Tuesday, 1 July 2025
WORLD

‘เกาหลีเหนือ’ แจ้ง ‘ญี่ปุ่น’ เตรียมปล่อย ‘ดาวเทียมสอดแนม’ ครั้งที่ 3 เมินคำเตือน ‘เกาหลีใต้-สหประชาชาติ’ ปะทุความตึงเครียดในภูมิภาค

(21 พ.ย. 66) สำนักข่าวรอยเตอร์ และ สำนักข่าวสเตรตส์ไทมส์ รายงานว่า หน่วยยามชายฝั่งของญี่ปุ่นแถลงว่า ได้รับแจ้งจากทางการเกาหลีเหนือ ว่ามีกำหนดจะปล่อย ดาวเทียมสอดแนม ในช่วงวันที่ 22 พ.ย. ถึงวันที่ 1 ธ.ค. ทั้งยังระบุด้วยว่า จะมีเส้นทางมุ่งหน้าไปยังทะเลเหลืองและทะเลตะวันออก

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลเกาหลีใต้แถลงเตือนว่า จะใช้มาตรการตอบโต้ หากเกาหลีเหนือเดินหน้าปล่อยดาวเทียมสอดแนมครั้งใหม่ ซึ่งเป็นครั้งที่ 3

ภายหลังความพยายาม 2 ครั้งแรกเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาล้มเหลว จากนั้นประกาศอีกว่าจะปล่อยดาวเทียมสอดแนมเป็นครั้งที่ 3 ในเดือนต.ค. แต่สุดท้ายก็เลื่อนออกไปกระทั่งแจ้งกำหนดล่าสุด

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 20 พ.ย. ประณามถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐอเมริกาจะขายขีปนาวุธหลายร้อยลูกให้กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ทั้งยังตำหนิว่า ‘เป็นการกระทำที่อันตราย’ ที่ทำให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาค และนำมาซึ่งการแข่งขันทางอาวุธครั้งใหม่

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ยังระบุจากกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือด้วยว่า จะเพิ่มมาตรการสร้างการป้องปราม และตอบสนองต่อความไม่มั่นคงในภูมิภาคที่มีต้นตอมาจากสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร

‘ไทย’ หนุนเส้นทางท่องเที่ยว-โชว์มนต์เสน่ห์ ‘ภาคอีสาน’ ชูวัฒนธรรม-ยกระดับผลิตภัณฑ์-งานหัตถศิลป์สู่ตลาดจีน

(20 พ.ย. 66) สำนักข่าวซินหัว, คุนหมิง รายงานว่า คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้นำคณะผู้แทนบริษัทผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยมากกว่า 20 แห่ง เข้าร่วมงาน ‘ไชน่า อินเตอร์เนชันแนล ทราเวล มาร์ต’ (China International Travel Mart) ปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่นครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมื่อวันที่ 17-19 พ.ย. ที่ผ่านมา

คุณฐาปนีย์ กล่าวว่า การเข้าร่วมงานครั้งนี้ มุ่งนำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่สู่ตลาดจีน ภายใต้แนวคิด ‘ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ยิ่งเที่ยวยิ่งสนุก’ โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถโดยสารรถไฟจีน-ลาว มาท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานของไทย ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวฯ ยังจัดการแสดงรำไทย การนวดแผนโบราณ และการทำงานหัตถศิลป์ ที่พาวิลเลียนไทย เพื่อนำเสนอขนบธรรมเนียมและมนต์เสน่ห์วัฒนธรรมภาคอีสานด้วย

คุณสุดาวรรณ เผยว่า ไทยให้ความสำคัญกับความร่วมมือกับจีน ในด้านการลงทุนทางเศรษฐกิจ การศึกษา และการท่องเที่ยว ขณะที่งานนี้ถือเป็นนิทรรศการจัดแสดงขนาดใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจีน รวมถึงเป็นเวทีสำหรับบริษัทผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย ได้ติดต่อสื่อสารกับบรรดาผู้มีบทบาทในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจีน ส่งเสริมผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวของไทยแก่นักท่องเที่ยวชาวจีน และขยายส่วนแบ่งในตลาดจีน

ทั้งนี้ คุณสุดาวรรณ เสริมว่า ไทยดำเนินมาตรการฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวจีน ระยะ 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. เป็นต้นมา พร้อมกับพยายามยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการทางการท่องเที่ยว ดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างแข็งขัน เพื่อรับประกันความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวจีนในไทย ช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวอันยอดเยี่ยม สร้างความประทับใจที่ดีแก่นักท่องเที่ยวชาวจีน

การท่องเที่ยวฯ ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเยือนไทยในปีนี้รวมอยู่ที่ 2.86 ล้านคน เมื่อนับถึงวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวคนหนุ่มสาวที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตนเอง โดยการท่องเที่ยวฯ จะเดินหน้าสร้างสรรค์ภาพลักษณ์เชิงบวกของการท่องเที่ยวไทย เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนได้ดียิ่งขึ้น

รักษาการซีอีโอ ‘ChatGPT’ จ่อพา ‘อัลท์แมน’ กลับมาอีกครั้ง หลังเผชิญความกดดันหลายฝ่าย เหตุไม่ปลื้ม!! ที่มีมติปลดออก

(20 พ.ย. 66) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า นางสาวมิร่า มูราติ (Mira Murati) ซีอีโอชั่วคราวของ OpenAI ผู้พัฒนาแชตบอตพลิกโลกเทคโนโลยีอย่าง ‘ChatGPT’ วางแผนที่จะพา ‘นายแซม อัลท์แมน’ (Sam Altman) ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอกลับมาดำรงตำแหน่งในบริษัทอีกครั้ง

หลังจากคณะกรรมการของ OpenAI มีมติปลดนายอัลต์แมนในเช้าวันที่ 18 พ.ย.66 ตามเวลาไทย ก็มีเสียงคัดค้านตามมาจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะผู้บริหารและนักลงทุนของ OpenAI ที่พยายามหาทางคืนสถานะซีอีโอให้กับนายอัลต์แมน

และการที่นายอัลต์แมนต้องลงจากตำแหน่งซีอีโอของ OpenAI ก็ทำให้เกิดเหตุการณ์ตามมามากมาย เช่น นายเกร็ก บร็อกแมน (Greg  Brockman) ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในบริษัท รวมถึงพนักงานระดับสูงอีกหลายคนก็ตัดสินใจลาออกตาม

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คณะกรรมการของ OpenAI กำลังหารือในประเด็นที่จะให้นายอัลต์แมนกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง แต่มีเงื่อนไขคือต้องเปลี่ยนแปลงแนวทางการบริหารจัดการ และถอดถอนคณะกรรมการชุดเดิมทั้งหมด โดยผู้บริหารและนักลงทุนของ OpenAI ได้ขีดเส้นตายให้คณะกรรมการรับข้อเสนอภายใน 17.00 น. ของวันที่ 19 พ.ย.66 ตามเวลาท้องถิ่นในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา

รายงานข่าวระบุว่า นางสาวมูราติได้ตัดสินใจท่ามกลางความกดดันจากผู้บริหารและนักลงทุนของ OpenAI ที่ไม่พอใจกับมติการปลดนายอัลต์แมน รวมถึงคณะกรรมการที่เหลือยังคงพยายามทาบทามและสรรหาบุคคลที่จะขึ้นมาเป็นซีอีโอคนใหม่อยู่

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ปมปัญหาสำคัญที่ทำให้นายอัลต์แมนต้องลงจากตำแหน่งมาจากการที่นายอัลต์แมนพยายามผลักดันให้ OpenAI เติบโตในเชิงพาณิชย์และเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งขัดกับวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งบริษัทที่จะเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรและพัฒนา AI เพื่อประโยชน์ของมวลมนุษยชาติ

ความแตกต่างของเป้าหมายในการบริหารงานน่าจะทำให้คณะกรรมการเกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน AI ที่อาจจะกระทบกับความเป็นอยู่ของมนุษย์ และนำไปสู่การตัดสินใจในมติดังกล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดปัจจุบันของ OpenAI ประกอบไปด้วยนายอิลยา สุตสกีเวอร์ (Ilya Sutskever) หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ OpenAI, นายอดัม ดีแอนเจโล (Adam D’Angelo) ซีอีโอ Quora, นางทาช่า แมคคอลีย์ (Tasha McCauley) ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี และนางสาวเฮเลน โทเนอร์ (Helen Toner) จาก Georgetown Center for Security and Emerging Technology

‘ชายวัย 69 ปี’ กระโดดลงน้ำแบบไม่คิดชีวิต!! หลังพบคนขับรถจมน้ำ สุดท้ายปลอดภัยทั้งคู่

เมื่อวานนี้ (19 พ.ย. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ชายชาวจีน วัย 69 ปี ได้กระโดดลงแม่น้ำสายท้องถิ่นมณฑลเหลียวหนิงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เพื่อช่วยชีวิตคนขับรถยนต์ที่กำลังจะจมน้ำ โดยทั้งสองได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนที่สัญจรผ่านมาและกลับเข้าสู่ฝั่งอย่างปลอดภัย

‘ญี่ปุ่น’ เตือน!! นทท.ในโตเกียว ระวัง ‘แท็กซี่ไร้ใบอนุญาต’ เหตุเสี่ยงไม่ปลอดภัย หลังความต้องการใช้บริการขนส่งสูงขึ้น

รัฐบาลญี่ปุ่นออกโรงเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังการใช้บริการรถแท็กซี่ที่ไม่มีใบอนุญาต หลังความต้องการใช้บริการขนส่งเพิ่มสูงขึ้นในกรุงโตเกียว เนื่องจากยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่งทะยานขึ้น

(20 พ.ย. 66) หนังสือพิมพ์ไมนิจิ ชิมบุนรายงานในวันเสาร์ที่ 18 พ.ย. ว่า เจ้าหน้าที่จากกระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นได้เผยแพร่ใบปลิวคำเตือนเรื่องการใช้บริการรถแท็กซี่ที่ไม่มีใบอนุญาตเป็นภาษาอังกฤษและจีนที่สนามบินนาริตะในกรุงโตเกียวเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพ.ย.

ใบปลิวดังกล่าวระบุว่า รถแท็กซี่ที่ไม่มีใบอนุญาตนั้นทั้งผิดกฎหมายและไม่ปลอดภัย พร้อมกล่าวเสริมว่า ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุขณะโดยสารรถแท็กซี่เหล่านี้อาจไม่ได้รับการคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย

ขณะเดียวกัน ใบปลิวดังกล่าวได้ระบุถึงความแตกต่างระหว่างรถแท็กซี่ที่มีใบอนุญาตและไม่มีใบอนุญาต โดยแท็กซี่ที่มีใบอนุญาตจะมีป้ายทะเบียนสีเขียว ส่วนแท็กซี่ที่ไม่มีใบอนุญาตจะมีป้ายทะเบียนสีขาว

นายมิตสึเตรุ ยานาเสะ หัวหน้าสำนักงานของกระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นประจำจังหวัดชิบะระบุว่า “เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยด้านการเดินทาง เราจึงต้องการให้นักเดินทางใช้รถแท็กซี่ที่มีใบอนุญาตและยานพาหนะที่ได้รับการจัดการมาเป็นอย่างดี”

แม้บริษัทให้บริการเรียกรถรับส่งผ่านทางแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ เช่น อูเบอร์และแกร็บ ได้รับความนิยมอย่างสูงในหลายประเทศ แต่ญี่ปุ่นยังคงไม่อนุญาตให้รถที่ไม่มีใบอนุญาตรับส่งผู้โดยสาร โดยปัจจุบันอูเบอร์เปิดให้บริการในญี่ปุ่น แต่ใช้ในการเรียกรถแท็กซี่ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น

‘จีน’ จ่อขึ้นแท่น ‘ผู้ส่งออกรถยนต์’ รายใหญ่สุดของโลกปีนี้ หลัง 10 เดือนแรกยอดแตะ 3.9 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.7

เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีน รายงานว่าจีนจะกลายเป็นผู้ส่งออกยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกภายในปีนี้อย่างแน่นอน ขณะปริมาณการส่งออกยานยนต์ของจีน ช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคมของปีนี้ สูงแตะ 3.9 ล้านคัน

หวังเซี่ย หัวหน้าสภาย่อยด้านยานยนต์ของสภาส่งเสริมฯ กล่าวคำข้างต้นที่งานจัดแสดงยานยนต์นานาชาติแห่งกว่างโจว ครั้งที่ 21 โดยหวังเผยว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนได้ก้าวสู่ความเป็นสากลอย่างแข็งแกร่ง แม้สภาพแวดล้อมระหว่างประเทศมีความซับซ้อน

อนึ่ง ปริมาณการส่งออกยานยนต์ของจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ของปีนี้ รวมอยู่ที่ 1.07 ล้านคัน ซึ่งแซงหน้าญี่ปุ่นจนกลายเป็นผู้ส่งออกยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกครั้งแรก ส่วนปริมาณการส่งออกในช่วงสิบเดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.7 เมื่อเทียบปีต่อปี รวมอยู่ที่ 3.92 ล้านคัน

ราคาส่งออกยานยนต์ต่อคันในช่วงสามไตรมาสแรก (มกราคม-กันยายน) ของปีนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 137,000 หยวน (ราว 685,000 บาท) จาก 85,000 หยวน (ราว 425,000 บาท) ในปี 2014

หวัง กล่าวว่า มูลค่าการส่งออกของห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์จีนในปี 2001 อยู่ที่เพียง 1.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.52 หมื่นล้านบาท) ครองส่วนแบ่งโลกเพียงร้อยละ 0.65 แต่มูลค่าดังกล่าวในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคมของปีนี้สูงเกือบ 1.22 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.31 ล้านล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 5.5 ของทั้งหมดทั่วโลก

หวัง เสริมว่า ตลาดยานยนต์ของจีนจะมีการเติบโตใหม่ๆ ตามการดำเนินชุดนโยบายเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการบริโภค รวมถึงการทยอยฟื้นตัวของความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

‘เชย์นิส’ นางงามประเทศนิการากัว คว้ามงกุฎ ‘Miss Universe 2023’ 

(19 พ.ย.2566) จบลงอย่างสวยงามกับการประกวด Miss Universe ครั้งที่ 72 ที่จัดขึ้น ณ The Adolifo Pineda Gymnasium ประเทศเอลซัลวาดอร์ 

ซึ่งสาวงามจากประเทศนิการากัว ‘Sheynnis Palacios’ คว้ามงกุฎมาครองได้สำเร็จ ท่ามกลางบรรยากาศการแสดงความยินดีของเพื่อนๆ สาวงามและแฟนๆ นางงามในงาน

รองอันดับ 1 ได้แก่ Anntonia Porsild จาก ประเทศไทย
รองอันดับ 2 ได้แก่ Moraya Wilson จาก ออสเตรเลีย

สำหรับการจัดการประกวดในครั้งนี้เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่อลังการทั้งรูปแบบการจัดงานและโปรดักชั่น แสง สี เสียง นอกจากนี้ยังมีโชว์สุดอลังการจากนักร้องระดับโลก ‘จอห์น เลเจนด์’ เจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ดและเจ้าของเพลงฮิต All of me ที่ได้กลับมาโชว์อีกครั้งในรอบ 13 ปี

ทางด้านบรรยากาศการเชียร์นางงามในปีนี้ได้รับความสนใจจากแฟนๆ นางงามทั่วทุกมุมโลกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแฟนๆ นางงามไทยที่คอยเกาะติดการประกวดอย่างใกล้ชิด

สาวโชว์คลิป ‘รถไฟไหม้’ แต่แก้ว ‘Stanley’ กลับรอด ฮือฮาจนเป็นไวรัล ซีอีโอถึงขั้นจะซื้อคันใหม่ให้ใช้!!

เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.66) เป็นที่สนใจของคนทั่วโลก เมื่อแบรนด์แก้วอย่าง Stanley กลายเป็นไวรัล เมื่อลูกค้ารายหนึ่ง ได้แชร์คลิปวิดีโอว่าแก้วของเธอไม่เป็นอะไรเลยจากเหตุไฟไหม้รถยนต์ และยังได้รับข้อเสนอให้เปลี่ยนรถใหม่อีกด้วย

แดเนียล ซึ่งใช้ติ๊กต็อกชื่อว่า danimarielettering ได้อัปคลิปวิดีโอที่น่าตกใจลงในติ๊กต็อก มีคนเข้าไปกดชมกว่า 51 ล้านครั้ง เผยให้เห็นความเสียหายของรถยนต์ของเธอ ซึ่งสภาพของรถนั้นยับเยิน แต่ว่าแก้วที่วางอยู่ในรถนั้น ไม่เสียหายและยังคงอยู่ในสภาพเดิม เมื่อเธอเขย่าดูก็ได้ยินเสียงกระทบของน้ำแข็ง ที่ดูเหมือนว่าจะรอดจากไฟเช่นกัน

แดเนียลบอกด้วยว่า “ทุกคนกังวลว่า แก้วสแตนลีย์หก แต่มีอะไรอีกละ เมื่อวานไฟไหม้และยังมีน้ำแข็งอยู่ในนั้น”

เทเรซ เรลลี่ย์ ประธานระดับโลกของ Stanley ได่โพสต์คลิปวิดีโอต่อจากคลิปดังกล่าวว่า “เราทุกคนได้เห็นวิดีโอของคุณแล้ว ว้าว มันช่างเป็นการทดสอบอย่างทารุณ เราทุกคนดีใจที่คุณปลอดภัย”

และว่า ฉันเห็นความคิดเห็นมากมายที่ควรส่ง Stanley ไปให้กับคุณ แต่มีอีกอย่างหนึ่ง และเราไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน และเราอาจจะไม่ทำอีก แต่เราอยากจะเปลี่ยนรถของคุณ ใช่แล้ว พวกเราทุกคนที่ Stanley อยากจะเปลี่ยนรถของคุณจริงๆ

ซึ่งคลิปวิดีโอดังกล่าว มีคนเข้าไปชมหลายล้านครั้ง

ทั้งนี้สำหรับแก้ว Stanley ได้รับความนิยมไม่น้อย โดยมีราคาขายผ่าน Element 72 ราคาเริ่มต้น 1,090 บาท สำหรับแก้ว 14 ออนซ์ และราคา 2,450 บาท สำหรับแก้ว 40 ออนซ์

‘อัลท์แมน’ ผู้ก่อตั้ง ChatGPT โดนปลดพ้นเก้าอี้ซีอีโอ เหตุ ‘ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นในฐานะผู้นำองค์กร’

แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI บริษัทผู้พัฒนา ChatGPT ถูกคณะกรรมการปลดออกจากตำแหน่งแบบฟ้าผ่า หลังจากบอร์ดแจ้งเหตุผลไม่ได้สื่อสารอย่างตรงไปตรงมาเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในความรับผิดชอบงาน

เมื่อวานนี้ (17 พ.ย. 66) บริษัท OpenAI ออกแถลงการณ์ระบุว่า คณะกรรมการบริหารของ บริษัท OpenAI ได้ประกาศในวันนี้ว่า แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอบริษัท OpenAI และลาออกจากคณะกรรมการบริหาร โดยคณะกรรมการได้แต่งตั้งให้ มิรา มูราติ (Mira Murati) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัท ดำรงตำแหน่งซีอีโอชั่วคราว โดยมีผลทันที

แถลงการณ์ ระบุอีกว่า การพิจารณาอัลท์แมนออกจากตำแหน่ง เป็นไปตามกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการ ซึ่งสรุปได้ว่า "เขาไม่ได้สื่อสารอย่างตรงไปตรงมากับคณะกรรมการอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในความรับผิดชอบต่องาน"

ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการ จึงไม่มีความมั่นใจในความสามารถในการเป็นผู้นำของ OpenAI อีกต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อแถลงการณ์บริษัทเผยแพร่ออกไปได้สร้างความสั่นสะเทือนวงการ AI อย่างมาก รวมถึงสร้างความประหลาดใจให้คนภายในบริษัท เพราะก่อนหน้าในช่วงเช้าวันเดียวกันอัลท์แมนยังคงส่งอีเมลถึงพนักงาน

สำหรับประวัติ แซม อัลท์แมน เกิด 22 เมษายน ค.ศ. 1985 ที่รัฐ Missouri สหรัฐอเมริกา เขาสนใจคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีตั้งแต่ยังเด็ก โดยในปี 2003 เข้าสมัครเรียนปริญญาตรีด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ Stanford มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐ แต่เรียนได้ปีเดียวก็ลาออกเพื่อมาทุ่มให้กับแอปพลิเคชัน Loopt ที่ร่วมกับเพื่อนผ่านบริษัท Y Combinator

ปี 2012 แซม อัลท์แมน ทำเงินได้ถึง 43.4 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท จากการขาย Loopt ให้บริษัทการเงิน Green Dot

ปี 2014 แซม อัลท์แมน เลื่อนจากหุ้นส่วนขึ้นเป็นประธาน Y Combinator และยังเคยรักษาการ CEO ให้ Reddit ช่วงสั้น ๆ ทำให้รู้จักคนดังในแวดวงเทคโนโลยีจำนวนมากรวมทั้ง Elon musk นำไปสู่การก่อตั้ง OpenAI ศูนย์วิจัยด้าน AI ขึ้นในปี 2015

โดย Microsoft ให้ความสนใจและให้เงินสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและสามารถเปิดตัวแชตบอต ChatGPT ซึ่งสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก

‘ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์’ เตรียมเปิดดินแดนแห่งใหม่ 20 พ.ย.นี้ หลังได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ชื่อดัง ‘Frozen’

เมื่อวานนี้ (17 พ.ย.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ต เตรียมเปิดตัวดินแดนแห่งใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์แอนิเมชันยอดนิยมเรื่อง ‘โฟรเซ่น’ (Frozen) และ ‘โฟรเซ่น 2’ (Frozen 2) ให้สาธารณชนเข้าชมวันที่ 20 พ.ย.นี้

โดยเมื่อวันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) โรเบิร์ต ไอเกอร์ ซีอีโอดิสนีย์ กล่าวในพิธีเปิดว่าอิทธิพลระดับโลกของ ‘โฟรเซ่น’ ถือเป็นหลักฐานความเชี่ยวชาญในการเล่าเรื่องของวอลต์ ดิสนีย์ คอมปานี (Walt Disney Company) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญพื้นฐานของบริษัทฯ

ดินแดน ‘เวิลด์ ออฟ โฟรเซ่น’ (World of Frozen) ดึงหลายฉากสำคัญในภาพยนตร์โฟรเซ่นให้มีชีวิตชีวาขึ้นมา ซึ่งรวมถึง ‘ปราสาทน้ำแข็ง’ และปราสาทเอเรนเดลล์ (Arendelle Castle) ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อพระวงศ์ในภาพยนตร์

ดินแดนแห่งใหม่นี้ผสมผสานภูมิทัศน์ทางธรรมชาติของเกาะลันเตาในฮ่องกงเข้ากับการออกแบบของ ‘ภูเขาทางตอนเหนือ’ ได้อย่างลงตัว เปิดโอกาสให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้เพลิดเพลินทิวทัศน์มุมกว้างของสถานที่ทั้งสองแห่ง

ผู้ที่มาเยี่ยมชมยังสามารถเล่นเครื่องเล่นในธีมโฟรเซ่น และดื่มด่ำไปกับบทเพลงชื่อดังจากภาพยนตร์ ซึ่งดินแดนแห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของส่วนต่อขยายล่าสุดของสวนสนุกฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ต ทำให้ขณะนี้มีดินแดนรวมทั้งหมด 8 ธีมแล้ว

ปีเตอร์ เกา ผู้อำนวยการพัฒนาธุรกิจ ประจำฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ต เผยความคาดหวังว่าดินแดนแห่งใหม่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาสู่ฮ่องกง และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของฮ่องกง

‘ม.ปักกิ่ง’ ครองแชมป์ ‘มหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชีย’ ปี 2023 จากการจัดอันดับของ QS World University Rankings

(18 พ.ย.66) จากเพจเฟซบุ๊ก Jeenthainews - จีนไทยนิวส์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

ม.ปักกิ่ง ครองแชมป์ ‘มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย’ ปี 2023 โดย QS World University Rankings

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีมหาวิทยาลัยหลายแห่งในจีนที่ได้รับการยอมรับให้เป็นสถาบันการศึกษาระดับโลก ตอกย้ำว่ามหาอำนาจทางเศรษฐกิจรายนี้ให้ความสำคัญอย่างสูงต่อภาคการศึกษาของประเทศ

ในปี 2023 นี้ สถาบันการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก QS World University Rankings ได้จัดอันดับ 10 มหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชีย ที่เรียกได้ว่ามีคุณภาพระดับนานาชาติ โดยในจำนวนนี้เป็นสถาบันอุดมศึกษาจากแผ่นดินใหญ่ไปแล้วถึง 5 แห่งด้วยกัน เชื่อว่าหลายๆ ชื่อก็น่าจะคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดีเพราะรั้งอันดับต้นๆ ของเอเชียมาหลายปี

อันดับที่ 1 มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (Peking University) ของจีน

อันดับที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore หรือ NUS) ของสิงคโปร์

อันดับที่ 3 มหาวิทยาลัยชิงหวา (Tsinghua University) ของจีน

อันดับที่ 4 มหาวิทยาลัยฮ่องกง (The University of Hong Kong) ของจีน (ฮ่องกง)

อันดับที่ 5 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (Nanyang Technological University, Singapore หรือ NTU Singapore) ของสิงคโปร์

อันดับที่ 6 มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น (Fudan University) ของจีน

อันดับที่ 7 (คะแนนรวมเท่ากัน) มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง (Zhejiang University) ของจีน

อันดับที่ 8 สถาบันชั้นสูงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลี (Korea Advanced Institute of Science & Technology หรือ KAIST) ของเกาหลี

อันดับที่ 9 มหาวิทยาลัยมาลายา (Universiti Malaya หรือ UM) ของมาเลเซีย

อันดับที่ 10 มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เจียวทง (Shanghai Jiao Tong University) ของจีน

‘จีน’ มุ่งส่งเสริม ‘อุตสาหกรรมการประหยัดน้ำ’ พร้อมวิจัย-พัฒนาอุปกรณ์ประหยัดน้ำในครัวเรือน

(17 พ.ย. 66) หลี่กั๋วอิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวของจีนว่า จีนได้ปรับปรุงอุตสาหกรรมประหยัดน้ำของประเทศให้ดีขึ้น และได้จัดตั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนา การผลิตอุปกรณ์ การก่อสร้างโครงการ และการบริหารจัดการบริการ

หลี่กล่าวว่าอุตสาหกรรมการประหยัดน้ำเริ่มเป็นรูปร่างและครอบคลุมสาขาต่าง ๆ เช่น การชลประทานแบบประหยัดน้ำเพื่อการเกษตร การบำบัดน้ำเสียทางอุตสาหกรรม อุปกรณ์ประหยัดน้ำในครัวเรือน การควบคุมการรั่วไหลของท่อส่งน้ำ การรีไซเคิลสิ่งปฏิกูล การแยกเกลือออกจากน้ำทะเล และเทคโนโลยีประหยัดน้ำอัจฉริยะ

หลี่ระบุว่าประสิทธิภาพการใช้น้ำของจีนถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยมีการใช้น้ำต่อ 10,000 หยวน (ราว 49,000 บาท) ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และการใช้น้ำต่อผลผลิตภาคอุตสาหกรรม 10,000 หยวน (ราว 49,000 บาท) ในปี 2022 ลดลงร้อยละ 46.5 และร้อยละ 60.4 จากปี 2012 ตามลำดับ

ทั้งนี้ จีนได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่นวัตกรรมในภาคส่วนดังกล่าว ผ่านการเพิ่มการสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และอุปกรณ์ประหยัดน้ำ

เปิดความจริง!! กองกำลังอิสราเอลในฉนวนกาซา ส่วนหนึ่งเป็นทหารรับจ้าง ‘มิใช่’ แรงงานไทยผันตัว

ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ปรากฏมีภาพที่ระบุว่า เป็นชายไทยในชุดเครื่องแบบทหารสังกัด IDF (Israel Defense Forces) หรือกองกำลังป้องกันอิสราเอล โดยมีข่าวประกอบว่าเป็นแรงงานไทยซึ่งสมัครเป็นทหารรับจ้าง (Mercenaries) ให้กับอิสราเอล

ต่อมาในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 กระทรวงต่างประเทศของไทยได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข่าวเรื่องแรงงานไทยสมัครเป็นทหารรับจ้างให้กับอิสราเอลดังนี้ 

“กรณีที่มีกระแสข่าวในโลกโซเชียลว่ามีแรงงานไทยไปเป็นทหารให้แก่ฝ่ายอิสราเอลในช่วงสถานการณ์อิสราเอล-กาซา นั้น ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่า มีคนไทยที่เป็นลูกครึ่งไทย-อิสราเอลไปเป็นทหารกองหนุนให้อิสราเอลจริง แต่ไม่ใช่พี่น้องแรงงานไทยแต่อย่างใด

ทั้งนี้ นอกเหนือจากแรงงานไทยในภาคเกษตรกรรมในอิสราเอลแล้ว ยังมีหญิงไทยจำนวนหนึ่ง (ประมาณ 400 - 500 คน) ที่แต่งงานกับคนอิสราเอล และมีบุตรซึ่งถือ 2 สัญชาติ คือทั้งสัญชาติไทยและอิสราเอล ซึ่งตามกฎหมายอิสราเอล บุคคลสัญชาติอิสราเอลทุกคน (ทั้งหญิงและชาย) จะต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารเมื่ออายุครบ 18 ปี 

โดยผู้ชายมีระยะเวลารับราชการทหาร 32 เดือน และผู้หญิงมีระยะเวลารับราชการทหาร 24 เดือน และเมื่อเสร็จสิ้นระยะเวลาเกณฑ์ทหารดังกล่าวแล้ว ทุกคนจะถูกบรรจุเข้าเป็นทหารกองหนุน ซึ่งจะต้องปฏิบัติหน้าที่ทหารหากถูกเรียกจากกองทัพอิสราเอล

ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 กองทัพอิสราเอลได้เรียกทหารกองหนุนจำนวนกว่า 350,000 คน หรือประมาณร้อยละ 4 ของประชากรอิสราเอลทั้งหมด เข้าปฏิบัติหน้าที่ ถือได้ว่าเป็นการเรียกทหารกองหนุนครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอล จึงย่อมมีลูกครึ่งไทย-อิสราเอลที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ทหารกองหนุนตามกฎหมายอิสราเอล มิใช่แรงงานไทยที่แฝงตัวไปเป็นทหารรับจ้างให้แก่อิสราเอลตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด 

ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศ จึงขอความร่วมมืออย่าเผยแพร่ข่าวปลอมหรือข่าวที่อาจทำให้สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชนทั้งไทยและต่างประเทศ” 

หมวก Kippah 

จากภาพดังกล่าวจะเห็นว่า ชายหนุ่มในภาพหน้าตาคล้ายชาวเอเชีย และหลายคนสวมใส่หมวก Kippah อันเป็นหมวกผ้าใบเล็ก ๆ ซึ่งสวมใส่เฉพาะชายที่นับถือศาสนา Judaism เท่านั้น ดังนั้นบรรดาชายในภาพจึงน่าจะเป็นลูกครึ่งเอเชีย-อิสราเอล หรืออาจจะเป็นลูกติดของหญิงเอเชียที่แต่งงานกับชายอิสราเอล ต่อมาได้รับสัญชาติอิสราเอล และต้องทำหน้าที่ของพลเมืองอิสราเอลตามกฎหมาย 

ชาวจีนเชื้อสายยิว (Kaifeng Jews) ในเมืองไคเฟิง มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน

นอกจากนั้นแล้วในอิสราเอลยังมีชาวจีนเชื้อสายยิว (Kaifeng Jews) อยู่อีกจำนวนหนึ่งด้วย โดยไปจากชุมชนเล็ก ๆ ที่มีผู้สืบเชื้อสายมาจากชาวจีนเชื้อสายยิว ในช่วงศตวรรษแรกของการตั้งถิ่นฐานอาจมีสมาชิกประมาณ 2,500 คน แม้ว่าพวกเขาจะแยกตัวออกจากชาวยิวพลัดถิ่นส่วนที่เหลือ แต่บรรพบุรุษของพวกเขาก็ยังคงปฏิบัติตามประเพณีและขนบธรรมเนียมของชาวยิวมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ วิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนชาวจีนเชื้อสายยิวค่อย ๆ เสื่อมสลายหายไป เนื่องจากการหลอมรวมและการแต่งงานระหว่างชาวยิวเชื้อสายจีนใกับชาวจีนฮั่นและชาวจีนฮุย 

จนกระทั่งเมื่อถึงศตวรรษที่ 19 ความเป็นยิวก็แทบจะหมดไป นอกเหนือจากการเก็บรักษาความทรงจำเกี่ยวกับอดีตความเป็นชาวจีนเชื้อสายยิวในตระกูลของตน ปัจจุบันน่าจะเหลือสมาชิกในจีนอยู่ราว 600-1,000 คน และอพยพไปอยู่อิสราเอลไม่กี่สิบคน

มีข่าวจาก www.middleeastmonitor.com ระบุว่า IDF ได้ใช้ทหารรับจ้างต่างชาติเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการในฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อม ตามรายงานจาก El Mundo สื่อใหญ่ของสเปน

ภาพถ่ายไม่ระบุวันที่นี้ของ Pedro Diaz Flores ทหารรับจ้างชาวสเปนซึ่งเข้าร่วมกองกำลังอิสราเอล เคียงข้างเพื่อนร่วมงานที่จุดตรวจตามแนวรั้วที่กั้นดินแดนที่ถูกยึดครองกับฉนวนกาซา

ในบรรดาทหารรับจ้างต่างชาตินั้น มีทหารรับจ้างชาวสเปนที่เคยต่อสู้เคียงข้างนีโอนาซีชาวยูเครนหลังจากการรุกรานของรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว Pedro Diaz Flores ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกสันนิษฐานว่าเสียชีวิตแล้ว แต่เขายังมีชีวิตสบายดี

ตามรายงานของสื่อที่ทำการสัมภาษณ์เขา “ผมมาเพื่อเงิน พวกเขาจ่ายดีมาก มีอุปกรณ์ดี และงานก็ใช้ได้ เงินก็ดีด้วย 3,900 ยูโร (4,187 ดอลลาร์) ต่อสัปดาห์ นอกเหนือจากภารกิจเสริม” Flores กล่าวถึงแรงจูงใจในการเข้าร่วมกองกำลัง IDF

อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่า เขาสู้รบในที่ราบสูงโกลันที่ถูกยึดครอง “เราให้การสนับสนุนด้านความปลอดภัยแก่ขบวนรถติดอาวุธหรือกองกำลังของกองทัพอิสราเอลที่อยู่ในฉนวนกาซาเท่านั้น เราไม่ได้ต่อสู้กับกลุ่มฮามาสโดยตรง และไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการจู่โจม”

“เรามีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของจุดตรวจและการควบคุมการเข้าถึงบริเวณชายแดนฉนวนกาซาและจอร์แดน มี PMC [Private Mercenaries Companies : บริษัททหารรับจ้างเอกชน] จำนวนมาก ที่นี่และพวกเขาแบ่งปันงานกัน ปกติแล้วพวกเขาจะทำหน้าที่คอยคุ้มกันอาคารผู้โดยสารชายแดนระหว่าง Eliat และ Aqaba” เขากล่าวเสริม ตั้งแต่เดือนที่แล้ว มีการคาดการณ์ว่า ทหารรับจ้างที่ประจำการอยู่ในยูเครนจะเริ่มหันเหความสนใจไปช่วยเหลือและเข้าร่วมกองทัพอิสราเอล ในขณะที่จุดสนใจของชาติตะวันตกก็เปลี่ยนไปยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอลในขณะที่ IDF กำลังก่ออาชญากรรมสงครามและการสังหารหมู่พลเรือนชาวปาเลสไตน์

นอกจากนี้แล้วในสหราชอาณาจักร ศูนย์ยุติธรรมระหว่างประเทศสำหรับชาวปาเลสไตน์ (ICJP) ได้ส่งจดหมายถึงสำนักงานต่างประเทศ เครือจักรภพ และการพัฒนา (FCDO) เพื่อขอคำชี้แจงเร่งด่วนเกี่ยวกับจุดยืนของรัฐบาลสหราชอาณาจักรต่อชาวอังกฤษที่จะสู้รบในอิสราเอลและฉนวนกาซา ตามรายงานของ  ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม พลเมืองอังกฤษหลายร้อยหรือหลายพันคนได้ออกจากสหราชอาณาจักรเพื่อร่วมสู้รบกับกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ในฉนวนกาซา “ชาวอังกฤษจำนวนมากเหล่านี้อาจสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติอยู่แล้ว และอาจต้องเผชิญกับการดำเนินคดีในอนาคต หากเรื่องเหล่านี้ได้รับการพิจารณาคดี” จดหมายระบุ 

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลอิสราเอลเรียกทหารกองหนุน 360,000 นายจากทั่วโลกเพื่อเข้าร่วมสงครามในฉนวนกาซา “ในสหราชอาณาจักร สื่อต่าง ๆ เต็มไปด้วยเรื่องราวของชาวอังกฤษเชื้อสายอิสราเอลที่ออกเดินทางเพื่อเข้าร่วม IDF บางคนอาจอยู่ที่นั่นผ่านโครงการ Mahal ซึ่งเป็นโครงการอาสาสมัครที่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่ใช่ชาวอิสราเอลเข้ารับราชการใน IDF ในการต่อสู้เต็มรูปแบบและมีบทบาทสนับสนุนสำหรับ นานถึง 18 เดือน” ICJP ได้ขอให้ “รัฐบาลสหราชอาณาจักรชี้แจงจุดยืนของตนในเรื่องความถูกต้องตามกฎหมายของพลเมืองอังกฤษที่จะสู้รบในอิสราเอลหรือฉนวนกาซา โดยสังเกตถึงความแตกต่างกับนโยบายของตนต่อยูเครน รัฐบาลได้ชี้แจงชัดเจนว่าพลเมืองอังกฤษไม่ควรเดินทางไปต่อสู้ในยูเครน และผู้ที่ทำเช่นนั้นอาจมีความผิดทางอาญา”

น่าจะพออนุมานได้ว่าไม่มีแรงงานไทยในกองกำลัง IDF แม้แรงงานส่วนหนึ่งอาจจะเคยรับราชทหารในกองทัพไทย แต่ด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ มากมาย อาทิ ประสบการณ์การรบ วิธีปฏิบัติ ที่สำคัญที่สุดคือ ภาษา ฯลฯ อีกทั้งรัฐบาลไทยยึดมั่นในการดำรงนโยบายเป็นกลางต่อเหตุการณ์นี้ และยังคงมีการอพยพแรงงานที่สมัครใจกลับอยู่ตลอดเวลา การเข้าร่วมกองกำลัง IDF ของแรงงานไทยจึงน่าจะเป็นเพียงข่าวลือตามที่กระทรวงต่างประเทศของไทยได้แถลงนั่นเอง

‘เกาหลีใต้’ หวั่น!! 20 ปีข้างหน้า ‘AI’ แย่งงาน 4 ล้านตำแหน่ง ‘นักเคมี-แพทย์-ทนายความ-บัญชี-ผู้จัดการทรัพย์สิน’ เสี่ยงสุด

(16 พ.ย.66) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างอิงผลการศึกษาของธนาคารกลางเกาหลีใต้ (Bank of Korea) ที่ระบุว่า AI อาจเข้ามาแทนที่ตำแหน่งงานในเกาหลีใต้มากถึง 4 ล้านตำแหน่ง หรือ 14% ในอีก 20 ปีข้างหน้า ส่งผลต่อความกังวลของตลาดแรงงานทั่วโลก

นายโอ ซัมอิล (Oh Sam-il) ตัวแทนจากธนาคารกลางแห่งเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า นักเคมี แพทย์ ทนายความ นักบัญชี และผู้จัดการทรัพย์สิน เป็นหนึ่งในกลุ่มที่จะถูกคุกคามมากที่สุด ในขณะที่ผู้เผยแพร่ศาสนา งานด้านบริการ การสอน และการร้องเพลง จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด

“บุคคลที่มีรายได้สูงและวุฒิการศึกษาดีจะต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่มากขึ้น เนื่องจาก AI สามารถจัดการงานต่าง ๆ และวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว”

นอกจากนี้ ผลการศึกษาของธนาคารกลางแห่งเกาหลีใต้ ยังระบุด้วยว่า AI จะช่วยเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ด้าน STEM หรือวิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ เช่น การสื่อสารและการทำงานเป็นทีม เป็นต้น

ทั้งนี้ ผลการศึกษาของธนาคารกลางแห่งเกาหลีใต้ ยังสอดคล้องกับรายงานของ Goldman Sachs ในปีนี้ที่ประเมินว่า งานกว่า 300 ล้านตำแหน่งทั่วโลกถูกแทรกแซงโดย Generative AI แม้ว่าจะเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยเพิ่มผลผลิตทางเศรษฐกิจทั่วโลกได้ 7% ในระยะเวลา 10 ปีก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีอัตราการใช้หุ่นยนต์สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากการเข้าสู่สังคมสูงวัย (Aging Society) แต่อันดับการใช้งาน AI ยังคงต่ำกว่าอีกหลายประเทศ เช่น จีน อินเดีย สิงคโปร์ เป็นต้น 

‘นายกฯ แคนาดา’ ถูกนักเคลื่อนไหวบุกปิดล้อมร้านอาหาร ประท้วงเรียกร้องให้หยุดยิงในกาซา ก่อนรุดหนีอย่างรวดเร็ว

มีผู้ถูกจับ 2 คน หลังพวกผู้ประท้วงฝักใฝ่ปาเลสไตน์ราว 250 คน ปิดล้อมร้านอาหารแห่งหนึ่งในแวนคูเวอร์ ที่นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด กำลังรับประทานอาหารค่ำในเย็นวันอังคาร (14 พ.ย.) พร้อมตะโกนเรียกร้องให้หยุดยิงในฉนวนกาซา

(16 พ.ย.66) โดย สตีฟ แอดดินสัน โฆษกตำรวจแวนคูเวอร์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ 100 นายถูกส่งเข้าไปสลายการชุมนุม ขณะเดียวกัน เข้าอารักขาพาตัว ทรูโด ออกจากร้านอาหารซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ ในย่านไชน่าทาวน์

เจ้าหน้าที่หญิงรายหนึ่งถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล หลังโดนผู้ประท้วงรายหนึ่งชกต่อยและเล็บมือขีดข่วนบริเวณดวงตา จากการเปิดเผยของโฆษกตำรวจแวนคูเวอร์ พร้อมเผยว่าตำรวจใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าสยบผู้ต้องสงสัยวัย 27 ปีรายหนึ่ง ฐานพยายามก่อความวุ่นวาย ส่วนชายอีกคนถูกจับกรณีขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ โดยเวลานี้ชายคนแรกยังอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของตำรวจ แต่คนหลังได้รับการปล่อยตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (14 พ.ย.) ทรูโด ถูกพวกผู้ประท้วงบุกเข้าหาที่ร้านอาหารอินเดียแห่งหนึ่ง ในอีกฟากหนึ่งของเมือง ขณะที่วิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นภาพพวกนักเคลื่อนไหวบุกไปเผชิญหน้ากับ ทรูโด ระหว่างที่เขานั่งอยู่ตรงโต๊ะ พวกเขาส่งเสียงเรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับนักรบปาเลสไตน์ ‘ฮามาส’ ในฉนวนกาซา พร้อมตะโกน "คุณมันน่าอดสู" และ "จัสติน ทรูโด คุณให้เงินสนับสนุนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีแคนาดา รุดออกจากร้านอาหารอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้ตอบโต้พวกนักเคลื่อนไหวใดแต่อย่างใด

ชาร์ลอตต์ เคท ซึ่งเป็นแกนนำร่วมกับกลุ่ม Samidoun Palestinian Prisoner Solidarity Network ที่เข้าร่วมกับการชุมนุมทั้ง 2 แห่ง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นความเคลื่อนไหวเรียกร้องให้แคนาดา ‘แสดงจุดยืนอย่างจริงจัง’ ต่อปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา

ทรูโด กล่าวในวันอังคาร (14 พ.ย.) เรียกร้อง เบนจามิน เนทันยาฮู แสดงออกถึงความอดทนอดกลั้นขั้นสูงสุดในปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ถล่มกาซา ซึ่งคร่าชีวิตปาเลสไตน์แล้วมากกว่า 11,000 คน หลังอิสราเอลประกาศสงครามกับฮามาส ในวันที่ 7 ตุลาคม แก้แค้นกรณีที่นักรบกลุ่มนี้บุกจู่โจมอย่างไม่คาดคิดเล่นงานอิสราเอล สังหารผู้คนไป 1,200 ราย และจับเป็นตัวประกันราว 240 คน

เนทันยาฮู ปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรูโด ยืนยันว่ากองทัพอิสราเอลไม่ได้ตั้งใจเล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือน และยืนกรานว่า ฮามาสต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุเสียชีวิตทั้งหมดในกาซา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top