Tuesday, 1 July 2025
NEWS

ด่วน!! ชาร์จตัวได้แล้ว 'สารวัตรคลั่ง' นำตัวส่งโรงพยาบาลภูมิพล บาดเจ็บจากการจู่โจม

วันที่ 15 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ  12.120 น. ตำรวจเปิดปฏิบัติการบุกควบคุมตัวสารวัตรคลั่ง ใช้ยุทธวิธีบุกเข้าไปในบ้านเพื่อควบคุมสารวัตรผู้ก่อเหตุยิง โดยการโยนระเบิดควันเข้าเปิดทาง ที่บริเวณชั้นสองที่สารวัตรหลบอยู่ จากนั้นเกิดเสียงปืนยิงปะทะมากกว่า 50 นัด นานเกือบ 10 นาที จากนั้นเจ้าหน้าที่ตะโกนว่า ให้นำรถพยาบาลเข้ามามีผู้บาดเจ็บ จากนั้นไม่เกิน 10 นาทีได้มีการลำเลียงผู้บาดเจ็บขึ้นรถและออกไปทันที 


ขณะที่พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันได้เข้าควบคุมสารวัตรผู้ก่อเหตุแล้วเบื้องต้นได้รับบาดเจ็บและนำส่งโรงพยาบาล ส่วนกำลังพลไม่ได้รับบาดเจ็บ

‘หมอหมู’ เปิดเหตุผล ‘ทำไมนอนในรถถึงเสียชีวิต’ ชี้!! เพราะขาดออกซิเจน-สูดดมคาร์บอนมอนอกไซด์

(14 มี.ค. 66) เฟซบุ๊ก ‘วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี’ หรือ หมอหมู รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ออกมาให้ความรู้ ตอบคำถาม ทำไมนอนในรถยนต์ถึงตาย แต่นั่งในรถยนต์ทั้งวันกลับไม่ตาย ขอตอบแบบใช้ความรู้ทางนิติเวชบวกกับประสบการณ์ในการตรวจผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในรถยนต์นะครับ

1) สาเหตุการเสียชีวิตจากการนอนในรถยนต์ คือการได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าสู่ร่างกาย โดยก๊าซดังกล่าวเกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และมีคุณสมบัติสำคัญ คือ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และสามารถแย่งจับกับเม็ดเลือดแดงแทนออกซิเจนได้ดีกว่าถึง 200 เท่า ทำให้คนที่ดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปจะขาดออกซิเจนและเสียชีวิตได้

2) การรั่วไหลของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้ามาในตัวรถ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ คือ การเสื่อมสภาพของตัวรถ และการดัดแปลงตัวรถ (https://www.komchadluek.net/scoop/352290) โดยปกติแล้วรถยนต์ที่ผลิตออกมาจะสามารถปกป้องการรั่วไหลของก๊าซเข้ามาในรถได้อยู่แล้ว (ไม่ 100% ห้องโดยสารในรถยนต์ไม่ใช่ห้องที่ถูกผนึกแน่นจนอากาศไม่สามารถไหลเวียนได้ แต่ทว่าตามช่องประตู หรือรูอุดที่ไม่เห็นในห้องโดยสารรถยนต์ จึงยังมีช่องทางให้อากาศไหลเวียนได้ซ่อนอยู่) แต่หากใช้งานไปนานๆ โดยไม่มีการดูแลบำรุงรักษา รวมถึงมีการดัดแปลงสภาพรถ ก็อาจทำให้เกิดการรั่วไหลเข้ามาในตัวรถได้ในปริมาณมากครับ

ชาวเน็ตจวกยับ ติวเตอร์ดัง พูดแซะ-ใช้คำหยาบสอนเด็ก ‘พี่ส่าย’ แจง!! ขอโทษ มีเจตนาดี-สอนให้รู้จักใช้ความจริง

จากกรณีเพจ อยากดังจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้โพสต์ คลิปแล้วข้อความว่า ใช้คำหยาบสอนเด็กหรอ..เป็นถึงติวเตอร์มันใช่ไหมหรือลัทธิอะไร.. สื่อสังคมช่วยตรวจสอบด้วย แอด คลิปติวเตอร์ ที่ชลบุรี จับเด็กมานั่งฟังประวัติตัวเอง พาเด็กเจริญสมาธิ ไลฟ์ใน TikTok พูดหยาบมาก พูดคำหยาบกับเด็ก!! พอมีเด็กลุกออกไปแล้วยังจะว่าแซะเด็ก!! แล้วยังขู่เด็กที่จะลาออกอีก!! จะไม่มีการคืนเงินมัดจำด้วย แล้วมาบอกเงินเป็นแค่กระดาษ ถุย ครูติวหนังสือเด็กทำตัวแบบนี้ก็ได้หรอ ทั้งไลฟ์พูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ พูดไม่รู้เรื่อง ไม่มีการติวหนังสือเลย หลังจากมีการโพสต์คลิปดังกล่าวลงไปโซเซียลถึงกับอึ้ง นี่เหมือนคล้ายกับการล้างสมองเด็กหรือไหมทำตัวเหมือนกับลัทธิเลย แล้วยังมีการใช้คำพูดที่หยาบคลายไม่เหมาะสม

เชียงใหม่-เปิดกิจกรรม “TED Youth Startup Road Show 2023” ครั้งที่ 3 ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่

เมื่อ​วันที่​ 15 มีนา​คม 2566 ที่ Auditorium อาคารศูนย์นวัตกรรมการสื่อสารคณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  จังหวัดเชียงใหม่ ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดช ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม เปิดกล่าวเปิดกิจกรรม และการบรรยาย “บทบาทและภารกิจของกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) ในการสนับสนุน SMEs และ Startups” พร้อมได้บรรยาย “บทบาทและภารกิจของ TED Fund ในการสนับสนุน SMEs และ Startups” โดย ผู้บริหารจาก TED Fund กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) ได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ผ่านโครงการยุววิสาหกิจเริ่มต้น หรือ TED Youth Startup มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนสู่การเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) และสนับสนุนสถาบันการศึกษาสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการประกอบการ (Entrepreneurial University) โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายนักศึกษาและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ต้องการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพ กองทุนฯ จึงจัดให้มีกิจกรรมเดินสายโรดโชว์ที่ชื่อว่า “TED Youth Startup Road Show 2023” ครั้งที่ 3 ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด “Fund for Future - STARTUP for Young Gen” ไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้ แนะแนว และเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมขอรับทุน TED Youth Startup โดยได้มีการเตรียมทุนไว้ 160  ทุน ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดช กล่าว

หลังจากนั้น คุณเอกธัช ภัทระโภคพัฐ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการ
กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้ขึ้น เสวนาพิเศษ “การเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมโครงการ TED Youth Startup” โดย เจ้าหน้าที่จาก TED Fund และตัวแทน TED Fellow คุณเอกธัช ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการ กล่าวว่า “กองทุนฯ ได้กำหนดนโยบายที่จะดำเนินโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 เราได้วางแผนการจัดสรรเงินสนับสนุนทุนให้แก่ผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรมผ่านโครงการ TED Youth Startup โดยตั้งเป้าจะสนับสนุนผู้ประกอบการจำนวน 200 โครงการ รวมมูลค่าการสนับสนุนทุนกว่า 160 ล้านบาท

ม.สวนดุสิต จัดเสวนา  “มหัศจรรย์ตัวเลขสร้างพลังบวกดึงดูดความสำเร็จ"   

ปัจจุบันศาสตร์เรื่องตัวเลขเป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับวิจารณญานของแต่ละบุคคล  ความเป็นเหตุเป็นผลนั้นโยงใยซึ่งกันและกันอยู่เสมอ  ดังนั้น มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมก็ย่อมมีผลต่อกันเช่นกัน ตัวเลขที่รายล้อมอยู่รอบตัวของมนุษย์จึงมีผลต่อพฤติกรรมของคน ตัวเลขมักมีความเกี่ยวพันกับชีวิตของคนเราอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น วันเดือนปีเกิด, เลขบัตรประชาชน, เลขรหัสบัตรเอทีเอ็ม ตัวเลขที่มีความผูกพันกับชีวิตประจำวัน เพราะเป็นตัวเลขที่ใช้ในการสื่อสาร 

ศูนย์พัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต มีพันธกิจในด้านการบริการวิชาการสังคม พัฒนาคนและพัฒนาองค์กร โดยเล็งเห็นว่าศาสตร์พลังตัวเลข และพลังชีวิตคิดบวกเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่มีความน่าสนใจ ที่จะสามารถนำมาประยุกต์ให้กับบุคคล องค์กรหรือหน่วยงานได้  จึงได้จัดโครงการ จิบกาแฟกับศูนย์พัฒนาทุนมนุษย์ หัวข้อ “มหัศจรรย์ตัวเลขสร้างพลังบวก ดึงดูดความสำเร็จ”          

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ความรู้ศาสตร์ตัวเลขเบื้องต้น นำความรู้พลังตัวเลข ไปวิเคราะห์ลักษณะดีและร้าย  และสามารถนำความรู้ศาสตร์พลังเลข และพลังชีวิตคิดบวกไปปรับใช้ในการทำงาน  เพื่อพัฒนาตนเอง และหน่วยงานให้ดีขึ้น   โดยมี ผศ.ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เป็นประธานเปิดการเสวนา และได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาอธิการบดี และ ดร.วรานี เวสสุนทรเทพ รองอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตสุพรรณบุรี ให้เกียรติร่วมรับฟังการเสนา โดยมี อ.ยอด บารมี นักพูดสร้างแรงบันดาลใจและพลังชีวิตคิดบวก เป็นวิทยากร และ ดร.ณัฏฐนิช สิริสัจจานุรักษ์  รองผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาทุนมนุษย์ ผู้ดำเนินการเสวนา 

รูปแบบการจัดเสวนาใช้  2 รูปแบบ คือ แบบ ON - SITE ณ ห้องประชุม 201 อาคาร ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน และ ON -SCREEN ถ่ายทอดสดมายังร้านกาแฟ 189 Cafe ม.สวนดุสิต  โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมเสวนา จำนวน 60 คน ประกอบด้วย  ผู้บริหาร คณาจารย์  บุคลากร  ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต และ บุคคลทั่วไป อาทิ  สื่อมวลชน  ข้าราชการ  ทหาร/ตำรวจ   นักธุรกิจ  และชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัยฯ เข้าร่วมรับฟังการเสวนา ณ อาคาร ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน  

สรุปเนื้อหาสำคัญบางส่วนในการเสวนา โดย อ.ยอด บารมี  พลังบวกคือ ทัศนคติ คำพูด และการกระทำ ที่กระทบต่อวิถีการใช้ชีวิต และทำให้ชีวิตพบเจอแต่สิ่งดีๆ เช่น ความสุข สุขภาพ เงินทอง และ ความสำเร็จในด้านต่างๆ พลังบวกทำให้มองโลกในแง่ดี มั่นใจในตัวเอง และอยากออกไปใช้ชีวิต   คำว่า ‘บวก’ คือ ‘การเพิ่ม’ การเติมเข้าไปเพื่อให้ดีขึ้นหรือสมบูรณ์ขึ้น เมื่อใช้อธิบายพลังก็จะกลายเป็นพลังบวกช่วยให้เรามีความรู้สึกมั่นใจ กล้าหาญ และพร้อมจะรับมือกับทุกอย่างได้

การเปลี่ยนพลังชีวิตจากร้ายกลายเป็นดีโดยอาศัยพลังตัวเลข ง่าย...รวดเร็ว...เห็นผลทันตา...ศาตร์แห่งตัวเลข... เป็นการนำความหมายอันลึกล้ำของตัวเลขมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อความเป็นสิริมงคล เสริมดวงให้เจริญรุ่งเรือง  ความรักเกี่ยวกับตัวเลขเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่มีมาตั้งแต่โบราณ  ตัวเลขสามารถบ่งชี้เรื่องต่างๆของธรรมชาติได้มากมาย อาทิ   การงาน   ธุรกิจ   นิสัยใจคอ  ความรัก  สุขภาพ อำนาจบารมี   การศึกษา เสน่ห์ ฯลฯ

จะมีกี่คนที่รู้จริงเรื่องสถิติของศาสตร์เบอร์มือถือเป็นเรื่องที่ยาก และสิ่งที่ยากมากกว่านั้นก็คือการวางตัวเลขให้เหมาะสมกับผู้ใช้  แต่ที่สุดของความยากทั้งปวงคือการหาซิมที่มีตัวเลขตามที่ต้องการ ถ้าคิดจะสร้างอาณาจักรของตนเอง ลองสังเกตรอบๆตัวให้ดีว่า  แต่ละคนมีรายได้แค่ไหน.... หาเงินกันอย่างไร เช่น  ผู้ก่อตั้งธุรกิจเจ้าของร้านค้า พนักงานที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ชำระเงิน หรือแม้แต่ รปภ.ที่รักษาความปลอดภัย ตัวเลขแต่ละคู่ในเบอร์มือถือควรร้อยเรียงตัวเลขให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ใช่มีเลขดีแล้วจะจัดให้อยู่ตรงไหนก็ได้  หรือแม้แต่ซิมใน iPad ก็ส่งผลต่อชีวิตของคุณเช่นกัน....

"บิ๊กหลวง" ร่วมประชุม World Police Summit กับตำรวจ 65 ประเทศ ที่ดูไบ

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้เดินทางไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเข้าร่วมประชุม World Police Summit ระหว่างวันที่ 6-10 มีนาคมที่ผ่าน มาตามคำเชิญ ผบ.ตร.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยการประชุมในครั้งนี้เป็นเชิงเสวนามีผู้นำตำรวจเกือบทั่วโลกมาร่วมงานที่เป็นทางการ 65 ประเทศ มาสังเกตการณ์อีก 90 กว่าประเทศ ยอมรับว่าไม่ค่อยคุ้นชินกับการประชุมลักษณะดังกล่าวแต่มี พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผบก.ตท คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำ

ได้รับเชิญจาก ผบ ตร ดูไบ ให้เข้าร่วมงานวันจบการศึกษาของนักเรียนตำรวจดูไบ ซึ่งปีนี้ มีคนจบการศึกษา 900 คน เป็นการจบปริญญาตรีทางกฏหมายจำนวนหนึ่งและจบมาเป็นตำรวจโดยเฉพาะอีกจำนวนหนึ่ง คือที่ดูไบ คนจบกฏหมายต้องมาเรียนที่ โรงเรียนตำรวจครับ ผมได้ดูพิธีสวนสนามที่งดงามเป็นระเบียบและแข็งแรง โดยมี มกุฏราชกุมาร เจ้าผู้ครองนครดูไบ มาเป็นองค์ประธานและตรวจพลสวนสนาม พิธีจัดเรียบง่ายแต่ดูประทับใจ ก่อนกลับ มกุฏราชกุมารให้ผมและผู้การเขมรินทร์ฯเข้าเฝ้าแนะนำตัวเองด้วยครับ พระองค์ท่านเป็นกันเอง ยื่นพระหัตถ์ ให้ผมสัมผัสด้วย

ต่อมาอีกวัน ก็ขอไปดูงานของตำรวจดูไบ ก็ต้องยอมรับนะครับว่า ตำรวจดูไบ ไปไกลกว่าเราเยอะ ใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์งานเกือบทุกมิติ งานกำลังพล งานอาชญากรรม งานบริการต่างๆ โดยเฉพาะ smart police station ไม่มีตำรวจในตู้ยาม เดินเข้าไป เหมือนไปกด ATM เรายืนยันตัวตน จะมีช่องบริการต่างๆ เกือบทุกเรื่อง เอกสารหาย แจ้งความคดีอาญา ฝากบ้านไว้กับตำรวจ  น่าสนใจมากครับ และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ ตำรวจดูไบ ยังไปทำความร่วมมือกับภาคเอกชน เกือบทุกภาคส่วน ทำบัตรสวัสดิการ เรียกว่า “esaad”บัตรนี้ เป็นบัตรส่วนลดของตำรวจดูไบ ในเมืองไทย ที่ตำรวจดูไบ ทำข้อตกลงด้วย เช่น รพ บำรุงราษฎร์ ปีหนึ่งๆ ตำรวจดูไบ ลดค่าใช้จ่ายให้ตำรวจ ปีละ 1,000 กว่าล้านบาท  

ครม. เคาะ! เพิ่มเงินช่วย ‘ค่าก๊าซหุงต้ม’ ผ่านบัตรสวัสดิฯ  เพิ่มเป็น 100 บาท/เดือน เริ่ม เม.ย.- มิ.ย. นี้

(14 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เห็นชอบโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ อีก 20 บาท/คน/3เดือน ในช่วงเดือนเม.ย.- มิ.ย. 2566 สำหรับผู้ใช้สิทธิ 7.5 ล้านราย รวมเงิน 150 ล้านบาท

ครม.ตื่น!! พ.ร.บ.อาวุธปืน เปิดโอกาสให้ขึ้นทะเบียนถูก กม.  หรือส่งมอบคืนภายใน 180 วัน โดยไม่ต้องรับโทษ

เปิดทาง!! 'รองโฆษกรัฐบาล' เผย ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ให้ผู้ครอบครอง ขึ้นทะเบียนปืนถูกกฎหมาย-ส่งคืนรัฐภายใน 180 วัน ไม่ต้องรับโทษ

(15 มี.ค.66) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันมีการใช้อาวุธปืนเถื่อนที่ไม่ได้รับอนุญาตอย้างถูกกฎหมาย มาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเพิ่มมากขึ้นทุกปี ขณะที่มาตรการปราบปรามอาวุธปืนเถื่อนในปัจจุบัน ยังไม่บรรลุผล เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจค้นได้ เฉพาะกรณีที่มีข้อมูลน่าเชื่อถือว่าบุคคลนั้นใช้อาวุธปืน ในการกระทำความผิด มีพฤติการณ์ครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย หรือมีความเป็นไปได้ที่จะนำอาวุธปืนไปก่อเหตุร้าย หรือเป็นผู้มีส่วนร่วมกระทำความผิด ทำให้ยากต่อการควบคุม ดังนั้น ครม.จึงเห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปีน พ.ศ. 2490 กำหนดให้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่อยู่ภายในราชอาณาจักรมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้นำเข้าอาวุธปืนจากประเทศเพื่อนบ้านมาขึ้นทะเบียน หรือให้มีการส่งมอบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ คืนแก่นายทะเบียนภายในระยะเวลาที่กำหนด และกำหนดเพิ่มเติมให้นายทะเบียนท้องที่ จัดทำรายละเอียดและจัดเก็บอัตลักษณ์เกี่ยวกับอาวุธปืนด้วย  

หนุ่มใหญ่ แต่งกายชุด ตร. เต็มยศ สร้างความน่าเชื่อถือ  หลอกขายวัวให้ชาวบ้าน เพื่อนำเงินไปเล่นพนัน

(14 มี.ค. 66) พ.ต.ท.วินัย โรจน์ณรงค์ สว.สส.สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งจาก นายไพรัช อุณหะ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.ช่างเหล็ก อ.บางไทร ว่ามีนายตำรวจ ยศร้อยตำรวจโท มาขายวัวให้ โดยแต่งกายชุดตำรวจมาเต็มยศ ท่าทางมีพิรุธ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ พร้อมกับรายงาน พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ทราบ และไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบชายแต่งกายชุดตำรวจ ติดป้ายชื่อและเครื่องหมาย ยศ ร.ต.ท.วุฒิศักดิ์ พิทักษ์จันทร์อิ่ม กำลังนั่งพูดคุยกับเจ้าของบ้าน จึงขอตรวจสอบบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ แต่กลับพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้ สอบถามไปมาทราบว่า เป็นตำรวจปลอม จึงทำการจับกุม ก่อนนำไปตรวจค้นรถกระบะ พบอุปกรณ์ตำรวจ เสื้อ หมวก และป้ายชื่ออีกหลายคน และทะเบียนรถปลอมอีกหลายแผ่น จึงคุมตัวไปสอบสวน ทราบชื่อจริงคือ นายวุฒิศักดิ์ พิทักษ์จันทร์อิ่ม อายุ 58 ปี

ด้าน ผู้ใหญ่ไพรัช กล่าวว่า เมื่อวานช่วงเช้าขณะตนเลี้ยงวัวอยู่ที่บ้าน ชายคนนี้แต่งชุดตำรวจเอารูปวัวควาย เข้ามาเสนอขายในราคา 2.5 แสนบาท มีอยู่ 20 ตัว ถ้าตนเอาหมดจะลดให้ตัวละ 1,000 บาท แต่เอะใจว่ารูปภาพดูคุ้นๆ เหมือนภาพที่มีการส่งต่อกันในสายพ่อค้าวัว เมื่อสังเกตการแต่งกายคิดว่าไม่น่าจะใช่ตำรวจ จึงโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

เริ่มวันนี้!! รับสิทธิ์ส่วนลด ‘ค่าน้ำ-ค่าไฟ’  ผ่านบัตรสวัสดิฯ ย้ำ!! ต้องขอรับสิทธิใหม่ทุกคน

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมเป็นต้นไป ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายใต้โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565  หรือบัตรคนจนรอบใหม่ ที่ประสงค์จะรับสิทธิมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา  จะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน และกำหนดการให้สวัสดิการแบบ  1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 รหัสประจำบ้าน ซึ่งสามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน

เช่นเดียวกันกับค่าน้ำประปาที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าบริการได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปากับหน่วยงานผู้ให้บริการที่ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวสำเร็จรับบริการอยู่

รายละเอียดดังนี้
1. การลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้า สามารถลงทะเบียนได้ที่
(1) สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://meagate1.mea.or.th/welfareregis เบอร์ติดต่อ 1130

(2) สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://welfareregis.pea.co.th เบอร์ติดต่อ 1129

(3) กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://walfareregis.sea.co.th เบอร์ติดต่อ 086 848 1284

2. การลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปา สามารถลงทะเบียนได้ที่
(1) สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://eservicesapp.mwa.co.th/ES/MWAWelfareServlet เบอร์ติดต่อ 1125

(2) สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ https://register.pwa.co.th/welfare-register.html เบอร์ติดต่อ 1662

 ผบ.ตร.บินด่วนรดน้ำศพ ตำรวจกล้า สารวัตรสืบสวนเมืองยโสธร เสนอปูนบำเหน็จกรณีพิเศษ 3 ขั้นยศเป็น พล.ต.ต. มอบเงินช่วยเหลือ

วันที่ 14 มี.ค. 66 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. บินด่วน เดินทางมาเป็นประธานพิธีรดน้ำศพ พ.ต.ต.เอกพงษ์ ทิปะณี สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองยโสธร ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่หลังโดดช่วยลูกน้องจับผู้ต้องหายาเสพติด ก่อนจะจมหายเสียชีวิตในเวลาต่อมา  ณ วัดวิมลนิวาส อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยมี คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ  พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ธเนศ เทพสุด ผบก.ภ.จว.ยโสธร  พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด นายวิรัตน์ ทิปะณี ผู้เป็นพ่อ บุตร และครอบครัวผู้สูญเสีย พร้อมด้วย เพื่อนข้าราชการตำรวจ ประชาชน เข้าร่วมพิธี

บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก เนื่องจากช่วงรับราชการ พ.ต.ต.เอกพงษ์ ทิปะณี ถือเป็นตำรวจน้ำดี เป็นที่รักของตำรวจและชาวบ้านที่เคยร่วมงานด้วย 
     พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ และคุณสุมนาได้พูดคุย ให้กำลังใจกับญาติผู้วายชนม์ มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น พร้อมให้คำมั่นว่าจะดูแลสิทธิประโยชน์ ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ 
    สำหรับ พ.ต.ต.เอกพงษ์ ทิปะณี สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองยโสธร เป็นข้าราชการตำรวจเมื่อปี 2553 ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.อยุธยา ก่อนจะสอบเป็นนายตำรวจได้ในปี 2556 ดำรงตำแหน่ง รอง สว.สส.สภ.กุดชม รอง สว.จร.สภ.เมืองยโสธร ก่อนที่จะได้รับแต่งเป็น สว.สส.สภ.เมืองยโสธร เมื่อวาระการแต่งตั้งช่วง กพ.66 ที่ผ่านมา

โดยวันเกิดเหตุ ได้นำตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามผู้ต้องหาคดียาเสพติด มาถึงบริเวณลำห้วยเชื่อมต่อกับอ่างเก็บน้ำ ที่มีความลึกประมาณ 4 เมตร ในพื้นที่ หมู่10 ต.เดิด อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร  พบผู้ต้องสงสัยขี่จักรยานยนต์ผ่านมา จึงเรียกเพื่อขอตรวจค้น แต่ผู้ต้องสงสัยได้ทิ้งรถจักรยานยนต์พร้อมกับกระโดดลงน้ำเพื่อหลบหนี จากนั้น ด.ต.ณัชชา ทองมณี ผบ.หมู่ สส.สภ.เมืองยโสธร ได้ตามผู้ต้องสงสัยลงน้ำและสามารถควบคุมตัวได้อยู่จุดกลางน้ำ ห่างจากฝั่งประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่มีขอนไม้

พ.ต.ต.เอกพงษ์ ได้ว่ายน้ำลงไปช่วยเหลือลูกน้อง และคนร้าย แต่ขณะนั้นคาดว่าสารวัตรเอกพงษ์ฯ อาจจะเป็นตะคริว จึงทำให้จมหาย ต่อหน้าลูกน้อง ก่อนที่จะพบร่างเสียชีวิตในเวลาต่อมา 
    สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาดูแลสิทธิประโยชน์ พ.ต.ต.เอกพงษ์ ทิปะณี สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองยโสธร ที่เสียชีวิต ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เสนอปูนบำเหน็จความดีความชอบตอบแทนเป็นกรณีพิเศษ โดยขอเลื่อนเงินเดือนให้ 3 ขั้น ขอพระราชทานยศเป็น พล.ต.ต.

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เห็นว่าครอบครัวมีความยากลำบาก มีบุตรอีก 2 คน จึงมอบเงินเป็นกองทุนการศึกษา 100,000 บาท , ผบช.ภ.3 มอบอีก 100,000 บาท โดยจะเปิดบัญชีธนาคารไว้ เบื้องต้นจะมีเงิน 200,000 บาท จาก ผบ ตร และ ผบช.ภ.3 และจะเปิดให้มีการรับบริจาคโดยเชิญชวนข้าราชการตำรวจ และผู้ที่สนใจอยากให้ความช่วยเหลือ ร่วมกันบริจาคเป็นกองทุนการศึกษา หากได้หมายเลขบัญชีธนาคารแล้ว จะแจ้งให้ทราบโดยเร็วต่อไป 

ส่วนเงินช่วยเหลืออื่นๆ จะมีเงินกองทุนสวัสดิการ ตร. 250,000  เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ ตร. 670,000 บาท เงินกองทุนต่างๆ ของตำรวจ ภ.3 เช่น  เงินกองทุนบุญรักษา 10,000 บาท กองทุนเวสสะโกศล 5,000 บาท กองทุนตำรวจอีสานหลวงพ่อคูณ 5,000 บาท นอกจากนี้ คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจได้มอบเงินจากเงินสมาคมแม่บ้านตำรวจช่วยเหลืออีก 20,000 บาท

โดยในวันนี้ ผบ.ตร.นำเงินสดมามอบให้จำนวน 770,000 บาท แต่ยอดเงินที่จะได้รับในการช่วยเหลือ เยียวยา ดูแลสิทธิประโยชน์อื่นๆ ทั้งของผู้เสียชีวิตและครอบครัว จากส่วนต่างๆทั้งสิ้น เป็นจำนวน 1,742,400 บาท 

นายกฯ เปิดอาคาร ‘PRD Media Center’ หวังยกระดับบริการข้อมูลข่าวสารภาครัฐ

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิธีเปิดอาคาร “PRD Media Center” กรมประชาสัมพันธ์ มุ่งเป็นกระบอกเสียง ยกระดับสื่อสารมวลชนภาครัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

วันนี้ (14 มีนาคม 2566) เวลา 17.00 น. ณ  อาคารศูนย์ปฏิบัติการแพร่ภาพออกอากาศกระจายเสียงวิทยุและการให้บริการข้อมูลข่าวสารภาครัฐ กรมประชาสัมพันธ์ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารศูนย์ปฏิบัติการแพร่ภาพออกอากาศ การกระจายเสียงวิทยุและการให้บริการข้อมูลข่าวสารภาครัฐ กรมประชาสัมพันธ์ (PRD Media Center) โดยมี นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธีเปิดงาน ในโอกาสนี้ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า

นายกรัฐมนตรีได้กล่าว ยินดีกับการเปิดอาคารศูนย์ปฏิบัติการฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้กับบุคลากร ตลอดจนประชาชน ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง สร้างความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ เป็นกระจกเงา เป็นเพื่อนคู่คิดให้กับหน่วยงานรัฐทุกกระทรวงมาโดยตลอด ซึ่งนายกรัฐมนตรีติดตามการทำงานกรมประชาสัมพันธ์ ทราบว่ากำลังพลของกรมประชาสัมพันธ์นอกจากมีภาษาสากล ภาษาต่างประเทศ มีภาษาถิ่นที่สามารถเข้าถึงชาวบ้านได้ทุกกลุ่ม ในเวลาที่ไปลงพื้นที่ต่างจังหวัดก็เห็นคนกรมประชาสัมพันธ์ไปสนับสนุน เผยแพร่ข่าว เล่าประโยชน์ของนโยบายและช่วยรับเรื่องราวสะท้อนปัญหาของประชาชนมายังรัฐบาล เห็นทีมสื่อออนไลน์ทำงานร่วมกับทุกกระทรวง รวมถึง ทีมโซเชียล ไป Live สด ในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี ยินดีที่ได้เห็นการพัฒนาและการปรับตัวของคนทุกรุ่นในกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีคนรุ่นใหม่ที่มีฝีมือ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง และที่สำคัญมีความรักชาติบ้านเมืองจำนวนมาก

นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงาน ผลิตข้อมูลข่าวสารที่ดีมีประโยชน์เพื่อตอบแทนความคาดหวังของประชาชน โดยเชื่อมั่นว่า จะยกระดับการทำงานสื่อสารมวลชนภาครัฐให้เป็นที่พึ่งพาของคนไทยได้ดีขึ้นในอนาคตอันใกล้  และขอให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ กรมประชาสัมพันธ์ทุกคนร่วมกันดูแล รักษา ปกป้อง และใช้งานอาคารศูนย์ปฏิบัติการฯ หลังนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติและดูแลพี่น้องประชาชน ให้มีอนาคตที่ดีต่อไป

สธ.เผยยังไม่พบ ‘ซีเซียม-137’ หลุดกำบัง  สั่งเตรียมผู้เชี่ยวชาญ - โรงพยาบาลรองรับ

ปลัด สธ.เผยยังไม่พบข้อมูล สารซีเซียม-137 หลุดจากเครื่องกำบัง สั่งกองสาธารณสุขฉุกเฉินเตรียมผู้เชี่ยวชาญและ รพ.รองรับเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพ

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีวัตถุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 (Cesium-137, Cs-137) ของโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี สูญหาย ทำให้เกิดความกังวลอาจมีผู้ที่ไม่ทราบเป็นวัตถุอันตรายและสัมผัสจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปราจีนบุรีรายงานข้อมูลเบื้องต้นว่า วัตถุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหาย มีลักษณะเป็นแท่งทรงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว มีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็ก ซึ่งหากยังอยู่ในสภาพเดิมจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งขณะนี้ยังค้นหาไม่พบ จากการประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่า วัตถุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ที่สูญหายได้หลุดออกจากเครื่องกำบัง จึงยังไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้กองสาธารณสุขฉุกเฉิน เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ รวบรวมรายชื่อผู้เชี่ยวชาญด้านกัมมันตรังสี อาทิ นายแพทย์เชี่ยวชาญ สถาบันอาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม รพ.นพรัตนราชธานี , ผู้เชี่ยวชาญด้านการคำนวณปริมาณรังสีจากแหล่งกำเนิดรังสีภายในร่างกาย การป้องกันอันตรายจากรังสี และรังสีกับสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี และผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุอันตราย จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น รวมทั้งเตรียมประสาน รพ.นพรัตนราชธานี และ รพ.รามาธิบดี กรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสี

‘สตรีสามจังหวัดชายแดนใต้’ ร่วมโครงการ 'WE Achieve' พัฒนาศักยภาพ ก้าวข้ามข้อจำกัด ยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง

(14 มี.ค. 66) สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตทั่วโลก รวมถึงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ การปิดประเทศและการเลิกจ้างงานในช่วงโควิด ทำให้หลายครอบครัวที่เคยพึ่งพารายได้จากสมาชิกที่ย้ายไปทำงานในประเทศมาเลเซียต้องขาดรายได้ และขาดความมั่นคงทางการเงิน

กลุ่มเยาวชนและสตรีก็ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เงื่อนไขทางสังคมวัฒนธรรมที่จำกัดงานบางประเภท เช่น งานก่อสร้างและงานด้านเทคนิคไว้เฉพาะผู้ชาย นับเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาทักษะและรายได้ของผู้หญิงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้

รายงานหลายฉบับชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงมีความเสี่ยงต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจของโควิด-19 มากกว่าผู้ชายถึง 1.8 เท่า (McKinsey, 2020) เนื่องจากมีอัตราการว่างงานที่สูงกว่า และมีภาระที่เพิ่มขึ้นจากการที่ต้องดูแลลูกและทำงานบ้าน

มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก (ประเทศไทย) จึงร่วมมือกับบริษัท Avery Dennison ในโครงการ WE Achieve ตั้งแต่ปี 2565 เพื่อเข้ามาสนับสนุนห้องสำหรับปั๊มนมแม่และดูแลเด็กเล็ก อุปกรณ์เบื้องต้นสำหรับเด็ก รวมไปถึงสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฝากเลี้ยง กรณีที่ลูกไม่มีผู้ดูแลระหว่างมาเรียน

โครงการ WE Achieve เป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมอาชีพและทักษะชีวิตเยาวชน เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ชายแดนใต้ (USAID Achieve) สนับสนุนโดยองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ตั้งแต่ปี 2561 เพื่อสร้างโอกาสทางอาชีพ เสริมพลัง และสร้างคุณค่าในตัวเองผ่านการพัฒนาทักษะชีวิตของเยาวชน ซึ่งมีภูมิหลังที่แตกต่างให้สามารถอยู่ร่วมกัน

โดยมูลนิธิช่วยเหลือเด็ก (ประเทศไทย) ร่วมมือกับ THE LOOKER สถาบันอาชีวะและสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานในจังหวัดปัตตานี จัดอบรมวิชาชีพให้เยาวชน เช่น สาขาการทำอาหาร สาขาตัดเย็บเสื้อผ้าบุรุษ และสาขาทาสีและปูกระเบื้อง รวมถึงให้ความรู้ด้านทักษะชีวิต การเงิน และการทำธุรกิจขนาดเล็ก ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 500 คน โดยมากกว่าร้อยละ 85 ของผู้เข้าร่วมเป็นผู้หญิง

“การเสริมพลังให้ผู้หญิงเป็นสิ่งหนึ่งที่ Avery Dennison ให้ความสำคัญมาก เพราะนำมาซึ่งโอกาสที่ผู้หญิงจะได้พัฒนาชีวิตของตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่เข้าไม่ถึงโอกาสในทักษะวิชาชีพที่ตรงกับตลาดแรงงาน”

“ในโครงการของมูลนิธิช่วยเหลือเด็ก (ประเทศไทย) นั้น เราทราบว่าเยาวชนหญิงและคุณแม่อายุน้อยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนต้องพบกับความท้าทายหลายอย่าง และมีข้อจำกัดในการเข้าถึงการศึกษาและวิชาชีพ เราจึงเข้ามาสนับสนุนในด้านนี้เพื่อมอบโอกาสให้พวกเธอได้ต่อยอดในอนาคต” นายภูวดล วงศ์แสงทรัพย์ ผู้จัดการโรงงาน บริษัท เอเวอรี่ เดนนิสสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

จากการพูดคุยกับ 4 เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ WE Achieve ‘ฮัซนี อาแว’ และ ‘อักรัน สาแม’ คู่สามี-ภรรยา หนุ่มสาวที่เพิ่งแต่งงานใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ฮัซนี แม่บ้านวัย 20 ปี ได้ยินคำบอกเล่าจากญาติที่เคยเข้าร่วมโครงการว่าสอนจริง ได้งานจริง

ฮัซนีที่เพิ่งเรียนจบชั้น ม.6 จึงไม่รอช้า รีบติดต่อขอสมัครเข้าร่วมโครงการ ด้วยความหวังว่าเธอจะมีทักษะและมีงานทำ เธอเข้าร่วมโครงการได้ไม่นานก็ชวนอักรันไปลงสมัครเรียนด้วยกัน เขาเองก็อยากพัฒนาทักษะเพื่อมาช่วยพ่อ และสร้างรายได้เพิ่มให้ครอบครัว ซึ่งอยู่รวมกันถึง 9 คน

คู่สามีภรรยาเล่าว่า บางครั้งเหนื่อยและแทบถอดใจอยากเลิกเรียน ด้วยระยะการเดินทางจากบ้านไปตัวเมืองปัตตานีนั้นกินเวลากว่า 2 ชั่วโมงด้วยการขี่มอเตอร์ไซค์ทั้งไปและกลับ แต่เมื่อนึกถึงโอกาสและรายได้ที่จะได้รับหากจบการศึกษาในโครงการ ทั้งฮัซนีและอักรันก็พยายามเข้าเรียนให้ครบทุกครั้ง

นอกจากหลักสูตรตัดเย็บเสื้อผ้าที่ทั้งสองได้ฝึก ฮัซนีและอักรันยังได้เรียนทักษะชีวิตด้านอื่น ๆ เช่น การออมเงิน และการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งเป็นทักษะที่รวมอยู่ในหลักสูตรของโครงการความฝันของฮัซนีและอักรันคือการมีร้านรับตัดเสื้อผ้าแบรนด์ของตัวเอง

ฮัซนีและสามีตั้งใจจะตั้งชื่อแบรนด์ว่า ‘Anakees’ ตามชื่อร้านเดิมของพ่ออักรัน ทั้งคู่เชื่อว่า หากมีร้านออนไลน์จะช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น และสามารถสร้างอาชีพกระจายรายได้ไปยังช่างตัดเย็บมีฝีมือคนอื่น ๆ ในชุมชนได้อีก

‘คอดีเยาะห์ ฮะซา’ คุณแม่วัย 25 ปี เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้เข้าร่วมโครงการ WE Achieve ในสาขาอาหารและการบริการ คอดีเยาะห์เลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน ส่วนสามีรับงานกรีดยางที่รัฐกลันตันในมาเลเซีย ลำพังงานกรีดยางไม่พอเลี้ยงครอบครัวที่มีลูกอีก 2 คน

“สามีไปเจอโครงการในเฟซบุ๊กเลยถามเราว่าสนใจไหม ตอนนั้นเราเข้าไปดูในเพจก็เห็นมีผู้หญิงเรียนช่างไฟ รู้สึกว่าน่าสนใจ เลยลองเข้าไปดู อยากหาประสบการณ์มาต่อยอดให้ตัวเอง ทำอะไรที่บ้าน แค่สามีหาเงินคนเดียว ลูกของเราโตขึ้นคงไม่พอ ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยคงไม่ได้” คอดีเยาะห์ เล่า

จากที่เคยเลี้ยงลูกเอง เธอต้องฝากลูกไว้กับพี่สาวและจ้างคนมาช่วยดูแล การสนับสนุนเรื่องค่าเดินทางจากบ้านไปเรียนในตัวเมืองปัตตานีและค่าเลี้ยงดูลูกบางส่วนช่วยแบ่งเบาภาระของเธอได้มาก แม้ช่วงที่เรียนจะค่อนข้างหนักสำหรับแม่ที่มีลูกเล็ก แต่คอดิเยาะห์ตั้งใจเรียนจนจบ

ปัจจุบันเธอนำความรู้ที่ได้จากห้องเรียนมาทดลองทำซาโมซาส่งขายในชุมชน แม้รายได้จะยังไม่มาก แต่นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เธอภูมิใจในตัวเองที่เลี้ยงลูกได้แม้สามีไม่อยู่ และยังเริ่มต้นหารายได้เสริมให้ครอบครัว ลูกของเธอเองก็ชอบซาโมซาและมักขอให้เธอทำให้กินบ่อยครั้ง

‘นูรีฮัน หะ’ เป็นอีกคนที่เข้าเรียนในสาขาอาหารและการบริการ เธอเป็นลูกคนที่สองของพี่น้องทั้งหมด 5 คน สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้นูรีฮันซึ่งตอนนั้นกำลังเรียนคณะศึกษาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยในอินโดนีเซียต้องเดินทางกลับไทย

“พ่อทำงานเป็น รปภ. อยู่หาดใหญ่ แม่อยู่บ้าน พี่ชายผ่อนรถ และมีลูกที่ดูแล 2 คน อยากให้พ่อหยุดทำงานมาอยู่บ้าน แต่ตอนนี้ยังไม่ลงตัว ครอบครัวยังต้องเช่าบ้าน ต้องผ่อนมอเตอร์ไซค์อยู่” นูรีฮันบอกเล่า

นูรีฮันใช้เวลาสมัครเข้าร่วมโครงการถึงสองหนกว่าจะได้รับคัดเลือก เธอเล่าว่าตื่นเต้นมาก เพราะชื่อของเธออยู่ในลำดับสุดท้ายของคนที่ได้รับคัดเลือก ไม่เพียงแต่รายการอาหารใหม่ ๆ ที่นูรีฮันฝึกหัด โครงการ WE Achieve ยังสอนทักษะการทำธุรกิจ ทั้งการคำนวณต้นทุน กำไร การจัดการเงิน ซึ่งจำเป็นต่อการต่อยอดทางธุรกิจของผู้เรียนต่อไป

“เขาจะสอนให้เราคิดว่าทำขนมแต่ละครั้งมีต้นทุน กำไร ค่าแรงของเราเท่าไหร่ ขายของแต่ละครั้งมีกำไรเท่าไหร่ ซึ่งมีประโยชน์มาก เราจะได้จัดการระบบของเราได้ ถ้าเราไม่รู้เรื่องการเงิน เราจะขายไปอย่างเดียวโดยไม่รู้ว่าเงินต้นทุน กำไร ค่าแรงอยู่ไหน” นูรีฮันบอกเล่า

หลังเรียนจบ นูรีฮันขายบราวนี่ออนไลน์ ทำคัพเค้กให้งานแต่งงาน รวมถึงรับออเดอร์ขนมจากเพื่อนและคนรู้จัก นูรีฮันค่อย ๆ ก้าวเข้าใกล้ความฝันมากขึ้น หลังแผนธุรกิจของเธอได้รับเลือกให้รับเงินทุนสนับสนุนจากโครงการ WE Achieve ให้นำไปต่อยอดธุรกิจ

“โครงการนี้เป็นเหมือนแรงผลักดันให้เราอยากไปต่อ เราสามารถเรียนไปทำไปได้ ไม่ต้องซื้อวัตถุดิบมาทำเอง ไม่ต้องเตรียมอะไร แค่เตรียมตัวเตรียมใจมาตั้งใจเรียนอย่างเดียว แต่ก่อนไม่กล้าคิดจะเปิดร้านส่วนตัวเพราะเงินไม่อำนวย แต่พอมาโครงการนี้ก็เริ่มมีความหวังว่าจะเปิดร้านได้” นูรีฮันปิดท้ายด้วยแววตาสดใสและมีความหวัง

ครม. เคาะ!! ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ นทท.ต่างชาติ พร้อมจัดเก็บค่าวัคซีนเป็นรายได้แผ่นดิน

(14 มี.ค.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) ภายใต้พระราชกำหนดเงินกู้ฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ให้กรมควบคุมโรคเปลี่ยนแปลงรายละเอียด ซึ่งเป็นสาระสำคัญของโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทยจำนวน 60 ล้านโดส (AstraZeneca) ปี พ.ศ. 2565 โดยการปรับลดราคาวัคซีนตามโครงการเหลือ 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อโดส ส่งผลให้วงเงินตามโครงการลดลงเหลือ 18,382.46 ล้านบาท (เดิม 18,639.10 ล้านบาท) และปรับเพิ่มกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นกลุ่มเป้าหมายตามโครงการด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รวมถึงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชากรในประเทศไทยจำนวน 30 ล้านโดส (Pfizer) ปี พ.ศ. 2565 โดยปรับเพิ่มกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นกลุ่มเป้าหมายตามโครงการ และขยายระยะเวลาดำเนินโครงการจากสิ้นสุด ธ.ค. 65 เป็น ก.ย. 66


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top