Tuesday, 1 July 2025
WORLD

คนจีนรุ่นใหม่แห่เรียน ‘ภาคค่ำ’ อัปสกิลแค่หลักพัน คอร์สหลากหลาย ตั้งแต่ใช้ AI ขับโดรน จนถึงชงกาแฟ-แต่งหน้า

(20 พ.ค. 68) หลังฤดูกาลหางานช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนผ่านไป คนหนุ่มสาวชาวจีนเริ่มหันมามองหาโอกาสใหม่ ๆ ไม่ใช่แค่สมัครงานหรือโปรโมตตัวเองในที่สาธารณะ แต่ยังเลือกเข้าเรียนใน “โรงเรียนภาคค่ำ” ซึ่งกำลังเป็นทางเลือกยอดนิยมในการอัปสกิลด้วยงบหลักพันบาท

กระแสโรงเรียนภาคค่ำกลับมาเป็นที่สนใจหลังโครงการ “โรงเรียนกลางคืนสำหรับประชาชน” ในเซี่ยงไฮ้กลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ ด้วยค่าเรียนเพียงราว 500 หยวน (ราว 2,300 บาท) หลักสูตรหลากหลายตั้งแต่การใช้ AI ไลฟ์ขายของ ไปจนถึงขับโดรนหรือทำเครื่องดื่ม ซึ่งตอบโจทย์ทั้งสายอาชีพและงานอดิเรก บางคอร์สยังมีโอกาสได้งานพาร์ตไทม์ต่อยอดหลังเรียนจบ

โรงเรียนเหล่านี้แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักคือ โรงเรียนที่ดำเนินการโดยภาครัฐ/ชุมชน และโรงเรียนของภาคเอกชนหรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ จุดเด่นคือราคาเข้าถึงง่ายและไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาเฉพาะทาง ผู้เรียนส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานที่มีเป้าหมายชัดเจน ทั้งเพิ่มทักษะ รับมือกับเทคโนโลยีใหม่ หรือเตรียมตัวเปลี่ยนอาชีพในอนาคต

นอกจากผู้เรียนแล้ว ยังมีคนทำงานบางส่วนผันตัวมาเป็นผู้สอนในโรงเรียนภาคค่ำ โดยใช้ประสบการณ์ตรงเป็นใบเบิกทาง เช่น เสี่ยวเชียนในกว่างโจวที่สอนแต่งหน้า พร้อมช่วยแนะงานให้นักเรียนแบบไม่เป็นทางการ กลายเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนทั้งความรู้และเครือข่ายงาน

โรงเรียนภาคค่ำจึงไม่ใช่แค่คลาสเรียนหลังเลิกงาน แต่เป็นเวทีสร้างโอกาส ลดความเสี่ยงในการเปลี่ยนอาชีพ และเปิดทางเลือกใหม่ให้คนจีนรุ่นใหม่ได้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ในราคาที่จับต้องได้และเรียนรู้ได้จริงจากประสบการณ์ตรง

ชายเกาหลีวัย 42 ปี แฉชีวิตคู่พังยับ!! เมียเวียดนามหลอกแต่งงาน-แอบค้าบริการ แพร่โรคติดต่อหลังนอนกับผู้ชาย 600 คน

(20 พ.ค. 68) โลกโซเชียลเกาหลีแชร์เรื่องราวของ ‘นายเอ’ (นามสมมุติ) ชายชาวเกาหลีใต้จากเมืองนัมยางจู กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ เมื่อเขาเปิดเผยว่า หลังจากเลิกรากับแฟนที่คบกันมา 12 ปี เขาตัดสินใจแต่งงานกับหญิงสาวชาวเวียดนามผ่านเอเจนซี่ โดยทั้งคู่หมั้นและแต่งงานกันในปี 2022 ก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกันที่เกาหลีในปี 2023

หลังใช้ชีวิตคู่ไม่นาน กลับพบพฤติกรรมต้องสงสัย? ภรรยามีอาการป่วยจนพบว่าเธอและสามีติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) ขณะเดียวกันเธอก็เริ่มมีพฤติกรรมลึกลับ ขอค้างคืนกับ “เพื่อนสนิท” แต่หายไป 3 วันโดยไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อกลับมาก็ไม่ยอมให้สามีตรวจดูโทรศัพท์ แถมยังทำร้ายตัวเอง สุดท้ายสารภาพว่าคบซ้อนกับชายอื่นซึ่งเป็นลูกค้าของเธอในสถานบันเทิง

นายเอพบความจริงสุดสะเทือนใจ! เขาค้นพบว่าภรรยาเคยขายบริการ และยังคงแอบค้าประเวณีอย่างต่อเนื่องกับชายกว่า 600 คน โดยโกหกว่าวัน ๆ ออกไปเรียนหรือทำงานพาร์ทไทม์ ทำให้เขายื่นฟ้องหย่าและเรียกค่าเสียหาย ซึ่งฝ่ายหญิงยอมรับผิดในตอนแรก แต่ภายหลังกลับหลบหนีและตัดการติดต่อทั้งหมด

เรื่องราวถูกแชร์เพื่อเตือนภัยสังคม เกิดเสียงเรียกร้องขับไล่หญิงแฝงตัว! นายเอเปิดเผยเรื่องราวเพื่อเตือนชายเกาหลีไม่ให้ตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก โดยชี้ว่า หากอดีตภรรยายังอยู่ในประเทศ อาจมีเหยื่อรายอื่นเพิ่มเติม กระแสโซเชียลในเกาหลีใต้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบเจ้าสาวต่างชาติที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อค้าบริการ และดำเนินการเนรเทศออกนอกประเทศทันที

รองนายกฯ ปากีสถานเยือนจีน ขอบคุณชัยชนะเหนืออินเดีย เตรียมจัดซื้อเครื่องบินรบ-ขอข่าวกรองดาวเทียมเสริมเขี้ยวเล็บ

(20 พ.ค. 68) อิสฮัก ดาร์ (Ishaq Dar) รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีต่างประเทศของปากีสถาน เดินทางถึงกรุงปักกิ่ง พร้อมการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน เพื่อหารือกับ ‘หวาง อี้’ รมว.ต่างประเทศจีน และผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ โดยเน้นย้ำความร่วมมือรอบด้าน รวมถึงการพัฒนาในภูมิภาคหลังปากีสถานเอาชนะอินเดียในการปะทะทางอากาศครั้งล่าสุด

การเยือนครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญคือ แสดงความขอบคุณต่อจีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนระบบการรบทางอากาศ โดยเฉพาะเครื่องบิน J-10C ที่สามารถเอาชนะเครื่องบิน Rafale ของอินเดียได้ 3:0 ช่วยให้ปากีสถานพลิกสถานการณ์สงคราม ขจัดหมอกควันและยกขวัญกำลังใจให้กองทัพอย่างมาก

นอกจากขอบคุณแล้ว ปากีสถานยังมุ่งเจรจาเพื่ออัปเกรดกำลังทางอากาศ โดยมีแผนจัดซื้อ J-10C เพิ่มอีก 40 ลำ หรืออาจก้าวไปถึง J-35 แต่ด้วยงบประมาณจำกัด อาจต้องใช้รูปแบบผ่อนชำระ ส่วนชาวปากีสถานเองก็แสดงความตั้งใจบริจาคเงินเพื่อช่วยจัดซื้ออาวุธทันสมัยเสริมเขี้ยวเล็บให้กองทัพ

อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของการเยือนคือ ขอให้จีนสนับสนุนด้านข่าวกรองและดาวเทียมเพิ่มเติม หลังจากที่ปากีสถานสามารถใช้เทคโนโลยีจากจีนตรวจจับความเคลื่อนไหวของกองทัพอินเดียได้อย่างแม่นยำ สร้างความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ภายหลังสงคราม ปากีสถานเดินหน้าร่วมมือกับจีนเพื่อป้องกันการก่อวินาศกรรมใน “ระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน” โดยเตรียมเจรจาขอซื้อโดรนติดอาวุธอย่าง Wing Loong-10 และ Rainbow-5 เพื่อป้องกันโครงการสำคัญจากกลุ่มติดอาวุธ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงพันธมิตรที่แน่นแฟ้น พร้อมทลายความฝันของอินเดียในการครองความเป็นผู้นำในเอเชียใต้

‘ทรัมป์’ ชม ‘กาตาร์’ เจตนาดีให้ฟรี Boeing 747-8 เปรียบเหมือน ‘เทพีเสรีภาพ’ ไม่จำเป็นต้องตอบแทน

(19 พ.ค. 68) สตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า การที่สหรัฐฯ รับมอบเครื่องบิน Boeing 747-8 มูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ (ราว 14,400 ล้านบาท) จากประเทศกาตาร์ เป็นการทำธุรกรรมระหว่างรัฐที่ชอบด้วยกฎหมาย และผ่านการตรวจสอบจากที่ปรึกษาทำเนียบขาว กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานกฎหมายแล้ว

ขณะที่ สก็อตต์ เบสเซนต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลทรัมป์ กล่าวปกป้องการตัดสินใจดังกล่าว โดยเปรียบเปรยว่า “ฝรั่งเศสเคยมอบเทพีเสรีภาพให้เรา และอังกฤษเคยมอบโต๊ะทำงานให้เรา ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขาเรียกร้องอะไรล่วงหน้าหรือไม่” พร้อมชี้ว่ากาตาร์มีคำสั่งซื้อเครื่องบินจาก Boeing มูลค่าสูงถึง 100,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นคำสั่งซื้อที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท

ด้านทรัมป์กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขาคง ‘โง่มาก’ หากปฏิเสธ ‘เครื่องบินฟรี’ ลำนี้ โดยตามรายงานของสื่อสหรัฐฯ เครื่องบินลำนี้ได้เดินทางมาถึงรัฐเท็กซัสแล้วนานกว่าหนึ่งเดือน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ปัจจุบันของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า อาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีและใช้งบประมาณมหาศาลในการปรับแต่งเครื่องบินลำดังกล่าวให้ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับผู้นำประเทศ โดยเฉพาะหากมีการใช้งานในภารกิจของประธานาธิบดีในอนาคต

ผู้ลี้ภัยโรฮิงญาอ้าง!..ถูกบังคับขึ้นเรือรบอินเดีย ถูกปิดตา-ทุบตี ก่อนโยนลงทะเลให้ว่ายกลับเมียนมา

(19 พ.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่อินเดียบังคับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาจำนวนอย่างน้อย 40 คน ซึ่งรวมถึงผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ ให้ลงจากเรือของกองทัพเรืออินเดีย โดยมีการอ้างว่าบางคนถูกปิดตา ถูกทุบตี และถูกโยนลงทะเลบริเวณน่านน้ำสากลใกล้ชายแดนเมียนมา และให้ว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งเอง

กลุ่มผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถูกควบคุมตัวในกรุงนิวเดลีเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม และถูกส่งตัวโดยเครื่องบินไปยังหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ก่อนที่จะถูกนำขึ้นเรือของกองทัพอินเดีย

สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อรายงานดังกล่าว โดย ทอม แอนดรูว์ส ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมา กล่าวว่า “แนวคิดที่ว่าผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาถูกโยนลงทะเลจากเรือของกองทัพเรือนั้นเป็นสิ่งที่น่าขุ่นเคืองอย่างยิ่ง” เขาเรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียหยุดการปฏิบัติที่ไร้มนุษยธรรมและเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา รวมถึงการส่งตัวพวกเขากลับไปสู่สภาพที่อันตรายในเมียนมา

ด้าน ทนายความ ดิลาวาร์ ฮุสเซน ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ลี้ภัย ได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดของอินเดีย เพื่อขอให้รัฐบาลนำผู้ลี้ภัยเหล่านี้กลับมายังกรุงนิวเดลี อย่างไรก็ตาม กองทัพเรืออินเดียและกระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้

ทั้งนี้ อินเดียไม่ได้เป็นภาคีของอนุสัญญาผู้ลี้ภัยปี 1951 หรือพิธีสารปี 1967 แต่มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาประมาณ 40,000 คนอาศัยอยู่ในประเทศ โดยประมาณ 22,500 คนได้รับการลงทะเบียนกับสำนักงาน UNHCR หลายคนอาศัยอยู่ในสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ และเผชิญกับการกดขี่ข่มเหงจากกลุ่มชาวฮินดูที่เรียกร้องให้ขับไล่พวกเขาออกจากประเทศ

ม.นิวยอร์ก ระงับมอบปริญญาแก่ ‘โลแกน โรโซส’ หลังนักศึกษาพูดหนุนปาเลสไตน์ ประณามสหรัฐฯ กลางเวทีจบการศึกษาว่า ได้ทำการ ‘ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’ ในกาซา ผ่านเงินภาษีของประชาชน

(19 พ.ค. 68) มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU) ระงับการมอบปริญญาบัตรให้ โลแกน โรโซส (Logan Rozos) นักศึกษาปริญญาตรี หลังเขาใช้เวทีรับปริญญาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อกล่าวประณามสหรัฐฯ ว่ามีส่วนสนับสนุน “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา” คำพูดของเขาทำให้เกิดเสียงเชียร์และโห่ปะปนกันในหมู่ผู้ชม

“การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ได้รับการสนับสนุนทางการเมืองและทางทหารจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมาจากการสนับสนุนทางการเงินจากภาษีของเรา” เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมขอประณามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ รวมถึงผู้ที่มีส่วนร่วมในนั้น” โรโซส กล่าว

ขณะที่ โฆษกของ NYU ระบุว่า โรโซสไม่ได้แจ้งเนื้อหาที่จะพูดตามที่กำหนดไว้ และใช้โอกาสดังกล่าวเพื่อแสดงมุมมองการเมืองด้านเดียวอย่างไม่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าสถาบันรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์นี้ ขณะเดียวกัน NYU ยืนยันว่าจะดำเนินการสอบสวนทางวินัย และยังไม่มอบปริญญาบัตรให้เขา

สำหรับการเคลื่อนไหวสนับสนุนปาเลสไตน์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของสหรัฐฯ กลายเป็นประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะภายใต้รัฐบาลทรัมป์ที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อกรณีที่ระบุว่าเป็น “การต่อต้านชาวยิว” ส่งผลให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในสถาบันการศึกษาอย่างกว้างขวาง 

ทั้งนี้ NYU เป็นหนึ่งใน 10 สถาบันที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะทำงานต่อต้านการต่อต้านยิวของรัฐบาลทรัมป์ นับตั้งแต่สงครามอิสราเอล-กาซาเริ่มต้นในเดือนตุลาคม 2023

นายกฯ ญี่ปุ่นชี้หนี้สาธารณะพุ่งเกิน 260% ของ GDP เปรียบเทียบวิกฤตคล้ายกรีซแต่เลวร้ายยิ่งกว่า

(19 พ.ค. 68) นายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่าสถานการณ์การคลังของประเทศอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่กว่าของกรีซ โดยหนี้สาธารณะของญี่ปุ่นสูงถึง 260% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงที่สุดในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว

อย่างที่ทราบกันดีว่า กรีซเคยประสบวิกฤตการคลังรุนแรงในช่วงปี 2009–2015 จากหนี้สาธารณะที่พุ่งสูงกว่า 180% ของ GDP รัฐบาลขาดความสามารถในการชำระหนี้ ต้องพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปและ IMF รวมมูลค่ากว่า 260,000 ล้านยูโร พร้อมมาตรการรัดเข็มขัดเข้มงวด ส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย ประชาชนว่างงานสูงและเกิดความไม่สงบในประเทศอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี นายกอิชิบะได้ออกมาปฏิเสธข้อเสนอจากพรรคร่วมรัฐบาลบางกลุ่มและสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติที่เรียกร้องให้มีการลดภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เขายืนยันว่าฐานะทางการเงินของประเทศในปัจจุบันอยู่ในจุดที่ไม่สามารถรองรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลดรายได้ของรัฐได้อีกต่อไป โดยชี้ว่าหากดำเนินการลดภาษีในขณะนี้จะยิ่งทำให้ภาระหนี้สาธารณะของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างไม่ยั่งยืน

ด้านนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าหนี้สาธารณะที่สูงของญี่ปุ่นอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาระดอกเบี้ยของรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นยังมีข้อได้เปรียบที่หนี้ส่วนใหญ่ถือโดยนักลงทุนภายในประเทศ และรัฐบาลมีการควบคุมสกุลเงินของตนเอง ซึ่งแตกต่างจากสถานการณ์ของกรีซที่พึ่งพาหนี้จากต่างประเทศและใช้สกุลเงินยูโร

‘โจ ไบเดน’ ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก ชนิดรุนแรง ขณะที่แพทย์ตรวจพบลุกลามเข้าสู่กระดูกแล้ว

(19 พ.ค. 68) สำนักงานส่วนตัวของโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่าไบเดนได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ชนิดรุนแรง เมื่อวันศุกร์ (16 พ.ค.) โดยมีลักษณะตามคะแนนกลีสัน (Gleason) ที่ 9 (กลุ่มระดับ 5) ซึ่งจัดอยู่ในขั้นรุนแรง และได้ลุกลามเข้ากระดูกแล้ว

รายงานระบุว่าก่อนหน้านี้ไบเดนมีอาการผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะ นำสู่การที่แพทย์ตรวจพบ "ตุ่มเนื้อขนาดเล็ก" บริเวณต่อมลูกหมาก โดยแม้เป็นมะเร็งชนิดรุนแรง แต่ยังตอบสนองต่อฮอร์โมน จึงสามารถดำเนินการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไบเดนและครอบครัวกำลังหารือทางเลือกร่วมกับทีมแพทย์

อนึ่ง ไบเดน อายุ 82 ปี ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างเดือนมกราคม 2021-มกราคม 2025 โดยเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

BYD ตั้งศูนย์กลางยุโรปแห่งใหม่ในฮังการี ดันเป็นฐานผลิต-ทดสอบรถ EV ครบวงจร

(19 พ.ค. 68) BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน ประกาศแผนจัดตั้งศูนย์กลางยุโรปแห่งใหม่ในประเทศฮังการี โดยซีอีโอและประธานบริษัท หวัง ฉวนฝู เปิดเผยในงานแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮังการี วิกเตอร์ ออร์บาน ที่กรุงบูดาเปสต์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

CEO หวังระบุว่า ศูนย์กลางแห่งใหม่นี้จะสร้างงานกว่า 2,000 ตำแหน่ง และจะมีบทบาทสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การเป็นศูนย์กลางด้านการขายและบริการหลังการขาย การทดสอบผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาเวอร์ชันของรถยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาดในยุโรป โดยโครงการนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ BYD ที่จะขยายฐานในทวีปยุโรปอย่างจริงจัง

ก่อนหน้านี้ BYD ได้เปิดโรงงานแห่งแรกในยุโรปเมื่อปี 2016 ที่เมืองโคมารอม ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฮังการี โดยเน้นการประกอบรถโดยสารไฟฟ้าเป็นหลัก ปัจจุบันบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานแห่งที่สองในประเทศ ซึ่งจะเน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งถือเป็นการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้

ทั้งนี้ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีออร์บัน ฮังการีได้กลายเป็นพันธมิตรด้านการค้าและการลงทุนที่สำคัญของจีนในยุโรป แตกต่างจากบางประเทศในสหภาพยุโรปที่เริ่มถอยห่างจากจีน ออร์บานเริ่มกระชับความสัมพันธ์กับปักกิ่งตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2010 และนโยบายดังกล่าวได้นำไปสู่กระแสการลงทุนจากจีนในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

‘ทหารรัสเซีย’ ยืนยัน!! พวกเขาพร้อมที่จะลุย จนกว่าจะปลดปล่อย ดินแดนรัสเซียได้สำเร็จ

(18 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

รายงานผลสำรวจความเห็นของทหารรัสเซียเกี่ยวกับแนวคิดการหยุดยิง

ทหารรัสเซียยืนยันว่าพวกเขาพร้อมที่จะสู้จนกว่าจะปลดปล่อยดินแดนรัสเซียได้สำเร็จ
จากการสอบถามทหารรัสเซียทั้งหมด 11 นาย ทั้งหมดปฏิเสธข้อเสนอของยูเครนและชาติตะวันตกในการหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข

“เราต้องการยึดครองทุกพื้นที่ เพื่อที่ในอนาคตเราจะไม่ต้องต่อสู้เพื่อพวกมันอีก ไม่เช่นนั้นแล้ว พวกคนเหล่านี้จะต้องตายไปเปล่าๆ ใช่ไหม” ทหารคนหนึ่งชื่อเซอร์เกย์บอกกับหนังสือพิมพ์

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าคณะผู้แทนที่เจรจาในนามของประธานาธิบดีรัสเซียได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อยูเครนให้ออกจาก 4 ภูมิภาคซึ่งตามรัฐธรรมนูญระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียแล้ว

แบนหนัง ‘พระร่วง’ เมื่อโซเชียลเป็นเหตุ นักแสดงไม่ช่วย แถมสื่อช่วยเหยียบซ้ำ

(18 พ.ค. 68) วันนี้เอย่าขอมานอกเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับพม่ากันสักครั้งนะคะเพราะมาถึงนาทีนี้คงไม่มีกระแสภาพยนตร์เรื่องไหนดังเท่า พระร่วง มหาศึกสุโขทัยได้อีกแล้ว  เพราะกระแสคนแห่แบนภาพยนตร์เรื่องนี้รุนแรงจนแทนที่จะกลายเป็นว่าภาพยนตร์ที่ดูมีแววรุ่งกลับกลายเป็นมีแววดับเสียอย่างนั้น

จากประเด็นเรื่องความเห็นในโซเชียลของนักแสดงกัมพูชาที่แสดงออกถในการเคลมชุดไทยเป็นการจุดชนวนแอนตี้ภาพยนตร์เรื่องนี้จนกลายเป็นกระแสแบนในวงกว้างอีกทั้งมีการขุดอีกว่าในช่วงบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องนี้  สื่อทางกัมพูชารายงานว่ามีหนังไทยฟอร์มยักษ์ จ้างดาราสาวชาวกัมพูชาอย่าง เยม สตรีเพชรด้วยค่าตัวสูงลิ่ว นั่นยิ่งสร้างให้เกิดความโมโหโกรธาโดยเฉพาะกลุ่มคนไทยที่ไม่ได้ชอบชาวเขมรเป็นทุนเดิมอยู่แล้วให้หนักขึ้นไปอีก 

ประเด็นนักแสดงสร้างความฉิบหายให้แก่ภาพยนตร์ที่ตนแสดงไม่ใช่เพิ่งขึ้นครั้งแรกหรือเกิดแค่ในฝั่งบ้านเรา  ไม่นานมานี้ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่างสโนไวท๋ก็พังไม่เป็นท่า แม้จะด้วยสาเหตุมากมายหลายอย่างไม่ว่าจะนางเอกไม่ตรงปกบทหนังอิหยังวะ หรือคนแคระซีจี บลาๆอะไรก็ตาม  แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะเป็นประเด็นเลยคือการที่นางเอกอย่าง  ราเชล เซเกลอร์ ประกาศกลางโซเชียลว่าเธอสนับสนุนปาเลสไตน์จนทำให้แฟนหนังจำนวนหนึ่งเลือกจะไม่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้

ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปไม่ได้เสพแค่คุณภาพของผลงานแต่มองถึงปูมหลังที่ผ่านมา รวมถึงทัศนคติด้วย ดังนัันทำให้ผลงานของนักแสดงหรือผู้กำกับรวมถึงนักร้องบางคนที่ควรจะปังได้มากกว่านี้แต่กลับปังได้เท่าที่เห็นเพราะหลายคนติดบ่วงจากภาพลักษณ์ในอดีต

ที่สำคัญวงการภาพยนตร์โดยเฉพาะนายทุนภาพยนตร์อาจจะต้องเรียนรู้ถึงการควบคุมดารา ศิลปิน รวมถึงทีมงานทุกคนให้มีภาพลักษณ์ที่ดีอันจะไม่ส่งผลเสียต่อภาพยนตร์ที่กำลังจะฉายซึ่งนี่อาจจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในวงการบันเทิงก็เป็นได้

อย่างไรก็ตามถ้าเราเลือกไม่ให้ค่าดาราคนนั้นภาพยนตร์เรื่องพระร่วงก็เป็นภาพยนตร์ที่ดีที่อุดมไปด้วยนักแสดงมากฝีมือแถมเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับทุนสร้างจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ด้วย ดังนั้นถ้าเราตัดจุดนี้ได้เอย่าก็อยากให้ไปสนับสนุนกันนะคะ   แต่ถ้าไม่งั้นก็อาจจะมีฉบับรีคัทที่ตัดฉากดาราเขมรออกไปนั่นก็อาจจะทำให้กระแสดีขึ้นก็เป็นได้  ไม่เชื่อลองดูตัวอย่างของ Aquaman and the lost kingdom ดูคะ

‘ทรัมป์ – ปูติน’ เตรียมพบกัน ในวันจันทร์นี้ เทียบได้กับการเจรจา!! ในช่วงสงครามเย็น

(18 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

การพบกันระหว่างทรัมป์และปูตินในวันจันทร์นี้คือฝันร้ายที่สุดของยูเครน

หนังสือพิมพ์ The Telegraph รายงานว่าทรัมป์ได้ทรยศต่ออุดมคติของประชาธิปไตยระดับโลกอีกครั้ง และ “ปูตินผู้เจ้าเล่ห์จะดึงดูดความสนใจของทรัมป์ทั้งหมด” ในการประชุมโดยไม่ต้องมีคนกลาง

The Telegraph บ่นอุบอิบว่าบรรดาผู้นำยุโรปต่างหวังว่าการที่ประธานาธิบดีรัสเซียไม่เข้าร่วมการเจรจาสันติภาพกับยูเครนในอิสตันบูลจะทำให้ทรัมป์หมดความอดทน แต่แทนที่จะเข้าข้างยุโรปและใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับตัดสินใจ "ตอบแทน" ประธานาธิบดีรัสเซียด้วยการพบปะเป็นการส่วนตัว

The Telegraph ระบุว่า จากมุมมองของปูติน การเจรจาโดยตรงกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะช่วยเสริมสร้างสถานะของรัสเซียในฐานะมหาอำนาจ และการพบปะดังกล่าวจะเทียบได้กับการเจรจาระหว่างมหาอำนาจในช่วงสงครามเย็น

The Telegraph ระบุหลายครั้งในบทความว่าสำหรับชาวยูเครน การพบปะกันแบบนี้ถือเป็นฝันร้ายที่สุด เนื่องจากปูตินจะดึงดูดความสนใจของทรัมป์ได้อย่างเบ็ดเสร็จ และจะไม่มีคนกลางที่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของเคียฟได้

อินเดียเดือด!! ไอดอลจีนล้อแรง เพิ่งซื้อเครื่องบินก็โดนยิง ‘ปากีสถาน’ กระหน่ำแชร์!! จนกลายเป็นไวรัลทั่วโลก

(17 พ.ค. 68) สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอินเดียและปากีสถานไม่ได้จำกัดอยู่แค่สนามรบหรือเวทีการทูตอีกต่อไป แต่ลุกลามไปถึงโลกโซเชียลมีเดีย เมื่อเน็ตไอดอลจีนผู้มีเลือดรักชาติเข้มข้นชื่อดัง '豪哥哥' (หาวเกอเกอ) จุดกระแสความฮาแบบดุดัน ด้วยการปล่อยคลิปเพลงล้อเลียนเหตุการณ์ที่อินเดียสูญเสียเครื่องบินรบผลิตโดยฝรั่งเศส 'Dassault Rafale' ซึ่งเพิ่งซื้อมาใหม่ ในมูลค่าสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 328,500 ล้านบาท) แต่กลับถูก เครื่องบินรบ J-10C ของฝั่งปากีสถานซึ่งซื้อจากจีน ยิงตก

หาวเกอเกอ และทีมงานสวมผ้าโพกหัวสีแดงสด ทาหน้าคล้ำ และพูดภาษาจีนสำเนียง 'อินเดีย' อย่างชัดเจน พร้อมร้องเพลงที่เขาแต่งขึ้นใหม่ชื่อว่า《刚买的飞机被打啦 (เพิ่งซื้อเครื่องบินก็โดนยิงแล้ว!) เนื้อเพลงตลกร้ายสุดสะเทือนใจอินเดีย เช่น '雷达都是坏哒,九十亿全部白花!' (เรดาร์ก็เสีย เก้าพันล้านเสียไปเปล่าๆปลี้ๆ)

เนื้อหาและการแสดงที่ขยี้จุดเจ็บของอินเดียโดยตรง ทำให้คลิปนี้กลายเป็นไวรัลในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักทั่วโลก โดยมียอดวิวและยอดแชร์ทะลุหลักร้อยล้านทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศปากีสถานที่คลิปดังกล่าวถูกนำไปแชร์ต่อในทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง TikTok, X (อดีต Twitter), Facebook และ YouTube

ชาวเน็ตแดนภารตะตอบโต้ทันควัน พากันเข้าไปถล่มคอมเมนต์คลิปดังกล่าว บางส่วนแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงถึงขั้นเรียกร้องให้ TikTok

ลบคลิปนี้ทิ้ง ขณะที่อีกกลุ่มถึงกับกล่าวหาว่าเป็นการดูหมิ่นชาติและกองทัพอินเดียอย่างชัดเจนแต่ยิ่งมีเสียงคัดค้าน คลิปล้อเลียนนี้ก็ยิ่งดังมากขึ้น ค่ายสื่อหลายรายในต่างประเทศเริ่มรายงานข่าวเกี่ยวกับกระแสดังกล่าว พร้อมกับตั้งคำถามอย่างจริงจังถึง "ความพร้อมของกองทัพอินเดีย" ที่ใช้เงินมหาศาลซื้อเครื่องบินรบจากฝรั่งเศส แต่กลับถูกยิงตกตั้งแต่ยังไม่ทันได้ใช้งานอย่างคุ้มค่า

อนึ่ง คลิปล้อเลียนของชาวเน็ตจีนชิ้นนี้ ถูกจัดทำขึ้นหลังจากเหตุการณ์กองทัพปากีสถาน ใช้เครื่องบินขับไล่ผลิตโดยจีน สอยเครื่องบินรบของอินเดียอย่างน้อยสองลำร่วง เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่ทางการอินเดียไม่ยอมเปิดเผยจำนวนเครื่องบินของฝ่ายตนที่ถูกทัพปากีสถานสอยร่วง รัฐมนตรีกลาโหมแห่งปากีสถาน Khawaja Muhammad Asif เปิดเผยว่า กองทัพปากีฯได้ใช้เครื่องบินขับไล่J-10 ผลิตโดยจีน ยิงเครื่องบินรบของกองทัพภารตะร่วงไป 5 ลำ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ Rafale ผลิตโดยฝรั่งเศส3 ลำที่อินเดียเพิ่งจัดซื้อมาประจำการในกองทัพ เครื่องบินรบของรัสเซีย 2 ลำ คือ MiG-29 และ Su-30 ทั้งนี้ เครื่องบินขับไล่J-10 และ Rafaleเป็นเครื่องขับไล่รุ่น 4.5 ถือเขี้ยวเล็บใหม่ของกองกำลังฝูงบินรบ

สื่อทางการจีน ซินหัว ยังได้รายงานข่าวด้วยท่าทีภาคภูมิใจในเทคโนโลยีการทหารจีน โดยเรียกขานว่า 'รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ของการทำสงคราม'

เหตุการณ์กองทัพปากีสถานยิงเครื่องบินรบของคู่อริตกในศึกปะทะที่จุดชนวนจากเหตุทัพฟ้าภารตะโจมตีเขตควบคุมของปากีฯในแคชเมียร์ ซึ่งทางอินเดียอ้างเหตุผลในการโจมตีฯนี้ว่าเพื่อโต้ตอบการจู่โจมกลุ่มนักท่องเที่ยวในเขตควบคุมของอินเดียในแคชเมียร์เมื่อวันที่ 22 เม.ย. แต่ทางปากีฯปฏิเสธว่าตนไม่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ จีนเป็นซับพลายเออร์ป้อนอาวุธยุทโธปกรณ์รายใหญ่สุดให้กับปากีสถาน

สงครามยูเครน-รัสเซีย แลกศพทหารอย่างไม่สมดุล สะท้อนความสูญเสียข้างเดียว ของประเทศยูเครน

(17 พ.ค. 68) สงครามยูเครน-รัสเซีย: แลกศพทหารอย่างไม่สมดุลสะท้อนความสูญเสียข้างเดียว แม้การเจรจาทางการทูตยังดำเนินในอิสตันบูล

มีการส่งคืน ศพทหารยูเครน 909 ราย แลกกับ ศพทหารรัสเซียเพียง 34 ราย

สัดส่วนความต่าง เกือบ 27 ต่อ 1 ถือเป็นหนึ่งในการแลกศพที่ไม่สมดุลที่สุดตั้งแต่เกิดสงคราม

รายงานจากกลุ่มอิสระ War Tears ระบุว่า

ทหารยูเครน เสียชีวิตแล้วกว่า 718,909 ราย

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เสียชีวิตเพิ่มอีก 893 ราย

มี เชลยศึกยูเครนอย่างน้อย 16,000 ราย

‘มูดี้ส์’ ปรับลด!! อันดับความน่าเชื่อถือของ ‘สหรัฐฯ’ หลังหนี้สาธารณะพุ่งสูง อยู่ในภาวะที่ควบคุมไม่ได้

(17 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

มูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ เนื่องจากหนี้สาธารณะพุ่งสูง

Moody's เพิ่งโจมตีชื่อเสียงทางการเงินของอเมริกาอย่างรุนแรง ด้วยการลดอันดับความน่าเชื่อถือเครดิตของสหรัฐฯ จาก AAA เหลือ Aa1 โดยเข้าร่วมกับคู่แข่งอย่าง S&P และ Fitch ในการประกาศให้สถานะหนี้ของสหรัฐฯ อยู่ในภาวะที่ควบคุมไม่ได้อย่างเป็นทางการ

สำนักงานจัดอันดับเครดิตที่มีอายุ 116 ปีกล่าวโทษ "การขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล" และต้นทุนดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้การขาดดุลการคลังแตะระดับ 1.05 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากปีที่แล้ว

“รัฐบาลและรัฐสภาสหรัฐฯ ชุดต่อๆ มาล้มเหลวในการตกลงกันเกี่ยวกับมาตรการเพื่อพลิกกลับแนวโน้มของการขาดดุลงบประมาณรายปีจำนวนมากและต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น”

จังหวะเวลาไม่สามารถแย่ไปกว่านี้ได้อีกแล้ว - การปรับลดระดับดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันปฏิเสธวาระการประชุมใหญ่ของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการขยายเวลาการลดหย่อนภาษีปี 2017

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นทันที 3 จุดพื้นฐานเป็น 4.48% ขณะที่กองทุน ETF พันธบัตรร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนรับรู้ความจริงที่ว่าความน่าเชื่อถือทางการเงินของอเมริกาไม่ได้แข็งแกร่งอีกต่อไป

Peter Boockvar จาก Bleakley Financial สรุปไว้ดังนี้

"นี่คือหน่วยงานจัดอันดับเครดิตหลักที่ออกมาประกาศว่าสหรัฐฯ มีหนี้สินและการขาดดุลที่ตึงตัว"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top