Friday, 26 April 2024
NEWS FEED

ดีอีเอส เร่งเครื่องปลดล็อกบุหรี่ไฟฟ้า ส.ส. ก้าวไกล - เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าหนุน 

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าหนุน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ตั้งคณะทำงานศึกษาปลดล็อกบุหรี่ไฟฟ้า ชี้ผลดีในการเก็บภาษีเข้าประเทศและให้ทางเลือกกับประชาชนในแง่การเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่ ชี้ชัดโลกเทรนด์โลกเปลี่ยนไป จับเท่าไหร่ก็ไม่หมด ประเทศชาติเสียประโยชน์ทั้งด้านสาธารณสุขและด้านภาษี และเปิดให้ผู้สนับสนุนร่วมกันลงชื่อเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม 

เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ” (ECST) และเฟซบุ๊กเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1000,000 คน เผยหลังพบกับ รมต. ดีอีเอส ว่า “พวกเราสนับสนุนความตั้งใจของ รมต. ชัยวุฒิ ในการตั้งคณะทำงานที่เป็นกลางเพื่อศึกษาทางเลือกในการใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบถูกกฎหมาย เช่นเดียวกับที่มีการปลดล็อกกระท่อมและกัญชา ทั้งที่เป็นยาเสพติดมาก่อน และหวังว่าการตั้งคณะทำงานในครั้งนี้จะมีความโปร่งใส เปิดรับฟังเสียงจากประชาชนอย่างแท้จริง และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้มีส่วนร่วมในการให้ข้อมูล เราเชื่อว่าการปลดล็อกบุหรี่ไฟฟ้าและนำมาควบคุมให้ถูกกฎหมายจะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการลดอัตราการสูบบุหรี่ ช่วยให้คนในสังคมห่างไกลอันตรายจากควันบุหรี่ ป้องกันการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนได้ และกรมสรรพสามิตสามารถเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง เช่นเดียวกับประเทศอังกฤษที่อัตราการสูบบุหรี่ลดลงได้ เพราะมีการสนับสนุนให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ทำให้นิวซีแลนด์และฟิลิปปินส์ที่ต้องการลดปัญหาการสูบบุหรี่ในประเทศ ก็ได้ร่างกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบไร้ควันให้แตกต่างจากการควบคุมบุหรี่และไม่แบนด้วย” นายอาสา ศาลิคุปต กล่าว 

TCAS ยันไม่ให้นักเรียนติดโควิดเข้าสอบ พร้อมยก 3 เหตุผล ที่ไม่อาจผ่อนปรน

จากกรณีที่มีแฮชแท็ก #แบนทปอ วันเปิดรับสมัครสอบของ Dek65 ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ในประเด็นคำถาม-คำตอบ ว่า ถ้าติดโควิดวันสอบจะมีการแก้ไขอย่างไร และแอดมิน Mytcas.com ตอบว่า “สมัครสาขาที่ไม่ต้องใช้คะแนนครับ” ซึ่งมีผู้มาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย นั้น 

ล่าสุด รศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ ผู้จัดการระบบสมัครสอบ TCAS 65 กล่าวว่า กรณีที่มีคำถามถึงกรณีที่นักเรียนที่มีปัญหาติดเชื้อโควิด-19 ในวันที่มีสอบ TCAS โดย ระบุว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาและปีก่อนหน้าที่ไม่มีสถานการณ์โควิด-19 ผู้ใดที่ไม่สามารถมาสอบยังสนามสอบได้ ถือว่าเป็นผู้ที่ขาดสอบ ซึ่งจะไม่มีคะแนนสอบในปีนั้นๆ ทั้งนี้ ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของไทยตลอดที่ผ่านมาจะไม่มีการจัดสอบ 2 รอบ

ในปีนี้เช่นกัน กรณีนักเรียนที่ไม่สามารถมาสอบเนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงกรณีกักตัว หรือรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากการมาสอบอาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ ฉะนั้นการสอบ TCAS ปี 65 นโยบายของคณะกรรมดำเนินงาน TCAS ไม่อนุญาตให้นักเรียนที่ติดโควิด-19 เข้าสอบและไม่อนุญาตในการจัดให้สอบซ่อมกับนักเรียนที่ติดโควิด-19 โดยมีเหตุผล 3 ข้อคือ

1.) ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคปี 58 กำหนดไว้ว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 หรือมีโรคติดต่อจะไม่สามารถออกมาจากสถานที่กักตัวได้ เพื่อลดการติดต่อ

2.) การจัดสอบ แม้ว่าจะมีการเสนอให้มีการจัดสอบในโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือนักเรียน ซึ่งการจัดสอบทุกครั้งเป็นการสอบแข่งขันระดับประเทศ ข้อสอบที่จัดสอบภายใต้เงื่อนไข การจัดการสนามสอบที่เป็นมาตรฐาน ฉะนั้นการจัดสอบในโรงพยาบาลจึงไม่อาจจัดให้มีมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงไม่สามารถนำข้อสอบที่ปนเปื้อนเชื้อโควิดไปบริหารจัดการได้

3.) การใช้ข้อสอบคนละชุด ในกรณีหากมีการจัดสอบรอบ 2 จะทำให้มีความได้เปรียบ-เสียเปรียบ เนื่องจากเวลาอ่านหนังสือไม่เท่ากันและข้อสอบคนละชุดกัน การสอบแข่งขันแต่ละครั้งจึงต้องใช้ข้อสอบชุดเดียวเพื่อนำคะแนนมาเปรียบเทียบและแข่งขันกันเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาได้

ดังนั้น ตามที่แอดมินเพจ TCAS ตอบนักเรียนก็เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และไปตามที่คณะกรรมการดำเนินการ TCAS65 ให้ข้อมูลไว้ คือ ผู้ที่ขาดสอบในปีนี้ ก็คือ ขาดสอบ โดยจะสามารถเลือกคณะต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้คะแนนสอบได้มากกว่า 1,600 เงื่อนไข หรือ นักเรียนอาจต้องรอสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีหน้า

“ในปีก่อนผู้ที่ขาดสอบ ก็เกิดอุบัติเหตุ เช่น รถชน รถติด ไม่สามารถมาสอบได้ทัน ก็เป็นเหตุสุดวิสัยเช่นกัน ข้ออ้างแบบนั้นไม่สามารถใช้ได้ แนะนำให้นักเรียนรักษาตัวให้ปลอดภัยในช่วงก่อนสอบ ไม่ออกไปนอกสถานที่มากจนเกินไป และให้ระมัดระวังตัวอยู่เสมอ”

ผู้จัดการระบบสมัครสอบ TCAS 65 ยังระบุว่า คำถามของนักเรียนที่แอดมิน เพจ Mytcas ว่า จะเลื่อนสอบหรือไม่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโอมิครอน แอดมินพยายามอธิบายว่า ช่วงเวลาในการเลื่อนสอบมีจำกัด เช่น 7-14 วัน หากสถานการณ์ในการเลื่อนสอบกรณีที่จำเป็นเกิดขึ้นก็จะเลื่อนสอบได้ในระยะเวลา 7-14 วัน ในกรอบที่เตรียมไว้ โดยไม่สามารถเลื่อนสอบไปได้ไกลกว่านั้น โดยตามที่แอดมินตอบว่า แม้ว่าจะมีการเลื่อนสอบออกไปในตารางสอบใหม่ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่า ในวัน-เวลา ดังกล่าว จะไม่มีสถานการณ์โอมิครอนระบาด ฉะนั้นการสอบในเวลาเดิมหรือสอบเวลาใหม่ความเสี่ยงจากสถานการณ์โอมิครอนก็เท่ากันอยู่ดี นั่นคือความหมายของคำตอบของแอดมินฯ

นอกจากนี้ กรณีเปรียบเทียบกับประเทศเกาหลีที่มีการจัดสอบให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 นั้น กรณีดังกล่าวไม่ใช่การสอบระดับชาติ แต่เป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเฉพาะบางแห่งเท่านั้นและไม่ใช่วงกว้างเหมือนกับการสอบระดับชาติแบบไทย จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ ขณะที่การจัดสอบระดับประเทศของไทย ต้องใช้เวลาเตรียมการ 8-9 เดือนจึงจะสามารถจัดการสอบได้ ขณะที่การสอบของประเทศเกาหลีนั้นเป็นคนละรูปแบบกัน

สิงคโปร์เอาจริง ‘จับ-ปรับ’ ดาวรุ่ง OnlyFans ไม่สน!! แม้สังคมตะวันตกมองเป็นเรื่องปกติ

ดาราหนุ่ม OnlyFans ชาวสิงคโปร์งานเข้า เมื่อทางการสิงคโปร์ออกหมายจับข้อหาส่งรูปโป๊ อนาจาร ขายให้กับกลุ่มแฟนคลับผ่านบัญชี OnlyFans ของเขา ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายสื่อลามกอนาจารของสิงคโปร์ และมีสิทธิ์ได้รับโทษทั้งจำ ทั้งปรับ

ติตัส โลว์ ดาราหนุ่มนักสร้างคอนเทนต์ผู้ใหญ่วัย 22 ผ่านสื่อโซเชียลชื่อดัง OnlyFans ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในสิงคโปร์ มีผู้ติดตามผลงานภาพถ่ายส่วนตัวของเขาบนเพจหลายพันคน ถูกจับกุมและตั้งข้อหาโดยทางการสิงคโปร์ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2021 จากการกระทำผิดดังกล่าว

เนื่องจากตามหลักกฎหมายของประเทศสิงคโปร์นั้น การส่งภาพที่เข้าข่ายลามกอนาจารผ่านสื่อโซเชียล ไม่ว่าจะเพื่อแสวงหาผลกำไรหรือไม่ก็ตาม ยังถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ทั้งผู้ส่ง และผู้รับ ซึ่งแม้จะอนุญาต หรือยินยอมพร้อมใจ ก็ยังถือว่าผิด

จากคดีนี้ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสิงคโปร์ว่าการสร้างคอนเทนต์แนวผู้ใหญ่อย่างเปิดเผย สมควรถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ผิด กฎหมายหรือไม่ เพราะ ติตัส โลว์ เอง ก็เป็นดาว OnlyFans คนแรกของสิงคโปร์ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีด้วยข้อหาดังกล่าว ซึ่งหากศาลตัดสินว่าทำผิดจริง ตัวเขาก็อาจต้องรับโทษจำคุกนานถึง 6 เดือน และปรับเงินอีก 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ อันจะส่งผลถึงเส้นทางของผู้สร้างคอนเทนต์ใน OnlyFans รายอื่นๆ ในสิงคโปร์อีกกว่า 100 คนที่มีโอกาสสูงที่จะถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน

สำหรับคดีของ นายติตัส โลว์ นั้น ทางตำรวจสิงคโปร์รายงานว่า ได้เริ่มมีการตักเตือนมาก่อนหน้านี้ หลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของเขาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม (ปี 64) และมีการยึดบัญชี OnlyFans รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไอโฟน และไอแพดของเขา และยังแจ้งเตือนให้เขายุติกิจกรรมใน OnlyFans 

แต่ต่อมานาย โลว์ ได้ติดตามขอบัญชีผู้ใช้คืนจาก OnlyFans และยังเปิดบัญชีสำรองเพื่อโพสต์ภาพนู้ดส่วนตัวผ่านหน้าเพจอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง โดยนาย โลว์ ได้อ้างว่าตัวเขามีรายได้เลี้ยงชีพจากการขายคอนเทนต์บน OnlyFans เท่านั้น ซึ่งการปิดบัญชีผู้ใช้ ทำให้เขาขาดรายได้

นั่นจึงเป็นเหตุให้ทางตำรวจสิงคโปร์ตัดสินใจจับกุมตัวเขาในเดือนธันวาคม ด้วยความผิด 2 กระทง คือ การส่งภาพลามกอนาจารผ่านบัญชี OnlyFans ทั้ง 2 บัญชี และขัดคำสั่งเจ้าพนักงานที่ให้ยุติการเคลื่อนไหวในบัญชีผู้ใช้ของเขา 

ต่อมา นายติตัส โลว์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ว่า ถูกตำรวจสิงคโปร์ข่มขู่ว่าจะดำเนินคดี และยังจับเขาใส่กุญแจมือ และขังคุก ทำให้เขากลัวมาก และไม่เข้าใจว่าตัวเขาทำความผิดร้ายแรงถึงขนาดนั้นเชียวหรือ

ปูนบำเหน็จ “ตำรวจกล้า” เลื่อนยศเป็น พลตำรวจตรี พร้อมเงินเยียวยาครอบครัวกว่า 1,500,000 บาท ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับดูแลสิทธิประโยชน์อย่างดีที่สุดและรวดเร็ว

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า จากเหตุการณ์อันน่าสลดใจ ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.หนองปลิง สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ได้ออกติดตามคนร้ายผู้ก่อเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุแล้วคนร้ายได้คลุ้มคลั่งยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผลให้ ร.ต.อ.ชัยปติณญา แสงปาน รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองปลิง ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว จึงได้กำชับผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นของ ร.ต.อ.ชัยปติณญาแสงปาน รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองปลิง ให้ดูแลสวัสดิการต่าง ๆ แก่ครอบครัวของนายตำรวจผู้เสียสละอย่างดีที่สุดและรวดเร็ว

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ครอบครัวของ ร.ต.อ.ชัยปติณญา แสงปาน รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองปลิง จะได้รับสิทธิประโยชน์เบื้องต้น ดังนี้ 

- เลื่อนยศจาก ร้อยตำรวจเอก เป็นพลตำรวจตรี

- การบรรจุทายาทเข้ารับราชการตำรวจ

- เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

- เงินกองทุนสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

- เงินบำเหน็จตกทอด และเงินสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เบื้องต้นรวมประมาณ 1,500,000 บาท

‘โอมิครอน’ ยึดพื้นที่ทั่วไทย 80% สธ.คาด สิ้นเดือนนี้เข้าแทนที่ ‘เดลตา’ 

นายแพทย์ศุภกิจ เผย ทุกจังหวัดในไทยล่าสุดติดเชื้อโอมิครอนครบแล้ว คาดปลายเดือนนี้เชื้อดังกล่าวเพิ่มเป็น 98% เข้ามาแทนที่จนเดลตาหายไป 

เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์เชื้อโควิด-19 ที่ระบาดในประเทศไทย วันนี้ไม่มีจังหวัดไหนที่ไม่พบเจอเชื้อโอมิครอน โดยพบแล้วทุกพื้นที่ ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 17,021 ราย จังหวัดที่สูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ต สมุทรปราการ และ เชียงใหม่ เพิ่มขึ้นกว่า 200 ราย และเป็นการติดเชื้อในพื้นที่ร้อยกว่าราย แนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้เดินทางมาจากต่างประเทศวันนี้ ร้อยละ 97 เป็นการติดเชื้อโอมิครอน ดังนั้น คนที่ตรวจหาเชื้อพบผลบวก ก็เชื่อได้เลยว่าเป็นโอมิครอนเกือบทั้งหมด

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ส่วนกลุ่มในประเทศก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา จะตรวจโดยตรวจกลุ่มเดินทางมาจากต่างประเทศ และเดินทางผ่านชายแดนเข้ามาทุกราย ด้วยวิธี RT-PCR และจำนวนหนึ่งจะส่งมาถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว โดยสุ่ม 140 ตัวอย่าง ต่อศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งมี 15 แห่งทั่วประเทศ และครึ่งหนึ่งจะถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว ส่วนกลุ่มอื่นๆ เช่น การสุ่มในภาพรวมจากผลบวกในแต่ละวัน คลัสเตอร์การระบาด กลุ่มที่ได้วัคซีนแล้ว และกลุ่มที่มีอาการเสียชีวิต บุคลากรการแพทย์ คนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น

“ข้อมูลในช่วงวันที่ 11-17 มกราคม 2565 ภาพรวมประมาณ ร้อยละ 87 แต่เฉพาะคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ร้อยละ 97 จาก 1,437 ตัวอย่าง ขณะที่ในประเทศตรวจ 2,274 ตัวอย่าง พบเป็นเชื้อโอมิครอน ร้อยละ 80 เชื้อเดลตา ร้อยละ 20 เป็นสัดส่วนที่น่าจะใกล้ความเป็นจริงในภาพรวมของประเทศ” นพ.ศุภกิจ กล่าว

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า สำหรับการตรวจสายพันธุ์ย่อยในประเทศไทย ในกลุ่มคนทั่วไป วันนี้สัดส่วนที่เจอเชื้อโอมิครอน ร้อยละ 85 เชื้อเดลตา ร้อยละ 15 แต่มีเชื้อเดลตาสูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มติดเชื้ออาการรุนแรง หรือเสียชีวิต พบประมาณ ร้อยละ 33 หรือ 2 เท่า ของกลุ่มแรก อันนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าสายพันธุ์โอมิครอนรุนแรงน้อยกว่าเชื้อเดลตาแน่นอน

“ส่วนกลุ่มที่วัคซีนครบถ้วน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มฉีด 2 เข็ม พบเชื้อเดลตาพอสมควร บุคลากรการแพทย์ร้อยละ 25 เป็นเชื้อเดลตา และสุดท้ายที่น่าสนใจ 8 ราย ที่มีการติดเชื้อซ้ำเป็นเชื้อโอมิครอน ร้อยละ 100 จากเดิมคนที่ติดเชื้อเดิม เช่น เชื้อเดลตา จะมีภูมิสูง แต่ยังสามารถติดเชื้อซ้ำเป็นเชื้อโอมิครอนได้ สะท้อนว่า ภูมิเดิมที่มีต่อเชื้อเดิมป้องกันเชื้อโอมิครอนไม่ได้” นพ.ศุภกิจ กล่าวและว่า ในเชิงพื้นที่ตามเขตสุขภาพต่างๆ หลายเขตขึ้นไป ร้อยละ 70-80 ที่เพิ่มมาก คือ เขตฯ 4,6,7 ขึ้นไปเกือบ ร้อยละ 90 และเขตฯ 13 กรุงเทพฯ ร้อยละ 86 ส่วนใหญ่เป็นเชื้อโอมิครอน ที่เหลือลดลง แต่ที่น่าสังเกตคือเขตฯ 12 หรือชายแดนใต้ ครึ่งหนึ่งเป็นเชื้อเดลตา ดังนั้น พื้นที่นี้มีลักษณะชุมชนแตกต่างจากที่อื่นๆ เช่น ไม่มีสถานบันเทิง และไม่มีการรั่วไหลมาจากมาเลเซีย คนมาจากต่างประเทศก็ไม่ได้ไปในพื้นที่มากมาย ทำให้ครึ่งหนึ่งยังเป็นเชื้อเดลตา แต่ในที่สุดจะถูกแทนที่ด้วยเชื้อโอมิครอนอยู่ดี

“เฉลิมชัย” มอบ “อลงกรณ์” ลงพื้นที่หน้าด่านหนองคาย-อุดรฯ สัปดาห์หน้า ประสานผู้ประกอบการ ”ไทย-ลาว-จีน” ร่วมมือส่งออกข้าว-ยางพารา-ผลไม้ บนเส้นทางรถไฟสายใหม่รับมือฤดูกาลผลิตปี 2565

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กรกอ.)และประธานคณะทำงานจัดทำแผนแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบเปิด

เผยวันนี้(21ม.ค.)ว่า ในวันพฤหัสบดีสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปหนองคาย-อุดรฯ เพื่อหารือกับผู้ประกอบการ ”ไทย-ลาว-จีน” ด้านโลจิสติกส์เพื่อร่วมมือกันในการสนับสนุนการส่งออกสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา ผัก ผลไม้กล้วยไม้ สินค้าประมงและสินค้าปศุสัตว์บนเส้นทางรถไฟลาว-จีน 

สำหรับฤดูกาลผลิตปี 2565 ตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมทั้งการติดตามความคืบหน้าของนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีทางด้านการลงทุนอุตสาหกรรมเกษตรอาหารและโครงการโลจิสติกส์ปาร์คตลอดจนการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ไนโตรเจนฟรีสเซอร์และระบบตรวจสอบย้อนกลับเพื่อการส่งออก

“ประเทศไทยสามารถส่งออกข้าวสาร จำนวน 20 ตู้ ปริมาณ 500 ตันโดยใช้เส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวโดยมีจุดหมายปลายทางที่มหานครฉงชิ่ง (Chongqing)ในภาคตะวันตกของจีนเป็น Shipment แรกซึ่งสามารถผ่านการตรวจตราและออกใบรับรองจากด่านตรวจพืชที่หนองคายขนส่งถึงท่าบกท่านาและผ่านการเห็นชอบของด่านศุลกากรลาวแล้วรอขบวนรถขนส่งสินค้าเพื่อเดินทางออกจากสถานีเวียงจันทน์ใต้ไปมหานครฉงชิ่ง ก่อนหน้านี้ได้รับรายงานคลาดเคลื่อนจากหน่วยงานว่าขนส่งไปฉงชิ่งแล้วรวมทั้งจำนวนน้ำหนักซึ่งได้ช่วยประสานงานกับทางลาวและได้รับความร่วมมืออย่างดีในการอนุมัติผ่านด่านศุลกากรและกระทรวงเกษตรของลาว เมื่อขบวนรถไฟขนส่งมาถึงก็พร้อมออกเดินทางได้ทันที

การขนส่งระบบรางเป็นระบบใหม่จากไทยผ่านแดนลาวเพื่อขยายโอกาสทางการค้าภายใต้การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ภาคเกษตรกรและภาคเอกชนตามนโยบายการพัฒนาโลจิสติกส์เกษตรและยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตเพื่อการส่งออกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์กับ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งทั้ง 2 ท่านได้ดำเนินการเจรจากับทางการจีนและลาวทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการตลอดมาโดยเฉพาะในภาวะที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกแล้วระลอกเล่าซึ่งทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากแต่ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือของทุกฝ่ายจึงสามารถฝ่าฟันอุปสรรคมาได้และถอดบทเรียนปัญหามาสู่การขับเคลื่อนไปข้างหน้าร่วมกัน” 

ศาลให้ประกันตัว’สรศักดิ์’ 1 แสนบาท!! พร้อมขอ ‘พรเพชร’ เป็นพยานคดี ’วัชระ’ ฟ้องผิดม.157,172 กรณีแจ้งเท็จ-ไม่ส่งเอกสารตามหมายเรียกของศาลอาญา

(21ม.ค.65)ว่าที่ร้อยตรี สุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ ทนายความของนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส. พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่า ตามที่นายวัชระ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในฐานแจ้งความเท็จและประพฤติมิชอบ อันเป็นความผิดประมวลกฎหมายอาญาม. 157 และ 172 นั้น

 ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์ 702 นัดสอบคำให้การของนายสรศักดิ์ เพียรเวช จำเลยว่าจะให้การรับสารภาพผิดหรือปฏิเสธสู้คดี ซึ่งจำเลยได้ให้การปฏิเสธ โดยร้องขอต่ออัยการจากสำนักงานอัยการฝ่ายแก้ต่าง ให้มาเป็นทนายความแก้ต่างให้จำเลย พร้อมอ้างขอพยานจำนวน 8 ปากคือ นายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาฯ อ้างตนเองเป็นพยานน.ส.สิริธร ลิมปะพยอม ผอ.สำนักรายงานการประชุมฯ นายณัฐวัชร์ มังคละคุปต์ ผบ.กลุ่มงานพัฒนาระบบ นายนัฑผาสุข อดีตเลขาฯสนง.เลขาฯวุฒิสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นางอศยา วังวล ผบ.กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป นางอารยะหญิง จอมพลาพล ผอ.สำนักบริหารงานกลาง และนายจักรพันธ์ จันทรเจริญ ผอ.สำนักกฎหมาย 

ศาลมีคำสั่งให้คู่ความดำเนินการดังต่อไปนี้ภายใน 45 วัน นับแต่วันนี้

1. ตรวจสอบพยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่งและทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลว่ายอมรับหรือโต้แย้งพยานหลักฐานดังกล่าว หากโต้แย้งให้แสดงเหตุแห่งการโต้แย้งโดยชัดแจ้ง มิฉะนั้นถือว่ายอมรับพยานหลักฐานของอีกฝ่ายหนึ่ง

2. แถลงแนวทางการเสนอพยานหลักฐานในประเด็นที่ยังโต้แย้งกัน ทั้งพยานวัตถุ พยานเอกสาร พยานบุคคลและหลักฐานอื่นที่คู่ความจะสืบพยานให้คู่ความมาศาล เพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวร่วมกับเจ้าพนักงานคดี ให้นัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานโดยเจ้าพนักงานคดีรวม 1 นัด ในวันที่ 17 ก.พ.65 เวลา 9.00 น.กรณีที่คู่ความไม่มาในวันนัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานโดยเจ้าพนักงานคดี หรือไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลดังกล่าว ถือว่าคู่ความมีความพร้อมดำเนินกระบวนพิจารณา และไม่มีข้อขัดข้องใด  ศาลจะพิจารณาตรวจพยานหลักฐานไปตามรูปคดีที่ปรากฎในสำนวนและตามรายงานของเจ้าพนักงานคดีต่อไป ให้ประกันตัวจำเลยโดยวางหลักทรัพย์จำนวน 1แสนบาทและให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 16 มี.ค. 65 เวลา 9.30 น. 

 

คดีนี้นายวัชระ โจทก์ได้บรรยายคำฟ้องว่า นายสรศักดิ์ เป็นหัวหน้าส่วนราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารราชการของสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบัญญัติ ระเบียบ และข้อบังคับของทางราชการ มีอำนาจสั่งการ อนุญาต และอนุมัติ และกระทำการแทนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และยังได้รับการแต่งตั้งจากประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้เป็นคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่

โควิด-19 คร่าชีวิตนักร้องหญิงชาวเช็ก หลังจงใจติดเชื้อ เพื่อไม่ต้องฉีดวัคซีน

ฮานา ฮอร์กา นักร้องแนวโฟล์กจากสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งต่อต้านการฉีดวัคซีน เสียชีวิตอย่างน่าสลดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจงใจติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพื่อไม่ต้องเข้ารับวัคซีน

นักร้องหญิงแนวโฟล์กวัย 57 ปี เสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ (16 ม.ค.) หลังมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก และลูกชายของเขายืนยันว่าผู้เป็นแม่ต้องมาจบชีวิตลง หลังจากจงใจติดเชื้อไวรัสมรณะดังกล่าว

แยน เร็ค ลูกชายของเธอเผยว่าผู้เป็นแม่จงใจติดโควิด-19 ตอนที่เขาและพ่อติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากเธอหวังได้บัตรรับรองการหายป่วยจากโควิด-19 สำหรับเข้าไปยังบางสถานที่

เร็คและผู้เป็นพ่อ ติดเเชื้อโควิด-19 ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส แม้ฉีดวัคซีนครบเข็มแล้ว แต่ ฮานา ฮอร์กา ไม่ยอมปลีกตัวห่างจากพวกเขา ด้วยความอยากติดเชื้อไวรัส ทว่าสุดท้ายแล้วเธอกลับถูกไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่พรากชีวิตไปอย่างน่าเศร้า

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี แยน เปิดเผยว่า "แม่ควรแยกตัวออกไป 1 สัปดาห์ เพราะว่าเรามีผลตรวจเป็นบวก แต่เธออยู่กับเราตลอดเวลา"

สาธารณรัฐเช็กกำหนดให้แสดงบัตรรับรองการฉีดวัคซีนหรือเคยติดเชื้อเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อเข้าไปยังสถานที่พบปะกันทางสังคมและวัฒนธรรมต่างๆ นานา ในนั้นรวมถึงโรงภาพยนตร์ บาร์ และคาเฟ่ และฮอร์กาต้องการติดเชื้อโควิด เพื่อที่จะเดินทางไปไหนมาไหนได้เป็นอิสระมากขึ้น

รมว.คลังเปิดงานสัมมนา “ศักราชใหม่...ความหวัง​ (หรือแค่ฝัน) ประเทศไทย 2022”

สำนักข่าวบางกอกทูเดย์ ร่วมกับคณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และเว็บไซต์ข่าว The Leader Asia จัดการสัมมนาเรื่อง “ศักราชใหม่...ความหวัง​ (หรือแค่ฝัน)  ประเทศไทย 2022” เมื่อบ่ายวันที่ 20 มกราคม 2565 ณ ห้องประชุมชั้น 7 อาคาร 23 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “แรงขับเคลื่อนประเทศไทยในศักราชใหม่ 2022”

ถัดจากนั้นเป็นการเสวนาเรื่อง “หวังอะไร?… ประเทศไทยในปี 2022” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์กรชั้นนำได้แก่ นายแพทย์เกรียงไกร ถวิลไพร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะทาง อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์, ดร.สักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย, นายอิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าบุคคล, ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร, นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต, รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  ดำเนินรายการโดยนายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ​ บรรณาธิการข่าว The Leader Asia

จับไม่หมด..!!! กกล.สุรสีห์ จับ 204 ผู้ลักลอบเข้าเมือง 3 ระลอก กลางดึก ชายแดนประจวบฯ

กองกำลัง (กกล.) สุรสีห์ โดยชุดเฉพาะกิจ (ฉก.) จงอางศึก ร่วมกับเจ้าหน้าที่หมวดป้องกันชายแดน (มว.ปชด.) ที่ 3, กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 146, สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และฝ่ายปกครอง จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย จำนวน 152 คน (ชาย 87 คน, หญิง 65 คน) บริเวณบ้านมะขามโพรง ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

ต่อมาเวลา 05.30 น. จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย จำนวน 41 คน (ชาย 26 คน, หญิง 15 คน) บริเวณบ้านมะขามโพรง ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาเวลา 08.30 น. จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย จำนวน 11 คน (ชาย 4 คน, หญิง 7 คน) บริเวณบ้านมะขามโพรง ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top