Sunday, 12 May 2024
WORLD

‘พระราชาจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก’ ร่วมงานสมโภชน์ พระราชทานพระนามแก่พระราชธิดา 'เจ้าฟ้าหญิงโซนัม ยังเดน วังชุก'

(13 ธ.ค.66) สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินี เจตซุน เปมา วังชุกแห่งภูฏาน พร้อมด้วยพระโอรส เจ้าฟ้าชายจิกมี นัมเกล มกุฎราชกุมาร และเจ้าฟ้าชายอุกเยน เสด็จพระราชดำเนินร่วมงานสมโภชน์ และ พระราชทานพระนามแก่พระราชธิดา เจ้าฟ้าหญิงโซนัม ยังเดน วังชุก ซึ่งทรงประสูติ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2023

โดยพระนามของ ‘เจ้าฟ้าหญิงโซม ยังเดน วังชุก’ นั้นมีความหมายดีๆ ดังต่อไปนี้ ‘โซนัม’ เป็นชื่อของชาวภูฏานที่แสดงถึงบุญ อายุยืนยาว และโชคลาภ ส่วนคำว่า ‘ยังเดน’ หมายถึงอัญมณีอันล้ำค่า ความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นอยู่ที่ดี

สำหรับพิธีดังกล่าวถูกจัดขึ้นที่ป้อมปราการทาชิโชซอง กรุงทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน ในการนี้ยังได้รับเกียรติจากสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก ทรงมาเป็นประธานในพิธีพร้อมด้วย สมเด็จพระบรมราชินีนาก ดรุก กยัลโป และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จร่วมในพิธีอีกด้วย

‘ญี่ปุ่น’ เครียด!! ปลาตายเกลื่อนหาดหลายพันตัน หลังปล่อยน้ำจากฟุกุชิมะ ด้าน ‘นักวิจัย’ คาด ปลาอาจเกิดภาวะช็อกน้ำ ระหว่างการอพยพถิ่นฐาน

(12 ธ.ค. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรลจำนวนมากถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาดที่เกาะฮอกไกโด ทางภาคเหนือสุดของญี่ปุ่นเมื่อไม่กี่วันก่อน จนสร้างความตื่นตะลึงว่ากำลังก่อให้เกิดความสงสัยและความกังวลใจตามมา เนื่องจากปรากฏการณ์ปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรลตายเกลื่อนชายหาดมากมายมหาศาลขนาดนี้ และยังไม่ทราบสาเหตุ เกิดขึ้นเพียงแค่ราว 3 เดือน หลังจากทางการญี่ปุ่นตัดสินใจให้ปล่อยน้ำบำบัดกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะ ลงสู่ทางทะเลและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค

ขณะเดียวกัน กรณีดังกล่าวสร้างความตื่นตะลึง ก่อให้เกิดความสงสัยและความกังวลใจของประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะมีซากปลาคาดว่ามีน้ำหนักรวมหลายพันตัน ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งจนลอยเป็นแพสีเงินเหนือผิวน้ำทะเลริมชายหาด เป็นระยะทางยาวถึงเกือบ 2 กม.

อย่างไรก็ตาม ทางนักวิจัยที่สถาบันประมงเมืองฮาโกะดาเตะ ได้แสดงความเห็นถึงกรณีนี้ว่า อาจเกิดขึ้นเนื่องจากปลาเหล่านี้หมดแรงเพราะขาดออกซิเจน ขณะฝูงปลาจำนวนมากกำลังว่ายอยู่ในบริเวณน้ำตื้น หรือปลาอาจจะว่ายมายังเขตน้ำเย็นอย่างกะทันหันระหว่างการอพยพ และเกิดอาการช็อก

นอกจากนี้ ทางเทศบาลเมืองกำลังเร่งหาสาเหตุของปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเดียวกับฤดูกาลที่ปลาซาร์ดีนจะอพยพจากฮอกไกโดลงไปทางใต้พอดี

‘Zara’ เสียใจ ถูกกล่าวหาทำโฆษณาล้อเลียนในกาซา ยัน!! เป็นเพียง ‘ศิลปะ’ ในการแสดงชุดเสื้อผ้าเท่านั้น

เมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.66) เกิดกรณีดรามาผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนับหมื่นคนถล่มคอมเมนต์ใต้โพสต์แคมเปญโฆษณาชิ้นหนึ่งบนบัญชีอินสตาแกรมของ ‘ซารา’ (Zara) ซึ่งหลายคนมองว่าหุ่นที่ถูกห่อผ้าขาวในรูปนั้นคล้ายร่างไร้วิญญาณของเหยื่อในสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส พร้อมพากันติดแฮชแท็กคว่ำบาตร #BoycottZara

รูปภาพหนึ่งในแคมเปญโฆษณาดังกล่าวที่เรียกว่า ‘The Jacket’ แสดงให้เห็นนางแบบรายหนึ่งกำลังถือหุ่นรูปคนที่ห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีขาวซึ่งคล้ายกับคนกำลังแบกร่างไร้วิญญาณที่ถูกห่อด้วยผ้าสีขาว โดยในรูปภาพชุดดังกล่าวนั้น นางแบบได้ยืนอยู่ท่ามกลางหินที่แตกร้าว รูปปั้นที่เสียหาย และแผ่นยิปซัมที่แตกหัก

ล่าสุด ‘ซารา’ ออกแถลงการณ์ผ่านอินสตาแกรมเมื่อวานนี้(12 ธ.ค.) ว่า แคมเปญโฆษณาดังกล่าวเริ่มกระบวนการผลิตตั้งแต่เดือน ก.ค. และถ่ายภาพในสตูดิโอเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุการณ์ขัดแย้งในฉนวนกาซาเมื่อเดือน ต.ค. ส่วนหุ่นรูปปั้นไร้แขนในสตูดิโอนั้น ทางแบรนด์ตั้งใจจะโชว์เป็นพร็อพประกอบฉากเท่านั้น

ด้านอินดิเท็กซ์ (Inditex) บริษัทแม่ของซารา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้ลบโฆษณาชุดดังกล่าวออกจากทุกแพลตฟอร์มของบริษัทแล้ว

“ภาพโฆษณาเหล่านี้ถูกใช้เพื่อจุดประสงค์เดียว คือการแสดงชุดเสื้อผ้างานฝีมือภายใต้บริบทเชิงศิลปะเท่านั้น” ซาราชี้แจง

“ซารารู้สึกเสียใจที่เกิดความเข้าใจผิดนี้ และเราขอยืนยันอีกครั้งถึงความเคารพจากใจจริงของเราที่มีต่อทุกคน”

‘สีจิ้นผิง’ เดินทางถึง ‘เวียดนาม’ เริ่มต้นการเยือนอย่างเป็นทางการ พร้อมถกประเด็นเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านกับคณะผู้นำเวียดนาม

(12 ธ.ค. 66) สำนักข่าวซินหัว, ฮานอย รายงานว่า ทางเวียดนามได้ปูพรมแดงต้อนรับ ‘สี จิ้นผิง’ ประธานาธิบดีจีน และเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเริ่มต้นการเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ด้วยเป้าหมายส่งเสริมสายสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคี

โดยก่อนหน้านี้ ‘วัง เหวินปิน’ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายจะหารือการยกระดับความสัมพันธ์ ‘จีน-เวียดนาม’ พร้อมกับทำงานเพื่อส่งเสริมและพิสูจน์ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างสองประเทศ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างการเยือนระยะสองวันนี้

สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ของ สี จิ้นผิง ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก ‘ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์’ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และผู้แทนภาคส่วนต่างๆ รวมถึงประชาชนจากจีนและเวียดนามกว่า 400 คน ร่วมโบกธงของทั้งสองพรรคการเมืองและสองประเทศเพื่อต้อนรับคณะผู้นำของจีน ณ ท่าอากาศยาน รวมถึงประชาชนตลอดเส้นทางจากท่าอากาศยานไปยังโรงแรมที่พัก

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีจีน แสดงความคาดหวังจะแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึกกับคณะผู้นำของเวียดนาม ในประเด็นเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านอันสำคัญต่อทิศทางความสัมพันธ์ของ 2 พรรคการเมืองและ 2 ประเทศ

รายงานระบุว่า สี จิ้นผิง มีกำหนดหารือกับ ‘เหงียน ฟู้ จ่อง’ เลขาธิการใหญ่คณะกรรมกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม, ‘หวอ วัน เถือง’ ประธานาธิบดีเวียดนาม รวมถึงพบปะกับ ‘ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์’ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และ ‘เวือง ดิ่งห์ เหวะ’ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ระหว่างการเยือนอย่างเป็นทางการ ระยะ 2 วัน

อนึ่ง การเยือนครั้งนี้นับเป็นการเยือนเวียดนาม ครั้งที่ 3 ของสีจิ้นผิง นับตั้งแต่เขาดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานาธิบดีจีน

ทั้งนี้ ได้มีการเผยถึงสุนทรพจน์ฉบับลายลักษณ์อักษรของ สี จิ้นผิง ซึ่งเผยแพร่หลังจากเขาเดินทางถึงเวียดนามด้วยว่า คณะผู้นำของทั้งสองฝ่ายจะหารือประเด็นระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคที่มีความสนใจร่วมกัน

จีนถือว่าความสัมพันธ์กับเวียดนามเป็นพันธกิจสำคัญในการทูตประเทศเพื่อนบ้านของจีน และสีจิ้นผิงคาดหวังว่าการเยือนครั้งนี้จะเป็นโอกาสส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ระดับใหม่

จีนและเวียดนามที่เชื่อมต่อด้วยภูเขาและแม่น้ำมีมิตรภาพเก่าแก่ยาวนาน ซึ่งสั่งสมและบ่มเพาะร่วมกันโดยคณะผู้นำรุ่นเก่าก่อนของ 2 ประเทศ และถือเป็นสมบัติล้ำค่าของประชาชน 2 ประเทศ

สีจิ้นผิงในนามพรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐบาลจีน และประชาชนชาวจีน ขอกล่าวทักทายและอวยพรให้กับพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม รัฐบาลเวียดนาม และประชาชนชาวเวียดนามอย่างจริงใจ

ทั้งนี้ เวียดนามเป็นประเทศสำคัญในเอเชียและสมาชิกสำคัญของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ประชาชนชาวเวียดนามได้ก้าวสู่วิถีทางการพัฒนาอันเหมาะสมกับเงื่อนไขของประเทศ และเดินหน้าการเปลี่ยนผ่านทุกด้านตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้มีอิทธิพลในระดับโลกและระดับภูมิภาคเพิ่มขึ้น

‘จีน’ รับอานิสงส์ ‘ไทย’ สั่งซื้อ ‘แอปเปิลเวยไห่’ กว่าพันตัน หลังศุลกากรเปิดช่องพิเศษ ลดปัญหาผลิตภัณฑ์เน่าเสียง่าย

เมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การส่งออกสินค้าเกษตรของเมืองเวยไห่ มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2023 มีมูลค่า 1.22 หมื่นล้านหยวน (ราว 6.03 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยในจำนวนนี้เป็นการส่งออกแอปเปิลไปยังตลาดทั่วโลกทั้งสิ้น 14,000 ตัน

ชุยชิงซาน ผู้จัดการทั่วไปของหรู่ซาน พริ้นเซส ฟรุต แอนด์ เวจตา จำกัด (Rushan Princess Fruit and Vegetable Co., Ltd) บริษัทผู้ส่งออกแอปเปิลในเมืองเวยไห่กล่าวว่า แอปเปิลเวยไห่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจากตลาดประเทศต่างๆ ในกลุ่มประเทศสมาชิกของแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) รวมถึงไทย เวียดนาม เนปาล และศรีลังกา

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสดที่เน่าเสียง่าย คุณภาพของแอปเปิลจึงขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการขนส่งเป็นอย่างมาก

เพื่อตอบสนองต่อความจำเป็นเฉพาะตัวของธุรกิจแอปเปิล และเพื่อการดำเนินพิธีการทางศุลกากรอย่างมีประสิทธิภาพ ศุลกากรเวยไห่จึงเปิดช่องทางพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่เน่าเสียง่าย โดยกำหนดช่องทางบริการเฉพาะเพื่อให้บริการต่างๆ อาทิ การนัดหมายเพื่อตรวจสอบ โดยระยะเวลาพิธีการทางศุลกากรโดยเฉลี่ยสำหรับแอปเปิลนั้นจะใช้เวลาสั้นลงราวร้อยละ 60

ชุยกล่าวว่ามาตรการเหล่านี้ของศุลกากรเวยไห่ส่งผลให้คำสั่งซื้อในต่างประเทศของบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสริมว่าในช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดส่งออกแอปเปิลของบริษัทฯ ไปยังประเทศไทยเพียงแห่งเดียวสูงถึง 1,400 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบเป็นรายปี และเพื่อรับมือกับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น บริษัทฯ ยังได้ใช้อุปกรณ์คัดแยกอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งด้วย

หยางหลงเชา หัวหน้าแผนกตรวจสอบของศุลกากรเวยไห่กล่าวว่า ปัจจุบัน มีสินค้าจำนวน 2,540 กลุ่มที่ได้รับบริการจากช่องทางพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ซึ่งช่วยส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรอันเป็นเอกลักษณ์ของเวยไห่ได้อย่างมาก

‘รมว.พาณิชย์สหรัฐ’ เล็งกีดกัน ‘Huawei - SMIC’ ขั้นสุด อ้าง!! ความมั่นคงของชาติ หลัง Huawei ผลิตชิปล้ำหน้า

(12 ธ.ค.66) นางจีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐกล่าวว่า สหรัฐจะดำเนินการอย่างเข้มงวดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ หลังจากถูกผู้สื่อข่าวถามว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐมีแผนจะจัดการกับความก้าวหน้าล่าสุดในเทคโนโลยีการผลิตชิปของจีนอย่างไร

“เมื่อใดก็ตามที่พบเห็นบางสิ่งบางอย่างที่น่าเป็นกังวล เราก็จะตรวจสอบเรื่องนั้นอย่างจริงจัง” นางไรมอนโด กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.) พร้อมเสริมว่าความคืบหน้าทางเทคโนโลยีล่าสุดของจีนนั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับสหรัฐ

ความคิดเห็นของนางไรมอนโดมีขึ้นหลังจากที่หัวเว่ย เทคโนโลยีของจีน ประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึงในการพัฒนาสมาร์ตโฟนที่ใช้โปรเซสเซอร์ขั้นสูง โดยหัวเว่ย ซึ่งถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำ ได้ร่วมมือกับหุ้นส่วนอย่างบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชัน (SMIC) ซึ่งเป็นผู้ชิปชั้นนำของจีน ในการผลิตโปรเซสเซอร์ดังกล่าว โดยสมาร์ตโฟนหัวเว่ย Mate Pro 60 ที่วางจำหน่ายเมื่อเดือนส.ค. นับเป็นความท้าทายต่อสมาร์ตโฟนไอโฟน (iPhone) ของบริษัทแอปเปิ้ล และแสดงให้เห็นว่าความสามารถในการผลิตของหัวเว่ยนั้นมีความก้าวหน้ามากกว่าที่คาดคิดไว้

ทั้งนี้ นางไรมอนโดกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นจากบรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกัน ซึ่งกล่าวว่าชิปที่ SMIC ผลิตให้กับหัวเว่ยนั้น นับเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่มีต่อหัวเว่ยอย่างชัดเจน และสหรัฐควรดำเนินการตอบโต้อย่างเด็ดขาดด้วยการกีดกันทั้งสองบริษัทไม่ให้เข้าถึงซัพพลายเออร์ทั้งหมดในอเมริกาได้โดยสิ้นเชิง

‘จีน’ ออกมาตรการเร่งพัฒนา ‘การค้าในประเทศ-ระหว่างประเทศ’ เพิ่มคุณภาพการค้า-รักษาเสถียรภาพการเงิน-เสริมระบบเศรษฐกิจ

(12 ธ.ค. 66) สำนักข่าวซินหัว, ปักกิ่ง รายงานว่า คณะรัฐมนตรีจีนออกชุดมาตรการเร่งรัดการพัฒนาเชิงบูรณาการของการค้าภายในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างการพัฒนารูปแบบใหม่และการส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง รวมถึงมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ การขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ และการรักษาเสถียรภาพของผู้ประกอบการ

มาตรการเหล่านี้จะยกระดับการปรับปรุงกฎเกณฑ์และระบบการค้า ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งครอบคลุมการกำกับตรวจสอบ การควบรวมมาตรฐานต่างๆ และการอำนวยความสะดวกแก่การหมุนเวียนทรัพยากรการค้า ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศอย่างราบรื่น

นอกจากนั้น มาตรการเหล่านี้จะส่งเสริมการประสานงาน ของช่องทางการตลาดภายในประเทศและระหว่างประเทศ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมสำหรับการพัฒนาเชิงบูรณาการ ของการค้าภายในประเทศและระหว่างประเทศ และเร่งรัดการพัฒนาเชิงบูรณาการในหลายด้านสำคัญ

ทั้งนี้ จีนจะเสริมสร้างการสนับสนุนทางการคลังและการเงิน สำหรับการพัฒนาเชิงบูรณาการของการค้าภายในประเทศและระหว่างประเทศเพิ่มเติม

'เศรษฐีนีมาเลเซีย' กรี๊ด!! แหวนราคา 36 ล้านหายในโรงแรมหรูที่ปารีส เจ้าหน้าที่พลิกโรงแรมหานาน 2 วัน สุดท้ายพบอยู่ในเครื่องดูดฝุ่น

สื่อฝรั่งเศสรายงานเหตุวุ่นวายใน The Ritz โรงแรมสุดหรูในใจกลางนครปารีส ของฝรั่งเศส เมื่อมีนักท่องเที่ยวสาวชาวมาเลเซียออกมาโวยวายว่าแหวนเพชรเม็ดโต ราคาหลัก 1 ล้านเหรียญ (ประมาณ 36 ล้านบาท) ถูกขโมยจากห้องพักในโรงแรมหรูชั้นนำของฝรั่งเศส และกลายเป็นคดีที่มีการพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ของฝรั่งเศสในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 

หญิงสาวชาวมาเลเซียรายนี้ ที่ไม่ประสงค์จะออกนาม เป็นนักธุรกิจหญิงชั้นนำ ที่สามารถเรียกได้ว่ามีฐานะในระดับเศรษฐีนีของมาเลเซียเลยทีเดียว โดยเธอเข้าพักในโรงแรม Ritz ที่ตั้งในย่านหรูของกรุงปารีส จนเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม เธอได้ถอดแหวนเพชรเม็ดโต ราคาถึง 1 ล้านเหรียญวางทิ้งไว้บนโต๊ะข้างหัวนอน ก่อนที่จะออกจากโรงแรมไปชอปปิงเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนจะกลับมาพบว่า แหวนเพชรของเธอได้หายวับไปจากห้องแล้ว 

และในวันนั้น เธอได้แจ้งตำรวจในทันที โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษก็รีบรุดมายังที่เกิดเหตุ เพื่อสอบสวน และประสานงานกับทางโรงแรมว่ามีบุคคลแปลกปลอมเข้ามาขโมยของในโรงแรมหรือไม่?

(อนึ่งปารีส มักมีข่าวนักท่องเที่ยวถูกลักเล็ก ขโมยน้อยอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชียที่ดูมีฐานะ ซึ่งถูกตั้งฉายาว่า 'Crazy Rich Asians' มักเป็นเป้าหมายของกลุ่มมิจฉาชีพอยู่เสมอ)

แต่หลังจากพลิกโรงแรมหาอยู่นานถึง 2 วัน พนักงานโรงแรมก็พบแหวนเพชรหรูของเศรษฐีนีมาเลเซียอยู่ในถุงภายในเครื่องดูดฝุ่น สร้างความโล่งใจทั้งลูกค้า ทั้งทีมตำรวจที่สามารถปิดคดีได้ และได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่โรงแรมที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์และเป็นมืออาชีพ 

นับเป็นความโชคดีของเศรษฐีนีมาเลเซียที่ไม่สูญแหวนเพชรหรูของเธอในทริปที่ปารีส เพราะถึงแม้ทางโรงแรมจะยืนยัน มั่นใจเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยเพียงใดก็ตาม แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเหตุโจรปล้นภายในโรงแรมแห่งนี้ 

เมื่อย้อนกลับไปช่วงเดือนกันยายน ปี 2018 เจ้าหญิงองค์หนึ่งแห่งราชวงศ์ซาอุฯ เคยแจ้งตำรวจว่าเครื่องเพชรมูลค่ามากกว่า 8 แสนยูโร (ประมาณ 30 ล้านบาท) ได้สูญหายไปจากห้องสูท ของโรงแรม The Ritz แห่งนี้เช่นเดียวกัน และไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ซึ่งในปีเดียวกัน ก็เคยเกิดเหตุแก็งโจรบุกปล้นร้านเครื่องเพชรที่อยู่ในโรงแรม โดยใช้ค้อนทุบตู้กระจก กวาดเครื่องเพชร และนาฬิกาแบรนด์เนมไปได้ถึง 4 ล้านยูโร (154 ล้านบาท) ก่อนจะถูกจับตัวได้ในเวลาต่อมา 

ดังนั้น ไม่มีที่ใดที่ปลอดภัย สำหรับทรัพย์สินมีค่าของคุณ แม้ว่าสถานที่นั้นจะเป็นโรงแรม 5 ดาวหรูหราที่สุด ในย่านคนรวยที่สุด แต่ถ้าคุณประมาทก็หนีไม่พ้นมือโจรอยู่ดี 

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

กระแสชอปปิงผ่าน ‘ไลฟ์สด’ ในจีน ส่งสัญญาณสดใส หลังหลายร้านแห่ใช้ ‘AI’ ขายแทนคน สร้างความแปลกใหม่

(11 ธ.ค.66) ตามรายงานของแมคคินซี่ย์ แอนด์ คอมพานี (McKinsey & Company) บริษัทที่ปรึกษารายใหญ่ระดับโลก ระบุว่า ยอดขายสินค้าผ่านไลฟ์สดในจีนพุ่งสูงขึ้น 19% ในช่วงเทศกาลวันคนโสด (Singles Day) เมื่อเดือนพ.ย. ขณะที่ยอดขายสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบดั้งเดิม ปรับตัวลง 1%

นับตั้งแต่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดในจีนเมื่อช่วงต้นปี 2563 กลุ่มผู้ค้าปลีกในจีนได้หันไปว่าจ้างนักไลฟ์สด หรือไม่ก็พัฒนาตนเองเป็นนักไลฟ์สดเพื่อขายสินค้า ขณะที่บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ออนไลน์ เช่น ออสติน หลี่ ได้กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และเป็นเศรษฐีเงินล้านเพียงชั่วข้ามคืน ผ่านการไลฟ์สดขายสินค้า

ดาเนียล ซิปเลอร์ นักวิเคราะห์ของแมคคินซี่ย์กล่าวว่า การไลฟ์สด โดยเฉพาะการไลฟ์สดเพื่อขายสินค้านั้น กำลังเป็นที่นิยมในประเทศจีนมากกว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก และขณะนี้บริษัทค้าปลีกหลายแห่งกำลังหันมาใช้เอไอ แทนคนในการไลฟ์สดขายสินค้า และหลายบริษัทเริ่มใช้อวตาร (Avatar) หรือภาพกราฟิกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้แทนภาพลักษณ์จริงของมนุษย์

เสี่ยวเฟิง หวัง นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอร์เรสเตอร์กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเพื่อไลฟ์สดขายสินค้า ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเทศกาลวันคนโสดในจีนปีนี้ โดยคุณภาพของเอไอ หรืออวตาร ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และดูเหมือนคนจริง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะเอไอที่พัฒนาโดยบริษัทเทนเซ็นต์

นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอร์เรสเตอร์ กล่าวว่า

“เราคาดว่ากลุ่มผู้ค้าปลีกในจีนจะใช้ AI ในการไลฟ์สดขายสินค้าเพิ่มขึ้นอีก เพื่อสร้างความแตกต่างจากการขายสินค้าทั่วไป และเพื่อลดต้นทุนในการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง” 

‘เขตชิบูย่า’ กรุงโตเกียว สั่งห้าม 'เคานต์ดาวน์-ดื่มแอลกอฮอล์' เหตุกังวลคนแห่ฉลองส่งท้ายปีมากเกินไป จนเกิดอันตราย

(11 ธ.ค.66) เขต 'ชิบูย่า' ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงที่มีงานเทศกาลเฉลิมฉลอง ซึ่งจะมีคนมารวมกันที่นี่จนแน่นขนัด แต่ช่วงหลังๆ เจ้าหน้าที่เริ่มมีความกังวลด้านความปลอดภัยจากการที่มีคนมารวมตัวกันจำนวนมากในช่วงงานเทศกาล จึงมีคำสั่งห้ามไม่ให้ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวมารวมตัวฉลองกันที่นี่ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ประกาศ ไม่ให้มีการรวมตัวกันในเขตชิบูย่า เพื่อฉลองการ 'เคานต์ดาวน์' นับถอยหลังเข้าสู่วันปีใหม่ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

ในวันส่งท้ายปีเก่า วันที่ 31 ธ.ค.เขตชิบูย่า ห้ามไม่ให้มีการดื่มเครื่องดื่ม 'แอลกอฮอล์' ในพื้นที่ ตั้งแต่เวลา 18:00 น. ไปจนถึงเวลา 05:00 น. ของวันที่ 1 ม.ค.2567 โดยเจ้าหน้าที่จะขอความร่วมมือจากร้านค้าในเขตชิบูย่า ไม่ให้ขายเครื่องดื่ม 'แอลกอฮอล์' ในช่วงเวลานั้น และจะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการเดินตรวจรักษาความเรียบร้อย

นอกจากนี้ ทางการยังตัดสินใจยกเลิกกิจกรรมเคานต์ดาวน์ ซึ่งปกติแล้วจะจัดที่ด้านหน้าสถานีรถไฟชิบูย่า โดยให้เหตุผลเรื่องความกังวลด้านความปลอดภัย และยอมรับว่า หากมีประชาชนเดินทางมาเฉลิมฉลองจำนวนมาก ทางการมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอที่จะดูแลความปลอดภัยได้ และหากใครคิดจะไปชิบูย่า เพื่อต้องการถ่ายภาพแสงสีสวยๆ ตรงห้าแยกชิบูย่า ในช่วงคืนส่งท้ายปีเก่า ก็อาจจะต้องรีบไปกันหน่อย เพราะทางเจ้าหน้าที่ได้ขอให้ร้านค้าตรงห้าแยกชิบูย่า ปิดไฟทั้งหมดตอน 23:00 น. เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรวมตัวกันในเขตชิบูย่า ในช่วงเคานต์ดาวน์ใกล้วันปีใหม่

'มหาวิทยาลัยในจีน' ออกแบบคอร์สเรียนสำหรับ 'ผู้สูงวัย' สอนใช้ 'เทคโนโลยี-ดนตรี' ให้เท่าทันเทรนด์ยุคใหม่

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.66 มหาวิทยาลัยฮาร์บินจัดคอร์สสอนดนตรีและเทคโนโลยีแก่นักศึกษาผู้สูงอายุ โดยแรกเริ่มคอร์สใหม่นี้ถูกใช้เพื่อสอนร้องเพลงคาราโอเกะสำหรับผู้สูงอายุ ก่อนที่จะเสริมวิชาอื่นๆ ให้ตามทันยุคสมัยปัจจุบัน เช่น การตัดต่อวิดีโอ จนคอร์สนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในวิทยาเขตซงซานของมหาวิทยาลัยฮาร์บิน ในมณฑลเฮยหลงเจียง

ทางมหาวิทยาลัยได้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อตามทันเทรนด์โลกอยู่เสมอ โดยเพิ่มวิชาใหม่อีกมากมาย อาทิ เช่น วิชาสำหรับสอนการตัดต่อวิดีโอ การออกกำลังกาย จิตวิทยาสำหรับผู้สูงวัย การเต้นแนวสตรีตแดนซ์ และการใช้โดรน เป็นต้น

คุณฉีซิน ผู้อำนวยการวิทยาเขตซงซาน กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของคอร์สเรียนนี้ว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรามักจะเห็นผู้สูงอายุจำนวนมากไปร้องคาราโอเกะ (KTV) เพื่อร้องเพลงร่วมกับสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนๆ จึงเกิดความคิดเริ่มผลิตหลักสูตรนี้

สำหรับคอร์สเรียนนี้เปิดสอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา และเปิดสอนคอร์สที่สองในวันที่ 4 พ.ย. โดยแต่ละคอร์สมีนักเรียน 42 คน อายุระหว่าง 48-73 ปี ขณะที่ค่าเรียนหนึ่งคอร์สอยู่ที่ 90 หยวน (ราว 444 บาท) สำหรับการเรียนรวม 16 ครั้ง

หวังจินเฟิง หญิงวัย 69 ปี หนึ่งในผู้สมัครเรียน กล่าวว่า แม้เธอจะอายุมากแต่ก็ต้องตามเทรนด์ยุคใหม่เสมอ อย่างเช่นการเรียนรู้วิธีใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆ ซึ่งหลังจากลงเรียนคอร์สนี้ ตอนนี้เธอใช้แอปตัดต่อวิดีโอพื้นฐานในโทรศัพท์เป็นแล้ว 

แถมในภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า มีผู้สนใจลงทะเบียนเรียนคอร์สนี้มากถึง 39,000 รายในวิทยาเขตทั้ง 8 แห่งของมหาวิทยาลัยฮาร์บิน โดยนักศึกษามีอายุตั้งแต่ 45 ไปจนถึง 90 ปี และคอร์สใหม่ในภาคเรียนปีหน้า จะเปิดสอน 118 หลักสูตร ครอบคลุมอีกหลายสาขา ทั้งศิลปะการใช้ชีวิต การเขียนอักษรวิจิตร วรรณกรรม และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นต้น

‘เจ้าหน้าที่จีน’ ยกระดับการอนุรักษ์ ‘กำแพงเมืองจีน’ งัดเทคโนโลยีช่วยคุ้มครอง-ตรวจจับความเสียหายที่เกิดขึ้น

เมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์ติดตามมรดกทางวัฒนธรรมจากสถาบันวิจัยวัฒนธรรมเส้นทางสายไหมเจียอวี้กวน (กำแพงเมืองจีน) พากันลาดตระเวนบริเวณจุดชมวิวกำแพงเมืองจีน ด่านเจียอวี้กวน ในเมืองเจียอวี้กวน มณฑลกานซู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เพื่อใช้เครื่องมือตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลจากกำแพงเมืองจีน

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สถาบันคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมหลายแห่งได้เพิ่มการลงทุนด้านการคุ้มครองทางเทคโนโลยีของกำแพงเมืองจีน โดยใช้อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ตัวชี้วัด และตรวจจับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น วิธีการเหล่านี้ช่วยรับประกันการดำเนินมาตรการอนุรักษ์และฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพอย่างทันท่วงที รวมถึงรับรองว่ากำแพงเมืองจีนถูกอนุรักษ์ให้คงอยู่ในสภาพที่ดี

‘จีน’ ปล่อย ‘ลองมาร์ช-2ดี’ ส่งดาวเทียมสำรวจสู่อวกาศสำเร็จ นับเป็นการบินครั้งที่ 500 ของจรวดขนส่งในตระกูลลองมาร์

(10 ธ.ค. 66) สำนักข่าวซินหัว, ซีชาง รายงานว่า จีนปล่อยจรวดขนส่ง ‘ลองมาร์ช-2ดี’ (Long March2D) ซึ่งขนส่งดาวเทียมสำรวจระยะไกลดวงหนึ่งขึ้นสู่อวกาศ

‘จรวดลองมาร์ช-2ดี’ ทะยานออกจากศูนย์ปล่อยดาวเทียมซีชาง ในมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ ตอน 09.58 น. (ตามเวลาปักกิ่ง) และส่งดาวเทียม ‘เหยาก่าน-39’ (Yaogan-39) เข้าสู่วงโคจรที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ การขนส่งดาวเทียมดังกล่าวนับเป็นภารกิจการบินครั้งที่ 500 ของจรวดขนส่งตระกูลลองมาร์ช

‘จีน’ ประกาศลดค่า ‘วีซ่า’ 25% ให้หลายชาติ รวม ‘ไทย’ ด้วย เริ่ม 11 ธ.ค.66-31 ธ.ค.67 หวังกระตุ้นนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ

เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.66) กระทรวงต่างประเทศจีนและสถานทูตจีนในหลายประเทศรายงานว่า จีนจะลดค่าการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง (วีซ่า) ลง 25% ให้แก่นักเดินทางจากไทย ญี่ปุ่น เม็กซิโก เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2566 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 ปัจจุบันนโยบายนี้ครอบคลุมผู้เดินทางหลายร้อยล้านคนจากกว่า 10 ประเทศ

สำหรับมาตรการใหม่นี้เป็นมาตรการล่าสุดของจีนที่ต้องการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจชาวต่างชาติเดินทางเข้าจีน ในช่วงที่เศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวไม่เต็มที่

เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา จีนได้ประกาศนโยบายยกเว้นวีซ่าให้ผู้ถือหนังสือเดินทางฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน และมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2566 ถึงวันที่ 30 พ.ย. 2567 โดยสามารถพำนักอยู่ในจีนได้สูงสุด 15 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับทำธุรกิจ ท่องเที่ยว เยี่ยมครอบครัว และแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน

‘จีน’ ออกแผนปฏิบัติการมุ่งปรับปรุง ‘คุณภาพอากาศ’ หวังลด PM 2.5 ให้ได้ร้อยละ 10 ภายในปี 2025

เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะรัฐมนตรีจีนเผยแพร่แผนปฏิบัติการเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศ ท่ามกลางความพยายามส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจคุณภาพสูงของประเทศ

แผนปฏิบัติการดังกล่าวประกอบด้วยชุดมาตรการที่มุ่งบรรลุเป้าหมายท้องฟ้าที่มีสีฟ้ามากขึ้น ภายในปี 2025 อาทิ การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมสีเขียว การสร้างพลังงานผสมที่สะอาดมากขึ้น และการพัฒนาระบบการขนส่งคาร์บอนต่ำ

เป้าหมายของแผนนี้คือเพื่อลดความเข้มข้นของฝุ่นพิษขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 (PM2.5) ในเมืองระดับแคว้นขึ้นไป ลงร้อยละ 10 ภายในปี 2025 เมื่อเทียบกับระดับปี 2020 เพื่อควบคุมสัดส่วนวันที่มีมลพิษทางอากาศย่ำแย่แต่ละปีให้อยู่ที่ร้อยละ 1 หรือต่ำกว่า และเพื่อลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายกว่าร้อยละ 10

ภูมิภาคปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ยและพื้นที่โดยรอบ รวมถึงภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี และที่ราบเฝินเว่ย ถูกระบุเป็นพื้นที่สำคัญในแผนปฏิบัติการข้างต้น

นอกจากนี้ จีนจะสั่งห้ามกำลังการผลิตเหล็กใหม่ เร่งการยกเลิกกำลังการผลิตที่ล้าสมัยในอุตสาหกรรมหลัก และส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

จีนจะดำเนินการเพื่อพัฒนาพลังงานใหม่และพลังงานสะอาดเพิ่มเติม เพื่อรับประกันว่าพลังงานที่ไม่ใช่ฟอสซิลจะครองสัดส่วนร้อยละ 20 ของการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศ ภายในปี 2025 โดยการผลิตและการจัดหาก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ส่วนยานยนต์พลังงานใหม่จะครองสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของรถบัส รถแท็กซี่ และยานพาหนะขนส่งสาธารณะอื่นๆ ในเมืองรุ่นใหม่หรือที่ได้รับการปรับปรุงในพื้นที่สำคัญ

ทั้งนี้ จีนจะพยายามเสริมสร้างการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมาย การปรับปรุงกฎหมาย การปรับปรุงนโยบายสิ่งแวดล้อมและนโยบายเศรษฐกิจ ขยายความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการสภาพแวดล้อมในชั้นบรรยากาศ ตลอดจนการป้องกันและควบคุมการแปรสภาพเป็นทะเลทราย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top