Saturday, 5 July 2025
POLITICS

ผลักดันจนสำเร็จ!! เปิดเนื้อหา ฟื้นสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ สู่ผลงานชิ้นโบว์แดง ‘รัฐบาลลุงตู่’ 

หลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เสร็จสิ้นการเดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกันให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หลังความสัมพันธ์ตกต่ำมาตลอด 32 ปีที่ผ่านมา 

การเดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศแล้วผ่านพิธีการต้อนรับอย่างสมเกียรติ ในขณะเดียวกันยังมีการเจรจาในแบบทวิภาคีอีกหลายเรื่อง

แน่นอนว่า การเดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียของ พล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งนี้ ย่อมถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เป็นการเปิดประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์หน้าใหม่ระหว่างสองประเทศในรอบกว่า 30 ปี ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับกันว่า นี่คือ ผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ อย่างปฏิเสธไม่ได้ 

การไปเยือนซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้ มีรายละเอียดที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สรุปไว้น่าสนใจหลายอย่าง ลองไปดูว่ามีอะไรบ้าง เหตุใดจึงสร้างอิมแพค ทั้งในไทยและทั่วโลก ต่างจับตามอง

1.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทยได้เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 มกราคม 2565 ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด (His Royal Highness Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

2.) มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียทรงให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย และทั้งสองฝ่ายได้ประชุมหารืออย่างเป็นทางการ โดยทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันความตั้งใจร่วมกันในการสะสางประเด็นที่คั่งค้างทั้งหมดระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียและปรับความสัมพันธ์ระหว่างสองราชอาณาจักรให้เป็นปกติ ทั้งสองฝ่ายยังได้ย้ำความสำคัญของการส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรของสองราชอาณาจักรและการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับความสัมพันธ์ฉันมิตรกับซาอุดีอาระเบีย และแสดงความเสียใจยิ่งต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทยระหว่างปี พ.ศ. 2532-2533 (ค.ศ. 1989-1990)

นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยยืนยันว่า ไทยได้พยายามอย่างที่สุดแล้วในการสะสางกรณีต่างๆ และหากมีหลักฐานใหม่เกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น ก็พร้อมที่จะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยพิจารณา นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยยังได้ยืนยันความมุ่งมั่นของไทยในการให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมแก่บุคคลในคณะผู้แทนของสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียที่กรุงเทพฯ ตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางทูต ปี ค.ศ. 1961 ทั้งสองฝ่ายยังได้ยืนยันความมุ่งมั่นในการดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อดูแลความปลอดภัยของคนชาติของกันและกันในแต่ละประเทศ

3.) ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นในภูมิภาคและระหว่างประเทศต่างๆ และได้หารือถึงแนวทางในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกสาขา ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์และการติดต่อประสานงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของแต่ละฝ่ายเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อประโยชน์ร่วมกันของราชอาณาจักรทั้งสอง

4.) โดยคำนึงถึงจิตวิญญาณของความร่วมมือและความตั้งใจร่วมกันเพื่อฟื้นฟูมิตรภาพและความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างสองราชอาณาจักรและประชาชน ภายใต้การนำและพระราชวิสัยทัศน์อันเข้มแข็งของผู้พิทักษ์ สองมหามัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์ สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด (His Majesty King Salman bin Abdulaziz Al Saud) และมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันให้ปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันให้เป็นปกติอย่างสมบูรณ์ ความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากความพยายามในหลายระดับของทั้งสองฝ่ายที่มีมาอย่างยาวนานเพื่อฟื้นฟูความไว้เนื้อเชื่อใจและความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกัน

5.) ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกับขั้นตอนสำคัญต่างๆ ที่จะดำเนินการเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งรวมถึงการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำเมืองหลวงของทั้งสองประเทศในอนาคตอันใกล้ และการจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี การติดต่อประสานงานอย่างเต็มที่จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้าเพื่อหารือความร่วมมือทวิภาคีในสาขายุทธศาสตร์ที่สำคัญ

6.) ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางในการส่งเสริมและเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองราชอาณาจักรโดยการแสวงหาโอกาสในด้านการลงทุนและอื่นๆ ในบริบทของวิสัยทัศน์ ค.ศ. 2030 ของซาอุดีอาระเบียและวาระการพัฒนาแห่งชาติของไทย กล่าวคือ นโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio - Circular - Green Economy) ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะแสวงหาความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ อาทิ พลังงานทดแทน สิ่งแวดล้อม การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนา และความมั่นคงทางไซเบอร์ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำความสำคัญของการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับความสัมพันธ์ที่กำลังเติบโตระหว่างทั้งสองราชอาณาจักร รวมทั้งการส่งเสริมการสนทนาแลกเปลี่ยนระหว่างศาสนาและพหุวัฒนธรรม

ป.ป.ช.ยื่นฟ้อง ‘ยิงลักษณ์’ กับพวก คดีทุจริต จัดโรดโชว์ มูลค่า 240 ล้าน 

ป.ป.ช.ยื่นฟ้อง “อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์” กับพวก ทุจริตจัด “โรดโชว์ สร้างอนาคตไทย 2020” มูลค่า 240 ล้านบาท ศาลฎีกานัดฟังคำสั่งรับฟ้องหรือไม่ 19 เม.ย.นี้

วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ศาลฎีกา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามสปอร์ต ชินดิเคท จำกัด (มหาชน) และ นายระวิ โหลทอง กรรมการผู้บริหารบริษัทสยามปอร์ตฯ เป็นจำเลยที่ 1-6 ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามคดีหมายเลขดำที่ อม.2/2565

โดยกล่าวหาว่า เมื่อระหว่างปลายเดือน ส.ค. 56 ถึงวันที่ 12 มี.ค. 57 จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาจัดจ้างโครงการ “Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020” อย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้อประโยชน์แก่จำเลยที่ 4 และที่ 5 ให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ กล่าวคือ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 กำหนดตัวบุคคลผู้รับจ้างไว้ล่วงหน้าให้จำเลยที่ 4 เป็นผู้รับจ้างจัดทำโครงการ Roadshow “สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020” จำนวน 12 จังหวัด โดยยังไม่ได้คัดเลือกผู้เสนอราคา จำเลยที่ 3 เสนอและจำเลยที่ 1 อนุมัติใช้งบกลาง 40 ล้านบาท ทั้งที่มิใช่กรณีจำเป็นหรือเร่งด่วน 

‘ก้าวไกล’ อ้อน!! ประชาชนโหวตเลือก ‘เพชร กรุณพล’ เทเสียงถล่มทลายเหมือนสมัย ‘อนาคตใหม่’ เข้าสภา

พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึง ความพร้อมในการเลือกตั้งซ่อม เขต 9 (หลักสี่-จตุจักร) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 มกราคม นี้ ว่า จากการไปช่วย กรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ เพชร ผู้สมัคร เบอร์ 6 ตัวแทนจากพรรคก้าวไกล หาเสียงช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว รู้สึกดีใจที่กระแสตอบรับพวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับรัฐบาลที่มีแต่เสียงบ่นถึงความไม่ได้เรื่องในการบริหารประเทศ พี่น้องประชาชนกำลังต้องการทางเลือกใหม่ ความหวังใหม่ และอนาคตใหม่เข้ามาเปลี่ยนแปลง ซึ่งพรรคก้าวไกลก็คือคำตอบนั้น จึงค่อนข้างมั่นใจว่า พวกเราจะรับเสียงสนับสนุนจากประชาชนเป็นอันดับ 1 ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้

“ในวันที่ 30 มกราคม เป็นวันเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขตหลักสี่ จตุจักร เราจะส่งตัวแทนพรรค 280 คน ไปประจำหน่วยเลือกตั้งทั้ง 280 หน่วย ทั้งหมดเป็นอาสาสมัครที่พรรคเปิดรับ ต้องบอกว่านี่เป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งซ่อม ที่พรรคก้าวไกลมีอาสาสมัครเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ด้วยกันมากกว่าจำนวนหน่วยเลือกตั้งที่มีเสียอีก สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนตื่นตัวและใส่ใจการเลือกตัวแทนไปเป็นปากเสียงของเขาอย่างมาก รวมถึงต้องการเห็นชัยชนะของพรรคก้าวไกล อยากให้ในสภามี เพชร กรุณพล ไปทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลแทนพวกเขา”

"หมอหนู" ชี้​ ตัวเลขเสียชีวิตสหรัฐฯพุ่ง​ เหตุไม่ได้รับวัคซีนกันเยอะ​ ส่วนไทยมั่นใจคุมได้​ เชื่อ​ ตัวเลขจะค่อยๆลดลง​ “ชี้”วงสังสรรค์​เป็นคลัสเตอร์หลัก

ที่ทำเนียบรัฐบาล​ นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรี​ และรมว.สาธารณสุข​ กล่าวถึงกรณีมีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้ชุมนุมพีมูฟที่ชุมนุมข้างทำเนียบฯหลายราย กระทรวงสาธารณสุขจะต้องเข้ามาคัดกรองหรือไม่​ ว่า​ เข้าใจว่าทาง กทม. เป็นผู้ดูแล ขณะนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือ ทำตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วประเทศ โดยเฉพาะวันนี้ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูงขึ้นนั้น ตนยังเชื่อว่าจะค่อยๆลดลง อย่างไรก็ตาม​ วันนี้เน้นในเรื่องของการดูแลผู้ป่วยหนัก และยังยืนยันว่าจำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตยังอยู่ในจำนวนที่ดี ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อยู่​

ส่วนที่สหรัฐอเมริกามีตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงขึ้นทั้งที่เชื้อโอมิครอนมีอาการไม่รุนแรงนั้น ต้องดูในรายละเอียด อย่างที่สหรัฐฯมีประชากรจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และวิถีการใช้ชีวิตอย่างไม่เหมือนเรา คนไทยยังให้ความร่วมมืออย่างดี โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัย ทำให้การติดเชื้อยังอยู่ในระดับที่เราควบคุมได้ ส่วนใหญ่ผู้ที่ติดเชื้อมา มาจากการรวมตัวกัน การปาร์ตี้สังสรรค์ ตรงนี้ยอมรับว่ายังมีอยู่ เพราะทุกคนถือว่าฉีดวัคซีนกันแล้ว ระมัดระวังกันอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งเหมือนเป็นการคัดกรองชั้น 1 แล้ว ย้ำว่าวันนี้เรื่องวัคซีนไม่ใช่ปัญหา แต่ขอให้หลีกเลี่ยงการรวมตัวเฮฮาปาร์ตี้ การสังสรรค์ ได้รับรายงานว่าขณะนี้เป็นคลัสเตอร์หลัก มาจากกิจกรรมเหล่านี้

เมื่อถามว่า กระทรวงการอุดมศึกษา​ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้มีการประสานกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการดูแลการสอบทีแคสแล้วหรือยัง​ นายอนุทินกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขฉีดวัคซีนให้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูแล และกระทรวงสาธารณสุขได้ให้มาตรการ อย่างไรก็ตาม ขอให้รักษามาตรการสุขอนามัยส่วนบุคคล เมื่อมีการฉีดวัคซีน ตรวจคัดกรองด้วย ATK ก่อนเข้าสอบแล้ว ก็สามารถดำเนินการได้

คกก.ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลร่วมประชุมหารือขับเคลื่อนงานแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เน้นตอบสนองความต้องการปชช. ในพื้นที่จชต. ให้มีความมั่นคง ปลอดภัย ดำรงชีวิตด้วยความสงบสุขอย่างยั่งยืน

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล (ปธ.คผบ.จชต.) และกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล 6 ท่าน ที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง, ด้านเศรษฐกิจ, ด้านต่างประเทศ, ด้านสังคมพหุวัฒนธรรม ด้านการศึกษา และด้านประสานการมีส่วนร่วม ได้เดินทางไปประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2565 ภายหลังมีการแต่งตั้งตามมติ ครม. ที่สำนักงานคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดภาคใต้ ส่วนหน้า อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 

“บิ๊กตู่” สั่งการ กทม. เร่งติดตั้งไฟจราจรข้ามทางม้าลาย พร้อมให้นำนวัตกรรม “ไฟจราจรอัจฉริยะ” มาใช้งาน เพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนมากขึ้น

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทางม้าลาย สั่งกำชับให้กรุงเทพมหานครดำเนินการติดตั้งไฟจราจรข้ามทางม้าลาย เพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนมากขึ้น ให้เร่งดำเนินการโดยเฉพาะทางม้าลายในจุดเสี่ยง แก้ไขปัญหาลดอุบัติเหตุ พร้อมพิจารณานำนวัตกรรมไฟจราจรอัจฉริยะ (Smart Traffic Light) ปิด เปิดไฟเขียวให้คนข้ามทางม้าลายโดยอัตโนมัติ มาใช้งาน ลดปัญหาสัญญาณไฟจราจรข้ามทางม้าลายแบบเดิม ที่ประชาชนผู้ใช้ทางม้าลายต้องเสียเวลายืนรอข้ามถนนหลายนาที

"จุรินทร์" เผย ไม่ทราบ "โบ๊ต อนุกูล" ย้ายซบ ปชป. รอง”เดชอิศม์”รายงานก่อน ปัดตอบ กลิ่นรัฐประหาร  มองไม่ออกใครจะเป็นคนทำ ชี้ เป็นหน้าที่พรรคร่วมรักษาเสถียรภาพรัฐบาล ลั่น อย่ากังวลประชาธิปัตย์รู้หน้าที่ดี 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ายังไม่มีข้อมูลเรื่อง นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ หรือน้องโบ๊ต อดีตผู้สมัคร ส.ส. เลือกตั้งซ่อม เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ เตรียมย้ายเข้ามาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ ยังไม่ได้รายงานตนในเรื่องนี้ จึงยังไม่ขอตอบเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามในวันที่ 29 ม.ค.ตนจะเดินทางไปที่จังหวัดสงขลาเพื่อขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวสงขลาเขต 6 ที่ ลงคะแนนเสียงและไว้ใจเลือกน.ส. สุภาพร กำเนิดผล เป็น ส.ส. ในการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา 

ส่วนกระแสข่าวการรัฐประหารนั้นนายจุรินทร์ กล่าวว่ายังไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ทราบที่มาที่ไปของข่าวและมองไม่ออกว่าใครจะเป็นคนทำรัฐประหาร ขณะที่เสถียรภาพรัฐบาลนั้นก็เป็นหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ตนยังย้ำเรื่องการเป็นสถาบันทางการเมือง เพราะฉะนั้นเรารู้หน้าที่ว่าจะทำอะไร ตัดสินใจอย่างไร จึงขออย่ากังวลในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคอื่นก็ให้ไปถามพรรคนั้นๆ 

กองทัพเรือเร่งระดมเฮลิคอปเตอร์ –เรือจากภาครัฐและภาคเอกชน ป้องกันและขจัดคราบน้ำมัน ไม่ให้กระทบอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า

พล.ร.ท.ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เเถลงความคืบหน้าเรื่องการเร่งขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเลท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยองว่า ตามที่กองทัพเรือได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน กองทัพเรือ หรือ ศอปน.ทร. เนื่องจากเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลของบริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) มีน้ำมันดิบรั่วไหล จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล บริเวณอ.มาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อเวลา 21.06 น. ของวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ทิศทางของคราบน้ำมันได้เคลื่อนที่ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ และกระจายตัวเข้าหาฝั่ง ปัจจุบันห่างจากชายฝั่ง 4.7 ไมล์ทะเล คาดว่าถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า ต.เพ อ.เมือง จ.ระยองในช่วงบ่ายวันนี้ (28 ม.ค.)

ด้านน.ท.อนุสรณ์ คล้ายมงคล หัวหน้าสนับสนุนปฏิบัติการ กองปฏิบัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล กรมยุทธการทหารเรือ กล่าวว่า บทบาทหน้าที่กองทัพเรือในการขจัดคราบน้ำมันในครั้งนี้ เกิดจากแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ ได้กำหนดให้กองทัพเรือเป็นหน่วยปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมัน กรณีที่มีน้ำมันรั่วไหลเกินกว่า 20 ตันขึ้นไป  และอยู่นอกเขตท่าเรือที่กรมเจ้าท่ารับผิดชอบ เหตุการณ์ครั้งนี้เมื่อกองทัพเรือได้รับแจ้งจึงได้จัดตั้งศอปน.ทร. และจัดตั้งศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 หรือ ศคปน.ทรภ.1 ที่มีกำลังพลจากกองทัพเรือ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกำหนดแผนและกลยุทธ์ในการขจัดคราบน้ำมันในพื้นที่ปฏิบติการ โดยมีการจัดอากาศยานขึ้นบินตรวจสอบคราบน้ำมันในพื้นที่ทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย จัดเรือหลวงแสมสาร เรือภาคเอกชนและกรมเจ้าท่า รวมแล้ว 10 ลำ เพื่อพ่นสารเคมีขจัดคราบน้ำมันในพื้นที่ที่เกิดคราบน้ำมันขึ้น
 

‘บิ๊กตู่’ มั่นใจทุกระบบของไทยมีความพร้อม เตรียมเปิด Test and Go รับนทท. ต่างชาติ 1 ก.พ.นี้

โฆษกรัฐบาลฯ เผย ไทยนับถอยหลังเปิด Test and Go รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 ก.พ.นี้ "นายกฯ" มั่นใจทุกระบบของไทยมีความพร้อม กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย ยังเน้นคุมเข้มสกัดโควิดชายแดนช่วยกันสอดส่อง ป้องกันเชิงรุก 

28 ม.ค. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มั่นใจทุกระบบของไทยมีความพร้อม ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้ามาในประเทศไทยในรูปแบบ Test and Go อีกครั้งในวันที่ 1 ก.พ. นี้ เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาได้โดยเร็วที่สุดต่อ หลังรัฐบาลตัดสินใจระงับไปเมื่อปลายปี 2564 เพราะเกิดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เชื่อมั่นแพทย์และระบบสาธารณสุขไทยพร้อมรับมือหากมีการเปิด Test and Go อีกครั้ง คาดว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทั้งปี 2565 ได้ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านคน สร้างรายได้ 4.8 แสนล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติม ว่า ขณะนี้ ยังมีผู้ที่พยายามลักลอบเข้ามายังประเทศไทยเพื่อหางานทำอย่างผิดกฎหมายต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการไปยังกระทรวงมหาดไทย ให้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งนายอำเภอให้เน้นย้ำกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ของพื้นที่ที่ติดต่อกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ คุมเข้มทุกด่านให้ระมัดระวัง ป้องกัน การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมถึง ช่องทางธรรมชาติทุกแห่ง 

'ศรีสุวรรณ' จี้ 'ปลัดคลัง' ปลดเลขา คปภ. เหตุบกพร่องทำบริษัทประกันภัยล้ม ขู่ เพิกเฉย ยื่นป.ป.ช.

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯได้ทำหนังสือด่วนร้องเรียนไปถึงปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อขอให้ใช้อำนาจตาม ม.29(5) แห่ง พรบ.คณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย 2550 ในการพิจารณาให้เลขาธิการ คปภ.พ้นจากตำแหน่งเสีย เนื่องจากบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุให้บริษัทประกันภัยต้องล้มไปแล้วหลายบริษัท กระทบต่อผู้ซื้อประกันและพนักงานเป็นจำนวนมาก ล่าสุดคือ บริษัท อาคเนย์ ประกันภัย จำกัด(มหาชน) ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเลขาธิการ คปภ.อาจใช้ดุลยพินิจไปโดยมิชอบในการออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 ในการให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยในบริษัทในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย ทั้งๆที่บริษัทประกันภัยเหล่านั้นได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนในการขายประกัน “เจอ จ่าย จบ” ให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อคุ้มครองดูแลผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-2019 แต่มีเงื่อนไขว่าบริษัทสามารถบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยได้ แต่ต้องบอกกล่าวผู้เอาประกันล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่น้อยกว่า 30 วันในทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงผู้เอาประกันภัย ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวเชื่อว่าทำให้บริษัทประกันภัยต่างๆยอมเสี่ยงที่จะไปขายประกันภัยประเภท เจอ จ่าย จบ ได้ เพราะหากมีปัญหาก็เชื่อว่า คปภ.จะอนุญาตให้แก้ไขสัญญาในกรมธรรม์ได้

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า แต่เมื่อบริษัทประกันภัยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรงเป็นเหตุให้ต้องขาดสภาพคล่อง โดยบริษัทประกันภัยต่างๆพยายามเรียกร้องให้ คปภ.อนุญาตให้บริษัทประกันภัยแก้ไขสัญญาในกรมธรรม์โดยยกเลิก เจอ จ่าย จบ เปลี่ยนมาเป็นการดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ซื้อกรมธรรม์จนหายเป็นปกติ แต่เลขา คปภ.กลับไม่ยินยอมโดยออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 ดังกล่าวมาระงับไว้ จนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทประกันภัยหลายบริษัทขาดสภาพคล่องจนต้องล้มไป เช่นนี้จะถือว่าเป็นการ “สร้างภาพบนซากความเสียหาย” ของบริษัทผู้ขายและประชาชนผู้ซื้อประกัน รวมทั้งพนักงานด้วยหรือไม่ และจนบัดนี้ผู้ที่ซื้อประกันไว้ยังมืดแปดด้านไม่สามารถไปเคลมความเสียหายได้ที่ใคร พนักงานลูกจ้างบริษัทประกันนับร้อยนับพันชีวิตต้องตกงานฉับพลัน เลขา คปภ.ออกมารับผิดชอบหรือเปล่า แม้จะอ้างว่ามีกองทุนประกันภัยคอยดูแลนั้น เป็นเพียงการโม้ไปวันๆ ทั้งที่ความจริงกองทุนก็ไม่สามารถตอบโจทย์ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ยังคงมีผู้ที่เสียหายไปประท้วงที่หน้าสำนักงาน คปภ.แทบทุกวัน ไม่สำนึกรู้บ้างเชียวหรือ

โฆษกรัฐบาล ฯ เผย ไทยนับถอยหลังเปิด Test and  Go รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 ก.พ.นี้   " นายกฯ" มั่นใจทุกระบบของไทยมีความพร้อม  กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย ยังเน้นคุมเข้มสกัดโควิดชายแดนช่วยกันสอดส่อง ป้องกันเชิงรุก 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม   มั่นใจทุกระบบของไทยมีความพร้อม ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้ามาในประเทศไทยในรูปแบบ Test and Go อีกครั้งในวันที่ 1 ก.พ. นี้ เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาได้โดยเร็วที่สุดต่อ หลังรัฐบาลตัดสินใจระงับไปเมื่อปลายปี 2564 เพราะเกิดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน   เชื่อมั่น แพทย์และระบบสาธารณสุขไทยพร้อมรับมือหากมีการเปิด Test and Go  อีกครั้ง   คาดว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทั้งปี 2565 ได้ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านคน สร้างรายได้ 4.8 แสนล้านบาท 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติม ว่า   ขณะนี้ ยังมีผู้ที่พยายามลักลอบเข้ามายังประเทศไทยเพื่อหางานทำอย่างผิดกฎหมายต่อเนื่อง  ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการไปยังกระทรวงมหาดไทย ให้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งนายอำเภอให้เน้นย้ำ กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ของพื้นที่ที่ติดต่อกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ คุมเข้มทุกด่านให้ระมัดระวัง ป้องกัน การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย รวมถึง ช่องทางธรรมชาติทุกแห่ง  รวมทั้ง ขอให้เครือข่ายสาธารณสุขในพื้นที่ทั้ง อสม. ฝ่ายท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมช่วยสอดส่องว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่หรือไม่ หากพบ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้  ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดย กองกำลังสุรสีห์จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 365 ราย  ที่ลักลอบเข้าเมืองกลางดึก ชายแดนบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  จำนวน 135 คน และกาญจนบุรี จำนวน 230 คน ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย   ซึ่งไม่ผ่านการคัดกรองโรคจากเจ้าหน้าที่   กรณีที่อยู่ในการจับกุมของตำรวจก็จะตรวจหาเชื้อด้วย 

"แรมโบ้" ฟาดแรง "หมอชลน่าน"เป็นถึงผู้นำฝ่ายค้านคิดได้แค่ "หางอึ่ง" ได้กลิ่นรัฐประหาร จมูกคงเน่าถึงได้กลิ่นเช่นนี้ เอาสมองส่วนไหนมาคิด ทำลายบรรยากาศให้บ้านเมืองเสียหายมากกว่า 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กลิ่นรัฐประหาร  ฟันธง"21 ส.ส."ตัวแปรสำคัญในสภา ชี้เสียงข้างมากแท้จริงต้องไม่หนุนข้างน้อยปกครองประเทศ  พร้อมอย่าเคลมเยือนซาอุฯเป็นผลงานรัฐบาล โดยไม่รู้ว่า หมอชลน่านไปได้กลิ่นมาจากไหน จมูกคงเน่าอักเสบมากกว่าเลยได้กลิ่นเช่นนี้ หรือพูดสร้างกระแสขึ้นมาเอง ซึ่งในช่วงที่ประเทศอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด ก็ไม่ควรที่จะออกมาพูดเรื่องที่อาจทำให้เกิดกระแสหรืออาจเกิดความขัดแย้งขึ้นหรือทำลายบรรยากาศประเทศ

และการที่หมอชลน่านบอกว่าอย่าเอาเรื่องนายกฯเยือนซาอุเป็นผลงานเพราะประเทศซาอุฯ ต้องการเปิดประเทศเองนั้น ตนไม่อยากเชื่อว่า คนเป็นระดับผู้นำฝ่ายค้านช่างกล้าพูดเช่นนี้ ข้อเท็จจริงประเทศซาอุฯเปิดมานานแล้ว เพียงแต่ยุครัฐบาลเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ไม่มีศักยภาพพอที่จะมีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศซาอุฯ ให้กลับมาเป็นปกติได้ เป็นเพราะไม่มีฝีมือหรือเอาแต่เวลาไปคิดช่วยนายทักษิณ ใช่ไหม
 
  "หมอชลน่านต้องกล้าออกมายอมรับว่าการพลิกประวัติศาสตร์กับประเทศซาอุฯเกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นความพยายามทุ่มเทตั้งใจของพลเอกประยุทธ์และรัฐบาล ที่ได้มีการประสานมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับเชิญอย่างเป็น ทางการจากรัฐบาลประเทศซาอุฯ ไปเยือนเพื่อฟื้นความสัมพันธ์  หารือถึงความร่วมมือในด้านต่างๆ และคนทั้งประเทศก็เห็นว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ถือว่านายกฯและรัฐบาลได้มอบของขวัญปีใหม่ ผลงานชิ้นโบว์แดงให้ประเทศไทยและคนไทยด้วยซ้ำไป มีแต่หมอชลน่านและพรรคเพื่อไทยนั่นแหละ ที่จ้องอิจฉาจนออกอาการเอาเรื่องดีๆของประเทศมากล่าวหาโจมตีนายกฯ และรัฐบาล และดูถูกดูแคลนประเทศของตัวเองและยิ่งมาปล่อยข่าวว่า ได้กลิ่นรัฐประหาร ยิ่งปล่อยมุขแบบเสียคน ใครที่ฟังผู้นำฝ่ายค้าน ปล่อยมุขนี้อดขำไม่ได้ คิดได้อย่างไร เอาสมองส่วนไหนมาคิดเอาจมูกเน่าๆส่วนไหนมาดมกลิ่น จึงได้กลิ่นรัฐประหารมา หรือว่า นายใหญ่ทางไกลส่งกลิ่นเน่าๆเหม็นๆมาให้พูด 

'ไทยภักดี' ร่อน 'จดหมายหมอวรงค์' ขอโอกาสเข้าสภาฯ ปราบโกง-ปกป้องสถาบัน

27 ม.ค. 65 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ร่อน “จดหมายจากคุณหมอวรงค์” จำนวน 20,000 ฉบับ ถึงประชาชนเขตจตุจักร หลักสี่ ให้โอกาสนายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หมายเลข 1 พรรคไทยภักดี เข้าสภาเป็นโซ่ข้อกลาง ประกาศจุดยืนปราบโกงและปกป้องสถาบัน

โดยจดหมายเปิดผนึกฉบับดังกล่าว สะท้อนปัญหาบ้านเมืองว่า ประเทศชาติกำลังเผชิญปัญหาของขบวนการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และปัญหาที่หมักหมมจากการทุจริต จึงขอให้ประชาชนชาวจตุจักร หลักสี่ เชื่อมั่นในพลังอันแรงกล้าของพรรคไทยภักดี และนายพันธุ์เทพที่มีประสบการณ์ในการทำงาน มีความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในสภา สะท้อนอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของพี่น้องทุกท่าน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลง และเป็นโซ่ข้อกลางเชื่อมโยงพรรคไทยภักดีกับสภา พรรคไทยภักดีมีจุดยืนที่ชัดเจน พร้อมประกาศนโยบายปราบโกงและปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักของพวกเรา ความหวังในการเปลี่ยนแปลงการเมือง เพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานเรา

ไอจี เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน ทรงโพสต์ภาพนายกฯ ไทยไปเยือน

27 ม.ค. 65 - อินสตาแกรมอย่างเป็นทางการของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบียได้ทรงโพสต์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของราชอาณาจักรไทยที่เข้าเฝ้าฯ โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวถึง 394 รายการ และผู้ถูกใจถึง 6,995 คน ทั้งนี้ไอจีของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูดนั้นมีติดตามถึง 949,000 คน


ที่มา : https://www.instagram.com/p/CZLvq47qBMj/
https://www.thaipost.net/hi-light/73500/
 

“นายกฯ”สั่ง “ก.พาณิชย์-ตำรวจ”ตรวจสต๊อกปาล์มน้ำมัน ห้ามกักตุน ให้ก.เกษตรฯ คุมASF ระบาดในสุกร

นายธนกร  วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์สินค้าราคาแพง และสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมัน ที่เพิ่มสูงจากสภาพอากาศ ฝนตกต่อเนื่อง โดยกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสต็อกปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่กักตุนสินค้า ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันทั้งระบบและส่งผล
กระทบต่อประชาชนผู้บริโภคอุปโภคเป็นวงกว้าง โดยล่าสุดตำรวจร่วมบูรณาการกับพาณิชย์จังหวัด จัดชุดตรวจลงพื้นที่ตรวจสต็อกปาล์มน้ำมัน โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โรงกลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ตลอดจนคลังน้ำมันปาล์มฯ

โดยจะดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้กำหนดโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ  และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง หรือหากมีการแจ้งการครอบครองไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนั้น นายกฯ ติดตามการดำเนินงานตามข้อสั่งการเรื่องการป้องกัน ควบคุมและกำจัดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ตามที่กรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่สำรวจปริมาณซากสุกรในห้องเย็นทั่วประเทศอย่างเข้มงวด ระหว่างวันที่ 20-25 ม.ค.จำนวน 773 แห่งตรวจพบซากสุกรสะสม จำนวน 18,727,824.545 กิโลกรัม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top