Monday, 29 April 2024
Y WORLD

ชี้เป้า ! ฝันอยากเป็นตำรวจ เรียนที่ไหนได้บ้าง ?

ในปัจจุบันการรับข้าราชการถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจของเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ นอกจากสวัสดิการที่ดีแล้ว ก็ยังมีความมั่นคงในชีวิตอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในอาชีพข้าราชการที่น่าสนใจคือ ”อาชีพตำรวจ” วันนี้ THE STUDY TIMES จะมาแนะนำโรงเรียนที่เรียนเฉพาะทางด้านตำรวจ พอจบแล้วสามารถเข้ารับราชการตำรวจได้เลย ไปดูกัน !

1.โรงเรียนนายร้อยตำรวจ

โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (Royal Police Cadet Academy : RPCA) เป็นหน่วยงานระดับกองบัญชาการ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา ตั้งอยู่ที่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม มีภารกิจหลักในการฝึกอบรม ให้การศึกษา อบรมหล่อหลอมนักเรียนนายร้อยตำรวจให้มีคุณลักษณะเหมาะสมที่จะเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร และฝึกอบรมผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรอื่น ผู้ที่ศึกษาตามหลักสูตรหลักของในโรงเรียนนายร้อยตำรวจเรียกว่า นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) เมื่อเรียนจบ 4 ปีจะสามารถสอบได้ยศเป็น ร้อยตำรวจตรี 


โดยการสมัครสอบใช้วุฒิ : โรงเรียนเตรียมทหาร
เว็บไซต์ข้อมูลเพิ่มเติม : http://admission.rpca.ac.th/register/

2.โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ

ในสมัย พ.ศ. 2436 ประเทศไทยถูกกองเรือฝรั่งเศสรุกราน ทำให้ต้องเสียดินแดนให้แก่ฝรั่งเศสเป็นจำนวนมาก ทางราชการจึงเห็นความจำเป็นในกิจการทหารเรือมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกอบรมนายทหารชั้นประทวนให้มีความรู้ความสามารถ และเป็นจ่าที่ดีสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามเรือและกรมกองต่าง ๆ ได้ ดังนั้นในปี พ.ศ.2438 จึงตั้งโรงเรียนนายสิบทหารเรือขึ้น ต่อมากรมทหารเรือดำริที่จะให้จ่าและพลทหารได้รับการศึกษาที่สูง ขึ้นตามกาลสมัย จึงให้ยุบโรงเรียนนายสิบทหารเรือ แล้วตั้งโรงเรียนจ่าขึ้นแทน ประกอบด้วย โรงเรียนจ่าอาวุธ โรงเรียนจ่าตอร์ปิโด โรงเรียนจ่าช่างกล โรงเรียนพลทหารเรือกรุงเทพ โรงเรียนพลทหารช่าง และโรงเรียนพันจ่าทหารเรือ จนในปัจจุบันก็ได้มีการรวบรวมโรงเรียนต่าง ๆ เข้าด้วยกันเป็นโรงเรียนเดียว จนมาเป็น “กองโรงเรียนชุมพลทหารเรือ” โดยการเรียนเพื่อจะได้เป็นตำรวจ คือการเรียนเป็นตำรวจทางน้ำ ใช้เวลาศึกษา 2 ปี ได้ยศมาเป็น สิบตำรวจตรี

โดยการสมัครสอบใช้วุฒิ : มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 / กศน. / ปวช.
เว็บไซต์ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.navedu.navy.mi.th/indexnavedu.html

3.วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ

เดิมชื่อว่า โรงเรียนพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัย กองแพทย์กรม-ตำรวจ เริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. 2512 โดยดำริของ ฯพณฯ พลตำรวจเอก ประเสริฐ รุจิรวงค์ ซึ่งเป็นอธิบดีกรมตำรวจในสมัยนั้น โดยที่ท่านเคยปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาก่อน จึงมีความรู้และความเข้าใจ ปัญหาการขาดแคลนพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลตำรวจกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพยาบาล อย่างมาก 

กรมตำรวจจึงมีมติให้ กองแพทย์ เปิดรับสมัครนักเรียนพยาบาลรุ่นแรกเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2513 โดยที่วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา ที่ผลิตบุคลากรทางการพยาบาลแก่หน่วยงาน สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งภาครัฐและ เอกชนเพื่อสนับสนุนการบริการด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และฟื้นฟูสุขภาพแก่ข้าราชการตำรวจ และครอบครัว รวมทั้งให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป เมื่อเรียนจบแล้ว สามารถเข้ารับราชการตำรวจในยศ ว่าที่ร้อยตำรวจตรี บรรจุเป็นข้าราชการโรงพยาบาลตำรวจ

โดยการสมัครสอบใช้วุฒิ : มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 (สายการเรียน วิทย์ - คณิต)
เว็บไซต์ข้อมูลเพิ่มเติม : http://nursepolice.go.th/

4.กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน หรือ หน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 

โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2526 เป็นหน่วยตำรวจที่มีขีดความสามารถในการยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศ การยุทธส่งทางอากาศ การรบพิเศษ และการปฏิบัติการพิเศษ เพื่อตอบโต้ต่อภัยคุกคามที่เป็นทหารและไม่ใช่ทหาร ในการสงครามพิเศษ และการแก้ไขปัญหา การก่อความไม่สงบ, การก่อการร้าย ทุกรูปแบบ ด้วยการปฏิบัติการปกปิด รับผิดชอบการปฏิบัติการทั่วประเทศ ปัจจุบันเป็นหน่วยระดับกองกำกับการ มีผู้กำกับการเป็นหัวหน้าหน่วยราชการ ขึ้นตรงกับกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดยใช้ระยะเวลาการเรียน 1 ปี สามารถสอบเข้าราชการได้ในยศสิบตำรวจตรี

โดยการสมัครสอบใช้วุฒิ : มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 / กศน. / ปวช.
เว็บไซต์ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.bppparu.go.th/index.php 

และนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนที่เรียนจบมาแล้วสามารถรับข้าราชการเป็นตำรวจได้เลย หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางให้กับนักเรียนที่มีความใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นตำรวจ ขอให้ตั้งใจและทำความฝันของตัวเองให้ได้ THE STUDY TIMES เป็นกำลังใจให้นะคะ 


แหล่งข้อมูล 
เพจ : เรียนต่อไหนดี
https://th.wikipedia.org/wiki/โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
http://www.navedu.navy.mi.th/
http://nursepolice.go.th/
http://www.bppparu.go.th/index.php

ศธ. ปรับการวัดและประเมินผลใหม่ สั่งครูลดการบ้านและเนื้อหาวิชาการ ยืดหยุ่นเรื่องเวลาเรียน หลังพบเด็กเครียดจากการเรียนออนไลน์

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลัก เพื่อรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่แม้กระทรวงศึกษาธิการจะออกแบบการเรียนรู้ไว้ 5 รูปแบบ คือ On-site, On-air, On-demand, Online และ On-hand ก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทำให้เด็กได้ความรู้อย่างเต็มที่ เหมือนกับเรียนในสถานการณ์ปกติ 

จึงมีข้อสรุปว่าจะปรับการวัดและประเมินผลนักเรียนใหม่ โดยจะปรับตัวชี้วัดต้องรู้ ควรจะรู้และน่าจะรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ให้เหลือแค่ตัวชี้วัดต้องรู้เท่านั้น ส่วนกิจกรรมที่มีการรวมตัวกัน หรือกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อก็ให้ยกเลิกทั้งหมด

นอกจากนี้ ขอให้ครูให้การบ้านเด็กน้อยลง โดยขอให้โรงเรียนและครูมาหารือร่วมกันว่าใน 1 สัปดาห์ เด็กควรจะได้การบ้านมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ผู้เรียนไม่เกิดความเครียด และการเรียนออนไลน์นี้ต้องยืดหยุ่นเรื่องเวลาเรียนมากขึ้น โดยขอให้ลดการสอนเนื้อหาวิชาการ และเน้นให้เด็กลงมือปฏิบัติ

ในเร็วๆ นี้ กระทรวงศึกษาธิการจะออกแนวปฏิบัติเรื่องการวัดและประเมินผลที่เป็นมาตรฐานกลาง เพื่อให้สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ไปปรับใช้ตามบริบทของพื้นที่ โดยสถานศึกษาจะเป็นผู้คัดเลือกว่าสิ่งไหนจำเป็น สิ่งไหนเด็กควรรู้

เมื่อการประเมินและปรับตัวชี้วัดนักเรียนใหม่แล้ว การวัดและประเมินผลครูต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดรับไปในทิศทางเดียวกันด้วย โดยมอบหมายให้ นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ไปปรับการวัดและประเมินครูใหม่ รวมทั้งปรับระบบการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สำหรับนักศึกษาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ด้วย เพราะปัจจุบันนักศึกษาเหล่านี้ไม่สามารถฝึกปฏิบัติการสอนในโรงเรียนได้ โดยอาจจะปรับแก้หลักเกณฑ์ให้นักศึกษาเข้ามาช่วยสอนนักเรียนในชุมชน เป็นต้น ซึ่งทาง ก.ค.ศ. จะหารือกับสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ทปคศ.) และคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) ต่อไป.


ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2128050

ชวนเด็กหัวกะทิเดินตามรอยพี่ๆ สมัครเข้าร่วมโครงการโอลิมปิก สอวน. ค่าย 1 กรุงเทพฯ วันนี้ ถึง 31 ก.ค. 64

???? ประกาศรับสมัครนักเรียนคัดเลือกเข้าโครงการโอลิมปิกวิชาการค่ายที่ 1 สอวน.กรุงเทพมหานคร โดยจัดสอบทั้งหมด 5 วิชา ได้แก่ ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ เคมี คอมพิวเตอร์ ชีววิทยา ????????

ค่าย สอวน. คืออะไร?
สอวน. ย่อมาจาก มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ค่ายนี้เป็นเสมือนประตูสู่การสอบแข่งขันโอลิมปิกวิชาการทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ซึ่งจะมี 5 สาขาวิชา คือ คณิตศาสตร์  ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา  และคอมพิวเตอร์ โดยค่าย สอวน. จะเปิดรับสมัครในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี

✅ เพิ่มขีดความสามารถด้านวิชาการ
✅ โควต้าเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำโดยไม่ต้องสอบ
✅ มีโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก
✅ มิตรภาพ-เพื่อน ค่าย สอวน. ที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน

????วันที่รับสมัคร: 1 - 31 ก.ค. 64
????ชำระเงิน: ภายใน 2 ส.ค. 64 (ก่อน 18.00 น.)
????เลือกศูนย์สอบ: ภายใน 4 ส.ค. 64 (ก่อน 18.00 น.)
????ประกาศสถานที่สอบ: 20 ส.ค. 64
????สอบวันที่: 5 ก.ย. 64

* ค่าสมัครสอบ วิชาละ 100 บาท
** ผู้สมัครสอบสามารถสมัครสอบได้สูงสุด 2 วิชา โดยเวลาสอบจะต้องไม่ชนกัน
*** อ่านระเบียบการรับสมัครและสมัครสอบได้ที่ หน้าเว็บระบบรับสมัครฯ https://www.bkkposn.com/

ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4722977137735751&id=1133540740012760

ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ ตัวแทนโอลิมปิกวิชาการ คลิก
https://thestatestimes.com/post/2021060503
https://thestatestimes.com/post/2021061602
https://thestatestimes.com/post/2021062914

เทคนิค คิด-ทำ "GAT เชื่อมโยง" ต้องได้ 150 เต็ม!

ก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัย เด็ก ๆ มัธยมปลายหลายคนก็อาจะมีการเตรียมตัวสอบเข้าทั้งมีการติวในแต่ละวิชา เพื่อให้สอบเข้าคณะหรือมหาวิทยาลัยที่ตัวเองใฝ่ฝัน และนอกจากการเตรียมสอบแต่ละวิชาแล้ว สิ่งที่สำคัญของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะต้องมีคะแนน “GAT เชื่อมโยง” ด้วย

ซึ่ง GAT หรือ General Aptitude Test เป็นการสอบเพื่อวัดประสิทธิภาพในการเตรียมพร้อมที่จะเรียนมหาวิทยาลัย การสอบ GAT มี 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนที่ 1 คือ ความสามารถในการอ่าน/การเขียน/การคิดเชิงวิเคราะห์/และการแก้โจทย์ปัญหา

ส่วนที่ 2 คือ ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ซึ่งในวันนี้ THE STUDY TIMES จะขอมาแนะนำ การเตรียมตัว และ รายละเอียดของการสอบ GAT เชื่อมโยงซึ่งเป็นส่วนที่หนึ่งที่หลาย ๆ คนก็บอกว่าง่าย แต่ก็มีหลาย ๆ คนบอกว่ายากเหมือนกัน 

ซึ่งในการสอบ GAT เชื่อมโยงจะมีเวลาในการทำประมาณ 90 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง 30 นาที มี 2 บทความเพราะฉะนั้นจะต้องแบ่งเวลาเตรียมตัวให้ดี ซึ่งข้อสอบ GAT เชื่อมโยง จะเป็นการให้โจทย์มาเป็นบทความ ๆ หนึ่ง แล้วจะมีเลขตัวเล็ก ๆ เป็นตัวกำหนด ในการทำข้อสอบ GAT การทำเป็น Mind Mapping จะทำให้เห็นโครงสร้าง และ ง่ายต่อการทำข้อสอบ โดยการตอบจะแบ่งออกเป็น 4 คำตอบคือ 

ขอขอบคุณภาพจาก : WE by the brain

A เป็นคำตอบของผลที่ทำให้เกิดผลโดยตรง หรือ ส่งผลทำให้เกิด
ยกตัวอย่างเช่น 
น้ำท่วมในกรุงเทพ 01 ทำให้การจราจรติดขัด 02   
01 ชี้ไปหา 02
ใช้ลูกศรชี้ สิ่งที่เกิด ไปหา ผลกระทบ ผลที่เกิด

D เป็นคำตอบของสิ่งที่ประกอบด้วยในสิ่งนั้น ๆ 
ยกตัวอย่างเช่น 
ร้านยำหน้าปากซอย03 ขายพวกยำวุ้นเส้น ยำมะม่วง04
03  ชี้ไปหา  04
ใช้สัญลักษณ์ สิ่งที่เกิด ไปหา สิ่งที่ประกอบด้วยสิ่งนั้น ๆ

F เป็นคำตอบของสิ่งที่ยับยั้งด้วยสิ่งนั้น ๆ 
ยกตัวอย่างเช่น
การฉีดวัคซีน05 ช่วยยัยยั้งการความเสี่ยงที่จะเกิดโรค06  
05  ชี้ไปหา  06
ใช้สัญลักษณ์ สิ่งที่เกิด ไปหา สิ่งที่ยับยั้งด้วยสิ่งนั้น ๆ

99H เป็นคำตอบของไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือประกอบในบทความ 

โดยการหลักการทำความสอบ GAT เชื่อมโยงคือการอ่านโจทย์และการทำคิดวิเคราะห์โจทย์ให้แตกออกมาเป็นข้อ ๆ โดยในวันนี้ THE STUDY TIMES มีตัวอย่างแนวข้อสอบ GAT เชื่อมโยงจาก สทศ. หรือ สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) มาให้ดูกัน

ซึ่งในภาพเป็นตัวอย่างข้อสอบ GAT เชื่อมโยง และ แนวทางในการทำข้อสอบ ซึ่งการทำข้อสอบ GAT เชื่อมโยงให้ได้เต็ม 150 คะแนน คือการฝึกฝนทำข้อสอบเก่า ๆ และการทำข้อสอบจะต้องใจเย็น อย่าใจร้อนเด็ดขาด อ่านโจทย์ให้ละเอียด และฝึกทำเป็นรูป Mind Mapping จะช่วยน้อง ๆ ได้มากเลยล่ะค่ะ ส่วนเรื่องกำหนดสอบ GAT-PAT ถ้าทาง สทศ. ประกาศแล้ว THE STUDY TIMES จะรีบมาประกาศอย่างแน่นอนค่ะ 


แหล่งข้อมูล : https://www.niets.or.th/th/

Marie Curie นักเคมี ผู้ช่วยชีวิตมนุษยชาติพ้นจากมะเร็งร้าย

ถ้าจะพูดถึงโรคร้ายที่ใครหลาย ๆ คนไม่คิดไม่ฝันที่อยากจะเป็นนอกจาก โควิด-19 แล้วโรคมะเร็งก็ถือว่าเป็นโรคอันดับหนึ่งที่ผู้คนไม่อยากจะเป็น แต่กลับกันโรคมะเร็งในปัจจุบันได้คร่าชีวิตผู้คนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อย้อนกลับไปโรคมะเร็งถือว่าเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา จน “Marie Curie” นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสได้คิดและค้นพบตัวธาตุที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้สำเร็จ วันนี้ THE STUDY TIMES จะขอกล่าวถึงประวัติและผลงานที่สำคัญของ Marie Curie ที่ได้ช่วยชีวิตผู้คนจากโรคมะเร็งได้กันค่ะ 

ชื่อเดิมของ Marie Curie คือ Marie Sklodowska เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1867 ณ เมืองวอร์ซอ เมืองหลวงของประเทศโปแลนด์ มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 5 คน โดยพ่อของ Marie เป็นอาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์ และแม่เป็นอาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ ทำให้ Marie นั้นได้มีความชื่นชอบและสนใจในด้านของวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก หลังจบการศึกษาระดับมัธยม 

ด้วยสถานะทางบ้านที่ไม่ค่อยดีทำให้ Marie กับพี่สาว ทำงานเป็นอาจารย์สอนในระดับอนุบาลเพื่อหาเงินเรียนต่อมหาวิทยาลัย จน Marie สามารถเรียนจบปริญญาตรีสาขาฟิสิกส์ได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1893 และได้เริ่มทำงานในห้องปฏิบัติการทางอุตสาหกรรมของศาสตราจารย์ Abriel Lippmann และเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยปารีสจนจบปริญญาโทในปี ค.ศ. 1894

ในขณะที่ Marie ทำงานเป็นผู้ช่วยในห้องปฏิบัติการทางเคมี ทำให้ Marie พบกับ Pierre Curie เป็นนักฟิสิกส์ที่ทำงานอยู่ที่เดียวกับ Marie โดยทั้งสองเริ่มสนิทกันจากความสนใจในด้านแม่เหล็ก แร่ธาตุต่าง ๆ ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันและมีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ก็ยังไม่ทิ้งในเรื่องของวิทยาศาสตร์ทั้งตัว Marie และ Pierre ร่วมศึกษาในด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการแผ่รังสีของแร่ด้วยกันต่อจากนั้น

ในช่วงเวลานั้น ที่ประเทศฝรั่งเศสมีนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่สนใจในเรื่องของรังสี แร่ธาตุต่าง ๆ โดยหนึ่งในผู้คนพบรังสีชนิดใหม่ คือ Antoine Henri Becquerel นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส เพื่อนสนิทของ Pierre ผู้ค้นพบปรากฏการณ์การแผ่รังสีจากแร่ยูเรเนียม (Uranium) ทำให้ทั้ง Marie และ Pierre จึงศึกษาค้นคว้าต่อไปจนถึงแหล่งพลังงาน พวกเขาสืบเสาะไปจนพบว่าแหล่งที่มาของพลังงานที่แผ่ออกมาคือ แร่พิตช์เบลนด์ (Pitchblende) ซึ่งเป็นออกไซด์ชนิดหนึ่งของแร่ยูเรเนียม โดยหลังจากพยายามสกัดแร่พิตช์เบลด์ออกมา Marie และ Pierre ก็ได้ค้นพบธาตุชนิดใหม่ โดยตั้งชื่อว่า โปโลเนียม (Polonium) เพื่อเป็นเกียรติแก่ประเทศโปแลนด์ บ้านเกิดของ Marie

และในปี ค.ศ. 1898 Marie และ Pierre จึงได้ศึกษาต่อเพิ่มเติม โดยทั้งคู่ได้ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะยังมีสารประกอบที่อยู่ในแร่พิตช์เบลด์อีกมาก หลังจากพยายามมานานกว่า 5 เดือนหลังทั้งคู่ก็ได้พบกับธาตุชนิดใหม่ โดยตั้งชื่อธาตุนี้ว่า เรเดียม (Radium) ในภาษากรีกแปลว่าแสง ซึ่งธาตุเรเดียมนี้สามารถแผ่รังสีออกมาได้มากกว่ายูเรเนียมหลายเท่า และธาตุเรเดียมยังสามารถส่องผ่านเนื้อหนังของมนุษย์ได้

ทั้งคู่ได้สังเกตเห็นว่า ธาตุเรเดียมสามารถแผ่รังสีพลังงานลึกถึงภายในของเนื้อเยื่อ จนส่งผลให้มือของ Marie แห้งกร้าน และลอกเป็นชั้นสีดำเหมือนโดนไฟไหม้ ในขณะที่ Pierre เก็บธาตุเรเดียมเพียงไม่กี่มิลลิกรัมในกระเป๋าเสื้อ ตัวแร่ธาตุก็ทำให้เสื้อของ Pierre ไหม้และทำให้เกิดรอบแผลเป็นบริเวณหน้าอก 

จึงทำให้ทั้งคู่ทำการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นทั้ง Marie และ Pierre ได้ร่วมมือกับ Antoine ในการคิดค้นและวิจัย ทำให้ทั้ง 3 คนได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในฐานะกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ผู้ศึกษาปรากฏการณ์กัมมันตภาพรังสี (Radioactivity) 

และจากการที่ Marie และ Pierre ได้ค้นพบธาตุเรเดียมทำให้ Marie ได้ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยปารีสซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับปริญญาเอกของประเทศฝรั่งเศส แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าใจคือ Pierre ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทำให้ Marie โศกเศร้าเสียใจแต่ก็ยังศึกษาในเรื่องของแร่ธาตุต่อไป 

และในปี ค.ศ. 1911 Marie ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยปารีส ในการตั้งสถาบันเรเดียม เพื่อค้นคว้าการใช้ประโยชน์จากธาตุเรเดียม ทําให้ Marie รวมถึงทีมนักวิจัยค้นพบว่าเรเดียมมีคุณสมบัติทางการแพทย์ที่สามารถนำมาต่อยอดพัฒนาเป็นเครื่องมือรักษาโรคมะเร็งบางอวัยวะได้โดยการใช้ธาตุเรเดียมยิงไปที่เซลล์มะเร็งด้วยอนุภาคกัมมันตรังสี

จากผลงานนี้เองทำให้ Marie ได้รับรางวัลโนเบลอีกครั้ง ในสาขาเคมีจากการค้นพบธาตุพอโลเนียมและเรเดียม ซึ่งการรับรางวัลโนเบลถึง 2 ครั้งของมารีทำให้มารีกลายเป็นบุคคลแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล 2 สาขาเพียงคนเดียวในโลก

ด้วยความสำเร็จของ Marie ในปี ค.ศ. 1933 ได้ทำการจัดตั้งมูลนิธิ Curie Foundation เพื่อทำหน้าที่ในการสนับสนุนการวิจัยด้านงานวิทยาศาสตร์และสนับสนุนทางการแพทย์ และในปี ค.ศ. 1953 สถาบันแห่งนี้ได้กลายเป็นต้นแบบของสถาบันวิจัยมะเร็งในหลายประเทศ และเริ่มใช้งานด้านวิทยาศาสตร์เข้ามามีส่วนร่วมส่งเสริมคุณภาพชีวิตของสังคมมากขึ้น

และช่วง Marie อายุ 58 ปี สุขภาพเริ่มทรุดโทรมหนักมากขึ้น เริ่มมีอาการหูหนวก ตาบอด และมีรอยไหม้ที่ตามมือ ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้เวลาทำการทดลองรังสีต่าง ๆ ทำให้ถูกรังสีจากสารกัมมันตภาพรังสีเผาตามอวัยวะ ในเวลาต่อมา Marie ป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลโอตซาวัว (Haute Savoie) และเสียชีวิตในวัย 67 ปี เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1934

นับได้ว่า Marie Curie คือบุคคลที่เสียสละและสร้างประโยชน์หลายอย่าง เป็นสิ่งที่เกิดจากความรักในการทดลอง ความสนใจ ความชอบในวิชาชีพของตัวเองถึงแม้อาจจะทำให้ตัวเองต้องบาดเจ็บแต่ผลลัพธ์หรือสิ่งที่เธอได้จากการค้นคว้าและวิจัยนี้สามารถต่อชีวิต และ ลมหายใจให้กับผู้คนอีกหลายล้านคน ถึงแม้เธอจะจากไป แต่คุณงามความดีและบทเรียนที่ได้จากการทดลองของ Marie สามารถต่อยอดและทำให้มีการวิจัยพัฒนาทางการแพทย์จนถึงปัจจุบัน 


แหล่งข้อมูล 
https://thepeople.co/marie-curie-radioactivity/
https://www.scimath.org/article-science/item/11461-19-marie-curie
https://www.takieng.com/stories/8714

“ทีเคพาร์ค” ปรับทิศทางสู่องค์กรยุคดิจิทัล พลิกโฉมดีไซน์-บริการ-นวัตกรรมใหม่ มุ่งสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ เพื่อเสริมศักยภาพคนไทยในสังคมโลก นำเสนอ 5 จุดเช็คอินใหม่

สถาบันอุทยานการเรียนรู้ “TK Park” ครบรอบ 16 ปี เดินหน้าปรับทิศทางองค์กรครั้งใหญ่ พร้อมปรับโฉมใหม่ รวมทั้งเสริมบริการสุดล้ำให้เข้ากับยุคดิจิทัล โชว์วิสัยทัศน์พร้อมสร้างสรรค์ “ระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้” คู่สังคมไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพคนไทยให้มีทักษะในการเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดทุกช่วงชีวิต ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งในการสร้างทุนมนุษย์ที่มีความสำคัญ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน 

นายกิตติรัตน์ ปิติพานิช ผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ “TK Park” หน่วยงานในสังกัดสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดวิสัยทัศน์ในโอกาสครบรอบ 16 ปี ว่า TK Park ได้วางยุทธศาสตร์การพัฒนาองค์กรเพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว พลิกกลยุทธ์จากห้องสมุดมีชีวิต มุ่งสู่บทบาทใหม่ ในฐานะผู้ริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้แห่งอนาคต (Pioneer of Innovative Future Learning) เน้นตอบโจทย์การสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ให้คนไทย พร้อมปรับทิศทางและภาพลักษณ์องค์กรใหม่ 

เริ่มตั้งแต่การปรับโครงสร้างการบริหารงานในองค์กรให้มีความกระชับ เพื่อการขับเคลื่อนที่รวดเร็ว การพัฒนาบุคลากร สร้างคุณค่าหลักร่วมกันขององค์กร รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนโลโก้ ให้ดูทันสมัยเข้ากับคนรุ่นใหม่ การปรับปรุงพื้นที่บริการ ชั้น 8 โดยแบ่งโซนบริการต่างๆ ให้สามารถใช้สอยได้อย่างสะดวก เข้ากับทุกกลุ่มทุกวัยที่มาเข้าใช้บริการ รวมทั้งการปรับปรุงบริการให้สะดวกรวดเร็วโดยการใช้นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้เข้ามาเสริมทัพ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิก ซึ่งทั้งหมดนี้จะตอบโจทย์เป้าหมายหลักของ TK Park ในการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อเสริมศักยภาพคนไทยให้มีคุณภาพ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง นำมาสู่การพัฒนาสังคมไทย และสร้างสรรค์คุณค่าแก่สังคมโลก 

“เป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ที่เราได้ปรับปรุงพื้นที่ภายในส่วนบริการ ชั้น 8 ด้วยรูปแบบใหม่เข้ากับยุคดิจิทัลเพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้สะดวกรวดเร็ว ในแนวคิด Journey to the Next Chapter นำเสนอ 5 จุดเช็คอิน ได้แก่ 

1. Start Your Journey พื้นที่ทางเข้าสู่อุทยานการเรียนรู้ ออกแบบใหม่เพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศของการเดินทาง ที่พร้อมพาทุกคนสู่โลกการเรียนรู้ บริการสมัครสมาชิกผ่านแอป MyTK เข้าออกพื้นที่และชำระเงินแบบไร้การสัมผัสด้วยการสแกน QR Code 

2. Smart Library พบกับจุดให้บริการห้องสมุดในดีไซน์ใหม่ เน้นออกแบบมาเพื่อการบริการตนเอง (Self Service) สมาชิกสามารถยืม คืน ต่ออายุการยืม ผ่านอุปกรณ์อัตโนมัติ ลดการสัมผัสใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน 

3. Toy Library ห้องสมุดของเล่น บริการใหม่ภายในห้องสมุดเด็กของ TK Park ให้เด็กๆ เรียนรู้เสริมทักษะได้มากขึ้นจากการเล่นที่สนุกสนาน ด้วยของเล่นวัสดุธรรมชาติจากความร่วมมือกับ PlanToys บริษัทของเล่นชั้นนำ พร้อมหนังสือในธีมเดียวกัน คัดสรรโดยบรรณารักษ์ TK Park

4. Reading Space พื้นที่สำหรับอ่านหนังสือที่ปรับปรุงใหม่ เพิ่มมุมนิตยสารให้กว้างมากขึ้น ปรับขนาดชั้นวางหนังสือให้เข้าถึงได้สะดวกขึ้น เพิ่มที่นั่งการอ่านแบบโต๊ะขนาดใหญ่ พร้อมไฟส่องสว่างประจำโต๊ะ และเสริมที่นั่งอ่านเดี่ยว เพื่อความเป็นส่วนตัว

5. Book Wall & TK Cafe มุมใหม่ล่าสุด ที่เรียกได้ว่าเป็น Book Cafe ผสมผสานทั้งหนังสือ เครื่องดื่มและบรรยากาศได้อย่างกลมกล่อมลงตัว นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของบทสนทนา แบบสบายๆ ระหว่างวัน แลกเปลี่ยนกันเรื่องหนังสือ การอ่าน การเรียนรู้ 

อุทยานการเรียนรู้ TK Park ได้เปิดให้บริการตามมาตรการผ่อนคลายของรัฐบาลแล้ว ตั้งแต่วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 11.00 - 18.00 น. ที่ชั้น 8 Dazzle Zone ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หากยังคงเดินหน้ารักษามาตรการป้องกัน COVID-19 เพื่อความปลอดภัยของสมาชิก และผู้มาใช้บริการทุกคน โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการไม่เกิน 100 คน คนละไม่เกิน 60 นาที และทุกคนต้องสแกน QR Code ผ่าน "ไทยชนะ" ทุกครั้งที่แวะมายืม คืน หนังสือ สำหรับผู้สนใจสมัครสมาชิก TK Park สามารถลงทะเบียนผ่านแอป MyTK เพื่อรับโปรโมชั่นพิเศษ สมัครฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย วันนี้ ถึง 31 กรกฎาคม 2564 เท่านั้น ดูรายละเอียดเพื่อเติมได้ที่ www.tkpark.or.th

หนุ่มหล่อสุดฮอต “มิว ศุภศิษฏ์” นักร้องและนักแสดงมากความสามารถ ทั้งยังพกดีกรี ว่าที่ ดร. จากรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย !!

มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ นักแสดงมากความสามารถ ที่ใคร ๆ ที่ได้ชมผลงานต่างชื่นชอบและตกเป็นแฟนคลับของเจ้าตัวกันไปหมด แต่นอกจากความสามารถในด้านวงการบันเทิง ที่เป็นทั้งสายแสดงและสายนักร้อง มิว ศุภศิษฏ์ ก็มีดีกรีทางด้านการเรียนที่ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน 

โดยหนุ่มมิวนั้นจบชั้นมัธยมศึกษาในโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แผนการเรียนวิทย์-คณิต หลังจากเรียนจบได้เข้าศึกษาต่อในภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองอีกด้วย 

หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรี หนุ่มมิวก็ไม่รอช้าศึกษาต่อทางด้านปริญญาโท ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในตอนที่มิวศึกษาระดับปริญญาโทอยู่นั้น ทางอาจารย์ก็ให้มิวได้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยสอนแทนอาจารย์อยู่ช่วงหนึ่ง โดยสอนวิชาสถิติ (Statistics) ให้กับนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

หลังจากคว้าปริญญาโทมาได้สมดั่งใจแล้ว หนุ่มมิวก็สอบเข้าไปศึกษาต่อปริญญาเอกทันทีโดยศึกษาที่ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

นอกจากงานในวงการบันเทิงจะเก่งแล้ว เรื่องการเรียนก็ยังไม่แพ้กัน นับได้ว่าหนุ่มมิวนั้นครบเครื่องทั้งหน้าตา ความสามารถ และ เรื่องการเรียนจริง ๆ 


ที่มา : https://www.sanook.com/campus/1400748/

https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/87343/-newenttha-newent-new-enttv-ent-musoth-mus-
 

วิชาสังคม: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (สังคม)

THE STUDY TIMES X ClassOnline

????วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม

วิชาสังคม: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (สังคม)

โดย ครูต้นคูน ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์

ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ (Ph.D. in Communication Arts) สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

#สอนวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคม ระดับ ม.ต้น-ม.ปลาย

#ClassOnline

https://www.classonline.co.th/

.

.

รู้จัก “มศว ประสานมิตร” เป๊ะปังยังไง ทำไมใคร ๆ ถึงอยากเรียน ?!

หลาย ๆ คนก็คงจะรู้จัก “มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ” หรือ “มศว” ว่าเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ผลิตบุคลากรในวงการต่าง ๆ มากมาย มีวิทยาเขตด้วยกัน 2 ที่คือ มศว ประสานมิตร ที่อโศก กรุงเทพฯ และ มศว องครักษ์ ที่จังหวัดนครนายก ในวันนี้ THE STUDY TIMES จะมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักถึงประวัติและชื่อเสียงของ มศว ประสานมิตร กัน

มศว หรือ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ถือกำเนิดเมื่อตอนสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากที่ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและสังคมได้คลี่คลาย การศึกษาในยุคนั้นก็ต้องการที่จะพัฒนาให้คงอยู่

แต่มีประชากรครูไม่เพียงพอต่อประชากรนักเรียนเพื่อผลักดันการศึกษาทางด้านวิชาชีพครู กระทรวงศึกษาธิการจึงก่อตั้ง “โรงเรียนฝึกหัดครูชั้นสูง” ได้สถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2492 ที่ถนนประสานมิตร กรุงเทพมหานคร โดยได้ถือกำเนิดขึ้นจาก หม่อมหลวง ปิ่น มาลากุล ซึ่งเป็นปลัดกระทรวงศึกษาธิการในสมัยนั้น

หลังจากนั้นจึงได้พัฒนามาเป็น “วิทยาลัยวิชาการศึกษา” ในปี พ.ศ.2496 โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สาโรช บัวศรี เป็นผู้นำพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน หลังจากนั้นก็พัฒนาต่อมาเรื่อย ๆ มีหลักสูตรมากมายจนกลายมาเป็น มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยมี 2 วิทยาเขตคือ มศว ประสานมิตร ที่อโศก กรุงเทพฯ และ มศว องครักษ์ ที่จังหวัดนครนายก

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีความหมายว่า "มหาวิทยาลัยที่เจริญเป็นศรีสง่าแก่มหานคร" "วิโรฒ"มาจากคำว่า "วิโรฒ" ในภาษาสันสกฤต แปลว่า ความงอกงามหรือเจริญ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (อ่านว่า สี-นะ-คะ-ริน-วิ-โรด) มีชื่อย่อว่า "มศว" (ไม่มีจุด) เขียนอักษรโรมันว่า "Srinakharinwirot University" มีชื่อย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า SWU (อ่านว่า สะ-วู)

สัญลักษณ์ของมศวคือกราฟ ซึ่งเป็นสมการทางด้านคณิตศาสตร์ Y = ex (Exponential Curve) เส้นกราฟของการขยายเพิ่มขึ้น มีความหมายสอดคล้องปรัชญาที่ว่า “การศึกษาคือความเจริญงอกงาม” หรือ สิกขา “วิรุฬหิ สมปตตา” หรือ “ Education is Growth” รวมทั้งสอดคล้องกับ “สีเทา–แดง” ซึ่งสีเทา เป็นสีของสมอง หมายถึง “ความคิด” และสีแดงเป็นสีของเลือด หมายถึง “ความกล้าหาญ” สีเทา – แดง จึงหมายถึง “คิดอย่างกล้าหาญ” นั้นเอง โดย มศว จะใช้คำว่า นิสิต แทนตัวผู้เรียน

ในวันนี้ THE STUDY TIMES ขอพูดถึง มศว ประสานมิตร กันก่อนนะคะ โดย มศว ประสานมิตรตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท 23 เขตวัฒนา อโศก การเดินทางก็ง่ายและสะดวกมาก ๆ เนื่องจากตัวมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ใกล้ BTS และ MRT (อยู่หลังตึกแกรมมี่ด้วยนะ)

นอกจากนี้ มศว ประสานมิตร ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีการสอบแข่งขันแอดมิชชั่นสูงสุดเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย โดยคณะที่เป็นยอดนิยมคือ คณะวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม นั่นเอง ซึ่งเป็นคณะที่มีการแข่งขันสูงมาก ๆ โดยเฉพาะเอกภาพยนตร์ หรือ คนในคณะจะเรียกเอก Cinema ที่มีรุ่นพี่อย่าง เก้า จิรายุ เจเจ กฤษณภูมิ และมีรุ่นพี่ดาราคนอื่น ๆ ที่กำลังศึกษาต่อหรือจบจากคณะนี้ก็มีอีกเพียบ

ในส่วนของคณะที่มศว ประสานมิตร มีคณะที่ศึกษาอยู่ที่มศว ประสานมิตรทั้ง 4 ปีมีคณะดังต่อไปนี้

คณะศึกษาศาสตร์

คณะเศรษฐศาสตร์

คณะทันตแพทยศาสตร์

คณะวิทยาศาสตร์

คณะวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

คณะศิลปกรรมศาสตร์

วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์

วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม

วิทยาลัยนานาชาติเพื่อศึกษาความยั่งยืน

ส่วนคณะอื่น ๆ จะเป็นการสลับเปลี่ยนกันไปเรียนที่มศว องครักษ์บ้าง อย่างเช่นคณะแพทย์ศาสตร์จะเรียนที่ มศว ประสานมิตรตั้งแต่ปี 1 – 3 และจะไปเรียนต่อในชั้นปีที่ 4 – 6 ที่ มศว องครักษ์

สังคมของมศวในแต่ละคณะก็มีความแตกต่างหลากหลายกันไปแต่จากที่ได้ประสบพบเจอนั้นสังคม มศว ถือว่าเป็นสังคมที่ดี ทุกคนเป็นมิตรและมีอัธยาศัยดีมาก ๆ เลยละค่ะ คณะคุณครูหรืออาจารย์ ก็มากไปด้วยประสบการณ์จัดเต็มทุกเนื้อหาการสอน เรียกได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่อัดแน่นไปด้วยการเรียนรู้ที่ไม่ที่สิ้นสุดจริง ๆ ค่ะ

นอกจากนี้ รอบ ๆ มศว ประสานมิตร เป็นแหล่งออฟฟิศ มีแหล่งของกิน และ และห้างสรรพสินค้า มากมายเพราะว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ใจกลางย่านออฟฟิศ เหล่าพนักงานออฟฟิศและผู้คนหนาแน่นจริง ๆ ค่ะ เรียกได้ว่าสัมผัสบรรยากาศของเสน่ห์กรุงเทพฯเต็ม ๆ

ถ้าผู้ใดสนใจที่อยากจะเข้าศึกษาต่อที่มศวไม่ว่าจะเป็นที่ประสานมิตรหรือองครักษ์ ทางมหาวิทยาลัยจะมีงาน Open House ที่จัดขึ้นทุก ๆ ปีในช่วงเดือนพฤศจิกายน โดยแต่ละปีก็จะมีธีมการจัดงานที่แตกต่างกันไป และ มีบรรดาพี่ ๆ ศิษย์เก่าที่ชื่อเสียงมาแชร์ประสบการณ์และให้กำลังใจน้อง ๆ นักเรียนถึงที่ โดยงานจะจัดที่ มศว ประสานมิตรนะคะ ส่วนจัดวันที่เท่าไร ทาง THE STUDY TIMES จะรีบนำข่าวมาแจ้งให้เร็วที่สุดเลยค่ะ


แหล่งข้อมูล : https://www.swu.ac.th/history.php

พร้อมไม่พร้อม!! เช็คลิสต์ เรื่องที่ต้องรู้ก่อนสอบ TCAS65 ????????

ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้จัดทำระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา TCAS ปีการศึกษา 2565 ได้มีการพิจารณาแนวทางการคัดเลือกระบบ TCAS65 โดยมีมติยุติการใช้คะแนนโอเน็ตในการคัดเลือกในรูปแบบ Admission2 เพื่อลดภาระการสอบให้บริมาณที่ลดน้อยลง พร้อมนำเสนอ (ร่าง) รูปแบบการคัดเลือกในระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2565 (TCAS65) เป็น 4 รอบ 4 รูปแบบ ดังนี้

1. Portfolio รับตรงโดยใช้แฟ้มสะสมผลงาน
ใช้แฟ้มสะสมผลงานเป็นเครื่องมือแสดงความโดดเด่น ความสนใจ ความถนัด ความสามารถพิเศษ ความเป็นเลิศ หรือมีผลงานที่เกี่ยวข้องสอดคล้องกับคณะที่จะเข้าศึกษา 

สมัครกับ : มหาวิทยาลัย
เกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือก : GPAX, Portfolio, คะแนนสอบวิชาเฉพาะ, คะแนนสอบภาษาอังกฤษ

2. Quota รับตรงโควตาตามเกณฑ์ที่แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนด
รอบนี้เป็นรอบของโควตาตามกฎเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด เช่น โควตาโรงเรียนที่มีเครือข่ายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย โควตาเรียนดี / มีความสามารถพิเศษ, โควตาเขตพื้นที่, โควตากระจายโอกาสให้เด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือโควตารูปแบบต่าง ๆ

สมัครกับ : มหาวิทยาลัย
เกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือก : GPAX, GAT/PAT, วิชาสามัญ, คะแนนสอบวิชาเฉพาะ, คะแนนสอบภาษาอังกฤษ

3. Admission รับตรงร่วมกัน
รอบรับตรงร่วมกัน ทุกสถาบันจะเปิดรับสมัครพร้อมกัน ในวันและเวลาเดียวกัน โดยจำกัดการเลือกไว้ตามจำนวนอันดับที่ ทปอ.กำหนด และที่สำคัญคือ ใช้คะแนนสอบเป็นหัวใจในการคัดเลือก 

สมัครกับ : mytcas.com
เกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือก : GPAX, GAT/PAT, วิชาสามัญ, คะแนนสอบวิชาเฉพาะ

-เลือกได้จำกัดจำนวน เรียงตามลำดับความชอบ (รอสรุปจำนวนจาก ทปอ.)
-กสพท อยู่ในรอบนี้
-มหาวิทยาลัยกำหนดเกณฑ์ตรงของใครของมัน แต่รับสมัครผ่าน ทปอ.
-ทปอ. ประกาศผลการติดเพียง 1 อันดับ 
-Double Sorting ประมวลผล 2 รอบ

4. Direct Admission รับตรงอิสระ
รอบเก็บตก ปลายทางรอบสุดท้ายของระบบ จำนวนรับน้อยที่สุด และบางสถาบันก็ไม่ได้เปิดรับในรอบนี้ 

สมัครกับ : มหาวิทยาลัย
เกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือก : GPAX, GAT/PAT, วิชาสามัญ

ทุกรอบต้อง Clearing House ผ่านระบบ mytcas ของ ทปอ.
แม้ว่าระบบการคัดเลือกจะเป็นระบบการรับตรง แต่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและช่วยกระจายโอกาสอย่างเสมอภาค ตามหลักการของ TCAS ที่กำหนดให้ทุกคนมี 1 สิทธิ์เท่าเทียมกัน ดังนั้น ไม่ว่าจะติดรอบใดก็ตาม จะต้องเข้ามา Clearing House หรือยืนยันสิทธิ์ในระบบ mytcas ซึ่งเป็นระบบที่ใช้บริหารจัดการสิทธิ์ในระบบ TCAS (ยกเว้นคนที่ติดในรอบที่ 4 Direct Admission ไม่ต้องเข้ามายืนยันสิทธิ์ในระบบของทปอ. แต่ให้ไปยืนยันสิทธิ์กับมหาวิทยาลัยที่ติดได้เลย) 


ขอบคุณข้อมูล: https://www.admissionpremium.com/content/6340
https://www.trueplookpanya.com/tcas/article/detail/87856

วิชาภาษาอังกฤษ: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาอังกฤษ)

THE STUDY TIMES X ClassOnline

.

????วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม

วิชาภาษาอังกฤษ: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาอังกฤษ)

.

โดย ครูพี่ทาม์ย ฐานุวัชร์ รินนานนท์

ศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา (เรียนเน้นภาษาสเปน) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, อาจารย์ผู้สอนอบรม TOEIC ให้องค์กรภาครัฐและเอกชนระดับประเทศ

#สอนวิชาภาษาอังกฤษ ระดับ ม.ต้น-ม.ปลาย

.

#ClassOnline

https://www.classonline.co.th/

.

.

โรงเรียนอินเตอร์ สุดปัง!! ทำไม แพงแค่ไหน ก็ยอมจ่าย?

โรงเรียนเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 เพราะโรงเรียนไม่ได้เพียงแค่ให้นักเรียนได้มีประสบการณ์ในด้านความรู้ในเรื่องของการเรียนหนังสืออย่างเดียว แต่โรงเรียนที่ดีจะต้องสอนทั้งการใช้ชีวิตและการเข้าสังคมให้ได้ ในที่นี่เราจะมาพูดถึงโรงเรียนอินเตอร์กัน 

โดยโรงเรียนอินเตอร์ทีเป็นโรงเรียนที่สอนทั้งในเรื่องของการเรียนหนังสือ และ ประสบการณ์การใช้ชีวิต สภาพแวดล้อมและสังคม เป็นสิ่งหนึ่งที่อาจจะช่วยให้ลูกของคุณมีประสบการณ์และการเรียนรู้ ในวันนี้ THE STUDY TIMES ได้รวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นว่าในโรงเรียนอินเตอร์มีข้อดีอะไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจให้ลูกรักได้มีโอกาสพัฒนาในเรื่องของการเรียนและสังคม 

1.) การเรียนรู้ที่ควบคู่ไปกับประสบการณ์
สิ่งหนึ่งที่ลูกของคุณจะได้รับจากโรงเรียนอินเตอร์คือการเรียนที่ไม่ใช่แค่อยู่ในตำรา ไม่ได้มีแค่เพียงทฤษฎี แต่เป็นการเรียนที่ควบคู่ไปกับประสบการณ์ โรงเรียนอินเตอร์จะสอนให้ลูกของคุณได้เรียนทั้งในภาคทฤษฎีและปฏิบัติซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้ลูกของคุณมีพัฒนาการที่ดี โรงเรียนอินเตอร์หลายที่จะให้นักเรียนได้ทั้งเรียน เล่น และสนุกกับการใช้ชีวิตในเวลาเดียวกัน ยิ่งถ้าได้ลงมือปฏิบัติ ลูกของคุณก็จะยิ่งสนุกกับการเรียนมากยิ่งขึ้น นักเรียนในโรงเรียนอินเตอร์จะได้พัฒนาการจากทางด้านการเรียนและกิจกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการเรียนในยุคปัจจุบัน


2.) ภาษาอังกฤษคือใบเบิกทางสู่ความสำเร็จ
ในปัจจุบันภาษาถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกรักของคุณสามารถเปิดโลกกว้างได้อย่างมาก ยิ่งภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสากล และแน่นอนโรงเรียนอินเตอร์มีรูปแบบการเรียนการสอนที่เป็นภาษาอังกฤษในทุกวิชา เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะในด้านทางภาษา และจะทำให้ลูกของคุณเก่งภาษามากยิ่งขึ้น โดยโรงเรียนอินเตอร์จะมีการสอนทั้งการเขียน การอ่าน การพูด ในทุกระดับชั้น การเรียนภาษาอังกฤษนับได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกของคุณมีพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย 


3.) สังคมและวัฒนธรรมที่หลากหลาย 
เนื่องจากนักเรียนและคุณครูที่โรงเรียนอินเตอร์มีความหลากหลายทั้งในประเทศ ภาษา และ วัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้สามารถพัฒนาทักษะทางด้านภาษาอย่างมาก ลูกของคุณจะได้รับทั้งในเรื่องของการพูดภาษาได้หลากหลายรวมไปถึงได้รับวัฒนธรรมจากอีกหลากหลายประเทศ ทำให้ลูกของคุณได้รับทั้งความรู้ มุมมองในการใช้ชีวิตที่หลากหลายนอกเหนือจากในห้องเรียน สังคมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญในด้านของการใช้ชีวิต โรงเรียนอินเตอร์ถือว่าเป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรม หลากหลายสัญชาติมารวมกัน 

4.) คณะอาจารย์ คุณครูที่มีความเป็นเลิศทางด้านการสอนและมากไปด้วยประสบการณ์
โรงเรียนอินเตอร์ทุกที่คณะครู อาจารย์จะต้องได้รับการศึกษามาในเฉพาะทางอย่างดีเยี่ยม จึงจะสามารถเข้ามาสอนในโรงเรียนอินเตอร์ได้ ด้วยศักยภาพและเนื้อหาการสอนที่คณะคุณครูเตรียมถ่ายทอดให้กับนักเรียนทั้งในด้านของทฤษฎีและด้านปฏิบัติก็จะทำให้ลูกของคุณได้รับการดูแลเอาใจใส่ และมีการเรียน การศึกษาที่ดี และบุคลากรในโรงเรียนอินเตอร์จะต้องมีความพร้อม ดูแลเอาใจใส่นักเรียนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน 

5.) สถานที่และบรรยากาศคือการเรียนรู้และการใช้ชีวิต 
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นส่วนที่สำคัญในการเรียนคือ บรรยากาศและสถานที่ในการเรียนรู้ โรงเรียนอินเตอร์ส่วนใหญ่มีสถานที่ ๆ สวยงามและพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนทุกคน ซึ่งสภาพแวดล้อมทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนนับว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกของคุณมีความรู้สึกที่อยากจะไปโรงเรียน หลาย ๆ ที่ในโรงเรียนอินเตอร์จะให้ความสำคัญกับสถานที่และบรรยากาศการเรียนอย่างมาก มีห้องกิจกรรมและการเรียนรู้ นอกเหนือจากทางด้านวิชาการแล้วการเรียนนอกห้องเรียนก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น ด้านศิลปะ ดนตรี คหกรรม รวมไปถึงกีฬา เพื่อให้นักเรียนได้ค้นหาศักยภาพของตนเองและค้นหาความฝัน หรืออาชีพในอนาคต

เครดิตภาพ : โรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันฯ

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาในแต่ละข้อนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกของคุณเติบโตขึ้น โรงเรียนอินเตอร์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ที่จะสามารถให้ลูกของคุณมีศักยภาพในการเรียนและสังคมที่ดี ตลอดจนถึงมีพัฒนาการทางด้านความคิด และมีทักษะอื่น ๆ อีกมากมาย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ปกครองที่กำลังเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของคุณ เพื่อให้ลูกที่คุณรักได้ใช้ชีวิตและเปิดประสบการณ์ในช่วงวัยเรียนได้อย่างมีความสุขกับเส้นทางที่ทุกท่านได้กำหนดไว้

ใครมีสกิลทำอาหาร ยกมือขึ้น!! สพฐ. เชิญชวนนักเรียนมัธยมฯ แข่งขันทำอาหาร ต่อยอดอาชีพเชฟมือทอง ในรายการแข่งขัน “สุดยอดเชฟนักคิด สู่นักธุรกิจรุ่นเยาว์”

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยสำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย (สมป.) จับมือกับดุสิตธานีและเชฟพล ตัณฑเสถียร จัดแข่งขันประลองฝีมือนักเรียนมัธยมศึกษา ที่ชอบการทำอาหาร ในรายการแข่งขัน “สุดยอดเชฟนักคิด สู่นักธุรกิจรุ่นเยาว์” ขานรับนโยบาย สพฐ. ด้านการสร้างโอกาสและคุณภาพนักเรียน ค้นหาเชฟมือทองรุ่นเยาว์ ที่อนาคตจะประสบความสำเร็จในอาชีพธุรกิจการประกอบอาหาร

ทั้งนี้ จะมีการแข่งขันระดับภูมิภาคก่อน เพื่อคัดเลือกทีมที่ชนะมาแข่งขันกันที่ส่วนกลางวิทยาลัยดุสิตธานี ซึ่งจะเริ่มรับสมัครระหว่างวันที่ 10-31 กรกฎาคม 2564 โดยศูนย์ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย กำแพงเพชร และจังหวัดตาก ส่งใบสมัครที่ Email:[email protected] โทรศัพท์ 09-5497-9516, 08-6182-8187

ศูนย์ภาคกลาง จังหวัดชัยนาท นครนายก นครปฐม นครสรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สระบุรี อ่างทอง อุทัยธานี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้ว กาญจนบุรี เพชรบุรี และจังหวัดราชบุรี ส่งใบสมัครที่ Email:[email protected] หรือ [email protected] โทรศัพท์ 09-3846-8702, 08-3915-9625

ศูนย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร สุรินทร์ ศรีสะเกษ หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี และจังหวัดอำนาจเจริญ ส่งใบสมัครที่ Email:[email protected] โทรศัพท์ 08-2545-9678

ศูนย์ภาคใต้ จังหวัดกระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ระนอง สตูล สงขลา สุราษฎร์ธานี ยะลา และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งใบสมัครที่ Email:yothinkhon@hotmailçom โทรศัพท์ 08-6270-7446

และศูนย์กรุงเทพมหานคร ส่งใบสมัครที่ Email:[email protected] โทรศัพท์ 08-8560-9600

โดยทีมชนะเลิศจะได้รับรางวัลเงินสดพร้อมโล่เกียรติยศ รางวัลที่ 1 เงินสด 50,000 บาท รางวัลที่ 2 เงินสด 30,000 บาท และรางวัลที่ 3 เงินสด 20,000 บาท

ลิงก์ใบสมัคร 
https://drive.google.com/file/d/19P9TFGOa2Y1itxXQq-EhQddM1Ug15HSE/view?usp=sharing


ที่มา:

https://www.facebook.com/101216422215115/posts/102618908741533/?d=n
https://www.matichon.co.th/publicize/news_2788659

จัดเต็ม!! คอนเทนต์เพื่อการศึกษา 1 ก.ค. นี้ แหล่งรวมสาระเพื่อ “การศึกษาและการพัฒนาตัวเอง ” ????????

ทุกคอนเทนต์ จัดเต็มทุกวัน จันทร์-อาทิตย์

✅ข่าวการศึกษา

✅คอลัมนิสต์

✅ข้อมูลโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชื่อดัง

✅ข้อมูลการศึกษาทั้งไทยและต่างประเทศ

✅บุคคลในแวดวงการศึกษาที่น่าสนใจ

✅บทความ เทคนิคการพัฒนาตัวเอง

✅รายการสัมภาษณ์ THE STUDY TIMES STORY

ขนกันมาแบบจัดเต็ม!!

เพราะเราคือ THE STUDY TIMES สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์สำหรับทุกคน????✏

Education News Agency for All

????ติดตามได้ทางเว็บไซต์, Facebook, LINE, YouTube, IG และ TiktTok ???? THE STUDY TIMES

วิชาภาษาไทย: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาไทย)

THE STUDY TIMES X ClassOnline

????วันพุธที่ 30 มิถุนายน

วิชาภาษาไทย: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ (ภาษาไทย)

โดย ครูต้นคูน ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์

ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ (Ph.D. in Communication Arts) สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

#สอนวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคม ระดับ ม.ต้น-ม.ปลาย

#ClassOnline

https://www.classonline.co.th/

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top