Wednesday, 21 May 2025
NEWS

หนองบัวลำภู-ร่วมมอบเงินเยียวยาเหยื่ออดีตตำรวจคลั่ง

สมาคม อบต.แห่งประเทศไทย ร่วมมอบเงินเยียวยาครอบครัวเหยื่ออดีตตำรวจคลั่ง 36 ศพ ที่ตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู นายพิชิต หอมพุ่ง พร้อมด้วยนายสมาน สุธรรมาภิวัตร อุปนายกสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย และนายอัครนันท์ ปัญญาเจริญโรจน์ นายก อบต.หนองหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะกรรมการบริหารสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย เดินทางลงพื้นที่ อบต.อุทัยสวรรค์ ตามที่ ผศ. (พิเศษ) ดร.วีระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย มอบหมาย

โดยมีนายอาคม ผดุงศิลป์ ประธานชมรมนายก อบต.จ.หนองบัวลำภู นางวรินทร์ธร สุวรรณพรหม นายก อบต.กุดสะเทียน  นายสัมฤทธิ์ นิลนามะ นายก อบต.เทพคีรี นายธีระพัฒน์ เทพคำ นายก อบต.วังปลาป้อม และนายชยุต สุขบัว นายก อบต.โนนเมือง ใน จ.หนองบัวลำภู ร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือให้กับญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ เป็นจำนวนเงิน 141,000 บาท เมื่อรวมกับที่มอบไปเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 65 จำนวน 100,000 บาท รวมทั้ง 2 ครั้งเป็นเงิน 241,000 บาท โดยมอบให้ญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พร้อมมอบเงินให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ของอบต.อุทัยสวรรค์ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีรองนายก อบต.อุทัยสวรรค์ พร้อมเจ้าหน้าที่และญาติผู้สูญเสียร่วมให้การต้อนรับ

พิธีเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่

เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียม ประจำประเทศไทย ประกาศสถาปนา ดร.ณรงค์ ตนานุวัฒน์ กงสุลกิตติมศักดิ์ และพิธีเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่ อย่างเป็นทางการ

เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565  ที่โรงแรมมีเลีย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นางซีบีย์ เดอ การ์ทีเย ดีฟว์( Ms. Sibille de Cartier d’YVES ) เอกอัครราชทูตราชอาณาเบลเยียม ประจำประเทศไทย กล่าวแสดงความยินดีกับ ดร.ณรงค์ ตนานุวัฒน์ ในโอกาสรับการสถาปนาตำแหน่ง ‘กงสุลกิตติมศักดิ์’ ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่ และพิธีเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่ อย่างเป็นทางการ เขตกงสุล ครอบคลุม 11จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ ลำปาง ลำพูน และตาก

'อรัญญา สุวรรณบุตร' นายกเทศมนตรี เชิญชวนเที่ยวงานประเพณีลอยกระทง 'นฤมิตสายนที' เทศบาลตำบลแพรกษา

นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวแพรกษา และพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ใกล้เคียงร่วมสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีลอยกระทง พร้อมทั้ง เที่ยวชมงานประเพณีลอยกระทง “นฤมิตสายนที” ณ เทศบาลตำบลแพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ในวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 นี้

ซึ่งในปีนี้ ทางเทศบาลตำบลแพรกษา ได้จัดเตรียมสถานที่จำลองในการลอยกระทงไว้บริเวณลานคนเมืองเทศบาลตำบลแพรกษา เพื่อรองรับพี่น้องประชาชนชาวแพรกษาและประชาชนในเขตพื้นที่ใกล้เคียงที่จะเดินทางมาร่วมลอยกระทง 

ประกอบกับ ในปีนี้ทางเทศบาลตำบลแพรกษา ได้จัดให้มีการประกวดนางนพมาศ ชิงเงินรางวัลจำนวน 20,000 บาท แบ่งเป็น
- รางวัลชนะเลิศ เงินสด 20,000 บาท รับสายสะพายพร้อมโล่เกียรติยศ 
- รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินสด 15,000 บาท สายสะพายพร้อมโล่เกียรติยศ
- รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินสด 10,000 บาท สายสะพายพร้อมโล่เกียรติยศ และ รางวัลขวัญใจมหาชน เงินสด 15,000 บาท สายสะพายพร้อมโล่เกียรติยศ 
รางวัลการประกวด กระทงประดิษฐ์
- รางวัลชนะเลิศ เงินสด 10,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินสด 8000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินสด 5000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ
- รางวัลชมเชย 2 รางวัลๆละ 2000 บาท 

สมาคมนักเรียนจีนในไทย ผนึก 'ภาครัฐ-นักวิชาการ' เปิดพื้นที่คนรุ่นใหม่ ถก 'อนาคตความสัมพันธ์ไทย-จีน'

นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดี ๆ ของวงการไทย-จีนที่เกิดขึ้นในไทย หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่ลาย สำหรับโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ TCSA Project 2022 ภายใต้หัวข้อ 'อนาคตความสัมพันธ์ไทย-จีน' ซึ่งจัดโดยสมาคมนักเรียน 

ไทย จีน ภายใต้การสนับสนุนของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และสมาคมนักเรียนจีนในไทย ระหว่างวันที่ 5 - 6 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมบันยันทรี สาธร กรุงเทพฯ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีน ในรูปแบบการทูตภาคประชาชนในระดับคนรุ่นใหม่และนักเรียนนักศึกษา

นอกจากจะมีการให้ความรู้และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนผ่านการเชิญวิทยากรและผู้ทรงคุณวุฒิจากฝั่งไทยและฝั่งจีนมาร่วมบรรยายในงานอย่างคับคั่ง ได้แก่ นางเฝิงจวิ้นอิง ที่ปรึกษาฝ่ายการศึกษาสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ดร.พัชรินรุจา จันทโรนานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระรวงอว. คุณเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

งานนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสและสร้างพื้นที่ใหม่ ๆ ให้กลุ่มเยาวชนชาวไทยและชาวจีนที่มีศักยภาพและมีความคิด สร้างสรรค์จำนวนกว่า 70 คน ได้มาเจอกันและร่วมกันนำเสนอไอเดียส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีนในหลากหลายมิติ และแง่มุม ผ่านกิจกรรมกระชับมิตรและการเวิร์กช็อปแบบกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า การศึกษา การท่องเที่ยว และความเข้าใจระหว่างประชาชนสองประเทศ ตลอดจนการกำจัดอคติทางวัฒนธรรม ฯลฯ

ขณะเดียวกันก็เปิดให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของนักศึกษาจีนที่มาเรียนและทำงานในประเทศไทยและนักศึกษาชาวไทยที่ไปเรียนที่จีน การนำเสนอแนวคิดด้านการตลาด ตลอดจนการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ของสองประเทศ ซึ่งทั้งแปลกใหม่ สร้างสรรค์ และให้แรงบันดาลใจ

ผบ.ตร. วาง 5 มาตรการ เข้มความปลอดภัยลอยกระทง เฝ้าระวังเหตุทะเลาะวิวาท คดีทางเพศ แก็งมิจฉาชีพตะเวนลักทรัพย์ การเล่นดอกไม้เพลิง วอนประชาชนลอยกระทงแบบสร้างสรรค์ สืบสานประเพณีไทย

วันนี้ (7 พ.ย. 65) เวลา 16.30 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. ร่วมกันตรวจความพร้อมและมาตรการรักษาความปลอดภัย     การจัดงานลอยกระทง บริเวณสะพานพระราม 8 และในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 

ผบ.ตร.ได้กล่าวถึงความพร้อมในการดูแลความเรียบร้อยในช่วงเทศกาลลอยกระทง ว่า “ได้สั่งการให้ทุกหน่วย ทุกพื้นที่ ที่มีการจัดงานประเพณีลอยกระทง เพิ่มความเข้มดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจน้ำ กว่า 20,000 นาย ดูแลรักษาความปลอดภัยงานลอยกระทง โดยมีมาตรการสำคัญดังนี้
1) มาตรการป้องกัน ให้สายตรวจเพิ่มความเข้มการออกตรวจตรา ปรากฎกาย สถานที่จัดงาน สถานบริการ สวนสาธารณะ หรือสถานที่ที่ประชาชนนักท่องท่องเที่ยวจะรวมตัวจำนวนมาก เพื่อป้องกันเหตุคดีทะวิวาท คดีชีวิต ร่างกาย เพศและทรัพย์สิน ในส่วนของตำรวจน้ำ ให้จัดเรือพร้อมเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราตามบริเวณลำน้ำ เพื่อป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทางน้ำ รวมถึงประชาสัมพันธ์ไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวลงไปบริเวณท่าเทียบเรือ หรือโป๊ะ เกินจำนวนที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ 
2) มาตรการจราจรจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรในการเดินทางเข้าออกพื้นที่จัดงาน และทำแผนที่เส้นทางหลัก ทางเลี่ยงให้ประชาชนทราบก่อนการจัดงาน 
3) มาตรการปราบปรามให้กวดขันจับกุมผู้เล่นดอกไม้เพลิง พลุ และประทัด ในลักษณะก่อความเดือดร้อนรำคาญ น่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายประชาชน กรณีเป็นผู้กระทำผิดเป็นเด็ก ให้นำ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เพื่อให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบ รวมทั้งร่วมกับฝ่ายปกครองกวดขันควบคุมผู้ผลิตจำหน่ายดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด หากพบว่าลักลอบทำผิดกฎหมายให้จับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
4) มาตรการรักษาความปลอดภัย ให้มีการหาข่าวป้องกันข้อมูลของกลุ่มมิจฉาชีพที่จะเข้ามาฉกฉวยโอกาสก่อเหตุ แก็งต้มตุ๋นมิจฉาชีพ อาชญากรรมความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ คดีอนาจาร รวมทั้งออกแผนตรวจในการดูแลความเรียบร้อยของพื้นที่จัดงาน ในส่วนของสถานที่จัดขนาดใหญ่ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.สน.) เพื่อควบคุมดูแลภาพรวมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 
5) มาตรการประชาสัมพันธ์ ให้ทุกหน่วยทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน  ผู้ประกอบการ สถานบริการในการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะการเล่นพลุ ดอกไม้เพลิง การปล่อยโคมลอย บนท้องฟ้าฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่27/2559  รวมทั้งการขอความร่วมมือให้ช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งเหตุต่าง ๆ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับลงควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการอำนวยความสะดวกและดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง 

ผบ.ตร.กล่าวเพิ่มเติมว่า  “ได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน และ นักท่องเที่ยว ด้วยความสุภาพและเหมาะสม ตามหลักยุทธวิธี ในช่วงเทศกาลลอยกระทง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ นำทีมรวบตัวผู้ต้องหาแก๊งโม่งลิง อ้วนผอม ตระเวนลักทรัพย์ทั่วประเทศ พร้อมขยายผลสืบทรัพย์ ส่งมอบคืนให้ผู้เสียหาย

จากกรณีในห้วงระหว่างปี พ.ศ.2559 - พ.ศ.2565 ได้มีแก๊งคนร้าย จำนวน 3-4 คน ร่วมกันก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์เจาะตู้เซฟ โดยคนร้ายแต่งกายสวมหมวกโม่งลิง ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงายาว ใส่ถุงมือยาว สวมรองเท้าสตั๊ดดอยสีดำ สะพายเป้สีดำ มีแชลงเหล็กยาว โดยก่อเหตุในพื้นที่ของ ภ.1 จำนวน 1 คดี พื้นที่ ภ.5 จำนวน 8 คดี ภ.7 จำนวน 1 คดี และพื้นที่ ภ.9 จำนวน 12 คดี รวม 22 คดี  

กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล  รอง ผบ.ตร. เร่งดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้โดยด่วน เนื่องจากกลุ่มคนร้ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ที่อุกอาจ ก่อเหตุอย่างต่อเนื่องไม่เกรงกลัวกฎหมาย สร้างความหวาดกลัวให้พี่น้องประชาชน และสร้างความเสียหายในภาพรวม เป็นมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท และได้ออกคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 406/2565 ลงวันที่ 8 ก.ย. 65 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและประสานข้อมูลและการปฏิบัติจากหลายท้องที่ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายดังกล่าวอย่างเร่งด่วนเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และเร่งติดตามทรัพย์สินที่ถูกลักเอาไปกลับคืนมาโดยเร็ว

ซึ่งต่อมา บก.สส.ภ.9 พร้อมด้วย กก.สส.ภ.จว.สงขลา และ กก.สส.ภ.จว.สตูล ได้ทำการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีจำนวน 4 คน คือ 
1. นายวสันต์ อายุ 39 ปี อยู่ที่ 16 ม.2 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา
2. นายสมพร อายุ 44 ปี อยู่ที่ 241 ม.11 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล 
3. นายเกษม อายุ 49 ปี อยู่ที่ 115/1 ม.3 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา 
4. นายเรืองศักดิ์ อายุ 41 ปี อยู่ที่ 64 ซ.21 ถ.แกรนด์วิลล่า 3 ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา   (ภูมิลำเนาเดิม จว.เชียงราย)

โดยคนร้ายมีพฤติการณ์ในการก่อเหตุกล่าวคือจะขับรถยนต์ตระเวนหาเป้าหมายในการก่อเหตุที่เป็นร้านค้า สถานประกอบการ สหกรณ์การเกษตร ปั๊มน้ำมัน ร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีตู้นิรภัย ที่ตั้งอยู่ติดกับป่าละเมาะ หรืออยู่ห่างไกลจากบ้านเรือนหรือชุมชน เมื่อสบโอกาส ก็จะแต่งกายคล้ายการสวมชุด PPE สวมหมวกโม่งลิง สะพายเป้สีดำ ใช้ไขควงยาวในการงัดแงะเข้าไปในตัวอาคารแล้วเข้าไปลักเอาทรัพย์สิน โดยใช้ชะแลงเหล็กหรือเครื่องเจียรเหล็กเจาะทำลายตู้นิรภัย หรือยกเอาตู้นิรภัย หรือจะนำเซิร์ฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดไปด้วย โดยตระเวนก่อเหตุลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่  จากภาคใต้-ภาคเหนือ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ยกแก๊ง สอบถามผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การรับสารภาพว่าเป็นก่อเหตุ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้าหรือจำหน้าได้ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป,โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป”

พร้อมตรวจยึดสิ่งของที่ใช้ในการกระทำผิดจำนวนหลายรายการ อาทิ รถยนต์ เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ

'อลงกรณ์' เผย กรกอ. มีมติเห็นชอบโครงการ 'เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์' เขตอุตสาหกรรมเกษตรใหญ่ที่สุดของประเทศ พร้อมสนับสนุนโครงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมอาหารภาคกลางตอนล่างของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี 

สภาอุตสาหกรรมภาคกลางเตรียมเชิญ 'เกรียงไกร เธียรนุกุล' ประธานสอท. ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลย์ 24พ.ย. นี้

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) เป็นประธานการประชุมครั้งที่ 4/2565 ผ่านระบบประชุมทางไกล Zoom Meeting วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2565) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสุรชัย โสตถีวรกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง นายสาโรจน์ วสุวานิช ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ทันตแพทย์สุพจน์ หวังปรีดาเลิศกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคเหนือ นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายนิติธร กฤตสิน กรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

โดยมี นางสาวพรชาตา บุสสุวัณโณ ผู้อำนวยการส่วนแผนพัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านการเกษตร ทำหน้าที่เลขานุการฯ การประชุม นายอลงกรณ์เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ที่ประชุม 'กรกอ.'ในวาระเพื่อพิจารณาได้มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบโครงการ เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ (Phetchaburi Food Valley ) นำเสนอโดยนายมานพ โตการค้า ผู้บริหารโครงการตั้งอยู่ในอำเภอแก่งกระจาน และอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ในพื้นที่ที่มีศักยภาพทั้งทางด้านคมนาคม การสื่อสาร ไฟฟ้า และน้ำ โดยพื้นที่ดังกล่าว เคยเป็นโครงการสร้างเมืองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวบริการ ปัจจุบันได้ปรับพื้นที่เป็นโครงการอุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่ ที่ได้มีการจัดสรรพื้นที่ตามศักยภาพ และเป็นไปตามกฎหมายผังเมือง ประกอบด้วย 

 

1. ศูนย์แสดงนวัตกรรมการเกษตร 70 ไร่ หน้าพื้นที่โครงการ จะเป็นศูนย์เรียนรู้นวัตกรรมการเกษตร และการเจรจาธุรกิจ ห้องประชุม และศูนย์วิจัยเทคโนโลยี PlatForm การเกษตร ก่อสร้างคืบหน้า 50%
2. แปลงปลูกข้าวโพด และหญ้าเนเปียร์ 12,000 ไร่ ในพื้นที่อำเภอแก่งกระจาน ปัจจุบันปลูกข้าวโพดและหญ้าเนเปียร์แล้ว 5,000 ไร่ เพื่อผลิตอาหารสัตว์ที่มีราคาถูก

3. คอกโคกลาง 1,600 ไร่ ในพื้นที่อำเภอแก่งกระจาน เป็นคอกมาตรฐานที่มีการใช้ร่ววมกัน มีน้ำสะอาด อาหารราคาถูก และการดูแลรักษาได้มาตรฐานลดต้นทุนการผลิต โดยจังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดที่เลี้ยงโคส่งขายปีละกว่า140,000- 150,000 ตัว
4. ฟาร์มกุ้งระบบปิด 2,000 ไร่ ในพื้นที่ตำบลท่าไม้รวกและตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายาง ซึ่งได้รับอนุญาตจากประมงแล้ว โดยจะมีการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการช่วยให้สามารถเพิ่มผลิตภาพการผลิตกุ้งอย่างมีคุณภาพ
5. โรงงานแปรรูป 1,000 ไร่ ในพื้นที่ตำบลไม้รวก อำเภอท่ายาง เป็นโซนพื้นที่รองรับการตั้งโรงงานแปรรูปผลผลิตการเกษตร ซึ่งมีความพร้อมทั้งถนนคอนกรีต น้ำประปา แหล่งน้ำขนาดใหญ่ ไฟฟ้าแรงสูง รวมถึง Internet
6. โซล่าฟาร์ม 4,000 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เหมาะสมสำหรับผลิตโซล่าฟาร์ม มีสายส่งขนาด 115KV ผ่าน ปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการแล้ว 900 ไร่ โดยบริษัทด้านโซล่าฟาร์มชั้นนำของประเทศ

ในการนี้ ประธานฯ ได้ให้ผู้บริหารโครงการพิจารณาจัดทำฮาลาลฟู้ดวัลเลยฺ( Halal Food Valley )ในพื้นที่โครงการด้วย จัดว่าเป็นเขตอุตสาหกรรมเกษตรใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ทั้งนี้โครงการ เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเรือธง (Flagship Project) ของคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในกลุ่มจังหวัดเพชรสมุทรคีรี (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงครามและสมุทรสาคร) โดยมีศูนย์ AIC เพชรบุรีคือมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีให้การสนับสนุน และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก (Western Economic Corridor: WEC) ตามนโยบายรัฐบาลนับเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบริหารงานใหม่แบบใหม่ นำไปสู่เกษตรมูลค่าสูง ด้วยเทคโนโลยีของไทย ครอบคลุมทั้งพืช ประมง และปศุสัตว์โดยใช้เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมเมดอินไทยแลนด์เป็นฐานสำคัญ

นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบสนับสนุนโครงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมภาคกลางตอนล่างของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่เกื้อหนุนโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ด้วย
โดยนายสุรชัยโสตถีวรกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลางและประธานกรกอ.ภาคกลางเตรียมเชิญนายเกรียงไกร เธียรนุกุลประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลย์ในวันที่ 24พ.ย. นี้ด้วย

นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระดับภาคได้แก่
1. คณะอนุกรรมการ”กรกอ.ภาคเหนือ )ได้จัดทำแนวทางการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารภาคเหนือ ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566 – 2570) โดยเพิ่มเติมพืชที่มีศักยภาพที่จะผลักดัน เข้าสู่โครงการเกษตรแม่นยำสู่ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม 5 ล้านไร่ คือ ข้าวโพด ชา กาแฟ กล้วยหอมทอง และพืชสมุนไพร  นอกเหนือจาก อ้อย และข้าวโพดหวานที่ดำเนินการอยู่แล้ว 
2. คณะอนุกรรมการ”กรกอ.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”ได้เข้าพบประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นายสมยศ ชาญจึงถาวร) ซึ่งประธานฯ พร้อมให้การสนับสนุน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนงานเชิงประจักษ์ตามแผนความร่วมมือระหว่าง กษ. และ ส.อ.ท. และขอให้มีการดำเนินการตามโครงการพัฒนาเกษตรแม่นยำสู่ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม 2 ล้านไร่ ในระยะที่ 2 ต่อไป และรับทราบผลการจัดทำแผนขับเคลื่อนการบริหารจัดการสินค้าเกษตรที่สำคัญในระดับพื้นที่ (5 กลุ่มจังหวัด) โดยมีสินค้าสำคัญ คือ มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา และโคเนื้อ ซึ่งจะนำมาเข้าเวทีเพื่อขับเคลื่อนและจัดทำแผนร่วมกันว่า สินค้าดังกล่าวมีความโดดเด่นเพียงใด โดยประธานฯ ได้มอบหมายให้ทุกคณะอนุกรรมการฯ ในแต่ละภาค เชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ( NABC )ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมถึงเชื่อมโยงกับศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม( AIC )ในเรื่อง รายการนวัตกรรม(Innovation Catalog )ที่มีเกือบ800นวัตกรรมโดยให้ฝ่ายเลขาฯ ภาค ประสานศูนย์ AIC ในการเข้าร่วมประชุม เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์ต่อการพัฒนาในโครงการต่าง  ๆ
3. คณะอนุกรรมการฯ ภาคกลาง รายงานความก้าวหน้าโครงการการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำและการเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลาสวยงามในการส่งออกต่างประเทศ (Aqua Feed & Ornamental Freshwater Fish Industry : AFOF) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดของโรค Covid-19 ในเขตภาคกลางตอนล่าง 1 ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ มหาวิทยาลัยมหิดล ศูนย์ AIC สภาอุตสาหกรรมฯ ระดับภาค โดยได้จัดทำข้อเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 135 ล้านบาท

คึกคัก อลังการ!! พิธีแห่กฐินวัดบัวโรย บางเสาธง พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมในพิธี

ที่วัดบัวโรย ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ท่านพระครูปลัดวิสุทธิ์ นริสฺสโร เจ้าอาวาสวัดบัวโรย ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย คณะพระภิกษุสงฆ์วัดบัวโรย คณะกรรมการไวยาวัจกร และอุบาสก อุบาสิกา ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาววัดบัวโรย ได้จัดพิธีทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565 ณ วัดบัวโรย ต.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

โดย พิธีทอดผ้ากฐินสามัคคี ของทางวัดบัวโรยในปีนี้ มีประชาชนผู้ใจบุญร่วมเป็นประธานอุปถัมภ์ร่วมทอดกฐินสามัคคีถวายแด่ทางวัดบัวโรย ประจำปี 2565 อาทิ คุณทวีศักดิ์ คุณพงศกร คุณชลิต คุณชลัต พร้อมครอบครัวดีดอกไม้ ผู้ใหญ่วิหาร นัยปภรณ์ ไวกุลเพชร ผช.สุรชาติ ม่วงใหญ่ คุณภาวิณี จีรกมล คุณอ๋อย คุณรุ่ง ปลาอ๊อก คุณประสิทธิ์ คุณนิลฉวี กระสายเงิน คุณแม่เจียร ศรีสมโภชน์ คุณสมนึก น่วมวิจิตร และ คุณมะลิ พิณเที่ยง ร่วมเป็นประธานอุปถัมภ์ ทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565

นอกจากนี้ ทางคณะศิษยานุศิษย์ และประชาชนจำนวนมากได้ร่วมกันจัดโรงทาน จำนวนกว่า 30 โรงทาน อีกทั้ง พิธีทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565 นี้ มีพุทธศาสนิกชนและประชาชนจำนวนมากต่างเดินทางมาร่วมในพิธีทำบุญทอดกฐินกันอย่างเนืองแน่น โดย กฐินสามัคคีของทางวัดบัวโรย ในปีนี้ ยอดเงินทั้งหมดที่ได้จากการทอดกฐินสามัคคี ทางวัดบัวโรยจะนำไปซื้อที่ดิน จำนวน 9 ไร่ และบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถวัดบัวโรย ซึ่งยอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565 มียอดเงินที่ได้จากการร่วมทำบุญ จำนวนร่วม 3 ล้านบาท

'นายก' เตือน!! ลอยกระทง ขอให้ระมัดระวังอุบัติเหตุ และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ย้ำ!! อย่าให้กระทบกับแหล่งน้ำธรรมชาติ

ลอยกระทง ขอให้ระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุ และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม อย่าให้กระทบกับแหล่งน้ำธรรมชาติ

พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  
นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม  
กล่าวเมื่อวันที่ 7 พ.ย.65

นายกรัฐมนตรี ย้ำ เทศกาลลอยกระทงต้องปลอดภัย และรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมระบุห่วงปัญหาอุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ เร่งเยียวยา หลังภาคเหนือ -อีสาน -กลาง  น้ำลด  ขอขอบคุณเอกชน- ประชาสังคม  บริจาคผ่อนคลายความเดือดร้อน

โฆษก ตร. ห่วงความปลอดภัยลอยกระทง เตือน 'ยิงปืนขึ้นฟ้า' ค่านิยมผิด อันตรายถึงชีวิต โทษหนักจำคุกสูง 10 ปี วอนประชาชน เป็นหูเป็นตา

วันที่ (7 พ.ย. 65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. ออกมาเตือน 'การยิงปืนขึ้นฟ้า' เฉลิมฉลองเทศกาลลอยกระทง ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต และผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น 

โฆษก ตร. กล่าวว่า ผบ.ตร. มีความกังวล ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ที่ประชาชนทำกิจกรรมเฉลิมฉลองต่าง ๆ ทั้งนี้ขอย้ำว่าการ 'ยิงปืนขึ้นฟ้า' เป็นค่านิยมที่ผิด และก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อตนเอง และผู้อื่น โดยอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

“การยิงปืนขึ้นฟ้า มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากกระสุนตกใส่ หรือทะลุหลังคาบ้านเรือน ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย หรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ก็จะมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” พล.ต.ต.อาชยนฯ กล่าว

‘เพรียงทราย’ วัตถุดิบก๋วยเตี๋ยวรสเด็ด รับผู้นำเอเปก โปรตีนทางเลือกคุณภาพสูงเทียบเท่าไข่ไก่

เมนูเด็ดประเทศไทยที่จะเตรียมเสริฟแก่ผู้นำ APEC นั่นก็คือ 'เพรียงทราย' ไส้เดือนทะเล วัตถุดิบเมนูก๋วยเตี๋ยวรสเด็ด ต้อนรับผู้นำเอเปกโปรตีนคุณภาพสูงจาก 'ไส้เดือน'

จากที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก 2022 หรือ APEC 2022 ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.นี้ ได้มีการเตรียมพร้อมในหลาย ๆ ด้าน เพื่อต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมจาก 21 เขตเศรษฐกิจ ภายใต้ธีม 'เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล' หรือ 'Open. Connect. Balance.' และยังจัดเตรียมอาหารไทย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเมนูอาหารอนาคตจากการประกวด จะนำมาเป็นเมนูในการประชุมเอเปก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและศักยภาพด้านซอฟต์พาวเวอร์ อาหารไทย ไปสู่สายตาชาวโลก

แต่ละเมนูมีความหลากหลาย จากภูมิปัญญาท้องถิ่น เมนูเสริมสุขภาพ และเมนูใช้นวัตกรรมเพิ่มคุณค่าและมูลค่าของวัตถุดิบที่มาจากในประเทศไทย รวมทั้งรักษาสิ่งแวดล้อมประกอบด้วย 8 เมนู 

1.) ข้าวถั่วลูกไก่ยำปักษ์ใต้ผัก 5 สี โปรตีนสูง 
2.) ราเมนจากเส้นโปรตีนไข่ขาว ไร้แป้ง เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ 
3.) ไอศกรีมปราศจากนม เพิ่มรสชาติด้วยผัดเคล และเสาวรส 
4.) ห่อหมกวีแกนเพื่อสุขภาพ 
5.) ขนมชั้นสูตรลดน้ำตาลเสริมใยอาหาร และโปรไบโอติกส์ 
6.) โครเก็ตพะแนงแพลนต์เบส 
7.) ก๋วยเตี๋ยวจากเพรียงทราย โซเดียมต่ำ ภูมิปัญญาชุมชน 
และ 8.) ไอติมจากโปรตีนจิ้งโกร่ง

'บิ๊กตู่' ปลื้ม!! ชาวตากจัดงานลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง เพื่อสืบสานประเพณี - วัฒนธรรมอันดีงามให้คงอยู่สืบไป

ค่ำคืนวานนี้ (5 พ.ย. 65) เวลา 21.00 น. ที่บริเวณเวทีกลางน้ำปิง เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง จังหวัดตาก ประจำปี 2565 โดย นายชัยวุฒิ เปิดเผยว่า ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมประเพณีไทย เลยมอบหมายให้ผมมาเป็นตัวแทนเปิดงานในวันนี้ ผมชื่นชม เเละประทับใจ ในความตั้งใจ เเละความสามัคคี ของชาวจังหวัดตากที่ได้ร่วมกันจัดงานสืบสานประเพณีไทยด้วยความตั้งใจ สิ่งนี้เเสดงถึงความพลังสามัคคีที่ยิ่งใหญ่ เเละพลังความจงรักภักดีที่ชาวจังหวัดตาก ที่มีต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักของเรา พร้อมกับเเสดงให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ได้ฝากคำชื่นชม มาในโอกาสนี้ด้วย ขอบคุณชาวจังหวัดตากทุกคนที่ร่วมกันสร้างเเละสืบสานประเพณีที่ดีงามนี้ให้คงอยู่ตลอดไป

ทั้งนี้ นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก มอบหมายให้ นายสุรพล วงศ์สุขพิศาล และนายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และนักท่องเที่ยว เข้าร่วมงานฯ โดยมี นายณพล ชยานนท์ภักดีนายกเทศมนตรีเมืองตาก กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน

สำหรับการจัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง ของจังหวัดตาก ประจำปี 2565 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 - 8 พ.ย. 2565  

โดยค่ำคืนแรกของวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 เป็นคืนแรก มีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การจัดขบวนแห่อัญเชิญพระประทีปพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งพระประทีปพระบรมวงศานุวงศ์รวม 9 พระองค์, ขบวนแห่อัญเชิญถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, ขบวนเห่เรือกระทงสาย

รพ.เชียงแสน ประกาศพักงานแพทย์หญิงไร้กำหนด ปม 'ทะเลาะกับญาติคนไข้ - ด่าคนไข้โง่'

'โรงพยาบาลเชียงแสน' ออกประกาศสั่งพักงานแพทย์หญิงด่าคนไข้ "โง่" อย่างไม่มีกำหนด รอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

เรียกได้ว่ากลายเป็นเรื่องราวที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง ภายหลังบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า สยุมภู รอดมี ได้คลิปวิดีโอสุดเดือดหลังเข้าใช้บริการ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ปรากฏว่า มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่สาวในโรงพยาบาล โดยในคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่า ทางคนไข้ได้มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่สาวรายดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่สาวรายนี้นั่งไขว่ห้างสบายใจ เล่นโทรศัพท์ พร้อมเกิดการโต้เถียงกันด้วยถ้อยคำหยาบคาย จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด แฟนเพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลเชียงแสน ได้ออกมาโพสต์ประกาศระบุข้อความว่า “เบื้องต้นคณะกรรมการจังหวัด มีการสั่งพักงานแพทย์ อย่างไม่มีกำหนด และรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ประกาศ ณ วันที่ 5/11/2565 เวลา 22.00 น.”..

นทท. ขับกระบะเร่งเครื่องยนต์ใส่ 'ช้างป่า' แถมเปิดประตูถ่ายรูป เมินคำเตือน นทท. คนอื่น

ผู้สื่อข่าว จ.นครนายก รายงานว่า มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ที่นักท่องเที่ยวสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ระทึก ขณะขับรถอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยช้างป่ากำลังหาอาหารกินอยู่ริมถนน มีรถกระบะได้ขับเข้าไปใกล้ช้างป่า และพยายามขับฝ่า จนช้างวิ่งเข้าใส่รถ ก่อนที่รถกระบะจะเร่งเครื่องควันดำโขม่งลักษณะท้าทาย ก่อนจะเปิดประตูรถ พร้อมหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกภาพช้างในระยะใกล้

จากการสอบถาม นักท่องเที่ยว เล่าว่า เห็นช้างป่าเดินอยู่บนถนน จึงพากันจอดรถเพื่อรักษาระยะห่างประมาณ 200 เมตร จู่ ๆ รถกระบะขับเข้ามา และพยายามฝ่าวงเข้าไป โดยไม่สนคำเตือนของนักท่องเที่ยวด้วยกัน และพูดทิ้งท้ายว่า "ช้างหรอ เอ้าลุยสิ !!" และขับรถฝ่าผ่านช้างไป จากนั้นก็จอดรถ เบิ้ลเครื่อง และเปิดประตูดูช้างด้วยท่าทางท้าทาย และถ่ายรูป

'INTERLINK' จัดงานเลี้ยงฉลอง ขอบคุณลูกค้า ภาคตะวันออก ที่โรงแรมเชอราตัน หัวหิน (5-6 พ.ย. 65)

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดงาน 'LINK Exclusive Thank You VIP 2022' ขอบคุณคู่ค้าภาคตะวันออก ร่วมฉลอง ปาร์ตี้ พร้อมดินเนอร์กับอาหารนานาชนิด และซีฟู๊ดไม่อั้น ริมทะเล มีเสียงเพลงขับกล่อมบรรเลงในบรรยากาศสุดพรีเมียม 

ครั้งนี้ได้เรียนเชิญลูกค้ากว่า 35 บริษัท พร้อมครอบครัวกว่า 100 คน เพื่อขอบคุณที่สนับสนุนให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ LINK และ 19 German Rack สินค้าอันดับ 1 ของประไทย ด้วยดีเสมอมา และในตอนเช้าได้ร่วมบุญตักบาตร เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล นำสู่การเติบโต ต่อเนื่อง ร่วมกัน ตลอดไป

ณ โรงแรมเชอราตัน หัวหิน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top