Monday, 20 May 2024
เซาท์ไทม์

สตูล - หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.ฉีดวัคซีนพระราชทานซิโนฟาร์ม ให้แก่กลุ่มผู้นำศาสนาอิสลาม พระภิกษุสงฆ์ และประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้ด้อยโอกาส รวมถึงผู้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หลังได้รับวัคซีนมาจำนวน 5,000 โดส

ที่ศูนย์ฉีดวัคซีน อาคาร 100 ปี สธ. โรงพยาบาลสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิดและตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนพระราชทาน ซิโนฟาร์ม ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) โดยมีผู้รับบริการเป็นกลุ่มผู้นำศาสนาจากทั้ง 7 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 1,166 ราย มารับบริการที่ศูนย์ฉีดวัคซีนโรงพยาบาลสตูล โดยมีอาสาสมัครหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดสตูล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสตูล ให้บริการฉีดวัคซีนตั้งแต่เวลา 08.30 น. จนถึง 16.00 น.  

สำหรับวัคซีนพระราชทาน ซิโนฟาร์ม เป็นวัคซีนทางเลือกที่ได้รับพระราชทานจาก จาก ศาตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน์ วรขัตติยราชนารี  โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร่วมกับ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ที่จะฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ที่ยังไม่ได้เคยรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดใดมาก่อน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในพื้นที่จังหวัดสตูล การฉีดวัคซีนพระราชทานได้ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้าถึงวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม และได้รับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร่วมกับ มูลนิธิ พอ.สว. ได้จัดสรรวัคซีนพระราชทาน ซิโนฟาร์ม จำนวน 5,000 โดส เพื่อฉีดให้กับชาวจังหวัดสตูล จำนวน 2,500 ราย (รายละ 2 โดส) ใน 7 อำเภอของจังหวัดสตูลโดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบนัดของวัคซีน ผู้นำศาสนา และประชาชนผู้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล


ภาพ/ข่าง  นิตยา แสงมณี / ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

นราธิวาส - ผบ.ฉก.นราธิวาส ตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ประจำด่านตรวจ-จุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย เน้นย้ำการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่

พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ /จุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย ในพื้นที่ อำเภอ สุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส จำนวน 2 ด่าน ได้แก่  1.ด่านตรวจโคกสยา และ 2. ด่านโคกมะเฟือง เพื่อพบปะเยี่ยมเยียน มอบนโยบายในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ โดยกำชับ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ให้ช่วยกันดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยเน้นการปฎิบัติงานแบบการบูรณาการร่วมกัน 3 ฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวมถึงได้กำชับกำลังพลเรื่องการตั้งด่าน โดยเฉพาะด่านเข้า-ออกเมือง หรือตามป้อมจุดตรวจ ให้มีความเข้มข้น จะมีการตั้งด่านแบบไม่เป็นเวลา เพื่อไม่ให้เป็นเป้าต่อการโจมตีหรือก่อกวนของผู้ไม่หวังดี นอกจากนี้ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้เน้นย้ำให้กำลังพลดูแลตนเอง ปฏิบัติตนตามมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid – 19 อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสได้มอบเครื่องดื่ม อาหารว่างและอุปกรณ์ป้องกันตนเอง ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจ / จุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานต่อไป


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

ชุมพร - 'จุรินทร์' ติดตามความหน้า...การประกันรายได้สินค้าเกษตร และคืนโฉนดที่ดินให้สมาชิกกองทุนฯ ชุมพร พร้อมมอบเช็คฟื้นฟูอาชีพ-เช็คชำระหนี้ กว่า 9.2 ล้านบาท

จุรินทร์ลงพื้นที่จังหวัดชุมพรติดตามความคืบหน้า และประชาสัมพันธ์โครงการ ประกันรายได้สินค้าเกษตร พร้อมกับการคืนโฉนดที่ดินให้สมาชิกกองทุนฯ ชุมพร พร้อมมอบเช็คฟื้นฟูอาชีพ-เช็คชำระหนี้ กว่า 9.2 ล้านบาท รองนายกรัฐมนตรี "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" ประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร(กฟก.) เป็นประธาน มอบคืนโฉนดให้กับสมาชิก กฟก.ชุมพร 29 รายที่ชำระหนี้ครบตามสัญญา มอบเช็คเงินโครงการฟื้นฟูฯ 3.6 ด้านบาท พร้อมแก้ปัญหาหนี้ให้เกษตรกรด้วยการชำระหนี้แทนสหกรณ์กว่า 5 แสนบาท

วันที 11 กันยายน 2564 กองทุนพื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) จังหวัดชุมพร มีการจัดกิจกรรม "มอบเช็คชำระการฟื้นฟูอาชีพ และมอบโฉนดที่ดินคืนให้เกษตรกรสมาชิกกองทุนฯ จังหวัดชุมพร" ณ โครงการ หนองใหญ่ในพระราชดำริ ตำบลบางลีก อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประชานในพิธี และมี นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร  นายชุมพล จุลใสสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 1 จังหวัดชุมพร นายสราวุธ อ่อนละมัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 2 จังหวัดชุมพร นายอุดม ศรีสมทรง  พาณิชย์จังหวัดชุมพร นายธีระศักดิ์ ยมสวัสดิ์ เกษตรจังหวัดชุมพร  นายนพพร อุสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ประธานกรรมการบริหารกองทุนฯ นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฯ ตัวแทนจากองค์กร หน่วยงานราชการต่าง ๆ และสมาชิกเกษตรกรเข้าร่วมงาน

นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าว่า ขอบคุณท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิยย์ และคณะที่ให้เกียรติมาตรวจเยี่ยมพื้นที่จังหวัดชุมพร และเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าและประชาสัมพันธ์โครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร มอบเช็คชำระหนี้ และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้แก่เกษตรกรจังหวัดชุมพร จังหวัดชุมพร มีประชาคร 509,292 คน แบ่งการปกครองเป็น 8 อำเภอ โดดเด่นในเรื่อง เกษตรกรรม และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า "ชุมพรเมืองน่าอยู่ บนพื้นฐาน การเกษตรกรรม และการท่องเที่ยวคุณภาพ เชื่อมโยงการพัฒนาสองฝั่งทะเล" สินค้าเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ปาส์มน้ำมัน ยางพารา ทุเรียน กาแฟ และมะพร้าว ผลิตภัณฑ์ชุมขนที่สำคัญ ได้แก่ ผลผลิตจากกล้วยเล็บมือนาง กาแฟ 3 ก 1 อาหารทะเลแปรรูป เป็นตัน

สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดชุมพร ได้แก่ หาดทรายรี หาดทุ่งวัวแล่น ศาลพ่อตาหินช้าง หลาดกล้วยพ่อตา เขามัทรี เกาะพิทักษ์ หลาดใต้เคี่ยม ปัจจุบันได้รับความนิยม แพร่หลายจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างความเข้มแข็ง ทางเศรษฐกิจและแช่งขันได้อย่างยั่งยืน โดยการยกระดับการผลิตสินค้าเกษตร ซึ่งโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ที่สำคัญของจังหวัดทุมพร จากข้อมูล ปี 2562 จังหวัดชุมพร มีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) 116,164 ล้านบาท รายใต้เฉลี่ยต่อหัว 232,817 บาท/คน/ ปี รายได้ส่วนใหญ่มาจากภาคเกษตรกรรม ร้อยละ 54.62 รองลงมาภาคบริการ ร้อยละ 36.82 และภาคอุตสาหกรรม ร้อยละ 8.56 จังหวัดชุมพร มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน จำนวน 1,045.017 ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิต 1,010,522 ไร ,950,724 ตัน ต้นทุนการผลิต 8,639.15 บาท/ไร่ ต้นทุนการผลิต 3.01 บาท/กก. มีโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน จำนวน 36 โรง โรง A จำนวน 14 โรง โรง B จำนวน 14 โรง โรงงานไบโอดีเซล จำนวน 1 โรง โรงสกัดเมล็ดใน จำนวน 5 โรง และคลังรับฝากจำนวน 2 โรง มีลานเทรับซื้อผลปาล์ม จำนวน ราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันหน้าโรงงาน ปี 2564 (ม.ค. ส.ค.) ราคา 6.21 บาท/กก. ราคาน้ำมัน CPO 35.55 ปอร์เซ็นต์ น้ำมัน 17.86 ปริมาณการรับซื้อผลปาล์ม ปี 2564 (ม.ค.-ส.ค.) จำนวน 1,490,622,829 ตันโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี ระหว่างปี 2562 - 2564 มีการประกันรายได้ จำนวน 7 ครั้ง เกษตรกร จำนวน 54,418 ราย จำนวนเงิน 1,219.081 ล้านบาท ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2653 เนื่องจากปัจจุบัน ราคาผลปาล์มทะลายสูงกว่าราคาเป้าหมาย กก.ละ 4บาท จึงไม่มีการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน

จังหวัดชุมพร ได้กำหนดแนวทางการดำเนินการส่งเสริมการผลิตปาล์มน้ำมันคุณภาพ ภายใต้ชุมพรทีม ร่วมกำหนดนโยบายยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้าน การตลาดในการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดน้ำมันปาล์ม ให้มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงขึ้นจาก 17 % เป็น 18-19 %เพื่อ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรในอัตรา 300 บาท/ตัน และส่งผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม (GPP) จังหวัดชุมพร ภาคการเกษตร (ปาล์มน้ำมัน) เดือนสิงหาคม 2564 มูลค่ารวม 9,477.17 ล้านบาท นอกจากนี้ คณะทำงานชุมพรทีมได้ลงพื้นที่พบปะหารือกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ลานเท และโรงสกัดน้ำมัน ปาล์มอย่างต่อเนื่อง รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมการผลิ ให้เกิดความยั่งยืนต่อไป พี่น้องชาวชุมพรได้รับสิ่งดีๆ จากกิจกรรมที่เกิดขึ้น และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนพื้นฟู ในการประชุมครั้งนี้ เกษตรกรสร้างรายได้และมีอาชีพมั่นคงอย่างยั่งยืนตลอดไป 


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร

ตราด - ผบ.ทร. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1

วันที่ 8 กันยายน 2564 เวลา 10.30 น. พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อม นางจุฬารัตน์ ศรีวรขาน นายกสมาคมภริยาทหารเรือและคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 อ.แหลมงอบ จ.ตราด โดยมี พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 นางนุชนภา อินทร์พรหม ประธานชมรมภริยาทหารเรือ ทัพเรือภาคที่ 1 และ นาวาเอก ปฏิรูป อยู่พรหม ผู้บังคับการฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 ให้การต้อนรับ

การตรวจเยี่ยมฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 ในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนการเดินทางตรวจเยี่ยมหน่วยในพื้นที่ชายแดน จังหวัดจันทบุรีและตราด เพื่อเป็นการขอบคุณกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ห่างไกล ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ตลอดปีที่ผ่านมาอย่างเต็มกำลังความสามารถ

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ลงนามในสมุดตรวจเยี่ยม พร้อมมอบเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพล รวมถึงกล่าวให้โอวาท โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า “ขอแสดงความชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถในรอบปีที่ผ่านมา จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และได้รับการยอมรับจากหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลาที่ผมปฏิบัติราชการในกองทัพเรือมากกว่า 37 ปี มีความเชื่อมั่นอยู่เสมอว่า ทุกหน่วยงานของกองทัพเรือ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก ล้วนเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญเท่าเทียมกัน เพราะทุกหน่วยงานเป็นกลไกอันสำคัญยิ่ง ในการช่วยกันขับเคลื่อนกองทัพเรือให้เจริญก้าวหน้ามาถึงทุกวันนี้”

“พลังสามัคคี พลังราชนาวี”


ภาพ/ข่าว  ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 / กองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

นราธิวาส - สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้ คณะบุคคลต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท

วันนี้ 7 กันยายน 2564 เวลา 09.00 น. นายเจษฎา  จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส  นางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนายวารินทร์ บุษบรรณ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายกัส ยะมาแล เกษตรจังหวัดนราธิวาสและคณะข้าราชการจังหวัดนราธิวาส และกรรมการมูลนิธิพัฒนาเกษตรอนามัยในพระบรมราชูปถัมภ์

เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายผลไม้และของดีจังหวัดนราธิวาส จำนวน 114 กล่อง แด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตาม  พระราชอัธยาศัย ณ วังสระปทุม กรุงเทพมหานคร


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ​ หะไร​ จ.นราธิวาส

สตูล - ผู้ว่าฯสตูล พร้อมด้วย สำนักงานคณะกรรมการอิสลาม ร่วมกับองค์กรมุสลิม เดินหน้ามอบถุงปันสุข ให้แก่ผู้ที่กักตัว และจะส่งมอบให้พื้นที่ต่าง ๆ ครบทั้ง 7 อำเภอ

วันนี้ 7 กันยายน 2564 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายอรุณ อุมาจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล ร่วมกับองค์กรมุสลิมในจังหวัดสตูล นาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล,นายยาลา ใบกาเด็ม นายอำเภอเมืองสตูล ร่วมส่งมอบถุงปันสุข โดยผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ เพื่อส่งมอบให้กลุ่มเสี่ยงที่กักตัวเองที่บ้าน ในพื้นที่อำเภอเมืองสตูล 3 แห่ง ประกอบด้วย ตำบลฉลุง 34 ถุง, ตำบลบ้านควน 30 ถุง และเขตเทศบาลคลองขุด (วัดหน้าเมือง) 100 ถุง ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมคณะ ได้เดินมอบถุงปันสุข ถึงครัวเรือน พร้อมให้กำลังผู้ที่กักตัวด้วย

นายอรุณ อุมาจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล กล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล ร่วมกับองค์กรมุสลิมในจังหวัดสตูล มีแนวคิดจะจัดกิจกรรมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในจังหวัดสตูลที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยการเดินหน้ามอบถุงปันสุข ให้แก่ ผู้ที่กักตัวที่ LQ , HQ และเยียวยาครอบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในเบื้องต้น และผู้ที่ได้รับผลกระทบในด้านของการประกอบอาชีพ ทั้ง 7 อำเภอในพื้นที่จังหวัดสตูล

ทั้งนี้ นายอรุณ อุมาจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล เชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมแบ่งปันน้ำใจบริจาคเงินสมทบทุน ในโครงการคนสตูลจะดูแลกัน ร่วมบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี สนง.กอจ.สตูล โครงการคนสตูลจะดูแลกัน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เลขที่บัญชี 586-1-28877-1 หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 089-8785731 และ 081-7987303


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี / ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

สงขลา - ม.อ. ลงนาม ศอ.บต. หนุนนักเรียนจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าเรียนคณะทรัพย์ฯ พร้อมสร้างเกษตรกรยุคใหม่

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดย คณะทรัพยากรธรรมชาติ ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการพิเศษรับนักเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าศึกษา ณ คณะทรัพยากรธรรมชาติ” โดยมี ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ผศ. ทวีศักดิ์ นิยมบัณฑิต รักษาการแทนคณบดีคณะทรัพยากรธรรมชาติ ร่วมลงนาม ณ ห้องประชุม 260 อาคาร 2 ชั้น 2 คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 64

​ผศ. ทวีศักดิ์ นิยมบัณฑิต รักษาการแทนคณบดีคณะทรัพยากรธรรมชาติ กล่าวว่า การลงนามในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี ณ คณะทรัพยากรธรรมชาติ ม.อ. แก่นักเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 และนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 ควบคู่ศาสนา ที่เป็นต้นแบบดีเด่นด้านการเกษตร จากโครงการสนองแนวพระราชดำริฯ “ครัวโรงเรียนสู่ครัวบ้าน” ของ ศอ.บต. ซึ่งเป็นนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกในระดับจังหวัด และเข้ารับรางวัล จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

​ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ กล่าวว่า ภารกิจการสร้างคนที่มีคุณภาพเป็นหนึ่งใน 3 ภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นั่นคือ การสร้างคนที่มีคุณภาพ สร้างความรู้และนวัตกรรมเพื่อใช้ในการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้และประเทศ และการสร้างความเป็นนานาชาติให้เกิดขึ้นในประเทศซึ่งเป็นด่านหน้าของอาเซียน การพัฒนากำลังคนจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ในพื้นที่ แต่รวมถึงประเทศในภูมิภาคอาเซียน

นักเรียนที่จะเข้ามาศึกษาที่คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภายใต้โครงการพิเศษรับนักเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าศึกษา ณ คณะทรัพยากรธรรมชาติ ถือเป็นเกษตรกรยุคใหม่ ใช้ความรู้ความสามารถที่หลากหลายโดยใช้ดิจิทัลเป็นพื้นฐาน สาขาวิชาของคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของประเทศ ขอให้นักเรียนที่จะเข้ามาศึกษาเชื่อมั่นในคุณภาพและโอกาสที่จะได้รับในวันข้างหน้า โดยเฉพาะความรู้เชิงปฎิบัติที่จะสอนให้นักศึกษาทำงานเป็น ทำงานได้ รู้จักรับผิดชอบต่อสังคมและครอบครัว เพื่อจะออกไปเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ ศอ.บต. ทำงานร่วมกันมากมาย โครงการนี้ถือเป็นหนึ่งโครงการนำร่องของภาคใต้ และมีความสำคัญ ภายใต้โครงการสนองแนวพระราชดำริฯ “ครัวโรงเรียนสู่ครัวบ้าน” ของ ศอ.บต. นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการเป็นเยาวชนที่มีศักยภาพและรักการเกษตร เราจะผลักดันเยาวชนเหล่านี้ให้เข้าสู่มหาวิทยาลัยที่ศึกษาด้านการเกษตรโดยเฉพาะ เพื่อกลับไปพัฒนาบ้านเกิด เป็นเกษตรกรต้นแบบ และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงของเกษตรยุคใหม่ ทำให้สังคมเห็นว่าอาชีพการเกษตรเป็นอาชีพที่มั่นคงอาชีพหนึ่ง เชื่อมั่นว่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะสามารถบ่มเพาะ พัฒนาศักยภาพของเยาวชนเหล่านี้ให้มีศักยภาพต่อไป

สตูล - บริการฉีดวัคซีนแบบ boat drive through ให้ชาวเลกลุ่ม 608 นับเป็นแห่งแรกของประเทศไทย

วันนี้ 6 กันยายน 2564 เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ที่ท่าเรือตำมะลัง อำเภอเมืองสตูล  จังหวัดสตูล ทีมแพทย์โรงพยาบาลสตูล สาธารณสุขอำเภอเมือง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ลงพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนแบบ boat drive through ให้กับกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ, ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง, หญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป) ซึ่งเป็นชาวเลอูรักลาโว้ย ที่เดินทางมาจาก ตำบลตำมะลัง ตำบลปูยู รวม 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน เข้ารับการฉีดวัคซีน

นายยาลา ใบกาเด็ม นายอำเภอเมืองสตูล กล่าวว่า พื้นที่ ตำบลตำมะลัง มี 3 หมู่บ้าน มีกลุ่มเป้าหมาย 608 ทั้งหมด 834 คน ฉีดวัคซีนแล้ว 197 คน ส่วนที่ตำบลปูยู มี 3 หมู่บ้าน มีกลุ่มเป้าหมาย 608 ทั้งหมด 467 คน ฉีดวัคซีนแล้ว 46 คน สำหรับการลงพื้นที่ฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมาย 608 วันนี้ มีผู้ลงทะเบียนมาแล้ว 80 คน และกลุ่มเป้าหมาย walk in เข้ามาเพิ่ม 10 คน ก็จะได้รับการฉีดวัคซีนเช่นกัน เนื่องจากวันนี้ทีมแพทย์ได้เตรียมวัคซีนมาสำหรับฉีดกลุ่มเป้าหมาย 608  ซึ่งวันนี้มีผู้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนจากตำบลตำมะลัง ตำบลปูยู และลงไปให้บริการเชิงรุกในกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงที่บ้าน จำนวน 95 คน ซึ่งทั้งหมดนี้ มีคนพิการ และผู้ป่วยติดเตียง อยู่ด้วย 5 คน

โดยมีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล,นาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล ประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล พร้อมสื่อมวลชนได้ไปให้กำลังใจด้วย


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี / ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

กระบี่ - สถาปัตยุคศรีวิชัย "พระธาตุวัดคลองท่อม" เป็นสถาปัตยกรรมถอดแบบยุคสมัยอาณาจักรศรีวิชัย กำลังก่อสร้างใหญ่ที่สุดภาคใต้ (สูง49 ม.)และพบได้ไม่กี่แห่งในไทย

"พระธาตุวัดคลองท่อม" เป็นสถาปัตยกรรมถอดแบบยุคสมัยอาณาจักรศรีวิชัย ปัจจุบัน ความงดงามแบบนี้ มีไม่กี่แห่ง พบในภาคใต้ ซึ้งปัจจุบันกำลังก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่สุดในภาคใต้ (ความสูง 49 เมตร) ณ.วัดคลองท่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ด้วยแรงศรัทธาเพื่อเป็นพุทธบูชา โดยพระครูสถิตนราธิการ และสาธุชนทั้งหลาย ร่วมกันทำบุญบริจาค

โดยลักษณะ "พระธาตุวัดคลองท่อม"เป็นสถูปทรงมณฑปให้มีฐานและเรือนธาตุรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนยอดเป็นเจดีย์แปดเหลี่ยม ส่วนฐานปากระฆังสร้างเป็นชึ้นลดหลั่นกันไป มีเจดีย์ประดับมุมและซุ้มบันแถลงในแต่ละทิศ

ยุคศรีวิชัย (พุทธศตวรรษที่ 13 - 18)

ยุคศรีวิชัย พบในภาคใต้ ศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยไม่ทราบแน่ชัด ในประเทศไทยจะพบร่องรอยการ สร้างสถูปตามเมืองสำคัญ เช่น เมืองครหิ อำเภอไชยาจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมืองตามพรลิงก์ จังหวัดนครศรีธรรมราช และอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี

โดยการก่อสร้างพระธาตุวัดคลองท่อม ได้มีการเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 61 ณ มณฑณพิธีสถานที่ก่อสร้างพระธาตุวัดคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ในงานพิธีวางศิลาฤกษ์พระมหาธาตุวัดคลองท่อม โดยมี พระราชวชิรากร(พระอาจารย์ชัย) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุชิรมงคล (วัดบางโทง) เป็นประธานวางแท่นศิลาฤกษ์ พระครูสถิตนราธิการ เจ้าอาวาสวัดคลองท่อม พร้อมด้วย นายไพศาล ศรีเทพ นายอำเภอคลองท่อม โดยคาดว่าจะใช้งบก่อสร้าง ประมาณ 70 ล้าน ซึ้งมีความสูงจากฐานถึงยอด 49 เมตร นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมในยุคอาณาจักรศรีวิชัย ซึ้งในปัจจุบันหาพบได้น้อยมากในภาคใต้ และมีความใหญ่โตที่สุดในภาคใต้ของไทย ปัจจุบันดำเนินกำลังก่อสร้างในส่วนของโครงสร้างหลัก


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่ รายงาน

สตูล - ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล จัดกิจกรรม "อาสาสมัครรักษ์ทะเลไทย ดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล"

วันนี้ 1 กันยายน 2564  ที่ บารารีสอร์ท ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล (ศรชล.จังหวัดสตูล) จัดกิจกรรม "อาสาสมัครรักษ์ทะเลไทย ดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล" ในพื้นที่จังหวัดสตูล โดยมีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยนาวาเอก จุมพจน์ เสนาะพิณ รองผอ.ศรชล.จังหวัดสตูล ,หัวหน้าส่วนราชการ และเครือข่ายอาสาสมัครนักดำน้ำเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า ทะเลของจังหวัดสตูล เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยทรัพยากรแนวปะการัง แหล่งหญ้าทะเล สัตว์ทะเลหายาก ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเล รวมถึงมีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีความสวยงาม มีการพัฒนาตามแนวชายฝั่งเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางมาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัญหาขยะเพิ่มขึ้นตามมา การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง นอกจากลดปริมาณขยะในทะเลแล้ว ยังเป็นการสร้างจิตสำนึกในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเล ให้กับชุมชน ชาวประมง ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะรอเพียงหน่วยงานราชการที่กำกับดูแลด้านการรักษาทรัพยากรให้คงอยู่ในสภาพสมบูรณเพียงฝ่ายเดียวคงเป็นไปได้ยาก ประชาชน และทุกภาคส่วน จำเป็นต้องเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อปกป้องรักษา ร่วมกันในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์และใช้ประโยชนร่วมกันอย่างยั่งยืน

นาวาเอก จุมพจน์ เสนาะพิณ ผอ.ศรชล.จังหวัดสตูล กล่าวว่า กิจกรรม "อาสาสมัครรักษ์ทะเลไทย ดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม - 1 กันยายน 2564 มีผู้เข้าร่วมซึ่งเป็นเครือข่ายอาสาสมัครนักดำน้ำ จำนวน 20 คน ดำน้ำลงไปเก็บขยะใต้ทะเลขึ้นมาทำลาย เพื่อลดปริมาณขยะในทะเล และบริเวณชุมชนชายฝั่ง โดยไม่ให้มีผลกระทบกับแหล่งทรัพยากรทางทะเล ทั้งนี้ เพื่อป้องกัน อนุรักษ์ และฟื้นฟู แหล่งทรัพยากรแนวปะการัง แหล่งปะการังเทียม ที่ได้รับความเสียหายจากการปกคลุมของขยะชนิดต่าง ๆ รวมถึงเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้ความรู้ สร้างจิตสำนึก และสร้างการมีส่วนร่วมให้แก่ชุมชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ ในการป้องกันขยะลงสู่ทะเล ต่อไป


ภาพ/ข่าว  นิตยา แสงมณี / ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top