Wednesday, 8 May 2024
เซาท์ไทม์

ชุมพร - สนข. เดินหน้าพัฒนาโครงการ Land Bridge ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำของภูมิภาคอาเซียน

นายกองเอกพุทธ กฤชคงพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อแนะนำโครงการและรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ณ ห้องพุทธรักษา โรงแรมมรกตทวิน อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร

ด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 ณ ห้องพุทธรักษา โรงแรมมรกตทวิน จังหวัดชุมพร เพื่อนำเสนอความเป็นมาของโครงการ วัตถุประสงค์โครงการ และขอบเขตการดำเนินงาน โดยมีคณะผู้บริหารและสื่อมวลชน เข้าร่วมงานดังกล่าว

ปัจจุบันการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศทางด้านมหาสมุทรอินเดีย ต้องเปลี่ยนถ่ายสินค้า ทั้งนำเข้าและส่งออกผ่านช่องแคบมะละกา (สิงคโปร์) ซึ่งเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางที่อ้อมและมีระยะไกล การจราจรทางน้ำคับคั่ง จากข้อมูลปี 2561 ช่องแคบมะละกามีความหนาแน่นของปริมาณเรือสูงถึง 85,000 ลำ/ปี และในอีก 10 ปีข้างหน้า ปริมาณเรือจะเพิ่มขึ้นกว่า 128,000 ลำ ซึ่งเกินกว่าความจุของช่องแคบมะละกาที่รองรับได้ 122,000 ลำต่อปี ก่อให้เกิดปัญหาการติดขัดและเสียเวลาในการเดินทาง กระทรวงคมนาคม จึงมอบหมายให้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดำเนินการศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Landbridge) โดยมีขอบเขตการศึกษา ประกอบด้วย

1.ศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ การเงิน วิศวกรรม สังคม ของโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เช่น ท่าเรือ รถไฟ ถนน เป็นต้น ที่เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน

2.ออกแบบรายละเอียดเบื้องต้น และประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ที่เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน

3.จัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ ตามพระราชบัญญัติการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ของโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ที่เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน

4.วิเคราะห์จัดทำรูปแบบการพัฒนาและการลงทุน (Business Development Model) ของโครงการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เช่น ท่าเรือ รถไฟ ถนน เป็นต้น ที่เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน และ สร้างความเข้าใจ พร้อมรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านตลอดระยะเวลาดำเนินงาน โดยมีระยะเวลาศึกษาโครงการ 30 เดือน ซึ่งคาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จภายในปี 2566

โดยแนวคิดการพัฒนาสร้างท่าเรือชุมพร กำหนดให้เป็นท่าเรือน้ำลึกที่ทันสมัย โดยนำระบบออโตเมชั่นมาใช้เพื่อยกระดับท่าเรือสู่ Smart Port  ส่วนแนวคิดการพัฒนาท่าเรือระนอง กำหนดให้เป็นท่าเรือสินค้าคอนเทนเนอร์และเป็นประตูการค้าฝั่งอันดามัน เชื่อมโยงระหว่างท่าเรือระนองกับท่าเรือกลุ่มประเทศแถมเอเชียใต้

นอกจากนี้จากการศึกษาความเหมาะสมเพื่อพัฒนาท่าเรือเชื่อมอ่าวไทย-อันดามันแล้ว โครงการฯ ยังได้ศึกษาความเหมาะสมเพื่อบูรณาการการขนส่งทางท่อ ทางบก และทางราง เพื่อให้เชื่อมต่อกับ 2 ท่าเรืออย่างไร้รอยต่อ โดยศึกษาความเหมาะสมเพื่อพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorway) และรถไฟทางคู่ และการขนส่งทางท่อ โดยจะก่อสร้างคู่ขนานบนเส้นทางเดียวกัน เพื่อลดผลกระทบจากการเวนคืนที่ดินของภาคประชาชน

 

สงขลา - “นิพนธ์ฯ” เปิดงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 11 (MONEY HATYAI 2021) หนุนผู้ประกอบการ - พี่น้องเกษตรกร เข้าถึงแหล่งเงินทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ - เพิ่มรอบการหมุนของเม็ดเงินภาคใต้ กระจายทั่วประเทศ!!

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 3 ธันวาคม 2564 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิด งานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 11 (MONEY EXPO HATYAI 2021) ที่ วารสารการเงินธนาคาร ซึ่งได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “future Wealth” โดยมีคุณสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานการจัดงาน กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย คุณสุรียพรรณ์ ณ สงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้บริหารธนาคารพานิชย์ สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

งานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ เป็นงานที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุน และสร้างโอกาสให้ประชาชนและผู้บริโภคในภาคใต้ ได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์บริการทางการเงินการลงทุน รวมทั้ง การให้ความรู้ทางการเงินต่อผู้เข้าชมงาน ให้สามารถวางแผนและบริหารจัดการทางการเงินของตนเองและครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำพาประชาชนไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยังมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจหาดใหญ่และภาคใต้ สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการบริโภคภายในประเทศ และเพิ่มรอบการหมุนของเม็ดเงินให้กระจายไปยังกลุ่มต่าง ๆ ของประเทศ

 

นราธิวาส - จัดกิจกรรม สืบสานวิถีพหุวัฒนธรรม! “ลงแขกดำนา” สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ณ แปลงนาบ้านโคกยาง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

แปลงนาบ้านโคกยาง หมู่ที่ 5 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส /ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางมาเป็นประธาน เปิด กิจกรรม สืบสาน วิถีพหุวัฒนธรรม “ลงแขกดำนา” สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมี นายอำเภอตากใบ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรตากใบ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 ประธานองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ ผู้นำท้องที่ และประชาชนชาวไทยพุทธ ไทยมุสลิม ในพื้นที่ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้ เกิดขึ้นโดยหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ร่วมกับองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส ได้จัดกิจกรรมสืบสานวิถีพหุวัฒนธรรม “ลงแขกดำนา” เพื่อการฟื้นฟู รักษาประเพณี อันสวยงามในการร่วมมือ ร่วมใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ของสังคมพหุวัฒนธรรม ของพี่น้องประชาชนไทยพุทธ พี่น้องประชาชนไทยมุสลิม

ซึ่งมีมาตั้งแต่อดีต ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ไม่ใช่มีแค่เรื่องดำนายังมีเรื่องกินเหนียวงานแต่ง งานฮารีรายอ ที่คนสมัยก่อนได้ทิ้งไว้เป็นมรดก มันเป็นนัยยะสำคัญของภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน ในกระบวนการสร้างความรัก สร้างความเข้าใจต่อกัน  การสร้างสภาวะแวดล้อม ให้เกื้อกูลต่อการหนุนเสริมความไว้วางใจ ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย  ที่จะนำไปสู่เพื่อความสันติสุข นำสู่แนวคิดความเป็น“พลเมืองในบริบทของสังคมพหุวัฒนธรรม” กระตุ้นให้เกิดกลไก การจัดการชุมชนตามธรรมชาติ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ศักยภาพผู้นำและประชาชน ให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ทรัพยากร ภูมิปัญญาและวิถีชุมชนที่ยั่งยืน เนื่องด้วยอำเภอตากใบ  เป็นแหล่งปลูกข้าวของจังหวัดนราธิวาส ซึ่งข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ มีการปลูกสืบทอดกันจนเป็นวิถีชีวิต แต่ด้วยสภาพความเปลี่ยนไป ของบริบททั้งด้านสังคมและพื้นที่ ทำให้พื้นที่ทำนาลดลง แต่ข้าวเป็นพืชที่มีความสำคัญ ในการสร้างความมั่นคงในครัวเรือนและชุมชน กระผมต้องขอชื่นชมท่านทั้งหลาย ที่รวมกลุ่มกันปลูกข้าว ร่วมกันพัฒนาการผลิตและการตลาด  

โดยกิจกรรมการลงแขกดำนาในวันนี้ นอกจากจะเป็นการลดต้นทุนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมความรัก ความสามัคคี  เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความร่วมมือของคนในชุมชน พี่น้องประชาชนไทยพุทธ พี่น้องประชาชนไทยมุสลิมที่อาศัยอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งมีความหลากหลาย ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ให้สอดคล้องกับนโยบาย ของกองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ต้องการให้พี่น้องประชาชน มีส่วนร่วมในกระบวนการเสริมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืน และพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชนให้ดีขึ้น เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน นำมาสู่การอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุขที่แท้จริงในสังคม

 

กระบี่ - กกต.กระบี่ ปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่โดยออกณรงค์การเลือกตั้ง อบต.โค้งสุดท้าย ครอบคลุม 8 อำเภอ 25 -27 พ.ย. เพื่อปลุกกระแสให้ทุกเสียงคือพลังเลือกตั้งสุจริต ใช้สิทธิ์โปร่งใส

นายวีระยี่แพร ผู้ตรวจการ เขตตรวจการที่ 5 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้เป็นประธานปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่จำนวน 10 คันออกจากบริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายของ ที่จะถึงวันเลือกตั้งอบต .พร้อมกันทั่วประเทศ โดยอบตไสไทย ยกทีมเข้าร่วมบรรยากาศคึกคัก

นางสาวขนิษฐา ปั้นทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่กล่าวว่า  การจัดกิจกรรมรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ การเลือกตั้งอบต .ขึ้น ในช่วง 3 สัปดาห์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นโค้งสุดท้าย ก่อนถึงวันเลือกตั้งอบต.พร้อมกันทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ประชาชน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีความตื่นตัวออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งสภาอบต และนายกอบต. ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ด้วยสโลแกน ทุกเสียงคือพลังเลือกตั้งสุจริตใช้สิทธิ์โปร่งใส  โดยรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่รณรงค์การเลือกตั้งอบต. ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ จำนวน 8 อำเภอ ระหว่างวันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งจัด ตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ของอำเภอทั้ง 8 อำเภอ    

ด้าน องค์การบริหารส่วนตำบลไสไทย ร่วมได้จัดรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ พร้อมขบวนรถกว่า 10 คัน นำเจ้าหน้าที่ ออกประชาสัมพันธ์ ในพื้นที่ตำบลไสไทย ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้ง 14 หน่วย มีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 1 10,140 คน ซึ่งมีจำนวนมากที่สุด ในการเลือกตั้งอบต.เขตอำเภอเมืองกระบี่  

 

กระบี่ - ‘ทหารจิตอาสา’ สนธิกำลัง ‘ตำรวจอาสารักษาดินแดน’ เข้าฟื้นฟูบ้านที่ดินสไลด์ทับห้องครัว – ห้องน้ำเสียหา เพื่อช่วยเหลือในพื้นที่ตำบลเขาเขน ให้อยู่ต่อได้

เมื่อวันที่ 25พฤศจิกายน 2564 พันเอก ภาณุวัฒน์ สุคชเดช ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนาวาอากาศเอก อาทิตย์ ภากรสังขรัตน์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย พลตำรวจตรี ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และนายวินัย ดินแดง นายอำเภอปลายพระยา สนธิกำลังทหารจิตอาสา ตำรวจจิตอาสา และอาสารักษาดินแดนอำเภอจิตอาสา เราทำความดีเพื่อชาติศาสตร์กษัตริย์  ระดมกำลังเข้าร่วมฟื้นฟูพัฒนาบ้านเรือนพร้อมนำสิ่งของบริโภคและอุปโภค ไปมอบให้กับนายเล็ก และนางสุจินต์ คำศิริ อยู่บ้านเลขที่ 296 หมู่ที่  6 บ้านคลองปัญญา ตำบลเขาเขน อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่

ที่ถูกดินจากเนินเขาหลังบ้านสไลด์ไหลลงมาทับบ้านได้รับความเสียหายบางส่วน โดยเฉพาะห้องครัว ห้องน้ำ โรงรถยนต์ เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ดินอุ้มน้ำจนอิ่มตัวจึงเกิดดินล้วนซุยไม่สามารถเกาะตัวกันได้ จึงเปิดดินสไลด์ไหลลงมาทับบ้านกลังดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 เวลา 17.00 นาฬิกา ที่ผ่านมา ซึ่งในวันเกิดเหตุทหารจิตอาสาของ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จังหวัดกระบี่ และอาสารักษาดินแดนอำเภอปลายพระยา ร่วมถึงตำรวจจิตอาสาสถานีตำรวจภูธรอำเภอปลายพระยา ได้เข้าให้การช่วยเหลือไปครั้งหนึ่งแล้ว

 

สตูล - หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.จังหวัดสตูล ออกให้บริการฉีดวัคซีนพระราชทานซิโนฟาร์ม และแอสตร้าเซเนก้า แก่กลุ่ม 608 เพื่อการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และป้องกันโรคโควิด-19

วันนี้ 24 พ.ย. 2564 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.จังหวัดสตูล ออกให้บริการฉีดวัคซีนพระราชทาน “ซิโนฟาร์ม” และวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ให้กลุ่ม 608 (กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป , กลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป) รวมกว่า 500 คน ที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอเมืองสตูลและผู้ที่มีภูมิลำเนาอื่นแต่ทำงานอยู่ในจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และป้องกันโรคโควิด-19 ในพื้นที่ ลดความเสี่ยงและป้องกันโรคให้กับประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19)

 

นราธิวาส - โซเชียลแห่ชื่นชม!! ชายวัยกลางคน นำดินมาถมถนนในหมู่บ้าน ที่เป็นหลุมเป็นบ่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลา ว่า ในโซเชียลแห่ชื่นชมชายชุดผ้าโสร่ง เสื้อแขนยาว สวมหมวก(กะปีเยาะ) ในชุดมาลายูมุสลิม พร้อมรถพ่วงข้าง นำดินมาถมถนนในหมู่บ้านที่เป็นหลุมเป็นบ่อโดยไม่ได้หวังผลประโยชน์  สะท้อนความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่บันนังสาเร็ง อ.เมือง จ.ยะลา

โดยเฉพาะเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ที่นี่จังหวัดยะลา TINEE-YALA” ได้เผยแพร่ภาพที่ถ่ายโดย อับดุลรอนิง โต๊ะยอ พร้อมสมาชิกที่เข้ามาแสดงความเห็นและแชร์จำนวนมาก โดยข้อความมีดังนี้

#ชื่นชมด้วยใจ จิตอาสาที่ไม่ต้องการผลประโยชน์และไร้ผ้าคล้องคอ

ภาพนี้เรียกได้ว่าคือสุดความประทับใจต่อชายชราคนหนึ่ง ที่อาสามาปิดหลุม ปิดบ่อกลางถนนเพื่อไม่ให้เกิดความอันตรายต่อคนสัญจรไปมา โดยชายชรารายนี้ขับมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง พร้อมทุกดินมาด้วยจำนวนหนึ่ง และพาพลั่วมาด้วยหนึ่งด้าม โดยขับรถไปยังถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ แล้วเขาก็จอดรถและได้นำพลั่วตักดินแล้วกลบบนถนนที่เป็นหลุมทันที

สุราษฎร์ธานี - “นิพนธ์” ล่องใต้!! อ.กาญจนดิษฐ์ - ดอนสัก ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม กำชับทุกฝ่ายดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด ตลอดฤดูมรสุมและเร่งรัดฟื้นฟูเยียวยาโดยเร็ว

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นตรวจเยี่ยมและให้กำลังผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ตำบลท่าอุแท อำเภอกาญจนดิษฐ์ และตำบลชลคราม อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมมอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัย จำนวน 200 ชุด ซึ่งสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 6 - 19 พฤศจิกายน 2564 ในพื้นที่ 14 อำเภอ และสถานการณ์คลี่คลายแล้วทั้งหมด แต่ยังมีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ความเสียหายในภาพรวมประสบอุทกภัย ในพื้นที่ 14 อำเภอ 52 ตำบล 268 หมู่บ้าน 3,147 ครัวเรือน 10,087 คน  มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 86 ล้านบาท

นายนิพนธ์ กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยขณะนี้ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยต่อความเดือดร้อนที่พี่น้องประชาชนกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ จึงขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้เร่งรัดฟื้นฟูเยียวยาประชาชนโดยเร็วที่สุด โดยกระทรวงมหาดไทยนั้นมีภารกิจในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ซึ่งในฐานะที่ตนกำกับดูแลกรมปภ. มีหน้าที่ในการดูแลประชาชนโดยตรงเมื่อเกิดทั้งภัยน้ำท่วมและน้ำแล้ง สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำคือการสร้างที่ให้น้ำอยู่ ทำทางให้น้ำไหล จะเป็นการบริหารจัดการสถานการณ์ภัยจากน้ำได้อย่างครบวงจร สามารถบรรเทาความรุนแรงของภัยได้ รวมทั้งการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้รับทราบข้อมูลข่าวสารก่อนเกิดภัยก็จะมีส่วนช่วยให้ลดความรุนแรง ความสูญเสียได้อย่างมาก

 

กระบี่ - ‘ลุงตู่’ ขอบคุณชาวกระบี่ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง การประชุมครม.สัญจร นัดแรกของปีนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการแผนงานระยะสั้น 7 โครงการ เร่งด่วน งบ 494 ล้านบาท

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร ณ โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ ครม. ทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อสีสันสดใสเป็นลายผ้าบาติก ผ้าประจำจังหวัดกระบี่ ซึ่งก่อนการประชุมเริ่ม นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จากนั้นเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ร่วมกับผู้ว่าราชการ 6 จังหวัด ต่อด้วยการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ที่ถือเป็นนัดแรกในปีนี้

ขณะที่วาระการประชุม ครม. วันนี้ กลุ่ม 6 จังหวัด จังหวัดอันดามัน มีการของบประมาณ 17 โครงการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยว วงเงินกว่า 2,128 ล้านบาท เช่น โครงการภูเก็ตเฮลท์แซนด์บ็อกซ์ ที่เป็นโครงการบริหารจัดการสุขภาพของจังหวัดภูเก็ตทั้งระบบ โครงการนำสายไฟฟ้าลงดินที่เทศบาลเมือง ช่วงตลาดเก่าของจังหวัดภูเก็ต โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือท่าเลน โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือโดยสารเรือท่องเที่ยวป่าคลองจิหลาด โครงการกิจกรรมเทศกาลการท่องเที่ยวและกิจกรรมกีฬาเชิงการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัด

 

พังงา - ‘จุรินทร์’ ควง 3 รัฐมนตรีพรรคประชาธิปัติย์ลงพื้นที่พังงา เตรียมเสนอโครงการ 6 จังหวัดอันดามันกว่า 2,000 ล้านเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร

อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนท้ายเหมืองวิทยา อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมัน และเป็นประธานในพิธีมอบเช็คชำระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรแก่เกษตรกรจังหวัดพังงา โดยมีนายบุญเติม เรณุมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยกลุ่มเกษตรกร อสม.พี่น้องประชาชนร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและชูป้ายให้กำลังใจเชียร์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กล่าวว่า วันนี้มาทำภารกิจ 3 เรื่อง

1.คณะรัฐมนตรีมอบให้ตนเป็นผู้ช่วยกลั่นกรองโครงการสำคัญของ 6 จังหวัดอันดามัน (ระนอง พังงา ภูเก็ต  กระบี่ ตรังและสตูล) ได้โครงการสำคัญ 16 โครงการ รวมงบประมาณ 2,128 ล้านบาท สำหรับจังหวัดพังงามี 3 โครงการ ประกอบด้วย 1.สนามบินพังงา 2.โครงการสร้างตึกอุบัติเหตุฉุกเฉินหลังใหม่ของโรงพยาบาลพังงาและโรงพยาบาลตะกั่วป่า 3.โครงการพัฒนาริมทะเลเขาหลักและท้ายเหมือง เป็นแหล่งท่องเที่ยว

2.ในฐานะที่ตนเองเป็นประธานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินที่เกิดจากการทำการเกษตร ไม่ให้ที่ดินตกเป็นของธนาคารหรือสถาบันการเงิน จนสูญเสียที่ดินทำกิน โดยการรับโอนหนี้จากสถาบันการเงินมาเป็นหนี้กองทุนฯและชำระกับกองทุนฯแทน แบบไม่มีดอกเบี้ย และไม่มีการยึดที่ดินทำกิน ในวันนี้มามอบโฉนดคืนและมอบเกียรติบัตรให้กับผู้ที่ผ่อนชำระหนี้กองทุนครบแล้ว และมอบงบฟื้นฟูและพัฒนาชีวิตเกษตรกร พร้อมกันนี้ได้มีการมอบเช็คเงินโครงการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกรจำนวน 7 องค์กร 7 โครงการ จำนวนเงิน 3,435,000 บาท มอบโฉนดที่ดินและเกียรติบัตรจำนวน 12 คน และมอบใบรับรองการขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกรจำนวน 58 องค์กร จำนวนสมาชิก 5,409 คน

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top