Thursday, 12 December 2024
NEWS

2 สาว ชาวมาเลเซีย ทำเรื่องสุดฮือฮา โพสต์หาชายหนุ่มร่วมใช้ชีวิตกับเธอทั้งคู่

สื่อต่างประเทศเผยแพร่เรื่องราวสุดฮือฮา 2 สาวมาเลเซีย ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ประกาศตามหาชายหนุ่ม ที่ยอมรับได้กับการแต่งงานกับพวกเธอทั้งสองคน

เพจ Viral Sensasi Malaysia แชร์เรื่องราวของผู้หญิง 2 คน ที่เป็นเพื่อนรักกัน และหญิงสาวทั้ง 2 คน กำลังมองหาชายรายใดก็ตาม ที่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับเธอทั้งคู่

จากข้อมูลที่โพสต์บนเพจ Viral Sensasi ระบุว่าผู้หญิงรายแรกมีอายุ 31 ปี เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจากรัฐตรังกานู ประกอบอาชีพอิสระ ส่วนอีกคนอายุ 27 ปี มาจากกลันตัน ประกอบธุรกิจมีร้านซักรีดเป็นของตนเอง

"ถ้าคุณไม่สามารถยอมรับการมีภรรยา 2 คนพร้อมกันได้ ก็ไม่เป็นไร เราแค่ลองพยายามเสี่ยงโชคดู" พวกเธอกล่าว "เราทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน และเราไม่แคร์"

‘เซเลนสกี’ เรียกร้องทั่วโลกลงถนนร่วมชุมนุม หวังเป็นแรงกดดัน ‘รัสเซีย’ หยุดรุกรานยูเครน

เมื่อวันพุธ (23 มี.ค.) ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี เรียกร้องประชาชนทั่วโลก รวมตัวกันบนท้องถนนสายต่างๆ เพื่อหยุดรัสเซียจากการรุกรานประเทศของเขา

เซเลนสกี กล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอเป็นภาษาอังกฤษ ว่า "ให้ทุกคนมาพร้อมกับสัญลักษณ์ยูเครน เพื่อสนับสนุนยูเครน เพื่อสนับสนุนเสรีภาพ เพื่อค้ำจุนชีวิต ด้วยการไปที่จัตุรัสต่างๆ ของพวกคุณ ไปบนท้องถนนสายต่างๆของพวกคุณ ทำให้พวกเขาเห็นพวกคุณและได้ยินเสียงพวกคุณ"

ในการปราศรัยที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก หนึ่งวันก่อนหน้าครบรอบ 1 เดือน ปฏิบัติการรุกรานของรัสเซีย เซเลนสกี เรียกร้องประชาชนทั่วทุกมุมโลก "ลุกขึ้นต่อต้านสงคราม เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมเป็นต้นไป และส่งเสียงต่อต้านสงครามนองเลือดของรัสเซีย"

"แสดงให้เห็นจุดยืนของคุณ ออกมาจากที่ทำงานของคุณ บ้านของคุณ โรงเรียนของคุณและมหาวิทยาลัยของคุณ มากันในนามของสันติภาพ" เซเลนสกีกล่าว "โลกต้องหยุดสงครามนี้"

พลเรือนหลายร้อยคนเสียชีวิตและอีกหลายร้อยคนได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดียวกันก็มีประชาชนชาวยูเครนอีกมากกว่า 3 ล้านคนที่ต้องหลบหนีออกนอกประเทศ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเพื่อนบ้านแห่งนี้ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยมีเป้าหมายขจัดเส้นทางมุ่งหน้าสู่การฝักใฝ่ตะวันตกของยูเครน

'ดร.อนันต์' เผยงานวิจัยพบกลุ่มคนเคยป่วยโควิด มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานภายใน 1 ปี

'ดร.อนันต์' เผยงานวิจัยพบกลุ่มผู้ที่เคยป่วยโควิด-19 ในทุก 100 คน มีถึง 2 คน เสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานภายใน 1 ปีหลังจากป่วยเป็นโควิด

23 มี.ค. 65 - ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และนักไวรัสวิทยา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

ผลงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่เพิ่งได้ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet Diabetes and Endocrinology ทำการเก็บข้อมูลจากประชากรกว่า 8.5 ล้านคน โดยในจำนวนประชากรเหล่านั้น มีผู้เคยป่วยด้วยโควิด-19 ถึง 181,000 คน โดยทีมวิจัยพบว่า กลุ่มผู้ที่เคยป่วยโควิด-19 มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานภายใน 1 ปี หลังจากป่วยเป็นโควิด โดยความเสี่ยงดังกล่าวไม่จำกัดอยู่ในผู้ป่วยที่มีอาการหนักเท่านั้น

บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ส่ง บริษัทย่อย "ไมน์ โมบิลิตี รีเสิร์ช" (MMR) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ผู้ประกอบการเรือโดยสารประจำทาง ในโครงการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าคลองแสนแสบ 

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) EA เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 บริษัทไมน์ โมบิลิตี รีเสิร์ช จำกัด หรือ MMR ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด โดยมี นายเชาวลิต เมธยะประภาส กรรมการผู้จัดการ ร่วมลงนาม

โดย MMR เป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ มีวิสัยทัศน์และพันธกิจหลักในการศึกษาวิจัย และพัฒนายานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากระบบกักเก็บพลังงานในแบตเตอรี่ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนยานพาหนะทั้งทางบกและทางน้ำ อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ในขณะที่ บริษัทครอบครัวขนส่ง เป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากรมเจ้าท่าในการประกอบธุรกิจเดินเรือโดยสารประจำทางให้บริการผู้โดยสารในคลองแสนแสบ เส้นทางทางน้ำ ตั้งแต่วัดศรีบุญเรือง ผ่านท่าเรือประตูน้ำ จนถึงท่าเรือสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยมีประสบการณ์การเดินเรือในคลองแสนแสบมาเป็นระยะเวลายาวนาน

ทั้งนี้การร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การยกระดับการเดินทางในคลองแสนแสบ เพื่อศึกษาและพัฒนา ออกแบบ ระบบควบคุมและขับเคลื่อนเรือโดยสารด้วยพลังงานไฟฟ้า ระบบจัดการพลังงานแบตเตอรี่บนเรือ ระบบพลังงานไฮบริด เพื่อใช้เป็นระบบสำรองพลังงานในการชาร์จแบตเตอรี่ รวมไปถึงระบบควบคุมการชาร์จแบตเตอรี่ในเรือ และสถานีชาร์จแบตเตอรี่บนฝั่ง ให้สามารถใช้งานในสภาวะการทำงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาปรับเปลี่ยนเรือลำอื่นๆ ทั้งหมดให้เป็นเรือพลังงานไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสมตรงตามความต้องการ รวมถึงเพื่อพัฒนาบุคลากรและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของทั้งสองฝ่าย และเพื่อสนับสนุนความร่วมมือในการยกระดับพัฒนาธุรกิจอื่นๆ เพื่อเป็นการต่อยอดจากผลสำเร็จของการพัฒนาร่วมกันในอนาคต

"การที่ MMR และครอบครัวขนส่ง มีความร่วมมือในโครงการวิจัยและพัฒนาเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าคลองแสนแสบจะทำให้เรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าสามารถนำมาใช้ได้จริง มีคุณภาพและได้มาตรฐานตลอดจนสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเรือโดยสารอื่นๆได้อีกในอนาคต ช่วยลดการใช้พลังงาน อีกทั้งลดการสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ต่อยอดธุรกิจของกลุ่มบริษัทและร่วมฟื้นอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศต่อไป

ลังงานบริสุทธิ์ (EA) ส่ง บริษัทย่อย"ไมน์ โมบิลิตี รีเสิร์ช" (MMR) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ผู้ประกอบการเรือโดยสารประจำทาง ในโครงการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าคลองแสนแสบ ฟาก "สมโภชน์ อาหุนัย" ระบุความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อศึกษาและพัฒนาออกแบบเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าคลองแสนแสบ ให้มีประสิทธิภาพสามารถใช้งานได้จริง หวังนำมาใช้เป็นต้นแบบต่อไปในอนาคต 

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) EA เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 บริษัทไมน์ โมบิลิตี รีเสิร์ช จำกัด หรือ MMR ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด โดยมี นายเชาวลิต เมธยะประภาส กรรมการผู้จัดการ ร่วมลงนาม

โดย MMR เป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ มีวิสัยทัศน์และพันธกิจหลักในการศึกษาวิจัย และพัฒนายานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากระบบกักเก็บพลังงานในแบตเตอรี่ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนยานพาหนะทั้งทางบกและทางน้ำ อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ในขณะที่ บริษัทครอบครัวขนส่ง เป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากรมเจ้าท่าในการประกอบธุรกิจเดินเรือโดยสารประจำทางให้บริการผู้โดยสารในคลองแสนแสบ เส้นทางทางน้ำ ตั้งแต่วัดศรีบุญเรือง ผ่านท่าเรือประตูน้ำ จนถึงท่าเรือสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยมีประสบการณ์การเดินเรือในคลองแสนแสบมาเป็นระยะเวลายาวนาน

'ปูติน'​ เอาคืน!! เหล่า​ 'ประเทศไม่เป็นมิตร'​ ต้องซื้อก๊าซรัสเซียด้วยเงินสกุลรูเบิลเท่านั้น

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ระบุในวันพุธ (23 มี.ค.) ว่ารัสเซียจะรับชำระเฉพาะสกุลเงินรูเบิลเท่านั้น สำหรับการส่งมอบก๊าซธรรมชาติไปยังบรรดาชาติทั้งหลายที่ถูกขึ้นบัญชี "ประเทศไม่เป็นมิตร" ซึ่งในนั้นรวมถึงสมาชิกทั้งหมดของอียู หลังจากมอสโกถูกมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ต่อกรณีรุกรานยูเครน

ทันทีหลังคำแถลงของปูติน สกุลเงินรูเบิล ซึ่งดำดิ่งอย่างหนักมาตั้งแต่ความขัดแย้งยูเครนเริ่มต้นขึ้น ได้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติก็ดีดตัวสูงขึ้นเช่นกัน

"ผมตัดสินใจบังคับใช้มาตรการชุดหนึ่ง ให้บรรดาประเทศไม่เป็นมิตรโอนชำระเงินค่าอุปทานก๊าซธรรมชาติของเราเป็นเงินสกุลรูเบิลรัสเซีย" ปูตินกล่าวระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่ารัสเซียจะยังคงขายก๊าซธรรมชาติในปริมาณตามสัญญาที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงแค่สกุลเงินที่ใช้ในการชำระเงินเท่านั้น

ปูติน ยังสั่งการให้ธนาคารกลางของรัสเซีย ให้รีบดำเนินการในการเปลี่ยนแปลงการชำระเงินให้เป็นสกุลเงินรูเบิลให้เร็วที่สุด และให้เวลา 1 สัปดาห์ในการดำเนินการนำระบบชำระเงินแบบใหม่มาใช้ โดยเขาบอกว่ามันจะต้อง "โปร่งใส" และจะเกี่ยวข้องกับการซื้อด้วยเงินสกุลรูเบิล ในตลาดภายในของรัสเซีย

นอกจากนี้ ปูติน แย้มด้วยว่าการส่งออกอื่นๆ ของรัสเซียอาจอยู่ภายใต้มาตรการดังกล่าวเช่นกัน

ต่อมาในวันเดียวกัน รอสคอสมอส หน่วยงานอวกาศของรัสเซีย แถลงว่าจะยืนกรานให้พันธมิตรระหว่างประเทศของพวกเขาชำระเงินด้วยสกุลเงินรูเบิลด้วยเช่นกัน

"มันชัดเจนว่าการส่งมอบสินค้าของเราไปยังสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ แล้วรับชำระหนี้เป็นดอลลาร์ ยูโร หรือสกุลเงินอื่นๆ ไม่มีความสมเหตุสมผลสำหรับเราอีกต่อไป" ปูติน กล่าว

ยูเครนรุดประณามความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซียในทันที โดยเรียกมันว่าเป็น "สงครามเศรษฐกิจของรัสเซีย" กับอียู และความพยายามทำให้รูเบิลแข็งค่าขึ้นของรัสเซีย

"แต่ตะวันตกอาจเล่นงานรัสเซียด้วยการแบนนำเข้าน้ำมัน ที่อาจทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียดำดิ่ง" อันดรีย์ เยอร์มัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนกล่าว "ตอนนี้คือการต่อสู้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และตะวันตกต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชนะ"

โรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งประเทศของเขานำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 55% ก่อนเกิดความขัดแย้ง ระบุว่าความประสงค์ของปูติน ถือว่าละเมิดสัญญาและเบอร์ลินจะปรึกษาหารือกับพันธมิตรยุโรป ว่าจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเรื่องดังกล่าวอย่างไร

บรรดาประเทศตะวันตกพยายามถาโถมแรงกดดัน กำหนดมาตรการคว่ำบาตรฉีกเศรษฐกิจของรัสเซีย นับตั้งแต่มอสโกเคลื่อนทหารรุกรานยูเครน พวกเขาอายัดเงินสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียในต่าง
แดน ราว 300,000 ดอลลาร์ ความเคลื่อนไหวที่ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ให้คำจำกัดความในวันพุธ (23 มี.ค.) ว่าเป็นการขโมย

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่สหรัฐฯ แบนนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย แต่อียู ซึ่งต้องพึ่งพิงอุปทานก๊าซจากรัสเซียราวๆ 40% ในปี 2021 ยังคงรับมอบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากมอสโก

กระนั้นก็ตามอียูกำหนดเป้าหมายไว้ว่าจะลดนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียราว 2 ใน 3 ในช่วงสิ้นปี และกำลังมองถึงความเป็นไปได้ในการแบนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

"เวลานี้ รัสเซียกำลังพยายามกดดันตะวันตกด้วยมาตรการคว่ำบาตรตอบโต้ และลดการพึ่งพิงเงินตราต่างประเทศ" ไอเพค ออซคาร์เดสกายา นักวิเคราะห์อาวุโสจากสถาบัน Swissquote กล่าวกับเอเอฟพี

ต้นกาแฟของพ่อ!! ในหลวง ร.9 ผู้พลิกแผ่นดินดอยสูง ขจัดปัญหาปลูกฝิ่น ให้ชาวเขามีรายได้ยั่งยืน

โครงการควบคุมยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDCP ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองเพื่อสดุดีพระเกียรติคุณ เนื่องจากโครงการหลวง (กาแฟ) เป็นโครงการปลูกพืชทดแทนฝิ่นแห่งแรกของโลกที่แก้ไขปัญหาการปลูกฝิ่นได้สำเร็จ

คนไทยควรภาคภูมิใจ ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ประสบความสำเร็จในการปลูกพืชทดแทนฝิ่น ทำให้โครงการควบคุมยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDCP ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองเพื่อสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อปี พ.ศ. 2537 เนื่องจากโครงการหลวงเป็นโครงการปลูกพืชทดแทนฝิ่นแห่งแรกของโลกที่ประสบผลสำเร็จสามารถแก้ไขปัญหาพื้นที่อันเป็นแหล่งต้นตอของยาเสพติดได้อย่างจริงจัง

โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาบุคลากรด้านงานบริการ และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการบริการจัดหางาน และพัฒนาทักษะการให้บริการด้านขนส่งสาธารณะ

กระทรวงแรงงานร่วมกับ บริษัท ไทย สมายล์บัส จำกัด บริษัท อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต จำกัด มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์  KICK OFF โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาบุคลากรด้านงานบริการ และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการบริการจัดหางาน และพัฒนาทักษะการให้บริการด้านขนส่งสาธารณะ

วันที่ 23 มีนาคม 2565  ณ กระทรวงแรงงาน ดินแดง นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานกรรมการบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด นาวาโท ปริญญา รักวาทิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต จำกัด  และนายชัยรัตน์ แสงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด  เข้าร่วมพิธี KICK OFF เปิดโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาบุคลากรด้านงานบริการ  และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการบริการจัดหางาน และพัฒนาทักษะการให้บริการด้านขนส่งสาธารณะ โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เข้าร่วมงาน 

เตรียมรับมือ 'น้ำเค็มรุกเจ้าพระยา' 28 มี.ค. – 3 เม.ย. นี้ 

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อรับมือสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงในช่วงวันที่ 28 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 โดยกำหนดมาตรการควบคุมความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ให้เหมาะสมสอดคล้องกับการใช้น้ำในกิจกรรมต่าง ๆ และควบคุมคุณภาพน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รวมถึงควบคุมการระบายน้ำผ่านอาคารชลประทานที่สำคัญ อาทิ เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนพระรามหก รวมทั้งการระบายน้ำจากคลองพระยาบรรลือผ่านทางสถานีสูบน้ำพระยาบรรลือและสถานีสูบน้ำสิงหนาท 2 ให้สอดคล้องกับระดับการขึ้น-ลงของน้ำทะเล 

 

ส่วนที่แม่น้ำบางปะกง กรมชลประทาน ได้ควบคุมความเค็มโดยการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำทางตอนบนของลุ่มน้ำบางปะกง-ปราจีนบุรี ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำคลองสียัด อ่างเก็บน้ำขุนด่านปราการชล อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา อ่างเก็บน้ำคลองระบม อ่างเก็บน้ำคลองพระสทึง และอ่างเก็บน้ำคลองพระปรง ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และพิจารณาปรับเพิ่มหรือลดการระบายน้ำให้สอดคล้องตามสถานการณ์ 

“ผบ.ทบ.”ต้อนรับ ผบ.กกล.ทบ.สหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก สานสัมพันธ์งานมั่นคง ดำรงการฝึกแลกเปลี่ยน พร้อมขยายกรอบความร่วมมือหลักสูตรทางทหาร  

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้การต้อนรับ พล.อ.ชาร์ลส์ เอ ฟลินน์ (Gen. Charles A. Flynn) ผู้บัญชาการกองกำลังทางบกสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก (USARPAC) และคณะ ในโอกาสเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการ และเข้าเยี่ยมคำนับผู้บัญชาการทหารบก โดยกองทัพบกได้จัดทหารกองเกียรติยศให้การต้อนรับ จากนั้นผู้บัญชาการกองกำลังทางบกสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ ภายในกองบัญชาการกองทัพบกซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ ยุทโธปกรณ์ และวิวัฒนาการด้านต่างๆของกองทัพบกไทย ก่อนเข้าหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในความร่วมมือด้านความมั่นคง ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 

การพบปะในวันนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวขอบคุณและยินดีที่ พล.อ.ชาร์ลส์ เอ ฟลินน์ ตอบรับคำเชิญและเดินทางมาเยือนกองทัพบกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง หลังจากทั้งสองฝ่ายได้เคยหารือกันผ่านระบบออนไลน์เมื่อ ก.ค. 64 พร้อมกับกล่าวถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างราชอาณาจักรไทยและสหรัฐฯ ที่มีมายาวนานกว่า 200 ปี โดยเฉพาะความร่วมมือด้านความมั่นคงและการฝึกแลกเปลี่ยนประสบการณ์ อาทิ การฝึกร่วมผสม Cobra Gold, การฝึกผสม Balance Torch  และ ล่าสุดคือการฝึกผสม “Hanuman Guardian 2022” ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวขอบคุณที่สหรัฐฯให้การสนับสนุน และดูแลกำลังพล ทบ.ไทย ในขณะเข้าร่วมฝึกที่สหรัฐฯ แม้ว่าอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การฝึกได้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพล ควบคู่กับการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยีทางทหาร

ทั้งสองฝ่ายยังได้พูดคุยถึงการพัฒนาและขยายกรอบความร่วมมือในการฝึกแลกเปลี่ยนทางทหารทั้งในระดับหน่วยและการศึกษาในหลักสูตรต่างๆ อาทิ หลักสูตรทางทหาร Lightning Academy, Air Assault และ Jungle Operation Training รวมทั้งการสนับสนุนการศึกษาตามโครงการ IMET, หลักสูตรวิทยาลัยการทัพบก และเสนาธิการทหารบกสหรัฐฯ ควบคู่กับการจัดประชุมความร่วมมือด้านการแพทย์ การบรรเทาสาธารณภัย การช่วยเหลือประชาชน การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาความรู้แก่กำลังพลผ่านการบรรยายพิเศษโดยผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ อาทิ การพัฒนาไซเบอร์และระบบเครือข่ายสารสนเทศ เป็นต้น 

'ไทย' เตรียมแผนปรับโควิดสู่โรคประจำถิ่น เชื่อ มุ่งฟื้นเศรษฐกิจ แม้ยังกังวลผู้ติดเชื้อ

23 มี.ค. 65 สำนักข่าว Voice of America สหรัฐอเมริกา เสนอรายงานพิเศษ Thailand Aiming for Endemic Status as More Travel Restrictions Lifted ว่าด้วยความพยายามของทางการไทย ในการเปลี่ยนสถานะของไวรัสโควิด-19 จากโรคระบาดใหญ่ (Pandemic) เป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) ลดความเข้มงวดของมาตรการควบคุมโรคลงเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ท่ามกลางความกังวลของผู้คนอีกไม่น้อย

ในช่วงต้นเดือน มี.ค. 2565 กระทรวงสาธารณสุขของไทย ประกาศตั้งเป้าให้โควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่นภายในเดือน ก.ค. 2565 ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ข้อกำหนดให้ชาวต่างชาติที่จะเดินทางไปประเทศไทยต้องมีผลตรวจคัดกรองไม่ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ก็ถูกประกาศยกเลิก อย่างไรก็ตาม อนันต์ จงแก้ววัฒนา (Anan Jongkaewwattana) นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ได้เตือนว่า ยังคงต้องระมัดระวังต่อไป

“เราต้องพูดกันให้ชัดว่าโรคประจำถิ่นไม่ได้หมายความว่ามันจะรุนแรงน้อยกว่าสิ่งที่พบระหว่างที่เป็นโรคระบาดใหญ่ สำหรับผม โรคประจำถิ่นหมายความว่าประเทศไทยจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่งที่ไม่สร้างความเสียหายให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศ” อนันต์ กล่าว

ประเทศไทยยังคงต่อสู้กับสถานการณ์ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก จากเชื้อกลายพันธุ์สายโอมิครอน เช่น ในวันที่ 18 มี.ค. 2565 ที่พบผู้ติดเชื้อ 27,071 คน ทำสถิติติดเชื้อรายงานสูงที่สุด แต่อีกด้านหนึ่ง ประเทศไทยมีอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ค่อนข้างสูง นับตั้งแต่เริ่มการฉีดวัคซีนในปี 2564 ประเทศไทยฉีดวัคซีนไปแล้ว 127 ล้านเข็ม ซึ่งนับตั้งแต่เข็มที่ 1 เข็มที่ 2 และเข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3 หรือ 4)

แกรี โบเวอร์แมน (Gary Bowerman) นักวิเคราะห์การท่องเที่ยวของทวีปเอเชีย ที่อาศัยอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย กล่าวว่า ประเทศไทยต้องระมัดระวังในการตั้งเป้าหมายในอนาคต เนื่องจากโควิด-19 นั้นคาดเดาไม่ได้ แม้เดือน ก.ค. 2565 คือการกำหนดเป้าหมาย แต่ก็ทราบกันดีตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ว่าการกำหนดเส้นตายที่ยากและรวดเร็วนั้นเต็มไปด้วยความเสี่ยง

“สถานะโรคประจำถิ่น เป็นเรื่องเล็กน้อยในการสื่อสารกับสาธารณชนเพื่อพยายามเปลี่ยนวิธีคิดภายในประเทศ เป็นการปลุกเร้าอารมณ์ครั้งสำคัญ สถานการณ์ที่ประเทศประสบอยู่คือการปิดตัวอย่างสมบูรณ์ยาวนานถึง 2 ปี และตอนนี้ได้เปิดแล้ว เป็นการเปลี่ยนแปลงความคิดครั้งใหญ่ แม้มันไม่ได้อยู่ที่แต่ละประเทศจะบอกว่าเป็นโรคประจำถิ่น แต่เป็นองค์การอนามัยโลก (WHO) แต่ผมก็เข้าใจได้ว่าทำไมรัฐบาลถึงทำแบบนั้น” โบเวอร์แมน กล่าว

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยพยายามหาทางเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 เป็นต้นมา ด้วยโครงการ Test&Go ที่ตัดขั้นตอนการกักตัวออกไป แต่โครงการต้องถูกหยุดไว้ชั่วคราวในเดือน ธ.ค. 2564 จากการเริ่มตรวจพบไวรัสโควิด-19 สายโอมิครอน อันเป็นเชื้อกลายพันธุ์ชนิดใหม่ในเวลานั้น ก่อนที่ต้นปี 2565 จะกลับมาดำเนินโครงการต่ออีกครั้ง และได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วหลายแสนคน ถึงกระนั้นก็ยังต้องเผชิญความท้าทายอีกเรื่องหนึ่ง คือสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ชาวรัสเซียที่เป็นอีกกลุ่มซึ่งนิยมไปเที่ยวประเทศไทยลดจำนวนลง

ลูกสาว 'วัฒน์ วรรลยางกูร' โอดเป็นลูกพ่อใช้ชีวิตยาก แขวะ เพราะประเทศนี้ที่ทำให้คนอย่างพ่ออยู่ไม่ได้

วจนา วรรลยางกูร บุตรสาว นายวัฒน์ วรรลยางกูร โพสต์ร่ายยาวถึงผู้เป็นพ่อที่เพิ่งจากไปหลังป่วยหนัก โอดประเทศไทยทำคนอย่างพ่ออยู่ไม่ได้ เป็นลูกพ่อใช้ชีวิตไม่มีอะไรง่าย แต่ที่ผ่านมาได้เพราะมีกันและกัน

จากกรณี วจนา วรรลยางกูร หรือ เตย ลูกสาวของ วัฒน์ วรรลยางกูร กวีและนักเขียนเจ้าของรางวัลศรีบูรพา ซึ่งปัจจุบันลี้ภัยอยู่ที่ฝรั่งเศส เนื่องจากถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายอาญา มาตรา 112 โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า คุณพ่อวัฒน์ วรรลยางกูร จากไปแล้วราวช่วงสามทุ่มครึ่งตามเวลาในฝรั่งเศสหลังจากป่วยหนัก

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. น.ส.วจนา วรรลยางกูร ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก “Toei Wajana” ถึงนายวัฒน์ วรรลยางกูร ผู้เป็นพ่อ โดยได้ระบุข้อความว่า

“เป็นลูกพ่อแม่งชีวิตโคตรยาก ไม่มีอะไรง่ายเลย มันไม่ได้ยากเพราะพ่อหรอก มันยากเพราะประเทศนี้แหละที่ทำให้คนอย่างพ่ออยู่ไม่ได้

เสียใจแน่ เสียใจมาก แต่มันมากกว่านั้น พ่อเป็นชีวิตของเตย เตยเป็นลูกสาวพ่อมาทั้งชีวิตและจะเป็นไปตลอดกาล

ตั้งแต่พ่อป่วยหนักรอบนี้มีภาพเหตุการณ์หนึ่งที่จู่ๆ ก็เข้ามาฉายวนซ้ำไม่หยุด ช่วงตอนเตยอยู่ประถม วันนั้นแม่ไม่อยู่ พ่อเลยต้องเป็นคนไปรับที่โรงเรียน พ่อขี่มอเตอร์ไซค์คันเก่าสีเปลือกมังคุดเหลือแต่โครง รีบมารับเตยตั้งแต่โรงเรียนยังไม่เลิก หอบเสื่อม้วน หิ้วกระติกน้ำแข็งแขวนแฮนด์รถมา วันนั้นอากาศร้อนมากบ้านเราไม่มีแอร์ พ่อรีบมารับลูกหน้าโรงเรียนแล้วมุ่งหน้าขึ้นไปต้นน้ำตก เปิดเบียร์พาลูกไปเล่นน้ำให้หายร้อน ลงน้ำกันสองพ่อลูกแป๊บเดียวฟ้าก็มืด ตุเลงรถอีแก่ฝ่าความมืดลงเขากลับบ้านก่อนแม่จะถึงบ้าน คล้ายภารกิจลับสองพ่อลูก

พ่อคนเดียวกันนี้ที่หัดให้ลูกว่ายน้ำด้วยการยกลูกชูขึ้นสองแขน แล้วโยนลงแม่น้ำช่วงไม่ลึกนัก พร้อมมีแม่ยืนกรี๊ดตกใจอยู่ริมฝั่ง

พ่อคนเดียวกันนี้ที่ยอมขัดใจแม่แล้วตามใจเตย ถ้าเตยตื่นไปวิ่งตอนเช้ากับพ่อแล้วบอกว่าอยากได้อะไร

พ่อคนเดียวกันนี้ที่ชอบโทร.หาตอนเตยเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อให้กูเกิลหาว่าเพลงนี้ใครแต่ง-ปีอะไร เพื่อเอาไปเขียนคอลัมน์

พ่อคนเดียวกันนี้ที่ชอบใช้ให้พิมพ์ต้นฉบับตั้งแต่เด็กจนโต แถมยังชอบชวนคุยเรื่องการเมืองเป็นกิจวัตร

พ่อคนเดียวกันนี้ที่ถามถึงเรื่องงานลูกบ่อยกว่าถามว่า ชีวิตเป็นยังไงบ้าง เพราะหวังอยากเห็นลูกไปได้ไกลในเส้นทางของตัวเอง

พ่อคนเดียวกันนี้ที่ลูกต้องพาหนีตายระหว่างลี้ภัย

พ่อที่โคตรดื้อ แล้วทำให้เราใจอ่อนจนต้องช่วยไปซะทุกเรื่อง

เตยนึกภาพชีวิตที่ไม่มีพ่อไม่ออก ชีวิตพวกเรามันไม่เคยง่ายอยู่แล้ว แต่เราผ่านมันมาได้เพราะมีกัน

อย่างน้อยพ่อก็ได้ไปอยู่กับแม่แล้วนะ

ลูกสาวของพ่อ”


ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=10159207818274892&set=a.373694244891

'เจ้าหนี้' เป็นปลื้ม..เมื่อเจอ ‘ลูกหนี้’ สุดยอดวินัย แจงยิบยอด 6 แสนกว่า ผ่านไป 1 ปี ปลดหนี้ได้ 4 แสน

เฟซบุ๊ก Paweena Rungrod โพสต์ภาพและข้อความ ถึงลูกหนี้รายหนึ่ง ที่มีวินัยในการคืนอย่างมากระบุว่า

"กูกราบใจลูกหนี้เลย กูขอให้เขาเจริญ ๆ ๆ ทุกคนล้วนมีปัญหาชีวิต แต่อย่าเอามาเบียดเบียนกันก็พอ เราเองก็มีหนี้ หนี้คือแรงผลักดัน"

โดยภาพดังกล่าวเป็นการเผยให้เห็นยอดหนี้ 649,000 บาท ซึ่งลูกหนี้มีการทยอยคืนเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลาประมาณ 1 ปี 

ขณะที่ ยอดเงินที่คืนส่วนใหญ่คืนเป็นเงินงวดละ 1,000 บาท บางงวดก็หลักร้อย และมีบางงวดที่เป็นหลักแสน และหลักหมื่น ทำให้ยอดล่าสุดเหลืออยู่ราว 200,000 บาท

ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีคนแชร์จำนวนมาก


ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=4748626358593788&set=a.101734056616398

‘บิณฑ์’ รุดช่วย ‘ป้าเขียด นภาพร’ ดาราอาวุโส เผยชีวิตลำบาก หลังป่วยเส้นเลือดสมอง จนพูดไม่ได้

‘ป้าเขียด นภาพร’ ดาราอาวุโส หน้ามืดแล้วล้ม เส้นเลือดสมองส่วนหน้าตีบ พูดไม่ได้ ไม่มีแม้เงินซื้อแพมเพิส รอตรวจก้อนเนื้อในรังไข่ ‘บิณฑ์’ รุดช่วย มอบเงินให้ 2 หมื่น

หลังจากที่ล้มป่วยจนไม่สามารถเล่นละครได้อีก มีรายได้เพียงวันละ 100-200 บาทจากการขายของชำที่ปราจีนบุรี ล่าสุดเพจ ‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์’ ได้เผยเรื่องราวของ ‘ป้าเขียด นภาพร หงสกุล’ นักแสดงอาวุโสเจ้าบทบาทที่ตอนนี้กลายเป็นคนพูดไม่ได้ จากอาการหน้ามืดแล้วล้มเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากเส้นเลือดสมองส่วนหน้าตีบ โดยบิณฑ์เผยว่าตอนนี้ป้าเขียดไม่มีแม้เงินซื้อแพมเพิส พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ 2 หมื่น

“สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขมาหลาย 10 ปี แต่วันนี้ ป้าคนนี้มีความทุกข์ใครช่วยป้าได้”

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมอยากพูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในวงการบันเทิงมา 40 กว่าปี เธอสร้างรอยยิ้ม สร้างความสนุกสนานในทุกบทบาทที่เธอได้รับเล่น ผมพูดถึง ป้าเขียด หรือ ป้านภาพร หงสกุล อายุ 76 ปี ป้าป่วยเมื่อต้นปี 2562 นอนห้อง ICU อยู่ 14 วัน ติดเชื้อในกระแสเลือด จากนั้นอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เกิดอาการหน้ามืดแล้วล้ม คุณหมอตรวจพบว่าเส้นเลือดสมองส่วนหน้าตีบ

ทำให้ตอนนี้ป้าเขียดไม่สามารถพูดได้ แต่ฟังรู้เรื่อง ป้าเขียดอยู่กับลูกชาย อายุ 57 ปี ที่คอยดูแลป้าเขียด ลูกชายบอกว่า ตอนนี้เงินที่ได้จากการถ่ายหนังถ่ายละครที่แม่เก็บไว้หมดแล้ว ลูกชายเปิดร้านขายของชำเล็กๆ น้อยๆ เพื่อประทังชีพ ทุกวันนี้ลำบากมากแม้แต่เงินจะซื้อแพมเพิสมาให้แม่ยังไม่มีเลย ทุกวันนี้ รายได้จากการขายของ วันละ 100-200 บาท บางวันก็ไม่ได้เลย สงสารแม่ที่พูดไม่ได้ เขียนก็ไม่ได้เลยไม่รู้ว่าต้องการอะไร

ตอนแรกที่ผมเข้าไปหาป้าเขียดจำผมไม่ได้ แต่พอผมเปิดมาสก์ออก ป้าเขียดยิ้มและจำได้ทันทีอยากจะพูดอยากจะบอกว่าจำได้แต่ป้าพูดไม่แล้ว ชีวิตที่เคยสร้างความสุขให้ใครต่อหลายคน วันนี้ป้าเขียดต้องมีสภาพเป็นแบบนี้ แล้วยังไม่รู้เลยว่าวันนี้หมอเอาก้อนเนื้อในรังไข่ไปตรวจไม่รู้จะเป็นมะเร็งอีกรึเปล่า ขอให้ป้าเขียดอย่าเป็นอะไรมากไปกว่านี้เลยนะครับ ขอให้ป้าเขียดกลับมาพูดได้เหมือนเดิมและกลับมาเล่นละครให้พวกเราชมอีกนะป้าเขียด

ช่วยเป็นกำลังใจให้ป้าเขียดด้วยนะครับเพื่อนๆ ผมช่วยป้าเขียด 20,000 บาท ถ้าเพื่อนๆ หรือคนในวงการบันเทิงอยากช่วยเหลือก็โอนเข้า บัญชีลูกชายได้เลยครับ..ชื่อ บัญชี นาย สมคิด หงสกุล ธนาคาร กรุงไทย เลขที่ บัญชี 9 8 3 3 0 1 3 2 3 6 ออมทรัพย์

การช่วยเหลือครั้งนี้สำคัญที่สุดครับ ป้าเขียดจะกลับมาพูดได้หรือไม่ได้อยู่ที่การรักษาอย่างต่อเนื่อง เงินเป็นสิ่งที่สำคัญป้าต้องมีเงินเป็นค่ารักษา ป้าต้องมีกำลังใจจากพวกเราครับ

กราบขอบพระคุณสำหรับทุกๆกำลังใจครับ..”


ที่มา : https://www.facebook.com/Bhin.fanclub/posts/518228212998220

‘เสธ.นิด’ ฟันธง สงครามรัสเซียยูเครน จบในอีก 3 วีค ชี้ถึงเวลาที่ ‘ปูติน’ ต้องปิดเกม ก่อนกำลังทหารล้า

พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ เสธ.นิด อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Vachara Riddhagni ถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ว่า สงครามรัสเซียยูเครน 2022 นั้น คือสงครามตัวแทน Proxy War ยุคข้อมูลข่าวสาร หรือยุคดิจิตอล เมื่อสหรัฐฯ ใช้ยูเครนเป็นกลไก “ดูดซับอำนาจการรบของรัสเซียในทุกมิติสงครามให้ลดลง เช่นสงครามร้อน สงครามเศรษฐกิจการเงิน สงครามจิตวิทยามวลชน สงครามข้อมูลข่าวสาร เป็นต้น” 

แต่ผมคิดว่าสหรัฐฯ เข้าใจผิดเพราะประธานาธิบดีปูตินได้ทำกรณีศึกษาและหาหนทางปฏิบัติ Appreciation ของ “ทุกตัวละครอย่างดีเยี่ยม เช่น ไบเดน บอริส จอห์นสันหรือ มาครอง คิดอย่างไร มีแผนร่วมอย่างไร” 

โดยการสร้างสมมติฐานเชิงวิเคราะห์ลักษณะ If -Then หรือ “ถ้าเป็นอย่างนี้จะเป็นยังไงแล้วอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง” 

สถานการณ์การรบยังคงเป็นการปิดล้อมเมือง ตัดเส้นทางคมนาคม ตัดเส้นทางขนอาวุธส่งให้กองทัพยูเครน ฝ่ายกองทัพยูเครนก็เหลือพื้นที่ดำเนินกลยุทธ์น้อยลงไปทุกที่ “ในที่สุดจะอ่อนกำลังลงไปเรื่อยๆ และจะยอมแพ้ในที่สุด 

ส่วนอาวุธที่ยึดได้มานั้น ในที่สุดจะตกเป็นบำเหน็จสงครามให้กองทัพ DPR และ LPR ในอนาคตโดยรัสเซียไม่ต้องสนับสนุน

ดังนั้นช่วงนี้เป็นช่วงที่วิกฤติของพลเมืองในหลายๆ เมืองรวมทั้งในกรุงเคียฟที่ฝ่ายทหารยูเครนไม่ยอมให้ “ประชาชนอพยพออกไป เพราะต้องการใช้ประชาชนเป็นตัวประกันในเรื่องการส่งเสบียงอาหารน้ำและเวชภัณฑ์รวมทั้งยาต่างๆ” 

ข่าวนี้เป็นข่าวจากฝ่ายรัสเซียเราจึงฟังหูไว้หูแต่ “ความจริงจะปรากฏเองในอนาคต” แต่มันเป็น “หนทางปฏิบัตการหนึ่งที่ทำให้กองทัพรัสเซียปฏิบัติลำบาก็มากขึ้น” 

ผมพยากรณ์ว่า “สงครามรัสเซียยูเครน 2022 จะยุติลงใน 3 สัปดาห์หรือบวก/ลบข้างหน้านี้เพราะ

1.) สงครามถึงจุดที่กองทัพรัสเซียต้องตัดสินใจขั้นเด็ดขาดด้วยกำลังรบในขณะนี้ มิฉะนั้นทหารจะเริ่มล้าลงหากจะเปลี่ยนกำลังใหม่นั้นจะเสียเวลาอีกในการสับเปลี่ยนกำลังและเป็นการทำให้ฝ่ายยูเครนได้ปรับกำลังรบเช่นกันและจะได้มีกำลังทหารรับจ้างเพิ่มขึ้น (ประเทศตะวันตกระดมทุนจ้างทหารรับจ้างให้)

ช่วงนี้มีการยุทธ์ที่ เมืองท่า มาริอูลโปลซึ่งกองทัพรัสเซียคงจะยึดได้ในวันี้พรุ่งนี้ “การขนส่งทางทะเลด้วยเรือสินค้าชาตินาโต้ซึ่งรัสเซียทำลายไม่ได้ หากทำลายก็จะเป็นกับดักรัสเซียให้เผชิญหน้ากับนาโต้โดยตรงซึ่งกลายเป็นความชอบธรรมในการสงครามของนาโต้สนับสนุนฝ่ายกองทัพยูเครน แต่ถ้าท่าเรือที่เมือง มาริอูลโปถูกยึดได้ การขนส่งทางทะเลก็จะยุติลง”

2.) ฤดูกาลกำลังจะเปลี่ยนเป็น “ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มฤดูกาลเพาะปลูก” ฤดูกาลที่ผู้คนต้องการความผาสุก

3.) เมื่อเข้าฤดูร้อนนั้นทำให้การปฏิสังขรณ์อาคารบ้านเรือนที่พังเพราะภัยสงครามกระทำได้ง่ายขึ้นเพราะการขนส่งสะดวกขึ้น คนงานใช้เวลากลางแจ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.) ฝ่ายประธานาธิบดีปูตินต้อง “มุ่งเน้น (Focus)ทำสงครามเศรษฐกิจการเงิน สงครามจิตวิทยามวลชนและสงครามข้อมูลข่าวสาร” 

5.) จะเป็นเวลาที่ชาว DPR และ LPR จะจัดการบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น เชิง การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจการเงินและระเบียบสังคมใหม่


ที่มา : https://www.facebook.com/1010126969/posts/10224777539958410/

Good Morning THE STATES TIMES | ประจำวันที่ 23 มีนาคม 2565

เช้านี้มีอะไรอัปเดต!!
#GoodMorningTHESTATESTIMES
ประจำวันที่ 23 มีนาคม 2565

พบกับประเด็นข่าวน่าลิงก์ Good Morning THE STATES TIMES
ข่าวยามเช้าที่จะมาสแตนบาย ทุกวันอังคาร-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 5.00 น. เป็นต้นไป
โดย ปริม-กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top