Wednesday, 15 May 2024
SPECIAL

อธิการบดี ม.ทักษิณ ไม่ถือโทษ หลัง ‘แทน-ชัยชนะ’ เข้า ‘ขอขมา’

(7 มี.ค. 66) นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายสานันท์ สุพรรณชนะบุรี ได้เดินทางเข้าพบรองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ เพื่อขอขมา-ขอโทษ กรณีนายชัยชนะ กล่าวปราศรัย หาเสียงทางการเมืองที่จังหวัดพัทลุงเมื่อวันที่ 4 มี.ค.2566 ซึ่งพาดพิงถึง มหาวิทยาลัยทักษิณ ในทำนองดูแคลนผู้สมัครจากพรรคการเมืองคู่แข่ง ว่าสำเร็จการศึกษาจาก ม.ทักษิณ ไม่ได้จบการศึกษาจากต่างประเทศแบบพรรคของตน

ตำรวจ ปส.(NSB) รุกหนักทลาย 4 เครือข่ายใหญ่ จับผู้ต้องหา 14 คน ยึดของกลางไอซ์กว่า 1.2 ตัน ยาบ้า 5.7 ล้านเม็ด และ คีตามีน 300 กิโลกรัม

วันนี้ (7 มี.ค. 66) เวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์  ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส., เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 4 คดี    

หลังขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. อย่างต่อเนื่องโดยให้ทุกหน่วยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด จากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและพื้นที่ชุมชน รวมไปถึงการสืบสวนหาข่าว เพื่อจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดในทุกระดับ และตัดวงจรการลักลอบลำเลียง ยาเสพติด ที่จะส่งออกไปยังประเทศที่สาม รวมทั้งขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3, บก.ปส.4 และ บก.สกส. สามารถจับกุมผู้ต้องหาและยาเสพติดได้จำนวนมาก
คดีแรก

ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ได้รับแจ้งว่ามีเครือข่ายค้ายาเสพติดจะลำเลียงยาเสพติด จำนวนมากจากพื้นที่ จว.ตาก มาส่งให้กับกลุ่มเครือข่ายใน จว.สุพรรณบุรี และวันเดียวกันพบรถกระบะต้องสงสัย 2 คัน จอดอยู่ข้างกันภายในปั๊มเชลล์ สาขาพยุหะคีรี และขับตามกันออกมาไปบน ถ.พหลโยธิน อ.มโนรมย์ จว.ชัยนาท มุ่งหน้า อ.เมือง จว.ชัยนาท ก่อนจะขับมาจอดภายในปั๊มน้ำมันบางจาก สาขาศรีประจันต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจค้นตัวและรถ เบื้องต้นทราบชื่อคือ นายธงชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี และนายเฉลิมชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี  เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง หมู่บ้านรวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จว.ตาก  ค้นรถหมายเลขทะเบียน บต-99XX ตาก พบไอซ์ บรรจุในถุงสุญญากาศห่อด้วยถุงบรรจุชาสีเขียว รวม 1,000 กิโลกรัม,ยาบ้ารวม 1.4 ล้านเม็ด และ คีตามีน  300 กิโลกรัม ถูกซุกซ่อนอยู่บริเวณท้ายกระบะ โดยมี มะเขือ แตงกวา ผักกาดขาว ปกปิดอำพรางมาด้วย ทั้งนี้ ตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ 2 คัน, ทองรูปพรรณมูลค่า 100,000 บาท และเงินสด  844,000 บาท  

คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.  และ บก.ปส.4  ได้ร่วมกันจับ 5 ผู้ต้องหา คือ นายพรเชษฐ์หรือหมู อายุ 38 ปี, นายกิตติภพหรือกอล์ฟ อายุ 21 ปี, นายภานุมาศ หรือตั้ม อายุ 31 ปี, น.ส.ปรียาภัทร หรือฟ้า ชู อายุ 20 ปี และ นายจิรเมธหรือกว้า อายุ 23 ปี หลังสืบสวนทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จว.สงขลา จะลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ เข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันตก และทางภาคใต้ เป็นประจำ กระทั่งพบ นายพรเชษฐ์ กับพวก เตรียมนำยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ อ.เชียงแสน จว.เชียงราย ไปส่งให้ลูกค้าใน จว.พระนครศรีอยุธยา อีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังติดตามบนถนนหมายเลข 1 พหลโยธิน ตั้งแต่พื้นที่ อ.เมืองพะเยา-อ.เมืองลำปาง - อ.เถิน - อ.แม่พริก จว.ลำปาง ต่อเนื่อง พื้นที่ อ.เมืองตาก จว.ตาก จนรถยนต์หมายเลขทะเบียน ผน 99xx สงขลา (ซึ่งเป็นรถนำทาง) ขับมาถึงด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก ขณะที่รถหมายเลขทะเบียน งร 71xx เชียงใหม่ (รถลำเลียงยาเสพติด) ได้ขับหลบเข้าไปในรีสอร์ต ริมถนน หมายเลข 1 พหลโยธิน ก่อนเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมเครือข่ายได้ทั้งหมด ตรวจค้นรถพบยาบ้า ห่อหุ้มด้วยพลาสติกใสมีตัวอักษร “Superdry” และบนหีบห่อประทับตัวเลข '999' จำนวน 600 มัด รวมยาบ้า 1,200,000 เม็ด ถูกซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์หมายเลขทะเบียน งร 71xx เชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุรวม 2 คัน, โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง, เงินสด 35,000 บาท, สร้อยคอทองคำ 2 เส้น, แหวนทอง 4 วงและ สร้อยข้อมือ 2 เส้น 

คดีที่ 3 ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ ตำรวจ บก.สกส., บก.ขส.ฯ และ กก.1 บก.ทล. (สิงห์บุรี) สืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหา มักลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ เพื่อนำไปส่งลูกค้าทางพื้นที่ภาคกลาง และพื้นที่ใกล้เคียงที่บริเวณริมทางถนนหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ระหว่าง กม. 31 – 32 ต.ขวัญเมือง อ.บางปะหัน จว.พระนครศรีอยุธยา กระทั่งวันที่ 3 มี.ค.66 สามารถจับนายณัฐวุฒิ หรือแฉะ อายุ 33 ปี พบมีคดียาเสพติด 2 คดี, นายสุรัต หรือขาว อายุ 46 ปี และ นายรังสี หรือตัน อายุ 44 ปี พร้อมยาบ้า 3,000,000 เม็ด และ ไอซ์ 200 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องกระดาษสีน้ำตาลวางอยู่ภายในห้องโดยสารของรถตู้ นอกจากนี้ยังยึดรถ จำนวน 1 คัน ใช้ในการนำทาง/ สำรวจด่านตรวจ และ โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย 

‘ปคม.’ รวบ 2 ดาวทวิตเตอร์ ล่อลวงเด็ก ป.6 ถ่ายคลิปลามก พร้อมนำไปขายในโซเชียล เจ้าตัวสารภาพ ทำมานานแล้ว

(7 มี.ค. 66) พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรพล เลิศวิริยะพงศ์ สว.กก.2 บก.ปคม. นำกำลังจับกุม นายลักษณ์คะณา หรือ ‘ซ้อโฟ’ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี และ ‘นายเก๋’ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี

ในข้อหา “สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” โดยจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 จับกุมได้ที่บ้านพักในจังหวัดขอนแก่น

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า มีบัญชีทวิตเตอร์ ชื่อ ‘ซ้อ อโฟ’ ซึ่งเป็นบัญชีทวิตเตอร์ของหญิงสาวประเภทสอง มีผู้ติดตามมากกว่า 2.6 แสนยูสเซอร์ ภายในพบมีการลงภาพวิดีโอและข้อความเนื้อหาลามกอนาจาร การร่วมเพศกับเด็กผู้ชายเป็นจำนวนมาก พร้อมข้อความเชิญชวนรับชมคลิปวิดีโอแบบเต็มได้ที่ทวิตเตอร์แอคล็อก (ทวิตเตอร์แบบส่วนตัว) ชื่อทวิตเตอร์ ‘ซ้อ อ โฟ แอคล็อก’ ซึ่งผู้สนใจจะต้องเสียเงิน จำนวน 300 บาท เพื่อเข้าดู

นอกจากนี้ ยังพบบัญชีทวิตเตอร์ชื่อ ‘NINJANIN’ เป็นบัญชีทวิตเตอร์ของหญิงสาวประเภทสองเช่นกัน ซึ่งเป็นชื่อของนายเนตรนภา มีผู้ติดตามมากกว่า 1 แสนยูสเซอร์ มีการลงภาพวิดีโอและข้อความเนื้อหาลามกอนาจารเช่นเดียวกัน พร้อมข้อความเชิญชวนว่า หากใครสนใจชมคลิปวิดีโอเพิ่มเติม จะต้องเสียเงินจำนวน 399 บาท เพื่อรับชมคลิปวีดีโอแบบเต็มได้ที่กลุ่มไลน์ลับชื่อกลุ่มว่า ‘VIP Group N’kay @นินจานิน’

เจ้าหน้าที่จึงแฝงตัวขอเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มทั้งสอง พบว่ามีคลิปลามกอนาจารที่ผู้ต้องหาทั้งสองร่วมกันกระทำอนาจารและมีเพศสัมพันธ์กับเด็กผู้ชายวัยประถม จำนวน 4 คน และเมื่อมีการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลของเด็กชายทั้ง 4 คน ก่อนมีการเชิญตัวเยาวชนทั้ง 4 คน เข้าสู่กระบวนการสอบสวน และส่งไปเยียวยาทางร่างกายและจิตใจด้วย

ไม่เข็ด!! ‘ตม.ปทุมฯ’ รวบ 3 คนไทย ช่วย ‘ชาวจีน’ ลักลอบเข้าเมือง 1 ใน 3 สารภาพ เพิ่งถูกจับข้อหาเดียวกันเมื่อเดือนที่แล้ว

(6 มี.ค. 66) ตามนโยบายของ ผบ.ตร., ผบช.สตม.และ ผบก.ตม.3 ในการกวาดล้างอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าว โดยเฉพาะในความผิดและผู้ช่วยเหลือสนับสนุนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโล ผกก.ตม.จังหวัดปทุมธานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปราม ตม.จังหวัดปทุมธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส.และ สภ.คลองหลวง ร่วมตรวจสอบคนต่างด้าวสัญชาติจีน 1 ราย พร้อมด้วยคนไทย ซึ่งให้การช่วยเหลือให้คนต่างด้าวดังกล่าว ซึ่งเข้าเมืองมาผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม

ผู้ถูกจับรับว่า ได้เดินทางมาจากพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อนำคนต่างด้าวไปส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับค่าจ้าง 20,000 บาท โดยใช้รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์เป็นยานพาหนะ และรถยนต์เก๋งเป็นรถนำทาง ซึ่งมีการให้สัญญานระหว่างรถทั้งสองคันตลอดการเดินทาง เพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับแจ้งพฤติการณ์ต้องสงสัยรถคันดังกล่าว จึงได้ติดตามอย่างกระชั้นชิด และเข้าตรวจค้นยานพาหนะทั้งสองคัน พบการกระทำความผิด จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พรรคส้มมาแรง!! ‘ก้าวไกล’ ปลื้ม หาเสียงอีสาน กระแสดี เตรียมลงใต้ ลั่น!! กทม.แลนด์สไลด์ จ่อเปิดตัวผู้สมัครครบ 12 มี.ค.นี้

‘ก้าวไกล’ ปลื้ม หาเสียงอีสาน ประชาชนตอบรับดีมาก เผย ‘พิธา’ เดินสายลงใต้สุดสัปดาห์นี้ พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร กทม. ครบ 33 เขต 12 มีนาคม แนะนำ ‘ศุภณัฐ มีนชัยนันท์’ ชิงชัยเขตจตุจักร มั่นใจกรุงเทพฯ ‘ก้าวไกลแลนด์สไลด์’

(6 มี.ค. 66) ที่พรรคก้าวไกล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะผู้ดูแลการเลือกตั้งสนามกรุงเทพฯ พร้อมด้วย นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตจตุจักร คือ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ หรือ ‘แบงค์’

นายพิจารณ์กล่าวว่า ปัจจุบันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังอยู่ในช่วงการรับฟังความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการแบ่งเขต ซึ่งไม่ว่าการแบ่งเขตจะออกมาในรูปแบบใด อาจสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบแก่บางพรรคการเมือง แต่พรรคก้าวไกลไม่มีความหนักใจ ยืนยันจะสู้ในทุกสนาม เพราะเราเชื่อในการเมืองที่ไม่ได้อาศัยหัวคะแนนหรือระบบอุปถัมภ์ เพื่อสร้างบุญคุณกับพี่น้องประชาชน แต่พรรคก้าวไกลยึดหลักการและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะในสภาฯ หรือนอกสภาฯ จะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือ ส.ส.เขต พรรคก้าวไกลพิสูจน์แล้วว่า แม้เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ผลักดันกฎหมายหรือตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างเข้มข้น หากเราได้มีอำนาจบริหารและเป็นรัฐบาล ก็พร้อมจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในอีก 4 ปี

ดังนั้น ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้กลเม็ดใดในการแบ่งเขต เชื่อว่าพี่น้องชาวกรุงเทพฯ จะไว้วางใจมอบคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกล และเชื่อว่าจะแลนด์สไลด์ในกรุงเทพฯ ได้สำเร็จ โดยวันนี้ ขอแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. คนใหม่ ที่ทำให้พรรคก้าวไกลมีว่าที่ผู้สมัครครบทุกเขตในกรุงเทพฯ นั่นคือ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ หรือ ‘แบงค์’

ด้านนายศุภณัฐ กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจร่วมงานกับพรรคก้าวไกลว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่เห็นความเหลื่อมล้ำและความล้าหลังของประเทศ จากการบริหารที่ย่ำแย่ของรัฐบาลยุคปัจจุบัน การเลือกตั้งรอบนี้ ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อว่าจะอยู่กับการเมืองแบบอดีต อยู่กับ 3ป. หรือจะสร้างการเมืองแบบใหม่ที่ดีกว่าเดิม สำหรับตนแล้ว พรรคก้าวไกลคือคำตอบของประเทศ จึงอาสาเข้ามาขับเคลื่อนนโยบายพรรคเพื่อประชาชนทุกคน

“เหตุผลว่าทำไมผมถึงเลือกทำงานกับพรรคก้าวไกล เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลได้พิสูจน์บทบาทในสภาฯ ได้อย่างเด่นชัดที่สุด ว่ากำลังต่อสู้กับระบอบอุปถัมภ์ ทุนผูกขาด” นายศุภณัฐ กล่าว

ด้านนายรังสิมันต์ กล่าวถึงการหาเสียงของพรรคก้าวไกลในช่วงที่ผ่านมาว่า ตลอดสัปดาห์ที่แล้ว แกนนำสำคัญของพรรคก้าวไกลลงพื้นที่หาเสียงในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน คือ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุดรธานี ได้รับการตอบรับดีมาจากประชาชน พี่น้องชาวอีสาน เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยได้อย่างแท้จริง และเชื่อว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งความเปลี่ยนแปลง ที่ไม่พาประเทศไทยกลับไปสู่จุดเดิม
 

‘นิพนธ์’ สยบข่าวบีบ ‘ชัยชนะ’ ไม่ให้ลง ส.ส. เชื่อเจ้าตัวไม่มีเจตนาร้าย ปมปราศรัยด้อยค่า ม.ทักษิณ

'นิพนธ์' ปฏิเสธ ข่าวบิ๊ก ปชป. บีบ ส.ส.ชัยชนะ ไม่ให้ลงสมัคร ส.ส. เชื่อ!! เจ้าตัวไม่มีเจตนาร้าย ยัน!! เป็นกำลังสำคัญสู้ศึกเลือกตั้งที่นครศรีฯ 

วันนี้ (6 มี.ค. 66) นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาปฏิเสธข่าวลือ ที่มีการปล่อยข่าวว่ากรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจและมีการกดดัน ส.ส.ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ว่าจะไม่ให้ลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้ง ว่าไม่เป็นความจริง 

จากกรณีปราศรัยที่ จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 4 ที่ผ่านมา ซึ่งมีความเข้าใจเจตนาที่คลาดเคลื่อนนั้น ต่อมา ส.ส.ชัยชนะ ก็ได้ออกมาขอโทษกรณีดังกล่าวแล้ว โดยส่วนตัวคิดว่า เจ้าตัวไม่ได้มีเจตนาที่จะด้อยค่าสถาบันการศึกษาในประเทศ เพียงแต่ยกตัวอย่างให้เห็นถึงความพร้อมของผู้สมัครที่ต้องการนำความรู้ต่างๆ มาพัฒนาบ้านเกิดให้เจริญรุ่งเรืองเท่านั้น

‘ประชาธิปัตย์’ พัทลุง ส่งเลือดใหม่สู้ศึกเลือกตั้ง มั่นใจกวาดเก้าอี้ ส.ส.ยกจังหวัด หลังเสียงตอบรับท่วมท้น

เวทีปราศรัยใหญ่ พร้อมเปิดตัว 3 ผู้สมัครคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์พัทลุง ที่โรงเรียนพัทลุงคึกคักสุดเหวี่ยงกับรูปแบบการปราศรัยที่เปลี่ยนไปจากเดิม ที่เสริมเติมด้วยความสุขความสนุกผสมกับเนื้อหาเชิงนโยบายของพรรค

สนามกีฬาโรงเรียนพัทลุงเนืองแน่นไปด้วยแฟนคลับประชาธิปัตย์ร่วม 30,000 คน เก้าอี้ที่เตรียมไว้ 9,000 ตัวไม่พอนั่ง เสริมเข้ามาอีก 3,000 ตัวก็ยังเต็ม รอบๆสนามก็นั่งมีคนนั่งฟังก็เต็ม ถนนรอบโรงเรียนรถจอดยาวหลายกิโลเมตร ภาพที่ปรากฏสะท้อนถึงการกลับมาฟื้นคืนของประชาธิปัตย์ในสนามภาคใต้

พัทลุงถือเป็นอีกจังหวัดที่ประชาธิปัตย์ยึดครองมายาวนานแบบ ‘ยกจังหวัด’ เพิ่งจะเมื่อการเลือกตั้งปี 62 ที่เสียที่นั่งให้กับภูมิใจไทย 2 ที่นั่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว ‘นริศ ขำนุรักษ์’ ไว้รักษาหน้าประชาธิปัตย์ไว้ได้บ้าง

‘เรารู้แล้ว เราเข้าใจแล้ว การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เราเผลอไปหน่อย ก็ถูกเพื่อนโจมตี ก็เป็นบทเรียนที่เรารู้แล้ว เราเข้าใจแล้ว’นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยบนเวทีพัทลุง

การเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงประชาธิปัตย์เฟ้นหาหน้าใหม่ - คนรุ่นใหม่เข้ามาเสริมทัพลงสู้ศึกเลือกตั้ง เขต 1 สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.ที่ครั้งที่แล้วพลาดไป คราวนี้เอาใหม่กับความขยันลงพื้นที่พร้อมกับการหอบหิ้วสายเลือด ‘ธรรมเพชร’ เต็มตัวลงสู้ศึก ที่พ่อ ‘สุพัฒน์ ธรรมเพชร’ ไม่น่าจะให้ลูกพลาดอีกแล้ว แม้บางคนบอกว่า ‘บ้านใหญ่ธรรมเพชร’ ไปอยู่รวมไทยสร้างชาติก็ตาม

“ธรรมเพชร ต้อง ‘เสถียร ธรรมเพชร’ พี่เถียรอยู่นี่ นั่งอยู่หลังเวทีเราเนี่ย พี่เถียรคือธรรมเพชรของแท้” นิพนธ์ กล่าวปราศรัยเพื่อยืนยันว่า ธรรมเพชรของจริงยังอยู่กับประชาธิปัตย์

ส่วนเขต 2 ก็เป็นสายเลือดนักการเมืองรุ่นเก๋า ‘ดร.เดย์-ปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี’ ลูกสาวของ ‘สานันท์ สุพรรณชนะบุรี’ อดีต ส.ส.คุณภาพสองสมัยของพัทลุง และอดีตนายก อบจ.พัทลุงสองสมัย ที่บอกกับตัวเองว่า “พอแล้ว” ในวัย 70 ปี พร้อมส่งไม้ต่อให้ ‘ดร.เดย์’ อาจารย์ มอ.ตรัง ผู้รับเลือดพ่อมาเต็มเปี่ยม

เขต 3 ก็เป็นคนรุ่นใหม่กิ๊ก ‘ร่มธรรม ขำนุรักษ์’ ลูกชายของ ‘นริศ ขำนุรักษ์’ ส.ส.5 สมัยของพัทลุง ที่สังกัดประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และยังนั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยอีกด้วย ‘ร่มธรรม’ เป็นนักเรียนทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศจีน จบแล้วไปเป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ในต่างประเทศหลายประเทศ เช่น รัสเซีย

ประชาธิปัตย์เห็นแววมาตั้งแต่เด็ก เมื่อถึงเวลาก็ดันพ่อขึ้นบัญชีรายชื่อแล้วส่งลูกลงสมัครรับเลือกตั้งแทน

นี่คือสามผู้สมัครคุณภาพของประชาธิปัตย์พัทลุงที่ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นรุ่นทายาทที่ได้สายเลือดนักการเมืองมาเต็มๆที่ได้เวลาลงสู่สนามด้วยตัวเองกับประสบการณ์ที่เดิมตามหลังพ่อหาเสียงมายาวนาน

แม้บนเวทีปราศรัย ‘แทน-ชัยชนะ เดชเดโช’ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการประชาธิปัตย์จะพลั้งเผลอไปบ้าง ไปกล่าวพลาดพิงถึง ม.ทักษิณ แต่ทันทีเจ้าตัวก็ออกมายอมรับผิด และขอโทษ ก็ถือว่าเป็นลูกผู้ชายพอ “ผิดแล้วยอมรับผิด”

“ผมกราบขอโทษคณะอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน มหาลัยทักษิณ ทุกคนด้วยครับ

'พุทธิพงษ์' เผยกลยุทธ์หาเสียงเลือกตั้ง ภท.เมืองกรุง มุ่งนำนโยบายเข้าถึง ปชช. ทั้งเคาะประตูบ้าน+สื่อออนไลน์

'พุทธิพงษ์' เผยกลยุทธ์หาเสียงเลือกตั้ง ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งเดินเท้า – เคาะประตูบ้านเข้าหา ปชช. และรุกโซเชียลแจงนโยบายผ่านทุกแพลตฟอร์ม

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีม กทม. พรรคภูมิใจไทย กล่าวผ่านรายการทันข่าวเช้าวันหยุด สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส 5 มี.ค.66 ถึงการหาเสียงเลือกตั้งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยว่า ต้องยอมรับว่าวันนี้โลกเราเปลี่ยนไปมาก แต่แน่นอนว่าการหาเสียงระบบเดิมยังคงต้องใช้อยู่ โดยการให้ผู้สมัครแต่ละคนเร่งเดินเท้า เคาะประตูบ้าน เดินเข้าหาประชาชน พร้อมมีสื่อหรือสิ่งพิมพ์ไปแนะนำนโยบาย ความทุ่มเทประสบการณ์ ความรู้ความสามารถและความตั้งใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วตามระบบการหาเสียง เพื่อขอความเห็นใจขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนก็ต้องใช้การเดินเท้าเคาะประตูบ้าน ซึ่งเชื่อว่าทุกพรรคคุ้นเคยและทำอยู่ ขณะเดียวกันสิ่งที่ต้องปรับขึ้นมาใหม่คือการนำเสนอต่างๆ โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดียต่างๆ ในทุกแพลตฟอร์ม

เยือนถิ่นคนเสื้อแดง!! ‘ก้าวไกล’ ลุยอุดรฯ ชูนโยบาย หยุดวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล ชี้ เลือกทั้งที ต้องเลือกให้ขาด เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง

(5 มี.ค. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ยังคงร่วมกันเดินสายหาเสียงในภาคอีสานอย่างต่อเนื่องที่จังหวัดอุดรธานี โดยในช่วงเช้า ได้ร่วมเดินสายหาเสียงไปกับ นายอานันท์ อมรินทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี พรรคก้าวไกล (อ.ศรีธาตุ, อ.ไชยวาน, อ.วังสามหมอ, อ.กู่แก้ว) ขึ้นรถอีแต๋นแห่หาเสียงไปตามถนนสายหลักของ อ.ศรีธาตุ ก่อนร่วมกันเปิดเวทีปราศรัยที่โรงเรียนศรีธาตุวิทยาคม ท่ามกลางประชาชนชาวศรีธาตุที่ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก

นายปิยบุตรปราศรัยว่า ที่ผ่านมาจากพรรคอนาคตใหม่มาสู่พรรคก้าวไกล เราได้พิสูจน์แล้วว่า เราเป็นพรรคการเมืองที่ทำหน้าที่ในสภาได้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีมวยล้มต้มคนดู อภิปรายทุกครั้งทุกคนยกให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่อภิปรายได้ดีเยี่ยม ไม่มีมองว่ารัฐมนตรีคนไหนเป็นเพื่อนเก่า ไม่มีมองว่ารัฐมนตรีคนไหนช่วยดูแลอยู่ รัฐมนตรีคนไหนประพฤติมิชอบพรรคก้าวไกลอภิปรายแทนประชาชนทั้งหมด

พรรคก้าวไกลยังได้เสนอแนวนโยบายแทนประชาชนหลายเรื่องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งเรื่องการยกเลิกเกณฑ์ทหาร ทั้ง พ.ร.บ.แรงงาน, พ.ร.บ.บำนาญประชาชน, การแก้ปัญหาที่ดิน ฯลฯ หลายกฎหมายถูกนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตีตก ถูกคว่ำร่างกฎหมาย แต่ก็สร้างแรงสั่นสะเทือน ประชาชนสนับสนุนสิ่งที่พรรคก้าวไกลผลักดันอย่างกว้างขวาง ขนาดพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านยังทำได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นรัฐบาลจะทำได้ขนาดไหน

นายปิยบุตรยังกล่าวต่อไป ว่าอุดรธานีขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงคนเสื้อแดง ที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาทุกยุคสมัย ปี 2553 คนที่เข้าไปต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแข็งขันที่สุดก็คือ คนเสื้อแดงอุดรธานี แต่การต่อสู้ในวันนั้นจบลงด้วยการปราบปรามเข่นฆ่า คนเสื้อแดงหลายคนถูกจับดำเนินคดี บาดเจ็บล้มตายกันไป ผ่านไปถึง 13 ปี วันนี้ยังไม่ชำระสะสาง นายทหารที่บัญชาการการสั่งฆ่ายังลอยนวล ไม่มีการนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย แถมยังได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นรัฐมนตรีในวันนี้

แม้แต่ พล.อ.ประวิตร ที่วันนี้เสนอตัวมาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นโซ่ข้อกลางก้าวข้ามความขัดแย้ง ก็เป็นผู้อำนวยการ ศอฉ. ในวันนั้น ทำหน้าที่ปราบปรามสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ถามจริงว่าพี่น้องคนเสื้อแดงยอมให้คนแบบนี้ขึ้นมามีอำนาจได้ต่อไปอย่างนั้นหรือ ใครก็ตามที่ไปร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประวิตรได้ ก็คือคนที่เหยียบหน้าคนเสื้อแดงทั้งประเทศ

สำหรับพรรคก้าวไกลชัดเจนมาตลอด ว่าจะไม่เข้าร่วมกับพรรคทหารจำแลงไม่ว่าพรรคไหนทั้งนั้น ถ้า ครม. วันข้างหน้ามีพรรคทหารจำแลงอยู่ในนั้นเมื่อไหร่พรรคก้าวไกลพร้อมเป็นฝ่ายค้านทันที

“พอกันทีกับการเมืองแบบเดิม ๆ ลูบหน้าปะจมูก ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร ผ่านมา 13 ปี จากเหตุการณ์ปี 2553 คนเสื้อแดงอุดรธานีย่อมจำเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ ความปรองดองอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่ยิงพวกเราตายเสร็จแล้วบอกว่าโทษที ลืม ๆ กันไป ความปรองดองที่แท้จริงต้องมาจากการยอมรับความจริง ชำระสะสางเหตุการณ์ เอาคนผิดมาลงโทษให้ได้” นายปิยบุตรกล่าว

นายปิยบุตรยังกล่าวต่อไป ว่าท่ามกลางสถานการณ์ที่หน้าสื่อวันนี้ เต็มไปด้วยข่าวการย้ายพรรค ดูดตัว ส.ส. กันให้วุ่นวายน่าสับสนไปหมด วันหนึ่งอยู่พรรคสืบทอดอำนาจ อภิปรายด่าฝ่ายค้าน สนับสนุนรัฐบาลเต็มที่ มาอีกวันแค่เปลี่ยนเสื้อก็กลายเป็นฝ่ายประชาธิปไตยไปแล้ว สรุปว่าพรรคการเมืองเป็นที่รวมตัวของคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน หรือเป็นที่รวมตัวของคนอยากเป็น ส.ส. รวมยอดที่นั่ง ส.ส. กันไปแลกเก้าอี้รัฐมนตรีกันแน่

ใครที่ไม่อยากเห็นการเมืองเดิม ๆ แบบนี้อีกแล้ว ขอให้ร่วมกันเลือกพรรคก้าวไกลให้มาก ๆ ส.ส. พรรคก้าวไกล รวมตัวกันด้วยความต้องการเดียวเท่านั้นคือการเปลี่ยนแปลง เราต้องการ ส.ส. จำนวนมาก ๆ เพียงเพื่อไปยกมือให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไปเลือกพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ไปส่งมอบนโยบายที่ดีให้กับประชาชนเท่านั้น

ในส่วนของนายพิธา ระบุว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทุกคนสามารถเลือกเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้ เพื่ออนาคต 60% ของเด็กเล็กในอุดรธานีอยู่ในครอบครัวที่ยากจน เราต้องมีรัฐสวัสดิการให้ลูกเด็กเล็กแดง คืนครูให้กับห้องเรียน ยกเลิกระบบครูเวรทันที โรงเรียนต้องเป็นที่ปลอดภัยของทุกคน เราต้องกระจายอำนาจ เพิ่มอำนาจและงบประมาณให้ท้องถิ่นทุกระดับ ยกเลิกรัฐราชการรวมศูนย์ ไม่ใช่อย่างที่ประยุทธ์ไปพูดผิด ๆ ว่าจะยุบ อบต.

สงขลาเทใจ!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ ปลื้ม!! ผลโพลสำรวจความนิยมในสงขลาขยับขึ้น เผย ดีใจ ‘เพื่อไทย’ ได้มีโอกาสอยู่ในใจของพี่น้องชาวใต้

(5 มี.ค. 66) ที่จังหวัดบุรีรัมย์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจความนิยมในพื้นที่จังหวัดสงขลา เรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นรอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่วนความนิยมพรรคเป็นรอง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า รู้สึกดีใจมาก ได้มีโอกาสอยู่ในใจของพี่น้องชาวใต้ ย้ำว่าการลงพื้นที่ทุกครั้ง ทุกพื้นที่สำคัญกับพรรค พท. และเมื่อมีโพลผลสำรวจที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น และเกิดขึ้นเกี่ยวกับความนิยมของพรรค พท. แน่นอนว่า ทำให้พรรค พท.มีกำลังใจมากขึ้นเยอะ

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสไปลงพื้นที่เพื่อย้ำฐานเสียงความนิยมของพรรค พท.ในภาคใต้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวติดตลกว่า ตารางการลงพื้นที่หาเสียงอยู่ไหน

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท. กล่าวเสริมว่า มีอยู่ภาคใต้ก็มีกำหนดการที่จะลงพื้นที่อยู่

ตะเพิด ‘ชิดชอบ’ ‘อุ๊งอิ๊ง’ นำทัพเหยียบถิ่น ‘เนวิน’ พร้อมชูนโยบาย ‘3 ป.’   ฟากลูกพรรคห้าวจัด ประกาศไล่ ‘ตระกูลชิดชอบ’ พ้นเขากระโดง

‘อุ๊งอิ๊ง’ นำทีมเพื่อไทยบุกถิ่นบุรีรัมย์ ชู นโยบาย ‘3 ป.’ ปราบยาเสพติด-กัญชาเสรี ด้าน ‘ชลน่าน’ พ้อ โดนขวางปราศรัยสถานที่ราชการ ฟาก ‘อดิศร’ ไล่ตะเพิดตระกูลชิดชอบพ้นเขากระโดง

(5 มี.ค. 66) ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย (พท.) เขต 10 อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์​ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย พร้อมด้วยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค, นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค,  นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี, นายอดิศร เพียงเกษ แกนนำพรรค, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ทั้ง 10 เขต ร่วมเวทีปราศรัย ท่ามกลางประชาชนที่เดินทางมาร่วมรับฟังปราศรัยจนล้นพื้นที่

โดย นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า เรายกทัพใหญ่มาพบพี่น้อง พร้อมฝากผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ทั้ง 10 เขต ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ วันนี้มีคนมาฟังปราศรัยหนาแน่นคับคั่งเป็นหมื่นคน แม้สถานที่ถูกจำกัดคับแคบก็ตาม ก่อนหน้านี้เราได้ทำหนังสือใช้สถานที่ราชการที่มีพื้นที่กว้างขวางแต่ไม่มีใครอนุญาตจึงต้องมาใช้สถานที่ตรงนี้ ดังนั้นขอขยายพี่น้องออกไปจาก 1 หมื่นคน เป็น 1 แสนคน และขยายออกไปทั้ง 10 เขต ให้พรรค พท. ได้หรือไม่

นพ.ชลน่าน ปราศรัยต่อว่า ที่ผ่านมาบุรีรัมย์ถูกครอบงำมานาน ย้ำว่าถ้าไม่ได้แลนด์สไลด์ 250 ที่นั่งขึ้นไปเราไม่สามารถเปลี่ยนบุรีรัมย์ได้ และต้องปิดสวิตช์ ส.ว. เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมออกไป ส่วนนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง ให้เงิน 700 บาท 1,000 บาท หรือ 3,000  บาท ใครก็พูดได้ แต่เรายืนยันว่านโยบายทำได้จริง และทำเป็น อีกทั้งประกาศว่าถ้าพรรค พท. เข้ามา ปัญหายาเสพติดจะต้องหมดไป

ด้านนายอดิศร ปราศรัยประกาศไล่ตระกูลชิดชอบออกจากเขากระโดง และให้เจ้าหน้าที่ไปจับกุมนายเนวิน ชิดชอบ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ​และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรค ภท. ได้แล้ว หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีให้นอมินีถือหุ้นแทน รวมทั้งขอให้เอากัญชาออกไปจากพื้นที่ เพราะคนขอนแก่นคนอุดรธานี ไม่เลือกพรรคกัญชาอยู่แล้ว คนบุรีรัมย์ยังจะเลือกอยู่หรือไม่ และขอให้ จ.บุรีรัมย์ อย่าเป็นขี้ปากของใคร

บุกกรุงเก่า!! ‘เสี่ยหนู’ อ้อน ‘ชาวอยุธยา’ เลือก ‘ภูมิใจไทย’ ยกจังหวัด ชู ‘คอนแทรค ฟาร์มมิ่ง’ แก้จนการเกษตร เพื่อชาวนาอยู่ดี กินดี

(5 มี.ค. 66) ที่วัดบางเพลิง อำเภอบางประหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะผู้บริหาร อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เดินทางมาช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือ นายนพ ชีวานันท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หาเสียง ซึ่งในกิจกรรมดังกล่าว มีผู้สมัครเขตอื่นลงพื้นที่ด้วย เช่น นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา เขต 1 และนายประดิษฐ์ สังขจาย ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา เขต 5 โดยมีประชาชน ต้อนรับกว่า 2,000 คน

จับคาด่าน!! ทหารพรานปัตตานี จับยาไอซ์ล็อตใหญ่ ยึดของกลาง 939 กก. มูลค่ากว่า 2 พันล้าน

พ.อ.ภาคภูมิ  จันทรักษ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44  ได้มอบหมายให้ กองร้อยหน่วยขึ้นตรงของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ดำเนินการตั้งจุดตรวจ / จุดสกัด ตามแผนเชิงรุกของหน่วย (ห้วงเวลากลางคืน) เพื่อเป็นการแสดงกำลังในการตรวจสอบยานพาหนะต้องสงสัย, การขนย้ายสิ่งของผิดกฎหมาย, การขนย้ายสารเสพติดทุกประเภท และตรวจสอบบุคคลภายนอกที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่  

จากการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว กำลังพลชุดปฏิบัติหน้าที่ ณ ด่านตรวจเตราะปลิง ต.ทุ่งคล้า อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้ทำการตรวจพบยานพาหนะต้องสงสัย และพบอาการมีพิรุธของผู้ขับขี่ จำนวน 1 คัน ซึ่งกำลังจะขับผ่านด่านตรวจเตราะปลิงฯ กำลังพลในชุดฯ ซึ่งประกอบไปด้วย อาสาสมัครทหารพราน มูฮัมหมัดอีลฮัม  หามะ และ อาสาสมัครทหารพราน อารีย์ หมะเต๊ะ จึงได้ทำการส่งสัญญาณให้ยานพาหนะคันดังกล่าวหยุด เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งในการตรวจสอบ พบเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภท รถกระบะ 4 ประตูสีขาว ยี่ห้อ Ford Ranger เลขทะเบียนรถ 5 กย 7214 กรุงเทพมหานคร ได้ซุกซ่อนยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 78 กระสอบ น้ำหนัก 939 กิโลกรัม จัดเรียงอยู่ภายในท้ายกระบะรถคันดังกล่าว

บุกถิ่นเซราะกราว!! 'ประเสริฐ' ลั่น ‘เพื่อไทย’ เอาจริงสู้ศึกบุรีรัมย์ มั่นใจ ปชช.ตอบรับ แม้กระแสเป็นรอง ‘ภูมิใจไทย’

‘ประเสริฐ’ เผย ลงพื้นที่บุรีรัมย์เอาจริง รับ ‘ภูมิใจไทย’ เป็นคู่แข่ง พร้อมส่ง ‘พรเทพ’ น้องชาย ‘ตี๋ใหญ่’ รักษาแชมป์สุรินทร์

5 มี.ค. 2566 – นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งก่อน พรรคเพื่อไทยไม่มี ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากครั้งก่อนมีการส่งผู้สมัครในนามพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบก่อนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครหลายคนก็ได้รับคะแนนเสียงมา โดยในตอนนี้พรรคเพื่อไทยได้ทำทีมบุรีรัมย์มาระยะหนึ่งแล้ว จึงเชื่อว่ามีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะถึงนี้

นายประเสริฐ กล่าวยอมรับว่า ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทยก็มีกระแสของเขาเอง แต่ก็เช่นเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยที่มีกระแสในพื้นที่ต่างจังหวัดแบบยกจังหวัด ขณะเดียวกัน ยังย้ำว่าการลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงในจังหวัดบุรีรัมย์ครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเอาจริง จะประกาศนโยบายของพรรค โดยที่ประชาชนก็มีความต้องการให้พรรคเพื่อไทยไปปราศรัยหาเสียงด้วย

นายประเสริฐ กล่าวยอมรับด้วยว่า คู่แข่งของพรรคเพื่อไทยคือพรรคภูมิใจไทย ที่มีความหวังจะกวาดที่นั่ง ส.ส. ยกจังหวัดบุรีรัมย์ แต่พรรคเพื่อไทยก็มีความหวังเช่นเดียวกัน

ความคิดสร้างสรรค์!! ‘เนวินธุ์’ ว่าที่ผู้สมัคร รทสช. ไอเดียเก๋ ออกแบบป้ายหาเสียง วัดส่วนสูงได้

เนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์’ ว่าที่ผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ ไอเดียเก๋ ออกแบบป้ายแนะนำตัว สามารถวัดส่วนสูง น้ำหนัก ดัชนีมวลกาย ได้ ชี้ป้ายต้องมีประโยชน์ต่อประชาชน มั่นใจ กระแส “ลุงตู่” มาแน่!!

(05 มีนาคม 2566) นายเนวินธุ์  ช่อชัยทิพฐ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตยานนาวา บางคอแหลม พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลงพื้นที่ย่านถนนเจริญกรุง เดินพบปะประชาชน พร้อมติดป้ายแนะนำตัวแนวใหม่ มีรูปหน้าและชื่อของนายเนวินธุ์ ส่วนด้านล่างเป็นตารางวัดน้ำหนัก ส่วนสูงและมาตรฐานดัชนีมวลกาย ทั้งแบบผู้ชายและผู้หญิง 
 
โดยนายเนวินธุ์ ให้สัมภาษณ์ ถึงป้ายนะนำตัวแนวใหม่แบบสร้างสรรค์ว่า ที่ตนเองทำป้ายในลักษณะนี้ เพราะเป็นมากกว่าการสื่อสารบอกชื่อเรา นโยบาย และพรรคอะไร แต่เป็นป้ายที่มีประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้ด้วย เนื่องจากลงพื้นที่มาพบผู้ป่วยติดเตียงจำนวนมาก เนื่องจากการกินอาหารที่มีไขมันและไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงเป็นสาเหตุให้คนเจ็บป่วยเพิ่มมากขึ้น  

“ผมจึงคิดว่าการรณรงค์เรื่องการดูแลสุขภาพให้ประชาชน เป็นหนึ่งในนโยบายของผม คือการพัฒนาคน พัฒนาเรื่องอาหารการกิน เรื่องที่อยู่อาศัย จึงออกแบบป้ายมาแบบมี ประโยชน์ต่อประชาชนตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ เพื่อให้ตระหนักรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ร่างกายแข็งแรง โดยจะเน้นติดป้ายบริเวณพื้นที่สาธารณะหน้าศูนย์สุขภาพ หน้าโรงเรียน ชุมชน ตามพื้นที่ลานกีฬาจุดต่างๆ ในเขตยานนาวาและบางคอแหลม ให้สามารถมีประโยชน์ต่อประชาชนได้จริง”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top