Saturday, 27 April 2024
NEWS FEED

ชื่นชม ‘ครูฟ้าสุโขทัย’ ดูแล-สอนหนังสือเด็ก ขณะนักเรียนป่วยโควิดรักษาตัวที่โรงพยาบาล

จากกรณีเกิดคลัสเตอร์โควิด-19 ที่โรงเรียนวัดไทยชุมพล (ดำรงประชาสรรค์) แห่งที่ 2 สังกัดสำนักงานเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี จังหวัดสุโขทัย พบเด็กนักเรียนติดเชื้อโควิด-19 จากผู้ปกครองที่มีอาชีพขายของตลาดนัด และไปเรียนหนังสือตามปกติโดยไม่รู้ว่าตนเองเชื้อโควิด-19 ทำให้เกิดการแพร่เชื้อไปถึงนางสาวนิรชา ด้วงมา คุณครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 และเพื่อนเด็กนักเรียน รวมทั้งผู้ปกครอง รวมจำนวน 55 คน และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสุโขทัย ระหว่างวันที่ 17-26 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

ในสถานการณ์ดังกล่าว น.ส.นิรชา ด้วงมา หรือครูฟ้า ซึ่งเป็นครูประจำชั้น ป.1/3 ได้ทุ่มเทเสียสละช่วยดูเด็กนักเรียนป่วยโควิด-19 จากคลัสเตอร์ที่โรงเรียนวัดไทยชุมพล ช่วยวัดไข้ วัดชีพจร ป้อนยา ป้อนอาหาร รวมถึงสอนหนังสือ ขณะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุโขทัย 

ครูฟ้ากล่าวว่า ได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 มีผลยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุโขทัยในวันที่ 17 มกราคม 2565 และทราบว่ามีเด็กนักเรียน ทยอยเข้ารักษาตัวเพิ่มมากขึ้น ขณะที่โรงพยาบาลสุโขทัย ได้ปรับย้ายเด็กนักเรียนผู้ป่วยโควิด-19 ไปรักษาที่ตึกกุมารเวชกรรม จึงได้อาสาเข้าไปรักษาตัวร่วมกับเด็กนักเรียน เพื่อช่วยดูแลในฐานะเป็นครู และเป็นผู้ปกครองให้เด็กนักเรียนในระหว่างรักษาตัว 

‘วัชระ’ ร้อง ‘ลุงตู่’ ค้าน! ทรูควบรวมดีแทค ผูกขาดการค้าลิดรอนสิทธิ์ ปชช.!!

(31 ม.ค.65) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้กำกับดูแลให้คณะกรรมการ กสทช. และคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายทุกฉบับโดยเคร่งครัด โดยไม่ให้มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกลิดรอนสิทธิ์ในการเลือกใช้บริการโทรคมนาคมพื้นฐาน จากกรณีกลุ่มบริษัทในเครือซีพี (กลุ่มบริษัททรู) จะควบรวมกิจการกับกลุ่มบริษัทในเครือเทเลนอร์ (กลุ่มบริษัทดีแทค) ซึ่งปรากฏว่ามีนักวิชาการ นักคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้แสดงความกังวลถึงสิทธิของผู้บริโภคในการเลือกใช้บริการโทรคมนาคมพื้นฐานที่จะถูกลิดรอนไปอันเป็นผลจากการควบรวมกิจการดังกล่าว เนื่องจากตามข้อมูลของ กสทช.

ในปัจจุบันมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวน 141 ล้านเลขหมาย ผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 รายใหญ่ (ไอไอเอส ทรู และดีแทค) 132 ล้านเลขหมาย คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดรวมกันสูงถึงร้อยละ 93 และทั้ง 3 รายล้วนเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือตลาดทั้งสิ้น แต่เมื่อมีการควบรวมกิจการระหว่างกลุ่มทรูและกลุ่มดีแทคแล้วจะเป็นรายที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึงร้อยละ 57 ซึ่งถือว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือตลาดเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญกว่านั้นการควบรวมนี้จะทำให้กลุ่มบริษัทใหม่หลังการควบรวมจะกลายเป็นผู้ถือครองคลื่นความถี่จำนวนมากที่สุดรายหนึ่งของประเทศไทย คือจำนวน1,260 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย “มาตรา 60 ...คลื่นความถี่เป็นสมบัติของชาติเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ... องค์กรดังกล่าว (กสทช.) ต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันมิให้มีการแสวงหาประโยชน์จากผู้บริโภคโดยไม่เป็นธรรมหรือสร้างภาระแก่ผู้บริโภคเกินความจำเป็น ... ป้องกันการ กระทำที่มีผลเป็นการขัดขวางเสรีภาพในการรับรู้หรือปิดกั้นการรับรู้ข้อมูลหรือข่าวสารที่ถูกต้อง ... และป้องกันมิให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่โดยไม่คำนึงถึงสิทธิของประชาชนทั่วไป...” 

การควบรวมกิจการดังกล่าว อันเป็นการจำกัดลิดรอนสิทธิ์ของผู้บริโภค จึงถูกบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 “มาตรา 27 (11) กำหนดมาตรการป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผู้ขาดหรือก่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขัน...” “มาตรา 27 (13) คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมิให้ถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบกิจการและคุ้มครองสิทธิในความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพของบุคคลในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคมและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของประชาชนในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์คลื่นความถี่...” และ “มาตรา 31... ตรวจสอบการดำเนินการของผู้ประกอบกิจการฯ มิให้มีการดำเนินการใดๆ ในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ...” ซึ่ง กสทช. (กทช. ในขณะนั้น) ได้ดำเนินการตามบทบัญญัติข้างต้นโดยออก ประกาศ กทช. เรื่อง มาตรการป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2559 โดยเฉพาะใน “ข้อ 8 ... การเข้าซื้อหุ้นเกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของผู้รับใบอนุญาตรายอื่นจำกระทำมิได้ เว้นแต่ กสทช.จะอนุญาต และหากการดำเนินการนั้นส่งผลให้เกิดการผูกขาดหรือลดหรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการ กสทช. อาจจะสั่งห้ามการถือครองกิจการ หรือกำหนดมาตรการเฉพาะ ...” 

นอกจากนั้น พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มาตรา 21 บัญญัติให้ กสทช.ต้องกำหนดมาตรการป้องกันการผูกขาด ทำให้กลุ่มทรูและกลุ่มดีแทค ต้องรายงานรายละเอียดการควบรวมกิจการต่อเลขาธิการ กสทช. ก่อนการดำเนินการใด ๆ โดยต้องมีรายละเอียดเป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2561 ข้อ 5-11ซึ่งเลขาธิการ กสทช. ต้องเสนอรายงานดังกล่าว กสทช. พิจารณาภายใน60 วัน เพื่อให้กำหนดเงื่อนไขป้องกันความเสียหายในทันทีให้เป็นไปตามมาตรา 22 ของกฎหมายฉบับดังกล่าวโดยมีมาตรการป้องกันการผูกขาดหรือการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรมให้เป็นไปตามประกาศข้างต้นในข้อ 12 

อีกทั้งกลุ่มทรูและกลุ่มดีแทค ประกอบธุรกิจอื่น ๆ นอกเหนือไปจากกิจการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. จึงต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 “มาตรา 51 ...แจ้งผลการควบรวมธุรกิจต่อคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าภายใน 7 วัน เว้นแต่การควบรวมจะทำให้ผูกขาดหรือมีอำนาจเหนือตลาด ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการก่อนการดำเนินการ...” โดยมีรายละเอียดตามประกาศคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตการรวมธุรกิจ พ.ศ. 2561 โดยเฉพาะในข้อ 10 แต่กลับปรากฏเป็นข่าวในสื่อสารมวลชนว่าหน่วยงานภายใต้คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าได้ปฏิเสธการดำเนินการ และอ้างว่าไม่ใช่อำนาจของตน แต่เป็นอำนาจของ กสทช. แต่เพียงผู้เดียว เพราะเป็นข้อยกเว้นในมาตรา 4 (4) ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริงของกฎหมายตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เนื่องจากทั้งสองกลุ่มบริษัทล้วนประกอบธุรกิจอย่างหลากหลายนอกเหนือจากโทรคมนาคม

รู้จัก ทูตมวยไทย!! ‘ครูดิน วิทวัส’ ผู้พามวยไทยไปทั่วโลก 7 ปี 38 ประเทศ ลุยสอนตั้งแต่สลัมยันราชวงศ์

เปิดประสบการณ์การสอนมวยไทยทั่วโลกกับ “ครูดิน วิทวัส” การทำงานสุดท้าทายในต่างแดนและความหวัง อนาคตของมวยไทย 

วิทวัส ค้าสม หรือที่รู้จักกันในนาม ครูดิน ครูมวยไทยผู้ก่อตั้งค่ายลานนาไฟท์ติ้งมวยไทย ค่ายมวยชื่อดังแห่ง จ.พะเยา ได้มีโอกาสร่วมงานกับกระทรวงการต่างประเทศ ในการเผยแพร่หนึ่งในเอกลักษณ์ประจำชาติ นั่นก็คือ “มวยไทย”

ครูดินได้แบ่งปันประสบการณ์ ในการเดินทางนำมวยไทยไปให้คนทั่วทุกมุมโลกได้รู้จัก ทั้งสถานที่ทั่วไปอย่าง โรงละครที่ไต้หวัน หรือจะเป็นทำงานในสลัมยาเสพติดในบราซิล บุกยิมใต้ดินของมาเฟียรัสเซีย ไปจนถึงได้มีโอกาสสอนมวยไทยแก่สมาชิกราชวงศ์จอร์แดน

โดยจุดเริ่มต้นของครูดินเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นว่า “ในปี 2555 กระทรวงการต่างประเทศ เขาทำโครงการ roadshow มวยไทย ก่อนหน้านั้น เขาทำโครงการวัฒนธรรมไทย เป็นอาหารไทย นาฏศิลป์ไทย แต่ปีนั้นเขาทำมวยไทยพอดี ปีแรกที่เราไปบางคนก็ไม่รู้จักมวยไทยเลยนะ บางคนรู้จักในนามของ Thai boxing แต่เราพยายามจะบอกทุกคนว่า มวยไทยไม่ใช่ Thai boxing เราอยากให้ใช้ชื่อเฉพาะเหมือนเทควันโด เราไม่ได้เรียกว่า Korean boxing กังฟูเราก็ใช้ชื่อกังฟู ไม่ได้ใช้ชื่อว่า Chinese boxing”

ในช่วงแรกเขาก็ถามจะทำยังดี เริ่มปรึกษาว่าไปโซนนี้ดีมั้ย ผมจะรู้ตัวก่อนประมาณ 1-2 เดือน ให้ส่งพาสปอร์ตไปทำวีซ่า ผมก็บอกว่า เราน่าจะมีการสอนสำหรับคนที่ไม่รู้จักมวย เพราะมองว่าจะไปเผยแพร่มวย ถ้าเราไปเฉพาะคนที่เขาชอบมวยอยู่แล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์มากเพราะคนกลุ่มนี้ยังไงเขาก็ต้องเรียนมวย เราควรจะมีการจัดงานที่ไปหาคนที่ไม่ชอบมวย ไม่รู้จักมวย เราทำให้คนกลุ่มนี้มาสนใจมวยไทยด้วย 

หลังจากที่เราสอนมวยเสร็จ เป็นห้าง หรือสวนสาธารณะ เราก็จะเชิญคนดูขึ้นมาบนเวที หรือถ้าคนเยอะๆ เราก็อาจจะทำด้านล่างเวที ให้ครูมวยของเราช่วยกันสอนและผมก็นำ บางทีก็เป็น 100-200 คนครับ ก็เป็นอีกกลุ่มนึง กลุ่มที่ไม่รู้จักมวยไทย ก็เพิ่มเข้ามา”

สำหรับบุคคลที่มาชมการแสดงและเรียนรู้มวยไทยกับทีมของครูดิน เรียกได้ว่ามีทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้พิการ ทหาร และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในการทำงานแต่ละครั้ง ครูดินต้องทำการบ้านเกี่ยวกับประเทศนั้นๆ อย่างหนัก

และประสบการณ์การสอนที่ครูดินจำได้ไม่ลืมนั่นคือ การเผยแพร่วัฒนธรรมมวยไทยแก่บุคคลระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นคนสนิทของชีคแห่งการ์ตา รวมไปถึงเจ้าหญิงของจอร์แดน ครูดินเล่าให้ฟังว่า “ตอนปี 59 เขาก็บอกว่าเราไปตะวันออกกลางบ้างมั้ย สิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญอีกอย่างคือ ท่านทูตและสถานทูตไหนที่ตอบรับโครงการที่เขาเสนอไป ปีนั้นกาตาร์ คูเวต โอมาน เขาก็ขานรับ ก็ไปที่กาตาร์ก่อน เขาบอกว่าที่นั่นจะมีการขอลงนวม จะมีแขก VIP ของเขาอยากที่จะต่อยมวย ผมก็เตรียมไป”

“ปรากฏว่า คนที่เขาอยากต่อยเป็นคนสนิทของชีค น้ำหนักเขาตรงกับผมพอดี ตกลงเอาครูดินนี่แหละต่อย พอเขารู้ว่าเป็นผม เขาก็ไม่ต่อย เขาบอกว่าไม่สบาย แล้วก็ส่งครูมวยที่เขาจ้างมาจากอินโดฯ มาต่อยกับผม ที่นี้ก็ไปที่คูเวต VIP เหมือนกัน เป็นพวกเศรษฐีน้ำมัน หลังจากนั้นเราเริ่มรู้จักพวกที่เป็นตะวันออกกลาง ต่อไปเป็นปี 60 โครงการนี้เขาไปที่อิสราเอล และจอร์แดน เขามีโครงการก็เชิญเจ้าหญิงมา เขาฝึกมวยอยู่แล้ว พอเราไปเขาก็มาร่วม แต่เขาก็เป็นกันเองมาก ตรงนี้เราก็ต้องคุยกับทีมงานว่า พอเราไปเจอเจ้าหญิง ต้องสุภาพ ต้องนุ่มนวล ต้องถนอมเขาแล้วเขาก็คุยกับทางฝ่ายไทยเรียบร้อย หลังจากนั้น ทางฝ่ายไทยก็ได้ไปทานข้าว ไปร่วมอะไรในวังเขาเรียบร้อยครับ”

ตลอดระยะเวลา 7 ปี ในการทำงานและเดินทางไปรอบโลก มีเรื่องราวเกิดขึ้นกับครูดินมากมาย “ไปมาทั่วโลกเลย 7 ปี ประมาณ 38 ประเทศ ไม่คิดว่าจะได้ไปก็ได้ไป เบสิกเลย 1 ทริปเล็กๆ 10-15 วัน ถ้าไปหลายประเทศ อาจจะประเทศละ 3 วัน บางประเทศต้องไป 2-3 เมืองก็มี ผมไปตุรกีมีเวลา 5 วัน ผมไป 4 เมือง ไปถึงเมืองนี้สอนเสร็จ เย็นเก็บของไปอีกเมืองไม่ได้เข้าโรงแรมเลยก็มี เก็บของ เปลี่ยน เหนื่อยมากแต่ก็สนุก ลำบากนิดนึงแต่มันคือประสบการณ์”

ส่อง Saudization ยุทธศาสตร์แห่งซาอุดีอาระเบีย ภารกิจเพื่อยกระดับชีวิตและสังคมทั้งประเทศ

หลังจากความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียกลับสู่ภาวะปกติ หนึ่งในข่าวที่น่าสนใจ คือ การที่แรงงานไทยจะมีโอกาสก้าวเข้าไปสู่ตลาดงานในซาอุฯ ได้มากขึ้น ซึ่งอันที่จริงเรื่องนี้เป็นทั้งเรื่อง ‘ดีที่ปกติ’ ไม่ได้น่าตื่นเต้นพอจะไปมองเป็นประเด็นให้ต้องดิสเครดิต หรือดูแคลนการรื้อฟื้นความสัมพันธ์นี้แต่อย่างใด 

นั่นก็เพราะ หากใครพอจะทราบ ย่อมรู้ดีว่าซาอุดีอาระเบียได้มีการประกาศนโยบาย Saudization หรือนโยบายที่ว่าด้วยวัตถุประสงค์เพื่อลดอัตราการจ้างงานของแรงงานต่างชาติลง และกำหนดให้ต้องจ้างคนซาอุดีอาระเบียเข้าทำงาน ที่กำหนดให้ภาครัฐและเอกชนต้องจ้างคนซาอุดีอาระเบียเข้าทำงานร้อยละ 20 ของคนงานทั้งหมด

ทว่าพลันที่นโยบายนี้ถูกประกาศ ก็ทำให้หลายๆ ประเทศเริ่มชะลอการส่งแรงงานไปซาอุฯ ไม่ว่าจะเป็น ฟิลิปปินส์หรือแม้แต่ปากีสถาน ซึ่งถือว่ามีจำนวนแรงงานที่ไปทำงานยังซาอุฯ นับล้านชีวิต และนั่นก็เริ่มส่งผลให้ซาอุดีอาระเบียเจอปัญหาขาดแคลนแรงงาน เพราะคนท้องถิ่นเองก็ไม่นิยมทำงานหนัก ทั้งไม่มีการอบรมทักษะอาชีพและการศึกษาที่ดี รวมถึงวัฒนธรรมประเพณีที่เคร่งครัด จึงทำให้สูญเสียโอกาสการแข่งขันในเวทีเศรษฐกิจโลก

ฉะนั้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของไทยกับซาอุฯ ภายใต้ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด เจ้าชายหัวทันสมัยที่มองข้ามเรื่องเก่าๆ และดราม่าน้ำเน่าที่หาได้อัดแน่นด้วยสาระ จึงไม่น่าจะหยิบมาเป็นสาระสำคัญไปกว่าหมุดหมายในการพาประเทศของตนเดินหน้าไปในแนวทางที่ถูกต้องเท่าไรนัก

ฉะนั้นในเรื่องของแรงงาน ก็คงเป็นองค์ประกอบหนึ่งในเชิงยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า Win-Win กันทั้งไทยและซาอุฯ ที่ฝ่ายหนึ่งก็ขาดแคลนแรงงาน ส่วนอีกฝ่ายก็สามารถส่งแรงงานในยังประเทศที่มีความต้องการตลาดสูงกว่าในประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ ทางด้าน พัฒนพงศ์ (แพท) แสงธรรม อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ (ภาควิชาภาษาอังกฤษ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับ Saudization หรือยุทธศาสตร์ของซาอุดีอาระเบียจนทำให้พอเข้าใจว่า สัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ในครั้งนี้ เป็นสาระสำคัญที่เหมาะสมและก็ไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกอันใด ว่า…

Saudization เป็นยุทธศาสตร์ของซาอุดีอาระเบีย ที่เริ่มขึ้นมากว่า 10 ปีแล้ว เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสังคมให้กับชาวซาอุฯ ทั้งในมิติของการว่าจ้างงาน สิทธิพลเมือง สิทธิสตรี และสวัสดิการต่างๆ เช่น…

>> เพิ่มจำนวนลูกจ้างและพนักงานชาวซาอุฯ ในบริษัทและภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นคนซาอุฯ ทำงานเองโดยเฉลี่ย ประมาณ 20% เท่านั้น

>> ตำแหน่งภาครัฐ จ้างแต่ชาวซาอุฯ อยู่แล้ว ซาอุฯ สงวนอาชีพในบางสาขาไว้ให้ชาวซาอุฯ เท่านั้น เช่น ภาคเกษตรกรรม, อสังหาริมทรัพย์, การบริหารสาธารณูปโภค, ไฟฟ้า, น้ำประปา, การสื่อสาร ฯลฯ

>> อย่างไรก็ตาม การจ้างแรงงานต่างชาติ และการจ้างแรงงานคนซาอุฯ ทำคู่ขนานกันไปตาม Demand ของงาน ไม่ได้แย่งกัน เช่นเดียวกับที่ประเทศไทยใช้แรงงานต่างชาติ ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าคนไทยมีงานทำที่นั่นทุกคน

>> ซาอุฯ มีประชากร 36 ล้านคน มีแรงงานต่างชาติอยู่ราว 14 ล้านคน ถ้าจ้างคนซาอุฯ แทนประชากรต่างชาติ เท่ากับพลเมืองครึ่งหนึ่งต้องมาทำงานแทน 

>> ตำแหน่งงาน 8 ล้านคน ที่ซาอุฯ ต้องการ ไม่ได้หมายถึงจ้างคนไทย 8 ล้านตำแหน่ง หากแต่รับทุกชาติ!!

สาวผู้ดีโวย!! ถูกขาหื่น ‘ลวนลาม’ ใน Metaverse ด้านโฆษก Meta ชี้!! มีฟังก์ชันบล็อกแต่ไม่ใช้เอง

หญิงชาวอังกฤษวัย 43 ปี ร้องเรียนว่าถูก Avatar (ตัวแทน/ตัวตนผู้คนในโลกดิจิทัล/อินเทอร์เน็ต/เสมือนจริง) ของชายกลุ่มหนึ่งคุกคามทางเพศในชุมชนโลกเสมือนจริง (Metaverse) ของ Meta ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นประสบการณ์แย่ๆ ที่ทำให้จิตตกเลยทีเดียว

นีนา เจน พาเทล (Nina Jane Patel) ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองประธานของบริษัทวิจัยด้าน Metaverse แห่งหนึ่ง เล่าเอาไว้บนแพลตฟอร์ม Medium ว่า เมื่อต้นเดือน ม.ค. เธอถูก Avatar ของชาย 3-4 คนคุกคามทางเพศบน ‘Horizon Venues’ (พื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมใหญ่ๆ ในโลกเสมือนจริง) ทั้งด้วยการพูดจาแทะโลม และเข้ามาสัมผัสร่างกายอย่างไม่เหมาะสม

พาเทล ซึ่งแต่งงานมีลูกและอาศัยอยู่ที่กรุงลอนดอน ให้สัมภาษณ์กับ The Mail on Sunday ว่า แก๊ง Avatar หื่นกลุ่มนี้เริ่มแสดงท่าทีคุกคามหลังจากที่เธอเข้าไปในล็อบบี้ของ Horizon Venues ได้เพียง 1 นาที และมันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดทรมานถึงขั้นต้องถอดแว่น VR ทิ้ง

เธอยอมรับว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เธอเสียขวัญ และเริ่มมีอาการวิตกกังวล

โฆษกของ Meta ได้ส่งอีเมลชี้แจงกับ Business Insider ว่า “เรารู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น” และย้ำว่าทางบริษัท “ต้องการให้ผู้ใช้งาน Horizon Venues ทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดี และสามารถเข้าถึงเครื่องมือด้านความปลอดภัยได้อย่างง่ายดายในสถานการณ์เช่นนี้ รวมถึงช่วยเราตรวจสอบและดำเนินการบางอย่าง”

โฆษก Meta ย้ำว่า ทางแพลตฟอร์มมีเครื่องมือสำหรับบล็อก, ปิดเสียง และรายงานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของบุคคลใกล้เคียงอยู่แล้ว แต่ พาเทล >> ไม่ได้ใช้มันเอง!!

'คลัง' รับคนได้คนละครึ่งยืนยันสิทธิ 1 ก.พ.นี้ ไม่ต้องรีบ หลีกเลี่ยงแอปล่ม

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 1 ก.พ. 2565 ซึ่งจะเป็นวันแรกของการกดรับยืนยันและการใช้จ่ายสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ทางธนาคารกรุงไทย ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ให้จัดทำโครงการฯ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับระบบการโอนเงินต่างธนาคารเพื่อโอนเข้า g-Walletแล้ว และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงหรือลดความแออัดในช่วงเวลาการใช้สิทธิผ่านเป๋าตัง พร้อมกันในวันแรก ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ที่พร้อมจะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 สามารถโอนเงินเข้า g-Wallet ล่วงหน้าก่อนเริ่มการใช้จ่าย

ทั้งนี้ในส่วนของประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 จะสามารถลงทะเบียนผ่านแอปเป๋าตัง หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ได้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. 2565 จนกว่าจะครบจำนวนประมาณ1 ล้านสิทธิโดยสามารถเริ่มใช้จ่ายวันแรกในวันที่ 17 ก.พ. 2565

สำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จะเริ่มให้ประชาชนผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จำนวน 27.98 ล้านคน ยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 วันแรกในวันอังคารที่ 1 ก.พ.2565 เป็นต้นไป ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง และสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ทันทีหลังการกดยืนยันสิทธิเรียบร้อยแล้ว ไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการช่วงระหว่างวันที่ 1 ก.พ.– 30 เม.ย.2565 

 

“ผบ.ทอ.” สั่งดำเนินการตามกม. กำลังพลเมาแล้วขับ ด้านเจ้าตัวสำนึกผิดพร้อมรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด

พล.อ.ต.บุญเลิศ อันดารา โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่าจากกรณีที่มีการนำเสนอข่าว ผู้ขับขี่ยานพาหนะเฉี่ยวชนเสาไฟและร้านอาหาร บริเวณถนนรังสิต-นครนายก ได้รับความเสียหาย โดยตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดพบว่าเกินกว่ากฎหมายกำหนดนั้น จากการตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวเป็นข้าราชการทหารอากาศจริง ซึ่งขณะนี้ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้กำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา 

‘หมอแล็บแพนด้า’ เตือนคนเคี้ยวใบกระท่อม ห้ามตรวจ ATK เพราะอาจเกิดผลลวงได้

(31 ม.ค. 65) ‘ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน’ นักเทคนิคการแพทย์ หัวหน้างานตรวจโรคติดเชื้อทางโลหิตวิธีอณูชีววิทยาศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เจ้าของเพจ ‘หมอแล็บแพนด้า’ โพสต์เรื่อง “หัวจะปวด กำลังเคี้ยวใบกระท่อมอยู่ห้ามตรวจ ATK เด้อออ 5555” ระบุว่า... 

อย่างที่รู้กันว่าประเทศไทยอนุญาตให้ซื้อใบกระท่อมมาเคี้ยวได้แล้ว แรกๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค้าบ แต่หลังๆ เริ่มมีการเอา ATK แบบน้ำลายมาใช้ตรวจโควิด บางพื้นที่คนไข้เคี้ยวใบกระท่อมไม่หยุดปากเลย พอบ้วนน้ำลายตรวจก็ปรากฏว่าทุกคนที่เคี้ยวใบตรวจเป็นลบหมดเลย แล้วคนไข้ก็เชื่อว่าตัวเองไม่ติด อยู่รวมกันเป็นกลุ่มเหมือนเดิม มันจะไปตรวจเจอได้ยังไงล่ะครับ บ้วนออกมาเป็นกากเลย ซึ่งถ้ามีเชื้อโควิดจริงๆ เชื้อมันก็จะไปเกาะตามกาก โอกาสที่จะบวกก็น้อยลง และในใบกระท่อมมันมีสารไมทราไจนีน (Mitragynine) เป็นสารจำพวกอัลคาลอยด์ ซึ่งทำให้กรดเบสในชุดตรวจ ATK เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดผลลวงได้
 

ฉะเชิงเทรา - ป.ป.ช.ประจำจังหวัดฉะเชิงเทราพร้อมด้วย คณะทำงานโฆษกและการสื่อสารองค์กรของสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา จัดการประชุมเพื่อรับทราบคำสั่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. 

นายสมชาย  ยิ้มแฉล้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดฉะเชิงเทราพร้อมด้วย คณะทำงานโฆษกและการสื่อสารองค์กรของสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา จัดการประชุมเพื่อรับทราบคำสั่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีการแต่งตั้งคณะทำงานโฆษกฯ ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด ซึ่งทุกแห่งต้องแต่งตั้งคณะทำงานประจำจังหวัด โดยวิธีการทาบทามหลังจากนั้นคณะทำงาน จะร่วมเฝ้าระวังวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการข่าว จัดทำแผนปฏิบัติการการประชาสัมพันธ์ รวมทั้งกิจกรรมสร้างเครือข่าย เสริมสร้างภาพลักษณ์ให้ประชาชน องค์กร และหน่วยงาน รู้จักอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้มีเป้าหมายในการป้องกันและต่อต้านการทุจริต ตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 

โดยวาระสำคัญในการประชุมในครั้งนี้ นายสมชาย  ยิ้มแฉล้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต เข้าตรวจสอบถนนลาดยางแอสฟัลท์ติก ถนนเลียบคลอง 19 ตำบลโยธะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ กรมชลประทาน และหน่วยงานรับผิดชอบโครงการร่วมให้ข้อมูล

โดยตามที่เป็นข่าวปรากฏในสื่อออนไลน์ พบถนนลาดยางแอสฟัลท์ติกยุบตัว สไลด์ลงคลองกินพื้นที่ผิวจราจรไป 1 เลน ทำให้ประชาชนเดือดร้อนสัญจรไม่สะดวก และอาจเกิดอุบัติเหตุในเวลากลางคืนเนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีการติดตั้งเสาไฟฟ้าส่องสว่าง โดยจากการลงตรวจสอบพบว่าถนนมีการยุบตัวจำนวน 3 จุด ผิวจราจรสไลด์ชั้นถนนลึกประมาณ 50 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวประมาณ 2-3 เมตร 
 

หนุ่มนามสกุลดังซิ่งรถหรูชนคนงานดับบนทางด่วน ด้าน​ตร. ส่งตรวจเมา พบไม่เกินค่าที่กม.​ กำหนด

หนุ่มนามสกุลดังซิ่งรถหรูชนคนงานขูดผิวจราจรบนทางด่วน บาดเจ็บ 1 เสียชีวิต 1 ตำรวจส่งตัวตรวจแอลกอฮอล์

เมื่อเวลา 02.20 น. วันที่ 30 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ก้อนแพง รอง ผกก.(สอบสวน)​ สน.ทางด่วน 1 รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกัน มีผู้เสียชีวิต บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทิศทางจากบางนามุ่งหน้าดาวคะนอง แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่บนช่องทางเดินรถขวาสุด ช่วงทางโค้งต่างระดับท่าเรือที่แยกไปดาวคะนองพบรถเก๋ง ยี่ห้อแลนโรเวอร์ สีดำ ทะเบียน ฌว 333 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบรถไถนาที่ดัดแปลงเป็นรถทำความสะอาดพังทั้งคันจนล้อหลุดออกจากตัวรถ ชิ้นส่วนตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน ใกล้กันพบศพนายเอกชัย ชาว สระแก้ว คนขับรถทำความสะอาดดังกล่าว เสียชีวิตสภาพคอและแขนหัก สวมเสื้อสะท้อนแสงทับเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว นอกจากนี้ ยังมีคนงานอีก 1 ราย ซึ่งนั่งอยู่บนรถกับนายเอกชัยได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งตัวรพ.เทพธารินทร์ ส่วนคนขับรถเก๋งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทราบว่าเป็นชายอายุ 22 ปี ถูกควบคุมตัวไปยัง สน.ทางด่วน 1


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top