ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีอนุมัติการจัดทำ ‘วีซ่าระยะยาว’ ให้ชาวต่างชาติ 4 กลุ่มเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา รวมถึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาสิทธิประโยชน์ของวีซ่า ซึ่งรวมถึงการถือครองห้องชุดและบ้านจัดสรร โดยศิริกัญญา มองว่า มาตรการเหล่านี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อยมาก และเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด
ศิริกัญญา ระบุว่า โครงการเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาก็มีความพยายามจะออกวีซ่านักลงทุน และบัตร Thailand Elite Privilege Card เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาอาศัย ท่องเที่ยวและลงทุนในไทยมากขึ้น และต่างประเทศ ก็มีนโยบายคล้าย กัน เช่น Golden Visa ของยุโรปดึงดูดชาวต่างชาติที่มีมูลค่าสูงเข้าไป
แต่งานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารวิชาการ Journal of Ethnic and Migration Studies ระบุว่า หลายประเทศมักออกวีซ่าประเภทนี้ช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ โดยวีซ่าเหล่านี้กลับมีผลต่อจีดีพีไม่เกิน 0.3% เท่านั้น อีกทั้งยังไม่มากพอจะสร้างความเปลี่ยนแปลงใด ๆ กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นเพียงไม่ถึง 5% ของการซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดเท่านั้น
ปัจจุบัน กฎหมายไทยก็อนุญาตให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ในอาคารชุดได้ 49% อยู่แล้ว หากจะแก้ไขกฎหมายเพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 70-80% ซึ่งก็สามารถทำได้ แต่ควรเป็นโครงการระยะสั้นเพื่อแก้ปัญหาซัพพลายคอนโดที่ล้นเกิน ในช่วงแค่ 3-5 ปีเท่านั้น เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ในไทยก็มีปัญหามาตั้งแต่ก่อนโควิด-19 ระบาด มีการสร้างคอนโดขึ้นมามาก จนเริ่มขายไม่ออก มีการประเมินว่ายังเหลืออสังหาริมทรัพย์ที่สร้างมาแล้วยังขายไม่ออกอยู่ราว 2 แสนยูนิต หากมีการเปิดทางให้ชาวต่างชาติซื้อได้มากขึ้น ก็จะช่วยระบายสต็อกออกไปได้ในส่วนที่เป็นอสังหาริมทรัพย์สำหรับลูกค้าระดับบน จากนั้นก็ควรยุติโครงการดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังต้องดูรายละเอียดว่าจะแก้กฎหมายอย่างไร เช่น ให้ต่างชาติซื้อบ้านในหมู่บ้านได้กี่เปอร์เซ็นต์ ถือกรรมสิทธิ์ได้กี่เปอร์เซ็นต์ กำหนดระยะเวลาการถือครองว่าต้องถือกี่ปีก่อนจะขายต่อ และกำหนดว่าการขายต่อจะต้องขายคืนให้พลเมืองไทยเท่านั้นหรือไม่