‘Netflix’ จ่อฟ้องผู้กำกับ ‘Carl Rinsch’ หลังให้ทุนสร้างหนัง 400 ลบ. แต่เจ้าตัวกลับเอาเงินไป ‘ลงทุน-เทรดหุ้น’ จนเกือบหมดหน้าตัก!!

เมื่อไม่นานนี้ ‘Netflix’ ได้มอบเงินลงทุนเพิ่มแก่ ‘Carl Rinsch’ ผู้กำกับซีรีส์ไซไฟ ‘Conquest’ จำนวน 400 ล้านบาท แต่ Rinsch กลับนำเงินทั้งหมดไปลงทุนเทรดหุ้นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ ‘Gilead Sciences’ และ ‘S&P 500’ จนขาดทุนเกินกว่าครึ่งของเงินทุนที่ได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม Rinsch ได้กำไรจากการลงทุน ‘Dogecoin’ กว่า 950 ล้านบาท

Carl Rinsch ผู้กำกับซีรีส์ไซไฟ ‘Conquest’ จากค่ายยักษ์ใหญ่ด้านการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ได้รับเงินลงทุนทำหนังมูลค่า 400 ล้านบาท แต่เขากลับสูญเสียเงินไปกว่า 200 ล้านบาท ในการเทรดหุ้นบริษัทยาและ S&P 500 จนทำให้ชาวเน็ตกล่าวว่า “Netflix มีหนังที่มี ‘พล็อตเรื่องที่ดี’ อยู่ในมือแล้ว!!” จากเหตุการณ์ในครั้งนี้

Carl Rinsch ได้ทำการฝากเงินจำนวน 371 ล้านบาท เข้าบัญชีซื้อขายส่วนตัว Charles Schwab และขาดทุนเกินครึ่งจากการเทรดหุ้น บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ Gilead Sciences และ S&P 500

ย้อนกลับไปในปี 2018 แพลตฟอร์ม Netflix ได้ตัดสินใจซื้อซีรีส์ไซไฟ จาก Rinsch มาลงในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของตัวเอง และ Netflix ยังได้ให้เงินทุนในการสร้างซีรีส์แก่ผู้กำกับรายนี้กว่า 44 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2020

ภายหลัง Carl Rinsch ยังเรียกร้องเงินเพิ่มอีกจำนวน 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก Netflix เนื่องจากมีปัญหาความล่าช้าในการถ่ายทำซีรีส์ ซึ่งรวมแล้ว Netflix ได้ให้เงินลงทุนในโครงการนี้ไปทั้งหมดมูลค่า 1.9 พันล้านบาท

แต่ Carl Rinsch ก็สูญเงินดังกล่าวไปอย่างรวดเร็วกว่า 200 ล้านบาท จากทุนเดิม 400 ล้านบาท ที่ได้รับมาไปกับการเทรดหุ้นบริษัทยา Gilead Sciences และ S&P 500

นอกจากนี้ เขาได้ยังลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี โดยเลือกเหรียญมีมยอดนิยมอย่าง ‘Dogecoin’ โดยลงทุนไปจำนวน 141 ล้านบาท และสามารทำกำไรได้กว่า 950 ล้านบาท ทำให้ Netflix หยุดการลงทุนในโครงการนี้ และในขณะนี้ Netflix ก็กำลังอยู่ในระหว่างการฟ้องร้องกับ Carl Rinsch