Sunday, 28 April 2024
NEWS

'บรูไน' โหด!! พิพากษาหนุ่ม 24 ปล้นชิงทรัพย์ ส่งเข้ากรง 7 ปี พร้อมโบยหนัก 12 ไม้

ไม่นานมานี้ คนไทยผู้พำนักอาศัยอยู่ในประเทศบรูไน ได้โพสต์บทลงโทษของผู้ทำผิดในบรูไนผ่านเฟซบุ๊ก Nina Nutthinee ไว้ว่า... 

ได้รับโทษโบยหนักที่สุดตั้งแต่เคยอ่านข่าวมา

วัยรุ่นชายชาวบรูไนอายุ 24 ปี 2 คน ได้ถือมีดทำครัวเข้าไปจี้พนักงานร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่งเวลาตี 3 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 

เขาได้เงินสดไป $400 (×24บาท) โทรศัพท์ 1 เครื่อง  

ไม่กี่วันต่อมาทางตำรวจจับตัวได้ และได้ส่งตัวขึ้นศาลเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.64)

ศาลตัดสินลงโทษจำคุก 7 ปี และ โบย 12 ไม้ (น่าจะทยอยโบย เพราะถ้าโบยติดต่อกันอาจตายได้ เพราะไม้ใหญ่เท่าไม้พายเรือ)

คนบรูไนเค้าบอกเมื่อก่อนเวลาโบย จะถ่ายทอดให้คนดูด้วย แต่ตอนหลังเลิกไป เพราะฝรั่งมันสาระแนกันเยอะ บอกว่าป่าเถื่อน!! 

‘ทิพานัน’ วอนโรงแรมอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคา โครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน เฟส3’ ได้ไม่คุ้มเสีย คาดโทษขึ้นแบล็กลิสต์ หวั่นกระทบแผนฟื้นฟูท่องเที่ยว ย้ำรัฐบาลติดตามตรวจสอบโครงการตลอด แนะช่องทางประชาชนร้องเรียนผ่านเว็บไซต์-โทรศัพท์

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ได้เปิดให้ประชาชนจองที่พักโรงแรมได้เป็นวันแรก เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน เร่งการฟื้นตัวการท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พัก 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องหรือต่อคืนนั้น ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก และมีประชาชนพบว่ามีการขึ้นราคาของโรงแรมมากกว่าราคาปกติ

'พิธา' แนะ!! รับมือโลกร้อนต้องเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง ปรับพฤติกรรมอย่างเดียว ไม่พอ!!

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า... 

เศรษฐกิจสีเขียว: การรับมือสภาวะโลกร้อนต้องใช้การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเท่านั้น

ตลอด 2 ปีกว่าที่ผ่านมาที่ผมได้ทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผมได้เห็นกับตาตัวเองถึงผลกระทบของความผันผวนในสภาพภูมิอากาศต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนในภาคการเกษตร และพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม 

ปี 2563 เป็นปีที่แล้งที่สุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรติดลบ 6% และ GDP ภาคเกษตรติดลบ 1.5% ในปี 2564 ที่จังหวัดชัยภูมิซึ่งผมเดินทางไปเมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา เพิ่งประสบภัยน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 50 ปี เหตุการณ์น้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเป็นปัญหาในระดับโลก เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมายุโรปก็เพิ่งเผชิญกับน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 400 ปี และในเดือนกันยายนที่ผ่านมานครนิวยอร์กก็เพิ่งเผชิญกับวิกฤติน้ำท่วมฉับพลันครั้งแรกในประวัติศาสตร์

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมาในช่วงระหว่างที่ผมกำลังเดินทางลงพื้นที่ติดตามปัญหา ที่ดิน การเกษตร และน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ผมได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการประชุมในหัวข้อ Green Economic Recovery หรือการพลิกฟื้นและพัฒนาเศรษฐกิจที่อยู่บนหลักการความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจัดโดยกลุ่มสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน (APHR - ASEAN Parliamentarians for Human Rights)

ผมได้ย้ำต่อที่ประชุมว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิดบนฐานของเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เป็นเรื่องที่จำเป็นต่อความอยู่รอดทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ยกตัวอย่างกรณีของประเทศไทยในปี 2563 GDP ของเราติดลบจากโควิด 6% แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรกับภาวะโลกร้อน วิกฤติเศรษฐกิจที่จะตามมาจะเลวร้ายกว่าในปัจจุบันอีกมาก 

จากการประเมินของบริษัท Swiss Reinsurance Company บริษัทประกันภัยต่อที่ใหญ่ที่สุดในโลก การปล่อยให้โลกร้อนขึ้นบนเส้นทางของการร้อนขึ้น 3.2 องศาเซลเซียสในปี 2643 GDP ของประเทศไทยจะติดลบสะสม 48% ในปี พ.ศ. 2591 ซึ่งจะเป็นความพังพินาศทางเศรษฐกิจที่มากมายมหาศาลกว่าวิกฤติโควิดมาก แต่ถ้าโลกสามารถจำกัดภาวะโลกร้อนได้ต่ำกว่า 2 องศาตามเป้าหมายของ Paris Agreement แล้ว GDP ของไทยจะติดลบสะสมจากโลกร้อนเพียง 5% ในปี พ.ศ. 2591

แล้วในตอนนี้ประเทศไทยอยู่บนเส้นทางไหนในการรับมือภาวะโลกร้อน? จากการประเมินของ Climate Action Tracker ซึ่งเป็น Consortium ระหว่าง 3 สถาบันวิจัยระดับโลกด้านภูมิอากาศนั้น นโยบายของประเทศไทยในด้านภาวะโลกร้อนอยู่ในระดับ “ไม่เพียงพออย่างร้ายแรง” (Critically insufficient) และจะทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นในระดับ 4 องศา 

ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือวิกฤติโควิดในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพออย่างยิ่งต่อการรับมือกับสภาวะโลกร้อน การล็อกดาวน์จากโควิดนับได้ว่าเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนอย่างสุดขั้วให้คนเดินทางไปไหนไม่ได้เลยแล้วก็เป็นการลดการบริโภคของประชาชนจน GDP โลกตกอย่างมหาศาล ถึงกระนั้นทั้งโลกก็ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เพียง 6% เท่านั้นจากวิกฤติโควิด

การจะทำได้ตามเป้าหมายของ Paris Agreement ที่จำกัดสภาวะโลกร้อนไว้ที่ 1.5 - 2 องศา นั้น ทั้งโลกต้องลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้ครึ่งหนึ่งในปี 2573 และลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิจากระบบเศรษฐกิจให้เหลือศูนย์ หรือเป้าหมาย “Net-Zero Emission” ให้ได้ภายในปี 2593 

สิ้นแล้ว!! 'กอริลลาจอมเซลฟี่' แห่งวิรุงกา จนท.เผยภาพเซลฟี่สุดท้ายในอ้อมแขน

เมื่อ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางอุทยานแห่งชาติวิรุงกาวันได้แถลงข่าวการเสียชีวิตของลิงกอริลลาภูเขาจอมเซลฟีเพศเมียที่โด่งดัง 'นดาคาซี' (Ndakasi) ที่มีอายุ 14 ปีพร้อมกับเปิดเผยภาพเซลฟีสุดท้ายระหว่างอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าหน้าที่อุทยานที่เคยช่วยไว้ตั้งแต่เด็กไม่กี่วันก่อนเสียชีวิต

(7 ต.ค. 64) บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานว่า ลิงกอริลลาภูเขาเพศเมียจอมเซลฟี่ชื่อดังประจำอุทยานแห่งชาติวิรุงกาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เสียชีวิตในเดือนที่ผ่านมาเมื่อมีอายุ 14 ปี

กอริลลา 'นดาคาซี' (Ndakasi) กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเมื่อปี 2019 หลังจากกอริลลายักษ์เพศเมียตัวนี้และเพื่อนกอริลลาตัวเมียอีกตัวคือ 'นเดเซ' (Ndeze) ได้แอบขโมยซีนทำท่าทางเลียนแบบล้อเลียนเจ้าหน้าที่อุทยานระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังถ่ายเซลฟีอยู่ในเวลานั้น โดยมีอังเดร เบามา (Andre Bauma) ซึ่งเป็นผู้ดูแลเธอและช่วยชีวิตเธอเมื่อครั้งเป็นลูกกำพร้า

เจ้าหน้าที่อุทยานวิรุงกากล่าวว่า ลิงกอริลลาเหล่านี้พยายามที่จะเลียนแบบท่าทางของบรรดาเจ้าหน้าที่อุทยานที่เลี้ยงดูพวกมันมา

สื่ออังกฤษชี้ว่า นดาคาซีถูกช่วยโดยเบามาไว้ได้เมื่อเธอมีอายุเพียงแค่ 2 เดือนหลังนักล่าได้สังหารพ่อและแม่เธอในป่าฝนเมื่อปี 2007 และเบามาตัดสินใจนำตัวกอริลลานดาคาซีมาที่ศูนย์เลี้ยงดูแลสัตว์ป่ากำพร้าที่เขาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการเพราะคิดว่าเธอคงไม่สามารถมีชีวิตรอดตามลำพังในป่าได้เพราะไม่มีญาติหลงเหลือ

โดยในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่อุทยานพบตัวนดาคาซีพบว่าเธอยังคงพยายามอยู่ใกล้กับแม่ที่เสียชีวิต

'ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า' หนุน 'รมว. ดีอีเอส' คุมบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมายชี้ข้ออ้างเอ็นจีโอสายสุขภาพ สวนความจริง 79 ประเทศทั่วโลก

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าและไอคอส โต้กลุ่มรณรงค์ต่อต้านยาสูบ ชี้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย 79 ประเทศ พร้อมสนับสนุน รมว. ชัยวุฒิ หนุนศึกษาบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ชี้การแบนล้มเหลว เพราะคนใช้บุหรี่ไฟฟ้าเกลื่อนประเทศกว่า 2 ล้าน ทั้งในสภาและครม. ซื้อขายเกลื่อนกลาดออนไลน์ แต่รัฐเก็บภาษีไม่ได้ งานเข้ากระทรวงดีอีเอสไล่ปิดเว็บไซต์แก้ปัญหาปลายเหตุ

จากกรณีที่สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ เครือข่ายสุขภาพ และแพทยสมาคมฯ ออกแถลงการณ์แสดงความขอบคุณรัฐบาลที่ยังคงนโยบายห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าและยาสูบชนิดใหม่ๆ โดยอ้างว่าไทยยังไม่พร้อมเพราะเป็นประเทศรายได้ระดับต่ำหรือปานกลาง และยังระบุถึงอันตรายต่างๆ นั้น

นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า แอดมินเพจเฟซบุ๊ก “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คนเผยว่า “พฤติกรรมผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปแล้ว ทุกคนต่างมองหาวิธีลดอันตรายให้ตัวเอง การห้ามนำเข้าห้ามขายนั้นไม่ได้ผลและไม่อยู่บนโลกของความเป็นจริง ในขณะที่ 79 ประเทศทั่วโลกมีการอนุญาตให้บุหรี่ไฟฟ้าควบคุมได้อย่างถูกกฎหมาย กำหนดอายุขั้นต่ำผู้ซื้อเพื่อปกป้องเยาวชน สร้างมาตรฐานความปลอดภัย เก็บภาษีสรรพสามิตเข้ารัฐได้ แต่ประเทศไทยยังคงอ้างผิด ๆ เรื่องความเข้มข้นนิโคตินและการเสพติด สวนทางกับหน่วยงานสาธารณสุขชั้นนำในต่างประเทศจำนวนมาก เช่นราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งลอนดอน องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา กระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ หรือแม้กระทั่งองค์การอนามัยโลกสำนักงานภาคพื้นยุโรป ที่ต่างก็ยืนยันว่าหากเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยลดการได้รับสารพิษได้มากกว่าการสูบบุหรี่ หากผู้สูบบุหรี่ไม่มีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่วันนี้รู้แล้วว่าอันตรายน้อยกว่า เหมือนบังคับให้คนไทยยังต้องตายจากบุหรี่มวนปีละกว่า 70,000 คนเหมือนทุกวันนี้”   

ด้านนายสาริษฎ์ สิทธิเสรีชน แอดมินเพจเฟซบุ๊ก “มนุษย์ควัน” ซึ่งมีผู้ติดตามเกือบ 30,000 คน แกนนำกลุ่มผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทให้ความร้อน หรือ “ไอคอส” ระบุว่า “เราไม่ได้สนับสนุนให้คนสูบบุหรี่ แต่เราคิดว่าคนที่สูบบุหรี่อยู่แล้วควรมีทางเลือกเช่นเดียวกับในอีก 67 ประเทศทั่วโลกที่ไอคอส ถูกกฎหมาย และมีหน่วยงาน อย. สหรัฐที่อนุญาตให้ขายและสื่อสารได้ว่ามีสารพิษน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดาอย่างมีนัยสำคัญ ไม่เข้าใจว่า ทำไมกลุ่มสมาพันธ์สุขภาพถึงคิดว่ารัฐบาลของประเทศอื่นๆ เค้าโง่กว่า หรือประสงค์ร้ายกับประชากรของตนเองหรืออย่างไร ทำไม ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐฯ สหภาพยุโรป หรือแม้แต่มาเลเซียเพื่อนบ้านเรา เค้าอนุญาตให้ขายได้ ไทยไม่ใช่ประเทศเดียวในโลกที่มีเด็กและเยาวชน ผมจึงสนับสนุนที่ รมว. ดีอีเอส เสนอให้ทำการศึกษาเพื่อควบคุมให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้เปิดเสรี แทนที่ดีอีเอสจะต้องมานั่งไล่ปิดเว็บไซต์ขายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์  ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ“

โดยก่อนหน้านี้ มี ส.ส. จากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล รวมถึงเพจดังจำนวนมาก ตบเท้าร่วมสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีการเห็นชอบการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ และอนุมัติจ่ายเงินชดเชยให้กับชาวไร่ยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดโควต้าการรับซื้อของการยาสูบแห่งประเทศไทย ในช่วงเวลาที่ผ่านมา จนทำให้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ออกมาสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่อันตรายน้อยกว่าบุหรี่จริง ประเทศใหญ่ๆ ยอมรับกันแล้ว และจะสร้างประโยชน์ต่อทั้งผู้สูบบุหรี่ในประเทศไทยประมาณ 10 ล้านคนและเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ 30,000 ครอบครัว หากการยาสูบแห่งประเทศไทยหันมาผลิตผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ เหล่านี้ 

ส่องเล่ห์มะกัน!! ใต้ข้อพิพาท ‘ไต้หวัน - จีน’ ผ่านเหลี่ยมการเมืองของ ‘โจ ไบเดน’

มีอะไรน่าสนใจ ภายหลังจาก โจ ไบเดน ได้กลับมาพูดคุยกับ สี จิ้นผิง ผ่านทางออนไลน์อีกครั้งเมื่อวันอังคารที่ 5 ตุลาคม 2021 จากก่อนหน้านี้ที่เคยต่อสายตรงไปคุยกันแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งทางโจ ไบเดน ก็ได้ออกมายืนยันเองว่า ได้พูดคุยกับจีนเกี่ยวกับข้อพิพาทในไต้หวันที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวทำเนียบขาวกลับมองว่า ประเด็นที่ทั้ง 2 ผู้นำคุยกันครั้งล่าสุดนี้ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากครั้งที่แล้วมากนัก ซึ่งสอดคล้องกันกับแหล่งข่าวจีนที่ยืนยันว่าไม่มีอะไรมากกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความไม่มีอะไร กลับมีเรื่องสะกิดใจจากถ้อยแถลงของ โจ ไบเดน ที่เอ่ยผ่านสื่อหลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้นำจีนครั้งล่าสุดนี้ว่า...

“ผมกับสี เราคุยกันเรื่องไต้หวัน และเราตกลงกันว่าจะยังคงรักษาข้อตกลงไต้หวันกันอยู่ และทางจีนก็จะไม่ทำอะไรที่เกินเลยไปกว่าที่ได้ระบุใน >> ข้อตกลงนี้”

อะไรคือ ‘ข้อตกลงนี้’ ที่โจ ไบเดน อ้างถึง และจีนต้องทำตามอะไร? นี่คือเรื่องจะมาขยายปมกัน!!

ข้อตกลงที่ว่านี้ มีอยู่ 2 ฉบับ ซึ่งเป็นการตกลงกันมาตั้งแต่ปี 1979 หลังจากสหรัฐฯ ได้รับรองสถานะของรัฐบาลจีนปักกิ่ง ตอนที่ เติ้ง เสี่ยวผิง ได้เยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ โดยขณะนั้น เติ้ง ดำรงตำแหน่งรองผู้นำสูงสุดของจีน และนับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำทั้ง 2 ประเทศมีการสานสัมพันธ์ไมตรีกันอีกครั้ง ตั้งแต่จีนแผ่นดินใหญ่เปลี่ยนผ่านสู่การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 1949 

ผลจากการเยือนสหรัฐฯ ของเติ้ง เสี่ยวผิง ในครั้งนั้น ได้บรรลุข้อตกลงในเรื่องนโยบายจีนเดียวของจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ทำให้สหรัฐฯ จำเป็นต้องตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน ด้วยการถอนสถานทูตสหรัฐฯ ออกจากกรุงไทเป มาเปิดใหม่ที่ปักกิ่ง และถือว่ากิจการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไต้หวัน เป็นส่วนหนึ่งของจีนและต้องคุยผ่านปักกิ่ง ซึ่งเท่ากับว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้รับรองไปแล้วว่า >> ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน 

แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนของข้อตกลงนี้ นั่นก็คือ >> จีนจะต้องให้การสนับสนุนสหรัฐฯ ร่วมต้านกองทัพโซเวียตในสงครามโซเวียต-อัฟกานิสถาน ที่สหรัฐฯ ถือว่าเป็นศัตรูอันดับ 1 ในยุคสงครามเย็น เพื่อกันไม่ให้โซเวียตสามารถแผ่อิทธิพลในดินแดนเอเชียตะวันออกกลางได้ 

คนไทยฉีด AZ, ไฟเซอร์, โมเดอร์น่า, J&J เข้าประเทศอังกฤษได้แล้ว 11 ต.ค.นี้

เฟซบุ๊กเพจ ‘Amthaipaper (หนังสือพิมพ์ไทยในอังกฤษ)’ ได้เปิดเผยข่าวดีของคนไทยที่จะไปยังประเทศอังกฤษ ว่า... 

ขอแสดงความยินดีกับ #Thailand แดนสยาม ที่กำลังจะได้ออกจากบัญชีแดงของอังกฤษ ในวันที่ 11 ตุลาคมนี้
โดยอังกฤษจะยอมรับการฉีดวัคซีน AZ, ไฟเซอร์, โมเดอร์น่า, จอห์นสัน & จอห์นสัน (J&J) จากประเทศไทย 

หมายความว่า อังกฤษจะยอมรับการฉีดวัคซีนจากประเทศไทย พร้อมกับให้ ประเทศไทย ออกจาก List แดงตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคมนี้ โดยผู้เดินทางมาจากประเทศไทย ที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็ม จะสามารถเข้าสหราชอาณาจักรได้ แบบไม่ต้องกักตัว 

#ขอแสดงความยินดี
#วีซ่านักท่องเที่ยว
#ก็มาได้แล้ว

*** ทั้งนี้ วัคซีนที่ยอมรับมีเพียง AZ, ไฟเซอร์, โมเดอร์น่า, จอห์นสัน & จอห์นสัน (J&J) ครบสองเข็มเท่านั้น (ฉีดสลับกันได้ภายในวัคซีนที่ระบุนี้) ต้องฉีดครบ 2 เข็มตาม List ก่อน 14 วันที่จะเดินทาง

>> หากฉีดวัคซีนอื่น หรือฉีดเพียง 1 เข็ม จาก List ที่อังกฤษยอมรับ จะถือว่ายังไม่ได้ฉีด!!

และผู้ที่ฉีดไม่ครบ ต้องทำตามกฎสีอำพันเดิม คือ กักตัวที่บ้าน 10 วัน (Day2 & Day8 COVID Tests) หรือ กักตัวแบบเร่งรัดที่บ้าน 5 วัน (Test to release)

>> ก่อนเดินทางต้อง:
▶️ตรวจโควิดก่อนขึ้นเครื่องบิน 72 ชม.
▶️กรอกใบ Passenger locator
???????? https://www.gov.uk/provide-journey-contact-details-before-travel-uk
▶️จองที่ตรวจโควิดตามรายชื่อบริษัทที่รัฐบาลอังกฤษกำหนด
????????https://www.gov.uk/find-travel-test-provider
รายละเอียดเพิ่มเติม ตามที่แอมไทยเคยโพสต์ข้อปฏิบัติก่อนเดินทางมายังสหราชอาณาจักร จากลิสต์สีอำพัน????ตามลิงก์ ????????
https://www.facebook.com/178210772217942/posts/4391072974265013/?d=n

หมายเหตุ เมื่อเดินทางมาถึงประเทศอังกฤษ ผู้ที่ฉีดสองเข็มครบ ตามลิสต์วัคซีนที่อังกฤษยอมรับ จะไม่ต้องกักตัวตามกฎบัญชีเขียว???? (Green List) (อังกฤษยกเลิกบัญชีสีอำพัน Amber list)

“สัณหพจน์” ขอบคุณ นายกฯ สั่งเร่งแก้น้ำท่วม-เพิ่มศูนย์ดิจิทัลชุมชน เมืองคอน

ส.ส.พปชร. นครศรีฯ ขอบคุณ “บิ๊กตู่” ลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดการก่อสร้างโครงการบริหารจัดการน้ำเมืองนคร สั่งการดูแลพื้นที่เสี่ยงรับมือฤดูมรสุม พร้อมเพิ่มศูนย์ดิจิทัลชุมชน 4 แห่ง หวังเพิ่มโอกาสการเข้าถึงเทคโนโลยี สร้างคุณภาพชีวิต ให้คนลุ่มน้ำปากพนัง

ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตนขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งได้ลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช วานนี้ (7 ต.ค.64) เพื่อติดตามเร่งรัดโครงการบริหารจัดการน้ำ จ.นครศรีธรรมราช อย่างยั่งยืน ที่พบว่ามีปัญหาติดขัดอยู่หลายประการ และกำลังได้รับการแก้ไข เช่น การเวนคืนที่ดิน ปัญหาของผู้รับเหมาก่อสร้าง 

โดยขณะนี้ประชาชนเจ้าของพื้นที่บริเวณจุดเริ่มต้นโครงการได้ยินยอมให้มีการดำเนินการเวนคืนที่ดินแล้ว และปัจจุบันโครงการมีความคืบหน้าไปแล้ว 14.74% 

ขณะเดียวกันในส่วนของการเตรียมการระยะสั้น กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 15 จ.นครศรีธรรมราช คาดการณ์ว่าในเดือน ต.ค.-ธ.ค. ที่จะถึงนี้จะมีปริมาณฝนประมาณ 1,200 ม.ม. ซึ่งอาจเกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ 

ดังนั้นจึงได้เตรียมการรับมือประกอบด้วย การขุดลอกคูคลองเพื่อเป็นขยายเส้นทางไหลของน้ำ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในคลองปากนคร บรรเทาน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลเมืองนครศรีฯ และจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ เพื่อรับเหตุหากเกิดน้ำท่วมขัง

ด้านพื้นที่ 3 อำเภอลุ่มน้ำปากพนังซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำส่วนปลาย ขณะนี้ กระทรวงคมนาคม โดยกรมเจ้าท่า ในความดูแลของ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ  รมช.คมนาคม ได้มีการขุดลอกและบำรุงร่องน้ำ ในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง (ร่องน้ำคลองบางจาก) 550,000  ลบ.ม. ร่องน้ำปากพนัง / คลองปากพญา  และร่องน้ำอื่นๆอีก 8 แห่งรวม 6,650,000  ลบ.ม.

พร้อมกับโครงการปรับปรุงเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ระยะเวลาปี 63-65 บริเวณ บ้านหน้าโกฏิ ถึง บ้านหน้าสตน อ.หัวไทร ขณะนี้มีคืบหน้า 29.36 % คาดว่าแล้วเสร็จในเดือน พ.ย. 65  

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โดย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส เพิ่มจากจัดตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 4 แห่งในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ได้แก่ 1.เทศบาลตำบลชะเมา อ.ปากพนัง 2.อบต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง 3.โรงเรียนวัดสระโพธิ์ ต.เสือหึง อ.เชียรใหญ่ และ4.โรงเรียนเขาพังไกร ต.เขาพังไกร อ.เชียรใหญ่ 

“ทิพานัน” ลงพื้นที่น้ำท่วม อ.ท่าเรือ อยุธยา พร้อมแจกถุงยังชีพช่วยชาวบ้าน ขอหน่วยงานแจ้งเตือนน้ำมาล่วงหน้า 1-2วันและติดตั้งห้องน้ำเคลื่อนที่เร่งด่วน เผย “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ห่วงใยประชาชน กำชับหน่วยงานเยียวยา-ฟื้นฟูเต็มที่  ปลื้มชาวบ้านชม "บัตรสวัสดิการแห่งรั

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ได้รับแจ้งจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “อ้น ทิพานัน ศิริชนะ” ถึงความเดือดร้อนจากปริมาณน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำป่าสักบริเวณเหนือเขื่อน ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกือบมิดหลังคา และแจ้งว่าไม่มีการระบายน้ำเพื่อบรรเทาทุกข์ไปยังท้ายเขื่อนเลย  เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้ลงพื้นที่ บริเวณเขื่อนพระราม 6  และประตูระบายน้ำพระนารายณ์ทางฝั่งซ้ายของเขื่อน พบว่าทางกรมชลประทานได้ทราบถึงความเดือดร้อนพื้นที่เหนือเขื่อนแล้ว และเร่งบรรเทาทุกข์โดยระบายน้ำจากแม่น้ำป่าสักที่ทดไว้เข้าสู่คลองระพีพัฒน์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในต.ท่าหลวง บริเวณเหนือเขื่อนลดลง บรรเทาความเดือดร้อนไปได้  และได้แจ้งเตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนให้เฝ้าระวัง ตลอดลำน้ำ เพื่อเป็นการป้องกันและเตรียมตัวแล้ว 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จากนั้นได้เดินทางไปที่ชุมชนวัดบึงลัฏฐิวัน ที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ซึ่งเป็นจุดที่มีพี่น้องประชาชนได้ร้องทุกข์มา โดยได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมกว่า 170 หลังคาเรือน มีระดับน้ำสูงสุดที่ท่วมบ้านเรือนบริเวณริมตลิ่งกว่า 3 เมตร ไล่ระดับขึ้นมา ต่ำสุด 30 เซนติเมตร ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก ซึ่งตนได้ให้กำลังใจผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และสื่อสารข้อมูลระดับน้ำและการปล่อยน้ำให้ประชาชนเข้าใจซึ่งเมื่อประชาชนได้รับฟังก็คลายความกังวลใจไปได้มาก   พร้อมกันนี้ตนได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น โดยแจกจ่ายถุงยังชีพพร้อมยารักษาโรคพื้นฐาน จำนวน 250 ชุด และน้ำดื่ม 250 แพ็ค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้กำลังใจชาวบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วน ทั้งนี้ยังแจ้งต่อพี่น้องประชาชน ถึงมาตราการช่วยเหลือต่างๆ จากรัฐบาลที่จะทยอยออกมาช่วยเหลือด้วย


น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยพบปะ พี่น้องประชาชน หมู่ 1 ต.ท่าหลวง  อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าพี่น้องประชาชนดีใจมากที่วันนี้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยดูแล  และไม่หลงลืมตกสำรวจไป และได้ขอมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า หลังจากนี้ขอให้มีการแจ้งเตือนข่าวสาร การอพยพและช่วยเหลือประชาชนให้ทราบก่อนน้ำจะมาล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วันจะดีมาก เพราะจะได้เร่งอพยพข้าวของได้ทัน  และอยากให้ช่วยประสานหาห้องน้ำเคลื่อนที่ให้ในจุดที่อพยพที่อยู่บนริมถนน   และหลายคนในชุมชนกังวลใจเรื่องปัญหาหนี้สินทั้งในและนอกระบบที่ต้องหยุดงาน  ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนี้ ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)  ซึ่งตนได้อธิบายถึงมาตราการการช่วยเหลือที่รัฐบาลจะดูแลไปเบื้องต้นแล้ว ขณะเดียวกันมีประชาชนฝากชื่นชมนโยบายเยียวยาผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ถึงมือโดยตรงและอยากให้เปิดลงทะเบียนใหม่เร็วขึ้น พร้อมกับฝากให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี  ให้สู้ๆ กับทุกปัญหาไปให้ได้ 

“เพื่อเป็นกำลังใจกับพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบอุทกภัย ตนจึงให้กำลังใจและให้ความมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ไม่ทอดทิ้งแน่นอน ท่านฝากส่งกำลังใจ ฝากความปราถนาดีมาให้ และยินดีรับฟังปัญหาของประชาชนที่ประสบภัยอย่างจริงใจ ทุกปัญหาทุกความทุกข์ ที่พี่น้องประชาชนส่งผ่านไปกับ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ  หรือตัวแทนพรรคพลังประชารัฐที่กำลังเยี่ยมเยียนดูแลกันทั่วประเทศ ท่านทั้งสองได้รับทราบและมีความตั้งใจที่จะนำปัญหามาแก้ไขในระดับเชิงพื้นที่และบูรณาการในระดับนโยบายต่อไปแน่นอน  ซึ่งที่ผ่านมาได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดูแลช่วยเหลือเยียวและช่วยฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ”น.ส.ทิพานัน กล่าว

'จอร์จ โซรอส' ดันบิตคอยน์ ทะลุ 55,000 ดอลลาร์ รับข่าวพ่อมดการเงิน เข้าลงทุนในบิตคอยน์

ราคาบิตคอยน์ เทรดที่เว็บไซต์อินเวสต์ติง ดอท คอม เมื่อเวลา 05.10 น. ของ 7 ต.ค. 64 ปรับตัวขึ้น 6.71 % เคลื่อนไหวที่ราคา 55,201.7 ดอลลาร์รับข่าวจอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินเข้าลงทุนในบิตคอยน์

การเคลื่อนไหวในแดนบวกของราคาบิตคอยน์ช่วงเช้าวันนี้ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันพุธ (6 ต.ค.) ราคาบิตคอยน์ทะยานทะลุระดับ 55,000 ดอลลาร์และอยู่เหนือระดับ 1,800,000 บาท ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ขานรับรายงานที่ว่า กองทุนของนายจอร์จ โซรอส เจ้าของฉายาพ่อมดการเงิน ได้เข้าลงทุนในบิตคอยน์

นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นายแกรี เกนสเลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ที่ยืนยันว่าสหรัฐฯ ไม่มีแผนที่จะสั่งระงับการซื้อขายสกุลเงินคริปโต

ขณะนี้ บิตคอยน์มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่ามูลค่าตลาดของบริษัทเฟซบุ๊ก ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดมีมูลค่าตลาดรวม 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับมูลค่าตลาดของบริษัทแอปเปิล อิงค์

ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 64,889 ดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา

หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ทรงกรุณาประทานยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร แด่เรือนจำกลางเพชรบุรี 100,000 เม็ด

หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ทรงกรุณาให้ "นางสาวชญาณิศา ฐาณิชณาณัณ" กรรมการผู้จัดการบริษัท เดอะไบบูรี่ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำเชิญยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรประทาน ให้ "นายทัตเทพ ชุมนุมมณี" ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเพชรบุรี เพื่อใช้ช่วยเหลือบรรเทาภัยเบื้องต้นในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัส (โควิด-19) ที่กำลังแพร่ะบาดในเรือนจำ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ในเรือนจำ ผู้ต้องขังในเรือนจำกลาง และเรือนจำในเครือข่าย โดยมี "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" ผู้ช่วยเลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์" เป็นผู้อ่านหมายหนังสือประทานยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ที่ทรงห่วงใยพสกนิกรทุกหมู่เหล่า 

"นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย" เลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า โดยแต่เดิม หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ทรงมีความห่วงใยต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเสมอมา ทรงจัดหาสิ่งของต่างๆที่พอจะช่วยเหลือ บรรเทาภัย และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้า และผู้ประสบภัยจากโรคระบาด โควิด-19 มาโดยตลอด ซึ่งตลอดช่วงเวลา 2 ปี ของการแพร่เชื้อโรคระบาดนี้ พระองค์ท่านมีรับสั่งให้คณะทำงานในส่วนพระองค์ แบ่งสายงานหาทางให้ความช่วยเหลือประชาชนทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัดมาโดยตลอด ต่อมาครั้งนี้ ทรงมีดำริถึงเรือนจำว่าน่าจะให้ความช่วยเหลือในเรื่องยาสมุนไพรไทย ฟ้าทะลายโจร ที่สามารถช่วยเหลือ รักษาอาการป่วยได้พอสมควร

"ตู่ นันทิดา" ไม่รอดดราม่าเตรียมขึ้นคอนเสิร์ต เจอชาวเน็ตเดือดน้ำท่วมไม่เห็นเงา งานนี้หลายคนต่อประเด็น พร้อมขยายวงดราม่า

มีดราม่าพุ่งใส่จนได้ สำหรับนักร้องและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย ที่ล่าสุดมีชื่อขึ้นคอนเสิร์ตดังคอนเสิร์ตหนึ่งในรูปแบบ Live Stream ซึ่งได้เริ่มจำหน่ายบัตรกันไปแล้ว โดยสาวตู่จะมาร่วมเสิร์ฟความสุข ความบันเทิงให้กับพี่น้องชาวไทยอย่างเต็มอิ่ม 

งานนี้หลังจากมีข่าวดังกล่าวออกไป ในโลกออนไลน์อย่างทวิตเตอร์ก็ได้มีชาวเน็ตรายหนึ่งมาเปิดประเด็นการขายบัตรในครั้งนี้ พร้อมข้อความว่า “นายก อบจ. เปิดขายบัตรคอนเสิร์ตแล้วค่า กดให้ทันนะคะ กดให้ทัน #ตู่นันทิดา #นายกหายไปไหน”

รู้จัก ‘Long COVID’ อาการหลงเหลือ หลังติดเชื้อโควิด-19

เป็นโควิด-19 รักษาหายแล้ว แต่ทำไมยังป่วยอยู่ หลายคนมีข้อสงสัย เนื่องจากผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาหายแล้วบางราย ยังรู้สึกมีอาการหลงเหลือต่อเนื่องเป็นเวลานาน  ซึ่งจะพบมากในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภาวะอ้วน หรือน้ำหนักเกิน และผู้ที่มีโรคประจำตัว 

เรือดำน้ำสหรัฐฯ ชนวัตถุลึกลับ ขณะปฏิบัติภารกิจในน่านน้ำอินโด-แปซิฟิก

เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ลำหนึ่งของสหรัฐฯ ได้ความเสียหายและลูกเรือบาดเจ็บนับสิบคน หลังชนเข้ากับวัตถุไม่สามารถระบุเอกลักษณ์ ระหว่างปฏิบัติการใต้น้ำในเอเชีย จากการเปิดเผยของกองทัพเรืออเมริกาในวันพฤหัสบดี (7ต.ค.)

ยูเอสเอส คอนเนตทิคัต เรือดำน้ำโจมตีเร็วพลังงานนิวเคลียร์ "ชนกับวัตถุหนึ่งระหว่างดำน้ำเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 ตุลาคม ขณะกำลังปฏิบัติภารกิจในน่านน้ำสากลในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก" กองทัพเรือระบุในถ้อยแถลง

สำนักข่าว USNI News เว็บไซต์ที่รายงานข่าวกองทัพเรือโดยเฉพาะ ระบุว่ามีลูกเรือราว 10 กว่าคนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บของลูกเรือเหล่านั้นอยู่ในระดับ "เล็กน้อยจนถึงปานกลาง"

"อัครเดช" นำ กมธ.จัดระเบียบสายไฟฟ้าและสารสื่อสาร  ลงพื้นที่หาดใหญ่ ติดตามโครงการสายไฟลงดิน เตรียมจัดทำแนวทางชงสภาส่งรัฐบาลเร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรม 

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.จังหวัดราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารฯ สภาผู้แทนราษฎร และประธานอนุกรรมาธิการจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารฯภาคกลาง ใต้ และตะวันออก พร้อมด้วยนาย ธนู งาเนียม ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด(มหาชน)ในฐานะกรรมาธิการฯ และคณะ เดินทางลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจติดตามและศึกษางานการนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงดิน และการจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารให้เป็นระเบียบ โดยมี นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พล.ต ท.สาคร ทองมุนี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ นายวัฒนา แพรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภาคใต้ล่าง นายไพศาล ไชยลี ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้าภาคใต้ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมประชุมและลงพื้นที่ด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top