Saturday, 27 April 2024
NEWS FEED

‘บิ๊กตู่’ พบนักศึกษาไทยในซาอุฯ ฝากให้ตั้งใจเรียน กลับมาพัฒนาประเทศ

เพจ นักศึกษาไทย ณ กรุงรียาด โพสต์ภาพบรรยากาศพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พบปะ และมอบของฝากเล็กๆ น้อยๆ จากประเทศไทย ให้แก่พี่น้องชุมชนคนไทย และนักศึกษาไทย ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงรียาด

พร้อมระบุถึง ข้อความส่วนหนึ่งจากคำกล่าวโอวาทของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่ท่านได้มาเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี ตามคำเชิญของมกุฎราชกุมาร มูฮัมหมัด บิน ซัลมาน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า 

"...ดีใจที่วันนี้ (25 มกราคม 2565) ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ สำหรับวันแห่งประวัติศาสตร์ ในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศให้กลับมาปกติเหมือนครั้งในอดีต..."

"...จากการพูดคุยหารือกันในวันนี้ มีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศอย่างแน่นอน..."

“เฉลิมชัย”เผยส่งออกผลไม้สูงสุดเป็นประวัติการณ์เฉพาะทุเรียนทะลุแสนล้าน เผยปีนี้ผลผลิตเพิ่มกว่า 5 แสนตัน มอบ“อลงกรณ์”รับผิดชอบชุดเฉพาะกิจผนึกทีมผลไม้ภาคตะวันออกรับมือฤดูผลไม้ล่วงหน้า พร้อมลุยหนองคายเร่งรถไฟจีน-ลาวขนสินค้าเกษตร 27 ม.ค.นี้

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้(Fruit Board)กล่าววันนี้(26ม.ค)ถึงผลดำเนินงานบริหารจัดการผลไม้ปี2564และปี2565ว่า ในปี 2564 สามารถส่งออกผลไม้สูงสุดเป็นประวัติการณ์เฉพาะทุเรียนขายทะลุหนึ่งแสนล้านบาทเป็นครั้งแรกแม้เผชิญปัญหาการขนส่งโลจิสติกส์จากค่าระวางที่สูงขึ้น การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และการปิดด่านหลายครั้งจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

ความสำเร็จดังกล่าวมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งชาวสวนผลไม้ ผู้ประกอบการภาคเอกชนและภาครัฐที่ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคในปีที่ผ่านมาและสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศชาติจากการส่งออกทำสถิตินิวไฮโดย11เดือน(ม.ค.-พ.ย.)ของปี 2564ส่งออกผลไม้7ชนิดได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย ลิ้นจี่และมะม่วงจำนวน1,992,751ตันคิดเป็นมูลค่า 165,624ล้านบาทเพิ่มขึ้น 40.75% เทียบกับปี 2563ที่ส่งออก1,718,228ตันมูลค่า 117,673ล้านบาท สำหรับทุเรียนส่งออก 903,700ตัน คิดเป็นปริมาณเพิ่มขึ้น38.29% คิดเป็นมูลค่า115,459ล้านบาทเติบโต59.11%เทียบกับปี2563ส่งออก653,476ตันมูลค่า72,566ล้านบาท โดยฤดูกาลผลิตปี2565จะมีผลผลิตออกมา5,200,009ตันเพิ่ม11.39%หรือเพิ่มกว่า5แสนตันเทียบกับปี2563ที่มีปริมาณ4,668,435ตันซึ่งเป็นตัวเลขจากกรมศุลกากร

ดร.เฉลิมชัยกล่าวต่อไปว่า เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือผลไม้ที่จะเริ่มต้นฤดูในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้จึงมอบนโยบายให้ฟรุ้ทบอร์ดกำหนดมาตรการล่วงหน้าโดยมอบหมายนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบ

ทางด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบกล่าวว่า คณะทำงานฯได้กำหนด5มาตรการ21โครงการสำหรับบริหารผลไม้ในภาวะวิกฤติเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการจัดทำแผนและโครงการต่างๆ

และเมื่อวันเสาร์ที่ 23 มกราคมที่ผ่านมาได้จัดการประชุมทางไกลกับสมาคมทุเรียนไทย ตัวแทนแปลงใหญ่ทุเรียนจังหวัดระยอง สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียน สมาคมผู้ผลิตทุเรียนไทย สถาบันทุเรียนไทย หอการค้าจังหวัดจันทบุรี สมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ ตัวแทนเกษตรกรและผู้ประกอบการภาคตะวันออก นายชรัตน์ เนรัญชรและนายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ.ระยอง สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ สำนักงานวิจัยและพัฒนาการการเกษตรเขตที่6 อธิบดีกรมวิขาการเกษตร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง เกษตรและสหกรณ์จังหวัดจันทบุรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด หน่วยงานEECและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพิ่มเติมรองรับผลไม้ภาคตะวันออกโดยมีข้อเสนอแนะที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์อย่างมาก เช่นข้อเสนอให้เร่งจัดทำมาตรฐานzero covid ทุเรียนที่มีงานวิจัยรองรับโดยกำหนดหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ชัดเจนและสื่อสารกับจีนเพื่อสร้างความมั่นใจกับจีนและประเทศลูกค้าอื่นๆ การใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับ(Traceability)

การหารือกับจีนในการขนส่งบนเส้นทางรถไฟจีน-ลาวโดยการปิดตู้ที่ประเทศลาว และ ส่งไปคุนหมิงเลยโดยไม่ต้องแวะตรวจที่ด่านโมฮ่านเพื่อให้สามารถส่งทุเรียนและผลไม้เศรษฐกิจอื่นๆทางรางได้ตั้งแต่เดือน มีนาคมปีนี้ ตลอดจนข้อเสนอให้ประชุมหารือกับประเทศจีน ลาวและเวียดนามเพื่อตกลงมาตรการร่วมกันเรื่อง protocol ในการเปิด-ปิดด่านชายแดนต่างๆรวมทั้งข้อเสนอให้ด่านมีGreen Lane สำหรับผลไม้ไทยเป็นการเฉพาะรวมทั้งปัญหาการทำGAPที่ชาวสวนต้องจ่ายมากขึ้นว่าจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไรเมื่อใดรวมทั้งข้อพิจารณาเรื่องการเยียวยาชาวสวนลำไยในฤดูกาลที่ผ่านมา

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน มอบอาชีพ “สร้างชีวิต” อย่างยั่งยืนแก่ครัวเรือนยากจนจังหวัดน่าน 

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ เป็นประธานในพิธีมอบอุปกรณ์การประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจนในพื้นที่จังหวัดน่าน จำนวน 18 ครัวเรือน  คิดเป็นมูลค่า จำนวน 316,450 บาท เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพแก่ครัวเรือนยากจนสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้ ”บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ” ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย  

โดยมี นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน   และนายอาทร พิมชะนก ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานร่วมในพิธี พร้อมด้วย นายวิทยา จงประสาธน์สุข ประธานคณะกรรมการพ่อค้าน่านโรงเรียนซินจง จ.น่าน ร่วมในพิธี  ณ  บริเวณหอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองน่าน  จังหวัดน่าน

ซึ่งในปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพในพื้นที่ภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดอุทัยธานี สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พะเยา เชียงราย และน่าน แล้วรวม 10 จังหวัด 146 ครัวเรือน มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพทั้งสิ้น จำนวน 2,197,380 บาท (สองล้านหนึ่งแสนเก้าหมื่นเจ็ดพันสามร้อยแปดสิบบาทถ้วน)

การดำเนินการ “โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ” มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยฝ่ายสังคมสงเคราะห์  จะจัดทีมลงพื้นที่ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พร้อมให้ความรู้ ทักษะ และมีวัสดุอุปกรณ์ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดหาอุปกรณ์การประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจน เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ตลอดจนสร้างความสุขสู่ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน โดยในปีงบประมาณ 2563 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและกรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินการในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมาย 500 ครัวเรือน งบประมาณดำเนินงานทั้งสิ้น 10,000,000 บาท (สิบล้านบาทถ้วน) 

รู้จักอาชีพที่ซาอุฯ ห้ามคนต่างชาติทำ

จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้นำประเทศคนแรกในรอบ 32 ปี ที่เดินทางไปเยือนอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ เป้าหมายหลักคือการฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ตกต่ำมายาวนาน ขณะที่มีการคาดหมายว่า การไปเยือนในครั้งนี้ จะมีข่าวดีสำหรับแรงงานไทย ที่จะมีโอกาสเดินทางไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง 

ทว่า ก่อนจะไปลุ้นว่า ซาอุดีอาระเบียจะเปิดรับแรงงานจากไทยหรือไม่นั้น เราไปดู ‘19 อาชีพสงวน’ สำหรับชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ไม่อนุญาตให้คนต่างชาติทำ กันดีกว่า

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด ได้เผยแพร่ 19 ตำแหน่งงาน ที่อนุญาตให้แรงงานชายหญิงชาวซาอุดีอาระเบียเท่านั้น ได้แก่

1.) ผู้จัดการบริหารทรัพยากรบุคคล (Executive HR manager)
2.) ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR manager)
3.) ผู้จัดการด้านแรงงาน (Labor affairs manager)
4.) ผู้จัดการด้านธุรการ (Staff relations manager)
5.) ผู้เชี่ยวชาญงานธุรการ (Staff relations specialist)
6.) พนักงานเสมียนธุรการ (Staff relations clerk)
7.) พนักงานรับสมัครงาน (Recruitment clerk)
8.) พนักงานกิจการบุคคล (Staff affairs clerk)
9.) เสมียนควบคุมการเข้าร่วมประชุม (Attendance control clerk)

‘อาคม’ ซูฮก ฟื้นสัมพันธ์ไทย - ซาอุฯ ยกเป็น ‘งานชิ้นโบแดงของลุงตู่’ 

นายอาคม มกรานนท์ อดีตพิธีรายการโทรทัศน์ชื่อดัง และอดีตผู้ประกาศข่าว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Akhom Makaranond" ถึงกรณีการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย โดยมีเนื้อหาว่า งานชิ้นโบว์แดงของลุงตู่....

วันนี้มาสาย เพราะมัวติดตามข่าวการไปเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียของนายกรัฐมนตรีไทย ที่ถือว่าเป็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์ เพราะเป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ ๓๒ ปี ระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๖ มกราคมนี้

ความสำคัญอันดับแรก คือ นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ ๒๙ ได้สร้างภาพพจน์ให้เห็นว่าทั้งสองประเทศ ไม่ได้มีความระแวงเรื่องเพชรบลูไดมอนด์ ตามที่มีผู้บิดเบือนความจริงใส่ร้ายโดยมิบังควร 

เรื่องที่สอง คือ การท่องเที่ยว ชาวซาอุฯ มีอำนาจในการใช้จ่ายสูง เคยมีบุคคลชั้นนำของซาอุฯ เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยและรักษาตัวจำนวนไม่น้อย ที่ห่างเหินกันไปตั้งแต่เกิดเหตุร้ายกับคนของเขา

ดังนั้น การเดินทางไปครั้งนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เพราะเป็นการเดินทางไปในห้วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของซาอุดีอาระเบีย จากการปกครองแบบราชาธิปไตยสุดโต่ง มาเป็นการปฏิรูปการปกครองแบบราชาธิปไตยทันสมัยและผ่อนคลายมากขึ้น

เปิดประวัติ ‘หมอกระต่าย’ หมอจักษุคนเก่ง คนคุณภาพที่ต้องจากไปก่อนวัยอันควร 

แม้วันนี้ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ ‘หมอกระต่าย’ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะจากโลกนี้ไป จากกรณีถูก ส.ต.ต นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) ขี่บิ๊กไบค์ชนจนเสียชีวิต แต่เชื่อว่าวันนี้ชื่อของเธอน่าจะประทับอยู่ในหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ ในฐานะบุคลากรคุณภาพที่ประเทศชาติไม่ควรเสียไปอีกนานเท่านาน

1.) พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2531 เป็นจักษุแพทย์เช่นเดียวกับคุณพ่อ นายแพทย์อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล มีลูกสาว 2 คน เป็นจักษุแพทย์ตามรอยคุณพ่อทั้งหมด

2.) หลังจากเรียนจบชั้นประถม หมอกระต่ายได้เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน และเรียนต่อที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี รุ่นที่ 42 ก่อนกลับไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลสระบุรี

3.) หลังจากนั้นหมอกระต่าย ไปเรียนต่อเฉพาะทางจักษุวิทยา ที่ศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยา โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ก่อนจะต่อยอดจักษุวิทยาภูมิคุ้มกันอักเสบ และศึกษาต่อเฉพาะทาง ต่อยอดจอตาและวุ้นตา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

4.) หมอกระต่าย กำลังจะเข้ารับราชการที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่ต้องมาเสียชีวิตก่อนวันเกิดตัวเองด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนน

‘คนดีศรีเมืองเพชร’!! จ.เพชรบุรี เลือก! ‘อลงกรณ์’ เป็น ‘คนดีศรีเมืองเพชร’ ด้านบริหารรัฐกิจ - ผู้ทุ่มเท - เสียสละ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคม โดยกำหนดมอบโล่เชิดชูเกียรติ ในงานพระนครคีรี - เมืองเพชร ครั้งที่ 35 วันที่ 18 - 27 กุมภาพันธ์ 65 นี้!!

นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีเปิดเผยวันนี้ภายหลังเป็นประธานการประชุมคัดเลือก“คนดีศรีเมืองเพชร” ประจำปี 2565 โดยมีนางสาวคนึง ไข่ลือนาม วัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการ ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรีเพื่อส่งเสริมการทำความดีของคนในสังคม  ตลอดจนเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติและสร้างขวัญกำลังใจให้กับต้นแบบของสังคม  คณะกรรมการคัดเลือก คนดีศรีเมืองเพชร ได้พิจารณาทุกกลุ่มเป้าหมาย ผู้ที่ได้ทำคุณประโยชน์ในด้านต่าง ๆ อาทิด้านศิลปกรรม นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ข้าราชการที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สร้างชื่อเสียงให้จังหวัด รวมถึงกลุ่มเด็กเยาวชน โดยจะมอบรางวัลโล่เชิดชูเกียรติ เพื่อยกย่องเชิดชูผู้ทำคุณงามความดีเสียสละเพื่อส่วนรวม และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคน ได้ทำความดีเพื่อส่วนรวมเพื่อจังหวัดเพชรบุรี เพื่อประเทศชาติของเรา

โดยกำหนดการมอบโล่เชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ต่อจังหวัดเพชรบุรี ‘คนดี ศรีเมืองเพชร’ ประจำปี พ.ศ.2565 ในงานพระนครคีรี - เมืองเพชร ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 18 – 27 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ภาคราชการ และภาคประชาสังคม ที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ถึงความมุ่งมั่น ทุ่มเทต่อการส่งเสริม สนับสนุนการดำเนินงานของจังหวัดเพชรบุรี

สำหรับผลการคัดเลือก ‘คนดีศรีเมืองเพชร’ ประจำปี พ.ศ.2565 ในด้านต่างๆ มี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับการคัดเลือกเป็น ‘คนดีศรีเมืองเพชร’ ในด้านบริหารรัฐกิจ โดยประวัติของ นายอลงกรณ์ พลบุตร เกิดที่ตำบลท่าราย อำเภอเมืองเพชรบุรี เรียนที่โรงเรียนศึกษาปัญหาและอรุณประดิษฐ์ จบปริญญาตรีจากธรรมศาสตร์และปริญญาโทจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับประกาศนียบัตรการศึกษาอบรมเกือบ10ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฯลฯ

นอกจากนี้ ยังได้รับคัดเลือกจากสื่อมวลชนประจำรัฐสภาให้เป็น ‘ดาวเด่นแห่งปีของรัฐสภา’ เป็นผู้ผลักดันโครงการเอทานอลจนได้รับฉายา ‘มิสเตอร์เอทานอล’ เป็นผู้ริเริ่มและร่วมก่อตั้งองค์กรพรรคการเมืองเสรีประชาธิปไตยแห่งเอเชีย(CALD) เคยเป็นรมช.พาณิชย์ และทำหน้าที่รมต.เศรษฐกิจอาเซียน  และประธานคณะกก.โลจิสติกส์การค้า และเป็นผู้ก่อตั้งBizclub นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ และรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์4สมัยจนถึงปัจจุบันและ เป็นอดีตส.ส.เพชรบุรี และส.ส.บัญชีรายชื่อ 6 สมัย

ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ปรึกษาสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ที่ประชุมการตั้งถิ่นฐานมนุษย์ของสหประชาชาติ (UN International Conference on  Human Settlements) และยังเป็นผู้บรรยายพิเศษปริญญาเอกโทตรีของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง

เป็นผู้บรรยายพิเศษหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงภาครัฐและเอกชนเช่น บยส.ของศาลยุติธรรม นธป.ของศาลรธน. วตท. Tepcotของหอการค้า วิทยาการตำรวจ สถาบันพระปกเกล้า สวปอ. นบส. วกส.ฯลฯ และยังเขียนหนังสือ4เล่มเกี่ยวกับด้านต่างประเทศและการเมือง

สำหรับบทบาทและผลงานของนายอลงกรณ์ พลบุตรที่มีต่อจังหวัดเพชรบุรีโดยเฉพาะในช่วง 5 ปีหลังได้แก่...

1.สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดเพชรบุรี ในฐานะบุคคลสาธารณะที่มีเกียรติประวัติดีมีบทบาทและผลงานในระดับชาติตลอด30 ปี ที่ผ่านมานับแต่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพชรบุรีสมัยแรกในปี 2535 จนถึงปัจจุบัน

 2. ผลงานในช่วง5ปีที่ผ่านมา

2.1 สนับสนุนโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมทั้งระบบของเพชรบุรี ล่าสุดประสานงบประมาณจากนายกรัฐมนตรี80ล้านบาทเพิ่มเติมจากงบประมาณปกติปี 2564

2.2ริเริ่มและดำเนินการปฏิรูปภาคเกษตรในจังหวัดเพชรบุรีแบบครบวงจรทั้งพืช ประมงและปศุสัตว์

2.3ขับเคลื่อนโครงการตลาดกลางสินค้าเกษตรเพชรบุรีโมเดล

2.4ดำเนินโครงการปลูกป่าโกงกางแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลเพชรบุรีและเพิ่มแหล่ง

อนุรักษ์สัตว์น้ำช่วยเพิ่มรายได้สร้างอาชีพให้ชาวประมงเพชรบุรี

2.5สนับสนุนอาชีพชาวนาเกลือและพัฒนาเกลือทะเลของเพชรบุรีในฐานะจังหวัดที่ผลิตเกลือมากที่สุดในประเทศไทย

2.6 สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมเพชรบุรี

2.7สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านเกลือทะเลไทยในรูปของ สถาบันเกลือทะเลไทย ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

2.8เสนอและผลักดันโครงการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมในฐานะเพชรบุรีเป็นประตูสู่ภาคใต้

2.8.1 โครงการทางยกระดับบนถนนธนบุรี-ปากท่อ (พระราม2) แก้ปัญหาการจราจรสู่จังหวัดเพชรบุรีและภาคใต้

2.8.2 โครงการพัฒนาทางหลวง 3510 เป็นถนนยุทธศาสตร์ตะวันตกของเพชรบุรีและพัฒนา3แยกวังมะนาวเป็น4แยกวังมะนาวและถนนเชื่อมโยงถนนพระราม 2 เป็นโครงข่ายเส้นทางใหม่เชื่อมภาคใต้และภาคอื่น ๆ

2.9สนับสนุนและขับเคลื่อนโครงการไทยแลนด์ริเวียร่าเวลเนสส์ฮับเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของเพชรบุรีและจังหวัดต่าง ๆ

2.10 จัดตั้งและสนับสนุนบิซคลับเพชรบุรี

2.11 สนับสนุนสหกรณ์เครดิตยูเนียน(เพชรบุรีเป็นเมืองหลวงของสหกรณ์เครดิตยูเนียน)และขบวนการสหกรณ์จนได้รับการประกาศเกียรติคุณจากสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยให้เป็น ‘บุคคลผู้ทรงคุณค่าต่อขบวนการสหกรณ์ในประเทศไทย’ ในปี 2563

สำหรับผลการคัดเลือก ‘คนดี ศรีเมืองเพชร’ ประจำปี พ.ศ.2565 ในด้านต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 31 คน ดังนี้...

1. ด้านรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาทางศิลปะและวัฒนธรรมเมืองเพชร/ช่างฝีมือ ได้แก่ นายทองร่วง เอมโอษฐ  ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-งานศิลปะปูนปั้น), ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญมา แฉ่งฉายา ศิลปินสาขาทัศนศิลป์, นายสัณฐาน ถิรมนัส ศิลปินสาขาทัศนศิลป์, นายธานินทร์ ชื่นใจ ครูช่างลายรดน้ำ, นางสาวสิริลักษณ์ ศรีทองคำ ช่างทำทองโบราณ, นายวิริยะ สุสุทธิ ครูแทงหยวก

2. ด้านส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมเมืองเพชร ได้แก่ นายแสวง เอี่ยมองค์ นายกพุทธสมาคมจังหวัดเพชรบุรี, นางถนอม คงยิ้มละมัย

3. ด้านอนุรักษ์ภูมิปัญญาอาหารเมืองเพชร ได้แก่ นางสมาน กลิ่นนาคธนกร เจ้าของธุรกิจ ‘ขนมหม้อแกงแม่สมาน’

4. ด้านมนุษยศาสตร์รากฐานเมืองเพชร ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แสนประเสริฐ ปานเนียม, นายกฤษดากร อินกงลาศ

5. ด้านบริหารจังหวัดด้วยหลักธรรมาภิบาล ได้แก่ นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม

6. ด้านบริหารกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ พลตำรวจโทต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

7. ด้านบริหารรัฐกิจได้แก่ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์, นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

8. ด้านนิติบัญญัติ ได้แก่ นายสุชาติ อุสาหะ ประธานคณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม

9. ด้านการบริหารงานท้องถิ่น ได้แก่ นายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ, นางนฤมล กิจพ่วงสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลท่ายาง, นายวรวิสูตร ฉิมพาลี ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลนาพันสาม

 

‘ลุงป้อม’ ยิ้มรับ!! แม้เด็กสามกีบชู 3 นิ้ว โผล่ประชิด สะท้อนผู้ใหญ่บ้านเมือง ‘เอ็นดู’ มากกว่าเคืองโกรธ

นายนิธิพัฒน์ พันธุ์ธุมจินดา นักธุรกิจ ฟาร์มปลาสวยงาม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า… "ไทยๆ"

เมื่อวานได้ดูคลิปหนึ่งซึ่งชื่นชอบ จนอยากจะนำมาเล่า

คือเป็นคลิปที่ลุงป้อมแกออกมาช่วยเดินหาเสียงให้ผู้สมัครที่หลักสี่ แล้วในทางเดินแคบๆ นั้น ก็เจอน้องๆ REDEM มายืนรอชูสามนิ้วขวางอยู่

ถ้าเป็นประเทศอื่นๆ รวมทั้งมหาอำนาจทางประชาธิปไตย ประเทศไหนก็ตาม น้องๆ นั้นน่าจะโดน หน่วยรักษาความปลอดภัย ผลักดันหรือล็อกตัวออกไปแน่นอน

แต่ภาพที่เห็นคือ ต่างก็เดินมาจนชิดกัน ลุงป้อมยิ้มตาหยีผ่านหน้ากาก (คือหยีกว่าปรกติ) แล้วน้องเขาก็หันมายกมือไหว้

ลุงแกก็แซวขำๆ ว่า ชูสองนิ้วก็พอแล้ว น้องเขาก็พูดขำๆ ตอบว่า "คุณลุงก็ชูสามนิ้วเหมือนกันได้" แล้วก็หัวเราะกันเฮฮา ลุงแกก็ตบบ่าด้วยความเอ็นดู

แม้บทสนทนาจะรู้สึกได้ชัดเจนว่า ไม่ได้อยู่ในแนวความคิดเดียวกัน แต่ภาพที่ออกมานั้น เต็มไปด้วยมารยาทและมิตรภาพ ซึ่งน่ารักมากๆ

‘ดร.วินัย’ เผยปัจจัย ‘ไทย-ซาอุฯ’ คืนสัมพันธ์ ‘มกุฎราชกุมารซาอุ’ ทันสมัย ‘บิ๊กตู่’ จริงใจน่าคบหา 

ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ผอ.ศวฮ.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Dr.Winai Dahlan’ ระบุว่า…

ประเทศไทย-ซาอุดีอาระเบีย

เป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ กับข่าวที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและซาอุดีอาระเบียใกล้จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้งหนึ่งแล้ว หลังจากตกต่ำมานานกว่าสามทศวรรษ สิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเกิดปัญหามีหลายเรื่อง ซับซ้อนจนยากจะเข้าใจ นานมาแล้วเคยฟังผู้ใหญ่ฝ่ายซาอุดีอาระเบียพูดผ่านผู้ใหญ่ฝ่ายไทยว่าเรื่องเพชรที่ฝ่ายเรามองว่าเป็นเรื่องสำคัญเอาเข้าจริงกลับไม่ใช่ ความคลุมเครือเรื่องการสูญหายของคนซาอุในประเทศไทยสำคัญกว่า แต่ยังมีประเด็นอื่นที่สำคัญกว่านั้น เราคนวงนอกยิ่งฟังก็ยิ่งงง

สหรัฐฯ สั่งทหาร 'เตรียมพร้อมขั้นสูงสุด' รับมือวิกฤต ‘รัสเซีย-ยูเครน’ ที่รอวันปะทุ

สหรัฐฯ สั่งการให้ทหาร 8,500 นาย "เตรียมพร้อมขั้นสูงสุด" ท่ามกลางเหตุเผชิญหน้าเกี่ยวกับยูเครน ชี้รัสเซียยังคงเดินหน้าเสริมกองกำลังของตนเองตามแนวชายแดนของประเทศ

จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน ระบุว่า ทหารเหล่านี้อาจได้รับคำสั่งให้เข้าประจำการเพื่อสนับสนุนกองกำลังตอบโต้ของนาโต้ (Nato Response Force) หากว่านาโต้เคลื่อนไหวเสริมกำลังพลในเหล่าประเทศสมาชิกยุโรปตะวันออกของนาโต้ สืบเนื่องจากภัยคุกคามจากรัสเซีย

"ชัดเจนว่าเวลานี้รัสเซียไม่มีเจตนาลดสถานการณ์ความตึงเครียด" เคอร์บีบอกกับพวกผู้สื่อข่าว ระหว่างแถลงข่าวสั่งการให้ทหารเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด

ทหารเหล่านี้ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นกองกำลังภาคพื้นและหน่วยสนับสนุน ได้รับการแจ้งว่าให้เตรียมพร้อมสำหรับเคลื่อนพลภายใน 5 วันหากมีคำสั่งให้เข้าประจำการออกมา "สหรัฐฯ จะดำเนินการอย่างหนักแน่นในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ตอบโต้ความเคลื่อนไหวต่างๆ ของรัสเซียที่ทำร้ายเรา พันธมิตรของเราและคู่หูของเรา" เคอร์บี กล่าว

เคอร์บี บอกว่า หากมีการระดมพลกองกำลังตอบโต้ของนาโต้ ทหารสหรัฐฯ อาจถูกส่งเข้าประจำการเพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งของกองกำลังชาติต่างๆ ในพันธมิตรนาโต้ตามแนวชายแดนของรัสเซีย "จำนวนมากของทหารเหล่านี้มีเจตนาเพื่อกองกำลังตอบโต้ของนาโต้"

ทั้งนี้ เคอร์บี้ ไม่ได้ระบุว่าสหรัฐฯ มีกำหนดการแน่นอนหรือไม่ว่าจะต้องเคลื่อนพลเมื่อใด และย้ำว่า การเตรียมการนี้มีจุดประสงค์ที่จะทำให้นาโต้มั่นใจว่า อเมริกาพร้อมที่จะเข้าช่วยหากต้องมีการใช้กำลังทหารเพื่อตอบโต้เหตุการณ์รุกรานยูเครนขึ้นมา

โฆษกเพนตากอน กล่าวว่า การเคลื่อนกำลังพลของสหรัฐฯ นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อกองกำลังพันธมิตรนาโต้ตัดสินใจสั่งให้มีการเดินทัพกองกำลังตอบโต้อย่างรวดเร็ว หรือ “หากมีการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์” ที่เกี่ยวข้องกับความตึงเครียดจากการสั่งสมกำลังทหารของรัสเซียที่ชายแดนติดกับยูเครน

ด้าน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เสริมว่าอาจมีการประจำการกองทหารอื่นๆ อีกบางส่วน โดยไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างเฉพาะเจาะจง อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าทหารเหล่านี้จะไม่ถูกส่งเข้าประจำการในยูเครน ประเทศซึ่งกำลังหาทางเข้าเป็นสมาชิกของนาโต้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top