Saturday, 20 April 2024
NEWS FEED

'บิ๊กโจ๊ก' เดินทางเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บกรณีถูกทำร้ายในเรือประมงที่ จ.ปัตตานี

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เดินทางไปเยี่ยม นายวี เมือน อายุ 38 ปี สัญชาติกัมพูชา ลูกเรือที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.ปัตตานี ร่วมกับ กก.๗ บก.รน. ได้ร่วมกันจับกุม นายโบเฮียม เฮียง อายุ 23 ปี สัญชาติกัมพูชา เป็นลูกเรือประมงชื่อ เรือวรพงศ์นาวี ๒ ซึ่งได้ลงมือทำร้ายร่างกายโดยการใช้อาวุธมีดสปาต้าฟันนายวี เมือน อายุ 38 ปี เพื่อนลูกเรือภายในลำเดียวกันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทราบเหตุจากการแจ้งเหตุผ่านทางวิทยุเพื่อขอความช่วยเหลือจากไต๋เรือ ก่อนจะนำเรือเข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือประมงปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ PIPO ได้ดำเนินการจับกุมดังกล่าว สอบถามนายโบเฮียมฯ ผู้ก่อเหตุให้การรับว่า ตนก่อเหตุดังกล่าวเนื่องจากไม่พอใจผู้ถูกทำร้ายเนื่องจากชอบด่าพ่อแม่ของตน และชอบขโมยของของตน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“ทร.” จัดงานวันสดุดีวีรชนกองทัพเรือ”ประจำปี 2565  สองวีรชน ในวีรกรรมสำคัญร่วมงาน

 พล.ร.อ. สมประสงค์  นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)  เป็นประธานในการจัดงาน เนื่องในวันสดุดีวีรชนกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ณ อนุสรณ์เรือหลวงธนบุรี โรงเรียนนายเรือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 

ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส (COVID - 19) ทำให้ในปีนี้ กองทัพเรือ ได้ปรับรูปแบบการจัดงานให้มีความเหมาะสมในรูปแบบ NEW NORMAL โดยลดขั้นตอน และผู้ร่วมงานลง แต่ยังคงไว้ซึ่งพิธีการสำคัญ ประกอบด้วย การวางพวงมาลา และอ่านคำสดุดีวีรชนกองทัพเรือ การจัดพิธีสงฆ์ เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของวีรชนทหารเรือ ที่เสียสละชีวิต เพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติและยังคงอยู่ในจิตใจของทหารเรือทุกนายตราบจนปัจจุบัน 

พิธีสดุดีวีรชนและบำเพ็ญกุศลแด่วีรชนของกองทัพเรือ เป็นพิธีสำคัญที่กองทัพเรือจัดขึ้นเป็นประจำ ในวันที่ 17 มกราคม ของทุกปี เพื่อให้ทหารเรือทุกคนได้แสดงความเคารพ และระลึกถึงวีรกรรมของบรรพบุรุษทหารเรือที่ได้ทำการรบอย่างกล้าหาญ และยอมพลีชีพ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติจากศัตรูที่รุกรานแผ่นดินของเราประวัติศาสตร์ได้จารึกความกล้าหาญของทหารเรือไทยในยุทธนาวีที่เกาะช้าง ระหว่าง ไทย กับ ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2484 โดยฝรั่งเศสได้ส่งกำลังทางเรือประกอบด้วยเรือลาดตระเวนลามอตต์ปิเกต์ เป็นเรือธง เรือสลุป 2 ลำ และเรือปืน 4 ลำ เรือสินค้าขนาดใหญ่ติดอาวุธ 1 ลำ เรือดำน้ำ 1 ลำ เข้ารุกล้ำน่านน้ำไทยบริเวณเกาะช้าง จังหวัดตราด เพื่อจะเข้าระดมยิงหัวเมืองชายทะเลทางภาคตะวันออกของประเทศ

กำลังทางเรือของไทยที่รักษาการณ์อยู่ในบริเวณนั้นประกอบด้วย เรือหลวงธนบุรี เรือหลวงชลบุรี และ เรือหลวงสงขลา ภายใต้การบังคับบัญชาของ นาวาโทหลวงพร้อมวีรพันธ์ ผู้บังคับการเรือหลวงธนบุรี แม้ว่าจะเสียเปรียบด้านกำลังรบอย่างมากวีรชนทหารเรือไทยได้ต่อสู้อย่างสุดกำลังความสามารถ จนต้องสูญเสียเรือรบทั้ง 3 ลำไป พร้อมชีวิตนายทหารและลูกเรือ รวมทั้งสิ้น 36 นาย รวมถึง นาวาโทหลวงพร้อมวีรพันธ์ แต่เป็นที่น่าภูมิใจว่าด้วยกำลังทางเรือของเรา สามารถทำให้ข้าศึกได้รับความเสียหายจนต้องล่าถอยไปในที่สุด

สำหรับการรบครั้งสำคัญที่ทหารเรือได้พลีชีพเพื่อชาติและราชนาวี เมื่อครั้งสงครามโลก ครั้งที่ 2 กองทัพเรือได้รับมอบภารกิจจัดเรือไปบรรทุกน้ำมัน ซึ่งเป็นยุทธปัจจัยสำคัญจากสิงคโปร์มายังประเทศไทย ซึ่งในครั้งนั้น เรือหลวงสมุย ได้ปฏิบัติภารกิจลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิง แม้ทราบว่าเส้นทางลำเลียงอยู่ในเขตปฏิบัติการของเรือดำน้ำฝ่ายสัมพันธมิตรก็ตาม ในการเดินทางเที่ยวสุดท้าย เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พุทธศักราช 2488 เรือหลวงสมุย ได้ถูกยิงด้วยตอร์ปิโดจากเรือดำน้ำฝ่ายสัมพันธมิตร จมลงที่บริเวณนอกชายฝั่งรัฐตรังกานู ทำให้กองทัพเรือต้องสูญเสียทหารผู้กล้าไปจำนวน 31 นาย รวมถึงสูญเสียกำลังพล ในการต่อสู้ป้องกันการโจมตีทางอากาศ จากฝ่ายสัมพันธมิตรในแต่ละพื้นที่ในคราวเดียวกันนี้อีก 7 นาย

นอกจากนี้ยังมียุทธการสำคัญที่ทำให้กองทัพเรือต้องสูญเสียทหารเรือผู้กล้าไปเป็นจำนวนมาก เช่น สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม การปราบปรามผู้ก่อการร้ายตามแผนยุทธการสามชัย จังหวัดเพชรบูรณ์ยุทธการผาภูมิ ณ บริเวณดอยผาจิ จังหวัดเชียงราย การเข้ายึดค่ายกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช ยุทธการดอนน้อย จังหวัดหนองคาย การรบที่บ้านชำราก จังหวัดตราด เหตุการณ์เรือ ต.98 ปะทะกับเรือประมงติดอาวุธไม่ปรากฏสัญชาติที่จังหวัดระนอง รวมไปถึงการปฏิบัติภารกิจ เพื่อความสันติสุขในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล้วนแต่เป็นการเสียสละ เพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แลกไว้ด้วยชีวิตทหารเรือเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีชีวิตอยู่อย่างสันติ

ศูนย์จีโนมฯ เปิดผลตรวจสายพันธุ์โควิด คาดใกล้ End game กลายเป็นโรคประจำถิ่น

เมื่อวันที่ 17 มกราคม ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยผลการตรวจสายพันธุ์ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จากโรงพยาบาลรัฐและเอกชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 3-16 มกราคม 2565 พบเป็นสายพันธุ์โอมิครอน 97.1% (69/71) และเดลตา 2.8% (2/71) นอกจากนี้มีการส่งตัวอย่างสุ่มตรวจจากเรือนจำ เป็นสายพันธุ์เดลตาทั้ง 100% (30/30)

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวหมายถึงในกรุงเทพฯ หากไม่นับในเรือนจำ “โอมิครอน” น่าจะเข้ามาแทนที่ “เดลตา” เกือบหมดแล้ว “Twindemic” หรือการติดเชื้อสองสายพันธุ์ ระหว่าง “โอมิครอน” และ “เดลตา” ไปพร้อมกันในระยะเวลาสั้นๆ ได้จบลงแล้ว ไม่นาน “โอมิครอน” คงจะกระจายไปทั่วประเทศ

ไม่ช้าคงเป็นตามที่นายแอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนสำคัญในคณะทำงานเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เตือนว่า “ในที่สุดแทบทุกคนจะติดเชื้อไวรัสโอมิครอน” จากนั้นทั้งภูมิคุ้มกันจากวัคซีนและจากการติดเชื้อตามธรรมชาติจะพุ่งขึ้นสูง ลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 และลดอัตราการเสียชีวิตลงอย่างรวดเร็ว เห็นปรากฏการณ์นี้ได้อย่างชัดเจนจากข้อมูลผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตทั่วโลกจาก “โอมิครอน”

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแอฟริกาใต้ ลดลงจนเข้าสู่สภาวะปรกติ ในขณะที่ผู้เสียชีวิตไม่มาก มีประชากรติดเชื้อไวรัสจากธรรมชาติเป็นจำนวนมาก

รมว.ยุติธรรม เปิดอบรมนักสืบสวนธุรกรรมทางการเงินและนักสืบทรัพย์ ตำรวจ-ศาล-ป.ป.ส.-สถาบันการเงินเข้าร่วมพรึบ หวังช่วยงานปราบยาเสพติดเติมเต็มกระบวนการยึดทรัพย์ มั่นใจเป้าหมาย 10,000 ล้านไม่ใช่เรื่องเหรือบ่ากว่าแรง แม้ไตรมาสแรกยังต่ำกว่าเป้า

ที่สำนักงาน ป.ป.ส. มีการจัดโครงการฝึกอบรม “นักสืบสวนธุรกรรมทางการเงินและนักสืบทรัพย์” โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมด้วย น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้เข้าอบรมจาก สํานักงานตํารวจแห่งชาติ สํานักงานศาลยุติธรรม สํานักงานอัยการสูงสุด ศาลภาษีอากรกลาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมบังคับคดี กรมสรรพากร และสถาบันการเงิน และยังมีการประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเร็นซ์ ไปยังหน่วยงานต่างๆทั่วประเทศ

นายวิชัย กล่าวรายงานว่า หลังจากที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวมีการปรับเปลี่ยนกรอบความคิดและกระบวนการตรวจสอบ ยึดอายัดทรัพย์สินตามมูลค่า เพื่อการพัฒนาองค์ความรู้ เทคนิควิธีการสืบสวนทางด้านทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ รมว.ยุติธรรม จึงสั่งการให้ ป.ป.ส.จัดโครงการฝึกอบรมนี้ขึ้น เพื่อทำความเข้าใจเตรียมความพร้อมและบริหารกลไกในการปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อให้สามารถดำเดนินการตามกฎหมาย ตามมาตรการตรวจสอบทรัพย์สินตามมูลค่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับผู้เข้าอบรม เป็นข้าราชการสังกัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ทำหน้าที่สืบสวน คือ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานป.ป.ส. รวมทั้งคณะทำงานพาลีปราบยา

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดโครงการว่า จากการที่รัฐบาลได้ปรับปรุงและพัฒนากฎหมายให้มีความทันสมัย สามารถนําไปบังคับใช้กับนักค้ายาเสพติดได้อย่างเต็มที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องนําไปปฏิบัติให้เป็นแนวทางเดียวกัน ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบาย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกระดับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทําความเข้าใจประมวลกฎหมายยาเสพติดอย่างจริงจัง ต้องมีการขับเคลื่อนและสร้างความพร้อมในประมวลกฎหมายอย่างเป็นระบบ มีแผนการปฏิบัติงานอย่างเป็นขั้นตอน มีกลไกในการให้คําปรึกษา แก้ไขปัญหาและติดตามการปฏิบัติงานตามกฎหมายใหม่อย่างใกล้ชิด และต้องนําประมวลกฎหมายยาเสพติด ไปใช้ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น การฝึกอบรมนักสืบสวนธุรกรรมทางการเงิน และนักสืบทรัพย์ ในครั้งนี้จะเป็นการทําความเข้าใจ เตรียมความพร้อมบริหารจัดการกลไก ในการนําประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ไปใช้ในการแก้ไขปัญหายาเสพ ติดอย่างเป็นรูปธรรม

‘หญิงชาวเอเชีย’ ถูกคนไร้บ้านผลักให้รถไฟทับที่สถานีรถไฟใต้ดินย่านไทม์สแควร์

ผู้หญิงชาวเอเชียรายหนึ่งเสียชีวิตสุดช็อก ถูกผลักให้ม้าเหล็กชนตายที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งหนึ่งในย่านไทม์สแควร์ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อเช้าวันเสาร์ (15 ม.ค.) ในเหตุการณ์ที่พวกเจ้าหน้าที่ของเมืองระบุว่า เป็นเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นโดยปราศจากการยั่วยุใดๆ

เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง หลังชายคนดังกล่าวเข้ามอบตัวต่อตำรวจ พร้อมกับอ้างว่า เป็นคนลงมือผลักผู้หญิงเชื้อสายเอเชียชาวนิวยอร์ก ซิตี วัย 40 ปี ตกจากชานชาลา Q/R ใกล้ถนนสาย 42 ตัดกับบอร์ดเวย์ ตกลงไปในรางรถไฟ ในขณะที่รถไฟขบวนหนึ่งกำลังแล่นเข้ามาพอดี

เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย มีชื่อว่า มิเชลล์ อลิสซา โก (Michelle Alyssa Go) เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายจีน วัย 40 ปี ถูกคนร้ายผลัก ระหว่างยืนรอขบวนรถไฟบนชานชาลา ส่งผลให้ถูกรถไฟที่กำลังแล่นเข้ามาพอดี ชนจนเสียชีวิตคาที่

กลุ่มผู้โดยสารแจ้งเหตุร้ายต่อตำรวจขนส่งหลังจากผู้หญิงรายนี้ตกลงไปในรางตอน 9.39 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) และถูกรถไฟชน ขณะที่ผู้ต้องสงสัยไม่ได้ถูกจับกุมที่สถานีรถไฟ แต่ต่อมาได้เข้ามอบตัวต่อตำรวจ "เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยปราศจากการยั่วยุใดๆ และเหยื่อดูเหมือนจะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับผู้ต้องสงสัยเลย" คีชานท์ เซเวลล์ ผู้บัญชาการตำรวจนครนิวยอร์กกล่าว

ตำรวจระบุระหว่างแถลงข่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยเล็งเป้าเล่นงานผู้หญิงอีกคนบนชานชาลา ก่อนเปลี่ยนใจก่อเหตุใช้ความรุนแรงกับเหยื่อวัย 40 ปี

"เขามุ่งตรงเข้าหาและเข้าไปใกล้เธอ แต่เธอระวังตัวมาก" ตำรวจเผย "เธอพยายามเดินหนีจากเขา แต่เขาก็พยายามเข้ามาใกล้ๆ เธอรู้สึกเหมือนเขากำลังหาทางผลักเธอเข้าใส่รถไฟ เธอจึงตัดสินใจหนีออกมา แต่ตอนที่เธอกำลังเดินออกมานั้น เธอเห็นอาชญากรเต็มตา เขาผลักเหยื่ออีกคนตัดหน้าขบวนรถไฟ"

ต่อมา ตำรวจระบุตัวตนชายผู้ก่อเหตุคือ นายไซมอน มาร์เทียล วัย 61 ปี ซึ่งเวลานี้ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมอันเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีในตอนเช้าวันเสาร์ (15 ม.ค.) ทั้งนี้ เขาเคยมีประวัติทางอาญาต่างๆ และถูกปล่อยออกจากคุกโดยมีทัณฑ์บน

นักวิจัยฯ คิดค้นข้าวเกรียบจากเปลือกกล้วย ช่วยเพิ่มมูลค่าให้เกษตรกรไม่ต้องเหลือทิ้ง

กล้วยน้ำว้า ผลไม้ที่นิยมปลูกกันมากในพื้นที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ส่วนมากปลูกเพื่อจำหน่ายส่งออก ขายในท้องที่และแปรรูปเป็นกล้วยตาก ส่วนผลผลิตที่ไม่สามารถนำไปจำหน่ายได้ “ผลกล้วยน้ำว้าขนาดไม่ถึงเกณฑ์” อีกจำนวนมาก ทางกลุ่มเกษตรกรได้นำไปแปรรูปเป็นกล้วยตากเพื่อจำหน่าย

แต่ก็ยังพบว่ามีวัสดุที่เหลือใช้จำพวกเปลือกกล้วยอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้วิจัยจึงนำ “เปลือกกล้วย” ไปทดสอบคุณภาพทางเคมีและกายภาพ เพื่อให้การแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่ได้จากเปลือกกล้วยมีคุณภาพ และมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.)

อาจารย์กานต์ณัฎฐา เนื่องหนุน อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เล่าถึงที่มาการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากวัสดุเหลือใช้กล้วยสุกและเปลือกกล้วย ว่า ในพื้นที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีการแปรรูปกล้วยน้ำว้าเป็น กล้วยแผ่นปรุงรส กล้วยอบ และกล้วยตาก จากกลุ่มแม่บ้านคลองพระอุดม ถือเป็นผลิตภัณฑ์เด่นด้านการเกษตรของจังหวัด จึงได้พัฒนาและปรับปรุงกระบวนการในการแปรรูปกล้วยน้ำว้า โดยอาศัยเทคโนโลยี และนวัตกรรม จนผลิตภัณฑ์ของกลุ่มได้รับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างความมั่นใจ และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์

แต่การที่กลุ่มแม่บ้านคลองพระอุดม ได้แปรรูปกล้วยน้ำว้าเกือบทุกวัน ทำให้มีขยะจากเปลือกกล้วยน้ำว้าเป็นจำนวนมาก จึงสนใจที่จะนำเส้นใยจากเศษเปลือกกล้วยน้ำว้า และกล้วยน้ำว้าที่สุกมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อให้เกิดการยอมรับในหมู่ผู้บริโภค และเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือทิ้งอีกด้วย

อาจารย์กานต์ณัฎฐา กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ทางทีมวิจัยได้ลงพื้นที่ชุมชน เพื่อหาแนวทางต่อยอดเปลือกกล้วย ก็พบว่าในเปลือกกล้วยมีสารแทนนิน ที่ทำให้เปลือกกล้วยมีรสชาติขมเวลารับประทาน จึงหาวิธีการสกัดแทนนินออก เพื่อให้เหลือในปริมาณที่พอเหมาะ ด้วยวิธีการต้ม และทดลองทำเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบจากเปลือกกล้วย เพราะข้าวเกรียบสามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย ประกอบกับวัสดุต่างๆ ในการผลิต สามารถหาได้ง่าย ลงทุนน้อย ชาวบ้านสามารถทำได้จริง

สำหรับกระบวนการศึกษาการทำข้าวเกรียบเปลือกกล้วยนั้น ศึกษาจากตำรับพื้นฐาน 3 ตำรับ และศึกษาปริมาณของแทนนิน โดยนำเปลือกกล้วยสุกไปต้มในระยะเวลาที่ต่างกัน 3 ระดับ คือ 30 นาที 45 นาที และ 60 นาที เพื่อเสริมในข้าวเกรียบ แล้วนำมาศึกษาปริมาณกล้วยสุกที่มีผลต่อเนื้อสัมผัสของข้าวเกรียบเปลือกกล้วย จากนั้นนำมาศึกษาคุณภาพทางกายภาพ และเคมีของข้าวเกรียบเปลือกกล้วย ต่อด้วยศึกษาการยอมรับของผู้บริโภคที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบเปลือกกล้วย

ทั้งนี้ จากการศึกษาตำรับพื้นฐานของข้าวเกรียบทั้ง 3 ตำรับ จากลักษณะทางกายภาพประกอบกับคะแนนทดสอบทางประสาทสัมผัส พบว่าข้าวเกรียบตำรับที่ 2 ได้รับการยอมรับสูงสุดในด้านลักษณะที่ปรากฏ สี กลิ่น รสชาติ เนื้อสัมผัส (ความกรอบ) แผ่นพองฟู สีขาวนวล กลิ่นกระเทียมพริกไทย รสชาติ และความกรอบกำลังพอดี

“นายกฯ” ห่วง “ผู้สูงวัย-ป่วยติดเตียง" เสี่ยงป่วยโควิด-19 แนะ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อป้องกัน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นห่วงครอบครัวที่มีคนอยู่ร่วมกันหลายวัย ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ขอให้เพิ่มความระวังสูงสุด แยกส่วนที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน ลดการติดเชื้อในครอบครัว หากมีบุคคลที่มีความเสี่ยง สูงอายุ ติดเตียง อาจป่วยและเสียชีวิตได้  และแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นหญิงไทย อายุ 86 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงและอัลไซเมอร์ ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน รายแรกของจ.สงขลา ยืนยันว่าวัคซีนทุกสูตรพบมีประสิทธิผลป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจากแต่ละสายพันธุ์สูง แต่เนื่องจากประสิทธิผลของวัคซีนในส่วนการป้องกันการติดเชื้อมีสูง จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป  

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วันที่ 17 ม.ค.รวม 6,929 ราย จำแนกเป็น
ผู้ป่วยจากในประเทศ 6,720 ราย มาจากต่างประเทศ 209 ราย ผู้ป่วยสะสม 107,979 ราย
หายป่วยกลับบ้าน 5,255 ราย
หายป่วยสะสม 58,772 ราย 
ผู้ป่วยกำลังรักษา 82,210 ราย
เสียชีวิต 13 ราย

‘กลุ่มจีพีเอสซี’ ร่วมกับ ‘ทัพเรือภาคที่ 1’ และ ‘ศวทอ.’ ส่งมอบหญ้าทะเล เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ ณ หาดนภาธาราภิรมย์

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. นำโดย คุณณรงค์ชัย วิสูตรชัย ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสรัฐกิจสัมพันธ์และกิจการสาธารณะ ในฐานะผู้แทนกลุ่มจีพีเอสซี ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 1 และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก (ศวทอ.) ได้จัดพิธีส่งมอบหญ้าทะเลใน “โครงการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล” ณ บริเวณชายฝั่งหาดนภาธาราภิรมย์ กิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กองการบินทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นการขยายผลจากโครงการนำร่องปลูกหญ้าทะเล จำนวน 5,000 กอ ในพื้นที่ 3 ไร่ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 โดยในพิธีส่งมอบดังกล่าว ได้รับเกียรติจาก พลเรือตรี สมประสงค์ วิศลดิลกพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือ เป็นประธานในพิธี

หญ้าทะเลถือเป็นพืชที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล เป็นแหล่งอาหาร แหล่งขยายพันธุ์ และแหล่งหลบซ่อนศัตรูของสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างระบบนิเวศป่าชายเลนกับแนวปะการัง ซึ่งทำหน้าที่เป็นแหล่งดูดซับและกักเก็บคาร์บอน นอกจากนี้ หญ้าทะเลยังช่วยป้องกันการพังทลายของชายฝั่งได้อีกด้วย

 

'รมว.เฮ้ง'​ สั่งการประกันสังคม เร่งช่วยครอบครัววิศวกรหนุ่มเสียชีวิต จากอุบัติเหตุเครนหล่นทับในไซต์งานย่านทองหล่อ พร้อมมอบเงินทดแทนช่วยเหลือทายาทกว่าล้านบาท

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการสำนักงานประกันสังคม ช่วยเหลือครอบครัวหนุ่มวิศวกรเสียชีวิตจากการถูกเครนหล่นทับในไซต์งานย่านทองหล่อ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.65 ที่ผ่านมา พร้อมประสานให้ทายาทมาติดต่อขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทนประกันสังคมอย่างครบถ้วน

นายสุชาติ กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตนได้รับรายงานอุบัติเหตุจากการทำงานดังกล่าวแล้ว ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมนี้ตนได้มอบหมายให้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม สั่งการเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และดำเนินการให้ความช่วยเหลือและประสานทายาทผู้เสียชีวิตเพื่อรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทนและกองทุนประกันสังคมแล้ว ซึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ไซต์งานก่อสร้างย่านทองหล่อ ของบริษัท วิศวภัทร์ จำกัด เมื่อวันที่ 7 มกราคม 65 สายสลิงที่ยึดแขนของเครนขาดส่งผลให้แขนเครนพับลงมากระแทกกับพื้นนั่งร้าน ทำให้มีลูกจ้างตำแหน่งวิศวกรควบคุมการก่อสร้างตกลงจากพื้นชั้นที่ 4 ได้รับบาดเจ็บ เพื่อนร่วมงานนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ประธานสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ร่วมฟังสวดพระอภิธรรม (มารดา) ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์

(14 ม.ค.65)​ ณ​ วัดเทพศิรินทร์ทราวาสวรวิหาร กรุงเทพฯ "อาจารย์ชูศักดิ์ จันทยานนท์" ประธานสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย เข้าร่วมฟังสวดพระอภิธรรมพิธีบำเพ็ญกุศลศพ "คุณแม่วิไล สอาดโฉม" (มารดา) ของ "ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์" สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน 

อีกทั้งพิธีบำเพ็ญกุศลศพในวันนี้ได้รับเกียรติจาก "นายชวน หลีกภัย" ประธานรัฐสภา / นายกรุง ศรีวิไล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการเขต 5 / นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายท่าน มาร่วมแสดงความเสียใจ และร่วมไว้อาลัยให้แก่ "คุณแม่วิไล สอาดโฉม" 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top