Wednesday, 8 May 2024
เซาท์ไทม์

นราธิวาส - ผบ.ฉก.นราธิวาส ลาดตระเวนทางน้ำ ติดตามความคืบหน้าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมพื้นที่ชายแดน ตามแผนงานโครงการก่อสร้างรั้วชายแดนไทย - มาเลเซีย

ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ค่ายกัลยาณิวัฒนา ตำบลกะลุวอเหนือ อำเมือง จังหวัดนราธิวาส พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย พันเอก ก่อเกียรติ เข็มแดง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ให้การต้อนรับ พลโท สิทธิพงษ์ จันทรัตน์  ผู้อำนวยการศูนย์บูรณาการระบบ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เดินทางมาตรวจเยี่ยมติดตาม การดำเนินตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมพื้นที่ชายแดน พร้อมทั้งประสานการปฏิบัติกับหน่วยโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมพื้นที่ชายแดน ตามแผนงานโครงการก่อสร้างรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ในรายการจัดหาวัสดุสำหรับก่อสร้างรั้วความมั่นคงอิเล็กทรอนิกส์ตามแนวชายแดน ระยะทาง 6 กิโลเมตร โดยได้รับฟัง การชี้แจงบรรยายสรุปของหน่วยตามแผนงานโครงการก่อสร้างรั้วชายแดนไทย - มาเลเซีย สอบถามปัญกาข้อขัดข้องในการดำเนินงาน

จากนั้น ได้เดินทางต่อไปยัง ด่านศุลกากรตากใบ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เพื่อลงเรือลาดตระเวน ตรวจพื้นที่ในการดำเนินการก่อสร้างรั้วอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 4 ท่าข้าม ได้แก่ 1. ท่าข้ามบันได 2. ท่าข้ามศรีพงัน 3. ท่าข้ามปะลุกา และ 4.ท่าข้ามกัวลอต๊ะ  โดยโครงการก่อสร้างรั้วชายแดน ไทย-มาเลเชีย เริ่มต้นเมื่อปี 2560โดย พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งในขณะนั้น ดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส มีเจตนารมณ์ ต้องการให้ สร้างรั้วป้องกันชายแดนขึ้น จึงให้ชุดควบคุม ป้องกันชายแดน เสนอโครงการขึ้นมา เพื่อป้องกันสกัดกั้นยับยั้ง การลักลอบขนย้าย อาวุธ ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว สิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ และการคัดกรองบุคคล ตลอดจนการป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด -19 หรือ โรคติดต่อ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เพื่อให้พื้นที่ชายแดน มีความมั่นคงปลอดภัยความต้องการงบประมาณที่เสนอขอ ประกอบด้วย 4 รายการ ได้แก่ 1.การก่อสร้างผนังเขื่อนป้องกันตลิ่ง ระยะทาง 7.528 กิโลเมตร 2. การสร้างรั้วตาข่าย ระยะทาง 15 กิโลเมตร  3. การสร้างฐานปฏิบัติการย่อย จำนวน 3 ฐาน และ 4 รั้วความมั่นคงอิเล็กทรอนิกส์ ระยะทาง 6 กิโลเมตร

โดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 คณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการ วิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาให้ผ่านจำนวน 2 รายการ ได้แก่ การก่อสร้างผนังเขื่อนป้องกันตลิ่งระยะทาง 7.528 กิโลเมตร และรั้วความมั่นคงอิเล็กทรอนิกส์ระยะทาง 6 กิโลเมตร ซึ่งแบ่งจ่ายในปีงบประมาณปี 2565 -2567

โดย หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสได้จัดกำลังพลลงพื้นที่ เพื่อพบปะ สร้างความเข้าใจ ถึงเหตุผลและความจำเป็น ในการก่อสร้างรั้วชายแดน และให้ลงนามในหนังสือยินยอม ให้ก่อสร้างรั้วชายแดนในที่ดินของตนซึ่งมีผู้ที่มีที่ดินติดแนวชายแดน จำนวน 293 ราย ได้ยินยอมให้สร้างรั้วชายแดนเพราะเข้าใจในสภาพปัญหาในพื้นที่ และรับทราบว่าในการสร้างรั้วชายแดน ได้เปิดช่องทางบริเวณจุดผ่อนปรนให้สามารถเดินทางเข้า-ออก ตามวิถีชีวิตของประชาชน ตามแนวชายแดน และเหตุผลอีกประการหนึ่งที่ประชาชนที่มีที่ดิน ติดแนวชายแดนยินยอมให้สร้างรั้วชายแดน คือ การที่แนวชายแดน ด้านประเทศมาเลเซียได้สร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งตลอดแนวชายแดนทำให้ตลิ่งฝั่งไทยถูกกัดเซาะมาอย่างยาวนาน

 

นราธิวาส - รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานทอดกฐินสามัคคี ณ วัดศรีภิญโญศรัทธาราม บ้านศรีภิญโญ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

ณ วัดศรีภิญโญศรัทธาราม บ้านศรีภิญโญ หมู่ที่ 6 ตำบลโคกสะตอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางเป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2564 ซึ่งเป็นการทอดกฐินประจำปีครั้งแรกของวัดศรีภิญโญศรัทธาราม จัดขึ้นเพื่อให้ผู้มีจิตและกำลังศรัทธา ถวายปัจจัยสมทบทุนเพื่อนำไปบูรณะทำนุบำรุงศาสนสถาน พัฒนาวัดให้เป็นจุดศูนย์รวมจิตใจ ของพี่น้องพุทธศาสนิกชนในพื้นที่  โดยมีพระสมุห์นพเดช ฐิตเตโช เจ้าอาวาสวัดศรีภิญโญศรัทธาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์, พร้อมด้วยพลตรี เฉลิมพร  ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่15 / ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ,ส่วนราชการในพื้นที่ ตลอดจนพี่น้องพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมในพิธี  โดยมีพี่น้องชาวไทยมุสลิมในบริเวณรอบวัดร่วมช่วยประกอบอาหาร แจกจ่ายให้ผู้เข้าร่วมงาน เนื่องจากชุมชนแห่งนี้ เป็นชุมชน 2 วีถี มีทั้งไทยพุทธไทยมุสลิมอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง เป็นสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้มาตราการการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

สำหรับประเพณีการทอดกฐินสามัคคีครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ได้ร่วมกันสืบทอดอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการทำบุญและปลูกฝัง สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเกิดความรักความหวงแหนในวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามต่อไป โดยปัจจัยที่ได้จากบริวารกฐิน ซึ่งมียอดรวม 999,999 บาท นั้นทางวัดศรีภิญโญศรัทธาราม จะนำไปใช้บูรณปฏิสังขรณ์วัดต่อไป

 

สงขลา - “เฉลิมชัย” ควง “นิพนธ์” ตรวจคลองอาทิตย์ และคลองร.1 มั่นใจแก้ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ - น้ำแล้งสงขลา ทั้งระบบ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม 2564 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกคลองพลเอกอาทิตย์ฯ ม.9 ต.ท่าหินกิน อ.สทิงพระ  จ.สงขลา พร้อมรับฟังการบรรยายสรุป เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและรับทราบปัญหาอุปสรรค โดยมีนายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายไพโรจน์ ศรีละมุน นายอำเภอระโนด และส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่ร่วมติดตามและให้การต้อนรับ

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การขุดลอกคลองพลเอกอาทิตย์ฯ เป็นหนึ่งในโครงการบริหารจัดการน้ำคาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ มีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ และอำเภอสิงหนครจังหวัดสงขลา ที่ผ่านมาประสบปัญหาอุทกภัยมาโดยตลอดเมื่อมีฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระยังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรเป็นประจำ เมื่อมีการรุกตัวของน้ำเค็มถึงทะเลสาบตอนบน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งขณะนี้ได้มีการขุดลอก และขยายคลองพลเอกอาทิตย์ฯ จากความกว้างเดิม 40 เมตรเป็น 70 เมตร และขุดขยายคลองหนัง บริเวณ อำเภอสทิงพระ เพื่อเพิ่มความสามารถในการเก็บกักน้ำ ก่อสร้างแก้มลิงรวมไปถึงปรับปรุงแก้มลิงเดิมเพื่อเพิ่มความสามารถในการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ก่อสร้างระบบกระจายน้ำจากแหล่งน้ำต้นทุนต่าง ๆ เข้าสู่พื้นที่การเกษตร ก่อสร้างสถานีสูบน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ซึ่งหากแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บน้ำจาก 2 ล้าน ลบ.ม. เป็น 7 ล้าน ลบ.ม. หรือมากกว่าเดิมกว่า 3 เท่าตัว โดยสามารถเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 12,000 ไร่ โดยมีแผนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2566 

ต่อจากนั้น ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และท่านนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาติดตามความก้าวหน้าโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ (ระยะที่ 2) ณ สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในตัวเมืองหาดใหญ่ และเก็บกักน้ำไว้สำหรับการเพาะปลูกด้านการเกษตร ผลิตน้ำประปาเพื่ออุปโภค อุตสาหกรรม สนองความต้องการใช้น้ำในด้านต่าง ๆ ในจังหวัดสงขลาที่กำลังขยายตัว

โดยการดำเนินงานจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองระบายน้ำ ร.1 ซึ่งเดิมสามารถระบายน้ำได้ 465 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็น 1,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เมื่อรวมกับอัตราการระบายน้ำของคลองอู่ตะเภาที่ระบายน้ำได้ 465 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จะทำให้สามารถระบายน้ำได้สูงสุดรวม 1,665 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และเป็นแหล่งน้ำสำรองในช่วงฤดูแล้งประมาณ 5.00 ล้านลูกบาศก์เมตร มีระยะเวลาโครงการ 8 ปี (พ.ศ.2558 – 2565) วงเงินงบประมาณ 6,500 ล้านบาท

สตูล - ผู้ว่าฯ รับมอบเตียงสนามแอร์โรคลาส พร้อมชุดเครื่องนอน จำนวน 70 ชุด มูลค่า 210,000 บาท เพื่อส่งต่อให้โรงพยาบาลสนามในจังหวัดสตูล

วันนี้ 18 ตุลาคม 2564 ที่บริเวณหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดสตูล อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล และนายจรัส บำรุงเสนา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล ร่วมรับมอบเตียงสนามแอร์โรคลาส พร้อมชุดเครื่องนอน จำนวน 70 ชุด มูลค่า 210,000 บาท ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด และบริษัท แอร์โรคลาส จำกัด พร้อมด้วยเครื่องอุปโภค-บริโภค ได้แก่ ข้าวสาร น้ำดื่ม เจลแอกอฮอล์และหน้ากากอนามัย จากนายธเนตร์ กรอบเพชร กรรมการผู้จัดการ TJM SU Autotire และกลุ่มออฟโรดTJM SV Autotire เพื่อส่งต่อให้โรงพยาบาลสนามในจังหวัดสตูล

นอกจากนี้ กลุ่มออฟโรดTJM SV Autotire ได้สาธิตวิธีการประกอบเตียงอีกด้วย โดยเตียงสนามแอร์โรคลาสผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูงและวัสดุเดียวกันกับที่ใช้ผลิตเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลชั้นนำทั่วไป น้ำหนักเบา แข็งแรง อายุการใช้งานยาวนาน สามารถรับน้ำหนักได้กว่า 200 กิโลกรัม ติดตั้งได้รวดเร็ว และที่สำคัญคือสามารถทำความสะอาดและฆ่าเชื้อได้ง่าย ไม่มีปัญหาเรื่องการสะสมของเชื้อโรค โดยส่งมอบให้กับศูนย์พักคอย (Community Isolation) และโรงพยาบาลสนามที่ต้องการใช้งานต่อไป

กระบี่ - รับมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ และสิ่งของใช้จำเป็นจำนวน 716 กล่อง มูลค่ากว่า 800,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด -19 ในโครงการ "ช่วยด้วย ช่วยคุณจาก โควิดได้ถึงบ้าน”

วันนี้ 15 กันยายน 2564 ที่ศาลากลาง จ.กระบี่ อ.เมือง จ.กระบี่ นายพุฒิพงศ์  ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่  เป็นประธานในการรับมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์และสิ่งของใช้จำเป็นจำนวน 716 กล่อง มูลค่ากว่า 800,000 บาทเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด -19 ในจังหวัดกระบี่ โดยมี ผศ.ดร.พิชญ์สินี ขาวล้วน ผู้บริหารโรงเรียนด็อกเตอร์หนึ่งอินเตอร์แคร์กระบี่ และศูนย์พื้นฟูดูแลผู้สุงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงด็อกเตอร์อินเตอร์แคร์ ร่วมกับทีมโครงการ "ช่วยด้วย ช่วยคุณจาก โควิดได้ถึงบ้าน"

นำโดย ทีมนายแพทย์อนุชา พาน้อย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Doctor A to Z นางกรรณิการ์ จำป่าพันธ์ ผู้ก่อตั้งโครงการช่วยด้วย COO&CO Founder Doctor A to Z พว.นิตยา ชไนศวรรย์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบางกอกเฮลท์แคร์เซอร์วิสจำกัด ร่วมกันมอบสิ่งของบริจาค ยาและเวชภัณฑ์ ทางการแพทย์และสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดในจังหวัดกระบี่ และได้ส่งมอบต่อให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ เพื่อนำไปให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีความจำเป็นต้องรักษาตัวที่บ้านภายในวิกฤตเตียงเต็มปัจจุบัน และหายป่วยเป็นจำนวนมากทางโครงการและผู้สนับสนุนจึงประสงค์ที่จะขยายความช่วยเหลือผู้ป่วยเป็น 2,000 คน ในจังหวัดกระบี่

ชุมพร - ชู 'Sand Dune' เนินทรายงาม แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ หนึ่งเดียวของเมืองไทย!!

จังหวัดชุมพรชู  'Sand Dune' หรือเนินทรายงามแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่หนึ่งเดียวของเมืองไทยพลิกภาพจากเมืองผ่านสู่เมืองต้องแวะที่อุดมด้วยแหล่งท่องเที่ยวและของดีครบวงจร ในอดีตจังหวัดชุมพรที่เป็นประตูสู่ภาคใต้มักจะเป็นเมืองที่มาไม่ถึง หรือไม่เป็นเมืองผ่านเพื่อไปสู่จังหวัด ยอดนิยมทำให้พลาดโอกาสสัมผัสความงดงามและเสน่ห์ของเนินทรายชุมพร ยุคสมัยก่อนต่างมองว่าขุมพรเป็น เมืองป่าเมืองดงห่างไกลความเจริญเป็นแค่ทางผ่าน แม้แต่บทเพลงชื่อดังยุคนั้นอย่าง "ไอ้หนุ่มชุมพร'ยังบันทึกไว้ ว่าหนุ่มจากชุมพรอุตส่าห์ดั้นด้นไปจีบสาวถึงสุราษฎรธานี ที่ยังโดนสาวบ้านดอนสาวเกาะสมุยหักอกจนชอกช้ำไม่มี ชิ้นดีต้องชมซานกลับบ้านเก่า แต่ปัจจุบันนี้ชุมพรเปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่ กำลังเจียระไนไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวหลังวิกฤตโควิด-19 นี้ในการท่องเที่ยววิถีใหม่

วันนี้ (12 ต.ค. 64) นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายบุญเสริม ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ร่วมประชุมเพื่อประชาสัมพันธ์การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายงาม (Sand Dune) อำเภอ ปะทิว จังหวัดชุมพร โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมประชุมแสดงความคิดเห็น ณ โรงแรมเอ เต้ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร และเชื่อมต่อกับผู้เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์  ณ ร้าน  Helio Beach Club อำเภอ ปะทิว ร่วมแสดงความคิดเห็น

โดยกรมการท่องเที่ยว ได้มอบหมายให้บริษัท เทสโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาดำเนินการโครงการ จัดทำ แผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายงาม (Sand Dune ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศต้นแบบเพื่อรองรับการ ท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal ตามเส้นทาง Scenic Route บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเชื่อมโยง กับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งในจังหวัดชุมพร และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายงาม (Sand Dune) อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเนิน ทรายแห่งเดียวในประเทศไทย เกิดจากปรากฎการณ์ธรรมชาติที่ประกอบเข้าด้วยกันหลาย ๆ ปัจจัย คือ การยกตัวของ ชายฝั่งอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน การขึ้นลงของระดับน้ำทะเล การตั้งอยู่ในพื้นที่กระแสลมแรง เม็ด ทรายชายทะเลที่มีขนาดเล็กมากและน้ำหนักเบาสามารถล่องลอยตามกระแสลมพัดพาไปสะสมในระยะไกล ๆ ได้ ทำ ให้มีความหลากหลายของพันธุ์ไม้ ทั้งพันธุ์ไม้ประจำถิ่น และพันธุ์ไม้จากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เนินทรายงามดังกล่าว มีความเป็นเอกลักษณ์ มีพันธุ์พืชที่ขึ้นอยู่ในระบบนิเวศป่าเนินทราย ซึ่งหาดูได้ยากในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทย

ประกอบกับแหล่งท่องเที่ยวเนินทรายงามตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศอื่น ๆ ทั้งในเขตจังหวัด ชุมพร และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อาทิ โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ จังหวัดชุมพร ธนาคารปู แหล่งดำน้ำเกาะร้าน เป็ดร้านไก่ หาดบางเบิด หาดทุ่งวัวแล่น ซึ่งล้วนแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ ได้รับความนิยมบนเส้นทาง Scenic Route เลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย

 

นราธิวาส - ‘ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์’ รมช.ศธ ลงพื้นที่นราธิวาส เปิดท้องฟ้าจำลอง และนิทรรศการ ‘Puzzling Things’เพื่อสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมอุดมปัญญา ยกระดับการศึกษาและคุณภาพชีวิตชาวนราธิวาส

ที่อาคารดาราศาสตร์ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานราธิวาส อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดท้องฟ้าจำลอง และนิทรรศการ Puzzling Things

โดยมีนายบุญพาศ รักนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายสุชาติ ถาวระ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานราธิวาส นายสุรศักดิ์ อินศรีไกร เลขาธิการ กศน. ดร.ชนินทร วรรณวิจิตร รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ดร.ชาร์รีฟท์ สือนิ ศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรม

ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า อยากให้ชาวนราธิวาสในทุกช่วงวัย ทุกครอบครัวมาใช้บริการที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ แห่งนี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ในอนาคต ก็จะได้มีความรู้พื้นฐานและเป็นการสานฝันทำให้ทุกคนได้เข้าถึงวิทยาศาสตร์ได้อย่างเรียบง่าย และเข้าใจได้ง่าย

กระบี่ - บรรยากาศวันรับสมัครเลือกตั้ง สมาชิก อบต. และ นายกอบต. ทั้ง 46 แห่งในจังหวัดกระบี่ ท่ามกลางกองเชียร์ให้กำลังใจพร้อมนำรถแห่ออกหาเสียง คาดเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 70

วันที่ 11 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการรับสมัครเลือกตั้ง สมาชิก อบต. และนายกอบต.ทั้ง 46 แห่งในจังหวัดกระบี่  ซึ่งมีกำหนดรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 11-15 ต.ค.64 บรรยากาศการับวันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก มีว่าที่ผู้สมัคร สมาชิก อบต. และนายกอบต. เดินทางมาลงสมัคร ตั้งแต่ช่วงเช้า

โดยมี ผู้สนับสนุนเดินทางมาร่วมให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจคัดกรอง ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บริเวณทางเข้า ก่อนเข้าไปยื่นใบสมัคร    

เช่นที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลทับปริก อ.เมือง กระบี่ ได้มีผู้สมัคร นายกอบต. นำสมาชิกมาลงสมัคร ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อน เปิดทำการในเวลา 08.30 น. โดยผู้ลงสมัครนายกอบต. คนแรก ได้แก่ นายจำเริญ นวลวิจิตร อดีตประธานสภาอบต.ทับปริก ได้เดินทางมาลงสมัครเป็นคนแรก พร้อมสมาชิกครบทุกเขต ตามด้วย ด.ต.สุรศักดิ์ เกิดสุข น้องชายกำนันตำบลทับปริก นำลูกทีมมาลงสมัคร ครบทุกเขตเช่นกัน

ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบล ไสไทย อ.เมืองกระบี่ บรรยากาศ.คึกคักไม่แพ้กัน มีอดีนายก อบต.2 สมัยที่ผ่านมา ได้เดินทางมาลงสมัคร ชิงตำแหน่งนายกอบต.นอกจากนี้ยังมีผู้มัครอิสระเดินทางมาลงสมัครอย่างต่อเนื่อง

 

กระบี่ - “อนุทิน” อนุมัติวัคซีน sinovac - AstraZeneca จำนวน 500,000 โดส พร้อมส่งมอบพื้นที่เป้าหมาย เพื่อเปิดเมืองพื้นฟูเศรษฐกิจ - การท่องเที่ยว พร้อมให้กำลังใจข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด-19

วันนี้ (7 ตุลาคม 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ ตรวจเยี่ยมการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID -19) พื้นที่จังหวัดกระบี่  โดยมี  นายพุฒิพงศ์  ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวต้อนรับ เข้าร่วมประชุม รับและส่งมอบวัคซีนจาก ผู้บริหารจากทั้ง 2 กระทรวง โดยมี องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมพนมเบญจา (ชั้น) 5 ศาลากลางจังหวัดกระบี่

จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 2019 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกนับตั้งแต่ เดือนมกราคม 2563 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ชะลอตัวไปจนถึงหยุดชะงัก ร้านอาหาร ห้างร้าน โรงแรม และกิจกรรมการท่องเที่ยวต้องหยุดให้บริการ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว รัฐบาลได้ประกาศ "เปิดประเทศ" ไว้เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564 เดินหน้าแผนระยะที่ 1 โดยทำการทดลองเปิดพื้นที่นำร่องในรูปแบบ Sandbox ซึ่งจังหวัดกระบี่ เริ่มเปิดเกาะพีพี เกาะไหง หาดไร่เล  ก่อนแผนระยะที่ 3 เป็นการผ่อนผัน ในเรื่องของระยะเวลาในการทำกิจกรรมในสถานที่ต่าง ๆ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 และแผนระยะที่ 3 การเปิดจังหวัด เปิดประเทศ ในเดือนพฤศจิกายน 2564

จังหวัดกระบี่ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว พื้นที่นำร่องระยะแรกที่พร้อมจะเปิดจังหวัด  จึงกำหนดเป็นนโยบายให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างน้อย ร้อยละ 70 หรือประมาณ 352,653 คน จากประชากรทั้งหมดประมาณ 504,00 คน ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มหนึ่งแล้วทุกคนจะได้รับวัคซีนเข็มสองภายใน เดือนตุลาคมนี้ คิดเป็นร้อยละ ๓๘ กระทรวงสาธารณสุขยังคงเร่งให้วัคซีนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ครบตามเป้าหมายโดยเร็วที่สุด เพื่อเปิดเมือง  พื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว พร้อมส่งมอบวัคซีน จำนวน 500,000 โดส

  

กระทรวงสาธารณสุขมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะให้การเปิดประเทศครั้งนี้ ไม่ก่อให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งให้ความสำคัญกับทั้งสุขภาพประชาชนควบคู่ กับเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 จึงเป็น "วาระแห่งชาติ"ที่ประชาชนในแผ่นดินไทยจะต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 70% หากประชาชน มีความประสงค์จะเข้ารับวัคซีนมากกว่านั้น กระทรวงสาธารณสุขก็ได้เตรียมวัคซีน สำหรับปี 2564 ไว้ถึง 125 ล้านโดส วัคซีนทางเลือก 27 ล้านโดส รวมถึง การได้รับบริจาคจากประเทศต่าง ๆ มาเป็นระยะ 

 

สตูล - เปิด “ศูนย์ผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน” เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรเมทร รามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

วันนี้ 4 ตุลาคม 2564 ที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชน (ศูนย์สารภี) ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ร่วมรับชมพิธีเปิด “ศูนย์ผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน” ผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิด จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลเป็นประธานในพิธีเปิดป้าย“ศูนย์ผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน” เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรเมทร รามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เพื่อเป็นศูนย์ดำเนินงานผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัดสตูล และปล่อยปลา ปลูกต้นไม้ และโอกาสนี้ผู้ว่าราชการสตูล ได้มอบสิ่งของอุปโภค-บริโภคให้แก่กลุ่มเปราะบางในพื้นที่อำเภอละงู ผ่านนายธานี หะยีมะสาและ นายอำเภอละงู จำนวน 22 ชุด อีกด้วย

กรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดให้มีโครงการส่งเสริมการขับเคลื่อนการดำเนินงานผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน จำนวน 76 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 71 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 และจัดตั้งเป็นสถานที่บ่มเพาะภาวะผู้นำ ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน และการบริหารจัดการชุมชน เพื่อการพึ่งตนเองอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นศูนย์ประสานงานภาคีเครือข่ายจิตอาสาพัฒนาชุมชน ระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชนและภาคีการพัฒนาในพื้นที่ทั้ง 7 ภาคส่วน โดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ สร้างเสริมอุดมการณ์ การทำงานเพื่อสาธารณะ ในรูปแบบผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน ที่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อชุมชน มีบทบาท มีส่วนร่วมในการพัฒนาและเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกรมการพัฒนาชุมชน กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมการเปิดป้าย “ศูนย์ผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน” ในส่วนภูมิภาคพร้อมกันทั่วประเทศ

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top