Tuesday, 20 May 2025
NEWS

 สืบนครบาลตามจับเซียนพระกำมะลอ หลอกเช่าพระทิพย์ มีหมายจับติดตัว 3 หมาย

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมากในปัจจุบัน 'ชุดลาดตระเวนออนไลน์' สืบสวนนครบาล IDMB ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผู้เดือดจำนวนมาก ว่าถูกกลุ่มแก็งค์ที่อ้างตนว่าเป็นเซียนพระ หลอกผู้เสียหายเช่าพระเครื่องบูชาและวัตถุมงคล สูญเงินเป็นจำนวนมาก 

เมื่อวันที่ (7 พ.ย. 65) เวลาประมาณ 05.20 น. พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบ.ช.น. สั่งการ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบสวนนครบาล IDMB โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ และ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ กับพวกได้เข้าทำการจับกุมตัว นายชัยวิวัฒน์ ธนินจีรภัทร์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 500/36 หมู่ 1 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันต์

ผู้ต้องหาเป็นบุคคลตามหมายจับจำนวน 3 คดี 
1. หมายจับศาลแขวงนครราชสีมา ที่ จ218/2564 ลงวันที่ 3 ก.ย. 65 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐานฉ้อโกง 
2. หมายจับศาลแขวงพิษณุโลก ที่ จ.123/2564 ลงวันที่ 21 ก.ค. 64 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐานฉ้อโกง
3. หมายจับศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ 124/2564 ลงวันที่ 14 ก.ย. 64 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐานฉ้อโกง

โดยแต่ละคดีล้วนแล้วแต่มีพฤติการณ์ในทำนองเดียวกันทั้งสิ้น โดยกล่าวหาว่า ฉ้อโกง ได้บริเวณริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 168/39 หมู่บ้านไอลีฟทาวน์ ซ.ประชาอุทิศ 90 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

กล่าวคือ ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผู้เดือดร้อนจำนวนมาก ว่าถูกกลุ่มแก็งค์ที่อ้างตนว่าเป็นเซียนพระ หลอกผู้เสียหายเช่าพระเครื่องบูชาและวัตถุมงคล สูญเงินเป็นจำนวนมาก พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ นำโดย พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมกำลังสืบสวนติดตาม แกะรอยพฤติการณ์ของกลุ่มแก๊งค์ดังกล่าว จนสามารถระบุตัวคนร้ายชื่อว่า นายชัยวิวัฒน์ ธนินจีรภัทร์ อายุ 33 ปี อยู่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันต์ จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มแก๊งนี้มีพฤติการณ์ออกตระเวน อ้างตนเป็นเซียนพระ สร้างภาพลักษณ์ตัวเองให้ดูน่าเชื่อถือในโลกออนไลน์ ด้วยการโพสต์ขายพระที่ได้รับความนิยมในหมู่เซียนพระ ซึ่งเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ สนใจ ติดต่อซื้อขาย  และตกลงโอนเงินให้ แต่คนร้ายมิได้ส่งมอบสินค้าให้ตามที่ตกลงกันไว้ หากผู้เสียหายรู้ตัว จะทำการปิดเฟสบุ๊คหลบหนี โดยผู้ต้องหาก่อเหตุแล้วในหลายพื้นที่เป็นระยะเวลาปีเศษ

อีกทั้ง จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาเป็นบุคคลตามหมายจับจำนวน 3 คดี 1. หมายจับศาลแขวงนครราชสีมา ที่ จ 218/2564 ลงวันที่ 3 ก.ย.65 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐานฉ้อโกง หมายจับศาลแขวงพิษณุโลก ที่ จ.123/2564 ลงวันที่ 21 ก.ค. 64 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐานฉ้อโกง หมายจับศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ 124/2564 ลงวันที่ 14 ก.ย. 64 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐานฉ้อโกง โดยแต่ละคดีล้วนแล้วแต่มีพฤติการณ์ในทำนองเดียวกันทั้งสิ้น 

สุโขทัย ลอยกระทงคึกคักคาดนักท่องเที่ยวใช้จ่ายในงานไม่ต่ำกว่า 550 ล้านบาท

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ รวม 12 พระองค์ พระราชทานไฟพระฤกษ์ และพระประทีป เพื่อลอยเป็นปฐมฤกษ์ในงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2565 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ณ บริเวณริมสระตระพังตาล ก่อนที่จะมีพิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน ลงลอยเป็นปฐมฤกษ์ ในเวลา 23.00 น. โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประธานลอยพระประทีปพระราชทาน

เวลา 05.45 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีรับรุ่งอรุณแห่งความสุข พร้อมภริยา โดยมี ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย เขต 1 นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นางพร้อมจันทร์ ทีคะสุข รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุโขทัย นางสาวพัชรอร วงศ์กำแหง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ศาล ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และนักท่องเที่ยว ร่วมในพิธีตักบาตรรับรุ่งอรุณแห่งความสุข ณ บริเวณวัดตระพังทอง ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย โดยส่วนราชการและประชาชนจะร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นการรับรุ่งอรุณแห่งความสุข ในงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย

นทท.แห่ทะลักสนามบินเชียงใหม่ เที่ยวลอยกระทงยี่เป็ง คาดช่วงท่องเที่ยว จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 21,000 คน

นักท่องเที่ยวทะลักสนามบินเชียงใหม่ แห่เที่ยวเทศกาลลอยกระทงยี่เป็ง คาดช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้จะมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยวันละประมาณ 21,000 คน

สำหรับในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาท่าอากาศยานเชียงใหม่มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละประมาณ 19,000 คน เป็นผู้โดยสารภายในประเทศกว่า 18,300 คน ผู้โดยสารระหว่างประเทศกว่า 700 คน จำนวนเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 110-120 เที่ยวบิน

ผบ.ตร.โชว์ความพร้อมด้านความปลอดภัยประชุม APEC 2022 ระดมกวาดล้างอาชญากรรมครั้งใหญ่ จับผู้ต้องหาคดียาเสพติด และอาวุธปืน หมายจับค้างเก่า กว่า 60,000 ราย สร้างความเชื่อมั่นให้นานาชาติ

วันนี้ (8 พ.ย.65) เวลา 10.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.,พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.,พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ,พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.ภ.8 ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนานาชาติ และประชาชน ก่อนการประชุม APEC 2022

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีระดมกวาดล้างปราบปรามผู้กระทำความผิดที่ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนเถื่อน อาวุธปืนสงคราม ยาเสพติด และหมายจับค้างเก่า ก่อนที่จะมีการจัดการประชุมผู้นำ APEC ปลายเดือนนี้  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยมีการระดมกวาดล้างในห้วงระหว่างวันที่ 10 ต.ค. - 8พ.ย. 65 ผลการดำเนินการ ดังนี้

1. ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุน ทั้งสิ้น 11,811 คดี ผู้ต้องหา 10,450 คน ของกลางอาวุธปืนสงคราม 36 กระบอก ปืนไม่มีทะเบียน 5,345 กระบอก มีทะเบียน 936 กระบอก วัตถุระเบิด 4,342 รายการ และเครื่องกระสุน 37,045 นัด 

2. ผู้ต้องหาคดียาเสพติด 41,803 คดี ผู้ต้องหา 43,027 คน ของกลางยาบ้า 49,580,083 เม็ด 

3. จับบุคคลตามหมายจับคดีอาญาได้ 9,465 หมายจับ ผู้ต้องหา 9,255 คน

สำหรับงานสืบสวนสอบสวนได้มีการระดมเร่งรัดหมายจับค้างเก่าทั้งประเทศ ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีการจับกุมหมายจับค้างเก่าไปแล้วกว่า 50% ส่วนด้านการป้องกันปราบปราม มีการระดมจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับอาวุธปืนและยาเสพติด ขณะนี้มีการขยายผลต่อเนื่องไปถึงต้นทางการผลิต โดยจะได้ปราบปรามอย่างครบถ้วนทุกมิติ 

ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า คดีที่น่าสนใจ ภ.5 สามารถจับกุมนายวีรยุทธ สงวนนามสกุล ผู้ต้องหาจำหน่ายอุปกรณ์ปืน บีปีกัน แบลงค์กัน และได้ผลิตแปลงอาวุธปืนแบลงค์กัน ใส่ลำกล้องปืน 9 มม. ให้เป็นอาวุธปืนที่สามารถยิงกระสุนจริงได้ โดยเปิดร้านชื่อ CHAROEN AIRSOFT 4289 ผ่านแพลตฟอร์มลาซาด้า โดยมีช่องทางติดต่อผ่านไลน์ Line Official '@612mrgnd' และใน Facebook เพจของ CHAROEN AIRSOFT 4289

ผบ.ทร. เยือนญี่ปุ่น ร่วมพิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติ 2022

ผู้บัญชาการทหารเรือ และภริยา พร้อมด้วยคณะ เข้าร่วมการประชุม Western Pacific Naval Symposium (WPNS) ครั้งที่ 18 ที่กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2565 ณ เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น

พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และภริยา พร้อมด้วยคณะ เข้าร่วมการประชุม Western Pacific Naval Symposium (WPNS) ครั้งที่ 18 ที่กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2565 ณ เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น มาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้แทน ผู้บัญชาการทหารเรือ ของชาติสมาชิกและผู้สังเกตการณ์ จำนวน 28 ประเทศ ซึ่งการจัดประชุม WPNS ครั้งนี้ จัดขึ้นพร้อมกับการสวนสนามทางเรือนานาชาติ (International Fleet Review: IFR 2022) ในโอกาสครบรอบ 70 ปี กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น โดย กองทัพเรือ พิจารณาจัดเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เข้าร่วมการสวนสนามทางเรือไปแล้ว เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 

สำหรับการประชุม WPNS นั้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากการประชุม The International Sea Power Symposium (ISS) ครั้งที่ 9 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2530 โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้ผู้แทนระดับสูงของกองทัพเรือประเทศต่าง ๆ จากทุกภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกได้มีโอกาสพบปะพูดคุยถึงปัญหา และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน  

‘จันทรุปราคาวันลอยกระทง’ ทำให้เกิดอาถรรพ์อุบาทว์ ความเชื่อโบราณ เตือน!! ‘ห้ามมอง-ห้ามชี้-ห้ามอาบแสง’

(8 พ.ย. 65) วันลอยกระทง จะเกิดเป็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ตั้งแต่เวลา 17.44-18.41 น. รวมทั้งสิ้น 57 นาที แต่ตามความเชื่อโบราณช่วงเวลาการเกิดจันทรุปราคา จะทำให้เกิดอาถรรพณ์อุบาทว์กับคนที่อยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง หรือบุคคลผู้มีวิชาต้องหลีกเลี่ยงแสงช่วงเวลาดังกล่าว

‘อัมรินทร์ สุขสมัย’ ผู้ศึกษาด้านโหราศาสตร์และไสยเวท กล่าวว่า การเกิดจันทรุปราคาในวันลอยกระทง ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ตามหลักความเชื่อโบราณถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดี คนสมัยก่อนเชื่อว่า ห้ามถูกแสงในช่วงเวลาเกิดจันทรุปราคา ห้ามเอานิ้วไปชี้ ห้ามแหงนมอง ยิ่งในคนที่มีความเชื่อและเรียนคาถาอาคม ต้องปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด เพราะอาจทำให้ของที่อยู่ในตัวเสื่อม จึงหลีกเลี่ยงการถูกแสงช่วงเวลานั้นด้วยการหลบอยู่ในบ้าน

“ความเชื่อระหว่างเกิดจันทรุปราคา จะเกิดการคราสที่หมายถึงการกลืนกิน โดยมีความเชื่อว่าโลกอยู่ภายใต้อิทธิพลของราหู การเกิดเงามืดแบบผิดปกติบนผิวโลก คนในสมัยก่อนเรียนรู้จะอยู่กับธรรมชาติ เมื่อเกิดการคราสจะมีเสียงนกร้องหรือบินกลับรัง สิ่งนี้ทำให้เกิดการตื่นตระหนก ที่วิทยาศาสตร์ยังไม่ได้พัฒนามาไกลเหมือนเช่นปัจจุบัน เลยเกิดความเชื่อว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงอาถรรพณ์อุบาทว์” อัมรินทร์ กล่าว

ช่วงที่เกิดจันทรุปราคา บางพื้นที่มีคาถาสวด เช่น พื้นที่ภาคกลาง มีคาถาสวดไล่ อย่างลูกศิษย์สายหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง แต่ถ้าเป็นภาคอีสานบางพื้นที่มีการสวดรับพระราหู เพื่อเข้ามาคุ้มครอง หลังจากนั้นจะมีการสวดส่ง

หนองบัวลำภู-ร่วมมอบเงินเยียวยาเหยื่ออดีตตำรวจคลั่ง

สมาคม อบต.แห่งประเทศไทย ร่วมมอบเงินเยียวยาครอบครัวเหยื่ออดีตตำรวจคลั่ง 36 ศพ ที่ตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู นายพิชิต หอมพุ่ง พร้อมด้วยนายสมาน สุธรรมาภิวัตร อุปนายกสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย และนายอัครนันท์ ปัญญาเจริญโรจน์ นายก อบต.หนองหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะกรรมการบริหารสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย เดินทางลงพื้นที่ อบต.อุทัยสวรรค์ ตามที่ ผศ. (พิเศษ) ดร.วีระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย มอบหมาย

โดยมีนายอาคม ผดุงศิลป์ ประธานชมรมนายก อบต.จ.หนองบัวลำภู นางวรินทร์ธร สุวรรณพรหม นายก อบต.กุดสะเทียน  นายสัมฤทธิ์ นิลนามะ นายก อบต.เทพคีรี นายธีระพัฒน์ เทพคำ นายก อบต.วังปลาป้อม และนายชยุต สุขบัว นายก อบต.โนนเมือง ใน จ.หนองบัวลำภู ร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือให้กับญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ เป็นจำนวนเงิน 141,000 บาท เมื่อรวมกับที่มอบไปเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 65 จำนวน 100,000 บาท รวมทั้ง 2 ครั้งเป็นเงิน 241,000 บาท โดยมอบให้ญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พร้อมมอบเงินให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ของอบต.อุทัยสวรรค์ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีรองนายก อบต.อุทัยสวรรค์ พร้อมเจ้าหน้าที่และญาติผู้สูญเสียร่วมให้การต้อนรับ

พิธีเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่

เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียม ประจำประเทศไทย ประกาศสถาปนา ดร.ณรงค์ ตนานุวัฒน์ กงสุลกิตติมศักดิ์ และพิธีเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่ อย่างเป็นทางการ

เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565  ที่โรงแรมมีเลีย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นางซีบีย์ เดอ การ์ทีเย ดีฟว์( Ms. Sibille de Cartier d’YVES ) เอกอัครราชทูตราชอาณาเบลเยียม ประจำประเทศไทย กล่าวแสดงความยินดีกับ ดร.ณรงค์ ตนานุวัฒน์ ในโอกาสรับการสถาปนาตำแหน่ง ‘กงสุลกิตติมศักดิ์’ ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่ และพิธีเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่ อย่างเป็นทางการ เขตกงสุล ครอบคลุม 11จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ ลำปาง ลำพูน และตาก

'อรัญญา สุวรรณบุตร' นายกเทศมนตรี เชิญชวนเที่ยวงานประเพณีลอยกระทง 'นฤมิตสายนที' เทศบาลตำบลแพรกษา

นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวแพรกษา และพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ใกล้เคียงร่วมสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีลอยกระทง พร้อมทั้ง เที่ยวชมงานประเพณีลอยกระทง “นฤมิตสายนที” ณ เทศบาลตำบลแพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ในวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 นี้

ซึ่งในปีนี้ ทางเทศบาลตำบลแพรกษา ได้จัดเตรียมสถานที่จำลองในการลอยกระทงไว้บริเวณลานคนเมืองเทศบาลตำบลแพรกษา เพื่อรองรับพี่น้องประชาชนชาวแพรกษาและประชาชนในเขตพื้นที่ใกล้เคียงที่จะเดินทางมาร่วมลอยกระทง 

ประกอบกับ ในปีนี้ทางเทศบาลตำบลแพรกษา ได้จัดให้มีการประกวดนางนพมาศ ชิงเงินรางวัลจำนวน 20,000 บาท แบ่งเป็น
- รางวัลชนะเลิศ เงินสด 20,000 บาท รับสายสะพายพร้อมโล่เกียรติยศ 
- รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินสด 15,000 บาท สายสะพายพร้อมโล่เกียรติยศ
- รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินสด 10,000 บาท สายสะพายพร้อมโล่เกียรติยศ และ รางวัลขวัญใจมหาชน เงินสด 15,000 บาท สายสะพายพร้อมโล่เกียรติยศ 
รางวัลการประกวด กระทงประดิษฐ์
- รางวัลชนะเลิศ เงินสด 10,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินสด 8000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินสด 5000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ
- รางวัลชมเชย 2 รางวัลๆละ 2000 บาท 

สมาคมนักเรียนจีนในไทย ผนึก 'ภาครัฐ-นักวิชาการ' เปิดพื้นที่คนรุ่นใหม่ ถก 'อนาคตความสัมพันธ์ไทย-จีน'

นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดี ๆ ของวงการไทย-จีนที่เกิดขึ้นในไทย หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่ลาย สำหรับโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ TCSA Project 2022 ภายใต้หัวข้อ 'อนาคตความสัมพันธ์ไทย-จีน' ซึ่งจัดโดยสมาคมนักเรียน 

ไทย จีน ภายใต้การสนับสนุนของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และสมาคมนักเรียนจีนในไทย ระหว่างวันที่ 5 - 6 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมบันยันทรี สาธร กรุงเทพฯ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีน ในรูปแบบการทูตภาคประชาชนในระดับคนรุ่นใหม่และนักเรียนนักศึกษา

นอกจากจะมีการให้ความรู้และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนผ่านการเชิญวิทยากรและผู้ทรงคุณวุฒิจากฝั่งไทยและฝั่งจีนมาร่วมบรรยายในงานอย่างคับคั่ง ได้แก่ นางเฝิงจวิ้นอิง ที่ปรึกษาฝ่ายการศึกษาสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ดร.พัชรินรุจา จันทโรนานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระรวงอว. คุณเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

งานนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสและสร้างพื้นที่ใหม่ ๆ ให้กลุ่มเยาวชนชาวไทยและชาวจีนที่มีศักยภาพและมีความคิด สร้างสรรค์จำนวนกว่า 70 คน ได้มาเจอกันและร่วมกันนำเสนอไอเดียส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีนในหลากหลายมิติ และแง่มุม ผ่านกิจกรรมกระชับมิตรและการเวิร์กช็อปแบบกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า การศึกษา การท่องเที่ยว และความเข้าใจระหว่างประชาชนสองประเทศ ตลอดจนการกำจัดอคติทางวัฒนธรรม ฯลฯ

ขณะเดียวกันก็เปิดให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของนักศึกษาจีนที่มาเรียนและทำงานในประเทศไทยและนักศึกษาชาวไทยที่ไปเรียนที่จีน การนำเสนอแนวคิดด้านการตลาด ตลอดจนการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ของสองประเทศ ซึ่งทั้งแปลกใหม่ สร้างสรรค์ และให้แรงบันดาลใจ

ผบ.ตร. วาง 5 มาตรการ เข้มความปลอดภัยลอยกระทง เฝ้าระวังเหตุทะเลาะวิวาท คดีทางเพศ แก็งมิจฉาชีพตะเวนลักทรัพย์ การเล่นดอกไม้เพลิง วอนประชาชนลอยกระทงแบบสร้างสรรค์ สืบสานประเพณีไทย

วันนี้ (7 พ.ย. 65) เวลา 16.30 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. ร่วมกันตรวจความพร้อมและมาตรการรักษาความปลอดภัย     การจัดงานลอยกระทง บริเวณสะพานพระราม 8 และในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 

ผบ.ตร.ได้กล่าวถึงความพร้อมในการดูแลความเรียบร้อยในช่วงเทศกาลลอยกระทง ว่า “ได้สั่งการให้ทุกหน่วย ทุกพื้นที่ ที่มีการจัดงานประเพณีลอยกระทง เพิ่มความเข้มดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจน้ำ กว่า 20,000 นาย ดูแลรักษาความปลอดภัยงานลอยกระทง โดยมีมาตรการสำคัญดังนี้
1) มาตรการป้องกัน ให้สายตรวจเพิ่มความเข้มการออกตรวจตรา ปรากฎกาย สถานที่จัดงาน สถานบริการ สวนสาธารณะ หรือสถานที่ที่ประชาชนนักท่องท่องเที่ยวจะรวมตัวจำนวนมาก เพื่อป้องกันเหตุคดีทะวิวาท คดีชีวิต ร่างกาย เพศและทรัพย์สิน ในส่วนของตำรวจน้ำ ให้จัดเรือพร้อมเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราตามบริเวณลำน้ำ เพื่อป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทางน้ำ รวมถึงประชาสัมพันธ์ไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวลงไปบริเวณท่าเทียบเรือ หรือโป๊ะ เกินจำนวนที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ 
2) มาตรการจราจรจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรในการเดินทางเข้าออกพื้นที่จัดงาน และทำแผนที่เส้นทางหลัก ทางเลี่ยงให้ประชาชนทราบก่อนการจัดงาน 
3) มาตรการปราบปรามให้กวดขันจับกุมผู้เล่นดอกไม้เพลิง พลุ และประทัด ในลักษณะก่อความเดือดร้อนรำคาญ น่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายประชาชน กรณีเป็นผู้กระทำผิดเป็นเด็ก ให้นำ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เพื่อให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบ รวมทั้งร่วมกับฝ่ายปกครองกวดขันควบคุมผู้ผลิตจำหน่ายดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด หากพบว่าลักลอบทำผิดกฎหมายให้จับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
4) มาตรการรักษาความปลอดภัย ให้มีการหาข่าวป้องกันข้อมูลของกลุ่มมิจฉาชีพที่จะเข้ามาฉกฉวยโอกาสก่อเหตุ แก็งต้มตุ๋นมิจฉาชีพ อาชญากรรมความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ คดีอนาจาร รวมทั้งออกแผนตรวจในการดูแลความเรียบร้อยของพื้นที่จัดงาน ในส่วนของสถานที่จัดขนาดใหญ่ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.สน.) เพื่อควบคุมดูแลภาพรวมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 
5) มาตรการประชาสัมพันธ์ ให้ทุกหน่วยทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน  ผู้ประกอบการ สถานบริการในการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะการเล่นพลุ ดอกไม้เพลิง การปล่อยโคมลอย บนท้องฟ้าฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่27/2559  รวมทั้งการขอความร่วมมือให้ช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งเหตุต่าง ๆ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับลงควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการอำนวยความสะดวกและดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง 

ผบ.ตร.กล่าวเพิ่มเติมว่า  “ได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน และ นักท่องเที่ยว ด้วยความสุภาพและเหมาะสม ตามหลักยุทธวิธี ในช่วงเทศกาลลอยกระทง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ นำทีมรวบตัวผู้ต้องหาแก๊งโม่งลิง อ้วนผอม ตระเวนลักทรัพย์ทั่วประเทศ พร้อมขยายผลสืบทรัพย์ ส่งมอบคืนให้ผู้เสียหาย

จากกรณีในห้วงระหว่างปี พ.ศ.2559 - พ.ศ.2565 ได้มีแก๊งคนร้าย จำนวน 3-4 คน ร่วมกันก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์เจาะตู้เซฟ โดยคนร้ายแต่งกายสวมหมวกโม่งลิง ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงายาว ใส่ถุงมือยาว สวมรองเท้าสตั๊ดดอยสีดำ สะพายเป้สีดำ มีแชลงเหล็กยาว โดยก่อเหตุในพื้นที่ของ ภ.1 จำนวน 1 คดี พื้นที่ ภ.5 จำนวน 8 คดี ภ.7 จำนวน 1 คดี และพื้นที่ ภ.9 จำนวน 12 คดี รวม 22 คดี  

กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล  รอง ผบ.ตร. เร่งดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้โดยด่วน เนื่องจากกลุ่มคนร้ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ที่อุกอาจ ก่อเหตุอย่างต่อเนื่องไม่เกรงกลัวกฎหมาย สร้างความหวาดกลัวให้พี่น้องประชาชน และสร้างความเสียหายในภาพรวม เป็นมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท และได้ออกคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 406/2565 ลงวันที่ 8 ก.ย. 65 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและประสานข้อมูลและการปฏิบัติจากหลายท้องที่ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายดังกล่าวอย่างเร่งด่วนเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และเร่งติดตามทรัพย์สินที่ถูกลักเอาไปกลับคืนมาโดยเร็ว

ซึ่งต่อมา บก.สส.ภ.9 พร้อมด้วย กก.สส.ภ.จว.สงขลา และ กก.สส.ภ.จว.สตูล ได้ทำการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีจำนวน 4 คน คือ 
1. นายวสันต์ อายุ 39 ปี อยู่ที่ 16 ม.2 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา
2. นายสมพร อายุ 44 ปี อยู่ที่ 241 ม.11 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล 
3. นายเกษม อายุ 49 ปี อยู่ที่ 115/1 ม.3 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา 
4. นายเรืองศักดิ์ อายุ 41 ปี อยู่ที่ 64 ซ.21 ถ.แกรนด์วิลล่า 3 ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา   (ภูมิลำเนาเดิม จว.เชียงราย)

โดยคนร้ายมีพฤติการณ์ในการก่อเหตุกล่าวคือจะขับรถยนต์ตระเวนหาเป้าหมายในการก่อเหตุที่เป็นร้านค้า สถานประกอบการ สหกรณ์การเกษตร ปั๊มน้ำมัน ร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีตู้นิรภัย ที่ตั้งอยู่ติดกับป่าละเมาะ หรืออยู่ห่างไกลจากบ้านเรือนหรือชุมชน เมื่อสบโอกาส ก็จะแต่งกายคล้ายการสวมชุด PPE สวมหมวกโม่งลิง สะพายเป้สีดำ ใช้ไขควงยาวในการงัดแงะเข้าไปในตัวอาคารแล้วเข้าไปลักเอาทรัพย์สิน โดยใช้ชะแลงเหล็กหรือเครื่องเจียรเหล็กเจาะทำลายตู้นิรภัย หรือยกเอาตู้นิรภัย หรือจะนำเซิร์ฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดไปด้วย โดยตระเวนก่อเหตุลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่  จากภาคใต้-ภาคเหนือ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ยกแก๊ง สอบถามผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การรับสารภาพว่าเป็นก่อเหตุ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้าหรือจำหน้าได้ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป,โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป”

พร้อมตรวจยึดสิ่งของที่ใช้ในการกระทำผิดจำนวนหลายรายการ อาทิ รถยนต์ เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ

'อลงกรณ์' เผย กรกอ. มีมติเห็นชอบโครงการ 'เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์' เขตอุตสาหกรรมเกษตรใหญ่ที่สุดของประเทศ พร้อมสนับสนุนโครงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมอาหารภาคกลางตอนล่างของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี 

สภาอุตสาหกรรมภาคกลางเตรียมเชิญ 'เกรียงไกร เธียรนุกุล' ประธานสอท. ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลย์ 24พ.ย. นี้

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) เป็นประธานการประชุมครั้งที่ 4/2565 ผ่านระบบประชุมทางไกล Zoom Meeting วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2565) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสุรชัย โสตถีวรกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง นายสาโรจน์ วสุวานิช ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ทันตแพทย์สุพจน์ หวังปรีดาเลิศกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคเหนือ นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายนิติธร กฤตสิน กรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

โดยมี นางสาวพรชาตา บุสสุวัณโณ ผู้อำนวยการส่วนแผนพัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านการเกษตร ทำหน้าที่เลขานุการฯ การประชุม นายอลงกรณ์เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ที่ประชุม 'กรกอ.'ในวาระเพื่อพิจารณาได้มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบโครงการ เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ (Phetchaburi Food Valley ) นำเสนอโดยนายมานพ โตการค้า ผู้บริหารโครงการตั้งอยู่ในอำเภอแก่งกระจาน และอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ในพื้นที่ที่มีศักยภาพทั้งทางด้านคมนาคม การสื่อสาร ไฟฟ้า และน้ำ โดยพื้นที่ดังกล่าว เคยเป็นโครงการสร้างเมืองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวบริการ ปัจจุบันได้ปรับพื้นที่เป็นโครงการอุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่ ที่ได้มีการจัดสรรพื้นที่ตามศักยภาพ และเป็นไปตามกฎหมายผังเมือง ประกอบด้วย 

 

1. ศูนย์แสดงนวัตกรรมการเกษตร 70 ไร่ หน้าพื้นที่โครงการ จะเป็นศูนย์เรียนรู้นวัตกรรมการเกษตร และการเจรจาธุรกิจ ห้องประชุม และศูนย์วิจัยเทคโนโลยี PlatForm การเกษตร ก่อสร้างคืบหน้า 50%
2. แปลงปลูกข้าวโพด และหญ้าเนเปียร์ 12,000 ไร่ ในพื้นที่อำเภอแก่งกระจาน ปัจจุบันปลูกข้าวโพดและหญ้าเนเปียร์แล้ว 5,000 ไร่ เพื่อผลิตอาหารสัตว์ที่มีราคาถูก

3. คอกโคกลาง 1,600 ไร่ ในพื้นที่อำเภอแก่งกระจาน เป็นคอกมาตรฐานที่มีการใช้ร่ววมกัน มีน้ำสะอาด อาหารราคาถูก และการดูแลรักษาได้มาตรฐานลดต้นทุนการผลิต โดยจังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดที่เลี้ยงโคส่งขายปีละกว่า140,000- 150,000 ตัว
4. ฟาร์มกุ้งระบบปิด 2,000 ไร่ ในพื้นที่ตำบลท่าไม้รวกและตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายาง ซึ่งได้รับอนุญาตจากประมงแล้ว โดยจะมีการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการช่วยให้สามารถเพิ่มผลิตภาพการผลิตกุ้งอย่างมีคุณภาพ
5. โรงงานแปรรูป 1,000 ไร่ ในพื้นที่ตำบลไม้รวก อำเภอท่ายาง เป็นโซนพื้นที่รองรับการตั้งโรงงานแปรรูปผลผลิตการเกษตร ซึ่งมีความพร้อมทั้งถนนคอนกรีต น้ำประปา แหล่งน้ำขนาดใหญ่ ไฟฟ้าแรงสูง รวมถึง Internet
6. โซล่าฟาร์ม 4,000 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เหมาะสมสำหรับผลิตโซล่าฟาร์ม มีสายส่งขนาด 115KV ผ่าน ปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการแล้ว 900 ไร่ โดยบริษัทด้านโซล่าฟาร์มชั้นนำของประเทศ

ในการนี้ ประธานฯ ได้ให้ผู้บริหารโครงการพิจารณาจัดทำฮาลาลฟู้ดวัลเลยฺ( Halal Food Valley )ในพื้นที่โครงการด้วย จัดว่าเป็นเขตอุตสาหกรรมเกษตรใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ทั้งนี้โครงการ เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเรือธง (Flagship Project) ของคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในกลุ่มจังหวัดเพชรสมุทรคีรี (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงครามและสมุทรสาคร) โดยมีศูนย์ AIC เพชรบุรีคือมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีให้การสนับสนุน และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก (Western Economic Corridor: WEC) ตามนโยบายรัฐบาลนับเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบริหารงานใหม่แบบใหม่ นำไปสู่เกษตรมูลค่าสูง ด้วยเทคโนโลยีของไทย ครอบคลุมทั้งพืช ประมง และปศุสัตว์โดยใช้เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมเมดอินไทยแลนด์เป็นฐานสำคัญ

นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบสนับสนุนโครงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมภาคกลางตอนล่างของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่เกื้อหนุนโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ด้วย
โดยนายสุรชัยโสตถีวรกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลางและประธานกรกอ.ภาคกลางเตรียมเชิญนายเกรียงไกร เธียรนุกุลประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลย์ในวันที่ 24พ.ย. นี้ด้วย

นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระดับภาคได้แก่
1. คณะอนุกรรมการ”กรกอ.ภาคเหนือ )ได้จัดทำแนวทางการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารภาคเหนือ ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566 – 2570) โดยเพิ่มเติมพืชที่มีศักยภาพที่จะผลักดัน เข้าสู่โครงการเกษตรแม่นยำสู่ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม 5 ล้านไร่ คือ ข้าวโพด ชา กาแฟ กล้วยหอมทอง และพืชสมุนไพร  นอกเหนือจาก อ้อย และข้าวโพดหวานที่ดำเนินการอยู่แล้ว 
2. คณะอนุกรรมการ”กรกอ.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”ได้เข้าพบประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นายสมยศ ชาญจึงถาวร) ซึ่งประธานฯ พร้อมให้การสนับสนุน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนงานเชิงประจักษ์ตามแผนความร่วมมือระหว่าง กษ. และ ส.อ.ท. และขอให้มีการดำเนินการตามโครงการพัฒนาเกษตรแม่นยำสู่ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม 2 ล้านไร่ ในระยะที่ 2 ต่อไป และรับทราบผลการจัดทำแผนขับเคลื่อนการบริหารจัดการสินค้าเกษตรที่สำคัญในระดับพื้นที่ (5 กลุ่มจังหวัด) โดยมีสินค้าสำคัญ คือ มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา และโคเนื้อ ซึ่งจะนำมาเข้าเวทีเพื่อขับเคลื่อนและจัดทำแผนร่วมกันว่า สินค้าดังกล่าวมีความโดดเด่นเพียงใด โดยประธานฯ ได้มอบหมายให้ทุกคณะอนุกรรมการฯ ในแต่ละภาค เชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ( NABC )ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมถึงเชื่อมโยงกับศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม( AIC )ในเรื่อง รายการนวัตกรรม(Innovation Catalog )ที่มีเกือบ800นวัตกรรมโดยให้ฝ่ายเลขาฯ ภาค ประสานศูนย์ AIC ในการเข้าร่วมประชุม เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์ต่อการพัฒนาในโครงการต่าง  ๆ
3. คณะอนุกรรมการฯ ภาคกลาง รายงานความก้าวหน้าโครงการการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำและการเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลาสวยงามในการส่งออกต่างประเทศ (Aqua Feed & Ornamental Freshwater Fish Industry : AFOF) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดของโรค Covid-19 ในเขตภาคกลางตอนล่าง 1 ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ มหาวิทยาลัยมหิดล ศูนย์ AIC สภาอุตสาหกรรมฯ ระดับภาค โดยได้จัดทำข้อเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 135 ล้านบาท

คึกคัก อลังการ!! พิธีแห่กฐินวัดบัวโรย บางเสาธง พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมในพิธี

ที่วัดบัวโรย ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ท่านพระครูปลัดวิสุทธิ์ นริสฺสโร เจ้าอาวาสวัดบัวโรย ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย คณะพระภิกษุสงฆ์วัดบัวโรย คณะกรรมการไวยาวัจกร และอุบาสก อุบาสิกา ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาววัดบัวโรย ได้จัดพิธีทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565 ณ วัดบัวโรย ต.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

โดย พิธีทอดผ้ากฐินสามัคคี ของทางวัดบัวโรยในปีนี้ มีประชาชนผู้ใจบุญร่วมเป็นประธานอุปถัมภ์ร่วมทอดกฐินสามัคคีถวายแด่ทางวัดบัวโรย ประจำปี 2565 อาทิ คุณทวีศักดิ์ คุณพงศกร คุณชลิต คุณชลัต พร้อมครอบครัวดีดอกไม้ ผู้ใหญ่วิหาร นัยปภรณ์ ไวกุลเพชร ผช.สุรชาติ ม่วงใหญ่ คุณภาวิณี จีรกมล คุณอ๋อย คุณรุ่ง ปลาอ๊อก คุณประสิทธิ์ คุณนิลฉวี กระสายเงิน คุณแม่เจียร ศรีสมโภชน์ คุณสมนึก น่วมวิจิตร และ คุณมะลิ พิณเที่ยง ร่วมเป็นประธานอุปถัมภ์ ทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565

นอกจากนี้ ทางคณะศิษยานุศิษย์ และประชาชนจำนวนมากได้ร่วมกันจัดโรงทาน จำนวนกว่า 30 โรงทาน อีกทั้ง พิธีทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565 นี้ มีพุทธศาสนิกชนและประชาชนจำนวนมากต่างเดินทางมาร่วมในพิธีทำบุญทอดกฐินกันอย่างเนืองแน่น โดย กฐินสามัคคีของทางวัดบัวโรย ในปีนี้ ยอดเงินทั้งหมดที่ได้จากการทอดกฐินสามัคคี ทางวัดบัวโรยจะนำไปซื้อที่ดิน จำนวน 9 ไร่ และบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถวัดบัวโรย ซึ่งยอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565 มียอดเงินที่ได้จากการร่วมทำบุญ จำนวนร่วม 3 ล้านบาท

'นายก' เตือน!! ลอยกระทง ขอให้ระมัดระวังอุบัติเหตุ และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ย้ำ!! อย่าให้กระทบกับแหล่งน้ำธรรมชาติ

ลอยกระทง ขอให้ระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุ และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม อย่าให้กระทบกับแหล่งน้ำธรรมชาติ

พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  
นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม  
กล่าวเมื่อวันที่ 7 พ.ย.65

นายกรัฐมนตรี ย้ำ เทศกาลลอยกระทงต้องปลอดภัย และรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมระบุห่วงปัญหาอุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ เร่งเยียวยา หลังภาคเหนือ -อีสาน -กลาง  น้ำลด  ขอขอบคุณเอกชน- ประชาสังคม  บริจาคผ่อนคลายความเดือดร้อน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top