Wednesday, 21 May 2025
NEWS

'ผู้นำโสมขาว' ขอสานความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับญี่ปุ่น วอน!! ชาวเกาหลีก้าวข้ามทุกเรื่องบาดหมางในอดีต

วันนี้ 15 สิงหาคม ตรงกับวันปลดปล่อยแห่งชาติ (Liberation Day) ของเกาหลี โดยเป็นวันที่คาบสมุทรเกาหลีได้รับการปลดปล่อยจากการยึดครองของกองทัพญี่ปุ่นจากฝ่ายกองกำลังสัมพันธมิตร หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 

ฉะนั้นเกาหลีใต้ จะถือวันนี้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์สำคัญประจำปี โดยจะมีการเฉลิมฉลองที่ได้รับอิสรภาพ และรวมถึงมักมีการย้อนรำลึกถึงความโหดร้ายของสงคราม และการกระทำของกองทัพญี่ปุ่นที่ยังคงทิ้งแผลใจให้แก่ชาวเกาหลีจนถึงทุกวันนี้ 

แต่ทว่า ในปีนี้ 2022 'ยุน ซอก-ยอล' ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ออกมากล่าวสุนทรพจน์ในวันฉลองครบรอบ 77 ปี วันปลดปล่อยเกาหลีว่า ต้องการเริ่มต้นสานสัมพันธ์ที่ดีกับญี่ปุ่นอีกครั้ง เพราะเสถียรภาพ และความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกนั้นสำคัญกว่า

โดยประธานาธิบดี 'ยุน ซอก-ยอล' กล่าวว่า ในปัจจุบันนี้ ญี่ปุ่นกลายเป็นพันธมิตรสำคัญในการต่อสู้กับภัยคุกคามเสรีภาพของโลก ดังนั้นก็ถึงแก่เวลาที่ชาวเกาหลีใต้ ควรก้าวข้ามความขัดแย้งในอดีตไปได้แล้ว และเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลี-ญี่ปุ่น สามารถเดินไปข้างหน้าด้วยกันบนพื้นฐานของค่านิยมสากลในด้านการส่งเสริมเสรีภาพ ก็น่าจะช่วยคลี่คลายความบาดหมางในอดีตได้ 

แต่ทั้งนี้ ความบาดหมางฝังลึกระหว่างเกาหลี และ ญี่ปุ่น มิใช่เพียงแค่การที่กองทัพญี่ปุ่นเข้ามากดขี่ ยึดครองและสังหารทหาร และประชาชนชาวเกาหลีเท่านั้น แต่ยังมีประเด็นของ 'Comfort Women' หญิงชาวเกาหลีที่ถูกทหารญี่ปุ่นใช้เป็นนางบำเรอในกองทัพด้วยความไม่สมัครใจเป็นจำนวนมาก

ซึ่งในปัจจุบัน สตรีชาวเกาหลีเหล่านั้นหลายคนยังมีชีวิตอยู่ และเรียกร้องให้ญี่ปุ่นออกมาแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำโดยกองทัพญี่ปุ่น แล้วชาวเกาหลีใต้จะสามารถก้าวข้ามความบาดหมางที่ผ่านมาไปได้อย่างที่ผู้นำเกาหลีใต้ออกมากล่าวในวันปลดแอกปีนี้ได้จริงหรือ?

อย่างไรก็ตามนโยบายการขอคืนดีกับญี่ปุ่นนี้ ประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ได้เกริ่นไว้ตั้งแต่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว โดยเรียกว่าเป็นการขยายความร่วมมือกันในหลายมิติ ตั้งแต่ด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ที่ช่วยส่งเสริมสันติภาพ และความก้าวหน้าในระดับนานาชาติ 

โดย ยุน ซอก-ยอล ได้อ้างอิงถึง ข้อตกลงความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลี-ญี่ปุ่น ที่เคยทำร่วมกันในปี 1998 ในสมัย คิม แท-จุง ผู้นำเกาหลีใต้ และ เคโซ โอบุจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่เรียกว่า Japan–South Korea Joint Declaration ซึ่งเป็นเหมือนพิมพ์เขียวในการสานสัมพันธ์เพื่ออนาคตระหว่าง 2 ชาติชั้นนำในเอเชียกลาง ที่ต่างก็เป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นกับสหรัฐอเมริกาทั้งคู่

โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ประกาศเกียรติคุณ เชิดชูความดี นร.จ่าทหารเรือ ช่วยผู้ประสบเหตุร้ายแรงบนท้องถนน

(15 ส.ค. 65) นาวาเอก พรพิชิต สุวรรณศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนนาวิกเวชกิจ กรมแพทย์ทหารเรือ ทำพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ เชิดชูความดี แด่ นักเรียนจ่าทหารเรือ ธีรวีร์ เจริญศึกษา นักเรียนจ่าทหารเรือ พรรคพิเศษ เหล่าทหารแพทย์ ชั้นปีที่ 2 เนื่องจากเป็นผู้มีจิตอาสาสละแรงกาย เวลาและสติปัญญา ในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงบนท้องถนน ที่จังหวัดระยอง

นักเรียนจ่า ธีรวีร์ เจริญศึกษา เปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2565  ตนได้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดระยอง เพื่อไปหาบิดา มารดา เนื่องจากเป็นวันหยุดพักประจำสัปดาห์  ต่อมาในเวลา 20.00 น. ระหว่างที่ตนกำลังนั่งรับประทานอาหารค่ำอยู่กับมารดา ก่อนเข้าบ้าน ตนได้ยินเสียงดัง "โครม" ที่บริเวณถนนใหญ่หน้าร้าน ตนได้ชะเง้อมองแต่ไม่เห็นอะไร และเพียงครู่เดียวก็ได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วย 

จากการปลูกฝังความเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือมาอย่างดี จากคุณพ่อที่เป็น Navy SEAL ของกองทัพเรือ (นาวาตรี นพรัตน์ มีสุข) และคุณแม่นางสาว สรัลชนา เจริญศึกษา (หัวหน้าฝ่ายกองสวัสดิการ เทศบาลตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา) ตนจึงตัดสินใจลุกออกจากโต๊ะอาหารไปดู จึงเห็นรถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างบริเวณจุดกลับรถบนถนนใหญ่หน้าร้านที่ตนนั่งอยู่ และเห็นชายไทยวัยรุ่นอายุประมาณ 15 ปี นอนนิ่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ และไม่สนองตอบต่อการประเมินความรู้สึกตัว

‘บิ๊กป้อม’ รุดพื้นที่สระบุรี รับมือมวลน้ำตอนเหนือ หวั่น!! กระทบพื้นที่ท้ายน้ำ กทม.และปริมณฑล

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รวมทั้งคณะทำงาน ได้เดินทางลงพื้นที่ จังหวัดสระบุรี ตรวจสอบความพร้อมกลไกต่าง ๆ และแผนรับมือการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำและอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง ไม่ให้กระทบชุมชนท้ายน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.และปริมณฑลริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก

โดยรับฟังการบรรยายสรุป ถึงสถานการณ์น้ำภาพรวม แผนด้านทรัพยากรน้ำสระบุรี ความก้าวหน้า 13 มาตรการรับมือน้ำฤดูฝน แผนบริหารจัดการน้ำเขื่อนป่าสัก และแนวทางระบายน้ำฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง จากผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี, เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.), อธิบดีกรมชลประทาน และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ ศาลากลาง จังหวัดสระบุรี

ทั้งนี้ ‘พล.อ.ประวิตร’ ได้ย้ำสั่งการ สทนช. ร่วมกับ กรมชลประทาน รวมทั้ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และฝ่ายปกครองระดับจังหวัด ให้ความสำคัญทำงานร่วมกับ ศูนย์อำนวยการส่วนหน้า สทนช.ที่จัดตั้งขึ้น ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนรับมือฤดูฝน 13 มาตรการ โดยให้ปรับปรุงกลไกการบริหารจัดการให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เนื่องจากมีฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องจากมรสุมในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลพื้นที่หลายจังหวัดมีน้ำท่วมขังสูง โดยเฉพาะพื้นที่ริมลำน้ำสายหลักยังคงต้องเฝ้าระวัง และติดตามสภาพอากาศแจ้งเตือนประชาชนให้ทันกับสถานการณ์ รวมทั้งให้การช่วยเหลือประชาชนทันที เน้นการมีส่วนร่วมมากขึ้น

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดอบรมเสริมความรู้คดีค้ามนุษย์กับพนักงานสอบสวนและทีมสหวิชาชีพ

วันนี้ (15 ส.ค. 65) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 , พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. พนักงานสอบสวนและทีมสหวิชาชีพ ร่วมพิธีเปิดการโครงการอบรมสัมมนา พนักงานสอบสวนและทีมงานสหวิชาชีพจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคุ้มครองแรงงานแก่คนต่างด้าวและป้องกันการละเมิดสิทธิตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการค้ามนุษย์ รุ่นที่ 2 ระยะที่ 2  ณ โรงแรมเครปพันวา จ.ภูเก็ต

การอบรมสัมมนาในครั้งนี้เป็นนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย อยู่ในระดับมาตรฐานสากล หลังจากประเทศไทยได้รับการปรับระดับในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์  (TIP) ประจำปี 2022  เมื่อวันที่ 19 ก.ค.65 จากระดับ “เทียร์ 2 ที่ต้องถูกจับตามอง (Tier 2 Watch List) ขึ้นมาเป็น เทียร์ 2 (Tier 2) ส่งผลให้เศรษฐกิจในภาคประมงและแรงงานของไทยเป็นไปอย่างยั่งยืน

ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดโครงการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน หวังเพิ่มประสิทธิภาพงานสืบสวน

วันนี้ (15 ส.ค. 65) ที่ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจกลาง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพหรือเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน รุ่นที่ 6 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 

พล.ต.ท.ประจวบฯ เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งหวังให้สังคมมีความสงบเรียบร้อย ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน มีความห่วงใยในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนเห็นความสำคัญของการพัฒนางานสืบสวนในภาพรวม ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงของอาชญากรรมในปัจจุบัน จึงได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้จัดทำโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพหรือเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ของ บช.น. และ ภ.1 - 9 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 10 รุ่น รุ่นละ 60 นาย รวม 600 นาย ณ ศูนย์ฝึกยุทธวิธีตำรวจกลาง จ.นครราชสีมา 

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า ในวันนี้ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน ให้มาเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมทั้งกำกับดูแล ให้คำแนะนำ ถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ ในโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพหรือเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน รุ่นที่ 6 ซึ่งมีผู้เข้ารับการอบรมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวนในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ได้แก่ ภ.จว.นครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และ บก.สส.ภ.7 รวมจำนวน 60 นาย เพื่อเพิ่มพูนทักษะและองค์ความรู้ในงานสืบสวนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน พัฒนาศักยภาพการขยายผลและเทคนิคการสืบสวนสมัยใหม่ และมุ่งหวังให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทุกพื้นที่ มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ เทคนิคการสืบสวนตลอดจนประสานความร่วมมือบูรณาการการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยและเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขึ้น โดยในการฝึกอบรมครั้งนี้ จะมีการฝึกอบรมทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เช่น หลักการตรวจที่เกิดเหตุ การเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและการปฏิบัติในที่เกิดเหตุของนักสืบ เทคนิคงานสืบสวนสมัยใหม่ การตรวจพิสูจน์และเครื่องมือพิเศษ การสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินเครือข่ายการค้ายาเสพติดและการดำเนินคดีฟอกเงิน ศิลปะการซักถามและการบันทึกถ้อยคำพยาน การเขียนรายงานการสืบสวน การขอหมายขังและการควบคุมตัวไว้ในที่ปลอดภัย และการทดลองปฏิบัติการสืบสวนในกรณีศึกษา (Case Study) ที่น่าสนใจ เป็นต้น

'หมอยง' ไขข้อข้องใจอาการ 'ลองโควิด' ชี้ ไม่ควรตระหนก-หวาดกลัวจนเกินเหตุ

วันที่ (15 สิงหาคม 2565) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า โควิด-19 ลองโควิด

ขอให้รายละเอียด ที่มีการพูดถึงกันมากเกี่ยวกับ ลองโควิด (Long Covid) และไม่ควรตระหนกจนเกินเหตุ

ลองโควิด หมายถึง อาการที่หลงเหลืออยู่หลังติดเชื้อโควิด ไม่ต่างกับโรคอื่น ที่เมื่อเจ็บป่วยแล้ว อาจจะมีอาการหลงเหลืออยู่

ส่วนใหญ่เป็นอาการจากคำบอกเล่า (symptoms) มากกว่าที่ตรวจพบ (signs)

อาการหลักคือ รู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย สมองล้า หัวตื้อ (brain fog) หายใจติดขัด

อาจจะมีอาการอื่นประกอบ เช่น เจ็บหน้าอก ปวดศีรษะ ท้องเสีย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รส ซึมเศร้าเครียด กังวล นอนไม่หลับ

ส่วนใหญ่จะเป็นอาการทางจิตใจ มากกว่า ทางร่างกาย

ผู้ที่ป่วยหนักจะพบได้มากกว่า

อายุมากยิ่งสูงอายุ พบมากกว่าอายุน้อย หรือน้อยมาก ๆ ในเด็ก

พบในหญิงมากกว่าเล็กน้อย

'ศักดิ์สยาม' ดีเดย์รถเมล์ อีวี แทนสาย 8 เดิม 20 ส.ค.นี้ พร้อมดันรถเมล์ EV ไม่น้อยกว่า 1,000 คัน ภายในปี 65

‘ขนส่งฯ’เตรียม Kick Off วิ่งรถเมล์ EV สาย 2-38 (สาย 8 เดิม) ‘แฮปปี้แลนด์-ท่าเรือสะพานพุทธ’ นำร่อง 20 คัน ดีเดย์ 20 ส.ค. นี้ พร้อมตั้งเป้ารถขนส่งสาธารณะใช้ระบบ EV ไม่น้อยกว่า 1,000 คันภายในปี 65 

(15 ส.ค. 2565) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ส.ค. 2565 เตรียม Kick Off ให้บริการเดินรถโดยสารปรับอากาศที่ใช้พลังงานสะอาด (EV) สาย 2-38 (สาย 8 เดิม) แฮปปี้แลนด์-ท่าเรือสะพานพุทธในเบื้องต้น 20 คัน จากทั้งหมด 40 คัน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิรูปรถโดยสารของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ที่ในระยะแรกจะมีการทดลองนำร่องทั้งหมด 150 คัน กระจายไปในเส้นทางอื่น ๆ

ขณะเดียวกัน ยังได้มอบหมายให้ ขบ. ไปพิจารณาให้รถขนส่งสาธารณะ ทั้งรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) , รถร่วมบริการ ขสมก. และรถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปลี่ยนเป็นรถโดยสารระบบ EV โดยในปี 2565 ได้ตั้งเป้าหมายไว้ไม่น้อยกว่า 1,000 คัน จากแผนทั้งหมด 3,200 คัน

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดี ขบ. กล่าวถึงกระแสความสับสนของประชาชน กรณีการปรับเปลี่ยนเลขสายรถเมล์แบบใหม่ว่า ขบ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และรับฟังความเห็นของประชาชน โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ช่วงนี้อาจจะเกิดความสับสน แต่ ขบ. ได้เดินหน้าแก้ไขปัญหา อาทิ การประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าทั้งบนรถเมล์ และเว็บไซต์ว่า สายเดิมเป็นเลขหมายใด และสายใหม่เป็นเลขหมายใด เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ก่อนหน้านี้ รถโดยสารประจำทาง (รถเมล์ร้อน) สาย 8 เส้นทางแฮปปี้แลนด์–สะพานพุทธ เตรียมยุติการดำเนินกิจการเนื่องจากไม่ผ่านคุณสมบัติในเส้นทางสัมปทานเดินรถ จำนวน 77 เส้นทางในแผนการปฏิรูปฯ ทั้งนี้ เส้นทางเดินรถของสาย 8 เดิม จึงมีรถโดยสารประจำทางของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB ผู้ได้รับสัมปทานมาเดินรถแทน โดยเรียกชื่อสายใหม่ว่า สาย 2-38 โดยจะใช้รถพลังงานไฟฟ้า พร้อมด้วยนำระบบเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการควบคุมการเดินรถ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน

'จีน' ฮึ่ม!! สหรัฐฯ ส่งตัวแทนรัฐบาลเยือนไต้หวันรอบ 2 คาด!! ฉกฉวยโอกาสเลือกตั้งกลางเทอมมะกันช่วงพ.ย.นี้

ทางการจีนออกมาตอบโต้สหรัฐอเมริกา หลังส่งตัวแทนจากรัฐสภาชุดที่ 2 เดินทางเยือนไต้หวัน เมื่อวานนี้ ด้วยการเตือนว่า 'อย่าเล่นกับไฟ' เกี่ยวกับกรณีไต้หวันที่ถือเป็นเรื่องภายในของจีน

สำนักข่าว Xinhua ของจีน รายงานว่า ทางการจีนออกมาตอบโต้ด้วยความไม่พอใจ กรณีที่คณะตัวแทนจากรัฐสภาสหรัฐฯ จำนวน 5 คน นำโดย เอ็ด มาร์กี้ วุฒิสมาชิกจากรัฐแมสซาชูเซตส์ ได้เดินทางถึงไต้หวันเมื่อวานนี้ (14 สิงหาคม) ซึ่งนับเป็นตัวแทนจากรัฐสภาชุดที่ 2 ที่เดินทางไปเยือนไต้หวัน ต่อจาก แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ 

พร้อมกับส่งสารเตือนสหรัฐฯ ว่า “นักการเมืองสหรัฐฯ ควรที่จะหยุดเล่นกับไฟได้แล้ว” พร้อมกับเน้นย้ำว่า เรื่องของไต้หวันถือเป็นเรื่องภายในของจีน

นอกจากนี้ สำนักข่าว Xinhua ยังระบุด้วยว่า การเยือนไต้หวันของนักการเมืองชาวอเมริกันในครั้งนี้ ถือเป็นการฉกฉวยโอกาสเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้

‘บิ๊กตู่’ พอใจ ผลถกร่วม ไทย-มาเลเซีย เห็นพ้อง เร่งสร้างสระพานข้ามแม่น้ำโกลก

บิ๊กตู่ พอใจ ผลถกร่วม ไทย-มาเลเซีย เห็นพ้อง เร่งสร้างสระพานข้ามแม่น้ำโกลก พัฒนาด่านจังหวัดชายแดนใต้

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 65 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลจากประชุมร่วมไทยและมาเลเซีย ผ่านคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (เจซี) และคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดน ระดับรัฐมนตรี (เจดีเอส) ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ทั้งสองประเทศเห็นชอบในแนวทางการพัฒนาร่วมกันที่ครอบคลุม ทั้งความมั่นคงทางการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว พลังงาน สาธารณสุข และประเด็นความร่วมมือทางสังคมและวัฒนธรรมอื่น ๆ โดยจะมีการทำโรดแมปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ภายใต้กรอบเวลาที่ชัดเจนต่อไป อาทิ การค้า จะตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้าที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี พ.ศ. 2568 , การท่องเที่ยว ส่งเสริมการเดินทางเคลื่อนย้ายของประชาชนและกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อชาวมุสลิมและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน , การเสริมสร้างความเชื่อมโยง จะเร่งรัดให้โครงการต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งรวมถึงการสร้างถนนเชื่อมต่อด่านสะเดาแห่งใหม่-บูกิตกายูฮิตัม และการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก  2 แห่ง รวมทั้งจะศึกษาความเป็นไปได้โครงการความเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดสตูลและรัฐปะลิส และเส้นทางรถไฟความเร็วสูง

'ขุนคลังยูเครน' รับ!! เงินทุนในปท.ฮวบ หวั่น!! ไม่มีเงินจ่ายรายเดือนให้ทหาร

ยูเครนถูกบีบให้ต้องพิมพ์เงินจ่ายค่าจ้างเหล่าทหารของเขาที่กำลังสู้รบกับรัสเซียอยู่ในตอนนี้ ด้วยที่ความช่วยเหลือด้านการเงินจากตะวันตกมาถึงล่าช้า 

เซอร์เกย์ มาร์เชนโก รัฐมนตรีคลังยูเครน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสหรัฐฯ ว่าเขาต้องเผชิญกับเรื่องปวดหัวอย่างต่อเนื่องในความพยายามรักษาสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายในการทำสงครามกับรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ต่ำลง หลังเศรษฐกิจถูกทุบทำลายจากการสู้รบที่ยืดเยื้อมาเกือบ 6 เดือน

รัฐมนตรีรายนี้บอกว่าด้วย ราว ๆ 60% ของงบประมาณถูกใช้ไปกับการสู้รบ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมด แต่มันยังไม่เพียงพอ เนื่องจากรายได้ทางภาษีคิดเป็นสัดส่วนแค่ 40% เท่านั้นของการใช้จ่ายของภาครัฐ ตามรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล

ก่อนหน้านี้ยูเครนเคยบอกว่า พวกเขาต้องการเงิน 5,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในการบริหารประเทศ และจะไม่สามารถอยู่รอดได้หากปราศจากความช่วยเหลือจากตะวันตก อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงคือเงินกู้และเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า ที่บรรดาผู้สนับสนุนต่างประเทศสัญญาจะมอบให้ยูเครนนั้น มาถึงล่าช้ากว่าที่คาดหมายไว้

ยกตัวอย่างเช่น จนถึงตอนนี้อียูมอบเงินแก่ยูเครนเพียง 1,000 ล้านยูโร จากทั้งหมด 9,000 ล้านยูโร ตามที่เคยรับปากไว้ ขณะที่ เยอรมนี คัดค้านแนวความคิดมอบเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ยูเครน ภายใต้คำรับประกันจากบรรดารัฐสมาชิกของอียู อย่างไรก็ตาม มาร์เชนโก ยังเชื่อว่าเขายังมีเวลามากพอในความพยายามโน้มน้าวให้บรรดารัฐบาลตะวันตกดำเนินการรวดเร็วขึ้น "หากปราศจากเงินนี้ สงครามจะยืดเยื้อยิ่งขึ้น และจะก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจหนักกว่าเดิม" เขาอธิบาย

'โรม' ซัด รัฐรับอดีตผู้นำศรีลังกาที่ถูกขับไล่อย่างสบายใจ  แต่กลับผลักไสผู้ลี้ภัย 'ชาวเมียนมา-โรฮิงญา-อุยกูร์'

(12 ส.ค. 65) รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับประเด็นที่ไทยต้อนรับอดีตผู้นำศรีลังกาที่ถูกขับไล่อย่างสบายใจ แต่กลับผลักไสผู้ลี้ภัยจากสงคราม พร้อมติงว่า รัฐบาลประยุทธ์จะฉุดภาพลักษณ์ประเทศไทยในสายตานานาชาติให้ตกต่ำถึงขนาดไหน? ดังนี้...

กรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออกมายืนยันกรณีที่อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา กำลังจะขอเข้ามาพักรอลี้ภัยไปประเทศที่สามจริงนั้น ผมรู้สึกแปลกใจมากว่าเหตุผลใดรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ถึงเอาประเทศไทยมาเป็นบ้านพักชั่วคราวให้ผู้นำที่ถูกประชาชนขับไล่จนต้องหนีออกมา แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ลี้ภัยสงครามชาวเมียนมา กรณีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา หรือผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่อยู่ในสถานะหลบหนีภัยภายในประเทศ กลับเจอชะตากรรมที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว

ที่ผ่านมา มีการร้องเรียนเข้ามาในกรรมาธิการการต่างประเทศ ให้ช่วยหาทางออกและการจัดการอย่างมีมนุษยธรรมต่อผู้ลี้ภัยอยู่หลายครั้ง เนื่องจากมีการร้องเรียนว่ามีมาตรการจากทางรัฐบาลที่ไม่เป็นไปตามหลักการที่ควร รวมถึงมีความพยายามกีดกัน ไปจนถึงส่งกลับผู้ลี้ภัยมาแล้วจากหลายกรณีในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จนทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายอย่างมาก

กลับกันพอเป็นอดีตประธานาธิบดีที่มีข้อสงสัยว่าเกี่ยวพันกับการอุ้มหาย ซ้อมทรมานประชาชนในศรีลังกา จนหาที่ไปไม่ได้ รัฐบาลไทยกลับอ้าแขนรับเข้ามาอย่างหน้าตาเฉยราวกับว่านี่คือเราไม่แคร์สายตาประชาคมโลกว่าจะมองประเทศเราเป็นอย่างไร กับการสองมาตรฐานในการต้อนรับผู้ลี้ภัยเช่นนี้

'ชาวฮ่องกง' ปักหมุด!! กรุงเทพฯ อันดับ 1 จุดหมายที่ต้องมา ฉลองรัฐบาลฮ่องกงเริ่มซามาตรการเข้มโควิด-19

นักท่องเที่ยวจากฮ่องกงเริ่มคึกคัก เมื่อรัฐบาลฮ่องกงประกาศผ่อนคลายมาตรการกักตัว จากเดิม 7 วัน เหลือเพียง 3 วัน ทำให้ชาวฮ่องกงเริ่มวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศกันมากขึ้น หลังจากที่ต้องงดการเดินทางตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดของโควิด-19 ที่ฮ่องกงในปี 2020 

จากข้อมูลของ Expedia ผู้ให้บริการจองแพ็กเกจ ตั๋วเครื่องบิน และที่พัก เปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ทางการฮ่องกงประกาศลดระดับมาตรการกักตัว ปรากฏพบว่ามีชาวฮ่องกงค้นข้อมูลตั๋วเครื่องบินเพิ่มสูงขึ้น 290% ซึ่งเป็นความถี่ที่มากกว่าช่วงเวลาปกติตลอด 1 สัปดาห์ถึง 10 เท่า 

และจุดหมายปลายทางที่มาแรงเป็นอันดับ 1 คือ กรุงเทพฯ รองลงมาคือ โอซาก้า นอกจากนี้ ภูเก็ต, โซล และสิงคโปร์ ก็เป็นคำค้นยอดฮิตของนักท่องเที่ยวฮ่องกงเช่นกัน 

จากผลการค้นหาดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า ทริปเดินทางระยะใกล้ในย่านเอเชียยังคงได้รับความนิยมสูงสุด แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการวางแผนเที่ยวของชาวฮ่องกงคือ ระยะเวลากักตัวที่ยาวนาน และมีค่าใช้จ่ายสูง 

'พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว' ทรงรับครูบาบุญชุ่ม เป็นภิกษุอาพาธในพระบรมราชานุเคราะห์

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ทางเพจเฟซบุ๊กมูลนิธิดอยเวียงแก้ว โพสต์ภาพครูบาบุญชุ่ม ขณะรักษาตัวและข้อความว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงมีพระราชศรัทธาอย่างยิ่งยวดในพระพุทธศาสนา ทรงสืบสานพระราชปณิธาน 'ธรรมราชินี' และ ทรงห่วงใยพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ

ในการนี้ ทรงมีพระเมตตาคุณ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ทรงรับครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร อรัญวาสีภิกขุ วัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งกำลังอาพาธอยู่นั้น ไว้เป็นภิกษุอาพาธในพระบรมราชานุเคราะห์

'พระครูแจ้' เจ้าอาวาสวัดดังบางพลี จัดกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติ 90 พรรษา ทำบุญตักบาตร ตั้งโรงทานถวายเป็นพระราชกุศล 12 สิงหาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 

โดยมี นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี นายฉะโอด รุ่งเรือง อดีตนายก อบต.บางพลีใหญ่ นายภูมินันท์ ขวัญเมือง นายโสภณ มหาบุญ ดร.วีร์สุดา รุ่งเรือง นายก อบต.บางพลีใหญ่ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี ข้าราชการตำรวจ คณะเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล อุบาสก และอุบาสิกา ร่วมในพิธีครั้งนี้

โดย กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหาคม 2565 ในปีนี้ ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง โดย ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ได้จัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตร การจัดตั้งโรงทาน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล การแสดงพระธรรมเทศนาเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ และความเพียรอุตสาหะของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  โดยท่าน พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง 

'อลงกรณ์' เผยครึ่งปีแรกไทยยืนเบอร์ 1 แชมป์โลกส่งออกยาง ครองสัดส่วนตลาดจีน 49%

คณะกก. รักษาเสถียรภาพราคายางกระทรวงเกษตรฯ ออก 6 มาตรการบุกตลาดเชิงรุก พร้อมจัดตั้งแพลตฟอร์มเครือข่ายยางไทยผนึกพลังทุกภาคส่วนเพิ่มศักยภาพขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามและเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางและรักษาเสถียรภาพราคายางของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 4/2565 ณ ห้องประชุมรัษฎา อาคาร 2 ชั้น 2 การยางแห่งประเทศไทย และผ่านระบบการประชุมออนไลน์ Zoom Cloud Meeting โดยกล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะตลาดยางรวมทั้งมุมมองและข้อเสนอแนะจากสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรของไทยทุกภูมิภาคทั่วโลกและรายงานของการยางแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาด และการส่งออกครึ่งปี 2565 ยังครองตำแหน่งประเทศผู้ส่งออกยางอันดับ 1 ของโลกด้วยปริมาณการส่งออกยางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยาง 2,190,065 ตัน โดยเฉพาะจีนนำเข้ายางไทยเป็นอันดับหนึ่งครองมาร์เก็ตแชร์ถึง 49% รวมทั้งรายงานความก้าวหน้าของมาตรการรักษาเสถียรภาพราคายางโดย กยท. เพื่อประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความผันผวนของราคายาง ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดและสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อส่งผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบต่อต้นทุนการผลิต ระบบโลจิสติกส์ สถานการณ์เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยและภาวะตลาด ทำให้ราคาผันผวน จำเป็นต้องเพิ่มกลไกและมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อสร้างโอกาสในวิกฤติ โดยเน้นการบูรณาการทำงานจากหลายภาคส่วนร่วมกัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชากา ภาคภาคเกษตรกร สถาบันเกษตรกรภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปภาคเกษตรของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 ยุทธศาสตร์ทำงานเชิงรุกบูรณาการทุกภาคส่วน ยุทธศาสตร์เกษตรปลอดภัยเกษตรมั่นคงเกษตรยั่งยืน (3 S : Safety Security Sustanability) และยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนบนฐานศาสตร์พระราชาเป็นกรอบการกำหนดมาตรการและการบริหารเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของยางไทย

ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบในหลักการให้มีการจัดตั้งแพลตฟอร์มเครือข่ายยางไทยเป็นองค์กรความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับยางพาราตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำด้วยแนวทางความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน (Partnership principal) เป็นการผนึกพลังให้แข็งแกร่งในฐานะประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกยางอันดับหนึ่งของโลกเป็นองค์กรในลักษณะเดียวกับแพลตฟอร์มเครือข่ายความร่วมมือ FKII ของญี่ปุ่นซึ่งมีกว่า 4,200 องค์กรเป็นสมาชิกและมอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทยประสานกับสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรไทยในญี่ปุ่นเพื่อจัดทำโครงสร้างและระบบของแพลตฟอร์มเครือข่ายยางไทยเสนอในการประชุมคราวหน้า และจากการเสนอรายงานและข้อเสนอแนะของทูตเกษตรทุกภูมิภาคทั่วโลกทำให้เห็นถึงช่องว่างตลาดใหม่ๆ และนโยบายใหม่ของประเทศคู่ค้าจึงให้เพิ่มมาตรการใหม่อีก 6 มาตรการเชิงรุกได้แก่

1.) มาตรการสื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุกเช่นการผลิตสื่อดิจิทอลเผยแพร่ในตลาดต่างประเทศ
2.) มาตรการตลาดเชิงรุกเน้นความต้องการผลิตภัณฑ์ยางในรายตัวสินค้าและในรายประเทศคู่ค้า (product based & country based) เช่น ความต้องการยางจักรยานและยางรถบัสเพิ่มขึ้นในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปและผลิตภัณฑ์ยางที่อียูแบนสินค้าจากรัสเซียหรือผลิตภัณฑ์ยางที่รัสเซียระงับการนำเข้าจากอียูทำให้เกิดช่องว่างที่ไทยสามารถส่งออกไปทดแทนได้
3.) มาตรการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเร่งดำเนินการก่อนประเทศคู่แข่งโดยใช้แนวทางเกษตรกรรมยั่งยืน สวนยางยั่งยืนและระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ตอบโจทย์เทรนท์ของตลาดเช่นประเด็นสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) FSC และ Deforestation เป็นต้น
4.) มาตรการระยะสั้นรายไตรมาสเพื่อการบริหารจัดการตามปฏิทินฤดูการผลิตประจำปีโดยมอบกยท. ภาคเอกชน และภาคเกษตรกรหารือกันเพื่อกำหนดมาตรการร่วมกัน
5.) มาตรการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ยางมูลค่าสูงเน้นการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ยางเพิ่มรายได้ชาวสวนยาง สถาบันยางและผู้ประกอบการโดยให้กยท. ประสานกับศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (ศูนย์AIC) ซึ่งมีผลงานการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ยางจำนวนมากเช่นวัสดุภัณฑ์ก่อสร้างบ้านและอาคาร ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ด้านคมนาคมขนส่ง 
6.) มาตรการเชิงกลไกการตลาด เช่น การแทรกแซงตลาด ซึ่งกยท. ได้ดำเนินการโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางโดยเข้าแทรกแซงตลาดเป็นครั้งคราวในช่วงเวลาที่ผ่านมาจึงควรกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเชิงกลไกตลาดเช่นการบริหารซัพพลายและดีมานด์ กลไกตลาดซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบจริง และระบบการประมูลยางออนไลน์เป็นระบบที่เปิดกว้างเพิ่มผู้ซื้อทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาการกำหนดราคาโดยผู้ซื้อน้อยรายหรือการฮั้วหรือการผูกขาด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top