Sunday, 27 April 2025
NEWS FEED

‘รัฐบาล’ ยัน มีกฎหมายควบคุมอาหารผสมกัญชา ย้ำ!! ร้านต้องขึ้นป้ายแจ้งชัดเจน ฝ่าฝืนปรับ 5 หมื่นบาท

(4 มี.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่มีรายงานข่าวระบุถึง กรณีทางการของต่างประเทศ ได้มีคำเตือนประชาชนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย ให้ระมัดระวังการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา ที่อาจพบได้โดยทั่วไปนั้น ขอชี้แจงว่ารัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินดูแลและควบคุมในเรื่องนี้อย่างรัดกุม มีกฎหมายกำหนดให้ร้านอาหารทุกแห่งที่จำหน่ายเมนู ซึ่งมีส่วนผสมของกัญชา กัญชง ต้องดำเนินการปิดป้ายแสดงให้ลูกค้าทราบอย่างจัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภครวมถึงนักท่องเที่ยวทราบ และตัดสินใจเลือกได้ ว่าจะรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมนั้นหรือไม่ โดยหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม จะมีโทษปรับ 50,000 บาท ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 โดยรายละเอียดแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารจะอยู่ใน ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ การควบคุมคุณภาพและการจัดการ สุขลักษณะของการจำหน่ายอาหารประเภทปรุงสำเร็จในสถานที่จำหน่ายอาหาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. 2565 เป็นต้นมา

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตามประกาศฯ ได้กำหนดให้ร้านอาหารที่มีการนำกัญชาหรือกัญชง มาเป็นส่วนประกอบต้องดำเนินการ ดังต่อไปนี้

1.) แสดงข้อความหรือป้ายสัญลักษณ์ว่าเป็นสถานที่จำหน่ายอาหาร ที่มีการใช้กัญชา หรือกัญชง เป็นส่วนประกอบ

2.) แสดงรายการอาหารที่มีการใช้กัญชา หรือกัญชง เป็นส่วนประกอบ

3.) แสดงข้อแนะนำความปลอดภัยในการบริโภค อาทิ บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ควรงดเว้นรับประทาน, ถ้ามีอาการผิดปกติ ควรหยุดรับประทานทันที รีบพบแพทย์หากมีอาการรุนแรง, รับประทานแล้วเกิดอาการง่วง ซึม ให้หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล เป็นต้น (อ่านประกาศฉบับเต็ม : bit.ly/3ENUOti)

‘ซิโก้’ นำอัฐิของ ‘น้องดอม’ สมาชิกทีมหมูป่า กลับถึงไทยแล้ว ด้านครอบครัวเตรียมนำไปประกอบพิธีฯ ที่วัดพระธาตุดอยเว้า

(4 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.30 น. ที่ผ่านมา ที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือ ‘ซิโก้’ ประธานมูลนิธิซิโก้ ได้นำอัฐิของ ‘น้องดอม’ หรือ นายดวงเพชร พรหมเทพ หนึ่งในทีมหมูป่า อะคาเดมี ที่เสียชีวิตที่ประเทศอังกฤษ กลับมายังประเทศไทย ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG911 โดยมี นางธนพร พรหมเทพ แม่ของน้องดอม และครอบครัว จากจังหวัดเชียงราย เดินทางมารับอัฐิของน้องดอมที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางพิธีศาสนาที่จังหวัดเชียงรายต่อไป

โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทั้งนี้ครอบครัวของน้องดอม จะเดินทางกลับจังหวัดเชียงรายทันที ในช่วงเที่ยงของวันนี้

‘บิ๊กตู่’ ลั่น!! นี่คือผม สู้ทุกอย่าง ไม่ยอมแพ้ใครทั้งสิ้น เพื่อให้ใบหน้าของประชาชนทุกคนมีแต่รอยยิ้ม

เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.66) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวขณะลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงการดำเนินงาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ให้ประชาชนทุกคนมีอาชีพ มีรายได้ มีรอยยิ้ม ว่า…

“สู้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม เพราะนี่คือผม ไม่ยอมแพ้ใครทั้งสิ้น

ระทึก!! ไฟไหม้ บก.น.5 ย่านสาทรเหนือ เผาวอดทั้งหลัง หวั่น เอกสารคดีสำคัญเสียหาย ‘ผบช.น.’ สั่งเร่งสืบหาสาเหตุ

(4 มี.ค. 66) ร.ต.อ.มัสโรจน์ เมฆวิเชียรเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. จึงประสานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยกรุงเทพมหานคร นำรถน้ำกว่า 50 คัน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่ถนนสาทร ฝั่งขาเข้า ใกล้กับแยกนรินทร พบเพลิงกำลังลุกไหม้รุนแรง อาคารสูง 3 ชั้นทั้งหมดทุกชั้น มีเปลวเพลิงสูงกว่า 10 เมตร และเสียงระเบิดประทุดังสนั่นเป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงต้องปิดกั้นการจราจร ตั้งแต่สี่แยกนรินทร ผ่านบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร พร้อมระดมหน่วยดับเพลิงลากสายฉีดน้ำกว่า 50 หัวเร่งฉีดน้ำเข้าควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้ แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปภายในอาคารได้ เนื่องจากหลังคาอาจถล่มลงมา เบื้องต้นจากการตรวจสอบขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ติดค้าง หรือพักอาศัยอยู่ภายใน ส่วนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดไว้รอบอาคาร ได้รับความเสียหายจำนวน 7 คัน หนึ่งในนั้นเป็นรถยนต์ประจำตำแหน่งของ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 หมายเลขทะเบียน ตราโล่ 09806 สภาพกันชนหน้ารถละลายจากความร้อน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาฉีดน้ำควบคุมเพลิงนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสงบลง

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ ขณะกำลังจะไปออกกำลังกาย พร้อมระบุว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเวรยามรักษาการด้านหน้าอาคาร ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิด คล้ายไฟฟ้าลัดวงจรที่บริเวณชั้นล่างของตัวอาคาร จากนั้นเห็นแสงเพลิงกำลังลุกไหม้กองเอกสาร จากนั้นก็รีบนำถังดับเพลิงวิ่งเข้าไปฉีด แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้เข้ามาช่วยเหลือ โชคดีที่ใกล้จุดเกิดเหตุมีน้ำคลองสาทร จึงสามารถใช้ในการดับไฟได้

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับอาคารหลังนี้ ขณะนี้เพลิงลุกไหม้เต็มพื้นที่ ทำให้ส่วนของหลังคาและพื้น ที่มีไม้เป็นส่วนประกอบ ถูกไฟเผาจนหมดสิ้น ส่วนบริเวณพื้นที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในความดูแลของตำรวจ จึงอยากฝากให้ประชาชนระมัดระวัง เนื่องจากช่วงนี้อากาศแห้ง และขอให้ระวังเรื่องการใช้ไฟฟ้า เศษขยะอันจะก่อให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้

ต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ ระบุว่า จากการสอบถามเวรยามรักษาการทราบว่า มีเพลิงลุกไหม้ที่บริเวณชั้นหนึ่ง จากนั้นตำรวจรักษาการเห็นเปลวเพลิง และรีบนำถังดับเพลิงมาฉีดสกัด จำนวน 2 ถัง แต่เนื่องจากจุดที่ไฟไหม้เป็นกองเอกสาร ทำให้ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงรีบโทรแจ้งรถดับเพลิงมาที่เกิดเหตุ ก่อนที่ไฟจะลุกลามไปยังชั้น 2 และ 3 อย่างรวดเร็ว จนตัวหลังคาได้รับความเสียหายทั้งหลัง

‘ศิษย์เก่าฯ’ จี้ ยกเลิก ‘สัญลักษณ์ใหม่-Brand Chula’ โวย!! คนออกแบบอยากทันสมัย แต่ไม่เข้าใจรากเหง้า

กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มนิสิตเก่าขอตราพระเกี้ยวยั้งยืนยง เรียกร้องอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยกเลิกตราสัญลักษณ์ใหม่ และ Brand Chula ชี้คนออกแบบรูปคล้ายพระเกี้ยวเขียนตามจินตนาการ อยากให้ดูทันสมัย แต่ไม่เข้าใจรากเหง้า อีกทั้งคำว่า ‘Chula’ ยังตัดแยกแถมด้อยค่าพระนามเต็ม ซ้ำแบรนด์สินค้าอื่น และเป็นคำสแลงในภาษาสเปนเชิงชู้สาว

(4 มี.ค. 66) รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘กลุ่มนิสิตเก่าขอตราพระเกี้ยวยั้งยืนยง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย’ ประกอบด้วย รศ.ประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตและรองอธิการบดีฝ่ายทรัพย์สิน ปี 2520-2532 พร้อมด้วย รศ.ศรีวงศ์ สุมิตร รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต ปี 2539-2543 คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ปี 2526-2529, นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ ปี 2513, ผศ.จำรูญ ณ ระนอง ประธานสภาคณาจารย์ ปี 2538-2539, นายธัชพงศ์ ธรรมพุฒิพงศ์ นายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ ปี 2529 และนายสวัสดิ์ จงกล อดีตผู้อำนวยการหอประวัติ ผู้เชี่ยวชาญประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำหนังสือถึง ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกตราสัญลักษณ์ใหม่ (รูปคล้ายพระเกี้ยว) และ Brand Chula เนื่องจากมีความไม่ถูกต้องเหมาะสมต่อการเผยแพร่สู่สาธารณะ สร้างความเสียหายต่ออัตลักษณ์และเกียรติภูมิของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดยพบว่า ‘ตราพระเกี้ยว’ ซึ่งเป็นตราประจำมหาวิทยาลัยเป็นรูปพระเกี้ยววางบนหมอน ซึ่งมีที่มาจากพระราชลัญจกรประจำพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พบว่า ตราสัญลักษณ์ที่เขียนขึ้นใหม่ เป็นการเขียนตามจินตนาการของผู้ออกแบบที่ไม่มีความรู้ในเรื่องศิลปะในสถาปัตยกรรมไทย และไม่เข้าใจรากเหง้าและประวัติของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่เพียงเพื่อให้ดูทันสมัยและเป็นสากล แม้จะอ้างว่าไม่ได้ใช้เป็นตราประจำมหาวิทยาลัย แต่อาศัยอำนาจใดประกาศให้ใช้ตราสัญลักษณ์อันมีลักษณะที่ผิดเพี้ยนทำให้คนส่วนใหญ่หลงเข้าใจผิด และเข้าข่ายกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2551

ส่วนตัวอักษร Logotype ที่ใช้คำว่า ‘Chula’ เป็นการตัดแยกชื่อเต็มซึ่งเป็นพระนามของพระมหากษัตริย์ อันเป็นการด้อยค่าพระนามเต็มแล้วสร้างชื่อใหม่ขึ้นมาแทน และซ้ำกับชื่อสินค้าหลายชนิดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งในภาษาสเปน คำว่า ‘Chula’ เป็นคำสแลงที่มีความหมายเป็นคำชมหญิงสาวในเชิงดูหมิ่นไปในเรื่องทางเพศอีกด้วย เป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยดูตกต่ำมากกว่าทำให้ดูดีเป็นสากล อีกทั้งเป็นการออกแบบสัญลักษณ์แทนชื่อตัวเองที่มีลักษณะไม่เป็นมงคล คือตัดขาดกันเอง สูงต่ำสลับกัน และแตกต่างในทิศทางซ้ายขวาของหัวตัวอักษรและดูไม่มั่นคงสมกับเป็นสถาบันการศึกษาอีกด้วย จึงไม่สมควรนำมาใช้อย่างเป็นทางการในสถานะของ Brand Chula จึงควรใช้ชื่อเต็มให้รับรู้และจดจำด้วยคำว่า ‘Chulalongkorn’ ไม่ควรจงใจตัดทอนให้สั้น เพียงเหตุผลว่าง่ายต่อการจดจำแล้วสูญเสียเอกลักษณ์สำคัญ อีกทั้งยังสื่อความหมายในเชิงลบต่อจุฬาฯ อีกด้วย

ด้านเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ‘ขอตราพระเกี้ยวยั้งยืนยง’ โพสต์ข้อความระบุว่า…

เมื่อวันที่ 1 มีนาคมนี้ ‘กลุ่มนิสิตเก่าขอตราพระเกี้ยวยั้งยืนยง’ ได้ส่งหนังสือคัดค้านการใช้รูปตราสัญลักษณ์แบบใหม่ไปถึงอธิการบดี ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ซึ่งท้ายเอกสารฉบับนี้ลงนามโดย รศ.ประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ (รองอธิการบดี พ.ศ.2520-2532), รศ.ศรีวงศ์ สุมิตร (รองอธิการบดี พ.ศ. 2539-2543 และคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ พ.ศ. 2526-2529), ผศ.จำรูญ ณ ระนอง (ประธานสภาคณาจารย์ พ.ศ.2538-2539 และนายกสโมสรอาจารย์จุฬาฯ พ.ศ. 2539 - 2543), นายประสาร มฤคพิทักษ์ (นายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ พ.ศ. 2513) และนายธัชพงศ์ ธรรมพุฒิพงศ์ (นายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ พ.ศ.2529)

โดยเนื้อหาในเอกสารได้ระบุว่ากลุ่มนิสิตเก่าจุฬาฯ ซึ่งมีหลายรุ่นหลายคณะต้องการแสดงความเห็นคัดค้านการใช้ตราสัญลักษณ์ใหม่ที่ดูคล้ายตราพระเกี้ยวเดิม และรูปสัญลักษณ์ตัวอักษรคำว่า ‘Chula’ ซึ่งมหาวิทยาลัยระบุให้เป็น Official Logo Brand ใช้ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ทุกชนิดและให้ทุกหน่วยงานใช้รูปตราสัญลักษณ์นี้ ซึ่งในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยก็เปลี่ยนจากตราพระเกี้ยวเดิมมาเป็นตราใหม่นี้หมดแล้ว

รมว.พิพัฒน์ เปิดงานเทศกาลลานตา ลันตา ครั้งที่ 18 ประจำปี 2566

เมื่อวานนี้ (3 มี.ค. 66) เวลา 19.00 น. ณ ลานหน้าที่ว่าการอำเภอ เกาะลันตา (หลังเก่า) พิพิธภัณฑ์ชุมชนชาวเกาะลันตา ของนายพิพัฒน์  รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพิธีเปิดงานเทศกาลลานตา ลันตา ครั้งที่ 18 ประจำปี 2566โดยมีนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารสสนจังหวัดกระบี่ นายนพรัตน์ ศรีหรหม นายอำเภอเกาะลันตา นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด และผู้นำท้องถิ่น ให้เกียรติต้อนรับ รมว.พิพัฒน์  กล่าวว่ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติเป็นประธานเปิดงานเทศกาลลานตา ลันตา ครั้งที่ 18 (LAANTA LANTA FESTIVAL 2023) ในวันนี้ 'อำเภอเกาะลันตา' เป็น 1 ใน 8 อำเภอของจังหวัดกระบี่ 

ซึ่งมีประวัติศาสตร์ ความเป็นมายาวนานกว่า 122 ปี โดยพื้นที่เกาะลันตานั้นมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ ทั้ง ทะเล ท้องฟ้า หาดทราย เกาะแก่งน้อยใหญ่ มากถึง 53 เกาะ อำเภอเกาะลันตา ถือเป็นเมือง 'สังคมพหุวัฒนธรรม' อันประกอบไปด้วย พี่น้องมุสลิม ไทยพุทธ ชาวไทย เชื้อสายจีน และชาวเล (หรือชาวไทยใหม่) ความแตกต่างทางด้านพหุวัฒนธรรมนี้ ได้ส่งผลให้เกิดขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์ ควรค่าแก่การเก็บรักษา ให้เยาวชนรุ่นหลังได้เข้ามาสัมผัสเรียนรู้ เพื่อสืบสานและพัฒนาต่อยอดต่อไป 

คอบร้าโกลด์ 2023 แสดงการ ฝึกการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก เสริมสร้างความพร้อมรบและพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร

วันที่ 3 มีนาคม 2566 พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้แทนผู้บัญชาการทางสูงสุด พร้อมด้วย คุณ เกว็นโดลิน คาร์ดโน อัครราชทูตที่ปรึกษา ณ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และนาย มุนซึงฮยอน (Moon Seoung-hyun) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ร่วมตรวจเยี่ยมการฝึกการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ในการฝึกคอบร้าโกลด์ 2023  ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 15 หาดยาว อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี  

การฝึกการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก มีหลักปฏิบัติเพื่อแย่งยึดพื้นที่บริเวณหัวหาดของฝ่ายตรงข้าม โดยใช้สรรพกำลังทางเรือ และกำลังรบยกพลขึ้นบก เริ่มจากการระดมยิงหัวหาดด้วยปืนใหญ่เรือ อากาศยานทำการสนับสนุนทางอากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อลิดรอนอำนาจการยิงต่อต้านของข้าศึก หลังจากนั้นกำลังรบยกพลขึ้นบกจะเข้าแตะหาด และดำเนินกลยุทธ์รุกเข้าไปในดินแดนฝ่ายตรงข้ามต่อไป พร้อมทั้งสถาปนาหัวหาดให้มีความปลอดภัยต่อกำลังรบ ซึ่งในปีนี้มีกำลังพลเข้าร่วมการฝึกจากกองทัพไทย กองทัพสหรัฐอเมริกา และกองทัพสาธารณรัฐเกาหลี โดยกองทัพสหรัฐอเมริกาได้นำเรือ USS Makin Island (LHD-8) และเครื่องบินขับไล่แบบ F-35 พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารต่าง ๆ มาเข้าร่วมการฝึกฯ ร่วมกับกองกำลังฝ่ายไทย โดยกองทัพเรือได้นำเรือหลวงอ่างทอง และเรือหลวงราวี พร้อมกำลังรบยกพลขึ้นบก (นาวิกโยธิน) และรถสะเทินน้ำสะเทินบก ร่วมกับกองทัพอากาศ ซึ่งได้จัดเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 เข้าร่วมการฝึกฯ สำหรับกองทัพสาธารณรัฐเกาหลี ได้นำรถสะเทินน้ำสะเทินบก KAAV เข้าร่วมในการฝึกฯ ครั้งนี้ด้วย

‘บิ๊กตู่’ แสดงความเสียใจเหตุลอบวางระเบิดชุด EOD สั่งเยียวยา-ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้ดีที่สุด

(4 มี.ค. 66) พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวแสดงความเสียใจ กับครอบครัวของกำลังพลชุด EOD จำนวน 2 นาย และกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จากการถูกกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ จชต.ลักลอบวางระเบิด ขณะเดินทางปฏิบัติงานในพื้นที่ บ้านไออาร์แซ ตำบลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ในช่วงเย็นวานนี้ (3 มี.ค.66)

โดยทางนายกระฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ กองทัพบก และ กอ.รมน.ภาค 4 นำผู้เสียชีวิต ร่วมประกอบพิธีทางศาสนาอย่างสมเกียรติ และช่วยเหลือดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างดีที่สุด รวมทั้งให้เยียวยาและดูแลสิทธิกำลังพลและครอบครัว ผู้ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียอย่างต่อเนื่อง

ยกเป็นแบบอย่างสังคม ‘ผบ.ตร.’ มอบรางวัล ‘พระกระโดดกำแพง’ ช่วยป้าร้านขายของชำ ถูกคนร้ายจี้คอ

(3 มี.ค. 66) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “ตามที่ปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์  พระ 2 รูป กระโดดกําแพงช่วยป้าเจ้าของร้านของชํา ขณะโดนชายบุกล็อคคอ ซึ่งพระ 2 รูปดังกล่าวคือ พระขวัญเมือง ศิริธัมโม และ พระสมศรี ธรรมะสาโร วัดโขดหิน ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง โดยตามวันเวลาที่เกิดเหตุ พระขวัญเมืองฯ และ พระสมศรีฯ ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงได้พากันกระโดดกําแพงสูง 3 เมตร เข้าไปช่วยเหลือนางสําเนา เค้าคล่อง ที่กําลังถูกคนร้ายล็อคคอและใช้มีดจี้ เมื่อคนร้ายเห็นพระขวัญเมืองฯ และพระสมศรีฯ วิ่งเข้ามา คนร้ายก็ได้ปล่อยตัว นางสําเนา และหลบหนีไป
.
สํานักงานตํารวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทําของ พระขวัญเมืองฯ และ พระสมศรีฯ สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติยกย่องสรรเสริญเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคมทั้งนี้ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้กล่าวชื่นชมในความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว พร้อมด้วยไหวพริบปฏิภาณและจิตวิญญาณของความเป็นพลเมืองที่ดี คิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวม มีจิตสํานึกที่ดีหรือจิตสาธารณะ ที่เห็นบุคคลอื่นได้รับอันตราย ต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและทันท่วงที โดยมิได้เกรงกลัวต่อภยันอันตรายแต่อย่างใด ทําให้ไม่เกิดความสูญเสียหรือเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติ ยกย่องสรรเสริญ “ตามโครงการทำดีมีรางวัล” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคมสืบไป” 
 

พลังคนกลางคืน!! ‘อ.ไข่’ ชงสภาศิลปะ ร่างกฎหมายดูแลศิลปิน ลั่น! พรรคไหนหนุน 10 ล้านเสียงพร้อมเทคะแนน

‘อ.ไข่ มาลีฮวนน่า’ เดินสายเสนอนโยบายพรรคการเมือง ช่วยเหลือกลุ่มศิลปินนักร้องคนกลางคืน ชงสภาศิลปะศิลปินแห่งชาติ ‘บิ๊กเล็ก’ แนะ คุยวธ.ประกบร่างเดียวเสนอสภาฯ เตรียมยื่น 6 พรรค 9-10 มี.ค.เสนอนโยบายดูแลศิลปิน โว 10 ล้านเสียง พร้อมเป็นฐานหนุน พรรคที่รับข้อเสนอ

(3 มี.ค.66) - เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงาน ก.พ.เดิมถนนพิษณุโลก ตัวแทนสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย นำโดย นายคฑาวุธ ทองไทย หรือ อ.ไข่ มาลีฮวนน่าประธานสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพ พร้อมคณะ อาทิ ตัวแทนสมาคมดนตรี สมาคมเครือข่ายการค้าธุรกิจร้านอาหารกลางคืน สมาคมศิลปินตลก เป็นต้น เข้าพบพล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอให้รัฐบาลออกร่างพระราชบัญญัติสภาศิลปะศิลปินและวัฒนธรรมแห่งชาติ ให้มีตัวแทนจากภาครัฐ ภาคประชาชน และตัวแทนด้านศิลปวัฒนธรรมแขนงต่างๆ เข้าร่วม เพื่อกำหนดแผนแม่บทในการส่งเสริม สนับสนุนศิลปวัฒนธรรมของชาติ

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรี มารับเรื่องและรับฟังปัญหาและเจตนารมณ์ของกลุ่มศิลปิน ที่เสนอร่างกฎหมายฯนี้ โดยก่อนหน้านั้นตนได้เชิญตัวแทนกระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)เพื่อสอบถามรายละเอียด และความเห็นจากภาครัฐ วันนี้มารับฟังความเห็น เจตนารมณ์ ในเรื่องดังกล่าว และเข้าใจเหตุผลในการเสนอร่างฯ เพื่อรับฟังความเห็นอีกด้าน โดยทราบว่ากระทรวงวัฒนธรรม มีร่างพ.ร.บ. วัฒนธรรมแห่งชาติ ไว้แล้ว จึง อยากเสนอแนะให้ภาคประชาชน เสนอร่างประกบกับร่างของกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อลดความซ้ำซ้อน และให้ทางภาคราชการควรเป็นผู้ดำเนินการให้ประชาชน นอกจากนั้นเท่าที่ดูเนื้อหาสาระสำคัญ ยังมีเรื่องการตั้งกองทุน อาจต้องมีการปรับแก้ในรายละเอียดในเรื่องแหล่งช่องทางที่มาของเงินกองทุนฯ เพราะเท่าที่ดูตามที่ระบุไว้ในร่างของสมาพันธ์ฯ เห็นว่าหลายส่วนค่อนข้างมีอุปสรรค หรือมีความเป็นไปได้ยากที่จะดำเนินการตามนั้น จึงควรที่จะหารือร่วมกันเพื่อนำเสนอเป็นกฎหมายประกบกันไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top