่ถนัด สิ่งที่เรียนรู้ได้เร็วเฉพาะด้านของตัวเอง  

แต่ในปัจจุบัน พ่อแม่ส่วนใหญ่ให้นิยามความฉลาดมาจากการพูดเป็นหลัก โดยมองว่า เด็กที่สามารถพูดคุย ตอบโต้สื่อสารได้ เป็นเด็กฉลาด หรือเด็กที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้เป็นเด็กฉลาด ซึ่งเป็นความเข้าใจไปเองของผู้ปกครอง ไม่ใช่ความฉลาดตามช่วงวัย หรือสะท้อนศักยภาพของสมองที่แท้จริง เนื่องจากสื่อเทคโนโลยีต่างๆ ในปัจจุบันออกแบบมาให้ง่าย สะดวกต่อการใช้งาน การที่เด็กเล็กใช้งาน Smartphone หรือ Tablet ได้จึงเป็นเรื่องปกติ ความเข้าใจผิดในนิยามความฉลาดรูปแบบนี้ทำให้ผู้ปกครองมองข้ามความฉลาดและพัฒนาการที่แท้จริงที่ควรจะเกิดขึ้นกับเด็กในแต่ละช่วงวัยไป

การสื่อสารที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย
•    ช่วงประมาณ 1 ขวบ เด็กควรมีการสื่อสารแบบ specific ในการเรียกคุณพ่อคุณแม่ คนใกล้ชิด ด้วยคำเฉพาะ หรือเสียงเฉพาะ เช่น พ่อแม่ ป๊าม๊า 
•    ช่วงประมาณ 1 ขวบครึ่ง เด็กควรจะพูดคำศัพท์เดี่ยวๆ ได้ คือ คำที่มีความหมายและเหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น เด็กมองเห็นลูกบอลแล้วพูดว่า บอลๆ อยากกินนมแล้วพูด นมๆ เป็นคำที่หมายถึงสิ่งนั้นจริงๆ จึงจะเรียกว่าการสื่อสาร ซึ่งการที่เด็กไม่รู้จะพูดอะไรกับผู้ใหญ่ คิดคำไม่ออก อาจทำให้พูดออกมาเป็นภาษาต่างดาวหรือผสมภาษาใหม่ขึ้นมาเอง  สิ่งนี้เป็นสัญญาณว่าเด็กกำลังต้องการความช่วยเหลือ หรือมีปัญหาในเรื่องของการสื่อสาร
•    ช่วงประมาณ 2-3 ขวบ เด็กต้องพูดเป็นประโยคได้ มีประธาน กิริยา กรรม สามารถเข้าใจได้

กรณีต่อมาคือ เด็กพูดได้ตามช่วงวัยและพัฒนาการแล้ว แต่ไม่ชอบสื่อสารกับคนอื่น เกิดจากหลายปัจจัย อาทิ บุคลิกภาพ ที่เป็นคนพูดน้อย เก็บตัว  หรืออีกแบบคือ อยากสื่อสาร แต่ขาดทักษะเข้าไปมีส่วนร่วมกับคนอื่น ซึ่งหากเป็นรูปแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่จะมีส่วนช่วยเหลือได้เยอะมาก โดยใช้เวลาที่อยู่บ้านทำการฝึกพูดกับลูกก่อน 

สิ่งที่จะช่วยเสริมทักษะการสื่อสารต่อมาคือ การอ่าน เด็กที่ชอบอ่านหนังสือมีแนวโน้มจะสื่อสารได้ดี เนื่องจากมีคลังคำศัพท์ในหัวเยอะ ภาษาทางวรรณกรรมหรือการเขียนเป็นภาษาที่สวยงาม เด็กจะได้รับการปลูกฝังทางภาษาที่ดีไปด้วย หนังสือที่เด็กอ่านได้มีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นหนังสือนิทาน วรรณกรรมเยาวชน สารคดี นิตยสาร การ์ตูนที่มีคุณภาพ

สิ่งสำคัญในการสื่อสาร คือ เด็กต้องรู้จักเข้าใจตัวเองก่อน ถึงจะกล้าสื่อสารกับคนอื่นได้อย่างมั่นใจ การสร้างความมั่นใจให้กับตัวเด็กเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้เขากล้าที่จะพูดและแสดงออก วิธีที่สามารถทำได้คือ เวลาที่ลูกแสดงความคิดเห็นที่บ้าน ผู้ปกครองอย่าเพิ่งตัดสินว่าเขาเถียง เพราะเมื่อเด็กโดนเบรคบ่อยๆ จากในบ้านจะทำให้รู้สึกว่าการไปพูดกับคนอื่นนอกบ้าน เป็นการไม่ดีต่อตัวเองหรือไม่ 

กรณีที่เด็กเคยสื่อสารกับเพื่อนและมีความผิดพลาดบางอย่าง เช่น พูดแล้วทะเลาะกัน เพื่อนไม่เข้าใจ คุยกันคนละภาษา พัฒนาการไม่ตรงกัน ต้องอาศัยพ่อแม่เข้ามาช่วยซักถาม ต้องหาก่อนว่าปัญหาคืออะไร กรณีที่น่าเป็นห่วงคือ เด็กที่ไม่พูดอะไรจนเหมือนไม่มีเพื่อน กรณีนี้อาจแปลว่าต้องการความช่วยเหลือ เนื่องจากขาดทักษะทางสังคม ต้องการการกระตุ้นและการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

กรณีที่เด็กมีข้อมูลอยู่ในหัวแต่ไม่สามารถสื่อสารออกมาได้ ครูพิมพ์กล่าวว่า ในเรื่องของการสื่อสารอาจไม่ได้มองเรื่องของการพูดเพียงอย่างเดียว การสื่อสารสามารถถ่ายทอดออกมาในรูปแบบอื่นได้ เช่น อาจลองให้ลูกเขียน วาดรูป  ทำท่าทาง ฝึกให้คุ้นเคยกับการแสดงออกก่อน จากนั้นค่อยนำมาปรับว่าจะแสดงออกในเรื่องของการพูดอย่างไร ตัวอย่างคือ ระหว่างที่ลูกเขียนให้ดู เราอาจจะพูดไปกับเขาด้วย บางครั้งพ่อแม่ต้องเป็นคนที่นำลูกก่อน ทำให้ลูกรู้วิธีการพูด เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลากับลูกพอสมควร เพราะบางเรื่องลูกไม่สามารถที่จะฝึกได้ด้วยตัวเอง 

เพราะคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่สื่อสารเก่ง สื่อสารเป็น รู้วิธีที่จะสื่อสารออกไป พ่อแม่จะช่วยลูกได้โดยการลดเวลาเรียนรู้ เพิ่มเวลาเล่น คุมตารางเวลาของลูกที่เหลือให้เป็นโอกาสที่เขาได้ฝึกตัวเอง การไปเที่ยว ทำกิจกรรมร่วมกัน คำถามง่ายๆ ที่ใช้สื่อสารในชีวิตประจำวัน จะทำให้เด็กเรียนรู้การสื่อสารโดยธรรมชาติ

ครูพิมพ์ฝากไว้ว่า คุณพ่อคุณแม่มีความสำคัญอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของลูก สิ่งที่ได้จากการฟังข้อมูลเป็นแนวทางอย่างหนึ่ง แต่จะไปถึงตัวเด็กได้ขึ้นอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ บางครั้งอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดคือความรู้สึกของตัวเราเอง ที่อยากเปลี่ยนแปลง ซัพพอร์ต หรือสงสารลูก พยายามทำให้ความรู้สึกชัดเจนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ความต่อเนื่องมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง วิธีการแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ต้องมีคือการเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงทั้งตัวลูกและตัวเอง

สามารถย้อนไปฟังการ LIVE หัวข้อที่น่าสนใจเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ เพจดีต่อลูก
หัวข้อ : ลูกฉลาด...แต่ไม่สามารถสื่อสารได้
Link https://www.facebook.com/299800753872915/videos/470271574330379
เขียนและเรียบเรียงเรื่องโดย: ภารวี สุภามาลา

วิชาภาษาอังกฤษ: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาอังกฤษ)

THE STUDY TIMES X ClassOnline

????วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม

วิชาภาษาอังกฤษ: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาอังกฤษ)

โดย ครูพี่ทาม์ย ฐานุวัชร์ รินนานนท์

ศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา (เรียนเน้นภาษาสเปน) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, อาจารย์ผู้สอนอบรม TOEIC ให้องค์กรภาครัฐและเอกชนระดับประเทศ

#สอนวิชาภาษาอังกฤษ ระดับ ม.ต้น-ม.ปลาย

#ClassOnline

https://www.classonline.co.th/

.

.

Work and Study โครงการดี ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการฝึกภาษาและอยากทำงานไปด้วย!

หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยิน ”โครงการ Work & Travel” ซึ่งเป็นโครงการที่ให้เด็กไทยได้ไปสัมผัสบรรยากาศการทำงานและการไปเที่ยวพร้อม ๆ กัน แล้วถ้าเปลี่ยนจาก “การไปเที่ยว” เป็น “การเรียนภาษา” แถมได้ทำงานอีกด้วย จะเป็นยังไงกันนะ!?

จริง ๆ แล้วโครงการนี้มีชื่อว่า “โครงการ Work & Study” โดยหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่มั่นใจในภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ ของตัวเองสักเท่าไร อาจจะยังไม่มั่นใจว่าถ้าเข้าร่วมโครงการ Work & Travel ถ้าเราไปทำงานแล้วเราจะกล้าพูดภาษาต่างประเทศได้ไหม โครงการนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์สำหรับใครหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ ในวันนี้ THE STUDY TIMES ขอนำเสนอโครงการนี้ให้เพื่อน ๆ ผู้ปกครอง หรือผู้ที่สนใจอยากพัฒนาทางด้านภาษาได้ทราบกันว่ามีความน่าสนใจยังไง ถ้าพร้อมแล้ว…ลุย! 

โครงการ Work & Study เป็นโครงการสำหรับผู้ที่ต้องการไปเรียนภาษาเพิ่มเติมในดินแดนต่างประเทศ โดยสามารถเลือกประเทศและระยะเวลาการเรียนได้ แถมยังสามารถทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหารายได้เข้าตัวเองอีกด้วย โดยโครงการนี้ไม่กำหนดอายุขั้นต่ำ ไม่ว่าคุณจะจบมหาวิทยาลัยหรืออยู่ในช่วงวัยทำงานตอนปลายก็สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ซึ่งจะแตกต่างจากโครงการ Work & Travel เพราะจะมีการกำหนดให้แค่เด็กที่เรียนอยู่ในช่วงระดับมหาวิทยาลัย (ปี 1 - ปี 4) และนักศึกษาที่ศึกษาระดับปริญญาโทอายุไม่เกิน 27 ปีสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้เท่านั้น โครงการ Work & Travel เลยตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อในด้านภาษาที่ต่างประเทศแต่อายุเกินได้

โครงการ Work & Study สามารถกำหนดช่วงระยะเวลาการเรียนภาษาของคุณได้ อยากเรียนคอร์สระยะสั้น 3 เดือน หรือ คอร์สระยะยาว 1 ปีเต็มก็ได้ ทางผู้เรียนสามารถกำหนดเองได้เลย โดยส่วนใหญ่พอไปถึงที่สถาบันการเรียนภาษา ทางสถาบันก็จะมีการให้สอบวัดระดับกันก่อน เพื่อที่ทางสถาบันจะได้จัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียน มีตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นจนไปถึงขั้นสูงสุด ขึ้นอยู่กับทักษาะทางด้านภาษาของผู้เรียนด้วย 

โดยประเทศที่คนไทยส่วนใหญ่สนใจ คือ การเรียนภาษาที่ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดย 2 ประเทศนี้ใช้ภาษาอังกฤษในการสนทนากัน ทำให้เด็กไทยส่วนใหญ่อยากที่จะฝึกและเรียนภาษา นอกจากการเรียน ด้วยบรรยากาศ สภาพแวดล้อม ผู้คนเป็นมิตรแถมยังใจดี และค่าครองชีพที่ไม่ค่อยสูงมาก ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่อยากจะเรียนภาษาไปด้วยและทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย 

ส่วนในเรื่องของการทำงานของผู้ที่เข้าร่วมโครงการ Work & Study จะได้วีซ่านักเรียน สามารถใช้ทำงานพาร์ทไทม์ที่ต่างประเทศได้ อย่างประเทศออสเตรเลียจะให้ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนต่างประเทศสามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ 20 ชั่วโมง / สัปดาห์ โดยส่วนใหญ่นักเรียนไทยที่ไปเรียนภาษาในช่วงแรกทำงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหารไทย (ซึ่งในต่างประเทศเดี๋ยวนี้ร้านอาหารไทยเยอะมาก) พอฝึกภาษาได้ระยะหนึ่งก็สามารถที่จะทำงานที่ร้านของคนต่างประเทศได้ แถมค่าจ้างอาจจะได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ซึ่งขั้นตอนการสมัครเข้าร่วมโครงการ Work & Study สามารถสมัครได้กับทางเอเจนซี่ที่เปิดรับสมัคร โดยค่าสมัครส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับประเทศและสถาบันที่ผู้เรียนสนใจ ซึ่งในต่างประเทศมีสถาบันการเรียนภาษาให้ผู้เรียนได้เลือกเยอะแยะมากมาย ขึ้นอยู่กับความชอบในรูปแบบการสอนของแต่ละบุคคล บางคนชอบการเรียนภาษาในรูปแบบเรียนในห้องเรียน หรือบางคนอาจจะชอบการเรียนภาษาแบบเน้นกิจกรรมนอกห้องเรียน ทางเอเจนซี่ก็จะคอยช่วยเหลือ เลือกสถาบันการเรียนที่ตอบโจทย์และเหมาะสมให้ นอกจากนี้ทางเอเจนซี่จะคอยช่วยดำเนินการในเรื่องของการสมัครเรียนที่ต่างประเทศ วีซ่า และเอกสารต่าง ๆ ทำให้ผู้เรียนสะดวกมากขึ้นอีกด้วย

นับว่าโครงการ Work & Study เป็นอีกโครงการหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกภาษาและอยากที่จะไปทำงานที่ต่างประเทศ ศึกษาและเลือกเอเจนซี่ที่คุณไว้ใจได้ ดูรีวิวหรือบทความของนักเรียนไทยที่เคยไปโครงการ Work & Study จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น หวังว่าบทความของเราจะทำให้คุณสนใจในตัวโครงการนี้นะคะ 

คำคมการศึกษา ประจำวันที่ 15 กรกฎาคม 2564

#คำคมการศึกษา ประจำวันที่ 15 กรกฎาคม 2564

 

✏️คนเก่ง ไม่ใช่คนที่ได้คะแนนดี แต่คือคนที่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้

 

วิชาภาษาไทย: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาไทย)

THE STUDY TIMES X ClassOnline

????วันพุธที่ 14 กรกฎาคม

วิชาภาษาไทย: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาไทย)

โดย ครูต้นคูน ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์

ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ (Ph.D. in Communication Arts) สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

#สอนวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคม ระดับ ม.ต้น-ม.ปลาย

#ClassOnline

https://www.classonline.co.th/

.

.

“โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา” นักเรียนเก่ง กิจกรรมเลิศ โรงเรียนการสอบแข่งขันเข้าเรียนสูงสุดอันดับ 1

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา หลาย ๆ คนพอได้ยินชื่อโรงเรียนแห่งนี้แล้วจะนึกถึงเด็กที่เป็นสุดยอดความเป็นเลิศทั้งด้านการเรียนและกิจกรรม ประวัติและชื่อเสียงมีมาอย่างยาวนาน และที่สำคัญมีการสอบเข้าแข่งขันเข้าเรียนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย วันนี้ THE STUDY TIMES จะมาเล่าประวัติ ความเป็นมาของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งนี้กัน

เดิมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษามีชื่อว่า “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” โดยโรงเรียนนี้แต่ก่อนสังกัดอยู่กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2480 โดยพันเอก หลวงพิบูลสงคราม อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขณะนั้น โดยแต่ก่อนใช้โรงเรียนมัธยมหอวัง ถนนพญาไทเป็นสถานศึกษา ในปัจจุบันตั้งอยู่ที่ ตั้งอยู่เลขที่ 227 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยมี ม.ล. ปิ่น มาลากุล เป็นผู้อำนวยการท่านแรกของโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเป็นโรงเรียนสหศึกษาแห่งแรกของประเทศไทย (คือโรงเรียนที่สามารถเรียนได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง)

โดยแต่ก่อนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นโรงเรียนที่เตรียมนักเรียนแผนกต่าง ๆ ไว้สำหรับเข้าศึกษาในคณะต่าง ๆ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะในสมัยก่อนจะเรียกสั้น ๆ ว่าโรงเรียนเตรียมจุฬา 

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้นมีความเจริญอย่างมากต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2484 ทางโรงเรียนได้มีการจัดพิธีไหว้ครูและมีการแต่งคำประพันธ์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นโรงเรียนแรกที่ทำให้เกิดการมีพิธีไหว้ครูเกิดขึ้น เป็นแบบแผนให้โรงเรียนอื่น นอกจากนี้โรงเรียนยังถูกมรสุมจากสงครามโลกครั้งที่ 2 หนักมาก โดนทหารญี่ปุ่นมาตั้งกองทัพในโรงเรียน ทำให้นักเรียนต้องย้าย อพยพไปอยู่ตามแถวชานเมือง และพอสงครามทหารญี่ปุ่นจบลงเหล่าทหารอังกฤษก็เข้ามาพัก กว่าทุกอย่างจะสงบลงใช้เวลานานหลายปี 

ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2490 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โอนไปสังกัดกรมวิสามัญศึกษา และมีระเบียบกำหนดให้นักเรียนที่เรียนจบการศึกษาจากโรงเรียนนี้ สอบคัดเลือกเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับนักเรียนชั้นเตรียมอุดมศึกษาของโรงเรียนทั่วไป ทั้งยังตัดคำว่า”แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย” ออก คงเหลือคำว่า “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา” เท่านั้น ม.ล.ปิ่น  มาลากุล  ได้บันทึกถึงเหตุการณ์ช่วงนี้ตอนหนึ่งว่า “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชื่อยาวนัก จึงได้เปลี่ยนเป็น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เฉยๆ แต่ พระเกี้ยวนั้นเป็นของสูง จะทิ้งกันได้อย่างไร โรงเรียนได้เก็บไว้เป็นเครื่องหมายรวมจิตใจของอาจารย์และนักเรียนจนกระทั่งทุกวันนี้”


คำขวัญของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษานั้นก็คือ “ความเป็นเลิศทางวิชาการและคุณธรรม” นิมิตฺตํ สาธุ รูปานํ กตญฺญู กตเวทิตา (ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี)

และนี้ก็เป็นประวัติส่วนหนึ่งของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาที่มีประวัติและชื่อเสียงกันมาอย่างยาวนาน สำหรับสายการเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษานั้นมี
- สายวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ 
- สายภาษา – คณิตศาสตร์
- สายภาษา - ภาษา ซึ่งภาษาที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษามีสายภาษาดังนี้ ภาษาฝรั่งเศส  ภาษาเยอรมัน  ภาษาญี่ปุ่น  ภาษาสเปน  ภาษาจีน ภาษาเกาหลี 


ในแต่ละปีโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจะมีการสอบเข้าโรงเรียนโดยการสมัครสอบของโรงเรียนจะสมัครสอบผ่านออนไลน์ที่เว็บไซต์  https://admission.triamudom.ac.th โดยวิชาในแต่ละสายที่มีการจัดสอบจะมีดังต่อไปนี้ 
ผู้ที่ต้องการสอบสายวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ จะต้องสอบวิชา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ 
ผู้ที่ต้องการสอบสายภาษา - คณิตศาสตร์ จะต้องสอบวิชาคณิตศาสตร์ สังคม ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ 
ผู้ที่ต้องการสอบสายภาษา - ภาษา จะต้องสอบวิชา สังคม ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ

โดยการสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจะสอบที่ อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี โดยในปีที่ผ่านมามีนักเรียนจากทั่วประเทศกว่า 12,765 คนมาสอบแข่งขันเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาโดยโรงเรียน เปิดรับนักเรียน 1,520 คน ใน 8 แผนการเรียน นักได้ว่าเป็นการแข่งขันที่สูงมากจริง ๆ สำหรับนักเรียนคนไหนที่อยากจะเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนแห่งนี้ก็ขอให้เตรียมตัว อ่านหนังสือ ตั้งใจเรียนและเชื่อมั่นในตัวเองว่าทำได้ ทุกอย่างที่เราตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จแน่นอนค่ะ THE STUDY TIMES เป็นกำลังใจให้นะคะ 


แหล่งที่มา 
https://www.triamudom.ac.th/website/index.php/2016-07-13-03-51-27/2016-07-13-07-27-57
https://tuemaster.com/blog/ประวัติโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
https://www.thairath.co.th/content/234067
https://www.webythebrain.com/article/6-questions-for-triamudom

คำคมการศึกษา ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 

#คำคมการศึกษา ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 
.
✏️ถึงการเรียนจะแย่ แต่เพื่อพ่อแม่หนูจะสู้
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top